"มีแค่สามพันนาย!"หลูซิ่งมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าหมองคล้ำ "ซั่วเป่ยอากาศหนาวเย็นและการทำสงครามติดต่อกัน ทำให้เสบียงขาดแคลนอย่างหนักจริงๆ จึงไม่สามารถหาทหารเพิ่มได้..."เห็นหลูซิ่งในท่าทางทุกข์ใจเช่นนั้นแล้ว หยุนลี่แทบจะฟาดฝ่ามือออกไปช่างหัวยายเจ้าเถอะ!สามพันนายยังบอกน้อย?ทหารม้าชุดเกราะหนักสามพันนาย ถ้าไม่ต้องบุกตีเมือง ก็สามารถเคลื่อนที่อย่างไม่ต้องเกรงกลัวในด่านได้แล้ว!พวกที่ติดตามเจ้าหก ไม่ได้เรื่องสักคน!สารเลวหลูซิ่งนี่ยังอยากให้ราชสำนักส่งเสบียงเสริมให้พวกเขาแน่ๆ?ทำไม คิดจะให้พวกเขาหาทหารม้าชุดเกราะหนักมาหมื่นนายหรือไง?หยุนลี่ด่าทอในใจ แต่บนใบหน้าเขายังคงพยายามฝืนยิ้ม "ปีที่ผ่านมา ต้าเฉียนก็ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาไม่น้อย โชคดีที่ยังสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้""ใช่!"หลูซิ่งกล่าวตามน้ำ แต่ในใจเขากลับกำลังด่าทอรู้เลยว่าองค์รัชทายาทคนนี้เป็นคนขี้เหนียวสุดๆ"อ่อ แล้วน้องหกกับทัพจะมาถึงเมื่อไร?"หยุนลี่ถามต่อ"ใกล้จะมากันถึงแล้ว"หลูซิ่งตอบ "องค์ชายหกนำทัพองครักษ์ของพระองค์และขบวนส่งตัวเจ้าสาวจากเป่ยหวนมาอยู่ข้างหลัง พวกเขาช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย เพราะสินเดิมขององค์หญิง
"พี่สาม! พี่สาม…"หยุนเจิงขี่ม้าพุ่งไปทางหยุนลี่เมื่อเข้าใกล้หยุนลี่ เขาก็รีบลงจากม้า และมองไปที่หยุนลี่ด้วยสีหน้าตื่นเต้นเต็มที่ "พี่สามออกจากเมืองสิบลี้เพื่อมาต้อนรับ ข้ารู้สึกขอบคุณมากจนน้ำตาแทบไหลจริงๆ..."หยุนเจิงรู้สึกตื่นเต้นจริงๆในที่สุดก็เจอเจ้าสามแล้ว!ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงเขาจริงๆมาเถอะ!ดาบใหญ่ของข้ารอที่จะได้ออกศึกแล้ว!"น้องหกพูดอะไรเช่นนี้?"หยุนลี่กุมมือหยุนเจิงแน่น "น้องหกเป็นวีรบุรุษผู้ทำสงครามเพื่อชาติ เป็นแม่ทัพของต้าเฉียน อย่าว่าแต่สิบลี้เลย แม้ร้อยลี้ก็ยังควรทำ!""ขอบคุณพี่สาม!"หยุนเจิงยิ้มแล้วพูดอย่างห่วงใย "พี่สาม ท่านดูเหมือนจะผอมลงนะ..."ผอมหรือ?เมื่อได้ยินคำพูดนี้จากหยุนเจิง หยุนลี่อดไม่ได้ที่จะสบถด่าในใจไอ้สุนัข!ทำไมข้าถึงผอมลง เจ้าไม่รู้หรือ?ไม่ใช่เพราะสุนัขอย่างเจ้าหรอกหรือที่ทำให้ข้าผอมลงเช่นนี้?หยุนลี่ด่าทอในใจ พร้อมตบมือหยุนเจิงเบาๆ "น้องหกดูเหมือนจะคล้ำไปหน่อยนะ"หยุนเจิงยิ้มและตอบ "ข้าออกศึกมาเป็นปีๆ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"ขณะที่พวกเขากำลังพูดกันอยู่นั้น ขุนนางทั้งหลายก็วิ่งเข้ามาทำความเคารพหยุนเจิง ทักทายกันวุ่นวาย"
ฮั่วเหวินจิ้งเองก็ไม่คาดคิดว่าหยุนเจิงจะลงมือทันทีที่มาถึงทว่าในเวลานี้ ฮั่วเหวินจิ้งกลับถอยไม่ได้แล้ว จำต้องฉวยโอกาสนี้โจมตีกลับ“องค์ชายหกทรงทำร้ายขุนนางของราชสำนักต่อหน้าผู้คน เช่นนี้ไม่ใช่การกระทำที่อาจหาญเกินไปหรือ?”“การกระทำขององค์ชายหกในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เสื่อมเสียอำนาจ แต่ยังทำให้แคว้นเป่ยหวนหัวเราะเยาะแคว้นต้าเฉียนของเราอีกด้วย!”“แม้องค์ชายหกจะมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อราชสำนัก แต่หากโอ้อวดในความดีความชอบและไม่สนใจกฎเกณฑ์ราชสำนัก เช่นนี้ย่อมถือเป็นการท้าทายอำนาจโดยตรง…”ในชั่วพริบตา ขุนนางฝ่ายหยุนลี่ก็พากันโจมตีหยุนเจิงอย่างพร้อมเพรียงส่วนขุนนางที่เหลือกลับมีท่าทีเพียงเฝ้าดูสถานการณ์อย่างสนุกสนานผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกว่านี่คือการปะทะกันระหว่างองค์รัชทายาทและหยุนเจิงบุรุษทั้งสองนี้ หนึ่งคือองค์รัชทายาทผู้ปกครองแคว้น อีกหนึ่งคือท่านอ๋องผู้มีอำนาจมากที่สุดในแคว้นต้าเฉียนคนทั้งสองล้วนมีเหตุผลที่จะปะทะกันได้ แต่สำหรับพวกเขา ซึ่งเป็นขุนนางทั่วไปนั้น ไม่อาจเอาตัวเข้าไปพัวพันได้หากพลั้งพลาดเข้าไปเกี่ยวข้อง อาจไม่มีแม้แต่เศษกระดูกให้เหลือรอดในขณะที่หยุนเ
“คนไร้ประโยชน์หรือ?”ทันทีที่คำพูดของหยุนเจิงจบลง สีหน้าของเหล่าขุนนางต่างแปรเปลี่ยนไปทันทีหยุนเจิงกล่าวต่อหน้าผู้คนว่าองค์รัชทายาทหยุนลี่เป็นคนไร้ประโยชน์เช่นนั้นหรือ?ช่างไม่ให้เกียรติองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อย!หยุนลี่เองก็โกรธจัดกับคำพูดของหยุนเจิง ถึงกับอยากฉีกหยุนเจิงออกเป็นชิ้นๆการที่หยุนเจิงถามเช่นนี้ต่อหน้าผู้คน นับเป็นการหยามเกียรติเขาอย่างร้ายแรง!“เช่นนั้นเจ้าลองบอกพี่สามดูสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”หยุนลี่พยายามระงับโทสะไว้ กล่าวด้วยใบหน้ามืดครึ้ม “หากเจ้าบอกไม่ได้ ก็อย่าหาว่าพี่สามไม่เห็นแก่สายเลือด อาจต้องลงโทษเจ้าในความผิดฐานไม่เคารพผู้ใหญ่!”แม้จะถูกหยุนเจิงหยามเกียรติ แต่หยุนลี่ก็ต้องรักษาความสง่างามในฐานะองค์รัชทายาทในเวลานี้ เขาทำได้เพียงรอดูว่าหยุนเจิงจะอธิบายเรื่องนี้เช่นไรหยุนเจิงหัวเราะในใจ ก่อนจะชี้ไปยังกองทหารโลหิตแล้วกล่าวว่า “พี่สาม ท่านคงไม่ได้คิดว่าพวกเขาเป็นองครักษ์ของข้าหรอกนะ?”“แล้วพวกเขาไม่ใช่องครักษ์ของเจ้าหรือ?”หยุนลี่ย้อนถาม “เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้ามาสิ ว่าพวกเขาคือใครกันแน่?”ไอ้สุนัข!คนเหล่านี้เป็นองครักษ์หรือไม่ เขาไม่รู้หรือไร?ยั
เมื่อหยุนเจิงโยนหมวกใบใหญ่ใส่ ฮั่วเหวินจิ้งก็ตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการพูดไปมา จะตกลงไปในกับดักที่หยุนเจิงวางไว้การทำลายแผนการของหยุนเจิงที่จะชนะใจผู้คนในเป่ยหวน นี่คือหมวกใบใหญ่มาก!หากไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ คงไม่มีผลดีอะไรแน่"พูดมาเถอะ เจ้าต้องการอะไร?"หยุนเจิงไม่ให้เวลาฮั่วเหวินจิ้งได้คิดมาก พูดเสียงเย็นและถามกลับทันทีฮั่วเหวินจิ้งอ้ำอึ้งไปสักพัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาจึงก้มหน้าและโค้งตัว "กระหม่อมผิดที่คิดไม่รอบคอบ...""แค่คิดไม่รอบคอบหรือ? ข้าคิดว่าเจ้ามีแผนการบางอย่างแอบแฝง!"หยุนเจิงตะโกนอย่างโกรธเคือง ก่อนจะโบกมือออกไป "มา! จับตัวไอ้คนโกงนี้ไป ให้เสด็จพ่อจัดการ!""พ่ะย่ะค่ะ!"เสิ่นควานรับคำสั่งทันทีและนำคนเข้าไปข้างหน้าในขณะนั้น ฮั่วเหวินจิ้งรู้สึกตกใจและหวาดกลัวมากขึ้น เขาหันไปมองหยุนลี่เพื่อขอความช่วยเหลือ"พอแล้ว พอแล้ว! น้องหกสงบใจหน่อย"หยุนลี่ถูกบังคับให้เข้ามาแก้สถานการณ์ เขายิ้มแย้มพูดว่า "เรื่องนี้จริงๆ แล้วก็เป็นความผิดของข้าและขุนนางท่านอื่นที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันเป็นธรรมเนียมของเป่ยหวน เราก็ต้องให้เกียรติตามนั้น ส
เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง หยุนลี่รู้สึกหนาวเย็นในใจข่มขู่!ชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่!เขาก็ไม่ใช่คนโง่!ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวน ไม่ใช่คำสั่งของหยุนเจิงหรือ?หากพวกเขาไม่ยอมให้หยุนเจิงพาพวกทหารเกราะหนักสามพันนายไป ไอ้หมอนี่ก็จะใช้ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวนสร้างปัญหาแน่!ถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่ขุนนางในที่นั้นที่ตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ความปลอดภัยของเขาในฐานะองค์รัชทายาทก็อาจตกอยู่ในอันตราย!ดีไม่ดีเขาอาจจะต้องจบชีวิตที่นี่เลย!แล้วจากนั้นเขาจะโยนความผิดทั้งหมดไปที่ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวน ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเป่ยหวนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับหยุนเจิงเลย!ไอ้หมอนี่ ยังเหมือนเดิม สันดานเจ้าเล่ห์!"น้องหก อย่าคิดมากไป พี่สามไม่มีความคิดแบบนั้นเลย!"หยุนลี่ฝืนยิ้มออกมา "เป่ยหวนเพิ่งจะยอมจำนน หลายๆ คนคงยังไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พี่สามจึงคิดว่าเจ้าต้องใช้ทหารเกราะหนักสามพันนายในการข่มขู่พวกเขา!"พูดจบ หยุนลี่ก็ทำสีหน้าดุดันและโบกมือออกไป "มา! จับฮั่วเหวินจิ้งเดี๋ยวนี้! ควบคุมตัวไปเมืองหลวงและส่งให้กรมสอบสวน!"แม้ว่านี่จะเท่ากับการตบหน้าตัวเอง แต่ยังดีกว่าเสียหน้าจริ
หยุนเจิงมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ทั้งโลกก็รู้ว่าจางซูเป็นคนของข้า ตอนนี้เจ้าเอาจางซูไปกักขังไว้ในเมืองหลวง เจ้าคิดว่าข้าจะยอมรับได้หรือ?""เจ้าพูดแบบนั้นไม่ถูกแล้ว"เมื่อพูดถึงจางซู หยุนลี่รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย พร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์ "จางซูเองอยากอยู่ในเมืองหลวง แต่อยู่ดีๆ เจ้าจะมาหาว่าข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? เจ้าดูสิ เจ้าคิดว่าเอาจางซูมาเป็นพี่น้องกับเจ้าขนาดนี้ แต่วันแต่งงานกับเจียเหยา จางซูกลับไม่ถามอะไรเลย?"การขัดขวางหยุนเจิง ทำให้หยุนลี่รู้สึกสะใจ หมาน้อย เจ้าได้ใจมากไม่ใช่หรือฦเจ้าก็มีวันนี้?“ดีที่สุดก็ให้มันเป็นเช่นนั้น!"หยุนเจิงหน้าเครียดขึ้น เตือนเสียงต่ำ "ถ้าจางซูเลือกที่จะอยู่ในเมืองหลวง ข้าก็ไม่พูดอะไร แต่ถ้าข้าหาเจอว่าจางซูถูกเจ้ากักขังในเมืองหลวง ไม่ว่าเสด็จพ่อจะออกมาช่วยอย่างไรก็ไม่ช่วย!""เช่นนั้นก็ไปตรวจสอบดูซะ!" หยุนลี่ไม่สะทกสะท้าน ยิ้มเยาะเย้ยอยู่บนใบหน้า"ข้าจะไปตรวจสอบให้ได้!"หยุนเจิงแค่นเสียงเหอะเบาๆ "อ้อ มีเรื่องที่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยด้วย"“เจ้าจิ้งเป่ยอ๋องยังมีเรื่องมาขอข้า?”หยุนลี่ทำท่าทางตกใจ "บอกมาเถอะ มีอะไร?"ช่วยเขา? แน
“รายงาน! รายงานด่วน! มีตั๊กแตนระบาดหนักในเป่ยหวน เป่ยหวนได้รวบรวมกำลังทหารม้าเหล็กจำนวนสองแสนนายที่ชายแดน ราชครูแห่งเป่ยหวนได้นำทัพด้วยตนเองมุ่งมาทางเมืองหลวงเพื่อขอเสบียง อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้วขอรับ!”“มาขอเสบียงต้องใช้กำลังพลทหารม้าเหล็กสองแสนนายเลยรึ เป่ยหวนสมควรตาย นี่มันกำลังข่มขู่ข้าชัดๆ!”“ฝ่าบาท ราชวงศ์ของเราเพิ่งประสบกับคดีที่องค์รัชทายาทกบฏ ภายในไม่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง เวลานี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเปิดศึกกับเป่ยหวนได้นะพ่ะย่ะค่ะ”“มีราชโองการ: ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ขุนนางในราชสำนักเร่งมาที่พระราชวังเพื่อประชุมด่วน หากผู้ใดล่าช้า มีโทษประหาร!”...ณ ที่พำนักขององค์ชายหก เรือนปี้ปัว ราชวงศ์ต้าเฉียน หยุนเจิ้งนั่งอยู่คนเดียวที่ศาลาในสวนแม้ว่าเขาจะยอมรับความจริงเรื่องทะลุมิติเวลามาได้แล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อยเหตุใดจึงทะลุมิติเวลามาอยู่ในร่างขององค์ชายที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้เล่า!ที่สำคัญคือ คนผู้นี้ยังบังเอิญได้รับจดหมายเลือดที่องค์รัชทายาททิ้งไว้เพื่อเปิดโปงเรื่ององค์ชายสามกล่าวหาว่าองค์รัชทายาทก่อกบฏ หลังจากนั้นก็ทำให้เขาถูกองค์ชายสามจับตามองอยู
หยุนเจิงมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ทั้งโลกก็รู้ว่าจางซูเป็นคนของข้า ตอนนี้เจ้าเอาจางซูไปกักขังไว้ในเมืองหลวง เจ้าคิดว่าข้าจะยอมรับได้หรือ?""เจ้าพูดแบบนั้นไม่ถูกแล้ว"เมื่อพูดถึงจางซู หยุนลี่รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย พร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์ "จางซูเองอยากอยู่ในเมืองหลวง แต่อยู่ดีๆ เจ้าจะมาหาว่าข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? เจ้าดูสิ เจ้าคิดว่าเอาจางซูมาเป็นพี่น้องกับเจ้าขนาดนี้ แต่วันแต่งงานกับเจียเหยา จางซูกลับไม่ถามอะไรเลย?"การขัดขวางหยุนเจิง ทำให้หยุนลี่รู้สึกสะใจ หมาน้อย เจ้าได้ใจมากไม่ใช่หรือฦเจ้าก็มีวันนี้?“ดีที่สุดก็ให้มันเป็นเช่นนั้น!"หยุนเจิงหน้าเครียดขึ้น เตือนเสียงต่ำ "ถ้าจางซูเลือกที่จะอยู่ในเมืองหลวง ข้าก็ไม่พูดอะไร แต่ถ้าข้าหาเจอว่าจางซูถูกเจ้ากักขังในเมืองหลวง ไม่ว่าเสด็จพ่อจะออกมาช่วยอย่างไรก็ไม่ช่วย!""เช่นนั้นก็ไปตรวจสอบดูซะ!" หยุนลี่ไม่สะทกสะท้าน ยิ้มเยาะเย้ยอยู่บนใบหน้า"ข้าจะไปตรวจสอบให้ได้!"หยุนเจิงแค่นเสียงเหอะเบาๆ "อ้อ มีเรื่องที่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยด้วย"“เจ้าจิ้งเป่ยอ๋องยังมีเรื่องมาขอข้า?”หยุนลี่ทำท่าทางตกใจ "บอกมาเถอะ มีอะไร?"ช่วยเขา? แน
เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง หยุนลี่รู้สึกหนาวเย็นในใจข่มขู่!ชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่!เขาก็ไม่ใช่คนโง่!ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวน ไม่ใช่คำสั่งของหยุนเจิงหรือ?หากพวกเขาไม่ยอมให้หยุนเจิงพาพวกทหารเกราะหนักสามพันนายไป ไอ้หมอนี่ก็จะใช้ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวนสร้างปัญหาแน่!ถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่ขุนนางในที่นั้นที่ตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ความปลอดภัยของเขาในฐานะองค์รัชทายาทก็อาจตกอยู่ในอันตราย!ดีไม่ดีเขาอาจจะต้องจบชีวิตที่นี่เลย!แล้วจากนั้นเขาจะโยนความผิดทั้งหมดไปที่ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของเป่ยหวน ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเป่ยหวนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับหยุนเจิงเลย!ไอ้หมอนี่ ยังเหมือนเดิม สันดานเจ้าเล่ห์!"น้องหก อย่าคิดมากไป พี่สามไม่มีความคิดแบบนั้นเลย!"หยุนลี่ฝืนยิ้มออกมา "เป่ยหวนเพิ่งจะยอมจำนน หลายๆ คนคงยังไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พี่สามจึงคิดว่าเจ้าต้องใช้ทหารเกราะหนักสามพันนายในการข่มขู่พวกเขา!"พูดจบ หยุนลี่ก็ทำสีหน้าดุดันและโบกมือออกไป "มา! จับฮั่วเหวินจิ้งเดี๋ยวนี้! ควบคุมตัวไปเมืองหลวงและส่งให้กรมสอบสวน!"แม้ว่านี่จะเท่ากับการตบหน้าตัวเอง แต่ยังดีกว่าเสียหน้าจริ
เมื่อหยุนเจิงโยนหมวกใบใหญ่ใส่ ฮั่วเหวินจิ้งก็ตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการพูดไปมา จะตกลงไปในกับดักที่หยุนเจิงวางไว้การทำลายแผนการของหยุนเจิงที่จะชนะใจผู้คนในเป่ยหวน นี่คือหมวกใบใหญ่มาก!หากไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ คงไม่มีผลดีอะไรแน่"พูดมาเถอะ เจ้าต้องการอะไร?"หยุนเจิงไม่ให้เวลาฮั่วเหวินจิ้งได้คิดมาก พูดเสียงเย็นและถามกลับทันทีฮั่วเหวินจิ้งอ้ำอึ้งไปสักพัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาจึงก้มหน้าและโค้งตัว "กระหม่อมผิดที่คิดไม่รอบคอบ...""แค่คิดไม่รอบคอบหรือ? ข้าคิดว่าเจ้ามีแผนการบางอย่างแอบแฝง!"หยุนเจิงตะโกนอย่างโกรธเคือง ก่อนจะโบกมือออกไป "มา! จับตัวไอ้คนโกงนี้ไป ให้เสด็จพ่อจัดการ!""พ่ะย่ะค่ะ!"เสิ่นควานรับคำสั่งทันทีและนำคนเข้าไปข้างหน้าในขณะนั้น ฮั่วเหวินจิ้งรู้สึกตกใจและหวาดกลัวมากขึ้น เขาหันไปมองหยุนลี่เพื่อขอความช่วยเหลือ"พอแล้ว พอแล้ว! น้องหกสงบใจหน่อย"หยุนลี่ถูกบังคับให้เข้ามาแก้สถานการณ์ เขายิ้มแย้มพูดว่า "เรื่องนี้จริงๆ แล้วก็เป็นความผิดของข้าและขุนนางท่านอื่นที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันเป็นธรรมเนียมของเป่ยหวน เราก็ต้องให้เกียรติตามนั้น ส
“คนไร้ประโยชน์หรือ?”ทันทีที่คำพูดของหยุนเจิงจบลง สีหน้าของเหล่าขุนนางต่างแปรเปลี่ยนไปทันทีหยุนเจิงกล่าวต่อหน้าผู้คนว่าองค์รัชทายาทหยุนลี่เป็นคนไร้ประโยชน์เช่นนั้นหรือ?ช่างไม่ให้เกียรติองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อย!หยุนลี่เองก็โกรธจัดกับคำพูดของหยุนเจิง ถึงกับอยากฉีกหยุนเจิงออกเป็นชิ้นๆการที่หยุนเจิงถามเช่นนี้ต่อหน้าผู้คน นับเป็นการหยามเกียรติเขาอย่างร้ายแรง!“เช่นนั้นเจ้าลองบอกพี่สามดูสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”หยุนลี่พยายามระงับโทสะไว้ กล่าวด้วยใบหน้ามืดครึ้ม “หากเจ้าบอกไม่ได้ ก็อย่าหาว่าพี่สามไม่เห็นแก่สายเลือด อาจต้องลงโทษเจ้าในความผิดฐานไม่เคารพผู้ใหญ่!”แม้จะถูกหยุนเจิงหยามเกียรติ แต่หยุนลี่ก็ต้องรักษาความสง่างามในฐานะองค์รัชทายาทในเวลานี้ เขาทำได้เพียงรอดูว่าหยุนเจิงจะอธิบายเรื่องนี้เช่นไรหยุนเจิงหัวเราะในใจ ก่อนจะชี้ไปยังกองทหารโลหิตแล้วกล่าวว่า “พี่สาม ท่านคงไม่ได้คิดว่าพวกเขาเป็นองครักษ์ของข้าหรอกนะ?”“แล้วพวกเขาไม่ใช่องครักษ์ของเจ้าหรือ?”หยุนลี่ย้อนถาม “เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้ามาสิ ว่าพวกเขาคือใครกันแน่?”ไอ้สุนัข!คนเหล่านี้เป็นองครักษ์หรือไม่ เขาไม่รู้หรือไร?ยั
ฮั่วเหวินจิ้งเองก็ไม่คาดคิดว่าหยุนเจิงจะลงมือทันทีที่มาถึงทว่าในเวลานี้ ฮั่วเหวินจิ้งกลับถอยไม่ได้แล้ว จำต้องฉวยโอกาสนี้โจมตีกลับ“องค์ชายหกทรงทำร้ายขุนนางของราชสำนักต่อหน้าผู้คน เช่นนี้ไม่ใช่การกระทำที่อาจหาญเกินไปหรือ?”“การกระทำขององค์ชายหกในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เสื่อมเสียอำนาจ แต่ยังทำให้แคว้นเป่ยหวนหัวเราะเยาะแคว้นต้าเฉียนของเราอีกด้วย!”“แม้องค์ชายหกจะมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อราชสำนัก แต่หากโอ้อวดในความดีความชอบและไม่สนใจกฎเกณฑ์ราชสำนัก เช่นนี้ย่อมถือเป็นการท้าทายอำนาจโดยตรง…”ในชั่วพริบตา ขุนนางฝ่ายหยุนลี่ก็พากันโจมตีหยุนเจิงอย่างพร้อมเพรียงส่วนขุนนางที่เหลือกลับมีท่าทีเพียงเฝ้าดูสถานการณ์อย่างสนุกสนานผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกว่านี่คือการปะทะกันระหว่างองค์รัชทายาทและหยุนเจิงบุรุษทั้งสองนี้ หนึ่งคือองค์รัชทายาทผู้ปกครองแคว้น อีกหนึ่งคือท่านอ๋องผู้มีอำนาจมากที่สุดในแคว้นต้าเฉียนคนทั้งสองล้วนมีเหตุผลที่จะปะทะกันได้ แต่สำหรับพวกเขา ซึ่งเป็นขุนนางทั่วไปนั้น ไม่อาจเอาตัวเข้าไปพัวพันได้หากพลั้งพลาดเข้าไปเกี่ยวข้อง อาจไม่มีแม้แต่เศษกระดูกให้เหลือรอดในขณะที่หยุนเ
"พี่สาม! พี่สาม…"หยุนเจิงขี่ม้าพุ่งไปทางหยุนลี่เมื่อเข้าใกล้หยุนลี่ เขาก็รีบลงจากม้า และมองไปที่หยุนลี่ด้วยสีหน้าตื่นเต้นเต็มที่ "พี่สามออกจากเมืองสิบลี้เพื่อมาต้อนรับ ข้ารู้สึกขอบคุณมากจนน้ำตาแทบไหลจริงๆ..."หยุนเจิงรู้สึกตื่นเต้นจริงๆในที่สุดก็เจอเจ้าสามแล้ว!ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงเขาจริงๆมาเถอะ!ดาบใหญ่ของข้ารอที่จะได้ออกศึกแล้ว!"น้องหกพูดอะไรเช่นนี้?"หยุนลี่กุมมือหยุนเจิงแน่น "น้องหกเป็นวีรบุรุษผู้ทำสงครามเพื่อชาติ เป็นแม่ทัพของต้าเฉียน อย่าว่าแต่สิบลี้เลย แม้ร้อยลี้ก็ยังควรทำ!""ขอบคุณพี่สาม!"หยุนเจิงยิ้มแล้วพูดอย่างห่วงใย "พี่สาม ท่านดูเหมือนจะผอมลงนะ..."ผอมหรือ?เมื่อได้ยินคำพูดนี้จากหยุนเจิง หยุนลี่อดไม่ได้ที่จะสบถด่าในใจไอ้สุนัข!ทำไมข้าถึงผอมลง เจ้าไม่รู้หรือ?ไม่ใช่เพราะสุนัขอย่างเจ้าหรอกหรือที่ทำให้ข้าผอมลงเช่นนี้?หยุนลี่ด่าทอในใจ พร้อมตบมือหยุนเจิงเบาๆ "น้องหกดูเหมือนจะคล้ำไปหน่อยนะ"หยุนเจิงยิ้มและตอบ "ข้าออกศึกมาเป็นปีๆ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"ขณะที่พวกเขากำลังพูดกันอยู่นั้น ขุนนางทั้งหลายก็วิ่งเข้ามาทำความเคารพหยุนเจิง ทักทายกันวุ่นวาย"
"มีแค่สามพันนาย!"หลูซิ่งมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าหมองคล้ำ "ซั่วเป่ยอากาศหนาวเย็นและการทำสงครามติดต่อกัน ทำให้เสบียงขาดแคลนอย่างหนักจริงๆ จึงไม่สามารถหาทหารเพิ่มได้..."เห็นหลูซิ่งในท่าทางทุกข์ใจเช่นนั้นแล้ว หยุนลี่แทบจะฟาดฝ่ามือออกไปช่างหัวยายเจ้าเถอะ!สามพันนายยังบอกน้อย?ทหารม้าชุดเกราะหนักสามพันนาย ถ้าไม่ต้องบุกตีเมือง ก็สามารถเคลื่อนที่อย่างไม่ต้องเกรงกลัวในด่านได้แล้ว!พวกที่ติดตามเจ้าหก ไม่ได้เรื่องสักคน!สารเลวหลูซิ่งนี่ยังอยากให้ราชสำนักส่งเสบียงเสริมให้พวกเขาแน่ๆ?ทำไม คิดจะให้พวกเขาหาทหารม้าชุดเกราะหนักมาหมื่นนายหรือไง?หยุนลี่ด่าทอในใจ แต่บนใบหน้าเขายังคงพยายามฝืนยิ้ม "ปีที่ผ่านมา ต้าเฉียนก็ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาไม่น้อย โชคดีที่ยังสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้""ใช่!"หลูซิ่งกล่าวตามน้ำ แต่ในใจเขากลับกำลังด่าทอรู้เลยว่าองค์รัชทายาทคนนี้เป็นคนขี้เหนียวสุดๆ"อ่อ แล้วน้องหกกับทัพจะมาถึงเมื่อไร?"หยุนลี่ถามต่อ"ใกล้จะมากันถึงแล้ว"หลูซิ่งตอบ "องค์ชายหกนำทัพองครักษ์ของพระองค์และขบวนส่งตัวเจ้าสาวจากเป่ยหวนมาอยู่ข้างหลัง พวกเขาช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย เพราะสินเดิมขององค์หญิง
ในระยะไกล กลุ่มควันและฝุ่นดินโหมกระจายปกคลุมพื้นดินเมื่อมองเห็นควันฝุ่นที่กลิ้งตัวเข้ามาใกล้ หยุนลี่พยายามปรับสีหน้าของตนให้สงบนิ่งแม้ในใจเขาจะอยากฉีกหยุนเจิงเป็นชิ้นๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าขุนนางจำนวนมาก เขาก็ต้องบังคับตัวเองให้ยิ้มออกมาอย่างไรเสีย เขาไม่อาจเปิดเผยความขัดแย้งกับหยุนเจิงต่อหน้าขุนนางเหล่านี้ได้เมื่อหยุนเจิงและกองกำลังของเขาเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนไม่มีใครรู้ว่าหยุนเจิงนำคนมามากเท่าใดแต่เพียงแค่สัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน ทุกคนก็รู้ได้ทันทีว่า จำนวนคนที่หยุนเจิงนำมานั้นไม่ใช่น้อยนี่คือเสียงของกองทหารม้าจำนวนมหาศาลที่กำลังเคลื่อนพล!ในเวลานี้ นอกจากหยุนลี่แล้ว คนที่รู้สึกอึดอัดใจที่สุดคงไม่พ้นโจวเต้ากงเพียงแค่ได้ยินเสียงการเคลื่อนพลนี้ เขาก็รู้สึกว่า การจับกุมหยุนเจิงในครั้งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้กองทหารม้ามากมายถึงเพียงนี้ ต่อให้แยกกำลังออกมาสักพันนายเพื่อคุ้มกันหยุนเจิงหนี ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายและหากหยุนเจิงหลบหนีไปได้จริง เขาก็คงต้องเตรียมโลงศพไว้ให้ตัวเองและครอบครัวเสียแล้วในขณะที่โจวเต้ากงกำลังวิตกกังวลอยู่นั้น กองหน้า
ขณะที่หยุนลี่กำลังคิดอย่างโกรธเคืองอยู่ในใจ ทหารสอดแนมที่เขาส่งไปก็กลับมารายงาน"ขอถวายบังคมองค์รัชทายาท องค์ชายหกและพวกของเขากำลังมาถึงที่นี่แล้ว ห่างจากที่นี่ไม่ถึงสิบลี้ อีกอย่าง..."ทหารสอดแนมที่กลับมาหยุดพูดไปทันที"อีกอย่างอะไร?"หยุนลี่มองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็นทหารสอดแนมมองหน้าหยุนลี่อย่างระมัดระวัง ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนเบา "องค์ชายหกได้นำทหารที่สวมเกราะหนักมา...""อะไรนะ?"สีหน้าของหยุนลี่เปลี่ยนไปทันที "เจ้ามั่นใจว่าเป็นทหารม้าชุดเกราะหนักหรือ?""มั่นใจพ่ะย่ะค่ะ!""มีกี่คน?""จำนวนไม่แน่ชัด แต่ไม่น่าจะต่ำกว่าสองพันคน..."สองพันคน... มากกว่าสองพันคน?เมื่อได้ยินการรายงานนี้ สีหน้าของหยุนลี่ก็เปลี่ยนไปเป็นเขียวอย่างชัดเจนทหารม้าชุดเกราะหนัก!เจ้าหกตัวนี้ ไอ้หมาหมู่! เขากล้าสร้างทหารม้าชุดเกราะหนักในซั่วเป่ยได้หรือ?แม้ว่าหยุนลี่จะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องทหารนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าทหารม้าชุดเกราะหนักนั้นน่ากลัวแค่ไหนปัญหาคือ ทหารทั้งหมดในหัวเมืองสี่ทิศล้วนเป็นทหารเดินเท้า!และยังเป็นทหารเดินเท้าที่เกราะก็ไม่ได้สมบูรณ์ด้วย!ทหารม้าชุดเกราะหนักสองพันนาย สามารถทลายทั