Share

บทที่ 602

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หลูเฟิงขมวดคิ้วกล่าว "ธนูพวกนี้รูปร่างประหลาดถึงเพียงนี้ จะใช้สังหารศัตรูได้หรือไม่ก็ยังมิรู้ ของพวกนี้คงปราบกองทัพหนานเยวี่ยแสนนายที่อยู่นอกประตูเมืองทิศเหนือมิได้หรอกกระมัง?"

"หึหึ ท่านแม่ทัพหลูยังมิทราบสินะ องค์รัชทายาทของเราตรัสว่า การมาเจียวโจวครั้งนี้ของพระองค์มิเพียงแต่จะปราบกองทัพหนานเยวี่ยแสนนายให้ราบคาบ แต่ยังจะบุกเข้าไปในใจกลางหนานเยวี่ยแล้วยึดครองหนานเยวี่ยทั้งแคว้นในคราเดียว!"

"กระไรนะ? ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งแคว้นในคราเดียว?!"

สีหน้าของหลูเฟิงยิ่งทวีความประหลาดใจมากขึ้น จากนั้นจึงกล่าวอย่างเคลือบแคลง "ท่านรองแม่ทัพหู ท่านมิได้พูดจาเลื่อนลอยใช่หรือไม่ องค์รัชทายาทจะตรัสคำพูดไร้สาระเช่นนั้นได้อย่างไร?"

หูก่วงเซิงหัวเราะน้อย ๆ "ข้าเป็นแค่รองแม่ทัพต่ำต้อย จะกล้ากุข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาทได้อย่างไร

คำพูดเหล่านี้เป็นความจริงที่องค์รัชทายาทตรัสด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังตรัสในท้องพระโรงต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทและขุนนางน้อยใหญ่ทั้งราชสำนัก"

หลูเฟิงบ่นพึมพำอย่างอดมิได้ "องค์รัชทายาททรงเห็นเรื่องสนามรบเป็นเรื่องง่ายเกินไปกระมัง

พวกเราประจันหน้ากับกองทัพหนานเยวี่ยที่อยู่ด้านนอกมาน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 603

    "แสนห้าหมื่น? มิใช่หนึ่งแสนรึ?""หนึ่งแสนนั่นมันหลายวันก่อน เมื่อมิกี่วันก่อนพวกเราได้รับรายงานจากหน่วยสอดแนมว่า ทางฝั่งกองทัพหนานเยวี่ยส่งกำลังพลมาเสริมอีกห้าหมื่นนาย ตอนนี้มีทั้งหมดแสนห้าหมื่นนายเพคะ"ฉินซูขมวดคิ้วถาม "แล้วฝั่งเราตอนนี้มีกำลังพลเท่าไร?""หากมินับพวกที่บาดเจ็บ ก็เหลือประมาณแปดหมื่นกว่านายได้เพคะ"เมื่อได้ยินเช่นนั้น มุมปากของฉินซูกระตุกเล็กน้อยเผชิญหน้ากับข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าถึงสองเท่า ซ้ำยังมีเกราะหวายที่ทนทาน มิน่าเล่าฉงชูโม่ถึงยังขับไล่ข้าศึกไปมิได้"เอาเถอะ พระองค์รีบกลับหลงเฉิงเสียเถิด ที่นี่มิใช่ที่ที่พระองค์จะอยู่ได้"ฉงชูโม่กล่าวอย่างจริงจังฉินซูส่ายหน้าน้อย ๆ "ในเมื่อข้ามาถึงแล้ว ย่อมต้องหาวิธีช่วยเจ้าขับไล่กองทัพหนานเยวี่ยพวกนี้ให้จงได้"ฉงชูโม่กวาดสายตาสำรวจอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ "องค์รัชทายาทเจ้าสำราญ ทรงคิดหาวิธีดี ๆ ได้ด้วยหรือเพคะ?""ข้ามีความรู้ทั้งในเรื่องดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ แม้จะมิได้เก่งถึงขั้นวางแผนกลยุทธ์แล้วชนะข้าศึกที่อยู่ห่างไกลพันลี้ได้ แต่ตำราพิชัยสงครามก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง เจ้าบอกเล่าสถานการณ์ป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 604

    สีหน้าของฉงชูโม่เคร่งเครียดขึ้นทันที หันกายรีบเดินไปยังเชิงเทินหลูเฟิง ชิวก่วน และคนอื่น ๆ รีบติดตามไปฉินซูก็ตามไปเช่นกัน แต่ก่อนที่จะขึ้นไปบนกำแพงเมือง เขาหันไปกระซิบกับตงฟางไป๋และตงฟางโซ่วสองสามคำทั้งสองจึงแยกตัวเดินไปยังอีกด้านหนึ่งฉินซูขึ้นมาบนกำแพงเมืองเมื่อกวาดสายตามองออกไป จะเห็นกองทัพหนานเยวี่ยที่หนาแน่นไปหมดกำลังโจมตีมาทางนี้ทัพหน้าที่เดินนำมาคือทหารเกราะหวายที่ทำให้กองทหารรักษาการณ์เมืองเจียวโจวปวดเศียรเวียนเกล้า ลูกธนูยิงทะลุเกราะหวายของพวกเขามิได้ ยากที่จะรับมือเกราะหวายนี้สูงเท่าตัวคน อีกทั้งยังกว้างจนบังร่างชายร่างใหญ่สองคนได้มิดเมื่อเห็นว่าภายใต้เกราะหวายที่ป้องกันอยู่นั้นกลับเป็นพลธนู มุมปากของฉินซูก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้ยด้านหลังทหารเกราะหวายและพลธนูคือทหารราบที่ถือเกราะหวายและหอกถัดไปด้านหลังคือทหารม้าที่สวมเกราะสีเงินยวงพวกเขาทุกคนถือหอก ม้าศึกใต้ร่างก็สวมเครื่องป้องกัน เรียกได้ว่าสง่างามน่าเกรงขาม!ส่วนเครื่องยิงหินกว่าสิบคันกำลังเคลื่อนพลรุดหน้าอย่างช้า ๆ ด้านหลังทหารม้าเหล่านี้ในสมัยโบราณ นี่คืออาวุธหนักที่ขาดมิได้ในการโจมตีเมืองขณะมองดูกองท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 605

    เมื่อได้ยินดังนั้น พลธนูเหล่านั้นก็เล็งหัวธนูไปยังเครื่องกระทุ้งและยิงธนูออกไปอย่างต่อเนื่อง"โล่หวาย ปกป้องเครื่องกระทุ้ง!"ในกองทัพหนานเยวี่ยมีคนตะโกนเสียงดัง ทหารเกราะหวายที่อยู่ใกล้เคียงรีบยกโล่หวายในมือขึ้นสูง ป้องกันสหายร่วมรบที่กำลังเข็นเครื่องกระทุ้งอยู่ฉึก ฉึก ฉึก!ลูกธนูเหล่านั้นพุ่งปักลงบนโล่หวาย แต่มิอาจทะลุเข้าไปได้ความเร็วของเครื่องกระทุ้งมิได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยเมื่อเห็นดังนั้น หูก่วงเซิงก็พลันหันไปกล่าวกับฉินซู "องค์รัชทายาท พระองค์มีอาวุธลับอยู่มิใช่หรือ เหตุใดจึงมิใช้เสียตอนนี้เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"น้ำเสียงของเขามีความประชดประชันแฝงอยู่ ทว่าฉินซูในเวลานี้คร้านจะถือสาหาความกับเขา เขาเดินไปยังอีกด้านหนึ่งของกำแพงเมือง ทอดสายตามองออกไปเห็นสองพี่น้องตงฟางไป๋นำทหารหลายสิบนายลากธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่มาถึงใต้กำแพงเมืองและกำลังเดินขึ้นมาบนกำแพงเมืองเมื่อเห็นฉินซูมิตอบสนอง หูก่วงเซิงก็กล่าวอีก "องค์รัชทายาท เครื่องกระทุ้งของกองทัพหนานเยวี่ยมาประชิดแล้ว พระองค์ทรงรอกระไรอยู่ ไหนพระองค์ตรัสว่าจะปราบกองทัพหนานเยวี่ยให้ราบคาบ จากนั้นจะบุกตะลุยต่อ และยึดครองทัพหนา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 606

    เมื่อเห็นภาพนั้น สีหน้าของหูก่วงเซิงและชิวก่วนก็แข็งทื่อไปในทันทีส่วนหลูเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างตะลึงงัน!แม้แต่ใบหน้างดงามของฉงชูโม่ยังปรากฏแววตกตะลึงอย่างยิ่ง!เป็นเพราะอานุภาพของระเบิดสายฟ้านี้ ร้ายแรงกว่าที่นางเคยเห็นด้วยตาเมื่อครั้งก่อนมากนัก!เมื่อนางตั้งสติได้ ก็ถามอย่างเร่งร้อน "องค์รัชทายาท ของสิ่งนี้ พระองค์ทรงนำติดตัวมาเท่าไรเพคะ?"ฉินซูหัวเราะน้อย ๆ "มิต้องห่วง มีเหลือเฟือ"พูดจบ ก็หันไปสั่งตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ "พวกเจ้ารอกระไรอยู่อีก ลงมือได้แล้ว ให้กองทัพหนานเยวี่ยพวกนั้นได้เห็นฤทธิ์เดชเสียบ้าง"ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ หัวเราะอย่างมีเลศนัย จุดชนวนระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ในมือแล้วโยนใส่กองทัพหนานเยวี่ยเบื้องล่างตูม!ตูม ตูม ตูม!หลังจากเสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่องกันกว่าสิบครั้ง แนวทัพหน้าของกองทัพหนานเยวี่ยก็ถูกแรงระเบิดอัดจนกระจัดกระจาย!ทหารจำนวนมากเห็นสหายร่วมรบของตนถูกแรงระเบิดจนร่างแหลกจนจำสภาพเดิมมิได้ แต่ละคนก็ขวัญกระเจิงราวกับคนเสียสติ รีบก้มหน้าลงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างบ้าคลั่ง ไร้ใจจะสู้รบอีกต่อไปพวกเขากลับหลังหันหนี เปิดช่องโล่งด้านหลังพลธนูบนกำแพงเมืองฉวยโอกา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 607

    เขาจ้องมองลูกธนูที่ตนยิงออกไปด้วยสายตาแน่วแน่ เห็นเพียงลูกธนูทะลุทะลวงเกราะหวายของข้าศึก สังหารศัตรูล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นภาพนั้น เขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ"สวรรค์! ถึงกับยิงทะลุเกราะหวายของพวกหนานเยวี่ยได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ธนูนี่มันอาวุธเทพชัด ๆ!"เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนต่างก็ขึ้นสายธนู พร้อมเล็งเป้าหมาย!ห่าฝนลูกธนูโหมกระหน่ำไปยังกองทัพหนานเยวี่ยที่กำลังถอยทัพไปโดยมิยั้งหลังห่าฝนลูกธนูผ่านพ้นไป กองทัพหนานเยวี่ยก็ล้มลงเป็นจำนวนมาก!แม่ทัพหม่าเมื่อเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนเสียงดัง "ถอยทัพ เร่งถอยทัพเร็วเข้า!""บัดซบ ธนูของฝั่งต้าเหยียนร้ายกาจถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไร ถึงกับยิงทะลุเกราะหวายของพวกเราได้!""อานุภาพร้ายแรงเกินไป พวกเราจงอยู่ห่างจากกำแพงเมืองอย่างน้อยหกเจ็ดสิบจั้ง พวกมันยังทำร้ายพวกเราได้""ถอย ถอยเร็วเข้า หากมิเร็วกว่านี้พวกเราคงต้องตายอยู่ที่นี่!""..."ทหารแคว้นหนานเยวี่ยร้องลั่น เร่งฝีเท้าถอยร่นกลับไปฉินซูหันไปมองหูก่วงเซิงพร้อมกับกล่าวยิ้ม ๆ "รองแม่ทัพหู ทหารม้าของพวกเจ้ามิได้ชื่อว่าเป็นกองทัพไร้พ่ายหรอกรึ ตอนนี้มิฉวยโอกาสรุกไล่ แล้วจะรอถึงเมื่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 608

    ด้วยอานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า สถานการณ์การรบก็กลายเป็นการรุกไล่ฝ่ายเดียว!กองทัพหนานเยวี่ยแทบจะไร้พลังต้านทาน ได้แต่ถอยร่นกลับไปอย่างมิคิดชีวิตหูก่วงเซิงบุกตะลุยอยู่ครู่หนึ่งก็สังหารศัตรูจนเลือดขึ้นตา คลั่งด้วยความตื่นเต้นจนหัวเราะเสียงดังอย่างประหลาด!เขาร้องตะโกนใส่ตงฟางไป๋เสียงดัง "สหายตงฟาง อาวุธระเบิดพวกนั้น พวกท่านยังมีเหลืออีกเท่าไร?""เหลือเฟือ!"ตงฟางไป๋กล่าวพร้อมตบถุงผ้าตุง ๆ บนอานม้า!"ดี เช่นนั้นพวกเรามาฆ่าพวกเดนมนุษย์พวกนี้ให้สิ้นกันเถอะ!""ข้าก็คิดเช่นนั้น พวกเราคุ้มกันปีกข้าง พวกท่านบุกตะลุยไปเลย!""ดี ลุย!"ทั้งสองตกลงกันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย บุกตะลุยใส่กองทัพหนานเยวี่ยอีกครั้งเนื่องจากเหตุผลเรื่องอ๋องฉู่ แม้ว่าในใจหูก่วงเซิงจะดูหมิ่นฉินซู แต่เมื่อมีอาวุธทรงพลานุภาพเหล่านี้หนุนหลัง เขาก็ยิ่งรุกไล่สังหารศัตรูอย่างฮึกเหิมความรู้สึกที่ได้บดขยี้ศัตรูในแนวรบนั้น ช่างสะใจอย่างหาใดเปรียบเห็นเพียงหอกในมือของเขาฟาดฟันผ่าดงทหาร ข้าศึกล้มตายด้วยน้ำมือของเขาจำนวนนับมิถ้วนลูกน้องของเขาเองก็สังหารศัตรูจนเลือดขึ้นตาเช่นกัน ร่างกายทุกส่วนอาบไปด้วยเลือดสด ๆ ของ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 609

    เมื่อนางกล่าวจบ พลธนูเหล่านั้นก็โห่ร้องขึ้นพร้อมเพรียงกัน "องค์รัชทายาททรงเกรียงไกร!""องค์รัชทายาททรงเกรียงไกร!!"ช่วงเวลาที่ผ่านมา ธนูของพวกเขายิงมิทะลุเกราะหวายของกองทัพหนานเยวี่ย จึงบังเกิดคับแค้นในใจอย่างแสนสาหัสวันนี้สังหารกองทัพหนานเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนี้ ระบายความอัดอั้นในใจออกไปจนหมดสิ้นเมื่อเห็นทุกคนชื่นชมฉินซูจนสุดขั้วหัวใจ สีหน้าของพวกหูก่วงเซิงก็ดูแปลกไปบ้าง แต่ก็มิได้กล่าวสิ่งใด"องค์รัชทายาท ธนูนี้เรียกว่ากระไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ตงฟางไป๋ชิงตอบเสียก่อน "นี่คือธนูทดกำลัง เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ กรมโยธาธิการเร่งกันทำขึ้นทั้งวันทั้งคืนกว่าจะทำออกมาได้หลายร้อยคันเพื่อให้พระองค์ทรงนำมามอบให้พวกท่านใช้""กระไรนะ?! องค์รัชทายาทเป็นผู้ทรงออกแบบเองหรือ?""องค์รัชทายาททรงเป็นเทพเจ้าจริง ๆ ถึงกับทรงออกแบบสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ออกมาได้!""ใช่แล้ว ธนูนี้มิต้องออกแรงแขน ทว่าพลานุภาพกลับร้ายแรงกว่าธนูที่พวกเราเคยใช้มาหลายเท่าตัว สุดยอดจริง ๆ""แล้วระเบิดไม้ไผ่นั่นเล่า? ก็เป็นผลงานขององค์รัชทายาทเช่นกันหรือ?""ถูกต้องแล้ว ของสิ่งนี้เรียกว่าระเบิดสายฟ้า อานุภาพข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 610

    ฉินซูเองก็ประหลาดใจมิต่างกัน เมื่อเห็นสายตาของฉงชูโม่ เขาก็รู้สึกจนปัญญาในใจลอบคิดว่าคนที่มาหาตนนั้นจะเป็นใครกันแน่หรือจะเป็นเซี่ยหลาน หรือว่าหลินชิงเหยา?แต่เมื่อคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่าเป็นไปมิได้ เพราะทั้งสองคนเคยรับปากตนว่าจะคอยเขากลับไปอยู่ที่ตำหนักบูรพาเมื่อเห็นฉินซูเงียบไปมิพูดจา ฉงชูโม่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ "ฉินซู ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่หม่อมฉันมิอยู่ในเมืองหลวง พระองค์จะสำราญบานใจมิน้อยเลยกระมังเพคะ!"ฉินซูกล่าวอย่างใจเย็น "ข้าเปล่านะ""เปล่าหรือ? แล้วสตรีที่อยู่ข้างนอกนั่นเป็นใครกัน?""ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้""คนผู้นั้นระบุชื่อเจาะจงว่าจะมาพบองค์รัชทายาท จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้อย่างไร ไปเถิด ไปดูกันดีกว่าว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากที่ใด"เมื่อฉงชูโม่กล่าวจบก็เดินนำออกจากกระโจมบัญชาการไปก่อนฉินซูเดินตามไปด้วยความกระวนกระวายใจเดินไปได้มิไกล ฉินซูก็ถึงกับชะงักเท้าอยู่กับที่ จ้องมองหญิงงามที่อยู่เบื้องหน้ามิไกลอย่างเหม่อลอยเมื่อฉงชูโม่เห็นคนผู้นี้ ก็ขมวดคิ้วถาม "มู่หรงจื่อเยียน? ท่านเป็นถึงท่านหญิงแห่งเป่ยเยี่ยน มายังสนามรบต้าเหยียนด้วย

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status