ดวงตาของเซียวเม่ยเอ๋อร์ซับซ้อนเล็กน้อยพูดตามตรง นางดูถูกองค์ชายสี่หลี่จือค่อนข้างโง่ เหมือนหัวหมู!แถมยังอายุมาก ไม่มีความหล่อเลยแม้แต่น้อย!เซียวเซวียนเช่อรู้ว่าเซียวเม่ยเอ๋อร์คิดอย่างไร ใบหน้าของเขามืดลง “องค์หญิง มันเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ จะทำตามใจมิได้!”เซียวเม่ยเอ๋อร์รู้สึกจนใจเล็กน้อย เขายักไหล่ “เอาล่ะ! ถ้าองค์ชายสี่หย่ากับแม่นางตู้จริงๆ เช่นนั้นข้าก็จะฝืนใจให้เขาเป็นบ่าวใต้กระโปรงข้า!”หลี่จือก็คือองค์ชายต้าเซี่ยพาเขากลับโม่เป่ย ใช้เขาเป็นวัวเป็นม้า ไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่คนที่อิจฉา!เซียวเม่ยเอ๋อร์คิดเรื่องนี้ก็มีความสุขมากเซียวเซวียนเช่อมีสีหน้าเคร่งขรึม “องค์หญิง มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่านั้น รอสักครู่...”ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของเซียวเม่ยเอ๋อร์ เซียวเซวียนเช่อสั่งให้คนไปหยิบพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกขึ้นมาเขียนจดหมายหลังจากเป่าหมึกให้แห้งแล้ว เซียวเซวียนเช่ออธิบายว่า “นี่เป็นจดหมายลับถึงหัวหน้าเผ่า! องค์หญิงอ่านแล้วโปรดลงตราประทับทองคำด้วย ข้าจะสั่งให้คนขี่ม้าเร็วแปดร้อยลี้มุ่งหน้าไปที่ชายแดนทางเหนือ!”เซียวเม่ยเอ๋อร์รู้สึกปร
ในอดีต หลี่จือไม่ค่อยมาที่สำนักการสังคีตมากนักแต่คราวนี้ หลี่จือรู้สึกอัดอั้นมากจนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากไปที่สำนักการสังคีต เพื่อระบายความโกรธ!“เจ้าเก้า! เจ้าเก้า!”หลี่จือกัดฟัน แล้วกำหมัดแน่น “คราวนี้ เจ้าโดดเด่นอีกแล้ว! เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดกันแน่? ทำไมข้าถึงด้อยกว่าเจ้า? เป็นลูกที่เกิดจากพ่อเดียวกัน ทำไมถึงได้ลำเอียงไปที่เจ้าเสมอ...”ที่มาของความอัดอั้นของหลี่จือ ล้วนมาจากหลี่หลงหลินสัญญาเขาทิศประจิมครั้งนี้หลี่หลงหลินได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง แล้วตบหน้าคณะทูตของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือภายในเวลาเพียงวันเดียว เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง ไม่เพียงแต่ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ในราชสำนักเท่านั้น แต่ยังเริ่มแพร่กระจายในตลาดอีกด้วยไม่ใช่แค่คณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บองค์ชายหลายคนที่กลายเป็นฉากหลัง ทั้งหมดก็กลายเป็นเป้าหมายเปรียบเทียบกับหลี่หลงหลินด้วยเช่นกันในขณะที่หลี่จือกำลังดื่มอยู่ เขาก็ได้ยินแขกโต๊ะข้างๆ พูดคุยกัน“เคยได้ยินหรือไม่ ต้าเซี่ยกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือแตกหักกันแล้ว ทั้งสองแคว้นกำลังจะก่อสงครามกันอีกครั้ง!”
“องค์ชาย...”“ชั่วขณะหนึ่งในพลบค่ำของฤดูใบไม้ผลิมีค่าดั่งทองพันชั่ง ให้ข้าน้อยได้ปรนนิบัติท่านเป็นอย่างดีเถิด”ร่างกายอ่อนนุ่มของหญิงคณิกา ยังคงแนบชิดกับร่างกายของหลี่จือ ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางนั้นดุจผ้าไหมทำให้สติปัญหาของหลี่จือพังทลายลงทันทีตายใต้ดอกโบตั๋น ต่อให้เป็นผีก็ยังสง่างาม!มีเพียงความรู้สึกที่เหลืออยู่เท่านั้นที่เตือนเขาว่าใบหน้าและเสียงของหญิงคณิกาผู้นี้ช่างฟังดูคุ้นเคยนัก!วันรุ่งขึ้นหลี่จือยังคงหลับอยู่ซ่า!อ่างน้ำเย็นเทลงบนศีรษะของเขาหลี่จือยังนอนไม่พอ รู้สึกปวดหัวเหมือนจะฉีกออก ก่อนจะค่อยๆ ลึกขึ้นเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นชายร่างใหญ่ดูดุร้ายหลายคน!ดาบแหลมคมวางอยู่บนคอของหลี่จือหลี่จือตกใจจนฉี่ราดทันที พูดเสียงสั่นเทา “พวกเจ้า...พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของโอรสสวรรค์ พวกเจ้าอย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า!”เสียงแก่เสียงหนึ่งก็เยาะเย้ย “ที่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้าต่างหากองค์ชายสี่!”ชายร่างใหญ่ก้าวออกไป ชายชราในชุดที่หรูหรางดงามก็มาตรงหน้าหลี่จือ“ราชครูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ?”หลี่จือจำได้ว่าอีกฝ่ายคือเซียวเซวียนเช่อ ก็อดไม่
หลี่จือราวกับคว้าได้ฟางช่วยชีวิต พยักหน้าราวกับโขลกกระเทียม “ยินดี ข้ายินดีอย่างแน่นอน!”พูดตามตรงหลี่จือหลงไหลในความงามของเซียวเม่ยเอ๋อร์มานานแล้วไม่อย่างนั้น เมื่อคืนนี้เขาคงไม่ตกหลุมพรางง่ายดายขนาดนั้น!รูปร่างหน้าตาและเสียงของหญิงคณิกาผู้นั้นคล้ายกับเซียวเม่ยเอ๋อร์มากจริงๆ!ในเมื่อทำผิดพลาดไปแล้ว มิสู้ตกกระไดพลอยโจนไปเลยล่ะตนได้แต่งงานกับเซียวเม่ยเอ๋อร์ ให้เขาเป็นอนุของตน มันดีไม่น้อยไม่ใช่หรือ?เซียวเซวียนเช่อพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าตกลงที่จะรับผิดชอบ! องค์หญิงของพวกเราจะเป็นอนุไม่ได้! เจ้ากลับไปหย่ากับชายาเอกของเจ้า แล้วมาสู่ขอองค์หญิง!”หลี่จือตะลึงงันในทันทีหย่ากับชายา?จะทำแบบนั้นได้อย่างไร!แม่นางตู้เป็นสตรีที่มีคุณธรรม ไม่มีข้อบกพร่องอะไรเลยจะให้ตนหย่ากับชายาโดยไร้เหตุผล เขาจะไม่กลายเป็นบุรุษที่ทรยศต่อภรรยา แล้วกลายเป็นที่ตราหน้าของคนนับพันหรือ?แน่นอน ถ้าแม่นางตู้มาจากครอบครัวธรรมดาๆ ก็คงไม่เป็นไร!แต่นางเป็นลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีตู้เหวินยวน!ตู้เหวินยวนและกลุ่มขุนนางคือฐานกำลังพื้นฐานของหลี่จือถ้าหลี่จือหย่ากับชายาจริงๆ ก็เท่ากับแตกหักกับตู้เหวินยวน!ห
เบื้องหลังของหลี่จือ มีตู้เหวินยวนและกลุ่มขุนนางคอยสนับสนุนเดิมทีก็คิดว่าต้องได้ตำแหน่งรัชทายาทแน่นอนแต่คิดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะออกมาสังหารกลางคัน แย่งความโปรดปรานทั้งหมดจากฮ่องเต้ไปตู้เหวินยวนและกลุ่มขุนนาง ก็ถูกหลี่หลงหลินทำให้อับอายขายหน้า ชื่อเสียงและอำนาจลดลงหลี่จือนึกภาพไม่ออกเลยว่าหากตนสูญเสียการสนับสนุนจากตู้เหวินยวนไป มันจะน่าสังเวชขนาดไหน!ในราชสำนัก เรื่องที่ขุนนางทำไม่ได้พวกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทำได้หรือ?หลี่จือยังฉลาดกว่าเจ้าหกหลี่เซวียน เขาไม่เชื่อคำพูดของเซียวเซวียนเช่อง่ายๆเซียวเซวียนเช่อยิ้มเล็กน้อย แล้วโน้มตัวไปข้างหูของหลี่จือ ก่อนจะพูดชื่อหนึ่งออกมาหลี่จือเหมือนถูกฟ้าผ่า แล้วมองไปที่เซียวเซวียนเช่ออย่างเหลือเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ?”เซียวเซวียนเช่อกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่อาจช่วยเจ้าแย่งตำแหน่งฮ่องเต้ได้ แต่ถ้ามีใต้เท้าผู้นี้ล่ะ?”หลี่จือตกตะลึง “เจ้าหมายถึง... เขาจะร่วมมือกับพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”เซียวเซวียนเช่อพยักหน้าเบาๆ ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรดวงตาของหลี่จือยิ่งสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ เขากำหมัดแน่น “ถ้าเป็นเช่นนั้น! ข
แต่หลี่หลงหลินจะบอกอย่างไร?หรือจะให้บอกความจริงที่โหดร้ายนี้กับพวกเขาหรือ?หลี่หลงหลินทำได้เพียงฝืนยิ้ม “น่าจะเร็วๆ นี้...”ทหารผ่านศึกที่พิการจับมือของหลี่หลงหลินไว้แน่น คุกเข่าลงด้วยขาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว ก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณมากองค์ชายเก้า! ได้เงินชดเชยจะดีมากๆ ลูกชายของข้ายังรอที่จะได้สู่ขอภรรยา...”หลี่หลงหลินเห็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้าของเขา หัวใจก็เหมือนถูกมีดกรีดเมื่อเห็นทหารผ่านศึกเดินกะโผลกกะเผลกออกไป ซูเฟิ่งหลิงไม่ได้รู้สึกดีเลย น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม “พวกเขาเป็นวีรบุรุษของต้าเซี่ย! ราชสำนักควรจะต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตของพวกเขา! พวกเขาไม่ควรต้องใช้ชีวิตลำบากขนาดนี้!”“ขุนนางที่คดโกงอย่างตู้เหวินยวนช่างน่ารังเกียจจริงๆ...”“จริงสิ!”“ฮ่องเต้สั่งให้เจ้าตรวจสอบตู้เหวินยวนไม่ใช่หรือ!”“เจ้าตรวจสอบได้ความอย่างไรบ้าง?”หลี่หลงหลินส่ายหัวกล่าวอย่างจนใจ “ตู้เหวินยวน จิ้งจอกเฒ่าคนนี้เจ้าเล่ห์มาก! จนถึงตอนนี้ ก็ยังหาหลักฐานความจริงอะไรไม่เจอเลย!”จริงๆ แล้วตั้งแต่หลี่หลงหลินได้กลายเป็นขุนนางตรวจการ รับกระบี่อาญาสิทธิ์มา ก็แอบตรวจสอบตู้เหวินยวนอย่างลับๆ ม
หลี่หลงหลินจ้องไปที่สมุดบัญชีบนโต๊ะ จมอยู่ในความคิดเป็นเวลานาน!ซูเฟิ่งหลิงกลับมาด้วยอาการหอบ “ไม่มีใครตามทันเลย!”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”แม้ว่าจะตามบัณฑิตวัยกลางคนผู้นั้นทัน ก็น่าจะถามอะไรไม่ได้เรื่องนี้มีลับลมคมในมากเกินไป!หลักฐานที่สามารถโค่นล้มตู้เหวินยวนได้ กลับตกลงมาจากฟ้าถึงในมือเช่นนี้หลี่หลงหลินรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ!“ทำไม? เจ้าโง่ไปแล้วหรือ?”ซูเฟิ่งหลิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติบนสีหน้าของหลี่หลงหลิน “เมื่อครู่ เจ้ายังกระวนกระวายอยู่เลย! หรือว่ามีคนมาทวงหนี้เจ้า?”หลี่หลงหลินชี้ไปที่สมุดบัญชี “เจ้าเอาไปอ่านเองเถอะ!”ซูเฟิ่งหลิงเปิดสมุดบัญชีนั้นด้วยสีหน้าสงสัย“เฮ้ย!”อ่านเพียงครู่เดียว ซูเฟิ่งหลิงก็ตกใจจนลุกขึ้น พูดด้วยความประหลาดใจ “นี่คือ... นี่คือ...”ใบหน้าของหลี่หลงหลินมืดมนดุจน้ำ เอ่ยเสียงเบา “หลักฐานที่โค่นล้มตู้เหวินยวนได้!”ซูเฟิ่งหลิงตื่นเต้นมากจนใบหน้างดงามของนางแดงเรื่อ “ใช่...ใช่แล้ว! สมุดบัญชีนี้มาจากไหน?”หลี่หลงหลินกลอกตามองซูเฟิ่งหลิง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าเอาให้ข้าไม่ใช่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงตะลึงเล็กน้อย “ข้ารู้อยู่แ
หัวใจของหลี่หลงหลินรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันที “เอาล่ะๆ ข้าพูดผิดไป! ไม่ว่าเส้นทางจะยาวไกลสักแค่ไหน จะมีเจ้าและข้าเดินไปด้วยกัน!”ซูเฟิ่งหลิงมีความสุขขึ้นมา “ค่อยยังชั่ว!”วันรุ่งขึ้นประชุมเช้าก่อนรุ่งสาง เหล่าขุนนางและชนชั้นสูงทั้งหมดมารวมตัวกันที่หน้าประตูอู๋เหมิน รอการประชุมเช้าเริ่มต้นขึ้นหลี่หลงหลินที่ปกติแล้วมักจะนอนเกียจคร้านอยู่บ้านวันนี้กลับเป็นครั้งแรกที่เขาสวมชุดปักลายกิเลน มาเข้าร่วมประชุมเช้าตั้งแต่เช้าตรู่“เอ๋?”หลี่หลงหลินก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าหลี่จือก็อยู่ด้วยนอกจากองค์รัชทายาทที่จำเป็นต้องดูแลแคว้นแล้ว ต้องมาประชุมเช้าทุกวันและมาเข้าร่วมตรงเวลาส่วนองค์ชายธรรมดา ไม่จำเป็นต้องเข้าประชุมเช้าทุกครั้งอย่างเช่นหลี่หลงหลิน เขาเองก็มาน้อยครั้งมากหลี่จือเองก็เช่นกันการได้นอนจนเต็มอิ่ม เป็นเรื่องที่มีความสุขไม่ใช่หรือ?แต่หลี่หลงหลินคิดๆ แล้วก็เข้าใจเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากเรื่องของฉินกุ้ยเฟย พี่สี่ก็ถูกโยงเข้าไปเกี่ยว และถูกกักบริเวณไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ถูกยกเลิกการกักบริเวณ ดังนั้นเขาจึงต้องประพฤติตนดีขึ้น เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกของเสด็จพ่อที่มีต
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ