นอกจากเรื่องงานแล้ว ท่านไม่เคยเหยียบเข้ามาในตำหนักเฟิ่งซีเลยหรือ? ถึงแม้หม่อมฉันจะอาศัยอยู่ในตำหนักเฟิ่งซี แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับตำหนักเย็นเลย! หลู่ฮองเฮาทรงรู้สึกเศร้าใจ แต่ก็ยังฝืนยิ้ม “ฝ่าบาท มีเรื่องอะไรหรือเพคะ?” ฮ่องเต้หวู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องของฉินกุ้ยเฟย เราไม่คิดจะเอาความอีกต่อไป!” หลู่ฮองเฮาตกใจ “ฝ่าบาท พระองค์เคยสัญญากับหม่อมฉันแล้วไม่ใช่หรือเพคะ ว่าจะใช้เรื่องไสยศาสตร์เป็นข้ออ้าง ตรวจสอบวังหลัง กวาดล้างสมุนของฉินกุ้ยเฟย! พระองค์เป็นถึงฮ่องเต้หวู่ จะผิดคำพูดได้อย่างไร!” ฮ่องเต้หวู่โกรธขึ้นมา “ใช่! เราผิดคำพูด! แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากเกิดเรื่องไสยศาสตร์ขึ้น จะมีอีกกี่คนที่ต้องตาย? จะมีอีกกี่คนที่ต้องเดือดร้อน ครอบครัวแตกแยก?” “ราชวงศ์ต้าเซี่ยในตอนนี้ บอบช้ำมากพอแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว!” หลู่ฮองเฮาก็โมโหขึ้นเช่นกัน “แต่ว่า นางเป็นคนทำตัวเอง...” ฮ่องเต้หวู่แค่นเสียงเอ่ย พลางมองหลู่ฮองเฮาด้วยสายตาคมกริบ “ในตอนนั้น เจ้าทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมาย ฆ่าคนไปมากมาย เพื่อที่จะให้องค์ชายใหญ่ขึ้นครองราชย์ คนที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากน้ำมือเจ้า พวกเขาทำตัวเองเช่น
สีหน้าของฮ่องเต้หวู่เปลี่ยนไป “ดี! เจ้าเลี้ยงชายชู้ในตำหนักเฟิ่งซีใช่หรือไม่!” หลู่ฮองเฮาตกตะลึง “ไม่มีเพคะ... ฝ่าบาท พระองค์พูดอะไร? ทำไมต้องใส่ร้ายหม่อมฉัน?” ดวงตาของฮ่องเต้หวู่ลุกเป็นไฟ “ถ้าเจ้าไม่ได้เลี้ยงผู้ชายอื่น ทำไมต้องพรมน้ำหอมด้วย? บอกมา! เจ้าปิดบังอะไรเราอยู่!” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลู่ฮองเฮาก็ทรงเข้าใจ ในตอนนั้น ตอนที่พระนางกับฮ่องเต้หวู่ยังรักกันดี ก็เคยมีเรื่องแบบนี้จริง ๆ พูดตามตรง หลู่ฮองเฮาก็ไม่คิดว่า เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ฮ่องเต้หวู่จะยังจำได้! “ฝ่าบาท!” หลู่ฮองเฮาน้ำตาไหลพราก พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย “หม่อมฉันไม่ได้ทำจริง ๆ เพคะ! น้ำหอมนี่แค่...” ตอนแรกพระนางตั้งใจจะบอกความจริง ว่าเป็นแค่น้ำยากันยุงที่หลี่หลงหลินส่งมาให้ แต่หลู่ฮองเฮาเป็นคนฉลาดมาก จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงร้องไห้เสียงดัง “หลายปีมานี้ หม่อมฉันคิดถึงฝ่าบาทตลอด รอให้ฝ่าบาทเสด็จมาที่ตำหนักเฟิ่งซี ให้หม่อมฉันได้ปรนนิบัติฝ่าบาท!” “แต่ฝ่าบาทก็ไม่เคยเสด็จมา...” ฮ่องเต้หวู่ชะงัก เอ่ยเสียงสั่นเครือ “เจ้าหมายความว่า... เจ้ารอเราอยู่ตลอด!” หลู่ฮองเฮาพยักหน้าเบา ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม ฮ่องเต้หว
“ได้ยินมาว่าเป็นน้ำหอมดอกไม้ที่องค์ชายเก้าคิดค้นขึ้น ไม่เพียงแต่มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ยังสามารถไล่ยุงได้อีกด้วย...” “โรคมาลาเรียในวังหลวงระบาดหนัก ได้ยินมาว่ายุงเป็นพาหะ น้ำหอมดอกไม้สามารถไล่ยุงได้!” “ต่อให้ไล่ยุงไม่ได้ ถ้าสามารถทำให้ฮ่องเต้หวู่เสด็จมาได้ ต่อให้แพงแค่ไหนข้าก็ยอมซื้อ!” เหล่าพระสนมต่างก็ตื่นเต้น เที่ยวเสาะแสวงหาสถานที่ที่ขายน้ำหอมดอกไม้นี้ หลี่หลงหลินถือโอกาสนี้ ส่งน้ำหอมดอกไม้ไปให้เว่ยซวินอีกชุดหนึ่ง เว่ยซวินดีใจมาก รีบขึ้นราคาน้ำหอมดอกไม้ แล้วขายให้เหล่าพระสนม หลังจากที่เหล่าพระสนมใช้แล้ว ก็พบว่าน้ำหอมดอกไม้อาจจะไม่ได้ดึงดูดผู้ชาย แต่ไล่ยุงได้ผลดีมาก หลู่ฮองเฮาเป็นแบบอย่างของสตรีทั่วแผ่นดิน สิ่งที่พระนางใช้ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด! ประกอบกับการบอกต่อของเหล่าพระสนม น้ำหอมดอกไม้จึงกลายเป็นกระแส ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในวังหลวง ยังแพร่กระจายออกไปนอกวังอีกด้วย กลุ่มแรกที่ได้รับอิทธิพลจากกระแสนี้ คือกลุ่มชนชั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุตรสาวของขุนนางที่ไม่ค่อยออกจากบ้าน พวกนางอาศัยชื่อของการชุมนุมบทกวี มาพบปะกัน และพูดคุยถึงเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ที
ภายในพริบตา ในวันเปิดรับสมัครของโรงเรียนแพทย์ซีซาน เหล่าสตรีในตระกูลซูต่างแต่งหน้าสวยงาม สวมชุดหรูหรา มาที่เขาประจิมเพื่อให้กำลังใจซุนชิงไต้ ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็มาด้วย นางถือไม้เท้าหัวมังกร สวมชุดคลุมสีแดงสด เป็นที่สะดุดตาอย่างมาก แม้ว่านางจะเป็นผู้หญิง แต่ในวัยเยาว์เคยออกรบ สร้างผลงานมากมาย ชุดคลุมตัวนี้ ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงประทานให้ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก! การที่ฮูหยินผู้เฒ่าซูสวมชุดคลุมตัวนี้ในวันนี้ แสดงให้เห็นว่านางให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากแค่ไหน “ฮ่าฮ่า” “ครั้งที่แล้วที่โรงเรียนทหารซีซานเปิดรับสมัคร ก็มีผู้คนมากมาย คึกคักมาก!” “ข้าพลาดโอกาสนั้นไป ครั้งนี้ต้องชดเชย!” ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ้มแย้มแจ่มใส หัวใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ใช่เจ้าค่ะ” ลั่วอวี้จู๋ในชุดกระโปรงสีขาวสง่างาม ยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ แต่ในใจกลับร้อนรนมาก เมื่อเห็นหลี่หลงหลินเดินมา ลั่วอวี้จู๋ก็รีบดึงเขาไปด้านข้าง พูดด้วยความร้อนใจ “องค์ชาย คราวนี้แย่แล้ว!” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยยิ้ม “แย่อะไร?” ลั่วอวี้จู๋มองเขาอย่างไม่พอใจ “ตอนนี้ยังมีอารมณ์เล่นอีก! ท่านย่าอยากมาดูความคึกคักที่เขาประจิม ห้ามเท่าไหร่ก็ห้ามไม
“องค์ชายเก้า ท่านเองก็ไม่ถูกตลอดไปหรอก!”ลั่วอวี้จู๋สบมองหลี่หลงหลิน สายตามืดมนเดิมทีนางคิดว่า หลี่หลงหลินเป็นบุรุษแปลกหาได้ยากบนโลกใบนี้ ไม่มีสิ่งใดทำไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดไม่รู้จักสรุปคือ หลี่หลงหลินได้รับสืบทอดความมั่นใจในตนเองจากฝ่าบาท คิดว่าเป็นฝ่ายถูกอยู่ตลอดทั้งๆ ที่ตนเองผิดไปแล้ว กลับปากแข็ง ไม่ยอมรับบุรุษเช่นนี้ คู่ควรให้ฝากฝังแน่หรือ?ฮูหยินผู้เฒ่าซูผิดหวังมาก ทอดถอนใจ “เฮ้อ กลับเถอะ...”ตอนนี้เอง เสียงกีบเท้าม้าระลอกหนึ่งดังขึ้นจากไกลๆหมอกและควันคละคลุ้งบนภูเขา ราวกับมีอาชานับหมื่นตัวกำลังควบตะบึงมา งดงามเป็นอย่างมากเห็นรถม้าหรูหรานับสิบกว่าคัน ประชันขันแข่งกัน ไม่มีใครยอมใคร มุ่งหน้ามายังภูเขาทิศประจิมครู่ต่อมารถม้ามาถึงหน้าประตูภูเขาทิศประจิมในที่สุดขุนนางชนชั้นสูงแต่ละคน พาลูกสาวงดงามอรชรของตน ลงจากรถม้าในบรรดาคนเหล่านั้น ไม่เพียงมีคุณหนูสูงศักดิ์ ยังมีท่านหญิง องค์หญิง...แต่ละคนล้วนคือกิ่งทองใบหยก งดงามเป็นอย่างมาก!“นี่ นี่ นี่...”ฮูหยินผู้เฒ่าซูตื่นเต้นมาก พูดจาไม่คล่องแล้ว “ตกลงนี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”ลั่วอวี้จู๋ หลิ่วหรูเยียน ซูเฟิ่งหลิงไปจน
แค่กๆ...หลี่หลงหลินไอสองที กระแอมเสียงให้ใสดีแล้ว สองมือไพล่หลัง มาหยุดต่อหน้าทุกคน สีหน้าบึ้งตึงด้านหน้าภูเขาทิศประจิม บรรยากาศเงียบสงัดหลายร้อยคนปิดปากสนิท ไม่กล้าเปล่งเสียงเหล่าชนชั้นสูงไม่มีกฎไม่มีระเบียบเหล่านั้น แต่ละคนขบเม้มกลีบปาก สั่นเบาๆไม่มีสาเหตุอื่นใดเรื่องแปลกขององค์ชายเก้า โด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง ต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว!เดิมที เป็นเพียงองค์ชายไร้ประโยชน์ไม่ร่ำเรียนไม่มีความสามารถคนหนึ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปี เขาก็ผงาดขึ้นมา กลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ของต้าเซี่ยปราบความไม่สงบขององค์ชายหก ก่อตั้งโรงเรียนทหารซีซาน ยังมีสงครามภูเขาทิศประจิม ใช้ความอ่อนแอเอาชนะความแข็งแกร่ง โจมตีทหารม้าหุ้มเกราะซีเหลียงสามพันนาย!กวีชายแดนสามบท เอาชนะใจบัณฑิตในใต้หล้า ยังสอนจอหงวนออกมาอีกหนึ่งคน!แม้แต่ตัวไร้ประโยชน์จางอี้ ก็เป็นบัณฑิตชั้นสูงได้ ยังถูกแนะนำเป็นรองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร อำนาจสูงเทียมฟ้า!แน่นอนว่า ที่ทำให้เหล่าคุณหนูต่างกริ่งเกรง ยังเป็นชื่อเสียงของหลี่หลงหลิน!ไฟไหม้ตำหนักเย็น ฉินกุ้ยเฟยตายอยู่ภายใน!ได้ยินมาว่าตอนฉินกุ้ยเฟยตาย หลี่หลงหลินเองก็อยู่ในตำ
มาสายปรับหนึ่งร้อยตำลึง?หลี่หลงหลินเองก็โหดเกินไปแล้วกระมัง!หนึ่งร้อยตำลึง เพียงพอให้เลี้ยงดูครอบครัวสามัญชนในเมืองหลวงหลายปีเชียวนะ!หลี่หลงหลินยิ้มเย็น พูดกับหนิงชิงโหว “ไม่มีกฎระเบียบ ไม่มีวันสำเร็จ! หนิงเซิง หยิบกฎระเบียบของโรงเรียนแพทย์ซีซานออกมา!”หนิงชิงโหวเตรียมไว้พรักพร้อมตั้งนานแล้ว ติดไว้บนผนังทุกคนแหงนหน้ามอง สูดหายใจเย็นอย่างอดไม่ได้กฎระเบียบหลักเก้าข้อของโรงเรียน!กฎระเบียบย่อยแปดสิบเอ็ดข้อของโรงเรียน!โทษเบาคือปรับเงิน โทษหนักคือไล่ออก!หนังศีรษะจางเฉวียนชาแล้ว ใบหน้าโศกเศร้าน้ำตาคลอหน่วย “องค์ชายเก้า นี่คือโรงเรียนแพทย์ หรือสถานพินิจกันแน่! ต่อให้เป็นนักโทษภายในคุก ก็ไม่ต้องรักษากฎมากเพียงนี้!”หลี่หลงหลินยิ้มเย็นพูดว่า “พวกเจ้าอยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนก็ไป! ข้ามิได้บังคับพวกเจ้าเสียหน่อย! ตรงข้ามกัน พวกเจ้าต้องคิดให้ดี เข้าภูเขาทิศประจิมแล้ว ต้องรักษากฎระเบียบของภูเขาทิศประจิม!”“นี่ก็เพื่อลูกสาวของพวกเจ้าเอง!”แท้จริงแล้ว มิใช่หลี่หลงหลินเข้มงวด จงใจสร้างความลำบากให้คุณหนูชนชั้นสูงเหล่านี้พวกนางล้วนเติบโตในไหน้ำผึ้ง เกียจคร้านยังนับว่าเบา อุปนิสั
หากเป็นซูเฟิ่งหลิง ได้เห็นท่าทางคนถ่อยได้ใจเช่นนี้ของหลี่หลงหลิน จะต้องโมโห เปลี่ยนสีหน้าเป็นฝ่ายคิดบัญชีอย่างแน่นอนลั่วอวี้จู๋ทัดเส้นผมยาวไว้หลังใบหู เผยพวงแก้มงดงามนุ่มนวล ชี้ไปที่ตั๋วเงินบนโต๊ะ “องค์ชายเก้า นี่คือค่าธรรมเนียมที่หาได้ในวันนี้! ทั้งหมดหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยตำลึง ท่านนับๆ ดู...”ไม่พูดไม่ได้ ค้าขายการศึกษาทำนองนี้ กำไรมหาศาลโดยแท้มิน่าเล่านับพันปีที่ผ่านมาลัทธิขงจื๊อจึงควบคุมสำนักศึกษาเอาไว้ ไม่ยอมแบ่งปันให้ผู้อื่นหนึ่งวันหาเงินได้หนึ่งแสนตำลึง เหลือเชื่อจริงๆ!หลี่หลงหลินไม่มองตั๋วเงิน พูดยิ้มๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านทำงาน ข้าย่อมวางใจ! แต่ท่านตั้งใจเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนา คงไม่คิดเบี้ยวหนี้หรอกกระมัง!”ลั่วอวี้จู๋ถอนหายใจอย่างเอือมระอา “ในเมื่อองค์ชายตอแยไม่เลิก หม่อมฉันทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้แล้วเพคะ”สีหน้าหลี่หลงหลินดีใจมาก “เช่นนั้นท่านเลือกพูดความจริง หรือเสี่ยงดีเล่า?”ลั่วอวี้จู๋ครุ่นคิด พูดว่า “พูดความจริง!”ล้วนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรพูดไม่ได้หรอกกระมังส่วนเสี่ยง หากหลี่หลงหลินให้ตนเองไปทำเรื่องน่าอายอะไร นั่นก็แย่แล้ว!หลี่หลง