Share

บทที่ 551

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูยิ้มเยาะ “น่าขัน เป็นข้าหรือที่สั่งให้อ๋องหนิงสมคบกับทั่วป๋าชื่อ? ที่วันนี้เขาต้องเป็นเช่นก็เพราะเขาทำตัวเอง!”

เผยหยวนต้องการพูดอะไรบางอย่าง ทว่าฉินอู๋ต้าวโบกมือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “องค์รัชทายาท ท่านบอกว่าเสียนเฟยสมคบกับขันที มีหลักฐานหรือไม่? หากใส่ความโดยไร้หลักฐาน ข้าน้อยก็สามารถลงโทษท่านสถานหนักโดยมิละเว้นได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินซูกล่าวโดยมิเปลี่ยนสีหน้า “เสด็จพ่อ เมื่อลูกกล้ากล่าวหาเสียนเฟยในท้องพระโรง ย่อมมีหลักฐาน คนร้ายที่ลอบทำร้ายลูกถูกคุมตัวอยู่นอกประตูวัง เสด็จพ่อเรียกตัวมาสอบถามก็จะทราบได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ใครก็ได้ นำตัวมา!”

“รับพระบัญชา!”

ฉินอู๋ต้าวนั่งบนบัลลังก์มังกรพร้อมสีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธา!

วันนี้เขาจะได้เห็นว่าองค์รัชทายาทปั้นเรื่องใส่ความคน หรือคนในวังกล้าสมคบกับขันทีกันแน่!

คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าต่างกัน ส่วนใหญ่มีท่าทีเฉยชา เพียงจ้องมองเพื่อความสำราญบันเทิงเท่านั้น

ถึงแม้เสียนเฟยจะถูกปลด ก็มิได้กระทบต่อผลประโยชน์ของพวกเขานัก

ผ่านไปครู่หนึ่ง คนชุดดำก็ถูกนำตัวมา

เมื่อเห็นหน้าคนที่เดินนำหน้ามา ฉินอู๋ต้าวก็ต้องประหลาดใจ!

เขากล่าวเสียงเคร่งข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 552

    ขณะเดียวกันตำหนักอวี้จ้าวขันทีน้อยคนหนึ่งวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามา นางกำนัลที่อยู่หน้าประตูพยายามห้ามแต่ก็มิสำเร็จเมื่อได้ยินเสียงดังจากภายนอก เสียนเฟยขมวดคิ้วพลันตะโกน “เอะอะโวยวายเรื่องอันใดกัน!”“พระสนม พระสนม เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่ขันทีน้อยกุลีกุจอเข้ามาก็รีบพูด “องค์รัชทายาทกล่าวหาพระสนมในท้องพระโรง อีกทั้งขันทีเกาและคนอื่น ๆ ต่างรับสารภาพแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”“ว่ากระไรนะ!!!”เสียนเฟยตกใจจนหน้าซีด!นางไม่มีเวลาคิดมากและตัดสินใจในทันที “พวกเจ้าปิดประตูตำหนักอวี้จ้าวให้ดี รอข้าเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว ข้าจะไปเผชิญหน้ากับองค์รัชทายาทในท้องพระโรง!”เสียนเฟยพูดจบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องนอนหลังจากเข้าไปในห้องนอนนางก็รีบเปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัล หลังจากปลอมตัวแล้วก็กลายเป็นนางกำนัลคนหนึ่ง!จากนั้นนางก็เปิดหน้าต่างตำหนักอวี้จ้าว กระโดดออกไปหลังจากปิดหน้าต่างแล้ว นางก็ออกจากประตูหลังนางเดินทางอย่างราบรื่นไปจนถึงกำแพงวัง ทหารรักษาการณ์ก็ขวางนางไว้เมื่อถูกสอบถาม เสียนเฟยก็กล่าวอย่างใจเย็น “ไทฮองไทเฮารับสั่งให้ออกไปทำธุระนอกวัง นี่ป้ายอาญาสิทธิ์ของไทฮองไทเฮา”นางยื่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 553

    “ทูลฝ่าบาท เมื่อครู่มีนางกำนัลถือป้ายอาญาสิทธิ์ของไทฮองไทเฮาออกจากวังหลัง ว่ากันว่านางกำนัลผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเสียนเฟยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็ดำมืดราวกับก้นหม้อ!เดิมทีเขาคิดว่าหากเสียนเฟยยอมรับผิดแต่โดยดี ก็จะลงโทษเพียงกักบริเวณในตำหนักอวี้จ้าวเท่านั้นแต่คิดมิถึงว่าอีกฝ่ายจะหนีความผิด ซ้ำยังออกจากวังหลังในเวลาอันสั้น นี่มิเรียกว่าไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วจะเรียกว่ากระไร!“หน่วยตรวจตรารับคำสั่ง!”สวีเซี่ยงเฉียนคุกเข่าลงทันทีฉินอู๋ต้าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปิดประตูเมืองทันที ค้นหาเสียนเฟยให้ทั่วเมือง ใครกล้าขัดขวาง จงสังหารเสีย!”“รับพระบัญชา!”สวีเซี่ยงเฉียนรับบัญชาแล้วนำทหารเหล่านั้นออกไป“คิดมิถึงว่าเสียนเฟยจะหนีความผิด”“ใช่แล้ว สมคบกับขันทีทำร้ายองค์รัชทายาท ช่างอาจหาญ!”“พูดเช่นนี้มิถูก หากเสียนเฟยบริสุทธิ์เล่า”“พูดเช่นนี้ผิดแล้ว หากพระนางไม่มีความผิด เหตุใดต้องหลบหนีเล่า!”“ใช่แล้ว เช่นนี้เขาเรียกว่ารับสารภาพโดยปริยาย!”“...”ขุนนางต่างกระซิบกระซาบกันเบา ๆฉินอู๋ต้าวโบกมือพลันตะโกน “ใครก็ได้ นำตัวเกาส่วงและพวกไปประหารเสีย!”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 554

    ฉินอู๋ต้าวมองเหลยเจิ้นหลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็กล่าว “พาตัวเข้ามา”ครู่ต่อมา ชายชราสองคนก็เดินเข้ามาคนหนึ่งอายุประมาณหกสิบกว่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง ถือไม้เท้าหัวมังกรอีกคนอายุไล่เลี่ยกัน เป็นพระธุดงค์หน้าตาอมทุกข์ ถือไม้เท้าปราบมารดูน่าเกรงขามคือเย่ชางสิงและคูมู่!เมื่อเห็นคนทั้งสอง ฉินหยางและฉินหงก็สบตากัน ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจเย่ชางสิงและคูมู่ทำความเคารพฉินอู๋ต้าวฉินอู๋ต้าวหรี่ตามอง แล้วเอ่ยถาม “พวกเจ้าสองคนมาจากหอดารารักษ์หรือ?”“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยและพระอาจารย์คูมู่เพิ่งเข้าร่วมหอดารารักษ์ได้มินาน ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักมาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูกล่าวยิ้ม ๆ “คิดมิถึงว่าซ่างกวนอวิ๋นซีจะรับพวกเจ้าไว้ ทำเอาข้าประหลาดใจเสียจริง มิน่า ข้ากลับมาเมืองหลวงแล้วหาตัวพวกเจ้ามิพบ”เย่ชางสิงและคูมู่ยิ้มขื่นหากเลือกได้ พวกเขาคงมิอยากไปอยู่หอดารารักษ์ฉินอู๋ต้าวกล่าว “องค์รัชทายาท คนมาแล้ว คนที่ลอบทำร้ายเจ้าคือคนทั้งสองนี้หรือ?”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ คนทั้งสองลอบทำร้ายลูกระหว่างทางไปเป่ยเหลียง หากมิได้รับการคุ้มครองจากเสวี่ยเจี้ยน ลูกคง...”“บังอาจลอบทำร้ายองค์รัชทาย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 555

    เขาคุกเข่าลง กล่าวกับฉินอู๋ต้าว “เสด็จพ่อ คนทั้งสองนี้มาจากหอดารารักษ์ พวกเขามาเพื่อก่อกวนราชวงศ์ต้าเหยียน เสด็จพ่อทรงอย่าได้หลงกลพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหยางเข้าใจทันทีหากโยงเรื่องนี้ไปถึงเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ วิกฤตนี้ย่อมคลี่คลายได้!เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รีบพูด “น้องสี่พูดถูก เสด็จพ่อ หอดารารักษ์คือสุนัขรับใช้ของราชสำนักเป่ยเยี่ยน การส่งคนทั้งสองมาก็เพื่อยุแหย่ให้เราแตกแยก พวกเขาจะได้ฉวยโอกาส ขอเสด็จพ่อทรงโปรดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ อย่าได้หลงกลคนชั่วพ่ะย่ะค่ะ”“องค์รัชทายาท ท่านช่างต่ำช้า สมคบกับหอดารารักษ์ ท่านกำลังทรยศแคว้น!”“ขอเสด็จพ่อโปรดถอดถอนองค์รัชทายาท จับขังคุก และนำคนของหอดารารักษ์ไปประหารด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินหยางและฉินหงพูดด้วยความลนลานฉินซูหัวเราะเย็นเยือก “พวกเจ้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เย่ชางสิง เจ้านำจดหมายที่ติดต่อกับฉินหยางออกมาเสียสิ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินหยางก็หน้าซีด พลันเหงื่อผุดท่วมแผ่นหลังเย่ชางสิงมีสีหน้าลำบากใจ “องค์รัชทายาท จดหมายเหล่านั้นข้าน้อยมิได้นำมา หากกลับไปนำมาคงต้องใช้เวลาสองวันพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูหน้าแหยเย่ชางสิง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 556

    จูฟางตกใจ พลันรีบพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่เหยี่ยนโจว ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่า มีเรือสินค้าจากเหลียงโจวขนเสบียงข้าวแปดพันต้านและเงินหกแสนตำลึงลงใต้เพื่อบรรเทาภัยพิบัติและเป็นคนกลุ่มนี้เองที่ส่งข่าวแก่สายลับกลุ่มผีพรายของเราในครานี้พ่ะย่ะค่ะพวกเขายังบอกใบ้แก่พวกข้าน้อยว่า เรือลำนั้นไม่มีทหารคุ้มกัน อีกทั้งยังบอกว่าทางการเหยี่ยนโจวจะมิยุ่ง ให้พวกเรากระทำการได้อย่างเต็มที่ภายหลังข้าน้อยสืบดู ก็เป็นเช่นที่พวกเขาว่า ข้าน้อยจึงคิดจะปล้นเรือลำนั้น ขอฝ่าบาททรงเมตตาข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรกพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดจบก็ก้มหัวคนอื่น ๆ ต่างขอความเมตตา“ขอฝ่าบาททรงเมตตา ข้าน้อยเป็นคนสนิทของท่านอ๋องซิ่น เพียงแต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ข้าน้อยหาได้มีความผิดไม่พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท นี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋องฉี พวกเราแค่ทำตามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหยางโกรธจัด “พวกเจ้าใส่ร้ายข้า ข้าสั่งพวกเจ้าไปปล้นเรือเมื่อใด พวกเจ้ามันชั่วช้าสามานย์ยิ่งกว่าหมูกว่าหมา มีหน้ามาใส่ร้ายข้า หรือพวกเจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่กันแล้ว!”ฉินอู๋ต้าวถามคนเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 557

    “เพื่อวางแผนร้ายต่อองค์รัชทายาท ถึงกับเพิกเฉยต่อชีวิตของผู้ประสบภัยในหลิ่งหนาน หากมิจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เกรงว่าเหล่าราษฎรในใต้หล้าจะสิ้นศรัทธา ขอฝ่าบาททรงโปรดไตร่ตรองด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอู๋ต้าวหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตะโกนลั่น “เจ้าลูกทรพี สารเลว ให้กำเนิดพวกสันดานหยาบมิต่างจากหมูหมาเยี่ยงพวกเจ้ามาได้อย่างไรกัน!”“ฟังคำสั่ง! อ๋องซิ่น อ๋องฉีไร้คุณธรรม ถอดตำแหน่งอ๋องนับแต่วันนี้!”“ฉินหยางลดขั้นเป็นอ๋องอันหนาน ออกเดินทางไปยังอำเภออันหนานทันที หากมิได้รับอนุญาตจากตัวข้า ห้ามออกจากอันหนานแม้แต่ก้าวเดียว!”“ฉินหงลดขั้นเป็นอ๋องเป่ยหรง ออกเดินทางไปยังอำเภอเป่ยหรงที่ชายแดนเหนือทันที ห้ามออกจากเป่ยหรงอีกตลอดชีวิต!”“หากทั้งสองขัดขืน ให้ประหารสิ้น!”หลังจากที่ฉินอู๋ต้าวตัดสินโทษ ฉินหยางและฉินหงก็หน้าซีดเมื่อได้สติ ทั้งสองก็คุกเข่าด้วยน้ำตาคลอเบ้า“ลูกขอขอบพระทัยเสด็จพ่อที่เมตตา”“ไป หากยังกล้าทำผิดอีก อย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก!”ฉินหยางและฉินหงเดินจากไปอย่างหมดอาลัยตายอยากฉินอู๋ต้าวมองฉินซู และกล่าว “คนเหล่านี้ยกให้เจ้าจัดการ ข้าเหนื่อยแล้ว ขุนนางทั้งหลาย เลิกประชุม”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 558

    เซี่ยเหอถอนหายใจยาว “เรื่องมาถึงขั้นนี้ สถานการณ์พลิกผันไปแล้ว จะทำกระไรได้ นอกจากหวังว่าองค์รัชทายาทจะทรงเมตตา มิเอาเรื่องพวกเราสองคน”“เฮ้อ! มิคิดเลยว่าเพียงครึ่งวัน อ๋องฉีจะพ่ายแพ้ราบคาบ สถานะขององค์รัชทายาทในราชสำนักคงไม่มีผู้ใดสั่นคลอนได้แล้ว”หลินซีรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากตอนนั้นเขาฟังคำของหลินชิงเหยา รีบตีตัวออกห่างจากอ๋องฉีแต่เนิ่น ๆ สถานการณ์ตอนนี้คงมิน่าอึดอัดเช่นนี้อ๋องฉีสิ้นอำนาจแล้ว ในฐานะขุนนางคนสนิท เขาจะมีจุดจบที่ดีได้อย่างไรเมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินซีก็อดมิได้ที่จะถอนหายใจยาวเซี่ยเหอจึงตบบ่าเขาและเอ่ยด้วยความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง “ใต้เท้าหลิน ในความเห็นของข้า ท่านรีบกลับไปคืนดีกับบุตรสาวของท่านเถิด ตอนนี้นางเป็นคนขององค์รัชทายาท สุดท้ายท่านก็จะมิต้องสูญเสียทุกสิ่ง”เมื่อได้ยินดังนั้น หลินซีก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ขอบคุณใต้เท้าเซี่ยที่เตือน ข้าน้อยขอลา”เมื่อพูดจบ หลินซีก็หันหลังเดินออกไปและตรงไปยังตำหนักบูรพาหลังจากเซี่ยเหอออกมาจากวัง เซี่ยหลานก็เดินเข้ามาพร้อมกับมือที่ไพล่หลังนางเบะปากพึมพำ “ท่านปู่ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ตอนนี้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 559

    ฉินซูหัวเราะเยาะ มิเชื่อแม้แต่น้อยคูมู่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พูดไปก็แปลก ตอนที่ข้าน้อยเพิ่งเข้าสู่ยุทธภพก็ได้ยินชื่อเสียงอันเกรียงไกรของเจ้าสำนักหอดารารักษ์มาก่อน แต่คิดมิถึงว่านางจะยังดูเยาว์วัยเช่นนี้!”“เจ้าอยู่ในยุทธภพมาอย่างน้อยสามสี่สิบปีแล้วมิใช่หรือไร? เจ้าสำนักหอดารารักษ์คงเปลี่ยนคนไปนานแล้วกระมัง”“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ เจ้าสำนักหอดารารักษ์มิเคยเปลี่ยนคนเลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าน้อยประหลาดใจเช่นนี้”ฉินซูขมวดคิ้ว “เจ้าต้องการจะบอกว่า ซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นเจ้าสำนักหอดารารักษ์ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้วกระนั้นรึ?”คูมู่พยักหน้าหนักแน่น “อาจารย์อาของข้าน้อยเคยบอกว่า เขามีสายสัมพันธ์บางอย่างกับเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ด้วยสิ่งแทนตัวของเขา ซ่างกวนอวิ๋นซีจึงได้ลงมือช่วยพวกเรากำจัดกระแสลมปราณนั้นออกไปพ่ะย่ะค่ะ”“องค์รัชทายาท อาจารย์อาของข้าน้อยปลีกวิเวกมากว่ายี่สิบปี ตัดขาดจากภายนอก บ่งบอกได้ว่าเขาได้รู้จักกับซ่างกวนอวิ๋นซีก่อนที่จะปลีกวิเวก ดังนั้นอายุของซ่างกวนอวิ๋นซีก็น่าจะแก่กว่าพวกเราพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซูเบิกตากว้าง สีหน้าเหลือเชื่อสุดขีดแก่กว่าคูมู่ แต่รูปลักษณ์

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 615

    หลังจากที่ฟังเขาจนจบ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “แผนการของท่านดีก็จริง ทว่าหากพวกมันมิมาในคืนนี้เล่า?”“คืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย พวกมันต้องปักใจเชื่อว่ากำลังป้องกันเมืองของพวกเราหย่อนยาน คืนนี้หากพวกมันมิลงมือ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกมันต้องลงมือเป็นแน่”“เช่นนั้นก็ได้ ทำตามที่ท่านว่าก็แล้วกันเพคะ!”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อ “อีกอย่าง คืนนี้เจ้าจงส่งทหารสองกองไปซุ่มอยู่หลินสุ่ยและเซี่ยอ้าว เมื่อทัพใหญ่หนานเยวี่ยปรากฏกาย จงปล่อยให้พวกมันเข้ามา รอจนกระทั่งเสียงฆ่าฟันนอกเมืองดังขึ้นค่อยตลบหลังโจมตีกองทัพหนานเยวี่ย จากนั้นจึงเข้าตีกระหนาบหน้าหลัง กวาดล้างพวกมันในคราเดียว!”ฉงชูโม่ถามอย่างตกตะลึง “ท่านคิดว่าคืนนี้พวกหนานเยวี่ยจะบุกโจมตีด้วยทัพใหญ่หรือเพคะ?”“พูดได้แต่เพียงมีความเป็นไปได้สูงนัก”“หม่อมฉันว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเติ้งหม่างเพิ่งประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ ซ้ำร้ายทหารใต้บัญชาของเขายังหวาดหวั่นเกรงกลัวธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าของพวกเราจนหัวหด หากยังมิล่วงรู้ว่าพวกเรามีธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด พวกมันคงมิกล้าผล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 614

    ฉินซูหัวเราะแห้ง ๆ แล้วกล่าวติดตลก “ข้าแค่กังวลว่าเจ้าจะหึงหวงข้า”ฉงชูโม่ถ่มน้ำลาย “ถุย ใครจะหึงท่านกัน อย่าได้หลงตัวเองไปหน่อยเลย!”“อะแฮ่ม ๆ เรื่องนั้นช่างมันเถิด ที่จริงข้ามีธุระสำคัญ...”ฉงชูโม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “มีกระไรก็รีบว่ามา อย่ามัวอ้อมค้อม”ฉินซูปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม แล้วเอ่ยถาม “วันนี้ที่พวกเรามีชัยเหนือแคว้นหนานเยวี่ย ในความเห็นของเจ้า พวกมันจะทำอย่างไรต่อไป?”“ชัยชนะในวันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับพลานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า กองทัพหนานเยวี่ยประสบความพ่ายแพ้ย่อยยับถึงเพียงนี้ หากหม่อมฉันเป็นเติ้งหม่าง คงต้องหาทางนำอาวุธทั้งสองชนิดนี้ไปให้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูจึงอดมิได้ที่จะมองนางด้วยสายตาชื่นชมสมแล้วที่ฉงชูโม่เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่งที่มากล้นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ สามารถเดาใจศัตรูได้ล่วงหน้าเช่นนี้“เมื่อรู้ถึงเจตนาของเติ้งหม่างผู้นั้นแล้ว เราควรจะลองมาล่อเสือออกจากถ้ำดูสักครา”“ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงคิดแผนการรับมือไว้แล้วหรือ?”ฉงชูโม่เอี้ยวศีรษะมองฉินซู ดวงตาคู่งามกระจ่างใสนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจหางตาฉินซูเหลือบมองอ่างอาบน้ำโดยม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 613

    “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ขอพระองค์โปรดเมตตา”ทั้งสองกล่าวพร้อมคุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูฉินซูจนปัญญา จึงตะโกนเข้าไปในกระโจม “ชูโม่ ให้ข้าเข้าไปเถิด ข้าขออธิบายให้เจ้าฟังดี ๆ มิได้หรือ?”ทว่าข้างในกลับไร้เสียงตอบรับฉินซูยังคงมิยอมแพ้ กล่าวต่อไป “ชูโม่ เจ้าอย่าหึงหวงนักเลย อย่างน้อยก็ให้ข้าอธิบายสักหน่อยเถิด”เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ทหารยามทั้งสองก็อดมิได้ที่จะสบตากัน!ให้ตายสิ ท่านแม่ทัพใหญ่กับองค์รัชทายาทมีความสัมพันธ์ช่างลึกซึ้งเกินคาด!!สีหน้าของพวกเขาทั้งสองฉายแววตกตะลึง ราวกับได้รับข่าวเด็ดข่าวใหญ่ฉินซูเกลี้ยกล่อมอีกสองสามประโยค ทว่าในกระโจมก็ยังคงไร้เสียงตอบรับเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงหันไปถามทหารยามทั้งสอง “ชูโม่อยู่ข้างในจริง ๆ หรือ?”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ท่านแม่ทัพใหญ่เข้าไปแล้วก็ยังมิได้ออกมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่มีประตูด้านหลังใช่หรือไม่?”“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”“มิได้การ ชูโม่อาจจะเป็นกระไรไปแล้วก็ได้!”กล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูจึงตะโกนเข้าไปด้านใน “ชูโม่ ข้าจะเข้าไปแล้วนะ”ขณะที่ฉินซูกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ทหารยามทั้งสองก็รีบร้องทัดทาน “มิได้พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 612

    ขณะเดียวกันกองหนุนทัพหนานเยวี่ยภายในค่ายทหารแม่ทัพนายกองทั้งหลายต่างจับจ้องไปยังบุรุษบนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยใจระทึกบุรุษผู้นั้นสวมชุดเกราะสีเงินยวง ร่างกายสูงใหญ่ผึ่งผาย!เขาคือแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหนานเยวี่ย เติ้งหม่าง!สายตาเย็นเยียบของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนทีละคน สุดท้ายจับจ้องที่แม่ทัพน้อยหม่า“หม่าเวย เจ้าสำนึกผิดหรือไม่?”หม่าเวยรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ทว่าอาวุธของต้าเหยียนคราวนี้ร้ายกาจเหลือเกิน โล่เกราะหวายของพวกเราเมื่อเผชิญกับลูกธนูของพวกมันก็มิต่างกระไรจากดินเหนียว ยิงคราเดียวก็ทะลุง่ายดาย!”“ใช่แล้วท่านแม่ทัพใหญ่ โล่เกราะหวายที่พวกเราเคยภาคภูมิใจนักหนา บัดนี้มิอาจหวังพึ่งได้อีกแล้วขอรับ”“มิเพียงเท่านั้น ทางต้าเหยียนยังใช้อาวุธเพลิงร้ายกาจชนิดหนึ่ง ของสิ่งนั้นอานุภาพร้ายแรงยิ่งนัก ทหารมิใช่น้อยถูกระเบิดจนร่างแหลกมิเหลือชิ้นดีเลยขอรับ”เมื่อกล่าวถึงระเบิดเพลิง หลายคนยังคงหวาดผวาเติ้งหม่างขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำ “กองทหารรักษาการณ์เจียวโจวถูกพวกเราโจมตีมาเกือบเดือน บัดนี้จู่ ๆ กลับปรากฏอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 611

    วาจาล้ำสมัยปานนี้ ตี๋จิ่งผู้นี้คิดได้อย่างไร?มู่หรงจื่อเยียนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ฉินซู ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่?”“มิเป็นกระไร ไปเถิด”ขณะมองตามสองร่างหายลับไปจากสายตา สหายของตี๋จิ่งก็อดมิได้ที่จะหวั่นวิตกชายร่างกำยำผู้หนึ่งเอ่ยถาม “พี่ตี๋ แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี?”“หรือว่าพวกเราฟาดหัวองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียนให้สลบ แล้วลักพาตัวกลับเป่ยเยี่ยนดี?”“นั่นสิ หากเป็นเช่นนั้น ท่านหญิงจะได้ตามพวกเรากลับเป่ยเยี่ยนเสียที”ตี๋จิ่งโบกมือ และกล่าวว่า “มิได้ อย่าว่าแต่ท่านหญิงจะยอมให้เราทำหรือไม่เลย ลำพังแค่พวกทหารต้าเหยียนที่ยั้วเยี้ยไปทั่ว พวกเราก็มิมีทางทำสำเร็จแล้ว!”“ก็จริงดังว่า แล้วพวกเราจะทำอย่างไรเล่า?”“เฝ้าสังเกตการณ์ไปก่อน อารักขาความปลอดภัยท่านหญิงให้ดี”“ขอรับ”พวกเขาปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง จากนั้นก็ติดตามไปที่พักของฉินซูถูกจัดสรรให้อยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งใกล้กับประตูเมืองทางทิศเหนือที่นี่ห่างจากประตูเมืองทิศใต้ประมาณเจ็ดแปดลี้ จึงมิต้องกังวลว่าจะถูกผลกระทบจากไฟสงครามเมื่อเข้าสู่โรงเตี๊ยมและปิดประตูลง มู่หรงจื่อเยียนก็อดรนทนรอมิไหว โผเข้ากอดคอฉินซู นางเขย่งปลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 610

    ฉินซูเองก็ประหลาดใจมิต่างกัน เมื่อเห็นสายตาของฉงชูโม่ เขาก็รู้สึกจนปัญญาในใจลอบคิดว่าคนที่มาหาตนนั้นจะเป็นใครกันแน่หรือจะเป็นเซี่ยหลาน หรือว่าหลินชิงเหยา?แต่เมื่อคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่าเป็นไปมิได้ เพราะทั้งสองคนเคยรับปากตนว่าจะคอยเขากลับไปอยู่ที่ตำหนักบูรพาเมื่อเห็นฉินซูเงียบไปมิพูดจา ฉงชูโม่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ "ฉินซู ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่หม่อมฉันมิอยู่ในเมืองหลวง พระองค์จะสำราญบานใจมิน้อยเลยกระมังเพคะ!"ฉินซูกล่าวอย่างใจเย็น "ข้าเปล่านะ""เปล่าหรือ? แล้วสตรีที่อยู่ข้างนอกนั่นเป็นใครกัน?""ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้""คนผู้นั้นระบุชื่อเจาะจงว่าจะมาพบองค์รัชทายาท จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้อย่างไร ไปเถิด ไปดูกันดีกว่าว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากที่ใด"เมื่อฉงชูโม่กล่าวจบก็เดินนำออกจากกระโจมบัญชาการไปก่อนฉินซูเดินตามไปด้วยความกระวนกระวายใจเดินไปได้มิไกล ฉินซูก็ถึงกับชะงักเท้าอยู่กับที่ จ้องมองหญิงงามที่อยู่เบื้องหน้ามิไกลอย่างเหม่อลอยเมื่อฉงชูโม่เห็นคนผู้นี้ ก็ขมวดคิ้วถาม "มู่หรงจื่อเยียน? ท่านเป็นถึงท่านหญิงแห่งเป่ยเยี่ยน มายังสนามรบต้าเหยียนด้วย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status