Share

บทที่ 631

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
หรือก็คือว่า เว่ยซวินไม่ใช่คนส่งสมุดบัญชีเล่มนี้มา!

แล้วจะเป็นของใครกัน?

หลี่หลงหลินกวาดสายตามองเหล่าข้าราชการที่ยืนอยู่ด้านหลังตู้เหวินยวน พลางขมวดคิ้วมุ่น

หรือว่าจะเป็นผู้ที่มีคุณธรรมในกลุ่มข้าราชการจริงๆ?

ดูเหมือนจะเหลือเพียงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น!

เว่ยซวินเดินก้าวเล็กๆ กลับไปที่หน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่ และนำสมุดบัญชีขึ้นถวาย

ฮ่องเต้หวู่เปิดสมุดบัญชีด้วยความร้อนใจ ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

จริงด้วย!

สมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของจริง!

มีบันทึกการยักยอกเงินชดเชยของตู้เหวินยวน รวมถึงหลักฐานรับสินบนและบิดเบือนความยุติธรรมอื่นๆ!

ปัง!

ฮ่องเต้หวู่โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เตะโต๊ะทรงพระอักษรจนล้ม พร้อมชี้ไปที่จมูกของตู้เหวินยวนและด่ากราด: “เจ้าตู้เหวินยวน! เป็นถึงอัครมหาเสนาบดี กลับทำผิดกฎหมาย แม้แต่เงินชดเชยก็ยังกล้ายักยอก! มีอะไรอีกบ้างที่เจ้ายังไม่กล้าทำ!”

ขุนนางทั้งราชสำนักต่างหน้าถอดสี

องค์ชายเก้าไม่ได้พูดแบบลอยๆ งั้นหรือ?

เขาหาหลักฐานการทุจริตของตู้เหวินยวนเจอจริงๆ หรือ?

เป็นไปได้อย่างไร!

พลั่ก!

ตู้เหวินยวนคุกเข่าลง แต่ยังคงสงบนิ่ง: “ฝ่าบาท โป
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 632

    องค์ชายสี่ยอมเสียสละคนในครอบครัวเพื่อความถูกต้อง ออกมายืนยันความผิดของพ่อตาตู้เหวินยวน? ทั่วท้องพระโรงเงียบสงัด ขุนนางทั้งหลายต่างตะลึงงัน นี่มันเรื่องอะไรกัน? ตู้เหวินยวนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน แล้วหันมองไปที่หลี่จือด้วยความไม่เชื่อ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ว่าคนที่ทรยศเขา จะเป็นหลี่จือลูกเขยของเขาเอง! “คราวนี้ยุ่งแล้ว!” สีหน้าของตู้เหวินยวนมืดมนอย่างที่สุด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตู้เหวินยวนไว้ใจหลี่จือเป็นอย่างมาก ถึงขนาดยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขาด้วย หลี่จือรู้อะไรมากเกินไป แค่เปิดเผยออกมาเพียงไม่กี่เรื่อง ก็สามารถทำให้ตู้เหวินยวนไม่มีทางฟื้นตัวได้อีกตลอดกาลแล้ว! หลี่หลงหลินเองก็ตกใจไม่น้อย แล้วหันมองไปที่หลี่จือด้วยความฉงน พี่สี่ของเขาเกิดมีสำนึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมางั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! เขาไม่ใช่คนแบบนั้น! ยิ่งไปกว่านั้น การที่พี่สี่หักหลังตู้เหวินยวน จะมีประโยชน์อะไร? หากกลุ่มข้าราชการล่มสลาย เขาก็จะจบเห่ไปด้วย! หลี่หลงหลินค่อนข้างรู้สึกสับสน สถานการณ์ตอนนี้ ชักจะมองไม่ออกแล้วว่ามันจะไปทางไหน! ฃฮ่องเต้หวู่เองก็ตกใจไม่น้อย สายตาจ้องไปที่หลี่จือ”เจ้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 633

    หลี่จือหัวเราะเสียงดังลั่น ขณะเดินออกจากท้องพระโรง ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากที่ไกลๆ: “เจ้าเก้า เจ้าก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น! ต่อจากนี้ จงดูข้าแสดงฝีมือให้เต็มที่เถิด!” หมากตัวหนึ่ง! หลี่หลงหลินเหมือนถูกฟ้าผ่าฟาด ยืนนิ่งอยู่กับที่ ความรู้สึกไร้พลังที่ห่างหายมานานถ่าโถมเข้ามาอีกครั้ง! หากข้าเป็นเพียงหมาก... แล้วใครกันคือผู้เล่น? ...... ณ คุกหลวง ตู้เหวินยวนตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นคือองค์ชายสี่หลี่จือ “ไอ้สารเลว!” “เจ้ากล้าทรยศข้า!” “เจ้าหมาป่าไม่รู้จักคุณคน!” ตู้เหวินยวนโกรธจนตัวสั่น จ้องหลี่จือตาเขม็งพร้อมกับด่าทออย่างเดือดดาล สิ่งที่ตู้เหวินยวนเกลียดที่สุด ไม่ใช่หลี่หลงหลิน แต่เป็นหลี่จือไอ้คนชั่วหยาบช้าไร้ยางอาย! หากตู้เหวินยวนไม่ถูกพันธการไว้จนขยับไม่ได้ เขาคงกระโจนเข้าไปสู้กับหลี่จือนานแล้ว! หลี่จือนั่งลงบนเก้าอี้อย่างใจเย็น รินชาถ้วยหนึ่งและจิบเบาๆ: “ท่านพ่อตา อย่าเพิ่งโมโห! ข้าไม่ได้ทรยศท่าน แต่กำลังช่วยท่านต่างหาก!” ตู้เหวินยวนหัวเราะเยาะ: “การแทงข้างหลัง แล้วซ้ำเติมคนอื่น นับเป็นการช่วยหรือ?” หลี่จือถอนหายใจ: “ท่านพ่อตา ท่านชาญฉลาด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 634

    สำหรับชาวบ้านทั่วไป การหย่าภรรยาไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เพียงมีหนังสือหย่าก็เพียงพอ แต่สำหรับตระกูลชนชั้นแล้ว กลับไม่สามารถทำได้ง่ายเช่นนั้น เจ้าบอกบอกว่าจะหย่าก็หย่าได้เลยหรือ? หน้าตาของบ้านฝ่ายหญิงเล่าไม่สำคัญหรือ? ดังนั้น หากตระกูลชนชั้นสูงต้องการหย่าภรรยา จำเป็นต้องมีลายลงนามของคนในครอบครัวฝ่ายหญิงในเอกสารหย่า เพื่อแสดงว่าฝ่ายหญิงมีความผิดในด้านคุณธรรมบางประการ หากครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ลงนามชื่อ แต่ฝ่ายชายดึงดันและยืนยันที่จะหย่ากับภรรยา จะถูกตำหนิว่าทรยศและถูกสาปแช่ง ชื่อเสียงจะย่อยยับไม่มีชิ้นดี แม้แต่หลี่จือในฐานะองค์ชายก็ไม่อาจแบกรับได้! ตู้เหวินยวนไม่เคยคิดเลยว่า หลี่จือจะโหดเหี้ยมถึงขั้นต้องการหย่ากับบุตรสาวของตน! “เจ้า เจ้า เจ้า ...” ช”เจ้า เจ้าคนเนรคุณ เจ้าคนไม่มีความรับผิดชอบ!” “คิดจะให้ข้าลงนามในเอกสารหย่าหรือ? ฝันไปเถอะ!” ตู้เหวินยวนตื่นตะลึง ดวงตาจ้องมองหลี่จืออย่างแน่นิ่ง หลี่จือหัวเราะ “ท่านพ่อตา ตอนนี้ท่านเป็นเพียงนักโทษ! ข้าจำเป็นต้องตัดขาดกับท่าน ถึงจะช่วยท่านออกมาได้อย่างสะดวกไม่ใช่หรือ?” ตู้เหวินยวนชะงัก มันก็มีเหตุผลอยู่บ้าง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 635

    ในโถงใหญ่ หลี่จือจิบชาอย่างช้า ๆ มองดูบรรดาขุนนางทั้งหลายด้วยรอยยิ้มเย็นชาแล้วกล่าวว่า “พวกท่านวางใจได้! ในสมุดบัญชีมีเพียงหลักฐานความผิดของตู้เหวินยวนเท่านั้น! ต่อให้เจ้าเก้าตรวจสอบ ก็ไม่มีทางสาวถึงตัวพวกท่านได้!” “แต่ว่า...” “ตู้เหวินยวนล่มแล้ว แต่กลุ่มข้าราชการจะล่มไม่ได้!” “นี่ก็เป็นพระประสงค์ของเสด็จพ่อเช่นกัน!” “พวกท่านเข้าใจหรือไม่?” เหล่าขุนนางต่างรู้สึกสะดุ้ง ก็จริงอย่างที่ว่านั่นแหละ หากกลุ่มข้าราชการล่มลง เช่นนั้น สถานการณ์ในราชสำนักก็จะเสียสมดุล เมื่อถึงตอนนั้น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ ฮ่องเต้หวู่เองก็ไม่ต้องการให้ราชสำนักปั่นป่วนมากเกินไป หลี่จือกล่าวต่อว่า “การล่มสลายของตู้เหวินยวนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้! แผ่นดินย่อมไม่ไร้จักรพรรดิ กลุ่มข้าราชการก็ไม่ควรเป็นกลุ่มมังกรไร้หัว! พวกท่านเข้าใจหรือไม่?” บรรดาขุนนางหันมองหน้ากันไปมา คำพูดนี้ขององค์ชายสี่หมายความว่าอย่างไร? กลุ่มมังกรไม่ควรไร้หัว? หรือเขาต้องการเข้ามารับหน้าที่แทนตู้เหวินยวนและควบคุมกลุ่มข้าราชการ? แม้กลุ่มข้าราชการจะสนับสนุนหลี่จือมาโดยต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 636

    การประชุมในราชสำนัก ในท้องพระโรงที่หรูหรางดงาม บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋นยืนเรียงกันอยู่ทั้งสองข้างอย่างสงบเสงี่ยม ฮ่องเต้หวู่ผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมาช้า ประทับบนบัลลังก์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด องค์ชายเก้าหาได้มาเข้าเฝ้าไม่ ส่วนองค์ชายสี่กลับมาปรากฏตัว นอกจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่แล้ว ในท้องพระโรงวันนี้ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคน คือ เซียวเซวียนเช่อราชครูแห่งชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ และเซียวเม่ยเอ๋อร์องค์หญิงแห่งชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ฮ่องเต้หวู่ทรงโกรธมาก และมองไปที่ทั้งสองคนพร้อมกับกล่าวว่า“เราบอกแล้วใช่หรือไม่ว่า ภายในสามวัน พวกเจ้าต้องออกจากเมืองหลวง! เราไม่อยากเห็นหน้าพวกเจ้าอีก! พวกเจ้าเป็นคนหูหนวกหรืออย่างไร?” เซียวเซวียนเช่อกล่าวอย่างไม่หวั่นเกรง “ทูลฝ่าบาท ทหารของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้รับบาดเจ็บที่ภูเขาประจิม พระองค์ทรงเห็นกับตา! ข้าก็อยากจะออกไป แต่ไม่อาจทำได้” ฮ่องเต้หวู่ไม่พอพระทัยยิ่งขึ้น เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ถ้าออกไปไม่ได้ ก็ไปอยู่เงียบ ๆ ในกรมพิธีการทูตเสีย! มาที่ท้องพระโรงทำไม?” ความอดทนของพระองค์ต่อชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนั้นใกล้ถึ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 637

    ครั้งนี้ฮ่องเต้หวู่โกรธจริงๆ! ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเจ้าสี่หมดไปอย่างสิ้นเชิง! เหล่าขุนนางพากันมองหน้ากันอย่างลังเล ในสถานการณ์นี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หลังจากที่ตู้เหวินยวนล่มสลายลง องค์ชายสี่ก็ได้กลายเป็นหัวหน้าของกลุ่มข้าราชการ ตามหลักการแล้ว เหล่าขุนนางควรจะออกมาสนับสนุนองค์ชายสี่ แต่พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี การที่องค์ชายสี่ขอเซียวเม่ยเอ๋อร์แต่งงานนั้น เป็นการเดินหมากที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง! ไม่เพียงแต่ฝ่าบาทจะไม่เห็นด้วย และยังเป็นการทำสิ่งที่ขัดต่อความถูกต้องที่สุดในใต้หล้า! ประชาชนในใต้หล้าย่อมไม่อาจยอมรับได้! เหล่าขุนนางล้วนเป็นผู้มีปัญญาเลิศล้ำ แต่ถึงกับคิดไม่ออกว่าจะใช้มุมไหนช่วยล้างภาพองค์ชายสี่ให้ดูดีขึ้นได้ เซียวเซวียนเช่อหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมได้ข่าวสำคัญข่าวหนึ่ง ไม่ทราบว่าควรจะกราบทูลหรือไม่” ฮ่องเต้หวู่ที่หมดความอดทนแล้วพูดขึ้นว่า “พูดมาเถอะ! แต่อย่าหวังว่าข้าจะเปลี่ยนใจ ต่อให้เจ้าพูดอะไรมาก็เถอะ ข้าก็จะไม่มีวันเห็นด้วยกับการแต่งงานของเจ้าสี่กับเซียวเม่ยเอ๋อร์!” เซียวเซวียนเช่อหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท อย่าเพิ่งกล่าวคำที่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 638

    ฮ่องเต้หวู่ทรงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ความทุกข์ใจของต้าเซี่ยอยู่ที่ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! ตอนนี้จางไป่เจิงสามารถนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายกลับสู่เมืองหลวงเพื่อพักฟื้นกำลังได้แล้ว ประชาชนผู้อพยพสามารถกลับบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองได้อีกครั้ง ปัญหาทางการคลังของราชสำนักก็จะได้รับการบรรเทาลงเช่นกัน สรุปแล้ว หากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอนทัพกลับไป ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายลงโดยง่าย ขุนนางทั้งหลายต่างดีใจกันอย่างมาก บรรยากาศภายในทั้งท้องพระโรงกลายเป็นทะเลแห่งความสุข ในขณะนั้น เซียวเซวียนเช่อก็พูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท แล้วเรื่องการแต่งงานขององค์ชายสี่กับองค์หญิงล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ฮ่องเต้หวู่ทรงนิ่งอึ้งไป เขาตื่นเต้นมากจนแทบลืมเรื่องนี้ไป! เดิมทีฮ่องเต้หวู่คิดจะคัดค้านการแต่งงานนี้อย่างหนักแน่น แต่ปัญหาคือ ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้ถอนทัพแล้ว! และจากความหมายของเซียวเซวียนเช่อ ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยอมถอนทัพเพราะเห็นแก่การแต่งงานนี้ หากเรายังคงคัดค้านต่อไป ข่านแห่งชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนืออาจโกรธจนยกทัพกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้ เรื่องนี้ไม่อาจค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 639

    ไทฮองไทเฮาสีหน้าบึ้ง: “นี่ยังต้องมีอะไรให้ชี้แนะอีก? พระองค์เป็นจักรพรรดิ หรือยังตัดสินใจเองไม่ได้ แล้วต้องมาถามข้ารึ? พระองค์รีบตอบตกลงเถอะ! ไม่อย่างนั้น ถ้าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือโกรธขึ้นมา แล้วบุกเข้ามาอีกจะทำเช่นไรล่ะ?” ฮ่องเต้หวู่หัวเราะ: “เสด็จแม่ พระองค์วางใจเถอะ! หากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกล้ามาบุกอีก จับพวกเขาฆ่าให้ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นส่วนชุดเกราะ!” ไทฮองไทเฮาสีหน้าเคร่งขรึม และกล่าวไม่พอใจ: “เจ้าเก้าน่ะ เห็นจะมีแค่ความเฉลียวฉลาดบ้างก็เท่านั้น พระองค์คิดจะให้เขาออกศึกหรือ? พระองค์ไม่คิดบ้างหรือว่า เขามีฝีมือพอหรือยัง?” “อีกทั้ง การทำสงครามมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ!” “การใช้กำลังทหารอย่างสุดโต่ง ย่อมทำให้ประชาชนลำบาก เสียทรัพยากร!” “จักรพรรดิ การชอบสงครามย่อมทำให้บ้านเมืองล่มจม!” ฮ่องเต้หวู่หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่ถูกต้อง! เสด็จแม่ พระองค์ชอบเจ้าเก้ามากไม่ใช่หรือ? ฟังดูจากคำพูดของพระองค์แล้ว ทำไมดูเหมือนจะไม่พอใจกับเจ้าเก้าล่ะ กลับกลายเป็นว่าเจ้าสี่นั้นอยู่ดี ๆ จู่ ๆ กระแสความคิดเห็นก็พลิกกลับไปอีกด้าน? หรือว่ามีใครนินทาและใส่ร้ายป้ายสีกัน? ฮ่องเต้ห

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1060

    คนคำนวณ มิอาจสู้ฟ้าลิขิต องค์รัชทายาทก่อกบฏ เป็นเรื่องร้ายแรง ด้วยเหตุบังเอิญหลายประการ แผนการกบฏของหลี่เทียนฉี่ล้มเหลว เสิ่นชิงโจวในฐานะราชครู เป็นอาจารย์ของหลี่เทียนฉี่ ย่อมได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เสิ่นชิงโจวเตรียมการไว้ ใช้ทรัพยากรมหาศาล ไม่เพียงแต่รักษาชีวิตตนเอง ยังรักษาชีวิตหลี่เทียนฉี่ และฮองเฮาหลู่พระมารดาเอาไว้ได้ และจากเหตุการณ์นี้เอง... ความผิดหวังของเสิ่นชิงโจวที่มีต่อฮ่องเต้หวู่ ก็ถึงขีดสุด มีข่าวลือว่า ฮ่องเต้หวู่ทรงเย็นชา ไร้หัวใจ เหลวไหล! ผู้เป็นจักรพรรดิ ต้องเด็ดขาด ฮ่องเต้หวู่ทรงมีพระทัยอ่อนโยน เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดี! ทว่า... เสิ่นชิงโจวไม่คาดคิดว่า ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในคุกหลวง นิสัยของฮ่องเต้หวู่ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เป็นแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม? ต้องรู้ว่า... ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้หวู่มีความเคารพตนอย่างมาก ไม่มีทางตะโกนใส่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตำหนิต่อหน้าธารกำนัล ให้ตนเองหุบปากด้วย สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก ฮ่องเต้หวู่อายุมากแล้ว นิสัยไม่อาจเปลี่ยนได้ในทันที นี่มันตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ? “กระหม่อม ขอถวายบังคมฝ่าบาท!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1059

    เสิ่นชิงโจวสองมือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง พยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าเป็นการตอบรับ สมกับเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้! สง่าผ่าเผย! ประชาชนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกทึ่งในใจ หลี่เทียนฉี่และกลุ่มข้าราชการ ก็มีสีหน้าฮึกเหิม ข้าราชการหลายคนยังคงกังวล เสิ่นชิงโจวถูกขังอยู่ในคุกหลวงเป็นเวลานาน ไม่มีข่าวคราว ถึงจะไม่ตาย ก็อาจจะถูกทรมานจนปางตาย ไร้ซึ่งความเฉียบคม ไม่อาจใช้งานได้ วันนี้ได้เห็น เสิ่นชิงโจวที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่มีอารมณ์แจ่มใส แต่ยังคงไว้ซึ่งความหยิ่งทระนง องค์รัชทายาท คราวนี้ ท่านเดินหมากพลาดแล้ว! ท่านจัดการฉินฮั่นหยางและคนอื่นๆ ก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่ท่านกลับให้อาจารย์ของฮ่องเต้ออกจากคุกมาด้วย? ศึกนี้ ท่านแพ้แน่นอน! “หึหึ...” หลี่หลงหลินเผชิญหน้ากับข้อสงสัย ก็หัวเราะเยาะในใจ เสิ่นชิงโจว เจ้าแสร้งทำตัวเป็นผู้สูงส่งเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีน่าเกรงขาม ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจได้จริงๆ! ทุกสิ่งมีราคา เจ้าโอหัง ไม่เห็นใครในสายตา ราคาของมันคืออะไร? หลี่หลงหลินเงยหน้า มองฮ่องเต้หวู่ เป็นไปตามคาด สีหน้าของฮ่องเต้หวู่ มืดครึ้มราวกับฝน ในดวงต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1058

    บนลานหยกขาว เกิดความโกลาหล ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง มองหลี่หลงหลินอย่างประหลาดใจ เจ้าเก้าจะไต่สวนบัณฑิตสิบคนที่นำโดยฉินฮั่นหยางนั้น ยังอยู่ในการคาดการณ์ของฮ่องเต้หวู่ แต่คาดไม่ถึงว่า... บัณฑิตสิบคนยังไม่พอ หลี่หลงหลินยังจะเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามาอีกคน? เขาละโมบเกินไปแล้ว! ต้องรู้ว่า... อาจารย์ของฮ่องเต้ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าเสิ่นชิงโจวจะถูกจับเข้าคุกหลวงเพราะข้อหากบฏ แต่เพราะไม่มีหลักฐาน จะไต่สวนก็ไม่ได้ จะปล่อยก็ไม่ได้ ทำได้เพียงขังไว้! ฮ่องเต้หวู่สีหน้าลังเล มองหลี่หลงหลิน: “เจ้าเก้า เจ้าต้องการไต่สวนเสิ่นชิงโจวจริงๆ หรือ?” บัณฑิตทรงคุณวุฒิสิบคน ก็ยุ่งยากพอแล้ว ยังเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามา เขาคืออดีตราชครูผู้มีอำนาจล้นฟ้า ฮ่องเต้หวู่กลัวว่าหลี่หลงหลินจะรับมือไม่ไหว จึงให้ทางลงแก่เขา หลี่หลงหลินไม่สนใจความหวังดีของฮ่องเต้หวู่ เพียงพยักหน้าอย่างหนักแน่น: “เสด็จพ่อ ครั้งนี้หากไม่กำจัดเสิ่นชิงโจว เกรงว่าจะมีภัยตามมา...” เขาไม่หลีกเลี่ยง สายตาจับจ้องไปที่หลี่เทียนฉี่ หลี่เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1057

    “แต่ไม่ใช่ตอนนี้...” หลี่หลงหลินส่ายหน้า ยิ้มอย่างขมขื่น: “เสด็จพ่อ ลูกยังเยาว์วัย รอได้! แต่ต้าเซี่ยรอได้หรือ? ชาวบ้านที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก รอได้หรือ?” ฮือ! ประชาชนแตกตื่น! ดังที่ฮ่องเต้หวู่เอ่ย หลี่หลงหลินเป็นองค์รัชทายาท ถูกกำหนดให้สืบทอดราชบัลลังก์ ขึ้นครองราชย์ เขาจะรีบร้อนไปไย? เหตุใดเขาจึงต้องกำจัดสำนักปราชญ์? เหตุใดต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งใต้หล้า? หลี่หลงหลินไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่เพื่อพวกเรา ประชาชนทุกคน! ใบหน้าแต่ละคนต่างตกตะลึง ดวงตาแต่ละคู่ เต็มไปด้วยความซาบซึ้งและตื้นตัน ผู้มีอำนาจมักเห็นแก่ตัว ผู้สูงศักดิ์ ล้วนมีนิสัยเหมือนกัน มักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองก่อน ใครจะมาเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน แม้แต่ขุนนางที่เรียกตัวเองว่าขุนนางตงฉิน อ้างตนว่าเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์สุจริต มักจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประชาชน แท้จริงแล้ว พวกเขาก็ทำเพื่อตนเอง คนเราเกิดมา ก็หนีไม่พ้นชื่อเสียงและลาภยศ ขุนนางตงฉินเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการลาภยศ แต่ต้องการชื่อเสียง กล่าวโดยสรุป... ประชาชนสำหรับพวกเขา เป็นเพียงเครื่องมือในการแสวงหาชื่อเสียงและลาภยศ เมื่อผลประ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1056

    “เสด็จพ่อ!” หลี่หลงหลินถอนหายใจ: “ลูก ตีกลองร้องทุกข์ เป็นเรื่องที่จำใจต้องทำ! เพราะผู้ที่ลูกจะร้องฎีกานั้น แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่อาจทำอะไรได้ ยากจะรับมือ” คำพูดนี้ ทำให้ทั่วทั้งลานหยกขาวเกิดความโกลาหล สีหน้าของฮ่องเต้หวู่มืดครึ้ม อัปลักษณ์ถึงขีดสุด เป็นผู้ใด? ที่ทำให้ข้าไม่อาจทำอะไรได้? เจ้าเก้า เจ้ากำลังทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าประชาชน และเหล่าขุนนาง!ฮ่องเต้หวู่สูดลมหายใจลึก: “องค์รัชทายาท! เจ้าพูดให้ชัดเจน ว่าจะร้องฎีกาผู้ใด และข้าจะรับมือไม่ได้อย่างไร!” หลี่หลงหลินพูดอย่างหนักแน่น: “ผู้ที่ลูกจะร้องฎีกา คือสำนักปราชญ์!” สำนักปราชญ์? ทุกคนมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองหลี่หลงหลินพูดชัดเจน เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนหนึ่งหรือสองคน ไม่ใช่เสิ่นชิงโจว ไม่ใช่บัณฑิตทรงคุณวุฒิที่นำโดยฉินฮั่นหยาง แต่เป็นทั้งสำนักปราชญ์ กล่าวคือ... หลี่หลงหลินต้องการสั่นคลอนรากฐานของสำนักปราชญ์! นี่คือการเป็นศัตรูกับบัณฑิตทั้งใต้ทั่วหล้า เป็นศัตรูกับวิถีแห่งปราชญ์! เขาเสียสติไปแล้วหรือ? ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว: “องค์รัชทายาท เจ้า...เจ้าพูดให้ชัดเจน! เจ้าจะร้องฎีกาบั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1055

    เหตุใดเขาจึงตีกลองร้องทุกข์ และเหตุใดจึงพาประชาชนมากมายขนาดนี้เข้ามา หรือว่า... ในสมองของหลายคน ปรากฏภาพที่คุ้นเคย ภาพและบรรยากาศตรงหน้า เหมือนกับตอนที่องค์ชายหกหลี่เซวียนนำทหารก่อกบฏ บุกเข้าวังหลวง ต่างกันตรงที่... ตอนที่หลี่เซวียนก่อกบฏ ยังมีหลี่หลงหลิน ซูเฟิ่งหลิง นำทหารพ่ายศึกของตระกูลซูมาพลิกสถานการณ์! แต่ตอนนี้... หลี่หลงหลินกลับพาชาวบ้านบุกเข้าวังหลวง หมายจะก่อกบฏ! ผู้พิชิตมังกร ในที่สุดก็กลายเป็นมังกรเสียเอง! หลี่เทียนฉี่เป็นคนแรกที่ตอบสนอง จึงตะโกนด่า: “องค์รัชทายาท นี่จะก่อกบฏ! เสด็จพ่อ นี่เป็นการกบฏ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ไม่อาจให้อภัยได้! ขอเสด็จพ่อทรงมีราชโองการ ปลดหลี่หลงหลินจากตำแหน่งองค์รัชทายาท!” ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างเห็นพ้อง: “ฝ่าบาท การกระทำขององค์รัชทายาท เกินไปแล้ว!” “ที่องค์รัชทายาทเหิมเกริมเช่นนี้ เป็นเพราะฝ่าบาททรงโปรดปรานและตามใจ จนเกิดเรื่องในวันนี้!” “ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ครั้งนี้ ต้องลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก!” ฮ่องเต้หวู่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยด้วยเสียงดังกึกก้อง: “พวกเจ้าทุกคนจงเงียบ! พวกเจ้านี่ช่างด่วนส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1054

    ประตูอู่เหมิน ข้างกลองร้องทุกข์ ภายใต้สายตาของชาวบ้านนับพันนับหมื่น หลี่หลงหลินส่งไม้ตีกลองให้ซูเฟิ่งหลิงที่อยู่ข้างๆ สองมือไพล่หลัง เอ่ยด้วยท่าทางหยิ่งผยอง: “เว่ยกงกง พูดอะไรเช่นนี้ ชาวบ้านตีกลองร้องทุกข์ได้ เหตุใดองค์รัชทายาทจะตีไม่ได้?” เว่ยซวินพูดไม่ออก ยืนงงในสายลม จู่ๆ เขาก็คิดถึงองค์ชายเก้าในอดีต กินดื่มเที่ยวเล่น ฟังดนตรีในหอนางโลม ซ่อนคมอย่างสงบ เป็นขยะที่รอวันตาย แล้วตอนนี้ล่ะ? เรื่องที่หลี่หลงหลินทำ ช่างถี่กระชั้น! จากงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาในคืนส่งท้ายปีเก่า ถึงพิธีสักการะฟ้าดินในวันขึ้นปีใหม่ ช่วงปียังไม่ทันผ่านพ้น หลี่หลงหลินก็มาตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา! นี่จะไม่ให้ใครได้พักผ่อนกันสักวันเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น... จุดประสงค์แรกเริ่มของการตั้งกลองร้องทุกข์นี้ ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยทรงตั้งไว้ให้ชาวบ้านที่สิ้นไร้หนทาง ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท จะมีเรื่องอยุติธรรมใด? พระองค์จะมาสร้างเรื่องวุ่นวายอะไร! แม้ในใจเว่ยซวินจะบ่นพึมพำ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “องค์รัชทายาท บ่าวพูดผิดไป! กลองร้องทุกข์นี้ ชาวบ้านตีได้ พระองค์ก็ย่อมตีได้ บ่าวจะกลับ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1053

    เจิ้งถูฮู่ดวงตาเป็นประกาย หัวเราะเสียงดัง: “ไม่มีประโยชน์หรือ? เจ้าจะไปรู้อะไร! พิธีสักการะฟ้าดิน ไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ แต่ตอนนี้มีคนตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา!” “เจ้ารู้กฎของกลองร้องทุกข์หรือไม่?” เจิ้งเทียนฉินส่ายหน้า สีหน้ามึนงง พูดตามตรง เขาไม่รู้จริงๆ ในสำนักศึกษา สอนแต่สี่ตำราห้าคัมภีร์ เรียงความของนักปราชญ์ ไม่สอนเรื่องพวกนี้เลย ที่จริง ตอนเด็กเจิ้งเทียนฉินก็เคยถามอาจารย์ว่า กลองร้องทุกข์มีไว้ทำอะไร ผลก็คือ อาจารย์สีหน้ามืดมน แล้วเอาไม้เรียวมาตีมือเขา การตีกลองร้องทุกข์ ในสายตาของสำนักปราชญ์ คือการที่ไพร่ก่อเรื่อง ในสำนักศึกษา สอนวิถีแห่งปราชญ์ ไม่ใช่สอนให้คนเป็นไพร่ เจิ้งถูฮู่ยิ้มพลางอธิบาย: “ตามกฎที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยตั้งไว้! ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง!” “ยิ่งไปกว่านั้น ชาวบ้านมีสิทธิ์เข้าไปในพระราชวังต้องห้าม เพื่อชมการไต่สวน เป็นการแสดงถึงความยุติธรรม!” เจิ้งเทียนฉินตกตะลึง พระราชวังต้องห้าม สำหรับชาวบ้านทุกคนแล้ว เป็นสถานที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ เขาก็เช่นกัน ตอนเด็ก เจิ้งเทียนฉ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1052

    กลองร้องทุกข์ กลองนี้คือกลองที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยทรงประดิษฐานไว้หน้าประตูอู่เหมิน หากชาวบ้านได้รับความอยุติธรรม ก็สามารถมาตีกลองร้องทุกข์นี้ เพื่อเป็นการยื่นฎีกา ให้เรื่องราวไปถึงเบื้องพระยุคลบาทได้ ทว่า... นับตั้งแต่ก่อตั้งต้าเซี่ยมา จำนวนครั้งที่กลองร้องทุกข์ถูกตีนั้น แทบนับครั้งได้ และล้วนเกิดขึ้นในช่วงต้นของการก่อตั้งอาณาจักร ร้อยปีให้หลังมานี้ กลองร้องทุกข์ไม่เคยถูกตีแม้แต่ครั้งเดียว กลายเป็นเพียงของประดับ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? สาเหตุก็แสนง่ายดาย ทุกครั้งที่กลองร้องทุกข์ดังขึ้น หมายความว่ามีคดีใหญ่สะเทือนฟ้าดินอุบัติขึ้น ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง ทั้งยังมีชาวบ้านและขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงถึงความยุติธรรม นั่นก็หมายความว่า... เมื่อใดก็ตามที่กลองร้องทุกข์ถูกตี ไม่รู้ว่าจะมีขุนนางกี่คนที่ต้องหัวหลุดจากบ่า เลือดนองแผ่นดิน ดังนั้น... เหล่าขุนนางจึงคิดหาวิธี โดยอ้างว่ากลองร้องทุกข์จะรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ไม่เพียงแต่ส่งคนไปเฝ้ากลอง ยังซ่อนไม้ตีกลองเอาไว้ นอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status