แชร์

บทที่ 182

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-14 18:00:00
ซุยฮ่าวพยักหน้ารับอย่างต่อเนื่อง "ใช่แล้ว พี่ชูโม่ ข้าเห็นว่าช่วงนี้มีผู้รู้ทางวรรณศิลป์มารวมตัวกันที่หลงเฉิงมากมาย ข้าก็เลยคิดจะนัดพวกเขามาพบปะกันบ้าง ว่าแต่ท่านกับพี่หญิงเซี่ยหลาน ไฉนจึงมาที่นี่ด้วยเล่า?"

เซี่ยหลานหัวเราะ "ข้ากับชูโม่แค่จะมาร่วมสนุกสักหน่อย อยากเห็นว่าพวกบัณฑิตทั้งหลายเช่นเจ้าจะมีฝีมือโดดเด่นเพียงใด มิคิดเลยว่าจะบังเอิญเจอเจ้า"

พูดถึงตรงนี้ เซี่ยหลานทำหน้าสงสัย พลางถามว่า "ซุยฮ่าว เหตุใดเจ้าดูหน้าตาดูย่ำแย่เช่นนี้ หรือมิอยากต้อนรับข้ากับชูโม่?"

ซุยฮ่าวรีบอธิบาย "หามิได้ มิใช่เช่นนั้น ข้าแค่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย มิเคยเห็นพวกท่านมาที่นี่มาก่อนเลย"

"ดี ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้าก็ทำธุระของพวกเจ้าไป ข้ากับชูโม่จะขึ้นไปนั่งที่ชั้นบน จะได้พลางฟังบทกวีและโคลงกลอนของพวกเจ้าไปด้วย"

ทันทีที่เซี่ยหลานพูดจบ นางก็ควงแขนฉงชูโม่ขึ้นบันไดไป

สายตาของทุกคนต่างจับจ้องสองสาวงามขณะที่เดินขึ้นไป

เมื่อร่างของพวกนางหายไปตรงบันได ผู้คนในกลุ่มต่างก็เริ่มตั้งคำถาม

"คุณชายซุย สองสาวงามที่พึ่งไปนั้นคือใครหรือ?"

"ใช่ หากมิได้เห็นกับตาตนเอง ข้าก็มิอยากจะเชื่อเลยว่าใต้หล้านี้จ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 183

    ชายร่างใหญ่มีเคราหนาขมวดคิ้วถามว่า "เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่ง ฉงชูโม่คนนั้นใช่หรือมิ?" "ใช่แล้ว เป็นนางนั่นแหละ นางแข็งแกร่งมาก พวกเจ้าจงระวังตัวไว้ อย่าให้ถูกนางจับได้ว่าอยู่ที่นี่" ชายร่างใหญ่มีท่าทางสงสัยและถามอีกครั้ง "แล้วนางมาที่นี่ด้วยเหตุใดกัน?" "พวกนางเพียงแค่ผ่านมา ข้าจะหาทางเบี่ยงเบนความสนใจพวกนางเอง ในระหว่างนี้ พวกท่านจำไว้ว่าห้ามทำอะไรบุ่มบ่าม" ซุยฮ่าวสั่งย้ำอีกสองสามประโยค ก่อนจะหันหลังกลับลงไปชั้นล่าง ในห้องส่วนตัว ชายร่างใหญ่หลายคนต่างปิดประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนาและระวังตัวมิให้ส่งเสียงดัง เมื่อซุยฮ่าวลงมาถึงชั้นสอง ก็ตรงไปยังห้องที่เซี่ยหลานและฉงชูโม่อยู่ เขาเคาะประตูเบา ๆ แล้วเดินเข้าไป พร้อมยิ้มอย่างสุภาพและกล่าวว่า "พี่หญิงเซี่ยหลาน พี่หญิงชูโม่โรงสุราแห่งนี้สกปรก และพวกท่านก็เห็นแล้ว บัณฑิตที่มาจากเมืองอื่นเหล่านี้ทำตัวเหมือนคนที่มิเคยเห็นหญิงงาม”“ข้าเกรงว่า หากพวกท่านอยู่ต่อไป พวกเขาอาจจะล่วงเกินพวกท่านได้ พวกท่านไปนั่งเล่นที่หอชวนหอม มิดีกว่าหรือ ที่นั่นก็มีบัณฑิตและนักปราชญ์มากมายมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน” เซี่ยหลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 184

    พวกชายฉกรรจ์ต่างมองหน้ากัน แล้วหันกลับไปมองด้านหลัง ทันใดนั้น ชายหนุ่มในชุดขาวก็ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ เขาประสานมือไว้ด้านหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง ชายผู้นี้มิใช่ใครอื่น บุตรแห่งนักปราชญ์ประจำหอดารารักษ์ของเป่ยเยี่ยน หนานกงจื่อชิน! เคียงข้างเขายังมีสตรีอายุประมาณยี่สิบปี นางสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบง่าย หน้าตางดงาม อ่อนช้อย สตรีคนนี้มิใช่ใครอื่น นางคือบุตรสาวของอ๋องอวี้แห่งเป่ยเยี่ยน นามว่ามู่หรงจื่อเยียน ในขณะนี้ มู่หรงจื่อเยียนกำลังคล้องแขนของหนานกงจื่อชินอย่างสนิทสนม เมื่อทั้งสองก้าวเข้ามา ทุกคนในห้องโถงรวมถึงซุยฮ่าวต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน ชายหญิงรูปงาม ช่างเป็นคู่กิ่งทองใบหยกที่ลงตัวที่สุด หนานกงจื่อชินมองสำรวจผู้คนในห้องโถงด้วยสายตาหยิ่งยโส จากนั้นก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น "ดูเหมือนว่า ที่นี่จะมีแต่บัณฑิตจากต้าเหยียน ในเมื่อข้าก็มาแล้ว คงต้องขอประลองฝีมือกับพวกท่านสักหน่อย" แม้เสียงของเขาจะมิดังมาก แต่ทุกคนในห้องกลับได้ยินอย่างชัดเจน แถมยังรู้สึกเจ็บหูอีกด้วย คำพูดที่หนานกงจื่อชินเอ่ยออกมานั้น แฝงไปด้วยกำลังภายใน เห็นได้ชัดว่า เขาเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 185

    เสียงของเซี่ยหลานดังขึ้นด้วยความมิพอใจ พร้อมกล่าวเยาะเย้ยว่า “คนอัปลักษณ์ที่เจ้าว่า น่าจะเป็นตัวเจ้าเองมากกว่ากระมัง พวกเจ้ามิใช่ว่าจะประลองกับบัณฑิตแห่งต้าเหยียนของเราหรอกหรือ? จะรออะไรอีก รีบเข้าประเด็นกันเสียทีเถอะ "หึ ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นว่าเหล่าบัณฑิตต้าเหยียนของพวกเจ้าจะถูกขยี้อย่างไร!" เมื่อมู่หรงจื่อเยียนพูดจบ ก็หันไปมองซุยฮ่าวและบัณฑิตคนอื่น ๆ แล้วกล่าวต่อว่า "เอาเถอะ อย่าหาว่าชาวเป่ยเยี่ยนของเรารังแกพวกเจ้าเลย พวกเจ้ากำหนดหัวข้อเถอะ ประลองกันสามรอบ ใครชนะสองในสามถือเป็นผู้ชนะ" ซุยฮ่าวก็แค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความมั่นใจ “ให้บุตรแห่งนักปราชญ์เป็นคนตั้งหัวข้อเองดีกว่า จะได้ไม่มีข้ออ้างเมื่อแพ้ ว่าเราเอาเปรียบ” มู่หรงจื่อเยียนแสยะยิ้มเหยียดหยัน “หึ คนไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้า คิดจะประลองกับพี่จื่อชินของข้ารึ? แค่ข้าคนเดียวก็ล้มพวกเจ้าทั้งหมดได้แล้ว” “หมายความว่าอย่างไร เจ้าก็เป็นเพียงสตรี...”ซุยฮ่าวยังพูดมิทันจบ มู่หรงจื่อเยียนก็พูดขัดขึ้นทันที “แล้วอย่างไรเล่า? พวกเจ้ามิกล้ารึ? หรือกลัวว่าถ้าแพ้ข้าซึ่งเป็นสตรี แล้วจะทำให้บัณฑิตต้าเหยียนเสียหน้า?” เมื่อถูกยั่วเช่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 186

    "เฮ้อ… สาวน้อยเป่ยเยี่ยน เจ้าดูจะตื่นเต้นมิน้อยเลย เจ้าคงมิได้คิดว่าแค่ชนะพวกเขา จะเท่ากับชนะทั้งวงการวรรณกรรมของแผ่นดินต้าเหยียนหรอกใช่หรือไม่?" เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสอง มองลงมายังมู่หรงจื่อเยียนจากมุมสูง ชายผู้นั้นดูมีอายุราวสามสิบกว่า ร่างกำยำบึกบึน กล้ามเนื้อแขนแข็งแกร่ง ดูก็รู้ว่าเป็นผู้ที่ฝึกฝนตนอย่างชำนาญ ฉงชูโม่ที่อยู่ตรงข้ามก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเขา นางรู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นเคยอย่างยิ่ง ด้วยความสงสัย นางจึงลุกขึ้นยืนแล้วแอบมองไปที่หน้าต่างฝั่งตรงข้าม ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความตกใจ “เป็นเขานี่เอง! เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?” เซี่ยหลานที่สังเกตเห็นชายร่างใหญ่ที่อยู่หน้าต่างอีกฟากเช่นกัน จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ ชายร่างใหญ่คนนั้นเป็นใครกัน เจ้ารู้จักเขาหรือ?” ฉงชูโม่มิได้ตอบคำถามในทันที นางใช้ดวงตาคู่งามกวาดมองด้านหลังของชายร่างใหญ่คนนั้น ราวกับกำลังมองหาใครบางคน ขณะเดียวกัน มู่หรงจื่อเยียนที่อยู่ชั้นล่างก็จ้องชายร่างใหญ่คนนั้น ก่อนจะกล่าวอย่างดูถูก "หึ สาวน้อยเช่นข้าชนะบัณฑิตแห่งต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 187

    เซี่ยหลานยิ่งมิอยากเชื่อเข้าไปใหญ่ ในความคิดของนาง องค์รัชทายาทฉินซูเป็นเพียงคนโง่ไร้การศึกษา เอาแต่หลงมัวเมาในสุราและนารี จะให้นางเชื่อว่าประโยคกลอนนี้เป็นของฉินซู นางยอมเชื่อเสียเองว่าตัวนางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งหลงเฉิงยังง่ายเสียกว่า เรื่องนี้เป็นไปมิได้เลยฉงชูโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "จากที่ข้าได้รู้จักองค์รัชทายาทช่วงนี้ ข้ามิแปลกใจเลยหากเขาจะสามารถคิดกลอนประโยคที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้""มิจริงหรอก ชูโม่… เจ้าคงถูกองค์รัชทายาทล่อลวงเสียแล้ว ถึงได้เข้าข้างเขาเช่นนี้" เซี่ยหลานมองชูโม่อย่างประหลาดใจ ราวกับนางมิเคยรู้จักสหายของตัวเอง ขณะเดียวกัน "ตงฟางไป๋" ก็เยาะเย้ยขึ้นว่า "อย่างไรเล่า? พวกเจ้าชาวเป่ยเยี่ยนที่เมื่อกี้ทำเป็นกร่าง ตอนนี้กลับต่อกลอนที่คุณชายข้าคิดขึ้นมามิได้แล้วรึ?" มู่หรงจื่อเยียนเริ่มร้อนใจ หันไปกระซิบถามเหล่าบัณฑิตที่มาด้วย "พวกเจ้าคิดกลอนประโยคต่อไปออกหรือยัง? บอกข้ามาเร็ว!" เหล่าบัณฑิตมองหน้ากันไปมา แต่ทุกคนกลับส่ายหัวพร้อมกันอย่างมิเต็มใจ"พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์จริง ๆ!" มู่หรงจื่อเยียนตะโกนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากหนาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 188

    เงาฝ่ามือยังมิทันตกลงมา แต่กระแสลมจากพลังฝ่ามือก็พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว หนานกงจื่อชินหรี่ตาลงทันที ก่อนจะคว้าตัวมู่หรงจื่อเยียนให้หลบไปอยู่ด้านหลัง และในขณะเดียวกันก็เร่งลมปราณขึ้นมาก่อนจะส่งฝ่ามือออกไปเพื่อรับมือกับพลังนั้น"ปัง!!"กระแสลมปราณระเบิดออกอย่างรุนแรง ทำให้กลุ่มคนจากแคว้นเป่ยเยี่ยนต่างกระเด็นลอยออกไปทุกทิศทาง! แม้แต่หนานกงจื่อชินเองก็ยังมิสามารถควบคุมร่างกายได้ เขาถูกแรงกระแทกจนลอยไปชนกับโต๊ะไม้ด้านหลังอย่างแรง"โครม!!"โต๊ะไม้ถูกทุบจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ส่วนหนานกงจื่อชินก็ถูกถูกซากไม้ทับร่างอยู่ในกองเศษไม้ เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนต่างมองขึ้นไปยังชั้นสองด้วยความตกตะลึงมู่หรงจื่อเยียนเมื่อได้สติ รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปประคองหนานกงจื่อชินด้วยความร้อนใจ นางถามด้วยความกังวล "พี่จื่อชิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?" "ข้ามิ..." หนานกงจื่อชินยังพูดมิทันจบ ก็รู้สึกว่าพลังลมปราณภายในร่างพลุ่งพล่านมิหยุด สุดท้ายก็รู้สึกคาวในลำคอ เลือดสด ๆ คำหนึ่งไหลออกมาจากมุมปากอย่างมิอาจควบคุมได้"พี่จื่อชิน!!" มู่หรงจื่อเยียนตกใจจนแทบสิ้นสติ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นกลัว คนที่สามารถทำร้ายหนานกงจื่อชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 189

    “ดีเลย อยากจะตบหม่อมฉันสินะ ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือสิ หม่อมฉันฉงชูโม่ หากกะพริบตาแม้แต่นิดเดียว ถือว่าท่านชนะ!” ฉงชูโม่พูดอย่างแน่วแน่ พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉินซูเห็นใบหน้าสวยงามน่าทะนุถนอมตรงหน้า สมองพลันร้อนวูบ เขายื่นปากเข้าไปจุมพิตเบา ๆ หนึ่งที“!!!” ฉงชูโม่เบิกตาโต ใบหน้าอ่อนหวานเต็มไปด้วยความมิเชื่อ หลังจากนั้น นางก็สะบัดมือตบออกไปโดยสัญชาตญาณ!“เพียะ… ครืน… โครม!!”ฉินซูถูกนางตบจนลอยทะลุหน้าต่างอีกฝั่ง แล้วร่วงลงมาจากชั้นสองของโรงสุรา“องค์รัชทายาท!!” พี่น้องตระกูลตงฟางหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ รีบกระโดดจากหน้าต่างตามลงไปเซี่ยหลานเองก็ตกตะลึง รีบวิ่งมาหาฉงชูโม่ พลางยกนิ้วโป้งให้“ชูโม่ ทำได้ดีมาก ข้ารู้สึกสะใจเหลือเกินที่เห็นองค์รัชทายาทจอมเจ้าชู้ถูกซัดเยี่ยงนี้!”ฉงชูโม่พูดด้วยความเสียใจ “เมื่อครู่ข้าเผลอใช้พลังเต็มที่ไปหน่อย!”“ว่ากระไรนะ!!” เซี่ยหลานหน้าซีดเผือด หัวใจนางเต้นมิเป็นจังหวะฉงชูโม่มีพลังแข็งแกร่งขนาดไหน ทั้งเมืองยอมรับว่าเป็นรองเพียงเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง แล้วองค์รัชทายาทที่อ่อนแอเช่นนั้นจะทนต่อการตบเต็มแรงของนางไหวได้อย่างไร จะมิตายคาที่หรอกหรือ!?เซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 190

    เมื่อเห็นฉงชูโม่หัวเราะอย่างมีความสุขจนตัวสั่นไปทั้งร่าง ฉินซูก็ถึงกับกลอกตาและเริ่มบ่นออกมา "เจ้าตบข้าจนตกจากชั้นสองแล้ว ยังจะมีหน้ามาหัวเราะได้อีก มิรู้สึกผิดบ้างเลยหรือ?""หึ! ท่านสมควรโดนแล้ว ว่าแต่ เหตุใดท่านถึงมิเป็นอะไร?" ฉงชูโม่เอ่ยด้วยความสงสัยในใจเพราะก่อนหน้านี้ นางจำได้อย่างชัดเจนว่าตอนที่ลงมือ นางมิได้ออมแรงไว้แม้แต่น้อยปกติแล้วจอมยุทธ์ทั่วไป หากโดนนางตบไปขนาดนี้ ต่อให้มิตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส แต่ฉินซูตอนนี้กลับมีเพียงรอยฝ่ามือแดงก่ำที่แก้ม และบวมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหรือว่า ฉินซูจะแอบซ่อนฝีมือไว้ แสร้งทำตัวเป็นหมูอ่อนแอ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเสือซ่อนเล็บ?ฉงชูโม่คิดในใจอย่างระแวงมากขึ้น ขณะมองฉินซูด้วยสายตาสงสัยฉินซูทำท่าโกรธแล้วพูดว่า "ฟังจากน้ำเสียงของเจ้า การที่ข้ามิเป็นอะไรนี่ ดูเหมือนเจ้าจะผิดหวังมากเลยนะ อย่างนี้เจ้าคงอยากจะฆ่าข้าให้ตายจริง ๆ ล่ะสิ เจ้าคิดหรือว่าจะรับโทษฐานปลงพระชนม์องค์รัชทายาทไหว?"ฉงชูโม่รีบแจง "หม่อมฉันมิได้หมายความเช่นนั้น หม่อมฉันแค่แปลกใจ เหตุใดท่านถึงมิเป็นอะไรเลย ในเมื่อตอนตบ ข้าใช้ลมปราณไปด้วย""เจ้าน่าจะจำผิดแล้วล่ะ หากเจ้าใช้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 482

    ถานเหวยโกรธจนกัดฟันกรอด พลันตะโกนด่าด้วยความโมโห "ทั่วป๋าชื่อ เจ้านี่ช่างบ้าบิ่น การลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทคือโทษประหารล้างชั่วโคตร! หากพวกเจ้ากล้าก่อเรื่องในวันนี้ ก็จงรอรับมือกองทัพจากราชสำนักที่จะมากวาดล้างพวกเจ้าทั้งเผ่าโครยอให้สิ้นซากได้เลย!”“หึ ในเมื่อข้ากล้าลงมือ ข้าก็เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เจ้าคิดว่ามีใครในพวกเจ้าในวันนี้จะหนีรอดไปได้หรือ?”อูมู่ยังหัวเราะเยาะหยัน "เพียงแค่พวกเราฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด องค์จักรพรรดิจะมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือพวกเรา?"“ใช่แล้ว แถบพื้นที่ฉงซานมีสัตว์ร้ายอาละวาดหนัก ถึงตอนนั้นทุกคนคงคิดว่ารัชทายาทผู้ตกอับถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย ใครเล่าจะสงสัยมาถึงพวกเราชนเผ่าโครยอ?”กานรุ่ยสีหน้าเคร่งขรึม และเอ่ยเสียงเบา "องค์รัชทายาท พวกเขาพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ เมื่อพวกเขากล้าลงมือ แสดงว่าต้องวางแผนไว้อย่างรัดกุมแล้ว อีกเดี๋ยวท่านโปรดหาโอกาสหลบหนี พวกเราจะยอมสละชีวิตเพื่อเปิดทางให้เองพ่ะย่ะค่ะ"หลังจากพูดจบ เขาก็ชักดาบออกจากฝักเหล่าทหารที่ติดตามต่างก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกันด้วยท่าทีพร้อมสละชีวิตทั่วป๋าชื่อตะโกนเสียงดัง "ฉินซู ยังมิรีบปลิดชีพตนอีกรึ จ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 481

    “ดวนมู่ เจ้าคิดมากเกินไป หากทุกคนเหมือนเจ้า คอยแต่ลังเลเช่นนี้ แล้วจะสร้างความสำเร็จได้อย่างไร!”“ถูกต้อง หากมิทำการรวดเร็วเด็ดขาด เราชาวเผ่าโครยอจะต้องรออีกนานเพียงใดจึงจะฟื้นฟูชนเผ่าของเราได้ พวกเรารอมาหลายสิบปีแล้ว จะให้รอไปอีกหลายสิบปีหรือ?”ตวนมู่ยังคิดจะโต้แย้ง แต่ในตอนนั้นทั่วป๋าชื่อก็พลันโบกมือขัดจังหวะด้วยท่าทีแน่วแน่!“หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ในเมื่อพวกเราตัดสินใจจะร่วมมือกับท่านผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นเราก็ต้องแสดงความจริงใจ มิเช่นนั้นจะเอาอะไรไปต่อรองในภายหลัง”หลี่ว์ชุ่นและอูมู่เอ่ยพร้อมกันว่า "ท่านหัวหน้าฉลาดล้ำ!"เมื่อเห็นว่าทั่วป๋าชื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ตวนมู่จึงได้แต่ถอนหายใจและมิพูดอะไรอีกทั่วป๋าชื่อสั่งหลี่ว์ชุ่น รีบรวบรวมทหารทั้งหมด รวมตัวกันที่ลานฝึกซ้อม ข้าจะให้รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดนั้นได้เห็นถึงความเก่งกาจของเผ่าเรา!""ขอรับ!"หลี่ว์ชุ่นรับคำสั่งด้วยความเคารพก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็วอูมู่พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม "ท่านหัวหน้า สตรีที่ติดตามเจ้าชายนั้นดูเหมือนจะมีฝีมือมิธรรมดา ข้าจะนำกองพลธนูไปจับตาดูนางเป็นพิเศษ""ดีมาก ไปเถอะ!"อูมู่โค้งคำนับแล้วจึงเดินออ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 480

    หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็หยิบของว่างบนโต๊ะขึ้นมากินขณะที่เขากำลังจะเอามันเข้าปาก ถานเหวยก็รีบเตือน "องค์รัชทายาท เกรงว่าทั่วป๋าชื่ออาจจะเล่นตุกติกกับอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ โปรดระวังด้วยพ่ะย่ะค่ะ"“หากทั่วป๋าชื่อหาญกล้าเช่นนั้น ตอนที่ถูกข้าดูหมิ่นเมื่อครู่ เขาคงสั่งให้ทหารสองหมื่นนายของเขาลงมือไปแล้ว”ฉินซูพูดพลางเริ่มกินอย่างมิสนใจใบหน้าของถานเหวยเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ คิดในใจว่าองค์รัชทายาทประมาทเกินไป จึงรีบหันไปส่งสายตาให้กู้เสวี่ยเจี้ยนกู้เสวี่ยเจี้ยนเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ "ไม่มีพิษ สบายใจได้"เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ถานเหวยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขารู้ดีว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนมีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ หากมีพิษในอาหาร ต้องไม่มีทางรอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของนางไปได้แน่หลังจากนั้น ถานเหวยและคนอื่น ๆ ก็เริ่มกินตามเช่นกันพวกเขากินดื่มอยู่ข้างลานฝึกทหารพลางมองดูเหล่ากองทหารของชนเผ่าโครยอฝึกซ้อมประจำวันฉินซูเดาะลิ้นแล้วเอ่ยชมเชย "ทหารโครยอเหล่านี้ช่างมิธรรมดาจริง ๆ แต่ละคนล้วนแข็งแรงกำยำ ทั้งยังมีทักษะธนูที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย"“ใช่แล้ว ดูจากการฝึกซ้อมแบบนี้แล้ว เรียกได้ว่าเป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 479

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั่วป๋าชื่อก็เหลือบมองฉินซูอย่างสงสัยในใจเขาเต็มไปด้วยความฉงน มิเข้าใจว่าการกระทำของฉินซูมีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือเขาจะคิดว่าตนกำลังวางแผนกบฏ ดังนั้นองค์จักรพรรดิจึงให้เขานำกองทหารมาปราบปราม?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทั่วป๋าชื่อก็รีบร้อนอธิบาย "องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทหารของพวกเราเหล่านี้จะนับเป็นกองทหารมีฝีมือได้อย่างไร ก็แค่กลุ่มคนหนุ่มที่รวมตัวกันเองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในเผ่าเท่านั้น เพราะเมื่อคนมากขึ้น ความขัดแย้งก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย”“จะเป็นกองกำลังฝีมือดี หรือเป็นแค่กลุ่มที่รวมตัวกันเองก็ตามที วันนี้ตัวข้าก็อยากจะดูสักหน่อย หัวหน้าทั่วป๋าผลัดข้ออ้างไปมา หรือว่าเจ้ามีอะไรบางอย่างที่มิอยากให้ข้ารู้?”“หามิได้ ๆ พ่ะย่ะค่ะ หากองค์รัชทายาทต้องการชม เช่นนั้นก็เชิญเสด็จไปที่ลานฝึกทหารเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ทั่วป๋าชื่อพูดพลางทำท่าทางเชื้อเชิญด้วยความสุภาพ แล้วจึงนำคณะของฉินซูไปยังลานฝึกทหารลานฝึกนั้นมีขนาดกว้างขวาง อุปกรณ์ฝึกซ้อมต่าง ๆ ถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครันในลานยังมีคนจำนวนมิน้อยกำลังฝึกซ้อมอยู่ทั่วป๋าชื่อทำใจดีสู้เสือพลางเอ่ย "เหล่าคนหน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 478

    ทั่วป๋าชื่อคิดว่าตนเองปกปิดมันไว้อย่างดีแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า ฉินซูมองเห็นเจตนาสังหารในแววตาของเขาได้อย่างชัดเจนฉินซูหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะยกเท้าออกจากอกของทั่วป๋าชื่อเมื่อพ้นจากพันธนาการ ทั่วป๋าชื่อก็ลุกขึ้นยืนด้วยการพยุงของเหล่าผู้นำผู้นำคนหนึ่งกระซิบข้างหูทั่วป๋าชื่อ "ท่านหัวหน้า องค์รัชทายาทหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ ย่อมต้องมีบางสิ่งในมือเป็นที่พึ่งพา มิแน่ว่าทัพหลวงของราชสำนักอาจซุ่มอยู่รอบ ๆ นอกเผ่า ขอเพียงเรายอมถอยก่อน ย่อมมิเสียเปรียบ”สีหน้าของทั่วป๋าชื่อเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่สุดท้ายก็ยังพยักหน้าเบา ๆจากนั้นเขาก็นำบรรดาผู้นำเหล่านั้นคุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูด้วยความเคารพนอบน้อม“ข้าน้อยขอคารวะองค์รัชทายาท”เหล่าทหารรักษาการณ์และชาวบ้านที่ผ่านไปมาก็รีบคุกเข่าตามเช่นกันฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังแล้วมองดูพวกเขาอย่างเย็นชา แต่มิได้สั่งให้พวกเขาลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าฉินซูจงใจทำให้ตนอับอาย ทั่วป๋าชื่อก็ก้มศีรษะต่ำลงอีกเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความคับแค้นบรรดาผู้นำที่อยู่ข้างหลังเขากัดฟันคำนับแก่ฉินซูถานเหวยมองเจตนาของฉินซูออก จึงพูดกับทั่วป๋าชื่ออย่างเย็นชา "ทั่วป๋าชื่อ เจ้า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 477

    เมื่อบ้วนออกมา ปรากฏว่าเป็นเศษฟันหลายซี่!ทั่วป๋าชื่อโกรธจนตัวสั่น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปนขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นยืน ฉินซูก็เอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบหน้าอกของเขาไว้!"ท่านหัวหน้า!!"หลังจากที่เหล่าผู้นำได้สติกลับมา พวกเขาทั้งหมดก็ชักดาบออกมาทันทีและจ้องมองไปยังฉินซูด้วยสายตาดุร้าย!เหล่าทหารที่เฝ้าประตูเมืองเห็นเหตุการณ์ก็ชักอาวุธเตรียมพร้อมทันทีเช่นกันเมื่อเห็นเช่นนี้ ถานเหวยก็ตะโกนด้วยเสียงเกรี้ยวกราด "บังอาจ! กล้าชักดาบต่อหน้าองค์รัชทายาท พวกเจ้าคิดจะทำอะไร ต้องการก่อกบฏรึ?"ผู้นำคนหนึ่งพูดด้วยเสียงหนักแน่น "ใต้เท้า พวกเรามิได้ตั้งใจหาเรื่อง แต่องค์รัชทายาทเป็นฝ่ายลงมือก่อน!"“ใช่แล้ว รีบปล่อยหัวหน้าของพวกเราเสีย มิเช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเรามิเกรงใจ!"ฉินซูแสยะยิ้มเย็นชา สีหน้าเต็มไปด้วยความดูแคลน "พวกเจ้าจะลองดูก็ได้ว่าดาบของพวกเจ้าจะเร็ว หรือเท้าของข้าจะไวกว่า!"เมื่อพูดจบ เขาก็เพิ่มแรงกดเท้าลงไปอีกทันใดนั้นก็มีเสียง กร๊อบ ดังขึ้นจากกระดูกหน้าอกของทั่วป๋าชื่อเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ บรรดาผู้นำต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าหวาดหวั่น และรีบยอมแพ้ในทันที“องค์รัชทายาท หากมีอะไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 476

    ทั่วป๋าชื่อหันไปถามทหารคนเดิม "รัชทายาทไร้ประโยชน์นั่นพาคนมาเท่าใด?""ท่านหัวหน้า พวกเขามากันเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น!”“ว่ากระไรนะ แค่สิบกว่าคน?”“ขอรับ อีกทั้งคนที่ติดตามมาด้วยก็เป็นเพียงเจ้าหน้าที่จากอำเภอฉงซาน หลายคนยังเป็นหน้าเดิมที่เคยเห็นกันอยู่แล้ว”ได้ยินดังนั้น ทั่วป๋าชื่อก็หัวเราะลั่นอีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า! รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดคนนั้นช่างกล้าจริง ๆ! แค่สิบกว่าคนก็กล้าบุกเข้ามาในชนเผ่าโครยอของข้า คิดว่าชนเผ่าโครยอของเรายังอ่อนแอเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อนหรืออย่างไร!”ผู้นำคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ท่านหัวหน้า รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดคนนั้นกล้ามาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ คงต้องมีอะไรให้พึ่งพาอยู่เป็นแน่ เราอย่าประมาทเลย"ทั่วป๋าชื่อโบกมือไปมา เอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “หึ ๆ เขาเป็นแค่รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลด จะมีอะไรให้พึ่งพาได้!"“ท่านหัวหน้า ข้าได้ยินมาว่า ช่วงนี้รัชทายาทเปลี่ยนไปมาก เมื่อมินานมานี้ในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทฮองไทเฮา เขายังสามารถเอาชนะบัณฑิตของเป่ยเยี่ยนได้อย่างหมดจด แม้แต่ขุนนางอาวุโสของสำนักหอสมุดหลวงแห่งเป่ยเยี่ยนก็ยังแพ้ให้เขา"“เจ้าคิดมากไปแล้ว! เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 475

    "ยังเหลืออีกสองลูก""นั่นก็เพียงพอแล้ว"หลังจากที่กู้เสวี่ยเจี้ยนพูดจบก็กอดกระบี่ยาวเอนตัวพิงประตูหลับตาพักผ่อนเซี่ยหลานพูดอย่างมิสบายใจ "องค์รัชทายาท ในเมื่อชนเผ่าโครยอกล้าตัดเส้นทางน้ำของแม่น้ำกุ้ยฮวาเจียงได้ แสดงว่าพวกเขาอาจมีเจตนาร้าย หากเกิดการต่อสู้ขึ้น พวกเราที่มีเพียงสิบกว่าคนจะเอาชนะได้อย่างไรเพคะ?"ฉินซูยิ้มอย่างมิใส่ใจ "วางใจได้ ต่อให้เกิดการต่อสู้ ก็มิได้หมายความว่าจะแพ้เสียหน่อย อีกทั้งข้าคือองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ หากพวกเขากล้าล่วงเกินเช่นนั้น มิกลัวหรือว่าราชสำนักจะส่งทหารมาเหยียบพวกเขาให้ราบเป็นหน้ากลองหรือไร?”“มิว่าอย่างไร ท่านก็ต้องระวังตัวด้วยเพคะ หม่อมฉันจะรอท่านกลับมา”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ออกเดินทางพร้อมกู้เสวี่ยเจี้ยนและถานเหวยก่อนที่กู้เสวี่ยเจี้ยนจะออกไป นางจ้องมองไปยังเซี่ยหลานพร้อมกับรอยยิ้มเย็นแฝงเลศนัยที่ชวนให้ครุ่นคิดเมื่อเห็นเช่นนี้ เซี่ยหลานก็อดขมวดคิ้วมิได้ มองมิออกว่าแววตาของกู้เสวี่ยเจี้ยนต้องการสื่อถึงสิ่งใดด้านนอกที่ว่าการอำเภอกานรุ่ยมาพร้อมกับทหารสิบนายและเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วฉินซูมิพูดพร่ำทำเพลง พลันโบกมือสั่งการ "ไปก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 474

    ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาฉินซูดูแลจัดการเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอำเภอฉงซานด้วยการสนับสนุนเสบียงข้าวที่เพียงพอ ชาวบ้านกว่าสองแสนคนในอำเภอฉงซานจึงมิต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไปอย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนน้ำเนื่องจากแม่น้ำกุ้ยฮวาเจียงแห้งขอดนั้นยังมิได้รับการแก้ไขวันนี้ที่ห้องประชุมใหญ่ของที่ว่าการอำเภอฉินซูสอบถามผู้ว่าการอำเภอ “ใต้เท้ากาน แม่น้ำกุ้ยฮวาเจียงของพวกท่านมีต้นน้ำอยู่ที่ใด?”กานรุ่ยตอบด้วยความเคารพ "กราบทูลองค์รัชทายาท แม่น้ำกุ้ยฮวาเจียงเป็นเพียงสาขาหนึ่งของแม่น้ำเหลียนเจียง โดยจุดที่ไหลมาบรรจบกันอยู่ที่ทางด้านเหนือห่างไปสามสิบลี้ที่เนินเขาสูง"“ในเมื่อแม่น้ำกุ้ยฮวาเจียงเป็นเพียงแม่น้ำสาขา แล้วมันจะแห้งแล้งได้อย่างไร? หรือว่าแม่น้ำเหลียนเจียงเองก็แห้งไปด้วย?”“มิใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ แม่น้ำเหลียนเจียงยังคงมีน้ำไหลอย่างอุดมสมบูรณ์ แต่เป็นเพราะชนเผ่าโครยอได้ทำการปิดกั้นทางน้ำสาขาที่แม่น้ำเชื่อมต่อเอาไว้ ข้าน้อยเคยส่งคนไปเจรจาหลายครั้งแล้วแต่ก็มิเป็นผลสำเร็จเลยสักครั้ง”ฉินซูแค่นเสียงอย่างเย็นชา "หึ! แค่ชนเผ่าตัวเล็ก ๆ ก็กล้าปิดกั้นแม่น้ำสาขาของต้าเหยียน ข้าเก

DMCA.com Protection Status