แชร์

บทที่ 534

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
อาจารย์สอนหนังสือทั้งสามคนตกใจจนแทบสิ้นสติ ขาอ่อนทรุดลงกับพื้น!

เห็นดาบกำลังจะฟันลงบนร่างพวกเขา

แต่ในขณะนั้นเอง เสียงแหวกอากาศแหลมคมก็ดังขึ้น

'ฟิ้ว!'

ลูกธนูแหวกอากาศอย่างรวดเร็ว ปักเข้าที่หน้าอกของอวี๋เฟิงอย่างแม่นยำ!

ร่างของอวี๋เฟิงไหวเอน หันกลับไปมองอย่างยากลำบาก

เห็นเพียงข้างหลังมิไกล อ้ายเถียนง้างธนูยิงออกมาอีกดอก!

หลังจากอวี๋เฟิงถูกยิงอีกดอก ก็ล้มลงกับพื้น พลันสิ้นใจทันใด!

เมื่อเห็นดังนั้น อาจารย์สอนหนังสือทั้งสามก็คุกเข่าลงกับพื้น ขอบคุณฉินเหยี่ยนและพรรคพวก

"ขอบพระคุณท่านวีรบุรุษที่ช่วยชีวิต ขอบพระคุณท่านวีรบุรุษที่ช่วยชีวิต!"

ฉินเหยี่ยนโบกมือ ถามเสียงเรียบ "บอกมา เหตุใดอ๋องหนิงจึงส่งคนมาสังหารพวกเจ้า?"

"เอ่อ..."

อาจารย์สอนหนังสือทั้งสามมองหน้ากัน มีความกังวล

ฉินเหยี่ยนคำราม "ตัวข้าช่วยพวกเจ้าได้ ก็ฆ่าพวกเจ้าได้ บอกความจริงมา!"

เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเรียกแทนตัวว่า 'ตัวข้า’ ทั้งสามก็เข้าใจในทันใดว่า คนตรงหน้าคือองค์ชาย!

จึงรีบเล่าเรื่องการเลียนแบบลายมือ คัดลอกจดหมายให้แก่อ๋องหนิงจนหมดเปลือก

เมื่อรู้ว่าจดหมายที่คัดลอกเป็นถ้อยความหมิ่นเบื้องสูง ฉินเหยี่ยนก็มีสีหน้าเคร่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 535

    หวังฉือเพิ่งกินอาหารเย็นเสร็จ กำลังจะกลับไปที่ห้องตำราในขณะนั้นคนรับใช้ก็มารายงานว่า "ใต้เท้าหวัง ท่านเสนาธิการหลิวมาขอพบ บอกว่ามีเรื่องด่วนขอรับ""หลิวเว่ยมาหรือ? เชิญเขาเข้ามาเร็ว""ขอรับ!"ครู่ต่อมา หลิวเว่ยก็เดินพรวดพราดเข้ามา "ใต้เท้าหวัง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เมื่อครู่ศาลต้าหลี่ของเราได้รับจดหมายนิรนาม เนื้อความดูหมิ่นเบื้องสูง ข้าน้อยมิกล้าตัดสินใจเอง จึงต้องมาปรึกษาท่าน"เขาพูดพลางยื่นจดหมายให้หวังฉือกวาดตาอ่านพร้อมด้วยสีหน้าตกตะลึง!"เหลวไหล เมืองหลวงอยู่ใต้พระบาทองค์จักรพรรดิ ยังมีคนกล้าพูดจาบจ้วงเช่นนี้ คนส่งจดหมายเป็นใครกัน?""มิเห็นตัวคน เพียงแต่ถ้อยความหมิ่นเบื้องสูงเช่นนี้ หากมิระวังอาจจะถูกบั่นคอได้ ใต้เท้าหวัง ท่านคิดว่าใครเป็นคนทำ?"หวังฉือหรี่ตาลง กล่าวว่า "ช่วงนี้ในราชสำนัก องค์รัชทายาทกำลังตกเป็นจุดสนใจ เกรงว่าจะมีคนใช้เรื่องนี้ใส่ร้ายพระองค์ มิได้การ ข้าต้องไปหาเนี่ยหงที่สำนักผู้ตรวจการ"พูดจบเขาก็รีบร้อนออกจากประตูไปแต่เมื่อถึงหน้าประตูจวน ก็เห็นเนี่ยหงเดินมาอย่างรีบร้อน"ใต้เท้าเนี่ย ข้ากำลังจะไปหาท่านพอดี ท่านมาได้อย่างไร?"เนี่ยหงกล่าวด้วยสีหน้าเค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 536

    หวังฉือกล่าวด้วยความจริงจัง "ข้ากังวลว่า หลังจากที่องค์รัชทายาทเสด็จกลับมา องค์จักรพรรดิจะทรงกดดันพระองค์หนักขึ้น!"เนี่ยหงโบกมือ "พูดตอนนี้ยังเร็วเกินไป บางทีช่วงนี้องค์รัชทายาทอาจจะสร้างความดีความชอบมากมาย จนองค์จักรพรรดิทรงพอพระทัยแล้วก็เป็นได้!""ที่พูดก็มีเหตุผล เอาเถิด คอยดูว่าองค์จักรพรรดิจะทรงมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากที่องค์รัชทายาทเสด็จกลับมา"......ในขณะเดียวกันภายในจวนอ๋องหนิงฉินเซียวถามองครักษ์ข้างกาย "อวี๋เฟิงไปไหน เหตุใดยังมิกลับมา?"องครักษ์กล่าวอย่างนอบน้อม "ทูลท่านอ๋องหนิง อวี๋เฟิงลาพักผ่อนสองสามวัน บอกว่ามีธุระกลับบ้านเกิด ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว เกรงว่าเขาจะกลับไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นหรือ แล้วตอนนี้ข้างนอกมีความเคลื่อนไหวใดบ้าง?""ทูลท่านอ๋องหนิง บ่ายวันนี้ ถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูงแพร่กระจายไปทั่วโรงเหล้า โรงน้ำชา บัดนี้ทุกที่ที่ผู้คนพลุกพล่านในหลงเฉิง ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ"ฉินเซียวเผยรอยยิ้มอย่างผู้มีชัย "ดีมาก กลยุทธ์ของหมู่เฟยนั้นช่างเยี่ยมยอด ทำเช่นนี้ จดหมายขององค์รัชทายาทก็เป็นเพียงเศษกระดาษ มิอาจเป็นภัยต่อข้าได้อีก!"พูดจบก็สั่งองครักษ์ "เจ้าจงไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 537

    ฉินอู๋ต้าวเปรียบเทียบจดหมายทั้งสองฉบับอย่างละเอียดแล้วโมโหหนัก!"อ๋องหนิงเอ๋ย กล้ามากที่พูดจาบจ้วงเช่นนี้ เฉาฉุน เรียกฉินเซียวเข้าวัง ข้าจะถามเขาต่อหน้าเอง!""รับพระบัญชา เรียกอ๋องหนิงเข้าเฝ้า!"หนึ่งชั่วยามต่อมาฉินเซียวก็เดินมาถึงเขากำลังจะคุกเข่าทำความเคารพ ฉินอู๋ต้าวก็ขยำจดหมายในมือแล้วปาใส่เขา"ลูกทรพี! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาวิจารณ์ข้า เจ้าคงปีกกล้าขาแข็งมากขึ้นแล้วงั้นสิ!"ฉินเซียวแสร้งทำเป็นตกใจ จากนั้นก็เปิดจดหมายอ่าน ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทางบริสุทธิ์ใจ "เสด็จพ่อ ลูกมิผิด ลูกมิได้เขียนจดหมายนี้พ่ะย่ะค่ะ""หึ ๆ ท่านอ๋องหนิง ถึงตอนนี้ท่านยังจะปฏิเสธอีกหรือ? ข้าน้อยจำลายมือของท่านได้แม่นยำ อีกทั้งยังมีจดหมายของท่านเป็นหลักฐาน ท่านจะแก้ตัวกระไรอีก!""ใต้เท้าเผย ข้ากับเจ้าถือเป็นสหายสนิทชิดเชื้อ ไฉนเจ้าจึงใส่ร้ายข้าเช่นนี้เล่า..."ก่อนที่ฉินเซียวจะพูดจบ เผยหยวนก็กล่าวด้วยโทสะ "ก่อนหน้านี้ข้าน้อยดวงตามืดบอด จึงได้คบกับคนอกตัญญูเช่นท่าน""ก่อนหน้านี้เคยได้ยินท่านพูดถึงความผิดของฝ่าบาท ตอนนั้นข้าน้อยยังคิดว่าท่านเมาแล้วพูดจาเลอะเทอะ แต่คิดมิถึงว่าท่านจะบ้าคลั่งถึงขนาดนำคำพูดเหล่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 538

    หวังฉือกล่าวด้วยความเคร่งขรึม "ข้ารู้สึกว่ามันผิดปกติไปหมดทุกอย่าง หากจดหมายเป็นของอ๋องหนิงจริง เหตุใดเขาจึงส่งจดหมายให้ข้ากับท่าน อีกทั้งยังให้เผยหยวนถวายฎีกาถอดถอนเขาต่อหน้าธารกำนัลอีก เขาทำเช่นนี้ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเอง!"เนี่ยหงเองก็คิดมิตกเช่นกัน จึงกล่าวพึมพำ "หรือว่า… มีผู้อื่นใส่ร้ายอ๋องหนิง?"หวังฉือส่ายหน้าเล็กน้อย "ไม่มีทาง อ๋องหนิงเข้ากับคนในราชสำนักได้ทุกฝ่าย ไฉนจึงมีคนใส่ร้ายเขาเล่า"เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของหวังฉือก็มืดครึ้มลง กล่าวอย่างเคร่งขรึม "หรือว่านี่จะเป็นกับดักที่อ๋องหนิงสร้างขึ้นเอง เพื่อลากองค์รัชทายาทลงมาด้วย!"เนี่ยหงถามด้วยความสงสัย "ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?"หวังฉืออธิบาย "ข้าก็พูดมิถูก แต่ข้ารู้สึกว่าจุดประสงค์ของอ๋องหนิงต้องเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน"เนี่ยหงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าช้า ๆ"หากท่านพูดเช่นนี้ ข้าก็เห็นว่ามีความเป็นไปได้ เพราะช่วงนี้อ๋องหนิงเสียท่าต่อองค์รัชทายาทหลายครั้งหลายครา คนที่เขาอยากจะแก้แค้นมากที่สุดก็คือองค์รัชทายาท""น่าเสียดายที่ยามนี้พวกเรายังมิรู้ว่าอ๋องหนิงจะทำการใดต่อไป ได้แต่คอยจับตาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 539

    หลังจากมองอีกฝ่ายเดินออกไปจนลับสายตา สีหน้าของเสียนเฟยก็แปรปรวนนางมิคิดว่าฉินอู๋ต้าวจะสงสัย นี่มิใช่ลางดีนางครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็เผยสีหน้าเด็ดเดี่ยว!จากนั้นนางจึงกระซิบกับนางรับใช้ข้างกาย "ข้าจะออกจากวัง เจ้ารีบจัดการให้ข้าที!""บ่าวจะไปจัดการให้เพคะ พระสนมโปรดคอยสักครู่"นางรับใช้คำนับแล้วรีบเดินออกไปเสียนเฟยถอดชุดคลุมหงส์ออก และเปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัลประมาณครึ่งชั่วยามต่อมาขันทีน้อยหลายคนก็แบกเกี้ยวมาที่หน้าประตูวังองครักษ์ที่เฝ้าประตูเห็นดังนั้นก็ยื่นมือออกมาขวาง"ท่านขันที ผู้ใดอยู่ในเกี้ยวหรือ?""เรียนรองหัวหน้าองครักษ์เฉิน ในเกี้ยวคือนางกำนัลคนสนิทของพระสนมเสียนเฟย นางมีธุระที่บ้าน พระสนมเสียนเฟยประทานอนุญาตให้นางออกจากวัง นี่คือป้ายประจำพระองค์ของพระสนมเสียนเฟย ขอรองหัวหน้าองครักษ์เฉินอำนวยความสะดวกด้วย"ขันทีน้อยคนหนึ่งพูดพลางยื่นป้ายประจำตัวของเสียนเฟยให้พร้อมกันนั้นก็ยัดเงินเล็กน้อยใส่มืออีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบองครักษ์มองดูแล้วก็เข้าใจความหมาย กล่าวว่า "เปิดม่านเกี้ยว ข้าจะตรวจตามระเบียบ""ขอรับ!"ขันทีน้อยเปิดม่านเกี้ยว ฝ่ายองครักษ์ก็มองเข้าไปพอเป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 540

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ฉางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลันมองไปที่นอกประตูเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใคร เขาก็กระซิบตำหนิ "เจ้าอยากจะฆ่าพวกเราหรือไร บอกเจ้ากี่ครั้งกี่หนแล้ว อย่าเอ่ยเรื่องนี้ออกมา!"เสียนเฟยสะอื้นไห้ สีหน้าเศร้าสร้อยเมื่อเห็นดังนั้น ฉินอู๋ฉางก็ถอนหายใจเบา ๆ ดึงนางเข้ามาสวมกอดเสียนเฟยซบไหล่เขา ร้องไห้หนักกว่าเดิมฉินอู๋ฉางปลอบโยนสองสามคำ แล้วถามว่า "เจ้ายอมเสี่ยงโดนฝ่าบาทจับได้เพื่อมาถึงที่นี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเซียวเอ๋อร์หรือ?""เขาถูกฝ่าบาทสั่งขังในคุกหลวง..."นางพูดยังมิทันจบ ฉินอู๋ฉางก็อุทาน "ว่ากระไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่!"เสียนเฟยก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังหลังจากฟังนางเล่า ฉินอู๋ฉางก็ขมวดคิ้ว"ไฉนเซียวเอ๋อร์จึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เขียนจดหมายถึงหัวหน้าชนเผ่าโครยอ เนื้อความในจดหมายยังบอกให้ลงมือกำจัดองค์รัชทายาท ซ้ำยังให้สัญญาว่าเมื่อขึ้นครองราชย์จะยกเมืองให้เขาเพื่อกอบกู้บ้านเมือง เขามิรู้หรือว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นถูกประหารชีวิต!!""แล้วเจ้ายังคิดแผนกระไรเช่นนี้ ให้คนเลียนแบบลายมือของเซียวเอ๋อร์ เขียนถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูง เจ้าคิดว่านี่จะหลอก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 541

    “ท่านฝึกฝนจนถึงขั้นได้ยอดฝีมือระดับสวรรค์แล้วหรือเพคะ?”ฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ถึงแม้จะพึ่งโอสถ แต่พลังของพวกเขาก็อยู่ในระดับสวรรค์จริง ๆ น่าเสียดายที่ฤทธิ์ยามิค่อยเสถียรนัก”“โอสถที่ถึงกับเพิ่มพลังถึงระดับสวรรค์ได้ ท่านได้มาจากที่ใดกัน?”เสียนเฟยตกใจมาก แม้นางจะมิเข้าใจวรยุทธ์ แต่ก็รู้ว่าระดับสวรรค์นั้นน่ากลัวเพียงใดฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิ “แน่นอนว่ามาจากเงื้อมมือของปราชญ์โอสถแห่งหุบเขาเทพโอสถ!”“ว่ากระไรนะ?! เทพโอสถก็อยู่ที่นี่กับท่านงั้นหรือ?”“ถูกต้อง ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็ถูกข้าจับตัวมาปรุงยาเพิ่มพลังยุทธ์ให้กับข้าลับ ๆ”เสียนเฟยจึงเอ่ยพึมพำ “มิน่า ที่งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทฮองไทเฮา เทพโอสถจึงมิปรากฏตัว เมื่อต้นปีเขาเคยบอกว่าจะถวายโอสถอายุวัฒนะแก่ฝ่าบาทในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของไทฮองไทเฮา ต่อมาฝ่าบาทส่งคนไปตามหาเขาก็หาได้มีข่าวคราวไม่ นึกมิถึงว่าจะถูกท่านจับตัวไว้!”“หึ ในใต้หล้านี้มีโอสถอายุวัฒนะเสียที่ไหน ข้าว่าฉินอู๋ต้าวเป็นจักรพรรดิจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว เมื่อข้าฝึกฝนยอดฝีมือระดับสวรรค์ได้มากพอ ข้าจะบุกเข้าวัง บีบให้ฉินอู๋ต้าวสละราชสมบัติ!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 542

    เห็นเพียงร่างทั้งสองที่พุ่งเข้ามาดุจลูกธนู แต่เมื่อมาถึงกลางทาง ร่างกายก็แข็งทื่อ ล้มลงมาจากอากาศเมื่อเห็นภาพนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!เมื่อครู่พลังที่ระเบิดออกมาจากร่างทั้งสองนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งแต่บัดนี้พวกเขากลับล้มลงกับพื้น เกิดอันใดขึ้น?ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของทุกคน ร่างกายของคนทั้งสองก็เริ่มพองตัวอย่างรุนแรง แม้แต่อาภรณ์ก็เริ่มขาดวิ่น!เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็สั่ง “หลบ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกถึงลางร้าย รีบหลบหลังหินก้อนใหญ่ข้างทางหลังจากที่พวกเขาหลบได้ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง ‘เปรี้ยง เปรี้ยง’ สองครั้ง!จากนั้นก็มีลมพายุพัดผ่านไป ฝุ่นและหินปลิวว่อนไปทั่วครู่ต่อมา ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็ออกมาจากหลังก้อนหินเห็นเพียงพื้นดินที่คนทั้งสองอยู่เมื่อครู่ ถูกระเบิดเป็นหลุมสองหลุมรอบ ๆ หลุมเต็มไปด้วยเศษเนื้อและแขนขา น่าสยดสยองถานเหวยและคนอื่น ๆ ที่มิเคยเห็นความโหดร้ายของสงคราม ก็พลันท้องไส้ปั่นป่วนและอาเจียนมิหยุดตงฟางโซ่วพึมพำอย่างเหลือเชื่อ "เมื่อครู่สองคนนั้นระเบิดตัวเองหรือ?!""วิธีการตายน่าสยดสยองเช่นนี้ ข้าเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก พวก

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 602

    หลูเฟิงขมวดคิ้วกล่าว "ธนูพวกนี้รูปร่างประหลาดถึงเพียงนี้ จะใช้สังหารศัตรูได้หรือไม่ก็ยังมิรู้ ของพวกนี้คงปราบกองทัพหนานเยวี่ยแสนนายที่อยู่นอกประตูเมืองทิศเหนือมิได้หรอกกระมัง?""หึหึ ท่านแม่ทัพหลูยังมิทราบสินะ องค์รัชทายาทของเราตรัสว่า การมาเจียวโจวครั้งนี้ของพระองค์มิเพียงแต่จะปราบกองทัพหนานเยวี่ยแสนนายให้ราบคาบ แต่ยังจะบุกเข้าไปในใจกลางหนานเยวี่ยแล้วยึดครองหนานเยวี่ยทั้งแคว้นในคราเดียว!""กระไรนะ? ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งแคว้นในคราเดียว?!"สีหน้าของหลูเฟิงยิ่งทวีความประหลาดใจมากขึ้น จากนั้นจึงกล่าวอย่างเคลือบแคลง "ท่านรองแม่ทัพหู ท่านมิได้พูดจาเลื่อนลอยใช่หรือไม่ องค์รัชทายาทจะตรัสคำพูดไร้สาระเช่นนั้นได้อย่างไร?"หูก่วงเซิงหัวเราะน้อย ๆ "ข้าเป็นแค่รองแม่ทัพต่ำต้อย จะกล้ากุข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาทได้อย่างไรคำพูดเหล่านี้เป็นความจริงที่องค์รัชทายาทตรัสด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังตรัสในท้องพระโรงต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทและขุนนางน้อยใหญ่ทั้งราชสำนัก"หลูเฟิงบ่นพึมพำอย่างอดมิได้ "องค์รัชทายาททรงเห็นเรื่องสนามรบเป็นเรื่องง่ายเกินไปกระมังพวกเราประจันหน้ากับกองทัพหนานเยวี่ยที่อยู่ด้านนอกมาน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 601

    มินานนัก ตี๋จิ่งก็ถีบเท้าออกจากอานม้า ร่างพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกธนูเขาพลิกตัวกลางอากาศ ลงมายืนอยู่หน้ามู่หรงจื่อเยียนได้อย่างมั่นคงม้าของมู่หรงจื่อเยียนตกใจ รีบหยุดลงทันที"ท่านหญิง เจียวโจวเป็นสมรภูมิรบ ท่านจะไปที่นั่นมิได้พ่ะย่ะค่ะ!""ท่านลุงจิ่ง ข้าต้องไปเจียวโจวให้ได้ หากท่านขวางข้า ข้าจะตายต่อหน้าท่าน!"มู่หรงจื่อเยียนพูดจบก็หยิบกริชออกมาจ่อที่คอของตนเมื่อเห็นดังนั้น ตี๋จิ่งก็ตกใจหน้าซีด รีบโบกมือกล่าว "ท่านหญิงอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นท่านก็อย่าขวางทางข้า หากท่านกล้าสกัดจุดข้าแล้วพาข้ากลับไป ข้าหลุดพ้นเมื่อไร ข้าจะฆ่าตัวตายทันที!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตี๋จิ่งและคนอื่น ๆ ก็เหงื่อแตกพลั่กทันใดพวกเขาเพิ่งรู้ว่ามู่หรงจื่อเยียนมีนิสัยแข็งกร้าวถึงเพียงนี้ตี๋จิ่งถามอย่างระมัดระวัง "ท่านหญิง ที่ท่านหญิงไปเจียวโจว ก็เพื่อฉินซูผู้นั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?"มู่หรงจื่อเยียนเม้มริมฝีปากแดงระเรื่อ มิได้กล่าวสิ่งใดเมื่อเห็นมู่หรงจื่อเยียนยอมรับโดยนัย ตี๋จิ่งและพวกก็แสดงสีหน้าแตกต่างกันไปทว่าเวลานี้ หากคิดจะพามู่หรงจื่อเยียนกลับไปโดยใช้กำลัง เห็นทีคงเป็นไปมิได้เมื่อจนปัญญา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 600

    มู่หรงฟู่เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าเกิดเรื่องขึ้นที่เป่ยเยี่ยนจริง ๆ มิฉะนั้นเสด็จพ่อของเขาคงมิส่งคนนำจดหมายฉบับนั้นมาให้เขาหรอกและคงมิปล่อยให้เขาพักพิงอยู่ในต้าเหยียนต่อไปเช่นนี้ตี๋จิ่งและคนอื่น ๆ ต่างแสดงสีหน้าขมขื่น กล่าวว่ามิกล้า ๆ ซ้ำ ๆมู่หรงฟู่แค่นเสียงในลำคอ "มิกล้าก็ดี วันนี้อากาศดีจริง ๆ จื่อเยียน พวกเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าแล้วเดินตามมู่หรงฟู่ออกจากโรงเตี๊ยมไปตี๋จิ่งและพรรคพวกมองหน้ากันไปมา สุดท้ายก็เดินตามไปด้วยหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องมู่หรงจื่อเยียนเมื่อถึงตลาดมู่หรงจื่อเยียนก็ได้ยินจากชาวบ้านว่า ฉินซูนำทหารม้าหุ้มเกราะชั้นยอดลงใต้ไปช่วยเหลือเมืองเจียวโจวแล้ว!นางรีบหันไปถามมู่หรงฟู่ "เสด็จพี่ห้า กองทัพหนานเยวี่ยเก่งกาจมากหรือไม่เพคะ?"มู่หรงฟู่ยักไหล่ "หนานเยวี่ยอยู่ห่างจากเป่ยเยี่ยนของเราโดยมีต้าเหยียนขวางกั้น ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขามีกำลังพลเท่าไร"ตี๋จิ่งกล่าวเสริม "ท่านหญิง กองทัพหนานเยวี่ยเชี่ยวชาญการขี่ม้า ยิงธนู อีกทั้งเกราะหวายและโล่ยังทนทานต่อคมหอกคมดาบอย่างยิ่ง นับว่าเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากอย่างแท้จริง กองทัพต้าเหยี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 599

    ระหว่างทางลงใต้สู่เมืองเจียวโจว ฉินซูและหูก่วงเซิงแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมิใช่ว่าฉินซูอาศัยสถานะของตนแล้วแสร้งวางตัวสูงส่งกระไร แต่เป็นเพราะหูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ทำเหมือนมีตาอยู่กลางศีรษะ มิชายตามองฉินซูแม้แต่น้อยฉินซูรู้ดีแก่ใจ ลูกน้องของอ๋องฉู่พวกนี้มิได้คิดจะเหลียวแลตนตั้งแต่แรกถึงกระนั้นเขาก็มิได้คิดที่จะวางอำนาจข่มขู่หูก่วงเซิงและพวกพ้อง แต่กลับควบม้านำหน้าไปตามทางของตนถึงแม้เขาจะมิถือสา แต่สองพี่น้องตงฟางไป๋กลับนั่งมิติด เริ่มพึมพำออกมาเบา ๆ"ให้ตายสิ! ก็แค่ลูกน้องของอ๋องฉู่แท้ ๆ กลับวางท่าหยิ่งผยองต่อหน้าพระพักตร์องค์รัชทายาทถึงเพียงนี้ อยากจะตบหน้าสั่งสอนสักที!""ข้าก็เหมือนกัน โดยเฉพาะเจ้าหูก่วงเซิงนั่น องค์รัชทายาททรงอุตส่าห์รักษาท่าที มิอยากลดตัวไปถือสาหาความด้วย แต่เจ้านั่นกลับสำคัญตัวว่าเป็นบุคคลสำคัญไปได้ มองแล้วมันขึ้นจริง ๆ บ้าเอ๊ย!""แล้วอ๋องฉู่นั่นก็ท่าทางมิใช่คนดีกระไร ก่อนออกเดินทางก็เอาแต่กำชับนั่นนี่อยู่ได้..."ฉินซูเหลือบมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วตำหนิว่า "จะไปถือสาหาความกระไรกับพวกเขาเล่า ไปถึงเจียวโจว พวกเจ้าก็ตามข้าไประบายอารมณ์ในสนามรบก็สิ้นเรื่อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 598

    สวี่จิ้นประสานมือกล่าว "องค์รัชทายาท ข้าน้อยจะกลับไปยังกรมโยธาธิการ ให้พวกเขารีบเร่งผลิตระเบิดสายฟ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้พระองค์ทรงนำไปยังเจียวโจวได้มากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!"ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย "ได้ พวกท่านไปทำธุระของตนเถิด"หวังฉือและคนอื่น ๆ ต่างทูลลาและจากไปเมื่อออกจากตำหนักบูรพา เหวินเยวี่ยนซานก็กล่าวด้วยใจกลัดกลุ้ม "การเดินทางครั้งนี้ขององค์รัชทายาทจะต้องอันตรายอย่างยิ่งเป็นแน่ หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับพระองค์ที่เจียวโจว ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่""ใช่แล้ว อุตส่าห์โค่นอ๋องหนิงและพรรคพวกได้สำเร็จ ตอนนี้กลับขันอาสาไปออกรบเองเสียได้ มิเข้าใจเลยว่าพระองค์ทรงคิดกระไรอยู่"หวังฉือพูดเป็นเชิงปลอบโยน "ที่จริงพวกเรามิจำเป็นต้องหดหู่ถึงเพียงนี้ก็ได้ หากองค์รัชทายาททรงได้รับชัยชนะครั้งใหญ่กลับมา เรื่องราวในวันชุนเฟินปีหน้าก็จะถูกยกเลิกเป็นแน่ กล่าวได้ว่าองค์รัชทายาททรงกำลังต่อสู้เพื่อตัวพระองค์เองอยู่เช่นกัน!""ที่ท่านพูดมาก็ถูก ได้แต่หวังว่าองค์รัชทายาทจะทรงกลับมาโดยสวัสดิภาพ"......วันรุ่งขึ้นฉินซูพาพี่น้องตงฟางไป๋ไปยังกรมโยธาธิการหลังจากรถม้าสองสามคันที่บรรทุกธนูทดกำลังและระ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 597

    ฉินซูพยักหน้าจริงจัง "หากเป็นเพราะความผิดพลาดของลูก ทำให้การศึกที่เจียวโจวล่าช้า ลูกยินดีรับโทษตามกฎระเบียบของกองทัพพ่ะย่ะค่ะ!"ฉินอู๋ต้าวเคาะโต๊ะลงมติทันที "ดี! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมเถิด วันพรุ่งจงนำทหารม้าหุ้มเกราะที่อ๋องฉู่พากลับมาเคลื่อนทัพลงใต้ไปช่วยเหลือเจียวโจวเสีย!""ลูกน้อมรับพระบัญชา!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาแห่งชัยชนะก็วาบผ่านดวงตาของหม่าเถิงหลังเลิกประชุมราชสำนัก ฉินซูก้าวออกจากพระตำหนักจินหลวนด้วยท่าทีสงบและมั่นคงหวังฉือ เนี่ยหง และเหวินเยวี่ยนซานรีบตามไปเมื่อเห็นดังนั้น ฉินอวี่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ "หึหึ ลมในราชสำนักเปลี่ยนทิศเร็วดีจริง ๆ เพียงสองสามเดือน จากองค์รัชทายาทชื่อเสียงฉาวโฉ่ก็ได้รับการสนับสนุนไปทั่วเสียแล้ว!""ได้รับการสนับสนุนไปทั่วกระไรกันพ่ะย่ะค่ะ ก็มีแต่หวังฉือกับพวกเท่านั้นที่พยายามประจบสอพลอ" หม่าเถิงแสดงท่าทีเหยียดหยามฉินอวี่เหลือบมองเขาผาดหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เมื่อครู่เจ้าเพิ่งแอบช่วยข้า มิใช่ว่ากำลังประจบสอพลอเหมือนกันหรอกหรือไร?"หม่าเถิงกล่าวอย่างมีหลักการ "วิหคเลือกกิ่งไม้เพื่อเกาะพักฉันใด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 596

    เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยวของฉินซู หวังฉือและคนอื่น ๆ ก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากกลับลงไป พร้อมทั้งส่ายหน้าถอนหายใจอย่างเงียบงันมิหยุดตอนนี้อ๋องฉีและพวกพ้องล่มจมแล้ว เช่นนั้นก็เป็นโอกาสดีที่จะเอาชนะใจผู้คนและเสริมสร้างอิทธิพลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นพวกเขามิเข้าใจเลยสักนิดว่า เหตุใดฉินซูจึงยืนกรานอาสานำทัพออกรบที่เมืองเจียวโจวในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้นี่มันเสียเวลาเปล่ามิใช่หรือในตอนนี้เองขุนนางวัยกลางคนในชุดสีแดงคนหนึ่งก็ก้าวขึ้นมาเขาเอ่ยถามฉินซู "องค์รัชทายาททรงมีพระทัยเปี่ยมล้นด้วยความฮึกเหิม จิตวิญญาณนักสู้กล้าแกร่ง เห็นทีคงจะมีอาวุธลับเป็นแน่ หากเดินทางไปเมืองเจียวโจวครานี้มิสามารถขับไล่กองทัพหนานเยวี่ยได้ แต่กลับกลายเป็นภาระให้แม่ทัพฉงจะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?"หวังฉือโต้กลับทันควัน "หม่าเถิง เจ้าเป็นเพียงผู้ดูแลจวนอ๋องฉีผู้ต่ำต้อย หาได้มีสิทธิ์พูดในที่แห่งนี้ไม่!"หม่าเถิงเองก็ตอบโต้อย่างวางตัวเหมาะสม "ใต้เท้าหวัง แม้ข้าน้อยผู้นี้จะเป็นเพียงผู้ดูแลจวนอ๋องฉี แต่เพราะบารมีขององค์รัชทายาท หลังจากสิ้นอำนาจอ๋องฉี ข้าน้อยก็ได้ถูกเลื่อนขั้นจากกรมขุนนางให้เป็นรอง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 595

    "เสด็จพี่ช่างมีความทะเยอทะยานนัก หรือท่านคิดอยากจะยึดครองทั้งแคว้นหนานเยวี่ยเล่า?"ฉินซูตอบโต้ด้วยคำพูดชวนให้ตะลึงงัน "หนานเยวี่ยเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ หากคิดจะยึดครองพวกมันทั้งหมด ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปมิได้เสียทีเดียว""เป็นไปได้รึ นี่เสด็จพี่คิดจะทำสงครามยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยทั้งหมดจริง ๆ หรือ?!"ฉินอวี่ตกตะลึง แทบมิอยากเชื่อหูตนเองฉินซูพยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่น "ถูกต้อง ก่อนหน้านี้เราไม่มีข้ออ้างดี ๆ การยกทัพไปโจมตีหนานเยวี่ยจึงขาดความชอบธรรม ทว่ายามนี้ หนานเยวี่ยรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของเราหลายครั้งแล้ว นี่เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เรามีเหตุผลในการโจมตีพวกมัน!"ได้ยินฉินซูกล่าวเช่นนั้น ขุนนางระดับสูงทั่วทั้งท้องพระโรงต่างส่งเสียงกระซิบกระซาบพึมพำกันเอง"เอ่อ องค์รัชทายาทถึงกับทรงคิดจะยกทัพโจมตีน่านเยวี่ยเลยหรือ? ความคิดนี้ดูจะรุนแรงเกินไปหน่อยกระมังพ่ะย่ะค่ะ?""นั่นสิ แคว้นหนานเยวี่ยเต็มไปด้วยเทือกเขาทอดยาวไร้สิ้นสุด ด่านป้องกันก็ล้วนตั้งอยู่บนเส้นทางสำคัญที่เป็นปราการธรรมชาติ ป้องกันง่ายแต่โจมตียาก การจะบุกฝ่าเข้าไปถึงใจกลางหนานเยวี่ยนั้น พูดง่ายแต่ทำยาก""พูดได้ถูกต้อง มิหนำ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 594

    ฉินอวี่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย โต้ตอบอย่างมิเห็นด้วย "มันก็แค่ดอกไม้ไฟกับประทัดดัดแปลงเท่านั้น จะทรงพลังแค่ไหนกันเชียว?""อ๋องฉู่ ดอกไม้ไฟกับประทัดจะเทียบกับระเบิดสายฟ้าได้อย่างไร ระเบิดสายฟ้านั้น..."มิรอให้สวี่จิ้นพูดจบ ฉินอวี่ก็โบกมือปัด "ใต้เท้าสวี่มิจำเป็นต้องพูดให้มากความ ข้าทำศึกในสนามรบมาแปดเก้าปี เห็นคลื่นลมมาแล้วทุกรูปแบบ!"ได้ยินดังนั้น สวี่จิ้นก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ติดอยู่ที่ปากลงคอไปฉินอวี่จึงหันไปประสานมือคารวะฉินอู๋ต้าวและกล่าวอีกครั้ง "เสด็จพ่อ สถานการณ์เมืองเจียวโจวมิอาจแก้ไขโดยง่าย ลูกนำทหารม้าหุ้มเกราะฝีมือชั้นยอดกลับมาจากการตรวจตราฝั่งตะวันออกแล้ว ขอเพียงเสด็จพ่อทรงอนุมัติ ลูกจะนำพวกเขาเร่งกรีธาทัพทั้งวันทั้งคืนเข้าช่วยเหลือเมืองเจียวโจวทันทีพ่ะย่ะค่ะ!""ท่านอ๋องฉู่ ข้าน้อยมิได้มีเจตนาจะดูหมิ่นพระองค์หรือทหารม้าหุ้มเกราะของพระองค์ ทว่ามีทหารทัพหนานเยวี่ยหนึ่งแสนนายปักหลักนอกเมืองเจียวโจว ท่านนำกองกำลังทหารม้าหุ้มเกราะเพียงน้อยนิดของท่านไป เกรงว่าคงเป็นการหยดน้ำดับไฟเท่านั้นกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อเผชิญกับความสงสัยของเหวินเยวี่ยนซาน ฉินอวี่ตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง "กองท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status