เช้าตรู่ตามด้วยท้องฟ้าที่สว่างเจิดจ้าขึ้น ทหารต้าเฉียนก็หยุดการเคลื่อนไหวหลังจากที่ทรมานอยู่ทั้งคืน ถึงแม้มีคนมากมายที่ไม่แม้แต่จะป้องกันตัว ทว่าเมื่อคืนเสียงดังมากจริงๆแทบจะไม่มีผู้ใดสามารถนอนหลับได้เลยบัดนี้ ในที่สุดทหารต้าเฉียนก็หยุดลงแล้วหลังจากที่อาหลู่ไถสั่งให้คนตั้งหม้อทำกับข้าวแล้ว ตนพลันวิ่งกลับเข้าไปในกระโจมเพื่อพักสายตาฟ้าสว่างแล้วพวกเขาไม่ได้หลับได้นอนมาทั้งคืน ทหารต้าเฉียนที่ชายแดนกู้ก็ต้องไม่ได้หลับเหมือนกันแน่นอนตอนนี้ ทหารต้าเฉียนน่าจะไม่มารบกวนแล้วควรนอนพักสักงีบ!ไม่เช่นนั้น เกรงว่าคืนนี้ทหารต้าเฉียนคงต้องมารบกวนอีกเป็นแน่“ไอ้พวกขี้ขลาด ดูซิว่าพวกเจ้าจะทำเช่นนี้ได้อีกนานแค่ไหน!”อาหลู่ไถบ่น แล้วนอนพักในกระโจมทหารส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะนอนหลับพักผ่อนที่กระโจมเหมือนอาหลู่ไถโดยเฉพาะกลุ่มทหารที่อยู่ส่วนกลางเพราะส่วนหน้าและส่วนท้ายยังมีทหารคอยเฝ้าอยู่ หากคนต้าเฉียนจะบุกโจมตีเข้ามา ก็ต้องผ่านกองทหารส่วนหน้าและส่วนท้ายก่อนกองทหารส่วนกลางปลอดภัยมาก ถึงขนาดไม่จำเป็นต้องลาดตระเวนเลยด้วยซ้ำหลังจากไม่ได้หลับมาทั้งคืน คนมากมายเข้าไปในกระโจมได้ไม่นานก็น
ตามด้วยทหารต้าเฉียนที่ฆ่าเข้ามาเรื่อยๆ ฝ่ายอาหลู่ไถนั้นแพ้เรื่องของเวลาหลังจากที่ตู๋กูเช่อนำทัพฆ่าเข้ามาแล้ว ก็สั่งการคนข้างกายว่า “สั่งให้เจิ้งเป่านำคนไปเฝ้าที่ช่องโหว่ซะ ตัดเส้นทางช่วยเหลือของศัตรูที่ประตูเหนือ!”“ขอรับ!”ทหารม้าส่งสาส์นเริ่มส่งสาส์นทันที ธงถ่ายทอดคำสั่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว…ในกระโจมค่ายกองทหารส่วนกลางของเจียเหยา“องค์หญิง ไม่ได้การแล้ว!”ทหารข้างกายรีบเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเจียเหยา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าลนลานว่า “หน่วยสอดแนมจากปีกซ้ายและขวารายงานมาว่า ศัตรูได้ฆ่าเข้าไปในฝ่ายจั่วเสียนอ๋องแล้ว ฝ่ายจั่วเสียนอ๋องเสียหายหนัก…”“อะไรนะ?”สีหน้าของเจียเหยาเปลี่ยน นางลุกขึ้นพรวด “แน่ใจหรือว่าไม่ใช่การโจมตีปลอม?”“ไม่ใช่! ครั้งนี้ไม่ใช่จริงๆ!”ทหารข้างกายเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนรน “หน่วยสอดแนมรายงานกลับมาว่า ฝ่ายจั่วเสียนอ๋องเริ่มจะพ่ายแพ้แล้ว!”พ่ายแพ้!ฝ่ายอาหลู่ไถเริ่มจะพ่ายแพ้แล้ว!เป็นไปได้อย่างไร!อาหลู่ไถป้องกันอย่างไรกัน?พวกเขาทำการป้องกันมากมายเพียงนั้น เหตุใดถึงพ่ายแพ้เร็วเช่นนี้ล่ะ?ฝ่าวงล้อมแล้ว!หยุนเจิงนำทัพฝ่าวงล้อมได้จริงๆ!ในศีรษะของเจียเหยาดังว
ไม่นาน ฐานค่ายของกองทหารปีกขวาเป่ยหวนก็กลายเป็นทะเลเพลิงโชคดีที่เจียเหยาสั่งให้คนแยกระหว่างปีกขวากับกองทหารส่วนกลางออกในทันเวลา ถึงได้ไม่ทำให้ไฟจากปีกขวาลุกลามมาถึงส่วนกลางและปีกซ้ายถึงแม้พวกเขาจะสามารถลดความเสียหายลงได้ แต่ก็เสียกระโจมสำหรับทหารสามหมื่นนายและเสบียงไปสำหรับเป่ยหวนที่ขาดแคลนอาหารอยู่แล้วเป็นเรื่องที่หนักมากอีกอย่าง คนของพวกเขายังมัวไปแยกกระโจมปีกขวาออกจากส่วนกลาง ทำให้พลาดโอกาสฆ่าทหารม้าต้าเฉียนดวงตาของเจียเหยาแดงก่ำ มองดูฐานค่ายปีกขวาที่กลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้วนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้นหิมะแพ้แล้ว!แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็แพ้ให้กับหยุนเจิงอีกอย่าง หลุมพรางตรงหน้านี้ นางเป็นคนขุดให้กับหยุนเจิงด้วยซ้ำแต่สุดท้ายคนที่ตกหลุมพรางนี้กลับเป็นตัวนางเองเสบียงของทหารสามหมื่นนาย ไม่ถือว่ามาก แต่สำหรับเป่ยหวนในตอนนี้นับว่ามีค่ามากอาหลู่ไถ!เพราะอาหลู่ไถสารเลวนี่ทั้งหมด!หากไม่ใช่เพราะพวกเขาพ่ายแพ้เร็วขนาดนั้น ตนจะส่งกองทหารปีกซ้ายขวาไปสนับสนุนฝ่ายอาหลู่ไถได้อย่างไร!หากปีกขวาไม่ว่างเปล่า แล้ววศัตรูจะเข้ามาเผากระโจมและเสบียงของพวกเขาได้อย่างไร!วินาที
“แน่นอนอยู่แล้ว!”หยุนเจิงหัวเราะ แล้วตะโกนต่อทหารที่มารายงานทันทีว่า “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ‘ฆ่าทุกคน ห้ามปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!’”เห็นลูกพลับนิ่มแล้วไม่บีบ นั่นมันคนโง่ไม่ใช่หรือ?ตามด้วยคำสั่งของหยุนเจิง กองทหารใหญ่พลันเคลื่อนไหวทันทีสำหรับทหารม้าแล้ว ระยะทางสิบลี้ไม่ถือว่าไกลมากเมื่อกองทหารใหญ่ของพวกเขาปรากฏอยู่ตรงหน้าทหารเป่ยหวน ทหารเป่ยหวนก็ลนลานขึ้นมาทันทีเผชิญหน้ากับทหารม้าชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายเช่นนี้แล้ว ทหารเป่ยหวนที่ขนส่งสัมภาระเหล่านี้ต้านไม่ไหวเลยจริงๆสงครามง่ายๆ นี้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเค่อแต่ทว่า แม้ว่าทหารเป่ยหวนจะน้อย แต่ก็ไม่ได้ฆ่าให้สิ้นหลังจากสู้กันแล้ว พวกเขาเองก็มีสิบกว่าคนที่บาดเจ็บเช่นกันแต่โชคดีที่มีชุดเกราะป้องกันไว้ ไม่ใช่บาดแผลถึงชีวิตหลังจากที่ทำแผลเบื้องต้นแล้ว หยุนเจิงพวกเขาก็พักผ่อนอยู่ตรงนั้น แล้วใช้ชิ้นส่วนของเครื่องยิงหินมาสร้างไฟเพื่อความอบอุ่น พร้อมฆ่าม้าขนส่งของศัตรูทั้งหมดมาเป็นอาหารถึงแม้พวกเขาจะพกอาหารแห้งมาบ้าง แต่นั่นเอาไว้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้นบัดนี้พวกเขาสามารถหาอาหารได้ ไม่กินก็ฟุ่มเฟือยน่ะสิฉินชีหู่ส่งทหารม้ากลุ่มเ
ล้อมชายแดนเว่ย?พูดน่ะง่ายแต่หากทหารที่ไล่ตามมากล้าล้อมชายแดนเว่ยจริง เขาก็ดีใจแล้วหากเป็นเช่นนั้น ทหารม้าชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายของพวกเขา แม้จะเจอกับศัตรูที่มากกว่าสามเท่าก็ไม่ต้องกลัวแล้วยิ่งไปกว่านั้น ทหารไล่ตามของพวกเขา ไม่มีทางพกเสบียงจำนวนมากมาด้วยแน่นอนในสถานการณ์เช่นนี้ ทหารไล่ตามต้องมีไม่มากอยู่แล้วอย่างมากก็คงจะมีแค่สองสามหมื่นนายเท่านั้นหากยึดชายแดนเว่ยได้ พวกเขาถึงจะพักผ่อนได้อย่างจริงจังพวกเขาทรมานไปทั้งคืนแล้ว วันนี้ก็เดินทางไกลอีก คนและม้าย่อมต้องเหนื่อยล้าอยู่แล้วต้องพักผ่อนให้ดีๆ สักคืนหนึ่งให้ได้“ดังนั้น เจ้าอยากให้คนของเราสวมชุดของคนพวกนี้แล้วบุกเข้าไปในชายแดนเว่ยกะทันหัน เพื่อควบคุมป้อมประตูเมืองนั้นรึ?”ฉินชีหู่ถามยิ้มๆ“อื้ม!”หยุนเจิงพยักหน้า “ตอนนี้ชายแดนเว่ยต้องว่างเปล่าแน่นอน เกรงว่าคงมีไม่ถึงสามพันคนด้วยซ้ำ! เราส่งคนไปสักหนึ่งพันแปดร้อยคนสวมชุดของพวกเขาแล้วโจมตีเข้าไปต้องชนะแน่!”“ก็จริง!”ฉินชีหู่พยักหน้าเห็นด้วยเพื่อล้อมพวกเขาไว้ในชายแดนกู้ กองทหารใหญ่เป่ยหวนน่าจะเคลื่อนพลไปทั้งหมดแล้วเจียเหยาแม้ฝันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถฝ่าวงล้อม
ทุ่งหญ้าเลี้ยงม้า!นี่มันพื้นที่ฝึกม้าศึกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเป่ยหวนเชียวนะตอนยังอยู่ซั่วฟาง เขาก็คิดจะโจมตีทุ่งหญ้าเลี้ยงม้านี้หลายหนแล้วบัดนี้ เขามาถึงที่นี่แล้ว หากไม่ไปอ้อมที่ทุ่งหญ้าเลี้ยงม้าสักหน่อยคงจะเสียโอกาสน่าดู!ทุ่งหญ้าเลี้ยงม้ามีม้าศึกคุณภาพดีอยู่จำนวนมาก พวกเขาทั้งสามารถได้รับม้าศึกเพิ่ม และยังสามารถได้รับเสบียงจากบริเวณรอบๆ ทุ่งหญ้าเลี้ยงม้าด้วย ขณะเดียวกัน ผู้คนยังสามารถหยุดพักผ่อนได้อีกด้วย!ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว!สิ่งเดียวที่ต้องกังวลคือทหารที่ไล่ตามมาจากข้างหลังเท่านั้นหากทหารที่ไล่ตามมาไม่กลัวตาย แล้วมุ่งไปที่บริเวณตรงข้ามหุบผาชันช่องลมอย่างสุดชีวิต รอให้พวกเขายึดม้าศึกจากทุ่งหญ้าเลี้ยงม้าได้สำเร็จ ค่อยฆ่าไปที่บริเวณตรงข้ามของหุบผาชันช่องลม เกรงว่าที่นั่นจะถูกทหารไล่ตามปิดกั้นไว้แล้วดังนั้น เขาถึงอยากซุ่มโจมตีทหารที่ไล่ตามแต่ทว่าไม่มีพื้นทีซุ่มโจมตีต้องคิดหาวิธีใหม่จะไปโจมตีทุ่งหญ้าเลี้ยงม้า ต้องจัดการทหารไล่ตามเสียก่อน ไม่เช่นนั้น ทันทีที่ทหารไล่ตามไปรวมตัวกับทหารที่อยู่บริเวณตรงข้ามหุบผาชันช่องลมเข้า พวกเขาก็จะถูกปิดตายทันทีสามารถโจมตีได
หลังจากได้ยินคำพูดของฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงและเมี่ยวอินพลันสะดุ้งพร้อมกันในใจสุดท้ายก็มาถึงแล้วหรือนี่?รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรฉินชีหู่ก็จะถามเรื่องนี้“ท่านคงไม่ได้จะถามข้าว่าคิดจะก่อกบฏหรือเปล่าหรอกนะ?”หยุนเจิงถามฉินชีหู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ใช่!”ฉินชีหู่เองก็ไม่อ้อมค้อม “เจ้าดูสิ เจ้าเองก็ถือว่าครบคุณสมบัติแล้วไม่ใช่หรือ? ในแง่ของกลยุทธ์ แม้แต่แม่ทัพผ่านศึกอย่างแม่ทัพตู๋กูก็ยังสู้เจ้าไม่ได้ แต่เจ้ากลับแกล้งทำเป็นคนไร้ประโยชน์ในเมืองจักรพรรดิ แล้วยังจะมานำทัพที่ซั่วเป่ยอีก คิดอย่างไรก็ไม่ปกติ”ฉินชีหู่ตรงไปตรงมา แต่ไม่โง่เขลาตอนนี้เขาเองก็เข้าใจแล้วว่ากลยุทธ์แปลกๆ มากมายก่อนหน้านี้ต้องเป็นฝีมือของหยุนเจิงแน่นอน!ไม่เกี่ยวอะไรกับตู้หยวนกุยและเสิ่นลั่วเยี่ยนเลยสักนิด!หยุนเจิงซ่อนตัวเช่นนี้ หากจะบอกว่าไม่มีความคิดก่อกบฏเลย ตีให้ตายฉินชีหู่ก็ไม่เชื่อหรอก!บัดนี้ เขาเพียงแค่อยากได้คำตอบจากหยุนเจิงเท่านั้น!คำตอบที่แน่ชัด!“หากข้าตอบว่าไม่ก่อกบฏ ท่านจะเชื่อหรือไม่?”หยุนเจิงถามยิ้มๆ“เชื่อ!”ฉินชีหู่พยักหน้าโดยไม่คิด“หา?”คำพูดนี้ ทำให้หยุนเจิงมึนงง “ท่านเชื่อใจข้าเพีย
เขาเชื่อว่าหยุนเจิงมีความสามารถในการยึดดินแดนใหม่แน่นอนอีกอย่าง เป่ยหวนในตอนนี้ก็เสียหายอย่างหนักสามารถพูดได้ว่า การที่หยุนเจิงจะยึดดินแดนใหม่มาให้กับต้าเฉียนนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว“หากพ่อเจ้ายกทัพโจมตีเจ้าล่ะ เจ้าจะทำอย่างไร?”ฉินชีหูถามต่อ“แน่นอนว่าต้องเฝ้าด่านเป่ยลู่ให้ได้อยู่แล้ว!”หยุนเจิงยิ้มเบาๆ “ขอแค่ข้าเฝ้าด่านเป่ยลู่ได้ เขาจะยกทัพโจมตีข้า ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว! เขาคงไม่สั่งให้คนโจมตีด่านเป่ยลู่หรอกกระมัง?”“เอ่อ…ก็จริง!”ฉินชีหู่พยักหน้า เขากุมคางครู่หนึ่งแล้วมองหยุนเจิงอย่างจริงจัง “เจ้าสาบานต่อสวรรค์ว่าเจ้าจะไม่ก่อกบฏ! ขอแค่เจ้าไม่ก่อกบฏ ถึงแม้เจ้าจะยึดอำนาจทหารปกป้องตัวเอง ข้าก็ยังจะนับว่าเจ้าเป็นน้อง!”“คำสาบานเป็นสิ่งที่ไร้สาระที่สุด”หยุนเจิงส่ายหน้าหัวเราะ “แต่ข้าสามารถพูดได้ว่า ข้าไม่อยากเป็นจักรพรรดิขนาดนั้นจริงๆ”“จริงหรือ?”ฉินชีหู่สงสัยเขาไม่อยากเป็นจักรพรรดิ?“จริงสิ”หยุนเจิงเอ่ยจริงจัง “จักรพรรดิ ไม่ได้เป็นง่ายขนาดนั้น! ข้าไม่อาจทำตัวเคร่งขรึมเหมือนจักรพรรดิ หากไม่มีใครคิดจะฆ่าข้า ข้าอยากจะเป็นท่านอ๋องสบายๆ เที่ยวเล่นกินดีตลอดชีวิต”วั
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่