ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่มา แต่ตอนนั้นสติผมก็กำลังเบลอ อีกทั้งแสงไฟก็สลัว จึงมองเห็นได้แค่เพียงโครงร่างคร่าวๆ เท่านั้นคล้ายซ่งเจิงมากผมไม่รู้เลยว่าซ่งเจิงจัดการไอ้คนที่ลวนลามผมไปยังไง ในตอนที่ผมเวียนหัว หน้ามืดตาลายก็รู้แค่ว่าตัวเองถูกโอบเข้าไปในอ้อมกอดอบอุ่นแล้วก็ถูกอุ้มออกมาจากบาร์อย่างเลือนลางอาจเพราะรู้ว่าคนที่ช่วยผมคือซ่งเจิง ความรู้สึกปลอดภัยที่มีต่อเขาเลยทำให้ผมหมดความระแวดระวังระหว่างที่อยู่บนรถกลับบ้าน เพราะความอึดอัดตรงหน้าอกมันมากเกินไป จนผมต้องดึงเสื้อคลุมออกแล้วก็พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า"คุณหมอซ่ง ผมรู้สึกทรมานอีกแล้ว…"แต่บนใบหน้าของซ่งเจิงก็ยังคงนิ่งเย็น ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะหวั่นไหวกับคำพูดของผม เขาเอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย"เหมือนมันจะไหลออกมาเยอะกว่าเดิมอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะ…" น้ำนมมันซึมทะลุเสื้อเชิ้ตไปถึงเสื้อคลุมของผมแล้วด้วยซ้ำแต่ซ่งเจิงก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ ไม่สนใจว่าผมจะอยู่หรือตายเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำแค่หน้าที่ขับรถเท่านั้นความรู้สึกมันทรมานเกินจะทน จนผมน้ำตาไหล ผมไม่เข้าใจเลย ทั้งๆ ที่ผมเป็นขนาดนี้แล้ว แต่ซ่งเจิงผู้เป็น
"บึ๊ม" จู่ๆ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เหมือนจะเริ่มจาง กลับพุ่งขึ้นมาบนหัวอีกครั้ง"เหลวไหล! นี่มันบ้านผมชัดๆ!"ซ่งเจิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมตาม "ก็ได้ บ้านนายก็ได้"ผมพยักหน้าหนักๆ อย่างเซๆ เป็นการแสดงออกว่าเห็นด้วยแค่ได้เถียงกับซ่งเจิงแบบนี้ จู่ๆ อาการเจ็บหน้าอกก็ดูจะดีขึ้นหน่อย แม้ว่าน้ำนมจะยังคงไหลอยู่ก็ตามผมมองตัวเองในกระจกก่อนจะขมวดคิ้วอย่างกลุ้มใจ"ต้องให้ช่วยไหม?"ผมเหมือนลืมเรื่องอึดอัดใจในตอนเช้าไปหมด เมื่อเห็นซ่งเจิงเสนอตัวช่วย ก็พยักหน้าแรงๆ เหมือนเจอผู้ช่วยชีวิตหรืออาจเพราะลึกๆ แล้ว ผมรู้สึกว่า มีแค่ซ่งเจิงเท่านั้นที่ช่วยผมได้จริงๆเมื่อได้คำตอบยืนยันจากผม ซ่งเจิงก็รับเครื่องปั๊มน้ำนมไปอย่างเป็นธรรมชาติแต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แม้น้ำนมจะไม่ไหลแรงเหมือนก่อน แต่ความรู้สึกตึงแน่นหน้าอกกลับแย่ลงผมผลักซ่งเจิงออกไปทันที แล้วบ่นเขาว่า "คุณทำให้ผมเจ็บกว่าเดิมอีก! ไปให้พ้นเลย!"ซ่งเจิงถูกผลักโดยไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้เครื่องปั๊มน้ำนมในมือเขาหลุดออกมาและกระแทกพื้นดัง "โป๊ะ"บรรยากาศในห้องน้ำหลังจากนั้นยิ่งประหลาดและชวนอึดอัดมากขึ้นไปอีกสิ่งที่ผมไม่สังเกต
"หา?! อ๋อ..." ผมนึกว่าซ่งเจิงหมายถึงใช้เครื่องปั๊มน้ำนม ก็เลยโล่งอก คิดว่าดีแล้วที่เมื่อคืนผมไม่ได้เมาหนักจนไปทำอะไรล่วงเกินผู้ชายในฝันแต่ในวินาทีต่อมา ซ่งเจิงก็ลืมตาขึ้น พร้อมโยนระเบิดลูกใหญ่ใส่ผมทันที"แต่คุณเป็นคนห้ามผมใช้เครื่องปั๊มน้ำนมเองนะ""!!!"หัวใจที่เพิ่งโล่งไปเมื่อกี้ ก็กลับมากระตุกอีกครั้ง พอเริ่มเข้าใจความหมายของเขา ผมก็มองไปที่ริมฝีปากของเขาเมื่อเพ่งมองดีๆ ผมก็เห็นว่ามีคราบสีขาวแห้งติดอยู่ตรงมุมปากของเขาทันทีที่รู้ว่านั่นคืออะไร ทั้งตัวผมก็ร้อนฉ่าเหมือนหม้อน้ำเดือดพรึ่บขึ้นมาต่อจากนั้น ความทรงจำที่เมื่อครู่ยังนึกไม่ออก ก็พุ่งเข้ามาในหัวราวกับคลื่นถาโถมเมื่อภาพทุกอย่างถูกปะติดปะต่อจนสมบูรณ์ ในหัวผมก็เหลือแค่สองคำจบแล้วจบสิ้นแล้ว!"ทำไม? ทำหน้าแบบนี้ แปลว่าไม่คิดจะรับผิดชอบผมแล้วเหรอ?"สายตาของซ่งเจิงพลันเปลี่ยนเป็นอันตราย จ้องผมเขม็งเหมือนเหยี่ยวจ้องเหยื่อ แขนที่พาดบนตัวผมก็กอดแน่น ไม่ปล่อยให้ผมหนีได้เลยหัวผมชาไปหมด ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ผมแอบชอบมาตั้งห้าปี แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป แล้วเมื่อวานผมก็เพิ่งเห็นเขา...ที่โรงพยาบาล ผมต้องการเวลาเพื่อทำใจอีกหน
"นอนลงสิ ถลกเสื้อขึ้นให้พ้นหน้าอกหน่อย"ผมนอนแข็งเป็นท่อนไม้บนเตียงตรวจ มือกำชายเสื้อไว้แน่น มองใบหน้าคุ้นเคยที่เย็นขรึมแต่หล่อคมของซ่งเจิง ยังไม่หายช๊อกกับการได้เจอเขาอีกครั้งที่แผนกเต้านมนี้เลยยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เขายังรู้ความลับน่าอายของผมอีกด้วย แม้ว่าเขาจะตกใจเพียงแล็กน้อย ก่อนจะกลับมานิ่งเหมือนเดิมก็เถอะผมเดาว่าเขาน่าจะจำผมไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ผมอายจนอยากจะมุดดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดผมเห็นว่าซ่งเจิงไม่แม้แต่จะใส่ถุงมือแพทย์ นิ้วยาวเรียวและเห็นข้อต่อชัดเจนของเขากดลงบนอกผมเบาๆถ้าไม่ใช่เพราะเขากำลังตรวจร่างกายผมอย่างเคร่งเครียด ผมคงเผลอคิดมโนอะไรบ้าๆ ไปแล้วแน่ๆแต่เพราะโรคประหลาดนี่ ทำให้หน้าอกผมไวต่อความรู้สึกมาก ทั้งท่าน่าอาย กับการถูกคนที่แอบรักสัมผัสแบบนั้นอีก สำหรับผม มันคือการทรมานซ้ำซ้อนชัดๆ!แล้วก็จริงอย่างที่คิด วินาทีถัดมา ผมก็ผลิตน้ำนมออกมาต่อหน้าซ่งเจิงเลย…อกผมเหมือนบ่อน้ำพุ น้ำนมไหลทะลักออกมามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมากลิ่นนมสดเข้มข้นฟุ้งไปทั่วห้องในพริบตาโดยเฉพาะนิ้วมือของซ่งเจิง ที่เปื้อนนมของผมเต็มไปหมดผมอับอายจนไม่กล้ามองหน้าซ่งเจิง รีบหันหน้าไปอีกทาง
ผมสมองตื้อไปชั่วครู่ แต่ซ่งเจิงกลับอธิบายให้ด้วยความใส่ใจ"ก็คือหาใครสักคน มาช่วยคุณ…ไง เข้าใจไหม?" ซ่งเจิงเหลือบมองผม แล้วถามต่อ "ยังไม่มีแฟนเหรอ?"แฟน? แฟนผู้ชายหรือแฟนผู้หญิงล่ะ?ผมส่ายหน้าแบบมึนๆ แต่ซ่งเจิงกลับยิ้มออกมาอีก"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"คำพูดของซ่งเจิงทำผมยิ่งงงหนักเข้าไปอีกแต่ซ่งเจิงก็ไม่พูดอะไรต่อ แค่บอกให้ผมใส่เสื้อ แล้วถือใบรับยาไปรับยาที่หน้าต่างด้านนอกก่อนออกไป เขายังให้ผมแอดวีแชทเขาอีกด้วย บอกว่าจะติดต่อผมให้มาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อผลตรวจออกสุดท้ายผมก็เดินออกจากโรงพยาบาลแบบตัวลอยๆ เหมือนฝันจนกระทั่งได้นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงที่บ้าน ผมก็ยังเคลิ้มอยู่กับความสุขที่ได้เจอซ่งเจิงอีกครั้ง แถมยังมีวีแชทเขาในมือถือแล้วด้วย!จนเผลอลืมไปเลยว่า ที่จริงวันนี้ตัวเองไปโรงพยาบาลเพราะอาการป่วยนะผมเปิดวีแชทแล้วกดเข้าไปที่รูปโปรไฟล์ของซ่งเจิง เป็นภาพถ่ายแนวพาสปอร์ตพื้นขาว เขาใส่เสื้อกาวน์แพทย์ ซูมเข้าไปยังเห็นชื่อที่เขียนบนป้ายติดหน้าอกได้ด้วย"ซ่งเจิง"ผมเผลอพึมพำชื่อเขาออกมาเบาๆ แล้วใช้นิ้วแตะลงบนใบหน้าของซ่งเจิงในภาพแต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพที่ซ่งเจิงกำลังดมน้ำน
ผมเขินจนเผลอกระเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟา พูดก็ตะกุกตะกักหนักกว่าเดิม"หมอซ่งครับ ผม…เอ่อ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ คุณแค่…อยู่ข้างๆ แล้วบอกวิธีก็พอ!"พอพูดจบ ผมก็เห็นสีหน้าของซ่งเจิงที่แฝงความนัยอะไรบางอย่าง ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองแรงๆ ด้วยความเจ็บใจ!ผมกำลังพูดอะไรออกไปเนี่ย!ผมจะปั๊มเอง? แล้วให้ซ่งเจิงยืนสอนอยู่ข้างๆ เนี่ยนะ? ใครเขาขอกันแบบนี้วะ?! ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นคนไข้ แล้วเขาเป็นหมอ…คนไม่รู้อาจคิดว่าเรากำลังเล่นบทบาทอะไรแปลกๆ กันอยู่ก็ได้…!แต่…เหมือนว่าเขาไม่ค่อยรังเกียจที่ผู้ชายสองคนจะทำแบบนี้กันเลยนะ?ผมแอบเหลือบตามองเขา พอสบตาเข้ากับสายตาที่นิ่งสงบของเขาอีกที…หน้าก็ร้อนผ่าวคิดในใจ…คงเพราะผมเป็นคนไข้ของเขานั่นแหละซ่งเจิงที่เห็นสีหน้าผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา…ก็หัวเราะออกมาเบาๆ"แน่ใจเหรอว่านายทำเองได้?"ผมอ้าปากจะตอบ…แต่กลับพูดไม่ออกซ่งเจิงว่า "ก็ผู้ชายเหมือนกัน จะกลัวอะไร?"ผมเม้มปากแน่น ก็จริง…ซ่งเจิงไม่ใช่คนที่ชอบผู้ชายแบบผมนี่นา ในสายตาเขา ต่อให้ผู้ชายสองคนแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน…ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาก็ได้"แต่ถ้านายเขินมากจริงๆ ฉันจะปิดไฟแล้วช่วยทำให้ก็ได้"ผมแอบตะโกนในใจ
ผมหันขวับไปอย่างแรง ดวงตาเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า "หมอซ่งครับ ผมไม่ได้ ผม…"ตอนนี้ผมลนลานจนแทบจะพูดไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"ไม่ได้อะไรเหรอ?"ซ่งเจิงเดินเข้ามาใกล้ผมทีละก้าว…เขายังใส่เสื้อคลุมนอนอยู่ ปกเสื้อก็พลิ้วตามจังหวะเดิน เผยให้เห็นแผงอกล่ำๆ อยู่เป็นระยะภายใต้แสงไฟ…สายตาผมก็ถูกดึงดูดไปโดยไม่รู้ตัว แล้วก็หยุดอยู่ตรงนั้น…จนกระทั่งใบหน้าหล่อคมของซ่งเจิง…เข้ามาใกล้จนเต็มตา หัวใจผมก็สะดุดวูบไปครึ่งจังหวะดวงตาคมเย็นของเขาจ้องตรงมาที่ผม ผมอยากเบือนหน้าหนี แต่กลับถูกแรงดึงดูดในแววตาเขากลืนเข้าไปจนถอนตัวไม่ขึ้น"ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งเหรอ? หืม?"ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดเสียงเบาอย่างน่าสงสารว่า "ผมเปล่านะ""ถ้าอย่างนั้น คุณก็น่าจะช่วยผมสักเรื่องด้วยใช่ไหม?""ห๊ะ?" สมองผมนี่…พออยู่ต่อหน้าซ่งเจิงก็ไม่เคยฉลาดเลยจริงๆ ผมพูดออกไปอย่างงงๆ "หมอช่วยคนไข้ มันก็…"แต่ยังพูดไม่จบ ซ่งเจิงก็ขัดขึ้นมา "ใช่ หมอช่วยคนไข้ มันคือหน้าที่"ซ่งเจิงพูดพลางเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง แล้วพูดต่อว่า "แต่ตอนนี้…เป็นเวลาส่วนตัวของผม ที่บ้านของผม"ก็ถูกของเขา อีกทั้งผมเองยังมารบกวนซ่งเจิงตอนดึกอีกต่างหาก…เลยรู้สึกผ
พอได้ยินคำตอบของเขา ลมหายใจผมก็สะดุด หัวใจเหมือนถูกบีบแน่น จนแทบหายใจไม่ออกขนาดมือที่กำผมของซ่งเจิงยังแน่นเกินไปแล้ว จนเขาเผลอร้อง "ซี๊ด" ออกมา ผมถึงได้สติ รีบปล่อยมือทันที"ดีจังเลยครับ…คนที่หมอซ่งชอบ ต้องมีความสุขมากแน่ๆ""งั้นเหรอ? พวกเราเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ก็ชมผมซะขนาดนี้แล้ว?"ผมไม่คิดว่าเขาจะตอบจริงจังขนาดนี้ เลยพูดอะไรไม่ออก แล้วก็แอบอยากจะรีบๆ เดินออกไปให้จบๆแต่ก็เผลอปากไวออกไปว่า "หมอซ่งใจดีมากเลยครับ…ไม่เคยมองโรคประหลาดของผมแปลกๆ แถมยังช่วยผมอีก…โดยรวมแล้ว หมอซ่งเป็นคนดีที่สุดที่ผมเคยเจอเลยครับ"ดูเหมือนคำพูดของผมจะทำให้เขาอารมณ์ดี ถึงกับหัวเราะเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่น่าเสียดาย…ที่ผมไม่ทันได้เห็นภาพนั้นแล้วอยู่ๆ เขาก็พูดเสียงเบาลงเหมือนเสียใจว่า "แต่ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาคนนั้นชอบผมรึเปล่า"หัวใจผมกระตุกอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง และรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า…ให้ซ่งเจิงกลับไปเย็นชาเหมือนเดิมก็ดีแล้วอาจเพราะมีความหมั่นไส้เล็กๆ ผมเลยเร่งไดร์เป่าผมจนร้อนสุด แล้วก็พูดปลอบซ่งเจิงไปพลางๆ"หมอซ่งทั้งเก่ง ใจดี แถมยังหล่อด้วย…ผู้หญิงที่ไหนก็ต้องตกหลุมรักหมดแหละครับ""ใครบอก
"หา?! อ๋อ..." ผมนึกว่าซ่งเจิงหมายถึงใช้เครื่องปั๊มน้ำนม ก็เลยโล่งอก คิดว่าดีแล้วที่เมื่อคืนผมไม่ได้เมาหนักจนไปทำอะไรล่วงเกินผู้ชายในฝันแต่ในวินาทีต่อมา ซ่งเจิงก็ลืมตาขึ้น พร้อมโยนระเบิดลูกใหญ่ใส่ผมทันที"แต่คุณเป็นคนห้ามผมใช้เครื่องปั๊มน้ำนมเองนะ""!!!"หัวใจที่เพิ่งโล่งไปเมื่อกี้ ก็กลับมากระตุกอีกครั้ง พอเริ่มเข้าใจความหมายของเขา ผมก็มองไปที่ริมฝีปากของเขาเมื่อเพ่งมองดีๆ ผมก็เห็นว่ามีคราบสีขาวแห้งติดอยู่ตรงมุมปากของเขาทันทีที่รู้ว่านั่นคืออะไร ทั้งตัวผมก็ร้อนฉ่าเหมือนหม้อน้ำเดือดพรึ่บขึ้นมาต่อจากนั้น ความทรงจำที่เมื่อครู่ยังนึกไม่ออก ก็พุ่งเข้ามาในหัวราวกับคลื่นถาโถมเมื่อภาพทุกอย่างถูกปะติดปะต่อจนสมบูรณ์ ในหัวผมก็เหลือแค่สองคำจบแล้วจบสิ้นแล้ว!"ทำไม? ทำหน้าแบบนี้ แปลว่าไม่คิดจะรับผิดชอบผมแล้วเหรอ?"สายตาของซ่งเจิงพลันเปลี่ยนเป็นอันตราย จ้องผมเขม็งเหมือนเหยี่ยวจ้องเหยื่อ แขนที่พาดบนตัวผมก็กอดแน่น ไม่ปล่อยให้ผมหนีได้เลยหัวผมชาไปหมด ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ผมแอบชอบมาตั้งห้าปี แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป แล้วเมื่อวานผมก็เพิ่งเห็นเขา...ที่โรงพยาบาล ผมต้องการเวลาเพื่อทำใจอีกหน
"บึ๊ม" จู่ๆ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เหมือนจะเริ่มจาง กลับพุ่งขึ้นมาบนหัวอีกครั้ง"เหลวไหล! นี่มันบ้านผมชัดๆ!"ซ่งเจิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมตาม "ก็ได้ บ้านนายก็ได้"ผมพยักหน้าหนักๆ อย่างเซๆ เป็นการแสดงออกว่าเห็นด้วยแค่ได้เถียงกับซ่งเจิงแบบนี้ จู่ๆ อาการเจ็บหน้าอกก็ดูจะดีขึ้นหน่อย แม้ว่าน้ำนมจะยังคงไหลอยู่ก็ตามผมมองตัวเองในกระจกก่อนจะขมวดคิ้วอย่างกลุ้มใจ"ต้องให้ช่วยไหม?"ผมเหมือนลืมเรื่องอึดอัดใจในตอนเช้าไปหมด เมื่อเห็นซ่งเจิงเสนอตัวช่วย ก็พยักหน้าแรงๆ เหมือนเจอผู้ช่วยชีวิตหรืออาจเพราะลึกๆ แล้ว ผมรู้สึกว่า มีแค่ซ่งเจิงเท่านั้นที่ช่วยผมได้จริงๆเมื่อได้คำตอบยืนยันจากผม ซ่งเจิงก็รับเครื่องปั๊มน้ำนมไปอย่างเป็นธรรมชาติแต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แม้น้ำนมจะไม่ไหลแรงเหมือนก่อน แต่ความรู้สึกตึงแน่นหน้าอกกลับแย่ลงผมผลักซ่งเจิงออกไปทันที แล้วบ่นเขาว่า "คุณทำให้ผมเจ็บกว่าเดิมอีก! ไปให้พ้นเลย!"ซ่งเจิงถูกผลักโดยไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้เครื่องปั๊มน้ำนมในมือเขาหลุดออกมาและกระแทกพื้นดัง "โป๊ะ"บรรยากาศในห้องน้ำหลังจากนั้นยิ่งประหลาดและชวนอึดอัดมากขึ้นไปอีกสิ่งที่ผมไม่สังเกต
ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่มา แต่ตอนนั้นสติผมก็กำลังเบลอ อีกทั้งแสงไฟก็สลัว จึงมองเห็นได้แค่เพียงโครงร่างคร่าวๆ เท่านั้นคล้ายซ่งเจิงมากผมไม่รู้เลยว่าซ่งเจิงจัดการไอ้คนที่ลวนลามผมไปยังไง ในตอนที่ผมเวียนหัว หน้ามืดตาลายก็รู้แค่ว่าตัวเองถูกโอบเข้าไปในอ้อมกอดอบอุ่นแล้วก็ถูกอุ้มออกมาจากบาร์อย่างเลือนลางอาจเพราะรู้ว่าคนที่ช่วยผมคือซ่งเจิง ความรู้สึกปลอดภัยที่มีต่อเขาเลยทำให้ผมหมดความระแวดระวังระหว่างที่อยู่บนรถกลับบ้าน เพราะความอึดอัดตรงหน้าอกมันมากเกินไป จนผมต้องดึงเสื้อคลุมออกแล้วก็พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า"คุณหมอซ่ง ผมรู้สึกทรมานอีกแล้ว…"แต่บนใบหน้าของซ่งเจิงก็ยังคงนิ่งเย็น ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะหวั่นไหวกับคำพูดของผม เขาเอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย"เหมือนมันจะไหลออกมาเยอะกว่าเดิมอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะ…" น้ำนมมันซึมทะลุเสื้อเชิ้ตไปถึงเสื้อคลุมของผมแล้วด้วยซ้ำแต่ซ่งเจิงก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ ไม่สนใจว่าผมจะอยู่หรือตายเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำแค่หน้าที่ขับรถเท่านั้นความรู้สึกมันทรมานเกินจะทน จนผมน้ำตาไหล ผมไม่เข้าใจเลย ทั้งๆ ที่ผมเป็นขนาดนี้แล้ว แต่ซ่งเจิงผู้เป็น
แต่ในจังหวะที่ผมกำลังจะพูดอะไรต่อ ซ่งเจิงกลับยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ท่าทางดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดผมนิ่งไปเล็กน้อย คิดว่าเขาคงเหนื่อยจากงานที่โรงพยาบาลแน่ๆผมรู้สึกสงสารนิดหน่อย เลยพูดออกไปว่า "วันนี้ขอบคุณมากนะครับ คุณหมอซ่ง…พักผ่อนเร็วๆ ล่ะครับ ผมกลับก่อนนะ""อืม"ผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก กับท่าทางที่จู่ๆ ก็เย็นชาของซ่งเจิง คิดแค่ว่าเขาน่าจะเหนื่อยจริงๆผมจึงกลับบ้านที่อยู่ติดกันอย่างเก้อๆสองวันต่อมาโรงพยาบาลส่งข้อความมาบอกว่าผลตรวจของผมออกแล้ว สามารถไปรับได้ก่อนออกจากบ้าน ผมยังเปิดห้องแชตของซ่งเจิงดู ตอนเขาให้ผมแอดวีแชต เขาบอกว่าจะเป็นคนแจ้งผมเองเรื่องรับผลตรวจ…แต่จนตอนนี้ ข้อความจากโรงพยาบาลยังมาก่อนเลย ส่วนแชตของเขานั้น…ไม่มีอะไรส่งมาสักนิดพอคิดได้แบบนั้น หัวใจก็พลันถูกความรู้สึกผิดหวังท่วมท้นขึ้นมา ในใจคิดว่า สุดท้ายแล้ว ผมกับเขาก็คงเป็นแค่คนไข้กับหมอธรรมดาๆ เกรงว่าแค่เพื่อนธรรมดาก็เป็นไม่ได้ด้วยซ้ำผมนึกว่าตัวเองจะยอมรับความจริงนี้ได้อย่างสงบแล้ว แต่สวรรค์กลับไม่ปรานีเลยจริงๆพอถึงโรงพยาบาล ผมรีบไปรับผลตรวจ แล้วเดินเงียบๆ ไปยังแผนกที่ซ่งเจิงอยู่แต่ทันทีที่ประตูล
พอได้ยินคำตอบของเขา ลมหายใจผมก็สะดุด หัวใจเหมือนถูกบีบแน่น จนแทบหายใจไม่ออกขนาดมือที่กำผมของซ่งเจิงยังแน่นเกินไปแล้ว จนเขาเผลอร้อง "ซี๊ด" ออกมา ผมถึงได้สติ รีบปล่อยมือทันที"ดีจังเลยครับ…คนที่หมอซ่งชอบ ต้องมีความสุขมากแน่ๆ""งั้นเหรอ? พวกเราเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ก็ชมผมซะขนาดนี้แล้ว?"ผมไม่คิดว่าเขาจะตอบจริงจังขนาดนี้ เลยพูดอะไรไม่ออก แล้วก็แอบอยากจะรีบๆ เดินออกไปให้จบๆแต่ก็เผลอปากไวออกไปว่า "หมอซ่งใจดีมากเลยครับ…ไม่เคยมองโรคประหลาดของผมแปลกๆ แถมยังช่วยผมอีก…โดยรวมแล้ว หมอซ่งเป็นคนดีที่สุดที่ผมเคยเจอเลยครับ"ดูเหมือนคำพูดของผมจะทำให้เขาอารมณ์ดี ถึงกับหัวเราะเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่น่าเสียดาย…ที่ผมไม่ทันได้เห็นภาพนั้นแล้วอยู่ๆ เขาก็พูดเสียงเบาลงเหมือนเสียใจว่า "แต่ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาคนนั้นชอบผมรึเปล่า"หัวใจผมกระตุกอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง และรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า…ให้ซ่งเจิงกลับไปเย็นชาเหมือนเดิมก็ดีแล้วอาจเพราะมีความหมั่นไส้เล็กๆ ผมเลยเร่งไดร์เป่าผมจนร้อนสุด แล้วก็พูดปลอบซ่งเจิงไปพลางๆ"หมอซ่งทั้งเก่ง ใจดี แถมยังหล่อด้วย…ผู้หญิงที่ไหนก็ต้องตกหลุมรักหมดแหละครับ""ใครบอก
ผมหันขวับไปอย่างแรง ดวงตาเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า "หมอซ่งครับ ผมไม่ได้ ผม…"ตอนนี้ผมลนลานจนแทบจะพูดไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"ไม่ได้อะไรเหรอ?"ซ่งเจิงเดินเข้ามาใกล้ผมทีละก้าว…เขายังใส่เสื้อคลุมนอนอยู่ ปกเสื้อก็พลิ้วตามจังหวะเดิน เผยให้เห็นแผงอกล่ำๆ อยู่เป็นระยะภายใต้แสงไฟ…สายตาผมก็ถูกดึงดูดไปโดยไม่รู้ตัว แล้วก็หยุดอยู่ตรงนั้น…จนกระทั่งใบหน้าหล่อคมของซ่งเจิง…เข้ามาใกล้จนเต็มตา หัวใจผมก็สะดุดวูบไปครึ่งจังหวะดวงตาคมเย็นของเขาจ้องตรงมาที่ผม ผมอยากเบือนหน้าหนี แต่กลับถูกแรงดึงดูดในแววตาเขากลืนเข้าไปจนถอนตัวไม่ขึ้น"ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งเหรอ? หืม?"ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดเสียงเบาอย่างน่าสงสารว่า "ผมเปล่านะ""ถ้าอย่างนั้น คุณก็น่าจะช่วยผมสักเรื่องด้วยใช่ไหม?""ห๊ะ?" สมองผมนี่…พออยู่ต่อหน้าซ่งเจิงก็ไม่เคยฉลาดเลยจริงๆ ผมพูดออกไปอย่างงงๆ "หมอช่วยคนไข้ มันก็…"แต่ยังพูดไม่จบ ซ่งเจิงก็ขัดขึ้นมา "ใช่ หมอช่วยคนไข้ มันคือหน้าที่"ซ่งเจิงพูดพลางเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง แล้วพูดต่อว่า "แต่ตอนนี้…เป็นเวลาส่วนตัวของผม ที่บ้านของผม"ก็ถูกของเขา อีกทั้งผมเองยังมารบกวนซ่งเจิงตอนดึกอีกต่างหาก…เลยรู้สึกผ
ผมเขินจนเผลอกระเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟา พูดก็ตะกุกตะกักหนักกว่าเดิม"หมอซ่งครับ ผม…เอ่อ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ คุณแค่…อยู่ข้างๆ แล้วบอกวิธีก็พอ!"พอพูดจบ ผมก็เห็นสีหน้าของซ่งเจิงที่แฝงความนัยอะไรบางอย่าง ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองแรงๆ ด้วยความเจ็บใจ!ผมกำลังพูดอะไรออกไปเนี่ย!ผมจะปั๊มเอง? แล้วให้ซ่งเจิงยืนสอนอยู่ข้างๆ เนี่ยนะ? ใครเขาขอกันแบบนี้วะ?! ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นคนไข้ แล้วเขาเป็นหมอ…คนไม่รู้อาจคิดว่าเรากำลังเล่นบทบาทอะไรแปลกๆ กันอยู่ก็ได้…!แต่…เหมือนว่าเขาไม่ค่อยรังเกียจที่ผู้ชายสองคนจะทำแบบนี้กันเลยนะ?ผมแอบเหลือบตามองเขา พอสบตาเข้ากับสายตาที่นิ่งสงบของเขาอีกที…หน้าก็ร้อนผ่าวคิดในใจ…คงเพราะผมเป็นคนไข้ของเขานั่นแหละซ่งเจิงที่เห็นสีหน้าผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา…ก็หัวเราะออกมาเบาๆ"แน่ใจเหรอว่านายทำเองได้?"ผมอ้าปากจะตอบ…แต่กลับพูดไม่ออกซ่งเจิงว่า "ก็ผู้ชายเหมือนกัน จะกลัวอะไร?"ผมเม้มปากแน่น ก็จริง…ซ่งเจิงไม่ใช่คนที่ชอบผู้ชายแบบผมนี่นา ในสายตาเขา ต่อให้ผู้ชายสองคนแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน…ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาก็ได้"แต่ถ้านายเขินมากจริงๆ ฉันจะปิดไฟแล้วช่วยทำให้ก็ได้"ผมแอบตะโกนในใจ
ผมสมองตื้อไปชั่วครู่ แต่ซ่งเจิงกลับอธิบายให้ด้วยความใส่ใจ"ก็คือหาใครสักคน มาช่วยคุณ…ไง เข้าใจไหม?" ซ่งเจิงเหลือบมองผม แล้วถามต่อ "ยังไม่มีแฟนเหรอ?"แฟน? แฟนผู้ชายหรือแฟนผู้หญิงล่ะ?ผมส่ายหน้าแบบมึนๆ แต่ซ่งเจิงกลับยิ้มออกมาอีก"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"คำพูดของซ่งเจิงทำผมยิ่งงงหนักเข้าไปอีกแต่ซ่งเจิงก็ไม่พูดอะไรต่อ แค่บอกให้ผมใส่เสื้อ แล้วถือใบรับยาไปรับยาที่หน้าต่างด้านนอกก่อนออกไป เขายังให้ผมแอดวีแชทเขาอีกด้วย บอกว่าจะติดต่อผมให้มาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อผลตรวจออกสุดท้ายผมก็เดินออกจากโรงพยาบาลแบบตัวลอยๆ เหมือนฝันจนกระทั่งได้นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงที่บ้าน ผมก็ยังเคลิ้มอยู่กับความสุขที่ได้เจอซ่งเจิงอีกครั้ง แถมยังมีวีแชทเขาในมือถือแล้วด้วย!จนเผลอลืมไปเลยว่า ที่จริงวันนี้ตัวเองไปโรงพยาบาลเพราะอาการป่วยนะผมเปิดวีแชทแล้วกดเข้าไปที่รูปโปรไฟล์ของซ่งเจิง เป็นภาพถ่ายแนวพาสปอร์ตพื้นขาว เขาใส่เสื้อกาวน์แพทย์ ซูมเข้าไปยังเห็นชื่อที่เขียนบนป้ายติดหน้าอกได้ด้วย"ซ่งเจิง"ผมเผลอพึมพำชื่อเขาออกมาเบาๆ แล้วใช้นิ้วแตะลงบนใบหน้าของซ่งเจิงในภาพแต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพที่ซ่งเจิงกำลังดมน้ำน
"นอนลงสิ ถลกเสื้อขึ้นให้พ้นหน้าอกหน่อย"ผมนอนแข็งเป็นท่อนไม้บนเตียงตรวจ มือกำชายเสื้อไว้แน่น มองใบหน้าคุ้นเคยที่เย็นขรึมแต่หล่อคมของซ่งเจิง ยังไม่หายช๊อกกับการได้เจอเขาอีกครั้งที่แผนกเต้านมนี้เลยยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เขายังรู้ความลับน่าอายของผมอีกด้วย แม้ว่าเขาจะตกใจเพียงแล็กน้อย ก่อนจะกลับมานิ่งเหมือนเดิมก็เถอะผมเดาว่าเขาน่าจะจำผมไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ผมอายจนอยากจะมุดดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดผมเห็นว่าซ่งเจิงไม่แม้แต่จะใส่ถุงมือแพทย์ นิ้วยาวเรียวและเห็นข้อต่อชัดเจนของเขากดลงบนอกผมเบาๆถ้าไม่ใช่เพราะเขากำลังตรวจร่างกายผมอย่างเคร่งเครียด ผมคงเผลอคิดมโนอะไรบ้าๆ ไปแล้วแน่ๆแต่เพราะโรคประหลาดนี่ ทำให้หน้าอกผมไวต่อความรู้สึกมาก ทั้งท่าน่าอาย กับการถูกคนที่แอบรักสัมผัสแบบนั้นอีก สำหรับผม มันคือการทรมานซ้ำซ้อนชัดๆ!แล้วก็จริงอย่างที่คิด วินาทีถัดมา ผมก็ผลิตน้ำนมออกมาต่อหน้าซ่งเจิงเลย…อกผมเหมือนบ่อน้ำพุ น้ำนมไหลทะลักออกมามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมากลิ่นนมสดเข้มข้นฟุ้งไปทั่วห้องในพริบตาโดยเฉพาะนิ้วมือของซ่งเจิง ที่เปื้อนนมของผมเต็มไปหมดผมอับอายจนไม่กล้ามองหน้าซ่งเจิง รีบหันหน้าไปอีกทาง