ครู่ต่อมา ในที่สุดหลี่เทียนฉี่ก็ถอนหายใจยาว ยืนขึ้น “เดิมทีข้าไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อพวกเจ้าวิงวอน ข้าก็จะฝืนใจ เพื่อพวกเจ้า!” “แต่ว่า พวกเจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!” เหล่าขุนนางต่างยินดี “พวกข้าล้วนทำตามคำสั่งขององค์ชายใหญ่!” “องค์ชายใหญ่ เพียงแค่พระองค์เป็นผู้นำ พวกข้าก็จะเข้าวังเข้าเฝ้า ทูลฟ้องรัชทายาท!” “เรื่องนี้ไม่ควรชักช้า พวกเราเข้าวังกันเถอะ!” หลี่เทียนฉี่ส่ายหน้า เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “พวกเจ้าเหล่าขุนนางทูลขอมาแล้วกี่ครั้ง? โค่นเจ้าเก้าได้หรือไม่?” เหล่าขุนนางต่างก้มหน้า ไม่เอ่ยอะไร การทูลขอของเหล่าขุนนาง เป็นกลวิธีที่พวกเขาใช้จนชำนาญ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เพียงใด เพียงแค่เหล่าขุนนางคุกเข่าที่หน้าท้องพระโรง และให้ขุนนางชราไม่กี่คนแสดงละครแกล้งฆ่าตัวตาย ฮ่องเต้หวู่ก็ต้องยอม! แต่กลวิธีนี้กลับใช้ไม่ได้กับหลี่หลงหลิน พวกเขาเหล่าขุนนางทูลขอมาหลายครั้งแล้ว หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย กลับเลื่อนขั้นได้เป็นรัชทายาทอย่างรวดเร็ว? เจ้ากรมพิธีการขมวดคิ้ว “องค์ชายใหญ่ เช่นนั้นท่านว่าควรทำอย่างไร?” เหล่าขุนนางต่างพยักหน้า “องค์ชายใหญ่ ท่านโปรดชี้แนะพวกข้า
ในพระราชวังต้องห้ามมีการวางท่อทำความร้อนใต้พื้น ในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไทเฮาทรงโปรดความเงียบสงบ เมื่อได้ยินเสียงขุดพื้นด้านนอกดังขึ้น ก็ไม่พอใจยิ่งนัก รับสั่งให้เกากงกงขันทีคนสนิทออกไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผลปรากฏว่า เกากงกงยังไม่ทันออกจากตำหนักฉือหนิง องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ก็มาถึง “ถวายบังคมเสด็จย่า!” หลี่เทียนฉี่สวมชุดปักลายหม่าง มาอยู่ต่อหน้าไทเฮา และโค้งคำนับ ไทเฮากระชับเสื้อนวมบนตัวแน่น เอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “องค์ชายใหญ่ เจ้ามาได้จังหวะพอดี! ไปถามให้ข้าทีว่า ในวังเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงได้เสียงดังเช่นนี้?” “เฮ้อ อากาศหนาวเย็นก็แย่แล้ว ยังจะเสียงดังอีก” “ยังจะให้คนอยู่อย่างสงบอีกหรือ!” หลี่เทียนฉี่แสร้งทำเป็นประหลาดใจ “เสด็จย่า พระองค์ยังไม่รู้หรือ? เป็นฝีมือของเจ้าเก้า! ให้คนมาขุดพื้นในวัง บอกว่าจะวางท่อทองแดง!” ไทเฮาตกใจมาก รีบเอ่ยว่า “เจ้าหมายถึงท่อทองแดงที่ใช้ดักฟังหรือ? ข้าได้พูดกับฮ่องเต้แล้ว ฮ่องเต้ก็ทรงรับปากแล้ว เรื่องนี้ยุติแล้ว! เหตุใดเจ้าเก้าจึงยังไม่ยอมเลิกรา ยังจะลงมือก่อสร้างอีก?” “หรือว่า แม้แต่คำพูดของฮ่องเต้ เขาก็
“ก็แค่ติดตั้งท่อทำความร้อนเล็กน้อยเท่านั้น...”ไทฮองไทเฮาได้ยินถ้อยคำนี้ รู้สึกสบายอยู่บ้างจริงๆ จึงเอ่ยออกมา “เฮ้อ! เจ้าเก้าคนนี้ หากกตัญญูได้สักครึ่งหนึ่งของเจ้า ข้าก็พอใจแล้ว!”“เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้าเก้าติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ มิได้ติดตั้งที่ตำหนักฉือหนิงเสียหน่อย เกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า?”หลี่เทียนฉี่อ้ำอึ้ง “แต่ วันนี้หลานเข้าวัง บังเอิญได้ยินพวกขุนนางของสำนักโหรหลวงถกเถียงกัน ได้ยินเสียงซุบซิบนินทามาบ้าง ก็ไม่รู้เป็นความจริงหรือไม่”ไทฮองไทเฮาลอบตกตะลึงภายในใจ “พวกเขาพูดว่าอะไร?”หลี่เทียนฉี่กระซิบเสียงค่อย “พวกเขาพูดว่า ที่เจ้าเก้าดำเนินการก่อสร้างเอะอะเอิกเกริกภายในพระราชวังต้องห้าม ชุลมุนวุ่นวายถึงเพียงนี้ มิใช่เพื่อติดตั้งท่อทำความร้อน! อย่างไรเสีย ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องใช้ท่อทองเหลืองทำความร้อนมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”ไทฮองไทเฮาพยักหน้านางเองก็ไม่เชื่อเรื่องเครื่องทำความร้อนใต้พื้นดินตรงกันข้าม ได้ยินหลี่เทียนฉี่พูดว่าใช้ท่อโลหะ กลับน่าเชื่อถือมากกว่าเพียงแต่นางมีเรื่องที่คิดไม่ตกหลี่หลงหลินต้องการติดตั้งท่อทำความร้อนที่ตำหนักฉือหนิงเพื่อลอบฟังการเคลื่อนไหว
วันส่งท้ายปีเก่า หิมะโปรยปรายตำหนักฉางเล่อแขวนโคมไฟสว่างไสว บรรยากาศครึกครื้นไม่ธรรมดาเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย“หิมะตกหนักถึงเพียงนี้ หนาวจะตายอยู่แล้ว เหตุใดถึงจัดงานเลี้ยงกันเล่า!”“วันหิมะตกหนักปกคลุมพื้น ข้าเกือบลื่นล้มบนพื้นไปแล้ว!”“อากาศเช่นนี้ออกจากใต้ผ้าห่มเท่ากับรนหาที่ตาย!”“ปีนี้ไม่ยอมให้คนอยู่อย่างสงบเลยจริงๆ!”ขุนนางสองสามคนมาถึงแล้วก็รวมตัวกัน แสดงความไม่พอใจของตนอากาศหนาวเหน็บ ลมพัดเย็นยะเยือกเสียดแทงกระดูก ผู้มาเยือนมีใครบ้างไม่สวมใส่เสื้อผ้าอย่างแน่นหนา ทำให้ตนเองคล้ายบ๊ะจ่างลูกหนึ่งองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่สวมใส่ชุดหรูหรางดงาม สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำแกมทองยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนางเห็นว่าเหล่าขุนนางไม่พอใจถึงเพียงนี้ ก็ลอบรู้สึกลำพองใจอยู่รางๆหลี่เทียนฉี่กล่าวทักทาย “มาเข้าร่วมงานเลี้ยงท่ามกลางอากาศเช่นนี้ ความจงรักภักดีของทุกท่านมากเสียจนไม่อาจจำกัดความได้เลย!”ขุนนางคนหนึ่งเผยสีหน้าหดหู่ “องค์ชายอย่าล้อเล่นเลย ข้าอายุปูนนี้แล้วมิอาจทนต่อความทรมานได้พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้ว องค์ชาย หากไม่ใช่ฮองเฮาเป็นผู้เชิญมาเข้าร่วมง
หลี่เทียนฉี่กวาดมองรอบด้าน แปลกใจมากเช่นเดียวกันเจ้าเก้า ตกลงเจ้ากำลังทำอันใดอยู่กันแน่?เสด็จแม่ของเจ้ากำลังจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา นี่มันซอมซ่อเกินไปแล้วกระมัง!เหล่าขุนนางแต่ละคนล้วนหนาวเหน็บ ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นภายในใจสำหรับตนเอง นี่ยังไม่ใช่โอกาสอันดีที่สวรรค์ประทานให้อีกหรือ?ทว่า ในเมื่อนี่เป็นงานเลี้ยงที่ฮองเฮาหลินจัดขึ้น องค์ชายอย่างตนเป็นฝ่ายตะคอกโวยวาย ประท้วงใส่นางก่อน ย่อมไม่เหมาะสม“รอเสด็จพ่อมาถึง ละครสนุกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว!”หลี่เทียนฉี่ยกมุมปาก เผยรอยยิ้มเย็นชา“ฮ่องเต้เสด็จ!”เสียงแหลมแหบพร่าของเว่ยซวินดังขึ้นที่หน้าประตูตำหนักทุกคนต่างลุกขึ้น ชะเง้อมองไปเห็นฮ่องเต้หวู่เดินเข้าตำหนักฉางเล่อ บนเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ หนึ่งชั้น“หิมะตกหนักจริงๆ!”ฮ่องเต้หวู่ถอดเสื้อคลุมออก ทันใดนั้นความหนาวก็โจมตีเข้ามาระลอกหนึ่งเกิดอันใดขึ้น?เหตุใดภายในตำหนักฉางเล่อหนาวยิ่งกว่าภายนอกอีกเล่า?เข้าใจผิดไปหรือ?ฮ่องเต้หวู่หันหน้ามอง พบว่าเหล่าขุนนางที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ละคนล้วนตัวสั่น จมูกยังมีหยดน้ำแข็งเกาะดูท่าแล้วไม่ใช่ตนเองคิดไปเ
ฮ่องเต้หวู่โกรธจัด ตะคอกออกมากลางงานเลี้ยงหลี่เทียนฉี่และเหล่าขุนนางเห็นสถานการณ์แล้ว แม้ว่าใบหน้าหวาดกลัว ตะโกนว่า “ฝ่าบาทระงับโทสะด้วย” แต่แท้จริงแล้วภายในใจกลับมีความสุขหลี่หลงหลิน!นี่เจ้ารนหาที่ตายเอง โทษคนอื่นไม่ได้!ครั้งนี้ดูว่าเจ้าจะเอาตัวรอดเยี่ยงไร!ขณะเดียวกัน หลี่หลงหลินกำลังพาซูเฟิ่งหลิงไปสนทนาเรื่องสัพเพเหระกับฮองเฮาหลินแม่สามีลูกสะใภ้เข้ากันได้ยากอุปนิสัยของฮองเฮาหลินสุขุมอ่อนโยน เข้าหาง่ายมากซูเฟิ่งหลิงกลับเซ่อซ่า มุทะลุวู่วามอุปนิสัยของแม่สามีและลูกสะใภ้แตกต่างกัน หลี่หลงหลินในฐานะลูกชาย ในฐานะสามี ย่อมต้องเป็นคนกลางเชื่อมความสัมพันธ์ ทำให้พวกนางเข้ากันได้ในเวลาอันสั้นป้องกันมิให้ภายภาคหน้าแม่สามีและลูกสะใภ้มีปัญหากัน คนปวดหัวก็คือตนเองได้ยินเสียงตะคอก ใบหน้างดงามโดดเด่นของฮองเฮาหลินเผยสีหน้าหวาดกลัว ตำหนิหลี่หลงหลิน “องค์ชาย แม่บอกแล้ว ว่าอย่าเล่นอะไรพิเรน! เสด็จพ่อเจ้ากริ้วไม่ผิดไปดังคาด!”“ถึงกระนั้น เจ้าก็ไม่ต้องกลัว!”“มีแม่อยู่ ไม่มีใครสามารถทำร้ายเจ้าได้!”“ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ไม่ได้...”เดิมทีสตรีอ่อนโยนบอบบาง ครั้นเป็นมารดากลับเข้มแข็งป
ตำหนักฉางเล่อไม่มีเตาถ่านแม้เตาเดียว หนาวยิ่งกว่าภายนอก!ทุกคนสวมใส่แน่นหนาทั้งชั้นในและชั้นนอก ยังรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเจ้าพูดว่าร้อนกับข้า?ไร้สาระ!หลี่เทียนฉี่ลุกออกมา เอ่ยปากเย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า “รัชทายาท เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ! วันที่อากาศหนาวถึงเพียงนี้ คนใกล้หนาวตายเต็มที เจ้าพูดว่ากลัวพวกเราร้อน?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “องค์ชายใหญ่ ในเมื่อท่านไม่กลัวร้อน เช่นนั้นก็สวมเสื้อผ้าไว้ อย่าถอดก็แล้วกัน!”องค์ชายใหญ่?หลี่เทียนฉี่ได้ยินคำเรียกขานนี้ สีหน้าแข็งทื่อในทันใดนับตั้งแต่ยังเด็กหลี่หลงหลินล้วนเรียกขานเขาว่าพี่ใหญ่เขาไม่ใส่ใจใยดีหลี่หลงหลิน ไม่เคยเรียกเขาว่าน้องชาย แต่เรียกเขาว่าเจ้าเก้าบัดนี้เวลาผ่านมานานมากแล้วหลี่หลงหลินเป็นรัชทายาท เป็นกษัตริย์ส่วนหลี่เทียนฉี่เจ้าแคว้นคนนี้เป็นขุนนางกษัตริย์และขุนนางแตกต่างกัน ย่อมไม่สนิทสนมกันถึงขั้นเรียกขานว่าพี่ใหญ่ไม่เรียกชื่อโดยตรง แต่เรียกว่าองค์ชายใหญ่ แท้จริงแล้วถือว่าไว้หน้ามากเพียงพอ!ทว่าหลี่เทียนฉี่กลับไม่อาจยอมรับในทันทีเลยได้“ฮึ”“ไม่ถอดก็ไม่ถอด!”หลี่เทียนฉี่สบถเสียงเย็นทีหนึ่ง “ข้ากลับอยากเห็นนัก เจ
“น่าเสียดายก็เพียงแต่ มีคนไม่ยอมให้เสด็จย่าท่านได้อยู่อย่างสุขสบาย ยุยงให้เข้าใจผิด ทำให้ท่านต้องทนต่อความหนาว!”หลี่หลงหลินเหลือบมองหลี่เทียนฉี่แวบหนึ่ง บอกเป็นนัยสวบ!สีหน้าแดงเรื่อของหลี่เทียนฉี่กลายเป็นดำดุจตับหมูฝันไปก็คาดไม่ถึงหลี่หลงหลินเจ้าเด็กคนนี้ถึงขั้นพลิกสถานการณ์กล่าวหาผู้อื่นสวมหมวกเด็กอกตัญญูลงบนศีรษะตน!“เสด็จย่า!”หลี่เทียนฉี่สูญเสียความใจเย็นไปในทันใด พูดแก้ตัว “ท่านอย่าฟังคำยุแยงของเขาเป็นอันขาด! นี่เขากำลังใส่ร้ายคน!”หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “องค์ชายใหญ่ เราไม่ได้เอ่ยชื่อ ท่านกลับร้อนตัวกระโดดออกมา นี่มิใช่กำลังยอมรับผิดหรือ?”เราและตัวเราล้วนเป็นคำแทนตัวของรัชทายาทหลี่หลงหลินใช้น้อยมากโดยเฉพาะคำว่าเรา รู้สึกไม่เป็นมงคลอยู่บ้างหลี่หลงหลินไม่อยากเป็นเหมือนฮ่องเต้หวู่ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจทว่า ยามอยู่ต่อหน้าหลี่เทียนฉี่ หลี่หลงหลินกลับตั้งใจใช้คำว่า “เรา” ที่มีความนัยท้าทายต้องรู้ว่าตอนที่หลี่เทียนฉี่เป็นรัชทายาท ก็แทนตนเองว่าเราอย่างนั้นเราอย่างนี้เพื่อแสดงออกว่าตนเองไม่เหมือนผู้อื่น!ดังคาดมุมปากหลี่เทียนฉี่กระตุกริก สีหน้
เทพธิดาบุปผา?หลี่เทียนฉี่ยืนโดดเดี่ยวอยู่ในสวนของตำหนักฉางเล่อ ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านนี่มันเรื่องอะไรกัน?เริ่มจากเครื่องทำความร้อนใต้พื้นและลางดี จากนั้นหลี่หลงหลินก็แต่งบทกวีห่วยๆ...เอาเถอะไม่ใช่บทกวีไร้ค่า แต่เป็นบทกวีอมตะที่วิจิตรงดงามเสด็จแม่ของเขา ฮองเฮาหลิน จู่ๆ ก็ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นเทพธิดาบุปผา?ความรู้สึกถึงภยันตรายอันใหญ่หลวง ถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ กลืนกินหลี่เทียนฉี่จนแทบจมหายไปในชั่วพริบตาโบราณว่า แม่มีคุณธรรมลูกจึงได้ดีในราชวงศ์ องค์ชายและพระมารดานั้นต่างต้องพึ่งพาอาศัย ส่งเสริมซึ่งกันและกันทำไมหลี่เทียนฉี่ถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท?ไม่ใช่เพราะเขาเก่งกาจอะไรแต่เป็นเพราะว่า แม่ของเขาคือฮองเฮาหลู่!เขาคือโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา!ดังนั้น เขาจึงเป็นองค์รัชทายาทโดยกำเนิด!บัดนี้ นางหลู่ถูกถอดถอน ถูกส่งไปยังตำหนักเย็นส่วนแม่ของหลี่หลงหลิน นางหลิน กลับได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แถมยังกลายเป็นเทพธิดาบุปผาคราวนี้ตำแหน่งองค์รัชทายาทของหลี่หลงหลิน ก็มั่นคง ยากจะหาผู้ใดมาสั่นคลอน!“เจ้าเก้า...”“เจ้ามันเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!”หลี่เทียน
หลี่เทียนฉี่พึมพำหลี่เทียนฉี่ยังคงไม่ยอมแพ้ ดึงกลีบดอกไม้ออกจากกิ่งทีละกลีบ เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้ถูกแปะติดไว้ เขาก็อึ้งไปทั้งร่าง!ภาพดอกไม้บานในฤดูหนาว เกินกว่าความเข้าใจของเขาแม้จะได้เห็นกับตา หลี่เทียนฉี่ก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาตนเองมันช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก!หลังจากที่เว่ยซวินเข้ามาในสวน เขาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกเช่นกันอันที่จริง เขาก็คิดว่าหลี่หลงหลินใช้วิธีอะไรบางอย่าง เช่น มายากลของยุทธภพ หรือภาพลวงตา มาหลอกลวงฮ่องเต้หวู่ก็เพราะว่าการฝืนลิขิตฟ้าดิน ทำให้ดอกไม้บานในฤดูหนาว ช่างน่าอัศจรรย์ ราวกับเรื่องราวในตำนาน!เมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ เว่ยซวินพบว่าเป็นของจริง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้สติกลับคืนมา เขาเด็ดดอกอิ๋งชุนสีเหลืองอ่อนมาสองสามกิ่ง แล้วเดินรีบเดินกลับไปหาฮองไทเฮา “ฮองไทเฮา โปรดทอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ!”ฮองไทเฮา ขยับแว่นสายตา จ้องมองดอกอิ๋งชุนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอุทานด้วยความประหลาดใจ “ฮ่องเต้ ดอกไม้นี่ของจริง! เป็นลางดีจริงๆ! ข้ารู้สึกมานานแล้วว่า ฮองเฮาหลินไม่ใช่คนธรรมดา...”ฮ่องเต้หวู่หัวเราะเสียงดัง “เสด็จแม่ ข้ารู้นานแล้วว่า ฮองเฮาไม่ใช่คนธรรมดา! นางสามารถทำให้บุปผานานาพันธุ
ลางดี!ฮ่องเต้หวู่ตระหนักได้ในทันใด ตรัสด้วยความยินดี “เดือนอ้ายฤดูหนาว บุปผานานาพันธุ์เบ่งบาน นับเป็นลางดีอย่างแท้จริง!”ต้องทราบไว้ว่าคนโบราณเชื่อเรื่องโชคลางหิมะไม่ตก ดาวตก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นลางร้ายร้ายแรงที่สุด ฮ่องเต้ต้องประกาศราชโองการสำนึกผิด ทูลขออภัยโทษต่อสวรรค์ส่วนเรื่องลางดี ก็มีมากมายนับไม่ถ้วนขุดพบหัวไชเท้าใหญ่ในดิน ก็สามารถป่าวประกาศว่าเป็นลางดีได้ไม่ต้องพูดถึงการที่บุปผาเบ่งบานในฤดูหนาวนี่คือทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ที่ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยพบเห็นมาก่อนจะเรียกว่าเป็นลางดี ก็ไม่เกินจริงเลยแต่ที่เว่ยซวินกล่าวว่า เป็นเพราะคุณธรรมของฮองเฮาหลิน จึงเกิดลางดีนี้ขึ้น ฟังดูแล้วก็ดูจะเป็นการเชื่อมโยงที่ฝืนไปสักหน่อยแต่ถึงกระนั้นทัศนียภาพอันน่าอัศจรรย์ที่บุปผาเบ่งบาน เกิดขึ้นที่ตำหนักฉางเล่อทำไมตำหนักอื่นถึงไม่มี?นี่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วมิใช่หรือว่า ลางดีนี้เกิดขึ้นเพราะฮองเฮาหลิน“ลางดี...”“เป็นลางดีจริงๆ!”ไทเฮาประคองร่างอันสั่นเทามาที่หน้าต่าง โดยมีหลี่หลงหลินคอยประคอง เมื่อเห็นภาพบุปผานานาพันธุ์แข่งกันเบ่งบานในสวน ก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกตลอดมา ไทเ
ความหมายนั้นชัดเจนยิ่งนักก่อนหน้านี้พวกเจ้าไม่ยอมช่วยข้า!บัดนี้ ข้าลุกขึ้นยืนหยัดต่อกรด้วยตนเองหากพวกเจ้ายังไม่ยอมสนับสนุนข้าอีก ยังคิดจะโค่นล้มหลี่หลงหลินอีกหรือ?อีกไม่กี่ปี เมื่อฮ่องเต้หวู่สละราชสมบัติ และให้หลี่หลงหลินขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป พวกเจ้าจะได้ลิ้มรสผลกรรมอย่างแน่นอน!เหล่าขุนนางไม่ใช่คนโง่เขลา ย่อมตระหนักถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา พวกเขาสบตากันและกัน ก่อนจะพากันเอ่ยสนับสนุน “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทตรัสได้ถูกต้องยิ่ง! งานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา งานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา แล้วร้อยบุปผาอยู่ที่ใดเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”“เมื่อไม่มีบุปผานานาพันธุ์ แล้วจะเรียกว่างานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาได้อย่างไร?”“นี่เป็นการหลอกลวงเบื้องสูงอย่างแท้จริง!”“องค์รัชทายาทคือผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ควรยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลัก!”เหล่าขุนนางต่างหันมาอยู่ข้างหลี่เทียนฉี่ สถานการณ์พลิกผันอย่างฉับพลันฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว มองไปที่หลี่หลงหลิน “เจ้าเก้า เจ้ามีอะไรจะแก้ตัว?”หลี่หลงหลินไม่สะทกสะท้าน “เสด็จพ่อ ในเมื่อลูกกล้าทูลเชิญเสด็จแม่ให้จัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผา ย่อมต้องมีเหตุผล!
เพียงสิ้นคำนางกำนัลทั้งหมดก็หลั่งไหลเข้ามา ยกน้ำร้อนสิบถ้วยวางเรียงกันต่อหน้าหลี่เทียนฉี่ หลี่หลงหลินยิ้มดีใจ “องค์ชายใหญ่ ดื่มตอนร้อนๆ เถอะ!”“เจ้า...”หลี่เทียนฉี่ลืมตาอ้าปากค้าง จ้องหลี่หลงหลินเขม็งเจ้าเก้าไอ้คนเจ้าเล่ห์!ไม่เพียงวางแผนทำให้ตนร้อนตาย!ยังจะทำให้ตนจุกตายอีกด้วย!น้ำร้อนสิบถ้วย ยังเป็นถ้วยใหญ่ หากดื่มลงไป กระเพาะจะต้องพังแน่ทว่าไทฮองไทเฮากลับเชื่อคำพูดเหลวไหลของหลี่หลงหลิน เผยสีหน้ากังวล “องค์ชายใหญ่ ข้าร้อนจนเหงื่อออกแล้ว เจ้ากลับรู้สึกหนาว ยังสวมใส่หนาถึงเพียงนี้ เห็นชัดว่าร่างกายอ่อนแอ”“ในเมื่อหมอเทวดาซุนพูดแล้วว่าดื่มน้ำร้อนสามารถรักษาโรคได้”“เจ้าก็ดื่มตอนยังร้อนเถอะ อย่าปฏิเสธความปรารถนาดีของเจ้าเก้าเลย”ความปรารถนาดี?หลี่เทียนฉี่คล้ายถูกเหวี่ยงหมัดใส่แรงๆ กระอักโลหิตขึ้นมาภายใต้ความเอือมระอา หลี่เทียนฉี่ใช้สายตาขอความช่วยเหลือ หันมองเหล่าขุนนางหวังให้พวกเขาลุกออกมาช่วยตนเองพูดสักสองประโยคหากไม่ได้ ก็ช่วยตนดื่มน้ำร้อนสักถ้วย นี่ย่อมได้กระมัง?ปรากฏว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้นเหล่าขุนนางล้วนหดหัวงอตัว เห็นว่าสถานการณ์เสียเปรียบ แต่ละคน
หากทุกคนร้อนไปด้วยกัน นั่นก็ช่างเถอะ!เลวร้ายที่สุดก็เหงื่อท่วมตัวจนเกิดผดผื่นไปด้วยกัน!แต่ที่น่าโมโหที่สุด ทั้งตำหนักฉางเล่อ เชื้อพระวงศ์และขุนนางบุ๋นบู๊มากถึงเพียงนั้นล้วนถอดเสื้อผ้าออก สวมใส่เพียงชุดตัวในผืนบางมีเพียงตนเองสวมใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ กางเกงกันหนาวหนาๆ ทั้งภายในภายนอกห่อหุ้มไว้อย่างแน่นหนา เหงื่อไหลลงจากหน้าผากหลี่เทียนฉี่รู้สึกว่าตนเองใกล้หมดสติเต็มที!“หลี่หลงหลินไอ้เจ้าเล่ห์คนนี้ คิดจะให้ข้าร้อนตายเลยใช่ไหม!”“ข้าจะสามารถปล่อยให้เขาทำสำเร็จได้เยี่ยงไร!”หลี่เทียนฉี่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กลับปากแข็ง “ฮึไม่ถอดก็ไม่ถอด! ข้ากระหายแล้ว! เข้ามา รินน้ำให้ข้าถ้วยหนึ่ง!”ครู่ต่อมา นางกำนัลคนหนึ่งยกน้ำเข้ามา วางต่อหน้าหลี่เทียนฉี่หลี่เทียนฉี่ร้อนแทบแย่ ปากแห้งไปหมด ทันใดนั้นก็ยกน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ทันระวัง พรวด...เพียงเข้าปาก หลี่เทียนฉี่ก็พ่นออกมา ตะโกนเสียงดัง “ร้อนมาก! ร้อนมาก! เหตุใดเจ้าจึงรินน้ำร้อน! จะลวกข้าให้ตายกระนั้นหรือ?”นางกำนัลตกลงใจหน้าเผือดซีด รีบหมอบลงบนพื้น น้ำตาคลอหน่วย “นี่เป็นคำสั่งของรัชทายาทเพคะ..”ปากของหลี่เทียนฉี่ถูกลวกไปหนึ่งชั้น ทั้งแดงทั
ไทฮองไทเฮากอดหลี่หลงหลินไว้แน่นๆ ร้องไห้ฟูมฟายฮ่องเต้หวู่เห็นภาพนี้ น้ำตาไหลอย่างสุดระงับ “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ เจ้าเก้า แต่ไหนแต่ไรมาเป็นเด็กดีกตัญญูคนหนึ่ง! ท่านเข้าใจเขาผิดไปแล้วจริงๆ!”ครอบครัวกลับมาคืนดีกัน มีความสุขกลมเกลียวกันหลี่เทียนฉี่มองเห็นอยู่ในสายตา โมโหจนเกือบกระอักเลือดออกมาตนเองใช้เวลานานมากถึงเพียงนั้น ทำให้ไทฮองไทเฮาแปรพักตร์ได้อย่างยากลำบาก แค่นี้ก็เปลี่ยนใจแล้วหรือ?ทำเสียจนสุดท้ายก็กลายเป็นช่วยเจ้าเก้าทำความดีความชอบ!พอคนโมโห ก็ระเบิดออกมาได้อย่างง่ายดายเมื่อครู่ตำหนักฉางเล่อยังเหน็บหนาวคล้ายอุโมงค์น้ำแข็งผ่านไปเพียงครู่เดียวก็ร้อนแทบแย่ ไม่ต่างจากอบไอน้ำ ทั้งศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตเหล่าขุนนางต่างพาปลดเปลื้องเสื้อผ้า ถอดเสื้อคลุมตัวนอก เหลือเพียงชุดตัวในฮองเฮาหลินเคยเห็นความยอดเยี่ยมของเครื่องทำความร้อนใต้ดินมาก่อนแล้ว เตรียมการไว้ตั้งแต่แรก กลับเข้าหอนอนเปลี่ยนเป็นชุดฤดูร้อนออกมาซูเฟิ่งหลิง ลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน ซุนชิงไต้และสตรีคนอื่นเองก็เป็นเช่นนี้ ล้วนเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าบางๆ งดงามอย่างน่าประหลาด คล้ายผีเสื้อก็มิปานฮองเฮาหลินแย้มย
หลายหมื่นตำลึงเพื่อทำความร้อน?นี่สามารถซื้อถ่านไม้ได้มากน้อยเพียงใดกันเล่า!สำหรับเชื้อพระวงศ์ ย่อมไม่ใช่จำนวนน้อยแม้ว่าไทฮองไทเฮารู้ว่าเครื่องทำความร้อนใต้ดินแพง กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะแพงถึงเพียงนี้ สูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง “หลายหมื่นตำลึง แพงเกินไปแล้วกระมัง!”ในที่สุดหลี่เทียนฉี่ก็สบโอกาส พูดโจมตีกลับไป “หลายหมื่นตำลึงถึงจะสามารถติดตั้งที่ตำหนักฉางเล่อแห่งหนึ่งได้ หากติดตั้งทั้งพระราชวังต้องห้าม หนึ่งล้านไปจนถึงสิบล้านก็อาจไม่พอ!”“เงินมากถึงเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนใช้จ่ายไปอย่างเสียเปล่า!”“นี่ก็เรียกว่าหรูหราฟุ่มเฟือย เกินความจำเป็น!”“หลี่หลงหลินเจ้าเป็นรัชทายาท จงลืมตาดูราษฎร์ตกทุกข์ได้ยากบนโลกนี้ ยังมีราษฎร์อีกมากน้อยเพียงใดต้องทนหิวทนหนาว ไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่!”“เจ้าคู่ควรเป็นรัชทายาทด้วยหรือ?”เหล่าขุนนางต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าพวกเขาตกตะลึงกับเครื่องทำความร้อนใต้ดิน แต่กลับไม่ลืมเป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อรับความอบอุ่นแต่เพื่อโจมตีหลี่หลงหลิน ปลดตำแหน่งรัชทายาทของเขา!“ฮึๆ”หลี่หลงหลินยกมุมปากขึ้น แสยะยิ้มเย็น “ท่านพูดว่าข้าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้เงินเหล่า
“น่าเสียดายก็เพียงแต่ มีคนไม่ยอมให้เสด็จย่าท่านได้อยู่อย่างสุขสบาย ยุยงให้เข้าใจผิด ทำให้ท่านต้องทนต่อความหนาว!”หลี่หลงหลินเหลือบมองหลี่เทียนฉี่แวบหนึ่ง บอกเป็นนัยสวบ!สีหน้าแดงเรื่อของหลี่เทียนฉี่กลายเป็นดำดุจตับหมูฝันไปก็คาดไม่ถึงหลี่หลงหลินเจ้าเด็กคนนี้ถึงขั้นพลิกสถานการณ์กล่าวหาผู้อื่นสวมหมวกเด็กอกตัญญูลงบนศีรษะตน!“เสด็จย่า!”หลี่เทียนฉี่สูญเสียความใจเย็นไปในทันใด พูดแก้ตัว “ท่านอย่าฟังคำยุแยงของเขาเป็นอันขาด! นี่เขากำลังใส่ร้ายคน!”หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “องค์ชายใหญ่ เราไม่ได้เอ่ยชื่อ ท่านกลับร้อนตัวกระโดดออกมา นี่มิใช่กำลังยอมรับผิดหรือ?”เราและตัวเราล้วนเป็นคำแทนตัวของรัชทายาทหลี่หลงหลินใช้น้อยมากโดยเฉพาะคำว่าเรา รู้สึกไม่เป็นมงคลอยู่บ้างหลี่หลงหลินไม่อยากเป็นเหมือนฮ่องเต้หวู่ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจทว่า ยามอยู่ต่อหน้าหลี่เทียนฉี่ หลี่หลงหลินกลับตั้งใจใช้คำว่า “เรา” ที่มีความนัยท้าทายต้องรู้ว่าตอนที่หลี่เทียนฉี่เป็นรัชทายาท ก็แทนตนเองว่าเราอย่างนั้นเราอย่างนี้เพื่อแสดงออกว่าตนเองไม่เหมือนผู้อื่น!ดังคาดมุมปากหลี่เทียนฉี่กระตุกริก สีหน้