Share

บทที่ 200

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉงชูโม่ยังคงรออยู่ด้านนอกประตูตำหนักบูรพาอย่างกระสับกระส่าย

เมื่อนางเห็นโอวหยางขุยออกมา นางรีบเข้าไปขวางเขาและถามว่า “เจ้ามีธุระอันใดกันแน่ถึงได้มาขอพบองค์รัชทายาท?”

โอวหยางขุยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “แม่ทัพใหญ่ฉง เจ้ามิจำเป็นต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าถึงเพียงนี้หรอก ตอนนี้ข้าอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์รัชทายาทแล้ว และต่อจากนี้ไปข้าก็จะทำตามที่พระองค์สั่งเท่านั้น”

“ว่ากระไรนะ? เจ้าอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์รัชทายาทรึ?!”

ฉงชูโม่มองโอวหยางขุยด้วยความเหลือเชื่อพร้อมกับถามว่า “เจ้าถูกเขาควบคุมได้อย่างไร? เขาทำอะไรกับเจ้า?”

“หากอยากรู้ก็ไปถามองค์รัชทายาทเอาเองเถิด ข้ามีเรื่องที่ต้องทำ ขอตัวก่อน”

โอวหยางขุยยกมือคำนับและหันหลังเดินจากไป

ฉงชูโม่ขมวดคิ้วและเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่นางมาถึงห้องรับรอง นางก็เห็นฉินซูโอบหลินชิงเหยาไว้ในอ้อมแขนและกำลังเตรียมที่จะเข้าห้องนอน

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกัน ฉงชูโม่ก็โกรธขึ้นมาทันที

หลินชิงเหยารีบผละออกจากอ้อมแขนของฉินซูและถามอย่างเขินอาย “พี่หญิงชูโม่ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใดหรือ?”

ฉงชูโม่มิได้สนใจนางและหันไปถามฉินซู “องค์รัชทายาท ท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 201

    ฉินซูมิเชื่อเลยแม้แต่น้อยแต่หลินชิงเหยาก็วิเคราะห์อย่างจริงจัง“องค์รัชทายาท ช่วงนี้พี่หญิงชูโม่เอาใจใส่ท่านเป็นพิเศษ อีกทั้งตอนที่ท่านได้รับบาดเจ็บนางก็ไปนำโอสถสรรพโรคมาให้ท่านเสวยและรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านด้วยตัวเอง เมื่อครู่ตอนที่หม่อมฉันเห็นว่าท่านมิได้บอกนางเกี่ยวกับเรื่องของโอวหยางขุย นางดูผิดหวังเสียใจเป็นอย่างมาก การกระทำเหล่านี้ของนางมันทำให้เห็นได้ชัดเจนว่านางใส่ใจท่านมิใช่หรือเพคะ?”“ที่นางรักษาบาดแผลให้ข้าคงเพราะมิอยากรับผิดก็เท่านั้น”“รับผิด?” หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสน “องค์รัชทายาท รับผิดหมายถึงอะไรหรือเพคะ?”“หมายถึงยอมรับความผิดนั่นแหละ เจ้าลองคิดดูสิ หากข้าเป็นอะไรขึ้นมา ฝ่าบาทจะทรงยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ รึ?”หลินชิงเหยาใช้ความคิดฉินซูกล่าวต่อ “นอกจากนี้นางก็จงภักดีต่อฝ่าบาท ทุกสิ่งที่นางทำล้วนเป็นเพราะทำตามรับสั่ง ที่นางมาอยู่ที่ตำหนักบูรพาแห่งนี้ก็เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ฝ่าบาทก็เท่านั้น นางชอบข้าน่ะหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”“ที่ท่านตรัสนั้นถือว่ามีเหตุผลเพคะ แต่องค์รัชทายาท สิ่งที่พี่หญิงชูโม่พูดเมื่อครู่ก็มีส่วนถูกเพคะ หากฝ่าบาททรงทราบขึ้นมาว่า ท่านติดต่อกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 202

    ครึ่งชั่วยามต่อมาซุนฉีมาที่ห้องตำราของฉินเหยี่ยนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข“ท่านอ๋องจิ้น ข่าวดีพ่ะย่ะค่ะ ข่าวดี!”ฉินเหยี่ยนถามด้วยความอยากรู้ “เจ้าพบโอวหยางขุยแล้วหรือ?”“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ยังมิพบตัวหยางขุย แต่เราพบพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าองค์รัชทายาทติดต่อกับผู้มีอำนาจในยุทธภพพ่ะย่ะค่ะ!”“พยานรึ? ผู้ใดกัน?!”“เซี่ยหลาน หลานสาวของชิ่งกั๋วกงพ่ะย่ะค่ะ!”“เป็นนางหรือ? นางเห็นฉินซูพบกับโอวหยางขุยด้วยสองตาของตัวเองรึ?”ซุนฉีพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ตามข้อมูลจากสายลับที่เราส่งไปแฝงตัว เซี่ยหลานบังเอิญอยู่หน้าประตูตำหนักบูรพาในตอนที่องค์รัชทายาทพบกับโอวหยางขุย มิรู้ว่านางเดินผ่านมาหรือว่าอะไร แต่ถึงอย่างไรนางก็ผู้ที่เห็นเหตุการณ์พ่ะย่ะค่ะ”ฉินเหยี่ยนดีใจจนตบขาดังฉาดและพูดอย่างตื่นเต้น “ฮ่า ๆ สวรรค์เข้าข้างข้าสินะ ไปรีบเตรียมเกี้ยวให้พร้อม ข้าจะไปจวนชิ่งกั๋วกงเสียหน่อย”“เกี้ยวถูกเตรียมไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอ๋อง ชิ่งกั๋วกงผู้นั้นสนิทกับอ๋องฉีมานาน อีกทั้งยังถือตัวอวดดีเป็นอย่างมาก ท่านอ๋องเสด็จไปหาเขาในครั้งนี้โปรดอย่าทำให้เขาขุ่นเคืองได้ง่าย ๆ มิเช่นนั้นเราอาจจะมิได้ความช่วยเหลือจากเซี่ยหลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 203

    หลังจากที่เซี่ยเหอพูดจบ ก็ออกไปรับแขกที่หน้าประตูด้านเซี่ยหลานกลับมาที่ห้องส่วนตัวทันทีที่นางลงกลอนประตู ก็มีคนปิดตาของนางจากด้านหลัง ขณะเดียวกัน คนผู้นั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “สาวน้อย จงรีบถอดอาภรณ์และมาปรนนิบัติคุณชายเช่นข้าอย่างว่าง่ายเสีย!”“บ้า! ชูโม่ เจ้ากลายเป็นคนติดตลกขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วไหนจะคุณชายอะไรนั่นอีก มิรู้จักอายเอาเสียเลย!”“มิจริงน่า ข้าอุตส่าห์เปลี่ยนเสียง เจ้ายังจำข้าได้อีกหรือ?”ฉงชูโม่ปล่อยมืออย่างประหลาดใจเซี่ยหลานพูดด้วยความโกรธ “เจ้ากับข้าเติบโตมาด้วยกัน คิดว่าข้าจะจำกลิ่นกายเจ้ามิได้หรือไร!”“กลิ่นกายข้า?” ฉงชูโม่ดมตัวเองโดยมิรู้ตัวพลางบ่นพึมพำ “มีที่ไหนเล่า เจ้าก็พูดไปเรื่อย”“ชิชิ บนตัวเจ้าน่ะมีกลิ่นหอมจาง ๆ ช่างเถิด มิต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เมื่อครู่ตอนที่ข้ากลับมาข้าบังเอิญได้ยินว่าอ๋องจิ้นมาที่นี่ มิรู้ว่ามาหาท่านปู่ของข้าด้วยธุระอันใด”“อ๋องจิ้น?”ดวงตาที่งดงามของฉงชูโม่กะพริบถี่ ๆ จากนั้นนางก็พูดเสียงเบา “เจ้านอนไปก่อน เดี๋ยวข้าไปดูเองว่าพวกเขาคุยอะไรกัน”“ข้าก็อยากไปด้วย!”“ข้าจะไปแอบฟัง หากเจ้าตามข้ามาแล้วถูกจับได้จะทำอย่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 204

    ฉินเหยี่ยนพูดอย่างมิรีบร้อน “องค์รัชทายาทฝ่าฝืนรับสั่งของเสด็จพ่อด้วยการติดต่อกับคนในยุทธภพอย่างลับ ๆ และเซี่ยหลานก็เป็นพยานในเรื่องนี้”“มิจริงกระมังพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาททรงไปหามาสู่กับคนจากยุทธภพน่ะหรือพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องจิ้น นี่เป็นเรื่องจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เซี่ยเหอแทบมิอยากเชื่อหลังจากได้ยินเรื่องราวเนื่องจากฝ่าบาทมีรับสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าห้ามมิให้ขุนนางราชสำนักและสมาชิกราชวงศ์มีปฏิสัมพันธ์กับคนจากยุทธภพโดยเด็ดขาดแต่ตอนนี้องค์รัชทายาทกลับกล้ากระทำผิดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ นี่เท่ากับรนหาที่ตายมิใช่หรือ?ฉินเหยี่ยนพูดอย่างเคร่งเครียด “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง วันนี้องค์รัชทายาทได้พบกับโอวหยางขุย เจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงที่ตำหนักบูรพา เซี่ยหลานบังเอิญอยู่หน้าประตูตำหนักบูรพาในเวลานั้นพอดีและได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง!”“หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ขอท่านอ๋องโปรดรอสักครู่ กระหม่อมจะรีบให้คนไปเรียกเสี่ยวหลานมาพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่เซี่ยเหอพูดจบ เขาก็ตะโกนไปที่ประตู “ใครก็ได้ ไปเรียกคุณหนูมาทีซิ บอกว่าข้ามีเรื่องสำคัญจะถาม”“ขอรับ!”ตำแหน่งบนหลังคา ณ ขณะนี้ เซี่ยหลานถามเสีย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 205

    “ท่านปู่ทราบได้อย่างไรเจ้าคะ?” เซี่ยหลานถามอีกครั้งด้วยความประหลาดใจเซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ตอนนี้ข้ากำลังถามเจ้าอยู่ บอกข้ามาว่าเจ้าไปทำอะไรที่ตำหนักบูรพา”“ข้าไปชูโม่เจ้าค่ะ นางเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ข้าก็ต้องไปหานางที่ตำหนักบูรพาน่ะสิเจ้าคะ”“เช่นนั้นวันนี้องค์รัชทายาทได้พบกับเจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงหรือไม่?”เซี่ยหลานทำท่าครุ่นคิดแล้วตอบว่า “วันนี้องค์รัชทายาทพบกับชายลึกลับในชุดดำเจ้าค่ะ แต่ข้ามิแน่ใจว่าใช่เจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงหรือไม่”ฉินเหยี่ยนรีบหยิบรูปเหมือนออกมาจากแขนเสื้อและถามว่า “เซี่ยหลาน นี่คือคนที่องค์รัชทายาทได้พบในวันนี้หรือไม่?”เซี่ยหลานเหลือบมองภาพนั้นแล้วพยักหน้าช้า ๆ “ใช่เขาเพคะ!”ฉินเหยี่ยนตบฉาดเข้าที่ต้นขาอย่างตื่นเต้นและพูดด้วยความดีใจว่า “ดีมาก คนผู้นี้คือเจ้าสำนักอาทิตย์อัสดง โอวหยางขุย! คราวนี้ฉินซูจบเห่แล้ว เซี่ยหลาน เจ้ายินดีหรือไม่ที่จะมาเป็นพยานชี้ตัวองค์รัชทายาทว่าเขาได้ทำการติดต่อกับคนจากยุทธภพ?”“เอ่อคือ…”เซี่ยหลานหันไปถามเซี่ยเหอผ่านสายตาเขาพูดเสียงทุ้ม “เสี่ยวหลาน หากเจ้าเห็นด้วยตาของตัวเองจริง ๆ ก็ไปเป็นพยานเสีย ส่วนเรื่องอื่นเจ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 206

    การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันของนาง ทำให้สาวใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงกับตกใจจนลนลาน สองสาวใช้หน้าถอดสี รีบทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น มิกล้าหายใจแม้แต่น้อยภายในห้อง ฉินซูและหลินชิงเหยาก็ถูกทำให้ตกใจเช่นกัน โดยเฉพาะหลินชิงเหยา ที่ถึงกับใบหน้าซีดเผือด รีบซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มทันทีเมื่อถูกรบกวนจนเสียอารมณ์ ฉินซูโกรธจัด ตะโกนด่าผู้ที่อยู่ด้านนอกว่า "ใครมันบังอาจขนาดนี้ กล้ามาเตะประตูห้องบรรทมขององค์รัชทายาท อยากตายนักหรืออย่างไร!"เสียงเย็นชาของฉงชูโม่ตอบกลับอย่างเฉยเมย "หึ หากท่านมิออกมา องค์รัชทายาทตำแหน่งนี้ของท่าน คงจะถูกปลดในวันพรุ่งแล้ว!"เมื่อได้ยินเสียงของฉงชูโม่ ฉินซูก็ขมวดคิ้วครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบสวมอาภรณ์และปลอบใจหลินชิงเหยาเล็กน้อย แล้วเดินออกไปฉงชูโม่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะแสดงท่าทางรังเกียจแล้วเบือนหน้าหนีไปฉินซูเลิกคิ้วถาม "ฉงชูโม่ เจ้ากล้ามาเตะประตูห้องข้า เรื่องนี้เดี๋ยวข้าจะสะสางกับเจ้าทีหลัง แต่บอกข้ามาก่อนว่า คำพูดเมื่อครู่ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?"ฉงชูโม่แค่นเสียงเย็น "ไม่มีความหมายอะไร หม่อมฉันมิอยากขัดจังหวะเรื่องสำคัญของท่าน หม่อมฉันขอทูลลา"พูดจบ นางก็ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 207

    ฉินซูพูดต่อว่า "งามขนาดนี้ แต่มิให้คนมอง มันเกินไปหน่อยนะ"“ถุย! เลิกพูดจาป้อยอหว่านล้อมเถอะ ปัญหาใหญ่มาถึงหน้าประตูบ้านท่านแล้วรู้บ้างหรือไม่?” “ปัญหาใหญ่? ปัญหาใหญ่อะไร?”ฉงชูโม่พูดอย่างมิพอใจ "เรื่องที่ท่านพบโอวหยางขุยตามลำพัง ตอนนี้ข่าวไปถึงหูท่านอ๋องจิ้นแล้ว ท่านอ๋องจิ้นเสด็จไปหาชิ่งกั๋วกง และยังพูดจาหว่านล้อมให้เซี่ยหลานมาเป็นพยานอีกด้วย"ฉินซูขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เจ้ามาบอกเรื่องเพียงแค่นี้รึ?""มิเช่นนั้นแล้วจะมีอะไรอีกเล่า? นี่มิใช่เรื่องใหญ่หรือไร? อย่าลืมสิว่าฝ่าบาททรงมีรับสั่งอย่างชัดเจน ห้ามคนในราชสำนักและเชื้อพระวงศ์คบค้ากับคนในยุทธภพ ท่านนี่รู้ทั้งรู้ยังฝ่าฝืน ท่านทรงคิดว่าอ๋องจิ้นกับพรรคพวกจะจัดการท่านอย่างไร?"“จะไปเดายากอะไร พวกเขาจะต้องรีบฉวยโอกาสโจมตีข้าแน่ วันพรุ่งคงยื่นฎีกาว่าร้ายข้าแน่นอน”"ในเมื่อรู้อยู่แล้ว เหตุใดท่านถึงทำเหมือนมิแยแสสิ่งใดเลยเล่า หรือคิดจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม?"ฉงชูโม่มองฉินซูด้วยความผิดหวัง ในใจคิดว่าเขาคงยอมแพ้จริง ๆแต่ฉินซูกลับหัวเราะแล้วพูดว่า "ที่แท้เจ้าก็แอบห่วงข้านี่เอง ข้านึกว่าเจ้าเป็นเพียงสายลับที่ฝ่าบาทส่งมาสอดส่องข้าเส

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 208

    อ๋องจิ้นกล่าวออกมาอย่างมิเกรงกลัวว่า “ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทฉินซูพ่ะย่ะค่ะ!”” พูดจบ เขาก็ชี้นิ้วไปทางฉินซูเมื่อทุกคนได้ยิน ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน!ฉินอู๋ต้าวเอนหลังพิงบนบัลลังก์มังกร และรับสั่งด้วยความสนใจว่า "เหตุใดเจ้าถึงต้องการฟ้องร้ององค์รัชทายาท?"อ๋องจิ้นพูดอย่างโกรธแค้นว่า “เสด็จพ่อ เมื่อวานนี้องค์รัชทายาทลอบพบปะกับชาวยุทธภพในตำหนักบูรพา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรับสั่งของฝ่าบาทอย่างโจ่งแจ้ง ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาลงโทษด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ! องค์รัชทายาทกล้าคบค้ากับชาวยุทธภพรึ?”“เป็นไปมิได้ องค์รัชทายาทซึ่งเป็นผู้สืบบัลลังก์ของแผ่นดิน จะกล้าฝ่าฝืนรับสั่งของฝ่าบาทเช่นนี้หรือ?”“จะผู้สืบบัลลังก์อะไรกัน ก็เป็นแค่องค์รัชทายาทที่รอวันถูกปลดเท่านั้น”“แต่ก่อนที่จะถูกปลด พระองค์ก็ยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ การที่พระองค์คบค้ากับชาวยุทธภพเช่นนี้ หรือว่าพระองค์ทรงคิดจะใช้กำลังจากยุทธภพเพื่อแย่งชิงบัลลังก์?”ในท้องพระโรง บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ ใบหน้าของฉินอู๋ต้าวก็เริ่มเคร่งขรึมลง นัยน์ตาอันเย็นเยียบจับจ้องไปที่ฉินซู แต่กลั

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status