คราวนี้กลับเป็นหลี่หลงหลินที่ประหลาดใจ เดิมทีเขาคิดว่า กงซูหว่านเป็นดั่งน้ำแข็งพันปี ยากที่จะทำลาย หากอยากจะเอาชนะใจนาง ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ผลลัพธ์คือ กลับง่ายดายเช่นนี้ เพียงแค่ทำลายล้างสำนักขงจื๊อก็พอ? ต้องรู้ไว้ว่า แม้ว่ากงซูหว่านจะไม่พูด หลี่หลงหลินก็วางแผนที่จะจัดการกับสำนักขงจื๊ออยู่แล้ว ต้าเซี่ยจะรุ่งเรือง ร่ำรวย ต้องใช้เงิน หากไม่มีเงิน ไม่ว่าหลี่หลงหลินจะปฏิรูปสิ่งใด ก็เปรียบเสมือนน้ำที่ไม่มีต้นน้ำ ไม้ที่ไม่มีราก ไม่ว่าจะประดิษฐ์วิทยาการใดๆ ก็ไม่สามารถนำไปใช้ และเผยแพร่สู่ประชาชนได้ แต่เงินอยู่ที่ไหน? ล้วนเข้าไปอยู่ในกระเป๋าของขุนนางกังฉิน! แน่นอนว่าหลี่หลงหลินสามารถยกมีดขึ้นเขียง สังหารพวกขุนนางกังฉินให้หัวกลิ้ง เลือดนองเป็นแม่น้ำ คืนความสดใสและยุติธรรมให้โลกใบนี้ได้ ผลลัพธ์คืออะไร? ราชสำนักถูกชำระล้าง ว่างเปล่า ใครจะมาเป็นขุนนาง ใครจะมาปกครองแคว้น? ทำได้เพียงจัดสอบขุนนางใหม่ คัดเลือกขุนนาง อย่างไรก็ตาม ขุนนางที่เข้ามาใหม่ จะไม่โลภหรือ? มีแต่จะโลภมากขึ้น! อย่างน้อย ขุนนางที่ไร้ความสามารถในราชสำนักเหล่านี้ ก็โลภจนอิ่มหนำแล้ว! ส่วนขุ
ต้องยอมรับว่า ช่างฝีมือจากภูเขาทิศประจิมมีประสิทธิภาพสูงมาก เพียงครึ่งวัน เตาต้มน้ำก็สร้างเสร็จ ปล่องไฟสูงตระหง่าน พ่นควันที่ร้อนระอุ ต่อไปก็คือการวางท่อ ช่างฝีมือได้หล่อท่อทองแดงไว้เพียงพอแล้ว เพียงแค่ขุดกระเบื้องปูพื้นออก ฝังท่อไว้ใต้ดินก็พอ อย่างไรก็ตาม นี่คือเขตพระราชวังชั้นใน ช่างฝีมือมาที่ตำหนักองค์รัชทายาทได้ แต่การเข้าไปในวังหลังนั้น ค่อนข้างจะเกินเลย ดังนั้น หลี่หลงหลินจึงเรียกเว่ยซวินมา บอกเล่าความจริง เว่ยซวินขมวดคิ้ว “พระองค์หมายความว่า ให้ข้าน้อยหาขันทีที่แข็งแรงในวังหลัง มาช่วยวางท่อทำความร้อนใต้พื้น?” หลี่หลงหลินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว รบกวนท่านเว่ยกงกงด้วย” เว่ยซวินสีหน้าลำบากใจ “องค์รัชทายาท ท่านพูดเกินไปแล้ว ให้ข้าน้อยหาคนมาทำงาน นี่เป็นเรื่องง่าย! แต่ การก่อสร้างในวังหลัง ข้าน้อยต้องไปทูลฝ่าบาทก่อน...” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้องแล้ว เว่ยกงกง รีบไปรีบกลับ ทางนี้ข้ายังรอเริ่มงานอยู่” เว่ยซวินหันหลังกลับ เดินก้าวเล็กๆ มาถึงห้องทรงพระอักษร ช่วงนี้ อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำมาก ฮ่องเต้หวู่ก็ทนไม่ไหว สวมเสื้อนวมจนตัวพอง กลมเหมือ
ฮ่องเต้หวู่อนุญาตโดยปริยาย เว่ยซวินไม่กล้าชักช้า เร่งระดมขันทีและองครักษ์เสื้อแพรไปหลายร้อยคน ฤดูหนาวหิมะโปรยปราย พระราชวังต้องห้ามอันวิจิตรตระการตา กลายเป็นสถานที่ก่อสร้างอันจอแจ งานดำเนินไปอย่างเร่งรีบ ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่นางสนมในวังหลัง แม้แต่ขุนนางในราชสำนักก็รับรู้ “องค์รัชทายาททรงก่อสร้างครั้งใหญ่ในวัง ติดตั้งท่อทำความร้อนใต้พื้น ท่อที่วางนั้นทำจากทองเหลือง!” “นี่มันสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว!” “ช่างเป็นการใช้ของล้ำค่าอย่างไร้ประโยชน์!” “ฟุ่มเฟือย ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!” “ราชสำนักลำบากเพียงนี้ เบี้ยหวัดก็แทบจะจ่ายไม่ไหว องค์รัชทายาทกลับฟุ่มเฟือยอย่างไร้ยางอาย นำทองเหลืองราคาแพงฝังไว้ใต้ดิน!” “ใช่แล้ว เหตุใดพระองค์ไม่ทรงมอบเงินเหล่านี้ให้แก่พวกเรา? ให้พวกเราช่วยเหลือประชาชนที่น่าสงสารเหล่านั้น?” เหล่าขุนนางข้าราชการต่างรวมตัวกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เหล่าขุนนางต่างโกรธแค้น! ฮ่องเต้หวู่ก็ใจแคบมากพอแล้ว ในคลังหลวงมีเงินนับสิบล้านตำลึง แต่กลับเก็บไว้แน่นหนา ไม่ยอมนำออกมาให้ตนเอง ไม่คิดว่า หลี่หลงหลินจะยิ่ง
ครู่ต่อมา ในที่สุดหลี่เทียนฉี่ก็ถอนหายใจยาว ยืนขึ้น “เดิมทีข้าไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อพวกเจ้าวิงวอน ข้าก็จะฝืนใจ เพื่อพวกเจ้า!” “แต่ว่า พวกเจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!” เหล่าขุนนางต่างยินดี “พวกข้าล้วนทำตามคำสั่งขององค์ชายใหญ่!” “องค์ชายใหญ่ เพียงแค่พระองค์เป็นผู้นำ พวกข้าก็จะเข้าวังเข้าเฝ้า ทูลฟ้องรัชทายาท!” “เรื่องนี้ไม่ควรชักช้า พวกเราเข้าวังกันเถอะ!” หลี่เทียนฉี่ส่ายหน้า เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “พวกเจ้าเหล่าขุนนางทูลขอมาแล้วกี่ครั้ง? โค่นเจ้าเก้าได้หรือไม่?” เหล่าขุนนางต่างก้มหน้า ไม่เอ่ยอะไร การทูลขอของเหล่าขุนนาง เป็นกลวิธีที่พวกเขาใช้จนชำนาญ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เพียงใด เพียงแค่เหล่าขุนนางคุกเข่าที่หน้าท้องพระโรง และให้ขุนนางชราไม่กี่คนแสดงละครแกล้งฆ่าตัวตาย ฮ่องเต้หวู่ก็ต้องยอม! แต่กลวิธีนี้กลับใช้ไม่ได้กับหลี่หลงหลิน พวกเขาเหล่าขุนนางทูลขอมาหลายครั้งแล้ว หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย กลับเลื่อนขั้นได้เป็นรัชทายาทอย่างรวดเร็ว? เจ้ากรมพิธีการขมวดคิ้ว “องค์ชายใหญ่ เช่นนั้นท่านว่าควรทำอย่างไร?” เหล่าขุนนางต่างพยักหน้า “องค์ชายใหญ่ ท่านโปรดชี้แนะพวกข้า
ในพระราชวังต้องห้ามมีการวางท่อทำความร้อนใต้พื้น ในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไทเฮาทรงโปรดความเงียบสงบ เมื่อได้ยินเสียงขุดพื้นด้านนอกดังขึ้น ก็ไม่พอใจยิ่งนัก รับสั่งให้เกากงกงขันทีคนสนิทออกไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผลปรากฏว่า เกากงกงยังไม่ทันออกจากตำหนักฉือหนิง องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ก็มาถึง “ถวายบังคมเสด็จย่า!” หลี่เทียนฉี่สวมชุดปักลายหม่าง มาอยู่ต่อหน้าไทเฮา และโค้งคำนับ ไทเฮากระชับเสื้อนวมบนตัวแน่น เอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “องค์ชายใหญ่ เจ้ามาได้จังหวะพอดี! ไปถามให้ข้าทีว่า ในวังเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงได้เสียงดังเช่นนี้?” “เฮ้อ อากาศหนาวเย็นก็แย่แล้ว ยังจะเสียงดังอีก” “ยังจะให้คนอยู่อย่างสงบอีกหรือ!” หลี่เทียนฉี่แสร้งทำเป็นประหลาดใจ “เสด็จย่า พระองค์ยังไม่รู้หรือ? เป็นฝีมือของเจ้าเก้า! ให้คนมาขุดพื้นในวัง บอกว่าจะวางท่อทองแดง!” ไทเฮาตกใจมาก รีบเอ่ยว่า “เจ้าหมายถึงท่อทองแดงที่ใช้ดักฟังหรือ? ข้าได้พูดกับฮ่องเต้แล้ว ฮ่องเต้ก็ทรงรับปากแล้ว เรื่องนี้ยุติแล้ว! เหตุใดเจ้าเก้าจึงยังไม่ยอมเลิกรา ยังจะลงมือก่อสร้างอีก?” “หรือว่า แม้แต่คำพูดของฮ่องเต้ เขาก็
“ก็แค่ติดตั้งท่อทำความร้อนเล็กน้อยเท่านั้น...”ไทฮองไทเฮาได้ยินถ้อยคำนี้ รู้สึกสบายอยู่บ้างจริงๆ จึงเอ่ยออกมา “เฮ้อ! เจ้าเก้าคนนี้ หากกตัญญูได้สักครึ่งหนึ่งของเจ้า ข้าก็พอใจแล้ว!”“เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้าเก้าติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ มิได้ติดตั้งที่ตำหนักฉือหนิงเสียหน่อย เกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า?”หลี่เทียนฉี่อ้ำอึ้ง “แต่ วันนี้หลานเข้าวัง บังเอิญได้ยินพวกขุนนางของสำนักโหรหลวงถกเถียงกัน ได้ยินเสียงซุบซิบนินทามาบ้าง ก็ไม่รู้เป็นความจริงหรือไม่”ไทฮองไทเฮาลอบตกตะลึงภายในใจ “พวกเขาพูดว่าอะไร?”หลี่เทียนฉี่กระซิบเสียงค่อย “พวกเขาพูดว่า ที่เจ้าเก้าดำเนินการก่อสร้างเอะอะเอิกเกริกภายในพระราชวังต้องห้าม ชุลมุนวุ่นวายถึงเพียงนี้ มิใช่เพื่อติดตั้งท่อทำความร้อน! อย่างไรเสีย ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องใช้ท่อทองเหลืองทำความร้อนมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”ไทฮองไทเฮาพยักหน้านางเองก็ไม่เชื่อเรื่องเครื่องทำความร้อนใต้พื้นดินตรงกันข้าม ได้ยินหลี่เทียนฉี่พูดว่าใช้ท่อโลหะ กลับน่าเชื่อถือมากกว่าเพียงแต่นางมีเรื่องที่คิดไม่ตกหลี่หลงหลินต้องการติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉือหนิงเพื่อลอบฟังการเคลื่อนไหว
วันส่งท้ายปีเก่า หิมะโปรยปรายตำหนักฉางเล่อแขวนโคมไฟสว่างไสว บรรยากาศครึกครื้นไม่ธรรมดาเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย“หิมะตกหนักถึงเพียงนี้ หนาวจะตายอยู่แล้ว เหตุใดถึงจัดงานเลี้ยงกันเล่า!”“วันหิมะตกหนักปกคลุมพื้น ข้าเกือบลื่นล้มบนพื้นไปแล้ว!”“อากาศเช่นนี้ออกจากใต้ผ้าห่มเท่ากับรนหาที่ตาย!”“ปีนี้ไม่ยอมให้คนอยู่อย่างสงบเลยจริงๆ!”ขุนนางสองสามคนมาถึงแล้วก็รวมตัวกัน แสดงความไม่พอใจของตนอากาศหนาวเหน็บ ลมพัดเย็นยะเยือกเสียดแทงกระดูก ผู้มาเยือนมีใครบ้างไม่สวมใส่เสื้อผ้าอย่างแน่นหนา ทำให้ตนเองคล้ายบ๊ะจ่างลูกหนึ่งองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่สวมใส่ชุดหรูหรางดงาม สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำแกมทองยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนางเห็นว่าเหล่าขุนนางไม่พอใจถึงเพียงนี้ ก็ลอบรู้สึกลำพองใจอยู่รางๆหลี่เทียนฉี่กล่าวทักทาย “มาเข้าร่วมงานเลี้ยงท่ามกลางอากาศเช่นนี้ ความจงรักภักดีของทุกท่านมากเสียจนไม่อาจจำกัดความได้เลย!”ขุนนางคนหนึ่งเผยสีหน้าหดหู่ “องค์ชายอย่าล้อเล่นเลย ข้าอายุปูนนี้แล้วมิอาจทนต่อความทรมานได้พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้ว องค์ชาย หากไม่ใช่ฮองเฮาเป็นผู้เชิญมาเข้าร่วมง
หลี่เทียนฉี่กวาดมองรอบด้าน แปลกใจมากเช่นเดียวกันเจ้าเก้า ตกลงเจ้ากำลังทำอันใดอยู่กันแน่?เสด็จแม่ของเจ้ากำลังจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา นี่มันซอมซ่อเกินไปแล้วกระมัง!เหล่าขุนนางแต่ละคนล้วนหนาวเหน็บ ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นภายในใจสำหรับตนเอง นี่ยังไม่ใช่โอกาสอันดีที่สวรรค์ประทานให้อีกหรือ?ทว่า ในเมื่อนี่เป็นงานเลี้ยงที่ฮองเฮาหลินจัดขึ้น องค์ชายอย่างตนเป็นฝ่ายตะคอกโวยวาย ประท้วงใส่นางก่อน ย่อมไม่เหมาะสม“รอเสด็จพ่อมาถึง ละครสนุกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว!”หลี่เทียนฉี่ยกมุมปาก เผยรอยยิ้มเย็นชา“ฮ่องเต้เสด็จ!”เสียงแหลมแหบพร่าของเว่ยซวินดังขึ้นที่หน้าประตูตำหนักทุกคนต่างลุกขึ้น ชะเง้อมองไปเห็นฮ่องเต้หวู่เดินเข้าตำหนักฉางเล่อ บนเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ หนึ่งชั้น“หิมะตกหนักจริงๆ!”ฮ่องเต้หวู่ถอดเสื้อคลุมออก ทันใดนั้นความหนาวก็โจมตีเข้ามาระลอกหนึ่งเกิดอันใดขึ้น?เหตุใดภายในตำหนักฉางเล่อหนาวยิ่งกว่าภายนอกอีกเล่า?เข้าใจผิดไปหรือ?ฮ่องเต้หวู่หันหน้ามอง พบว่าเหล่าขุนนางที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ละคนล้วนตัวสั่น จมูกยังมีหยดน้ำแข็งเกาะดูท่าแล้วไม่ใช่ตนเองคิดไปเ
“เสด็จแม่” หลี่หลงหลินโค้งคำนับให้ฮองเฮาหลิน “ฟ้ามืดแล้ว พระองค์รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาหลินพยักหน้าเล็กน้อย ทว่ายังคงลังเลที่จะเอ่ยปาก หลี่หลงหลินขึ้นรถม้าพร้อมกับคนในตระกูลซู เพื่อออกจากวังกลับไปยังจวนสกุลซู ภายในรถม้า แม่ทัพผู้เฒ่าซูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “รัชทายาท เหตุใดพระองค์ถึงทำเช่นนี้? กลุ่มข้าราชการเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ เหตุใดพระองค์จึงปฏิเสธ?” ฟึบ! ทันใดนั้น สายตาของซูเฟิ่งหลิงและพี่สะใภ้ทั้งสี่ก็จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ในใจพวกนางรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับแม่ทัพผู้เฒ่าซู นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะรวบรวมกลุ่มข้าราชการไว้ในมือ เหตุใดหลี่หลงหลินถึงปฏิเสธ แถมยังพูดจาดูถูกจนทำให้กลุ่มข้าราชการขุ่นเคือง? หรือว่า... หลี่หลงหลินไม่เข้าใจ ว่าหากกลุ่มข้าราชการสวามิภักดิ์ด้วย เขาก็จะทรงครองตำแหน่งรัชทายาทได้อย่างมั่นคง ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ แผ่นดินต้าเซี่ยจะอยู่ในมือของเขา? หลี่หลงหลินสีหน้าเคร่งขรึม เขาแงนมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “แผ่นดินต้าเซี่ยนี้ ผุพังเกินเยียวยานานแล้ว ข้าจะเอาไปทำอะไร?” บรรดาหญิงสาว
ฮ่องเต้หวู่ปวดหัวแทบระเบิด สองมือกดขมับคลึงเค้น สมองแทบเหลวเป็นแป้งเปียก ฮ่องเต้หวู่จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลินอย่างจนปัญญา: “เจ้าเก้า เจ้าว่าข้าควรทำเช่นไรดี?” หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อ ใกล้ค่ำแล้ว วันนี้แยกย้ายกันเพียงเท่านี้เถิด! สุขภาพของท่านสำคัญยิ่งนัก รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้หวู่ชะงัก: “แยกย้ายกันเพียงเท่านี้? แล้วคดีทุจริตของซ่งชิงหลวนเล่าจะทำเช่นไร?” หลี่หลงหลินผายมือ: “ก็ทำตามที่ควรทำ ตอนนี้เสด็จพ่อมีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ให้พวกเขาไปสืบสวนก็สิ้นเรื่อง! ควรจับก็จับ ควรตัดสินก็ตัดสิน ควรประหารก็ประหาร!” “การสอบคัดเลือกขุนนางเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง ครั้งนี้ต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด!” ฮ่องเต้หวู่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในทันที เมื่อก่อนข้าพึ่งพาเหล่าขุนนางมากเกินไป จึงสูญเสียอำนาจในการตัดสินใจ ทำอะไรก็ต้องคอยระแวดระวัง กระทั่งถูกริดรอนอำนาจ เป็นฮ่องเต้เช่นนี้ ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก! แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้ามีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาขุนนางพวกนี้อีกต่อไป! ข้าอยากจะสืบสวนอย่างไร ก็ทำได้ตามใจ! ดี! ฮ่องเต้หวู
ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจัดเดิมที เขาทรงคิดว่าซ่งชิงหลวนเป็นผู้มีปัญญามาก มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นที่เคารพนับถือ คาดไม่ถึงเลยจริงๆหลายปีมานี้ ซ่งชิงหลวนสมคบกับตู้เหวินยวน ผูกขาดการสอบขุนนาง ทุจริต ฉ้อฉล ไม่รู้ว่ารีดไถทรัพย์สินจากราษฎรไปเท่าไหร่การคดโกงเงินทองนั้น จริงๆ แล้วฮ่องเต้หวู่ไม่ได้ใส่พระทัยขุนนางทั้งราชสำนัก มีใครบ้างที่ไม่รับสินบน?บัณฑิตร่ำเรียนมาสิบปี หวังจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็เพื่ออะไรกัน?เพื่อทำตามความฝันและปณิธานของตนเอง?เหลวไหล!ใครบ้างที่ไม่ทำเพื่อเงินทอง?ปัญหาคือ คนดีรักทรัพย์สิน ก็ควรได้มาโดยชอบธรรมหากซ่งชิงหลวนเพียงแค่ยักยอกค่าเล่าเรียนเล็กๆ น้อยๆ นั่นก็แล้วไป!เขากลับใช้การสอบขุนนางเป็นเครื่องมือ!ช่างเกินไปแล้ว!มิน่าเล่า ในราชสำนัก ขุนนางที่ไร้ความสามารถจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆแต่ละคนถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ตีสามครั้งก็ยังไม่ปริปากให้ไปปกครองบ้านเมือง ก็ทำได้แย่มิน่าเล่า หนิงชิงโหว ผู้มีความรู้ความสามารถ ถึงได้สอบตกแม้ว่าภายหลัง หนิงชิงโหวจะสอบได้จอหงวน ก็ยังเลือกที่จะไปเป็นอาจารย์อยู่ที่เขาประจิม ไม่ยอมเข้ารับราชการแท้จริงแล้ว รากฐานของต้าเซี่ย
เรื่องน่าอับอายของซ่งชิงหลวนเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่นางกุขึ้นเองทั้งสิ้นหลักฐานของหลี่หลงหลินมาจากไหน?หรือว่าเพื่อช่วยนาง หลี่หลงหลินคิดจะปลอมแปลงหลักฐาน หลอกลวงเบื้องสูง?นี่... นี่ไม่ได้!การหลอกลวงเบื้องสูงเป็นความผิดมหันต์ต่อให้หลี่หลงหลินเป็นถึงรัชทายาท ก็ไม่อาจแบกรับไหว!ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้หวู่กำลังทรงกริ้ว ถึงขั้นคิดจะถอดหลี่หลงหลินออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลี่หลงหลินเสี่ยงอันตราย หากถูกฮ่องเต้หวู่จับได้ ก็คงจะถึงคราววิบัติ“องค์รัชทายาท”“อนาคตของท่านยังอีกยาวไกล เพื่อหญิงต่ำต้อยเช่นข้า เหตุใดต้องทำลายอนาคตตนเอง?”หลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลอาบแก้ม คิดจะเปิดเผยความจริงหลี่หลงหลินรีบส่งสัญญาณให้ซูเฟิ่งหลิง “เจ้าพาพี่สะใภ้สี่ไปด้านข้าง อย่าให้นางพูดอะไรเหลวไหล”ซูเฟิ่งหลิงจับแขนหลิ่วหรูเยียน “พี่สะใภ้สี่ ท่านอย่าพูดอะไรเลย! ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์รัชทายาทเถิด! มีเขาอยู่ ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ถอยไปด้านข้างหลี่หลงหลินเห็นดังนั้น ก็ถอนหายใจยาวเกือบไปแล้ว!เกือบจะเกิดศึกภายใน ทำลายแผนการจนหมดสิ้นหลิ่วหรูเยียนยังขาดประสบการณ์ในเรื่องให
เมื่อมีหลี่เทียนฉี่เป็นหัวหอก เหล่าขุนนางก็ดาหน้าเข้ามาผสมโรง “ฝ่าบาท พระชายารัชทายาททำเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“กล้าขัดพระราชโองการอย่างเปิดเผย ช่างบังอาจยิ่งนัก!”“ซูเฟิ่งหลิงเป็นลูกหลานแม่ทัพ ไม่รู้ขนบธรรมเนียม รัชทายาท ท่านก็ไม่รู้หรืออย่างไร?”“ถูกแล้ว รัชทายาท! ท่านควรจะดูแลสตรีของท่านให้ดี! มิเช่นนั้นพูดมากไปก็จะเสียการ เป็นที่น่าอับอาย!”“หึๆ รัชทายาทขึ้นชื่อว่าเป็นคนกลัวเมีย เขาจะกล้าไปหือกับสตรีที่มุทะลุดุดันอย่างซูเฟิ่งหลิงหรือ? ไม่อยากอยู่แล้วหรือไร?”“คนหนึ่งกลัวเมีย อีกคนเป็นแม่เสือโคร่ง ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ!”“รัชทายาท ท่านจงดูแลแม่เสือโคร่งของท่านให้ดี อย่าปล่อยออกมาทำร้ายผู้อื่น”คำเยาะเย้ยถากถางถาโถมเข้ามาไม่หยุดซูเฟิ่งหลิงไม่สันทัดในการโต้เถียง ทั้งร้อนรนทั้งโกรธ น้ำตาคลอเบ้า แทบจะร้องไห้ออกมา “พวกเจ้า... พวกเจ้า...”“หุบปาก!”ในเวลานั้น เสียงตวาดดุจสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้นในตำหนักฉางเล่อหลี่หลงหลินก้าวออกมา มือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง เอ่ยเสียงเย็น “รังแกผู้หญิง นับเป็นความสามารถอันใด? พวกท่านมีความสามารถ ก็มาโต้คารมกับข้าสักห้าร้อยยก แบบไม่มีกติกาก็ได้
หลิ่วหรูเยียนเห็นขุนนางทั้งราชสำนัก แทบจะเทใจสนับสนุนองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ทั้งหมด พากันกล่าวโทษหลี่หลงหลินอย่างรุนแรง นางก็ตื่นตระหนก คิดว่าเคราะห์ใหญ่กำลังจะมาเยือนนางได้มอบชีวิตของตนให้แก่หลี่หลงหลินแล้ว ยินยอมที่จะตายแทนเขาดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อหาใด หลิ่วหรูเยียนก็รับไว้ทั้งหมดโดยไม่ลังเล!“พี่สะใภ้สี่ เจ้า...”หลี่หลงหลินมองหลิ่วหรูเยียนด้วยความซาบซึ้งใจเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อเขา!ตัวเขาเป็นถึงรัชทายาท ข้อหาหมิ่นประมาทบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ก็มีโทษเพียงแค่ริบเบี้ยหวัดเท่านั้นแต่หลิ่วหรูเยียนเป็นเพียงสามัญชน ไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมี ไม่มีผู้หนุนหลังหากนางต้องรับโทษนี้ มีหวังต้องหัวหลุดจากบ่าฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้วขึ้น มองหลิ่วหรูเยียนด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจะรับผิดแล้วหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่า โทษนี้ เจ้าคนเดียวไม่อาจรับไหว!”บนใบหน้างดงามของหลิ่วหรูเยียน ปรากฏรอยยิ้มที่งดงามปนเศร้า “ฝ่าบาท ไม่ว่าจะเป็นโทษทัณฑ์ใด หม่อมฉันก็ยินดีรับไว้ทั้งหมด!”“ช่างเป็นคนมีน้ำใจ...”ฮ่องเต้หวู่รำพึงในใจ “มิน่าเล่า เจ้าถึงได้แต่ง “ความฝันในหอแดง” ได้...”
ไม่ยอมรับ!ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกไป ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความเงียบงันราวกับป่าช้า!เหล่าขุนนางเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูของตนได้ยินฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น แววตาฉายแววขุ่นเคืองและผิดหวัง “เจ้าเก้า! เจ้าไม่เข้าใจความหวังดีของข้าอย่างนั้นหรือ? จำเป็นต้องมาขัดขวางข้าต่อหน้าธารกำนัล ในงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาเช่นนี้?”เขาเป็นทั้งฮ่องเต้และบิดา ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด ก็ต้องรักษาไว้ซึ่งบารมี!พูดกันตามตรงไม่ว่าใครก็ต่างมองว่าฮ่องเต้หวู่ทรงลำเอียงเข้าข้างหลี่หลงหลินอย่างเห็นได้ชัด ถึงขั้นที่เรียกว่าทรงโปรดปรานก็ว่าได้!การลงโทษให้ริบเบี้ยหวัดเพียงสามเดือน ก็เป็นเงินแค่สามร้อยตำลึงโทษทัณฑ์นี้เบาบางยิ่งนักพูดง่ายๆ ก็คือทำเป็นพิธีไปเท่านั้นหลี่หลงหลินจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่ปลายก้อยแต่ฮ่องเต้หวู่ทรงทำเพื่อหลี่หลงหลินถึงเพียงนี้หลี่หลงหลินกลับยังคงไม่ยอมรับผิด!“แม้แต่โทษเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ก็ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?”“เจ้าเก้า เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก!”“ข้าหวังดีต่อเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เห็นค่า!”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจในใจความหวังดีของเขาถูกหล
ฮ่องเต้หวู่อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบ ก็ยังไม่เข้าใจ “องค์ชายใหญ่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”หลี่เทียนฉี่ก้มหน้าทูล “ทูลเสด็จพ่อ ในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับนี้ เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งชิงหลวน เป็นแบบอย่างที่ดี ลูกศิษย์มากมาย มีคุณธรรมสูงส่ง!”“องค์รัชทายาทกลับเขียนลงในหนังสือพิมพ์ ใส่ร้ายป้ายสี ทำลายชื่อเสียงของบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง!”“บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งอ่านแล้ว โกรธจนกระอักเลือด แทบสิ้นลม จนถึงตอนนี้ก็ยังอาการสาหัส!”“ขุนนางทั้งราชสำนัก เป็นพยานให้บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งได้”“เนื้อหาในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระสิ้นดี!”“ขอให้ฝ่าบาททรงประทานความเป็นธรรมแก่บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง และบัณฑิตทั้งแผ่นดินด้วย!”เมื่อสิ้นเสียงเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นต่างพากันยืนขึ้น แสดงความไม่พอใจ “ฝ่าบาท กระหม่อมทั้งหลายยินดีเป็นพยาน! เรื่องราวที่เขียนในหนังสือพิมพ์ ล้วนเป็นเรื่องโกหก พูดจาเหลวไหล!”“ใช่แล้ว ฝ่าบาท! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง ไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน!”“หวังว่าฝ่าบาทจะทรงผดุงความยุติธรรม นำตัวผู้ปล่อยข่าวใส่ร้ายมาลงโทษ!”“หากบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยังถูกใส่ร้ายป้าย
เทพธิดาบุปผา?หลี่เทียนฉี่ยืนโดดเดี่ยวอยู่ในสวนของตำหนักฉางเล่อ ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านนี่มันเรื่องอะไรกัน?เริ่มจากเครื่องทำความร้อนใต้พื้นและลางดี จากนั้นหลี่หลงหลินก็แต่งบทกวีห่วยๆ...เอาเถอะไม่ใช่บทกวีไร้ค่า แต่เป็นบทกวีอมตะที่วิจิตรงดงามเสด็จแม่ของเขา ฮองเฮาหลิน จู่ๆ ก็ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นเทพธิดาบุปผา?ความรู้สึกถึงภยันตรายอันใหญ่หลวง ถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ กลืนกินหลี่เทียนฉี่จนแทบจมหายไปในชั่วพริบตาโบราณว่า แม่มีคุณธรรมลูกจึงได้ดีในราชวงศ์ องค์ชายและพระมารดานั้นต่างต้องพึ่งพาอาศัย ส่งเสริมซึ่งกันและกันทำไมหลี่เทียนฉี่ถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท?ไม่ใช่เพราะเขาเก่งกาจอะไรแต่เป็นเพราะว่า แม่ของเขาคือฮองเฮาหลู่!เขาคือโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา!ดังนั้น เขาจึงเป็นองค์รัชทายาทโดยกำเนิด!บัดนี้ นางหลู่ถูกถอดถอน ถูกส่งไปยังตำหนักเย็นส่วนแม่ของหลี่หลงหลิน นางหลิน กลับได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แถมยังกลายเป็นเทพธิดาบุปผาคราวนี้ตำแหน่งองค์รัชทายาทของหลี่หลงหลิน ก็มั่นคง ยากจะหาผู้ใดมาสั่นคลอน!“เจ้าเก้า...”“เจ้ามันเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!”หลี่เทียน