แชร์

บทที่ 549

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
ชายแดนเว่ย ค่ายใหญ่เป่ยหวน

ปานปู้พาทหารสนิทกลุ่มหนึ่ง รีบเข้าไปในค่าย

ไม่นาน เมื่อปานปู้เห็นอู้เลี่ย

เมื่อเห็นปานปู้ ในใจอู้เลี่ยทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล รีบพาปานปู้เข้ามาภายในกระโจม

“เป็นเช่นไร?”

อู้เลี่ยทนรอถามผลลัพธ์ไม่ไหว

“ไม่มีอันตราย!”

ปานปู้ตื่นเต้นมาก กล่าวตัวสั่น “ข้านำคนเข้าไปในหุบเขามรณะสามครั้ง ครั้งที่ไกลที่สุด เข้าไปในหุบเขามรณะลึกเกือบห้าสิบลี้ ล้วนไม่พบการลงทัณฑ์จากเทพเจ้า!”

“ดีเหลือเกิน!”

เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดจากปานปู้ อู้เลี่ยดีใจจนแทบจะตะโกนขึ้นฟ้า

หุบเขามรณะไม่มีอันตราย!

ด้านหลังของเป่ยหวนเปิดกว้างให้พวกเขาแล้ว!

ขอแค่พวกเขานำกองทัพบุกเข้าข้างหลังของกองทหารมณฑณทางเหนือ กองทหารมณฑณทางเหนือต้องวุ่นวายครั้งใหญ่!

ถึงเวลานั้น พรมแดนทั้งสองของซั่วเป่ยอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วเท่านั้น!

การรบครั้งนี้ สามารถกำหนดอนาคตได้!

หลังจากพยายามสะกดอารมณ์ตื่นเต้น อู้เลี่ยเรียบบอกแผนการของตัวเองกับปานปู้

เขาคิดแผนไว้เรียบร้อยแล้ว

ขอแค่ยืนยันว่าหุบเขามรณะไม่มีอันตราย สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที!

เขาวางแผนที่จะนำกองทัพส่วนตัวสี่พันคนโจมตีด้านหลังของกองทหารมณฑณทางเหนือ

แต่ก็ต้องจั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 550

    เขาจำเป็นต้องได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม!อีกทั้ง ยังต้องนำทัพเพื่อเอาชนะในสนามนี้ด้วยตัวเอง!หากแผนการนี้สำเร็จ บารมีของเขาก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น!“นี่...”ปานปู้ลังเลไม่สงบ ขมวดคิ้วกล่าว “องค์ชายใหญ่คือว่า...”“ไม่ต้องคิดแล้ว!”อู้เลี้ยตัดบทปานปู้ “ข้าตัดสินใจแล้ว!”ปานปู้ครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็กล่าวกับอู้เลี่ย “หากองค์ชายใหญ่ตัดสินใจนำทับลอบจู่โจมด้วยตนเอง เช่นนั้นองค์ชายใหญ่ต้องระวังให้มาก หยุนเจิงมากเล่ห์เจ้าแผนการ ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่ส่งทหารมาป้องกันที่ปากหุบเขามรณะ! ก่อนที่องค์ชายจะนำกองทัพบุกออกจากหุบเขามรณะ จำเป็นต้องส่งคนไปสำรวจหลายๆ รอบ!”ตอนนี้พวกเขารู้แค่ว่าหุบเขามรณะไม่มีอันตรายผ่านหุบเขามรณะไปจะเจอสถานการณ์เช่นไร พวกเขาเองก็ไม่รู้ภูมิประเทศของหุบเขามรณถือว่าเป็นสถานที่ซุ่มโจมตีอย่างดีหากหยุนเจิงจัดกำลังทหารสามพันห้าร้อยคนไว้ที่ปากหุบเขามรณะ ทัพใหญ่สี่หมื่นคนของพวกเขาก็ไม่มีทางบุกออกไปได้แน่นอนตอนนี้ปานปู้ถูกหยุนเจิงหลอกจนกลัวแล้ว แค่ต้องคิดถึงหยุนเจิง เขายิ่งระวังเป็นพิเศษอู้เลี่ยพยักหน้า จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ราชครูวางใจ ข้าจะเพิ่มความระวังให้มาก!

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 551

    ไม่นาน หยุนเจิงพาคนมาถึงที่ค่ายใหญ่ทางเหนือเวลานี้ หัวหน้าภายในค่ายใหญ่ทางเหนือต่างตื่นตระหนกอย่างมากทหารม้าเป่ยหวนสี่หมื่นคนเชียวนะ!มารดาเขาสิ!คิดไปแล้วก็น่ากลัว“ให้ตายสิ เป่ยหวนหาทหารมากมายเช่นนี้มาจากที่ใด?”“เป่ยหวนบ้าไปแล้วใช่หรือไม่? เขาไม่ต้องการสามเมืองชายแดนแล้ว?”“พวกเขาไม่มีทางละทิ้งสามเมืองชายแดน พวกเขาต้องเรียกรับสมัครนักรบจากชนเผ่าโดยรอบชั่วคราวมาเฝ้าเมืองแน่นอน มิฉะนั้นพวกเขาไม่กล้าทำเช่นนี้!”“อื้ม น่าจะใช่ หากเป่ยหวนเปิดการระดมทหารเต็มรูปแบบ สร้างกองทัพใหญ่สามแสนห้าหมื่นคน ล้วนไม่มีปัญญาแม้แต่น้อย...”หัวหน้าแม่ทัพภายในค่ายปรึกษาหารือกันจนกระทั่งหยุนเจิงเดินเข้ามา ทุกคนจึงหยุดสนทนา พากันยืนขึ้นทำความเคารพ“เอาล่ะ เลิกสนใจมารยาทจอมปลอมเหล่านี้เถอะ!”หยุนเจิงโบกมือ เดินตรงไปนั่งตรงตำแหน่งประมุข “สถานการณ์ข้ารู้แล้ว พวกเจ้าหารือถึงยุทธวิธีรับมือกันต่อ ข้าฟังอยู่!”ห๊า?ให้พวกเขาหารือยุทธวิธีรับมือ?เขาไม่ตัดสินใจหรือ?“บอกความคิดเห็นของตัวเองมาเถอะ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มมุมปาก “คิดสิ่งใดได้ก็พูดสิ่งนั้น องค์ชายกำลังทดสอบพวกเจ้าอยู่!”นางรู้แผนการของ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 552

    “เอาล่ะ เจ้าหุบปากได้แล้ว!”หยุนเจิงยิ้มมองอวี๋ซื่อจง จากนั้นก็สั่งพวกเฝิงอวี้ “พวกเจ้าหารือกันต่อได้!”อวี๋ซื่อจงเดาจุดประสงค์ของกองทัพใหญ่เป่ยหวนได้แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยากถึงเช่นไร อวี๋ซื่อจงก็เคยติดตามเขาไปหุบเขามรณะเขารู้แล้วว่าหุบเขามรณะไม่ใช่สถานที่อันตรายถึงเพียงนั้นเขาสามารถอนุมานได้ว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนจะบุกโจมตีจากทางหุบเขามรณะ นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหลังจากอวี๋ซื่อจงปิดปาก พวกเฝิงอวี้ก็หารือกันต่อหยุนเจิงไม่ได้กล่าวสิ่งใด ให้พวกเขาหารือกันตามสบายเขาอยากเลือกรองผู้บัญชาการที่เหมาะสมสักคนพวกเขาตอนนี้ต้องเฝ้าประจำการณ์ที่ซั่วฟางและสู้ฉวีสองเมือง เขาสามารถดูแลได้ทั้งสองเมืองแต่พื้นที่ด้านหลังมากเกินไป เขาคนเดียวไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดจากสถานการณ์ตอนนี้ ตู้กุยหยวนและอวี๋ซื่อจงต่างก็ไม่เลวทว่า ตู้กุยหยวนมีใจอยากสร้างกองทหารโลหิตขึ้นมาใหม่ เขาไม่สนใจตำแหน่งรองผู้บัญชาการเมื่อเป็นเช่นนี้ อวี๋ซื่อจงก็กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วอืม ค่อยดูกันต่อไปเถอะ!ความจริง หากเสิ่นลั่วเยี่ยนสุขุมอีกสักหน่อย นิสัยไม่ใจร้อนเช่นนี้ ก็สามารถบ่มเพาะได้ทว่า ห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 553

    ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอู้เลี่ยได้นำทัพมารวมตัวประจำการที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าแล้วทว่า ตอนนี้พวกเขาเพียงหยุดพักชั่วคราว ทำท่าทางเหมือนจะบุกไปที่เขาเขี้ยวหมาป่าได้ตลอดเวลายังมีคนส่วนหนึ่ง ถูกเขาส่งไปบริเวณทุ่งหญ้าหม่ามู่เพื่อเก็บเกี่ยวอาหารแห้งแล้วพวกเขาครั้งนี้แค่ลอบโจมตี ไม่อาจพกเสบียงอาหารมากมายเกินไปเสบียงของคนเป็นแค่เรื่องรอง ที่สำคัญคือต้องรับประกันว่าเสบียงอาหารม้าศึกเพียงพอยังดีที่ปานปู้ได้ทำการเตรียมการล่วงหน้าแล้ว ทางนี้เตรียมหญ้าแห้งให้ม้าไว้แล้วบริเวณใกล้หุบเขามรณะ ก็มีชนเผ่าเตรียมหญ้าแห้งและธัญพืชแห้งให้ม้าศึกของพวกเขารอทางนั้นพักผ่อนหนึ่งวัน ก็สามารถบุกเข้าข้างหลังกองทหารมณฑลทางเหนือได้อย่างสบายแล้วขอแค่สามารถยึดคูเมืองได้สักแห่ง แย่งชิงเสบียงอาหารมาได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นหญ้าแห้งของม้าศึกหรือเสบียงสำหรับคน ล้วนจัดสรรได้เพียงพอแล้วการจู่โจมกะทันหันสนามนี้ เขาเตรียมพร้อมรอบด้านอย่างดี!ต้องสำเร็จแน่นอน!เมื่อนึกถึงความสำเร็จที่ได้รับจากการจู่โจมกะทันหัน อู้เลี่ยอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อแผนการนี้สำเร็จ ทั้งเป่ยหวน นอกจากสถานที่สำคัญอย่างด่านเป่ยลู่ ก็ไม่มีคูเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 554

    เพราะลมหนาวพัดแรงในหุบเขา กองหิมะนับว่าไม่ลึกมากส่วนที่หิมะกองน้อยที่สุดก็ยังลึกถึงเอวหิมะกองลึกเช่นนี้ ต้องส่งผลกระทบต่อความเร็วของทหารม้าพวกเขาจำเป็นต้องผ่านหุบเขามรณะ บุกไปยังข้างหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือโดยเร็วที่สุด!หลังจากครุ่นคิดเงียบๆ อู้เลี่ยเรียกนายพันสองคนเข้ามา ออกคำสั่ง “พรุ่งนี้เช้า กองกำลังพวกเจ้าเข้าไปก่อนที่นำทัพใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่หุบเขามรณะ เมื่อพบกองหิมะ เหยียบกองหิมะให้เรียบ!” “นี่...” นายพันหนึ่งในนั้นทำสีหน้ายากลำบาก กล่าวด้วยความระมัดระวัง “องค์ชายใหญ่ สถานที่ที่มีกองหิมะไม่รู้ว่าจะยาวเพียงใด พวกเราแค่สองพันคน เกรงว่า...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบ แสงแวววาวของมีดก็ไหววูบเข้ามาฉับ!มีดโค้งของอู้เลี่ยปาดลงบนคอของนายพันที่กำลังพูดจาผู้นั้นนายพันกุมคอของตัวเองไว้แน่น มองอู้เลี่ยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อเขานึกไม่ถึง เขาแค่กล่าวเพียงประโยคเดียว ก็ยั่วยุจนความตายมาถึงตัวเขาแล้วร่างนายพันที่ตายอย่างไม่ยุติธรรมกองลงไปกับพื้น “ลากออกไป!”อู้เลี่ยโบกมือให้ทหารคนสนิท มองนายพันอีกคนด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ามีปัญหาหรือไม่?”เผชิญกับสายตาอู้เลี่ย นายพันรีบส่ายหน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 555

    ขณะที่เหลือระยะห่างจากหุบเขามรณะและทางออกประมาณสิบลี้ อู้เลี่ยสั่งให้กองทัพใหญ่หยุดชั่วคราว รอข่าวจากนายร้อยข้างหน้าเวลาเพียงไม่นาน นายร้อยส่งคนกลับมารายงาน “รายงานองค์ชายใหญ่ พวกเราพบทัพศัตรูที่ปากหุบเขา!”เมื่อได้ฟังคนกลับมารายงาน หัวใจของอู้เลี่ยพลันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากนั้นก็ถาม “ทัพศตรูมีกี่คน?”ผู้รายงาน “ไม่ถึงหนึ่งร้อย! กำลังต่อสู้กับกองกำลังของเรา”ไม่ถึงหนึ่งร้อย?อู้เลี่ยยินดีปรีดา ตะโกนลั่น “ถ่ายทอดคำสั่ง กองทัพทั้งหมดบุก!”นายกองจั่วต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเคร่ง “องค์ชายใหญ่ ทัพศัตรูเหมือนจะมีการเตรียมพร้อม พวกเราควรรอดูสถานการณ์ก่อนหรือไม่?” “ไม่จำเป็นต้องดูแล้ว!”อู้เลี่ยส่ายหน้าด้วยความมั่นใจ “คนเหล่านั้นคงประจำการอยู่ที่ปากหุบเขา พวกคนที่ขัดขวางไม่ให้นักโทษเหล่านั้นหนีไป! พวกเราจำเป็นต้องบุกออกไปทันที ห้ามพวกเขามีโอกาสกลับไปรายงาน!”อู้เลี่ยไม่สนใจคำเตือนของหัวนายกองจั่วต้า ออกคำสั่งกองทัพบุกอีกครั้ง!”ภายใต้คำสั่งของอู้เลี่ย กองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ยังปากหุบเขาตอนที่ส่วนหน้าของกองทัพใหญ่กำลังจะมุ่งออกจากปากหุบเขา หูของพวกเขาพลันได้ยินเสียงดังกึกก้องอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 556

    “หุบเขาแห่งความตาย พวกเขากล้าใช้เส้นทางผ่านหุบเขาแห่งความตายได้เช่นไร?”เว่ยเหวินจงตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แทบจะไม่กล้าเชื่อทหารส่งสารเขารู้ดีถึงผลที่จะตามมาหากทหารเป่ยหวนบุกเข้าทางด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือแต่เขาไม่กล้าเชื่อ เป่ยหวนจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นึกไม่ถึงจะกล้าใช้เส้นทางผ่านสถานที่ต้องห้ามอย่างหุบเขามรณะมุ่งสู่ด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือเป่ยหวนบ้าไปแล้วกระมัง?พวกเขาไม่รู้หรือว่าหุบเขามรณะเป็นสถานที่เช่นไร?หากพบกับเทพลงทัณฑ์ กองทัพนับหมื่นของพวกเขาจะถูกทำลายอย่างเปล่าประโยชน์ตอนที่เว่ยเหวินจงกำลังสับสน ทหารส่งสารอีกคนหนึ่งก็กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามา“รายงานท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านอ๋องได้รีบส่งกองทัพไปสนับสนุนกองกำลังทหารของสู้ฉวีที่หุบเขามรณะแล้ว! ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยรายงานกับท่านแม่ทัพใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนมุ่งหน้าบุกจู่โจมกะทันหันที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า! ท่านอ๋องเกรงจะต้านทานไม่ไหว ขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ส่งกองกำลังไปสนับสนุน!”เว่ยเหวินจงสีหน้าเปลี่ยน “เจ้าบอกว่า เป่ยหวนมี...กองทัพสี่หมื่นคน?”“ขอรับ!”ทหารส่งสารตอบอย่างกระหืดกระหอบ “ท่านอ๋อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 557

    ได้ฟังคำเว่ยเหวินจง แม่ทัพนายกองพากันพยักหน้าใช่แล้ว!เรื่องเร่งด่วน คือต้องป้องกันหม่าอี้!อีกทั้ง จำเป็นต้องป้องกันหม่าอี้!มิฉะนั้น ภายภาคหน้าของกองทหารมณฆลทางเหนือคือความพ่ายแพ้ย่อยยับ“สามารถโยกย้ายทหารม้าสองหมื่นจากป้อมเมืองสุยหนิง เร่งไปสนับสนุนหุบเขามรณะ!”เวลานี้ มีคนเสนอแนะอีกครั้ง“ไม่ได้!เว่ยเหวินจงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ทหารและม้าของเมืองแนวหน้า ห้ามขยับเด็ดขาด! เป่ยหวนเพิ่มกำลังคนที่เมืองชายแดนกู้ไม่น้อย ทันทีที่กำลังทหารแนวหน้าว่างเปล่า เป็นไปได้สูงว่าเป่ยหวนจะฉวยโอกาสแย่งชิงสองป้อมเมืองแนวหน้า!”คนผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยปากเตือนอีกครั้ง “แต่หากไม่ส่งกำลังสนับสนุนไปหุบเขามรณะ ชีวิตองค์ชายหกก็ไม่อาจรักษาไว้ได้! ถึงเวลานั้นฝ่าบาทไล่เรียงไถ่ถาม...”“เลิกพูดได้แล้ว!”เว่ยเหวินจงตัดบทเขา กดฟันกล่าว “ซั่วฟางมีทหารชาวนาหนึ่งแสนกว่าคน หากไม่ได้จริงๆ องค์ชายกสามารถถอยมาป้องกันเมืองซั่วฟาง! หากองค์ชายหกมีอันต้องสูญเสีย ฝ่าบาทไล่เรียงไถ่ถาม ข้าจะรับผิดชอบเพียงผู้เดียว!”สิ้นเสียงของเว่ยเหวินจง เรื่องนี้ก็ถือว่าตัดสินได้แล้วเว่ยเหวินจงทำเช่นนั้น ก็สามารถเข้าใจได้

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1414

    เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิเหวินทรงตัดสินพระทัยได้แล้ว หยุนลี่ถึงกับดีใจจนแทบกลั้นไว้ไม่อยู่ พยายามเก็บอาการตื่นเต้นไว้ หยุนลี่กล่าวขึ้นว่า “ขอเสด็จพ่อโปรดมีพระบัญชา ให้โจวเต้ากงนำกองกำลังเตรียมพร้อม และเมื่อเจ้าหกมาถึงหัวเมืองสี่ทิศ ให้เข้าควบคุมตัวเจ้าหกทันที! อีกทั้ง ขอพระบัญชาให้จ้าวจี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือ นำทัพทหาร 30,000 นายที่ฝีมือเยี่ยม เข้าประจำการในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของหัวเมืองสี่ทิศอย่างลับๆ” เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนลี่ หัวใจของจักรพรรดิเหวินพลันเย็นเยือก เจ้าลูกทรพี! คิดจะระดมกองทัพจากตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อจัดการเจ้าหกอย่างนั้นหรือ? เขาคิดจะจุดชนวนสงครามกลางเมืองในต้าเฉียนหรืออย่างไร? “การระดมพลจากตะวันตกเฉียงเหนือในตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ทันการ” จักรพรรดิเหวินทรงพยายามระงับพระอารมณ์ ก่อนตรัสว่า “กองกำลังจากตะวันตกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นทหารราบ ต่อให้รีบเร่งเดินทัพมา คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนครึ่ง” หยุนลี่ถึงกับพูดไม่ออก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยุนลี่จึงกล่าวต่อ “เช่นนั้น ขอพระบัญชาให้จ้าวจี้นำทัพทหารม้าชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายมาแทนพ่ะย่ะค่ะ!

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1413

    “ลูก…ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” หยุนลี่ตอบอย่างตะกุกตะกัก เขาไม่รู้จริงๆ ว่าหยุนเจิงมีกำลังทหารในมือมากเพียงใด คนที่เขาส่งไปซั่วเป่ยแทบไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องในกองทัพเลย “ข้าจะบอกเจ้าเอง!” จักรพรรดิเหวินทรงลูบพระนลาฏเบาๆ พระพักตร์เต็มไปด้วยความกังวล “น้องหกของเจ้ามีกำลังพลในมือมากกว่าสองแสนนาย และหากเขาต้องการ ก็สามารถรวบรวมทหารเพิ่มได้อีกหนึ่งแสนนายทันที! ยิ่งไปกว่านั้น กองทัพของชนเผ่าเป่ยหวนและเป่ยหมัวถัวยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา! ข้ากระทั่งสงสัยว่า หากเขาต้องการ เขาสามารถเรียกกองทัพห้าแสนนายมาได้ทันที!” “ห้า…ห้าแสน?” หยุนลี่อ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน กองทัพห้าแสน? เจ้าหก เจ้าคนเลวนั่นสามารถเรียกกองทัพห้าแสนได้ตลอดเวลา? นี่…เป็นไปได้อย่างไร! เจ้าหกจะเลี้ยงกองทัพห้าแสนไหวหรือ? จักรพรรดิเหวินทรงถอนหายใจยาว “เจ้าต้องการนำเจ้าหกกลับเมืองหลวง ข้าไม่ขัดข้อง! แต่เจ้าต้องพิจารณาดู หากเจ้าไม่ประสบความสำเร็จ และยังทำให้เจ้าหก เจ้าลูกทรพีนั่นโกรธขึ้นมา เจ้าจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร?” “นี่…” หยุนลี่ไม่รู้จะตอบคำถามของจักรพรรดิเหวินอย่าง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1412

    ไม่นาน มู่ซุ่นก็พาหยุนลี่เข้ามา “ลูกขอคารวะเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” ทันทีที่หยุนลี่เข้ามา เขาก็คำนับอย่างนอบน้อม จักรพรรดิเหวินทรงพยักหน้าให้หยุนลี่นั่งลง พลางตรัสยิ้มๆ ว่า “ครั้งหน้า หากมีธุระก็ให้มู่ซุ่นปลุกข้าเถิด อย่ายืนรออยู่ด้านนอกนานนัก” “เสด็จพ่อทรงเหนื่อยจากการเดินทาง ลูกยืนรออีกสักหน่อยก็ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ” “ตอนนี้เจ้าก็เริ่มเหมือนรัชทายาทแล้วล่ะ” จักรพรรดิเหวินทรงมองหยุนลี่ด้วยความพอพระทัย “พูดมาเถอะ เจ้าจะมีเรื่องอันใด? บอกมาให้จบก่อน แล้วข้าจะได้สั่งงานเจ้าบ้าง” “ขอเสด็จพ่อทรงบัญชาลูกก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จักรพรรดิเหวินทรงนิ่งตรองเล็กน้อย ก่อนจะทรงโบกพระหัตถ์ให้มู่ซุ่นและนางกำนัลที่คอยรับใช้ในห้องออกไป เมื่อไม่มีผู้ใดเหลืออยู่ จักรพรรดิเหวินจึงตรัสว่า “ครั้งนี้ที่ข้าไปซั่วเป่ย ข้าตั้งใจไปดูมันเทศที่จางซูพูดถึง ข้าถามผู้คนหลายคนแล้ว และมั่นใจว่ามันเทศนั้นให้ผลผลิตสูงมาก! ข้าตั้งใจจะนำมันเทศนั้นเข้ามาปลูกในเขตใน แต่เจ้าหก เจ้าลูกทรพีนั่นกลับบอกว่าต้องมาคุยเรื่องนี้กับเจ้า…” ต้องมาคุยกับตนเอง? เปลือกตาของหยุนลี่กระตุกทันที เขารับรู้ได้ในทันทีว่า เจ้าหก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1411

    ในขณะที่หยุนเจิงกำลังยุ่งอยู่กับการอุทิศตนเพื่อสุขภาพของสตรีทั่วหล้า จักรพรรดิเหวินก็กลับมาถึงหัวเมืองสี่ทิศ มู่ซุ่นเดินทางกลับมาพร้อมกับจักรพรรดิเหวิน เมื่อหยุนลี่ทราบข่าว เขาก็นำคณะขุนนางมารับเสด็จทันที “จากราชสำนักมีใครส่งรายงานมาไหม?” จักรพรรดิเหวินทรงถามถึงเรื่องสำคัญทันทีที่เสด็จกลับมา “มีพ่ะย่ะค่ะ” หยุนลี่รีบรายงาน “เซียวว่านโฉวนำทัพไปช่วยเจียวลู่อ๋องซื่อจื่อปราบปรามกบฏสำเร็จแล้ว แต่พวกเขาช้าก้าวหนึ่ง กัวซื่อนำกองกำลังหลายพันคนหลบหนีไปยังเผ่าต่างๆ ทางหมอซี เจียวลู่อ๋องซื่อจื่อได้ถวายฎีกาต่อราชสำนัก ขอพระราชทานพระราชโองการแต่งตั้งให้เขาสืบตำแหน่งเจียวลู่อ๋อง…” หลังจากการปราบกบฏของกัวซื่อสำเร็จ หนานจ้าวและอวี้หนานในปีนี้ก็แสดงความจงรักภักดีได้ดีขึ้นมาก ทั้งสองแคว้นได้ส่งบรรณาการเข้ามา โดยจำนวนสิ่งของบรรณาการมากกว่าปีก่อนถึงสามส่วน ราชาหนานจ้าวยังได้กราบทูลขอส่งองค์ชายรัชทายาทมายังเมืองหลวงต้าเฉียนเพื่อศึกษาเล่าเรียน การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติในทางใต้กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีกลุ่มผู้ประสบภัยบางคนจุดไฟในหุบเขาเพื่อให้ความอบอุ่น จนเกิดไฟป่าครั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status