แชร์

บทที่ 409

ผู้แต่ง: เฟเธอร์ในลมอ่อน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ลู่จิ้นเซิงเล่นกับโทรศัพท์มือถือของเขา

เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาก็หัวเราะเยาะออกมา “แต่ผมก็ไม่ได้พาผู้หญิงกลับบ้านมาด้วยนี่! ”

หนิงหลินกำลังจะเถียงกลับ

ทันใดนั้นลู่จิ้นเซิงก็หยิบรูปถ่ายสิบกว่ารูปออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็โยนไปบนเตียงทีละรูปทีละรูป โยนไปตรงหน้าของหลินหนิง

เขามองดูเธอ แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “ชื่นชมภาพเปลือยเหล่านี้ของคุณสิ! ผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูป! ถ้าไม่ใช่เพราะรูปถ่ายพวกนี้ ผมคงไม่รู้ว่าเรือนร่างของคุณนายลู่จะดีขนาดนี้ แถมยังเล่นได้มีความสุขมากอีกด้วย”

หนิงหลินหยิบรูปถ่ายขึ้นมา และมองดูทีละรูป

เธอถึงกับอึ้งไปเลย......

เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอก็ร้องขอความเมตตาโดยสัญชาตญาณ “จิ้นเซิง ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว! รูปภาพพวกนี้คุณอย่าให้พ่อฉันเห็นเลยนะ ถ้าเขารู้ เขาต้องฆ่าฉันแน่”

เธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่อำมหิตที่สุด

ไม่กี่ปีมานี้ เขาทรมานเธอจนแทบไม่เหลือชิ้นดี และไม่เคยใจอ่อนเลยสักครั้ง

หนิงหลินคลานมาที่ปลายเตียง กอดขาของลู่จิ้นเซิง เธอพยายามใช้เรือนร่างตัวเองเพื่อยั่วยวนเขา เธอหวังว่าอยากจะสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่กับเขา

ใบหน้าของเธอแนบไปกับต้นขาของเขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 410

    เขาหลับตาลงเบา ๆ หลินเซียวกำลังกลับมาแล้ว............ณ ห้องน้ำของร้านอาหารเฉียวซุนพูดถึงคุณฟ่านให้กับลู่จิ้นเซิงฟัง ผ่านไปเป็นเวลานาน แต่ในใจของเธอก็ยังคงรู้สึกเศร้าอยู่ดีไม่เพียงแค่เพราะหลินเซียว อันที่จริง คุณฟ่านเองก็เป็นเพื่อนที่ดีของเธอเช่นกัน คุณฟ่านเป็นคนที่มีน้ำใจมาก แล้วก็ดีกับเพื่อนมากจริง ๆ......ตอนนั้นพอเธอได้ยินข่าวเรื่องเครื่องบินของเขาตก เธอก็ตกตะลึงอยู่นาน แทบไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำในใจเฉียวซุนรู้สึกเศร้า จมูกก็เริ่มแดงขึ้นมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาบังเอิญที่หลินซวงโทรหาเธอพอดี บอกว่าเขามาถึงแล้ว เขาจอดรถรอเธออยู่ตรงประตูทางเข้าเขายังถามเธอแบบผ่าน ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์พบปะของเธออีกด้วยเฉียวซุนพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ฉันแค่พูดออกไปสองสามประโยค ฉันพอจะมองออกว่าเขาไม่คิดที่จะปล่อยหลินเซียวไป แต่ฉันก็พูดกับเขาชัดเจนแล้ว......อีกเดี๋ยวเราเจอกันแล้วฉันจะเล่าให้ฟังค่ะ”พวกเขาพูดกันอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายไปเฉียวซุนล้างหน้า แล้วหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับ จากนั้นเธอเห็นคนในกระจกโดยบังเอิญ——ไป๋เสวี่ย!ไป๋เสวี่ยสวมชุดสูทแบรนด์เนม ท่าทางของเธอดูเหมือนจะ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 411

    ไป๋เสวี่ยกำลังจะพูดต่อทันใดนั้น เธอก็เห็นลู่เจ๋อนั่งอยู่บนรถเข็นตรงปลายทางเดิน มองมานี้อย่างเงียบ ๆ ดวงตาสีเข้มของเขาล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาได้......ไป๋เสวี่ยไม่กล้า และไม่อยากพูดอะไรออกไปอีกประการแรก เธอกลัวว่าลู่เจ๋อจะจัดการกับเธอประการที่สอง ในใจเธอยังคงมีลู่เจ๋ออยู่ ยังไงเธอก็ไม่อยากให้พวกเขากลับมาคืนดีกันอีกในใจเธอรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก สุดท้ายจึงทำได้แค่ยิ้มอย่างเยือกเย็นให้กับเฉียวซุน “เมื่อก่อนฉันเคยได้ยินลูกพี่ลูกน้องของฉันบอกว่าคุณเคยรักคุณลู่มาก ฉันก็คิดว่าเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด! จนกระทั่งตอนนี้ฉันถึงได้รู้ว่า คุณไม่เคยเข้าใจอะไรในตัวเขาเลยแม้แต่น้อย......ความชอบของคุณก็เหมือนกับฉันในปีนั้น มันก็เป็นความชอบแบบผิวเผินเท่านั้น! ”“งั้นคุณก็ใช้ชีวิตใหม่ของคุณไปเถอะ มีชีวิตรักที่ดีกับผู้ชายคนอื่นไปเถอะ! ”“ฉันจะรอจนกว่าจะถึงวันที่คุณต้องเสียใจ! ”......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดอย่างไร้ความรู้สึก “คุณไป๋ เรื่องในอดีตระหว่างฉันกับลู่เจ๋อ คุณเข้าใจมากน้อยแค่ไหนกัน? ”หลังจากที่เฉียวซุนพูดจบ เธอก็จากไปทันทีที่เธอหันกลับมา รถเข็นและคนที่อยู่ตรงสุดทางเดินก็ไม่อยู่ท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 412

    ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างพวกเขาหลังจากขับผ่านสี่แยก หลินซวงก็จอดรถชิดข้างถนน เขาหันไปยังด้านข้าง และมองเฉียวซุนอยู่เงียบ ๆ แล้วถามเธอไปตรง ๆ “คุณกำลังคิดถึงเขาอยู่ใช่ไหม? ”เฉียวซุนไม่อยากที่จะยอมรับเท่าไหร่เธอตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เปล่าค่ะ! ”ทันใดนั้น ก็มีเสียงรบกวนเล็ก ๆ ดังขึ้น หลินซวงปลดเข็มขัดนิรภัยออก เขาโน้มตัวเข้าหาเธอราวกับกำลังจะจูบเธอ สัญชาตญาณของมนุษย์ยังไงก็โกหกกันไม่ได้ ขณะที่เขากำลังจะแตะริมฝีปากของเธอ เฉียวซุนก็ใช้มือกันเอาไว้ในตอนนั้นเอง เธอก็ได้ห้ามเขาเอาไว้ตัวเฉียวซุนเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน อันที่จริงแล้ว การจูบเป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะทำกัน แต่เธอกลับมีสัญชาตญาณหลีกเลี่ยงที่จะทำตัวสนิทกับหลินซวงโดยธรรมชาติ......เธอเงยหน้าขึ้น ปฏิกิริยาของเธอเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อยหลินซวงอยู่ใกล้เธอมาก ใกล้กันมากจนต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันแสนอบอุ่นของกันและกัน ถ้าว่ากันตามหลักเหตุและผลแล้ว มันก็ควรจะไปในทิศทางที่โรแมนติกมากกว่า แต่มันก็ไม่ได้......แววตาของเขาลึกล้ำมาก “แบบนี้แล้ว ยังบอกว่าไม่คิดถึงเขาอยู่อีก! ”เฉียวซุนอยากที่จะพูด แต่เขาก็ปิดริมฝีปากของเธอ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 413

    [คุณเฉียว สัญญาระหว่างพวกเรามันก็เป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น! ผมไม่ได้รักเธอเลย!]......ความทรงจำเหล่านั้น ทำให้เธอหายใจแทบไม่ออกเฉียวซุนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และกลั้นน้ำตาเอาไว้ท้องฟ้ามีฝนตกปรอย ๆ ลงมา หยดฝนตกกระทบลงบนตัวเธอ จนทำให้เสื้อผ้าเริ่มเปียกชื้นขึ้นมา แต่เฉียวซุนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เธอกลับต้องการฝนเย็น ๆ นี้ด้วยซ้ำ เพื่อช่วยให้เธอระงับความวิตกกังวลในใจเธอเดินไปท่ามกลางสายฝนในหัวของเธอตอนนี้ เอาแต่วนลูปคำพูดของไป๋เสวี่ยซ้ำไปซ้ำมา [คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าคุณลู่จะสามารถตกหลุมรักคนอื่นได้? คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าเขาจะทิ้งลูก แล้วไปอยู่กับคนอื่นจริง ๆ ?]ทันใดนั้น เธอก็หยุดก้าวเดินต่อข้างถนนมีร้านตัดชุดแต่งงานที่หรูหรามากอยู่ร้านหนึ่ง โดยมีกระจกที่สูงจากพื้นจรดเพดานกั้นด้านหน้าเอาไว้ ภายในมีหญิงสาวกำลังลองชุดแต่งงาน โดยมีผู้ชายยืนอยู่ข้าง ๆการประพฤติตนของพวกเขาค่อนข้างที่จะสนิทกันมาก แค่ดูก็รู้ว่ายังไม่ได้แต่งงานกันเฉียวซุนถึงกับตกตะลึงราวกับเธอกำลังถูกปีศาจเข้าครอบงำ เธอจ้องหนุ่มสาวคู่นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น......แต่เธอคือหลี่ชิงเฉิง!ห

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 414

    พนักงานนำกาแฟร้อนมาเสิร์ฟให้สองแก้วแต่เฉียวซุนไม่ได้ดื่มทันที เธอจ้องมองไปที่หลี่ชิงเฉิงอย่างตั้งใจหลี่ชิงเฉิงรวบรวมสติของเธอ แววตาของเธอได้จมเข้าไปในความทรงจำเมื่อครั้งอดีต แล้วเธอก็ค่อย ๆ เอ่ยปากพูดออกมา “ในปีนั้น ฉินอวี้เป็นคนติดต่อฉันมา เธอบอกว่าลู่เจ๋ออยากจะทำข้อตกลงกับฉัน”ขณะที่เธอพูด เธอก็หยิบกาแฟขึ้นมาจิบนิ้วเรียวยาวกลับสั่นเล็กน้อยเมื่อเธอเริ่มพูดอีกครั้ง หลี่ชิงเฉิงก็เผยรอยยิ้มปนเศร้าขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ในเวลานั้น ในใจของฉันเกลียดเขามาก ฉันจะเต็มใจทำได้ยังไง? แต่ว่าฉินอวี้ก็ได้เอ่ยตัวเลขที่ฉันไม่อาจจะปฏิเสธได้ออกมา มันเป็นโครงการที่มีมูลค่านับหมื่นล้าน ฉันไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของผลกำไรนี้ได้เลยจริง ๆ! ต่อมา ฉินอวี้ก็พาฉันไปที่โรงพยาบาลเพื่อเซ็นสัญญา ฉันก็ได้พบกับลู่เจ๋อ......ท่าทางของเขา......ท่าทางของเขาเมื่อเทียบกับตอนที่คุณเจอกับเขาครั้งล่าสุด ไม่รู้ว่าแย่กว่าตั้งกี่เท่า เขาได้แต่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง แทบจะขยับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่านะ เฉียวซุน คุณรู้ไหม แววตาของเขากลับนิ่งสงบมาก เป็นท่าทางที่ดูใจเย็น ราวกับว่าเตรียมพร้อมที่จะแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นอย่างด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 415

    เฮ่อจี้ถังเพิ่งจะเดินออกไป เขาพูดว่า ยาตัวใหม่ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง และขอให้เขาอย่าเพิ่งยอมแพ้แน่นอนว่าลู่เจ๋อเองก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกันแต่เขาก็ไม่รู้ ว่าอีกนานแค่ไหน เขาถึงจะสามารถใช้มือขวาได้ ถึงจะสามารถลุกขึ้นจากรถเข็นได้สักที......ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเขาได้เลยลู่เจ๋ออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ปกติคนรับใช้มักจะไม่กล้าไปรบกวนเขา แต่คืนนี้เป็นข้อยกเว้นเสียงรถค่อย ๆ ดังมาจากลานหน้าบ้าน ตามด้วยเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบ ป้าหลี่กำลังเคาะประตูด้วยท่าทีลนลาน “คุณชายคะ คุณนายกลับมาแล้วค่ะ! ”ลู่เจ๋อคิดว่าคงเป็นคุณหญิงลู่เขาพูดอย่างใจเย็น “บอกให้เธอรออยู่ที่ห้องอาหารชั้นล่างสักครู่ เดี๋ยวผมลงไป”ตรงประตูห้องกลับไม่มีการตอบกลับจากป้าหลี่เลยลู่เจ๋อขมวดคิ้ว พร้อมกับเข็นรถเข็นออกไปดูประตูค่อย ๆ เปิดออก......คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเฉียวซุน เป็นเพราะฝน จึงทำให้เธอเปียกโชกไปทั้งตัว เวลาปกติเธอจะเป็นคนที่มีเกียรติและงดงามมาก แต่สภาพของเธอในตอนนี้ทำไมถึงได้ดูแย่ขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าตัวเธอเองไม่ได้สนใจเลยสักนิดเธอยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ จ้องมองเขาด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง แต่ทว่าในใจของเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 416

    ลู่เจ๋อไม่ได้ปฏิเสธเธอแต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับ ภายใต้แสงสว่าง แววตาของเขามืดมนเกินกว่าจะคาดเดาในขณะที่กำลังจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน เสื้อผ้าบนร่างกายของเธอล้วนเปียกชื้นไปด้วยน้ำฝน ทำให้เผยส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดูเซ็กซี่และน่าดึงดูดของเธอออกมาลู่เจ๋อเองแน่นอนว่าก็รู้สึกด้วยเหมือนกันแต่เขากลับพยายามทำให้ตัวเองไม่รู้สึกอะไร ในขณะที่เฉียวซุนกอดเขาอย่างอ่อนโยน เขาก็คว้าข้อมือบาง ๆ ของเธอไว้ แล้วกดเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา เขาเริ่มเล่นกับเธออย่างไร้เหตุผลด้วยมือข้างเดียว......กลับไปกลับมา ใช้นิ้วบดขยี้อยู่อย่างนั้นเขาไม่ได้อ่อนโยนเลยสักนิด!วิธีที่เขาปฏิบัติต่อเธอ ไม่มีร่องรอยของความอ่อนโยนเลย เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนทำกับผู้หญิงราคาถูกเหล่านั้นเขาจงใจทำให้เธอรู้สึกแย่ เขาโน้มตัวเข้าไป แล้วพูดข้าง ๆ หูของเธอว่า “แบบนี้ก็ทำให้คุณรู้สึกด้วยอย่างนั้นเหรอ? คุณรู้ไหมว่าการใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับคนพิการนั้นเป็นยังไง? คุณต้องเป็นคนเริ่มเองทั้งหมด พอเสร็จกิจ คุณก็ต้องเป็นคนทำความสะอาดเองด้วย เพราะคนพิการไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรคุณได้เลย! ......แบบนี้คุณยังต้องการอีกไหม? ถ้าคุณยังต้องการอ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 417

    เธอยังคงบ่นพึมพำ “ลู่เจ๋อ เปล่านะ ฉันเปล่านะ!”ป้าหลี่ที่กำลังถือชามอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “นี่คุณบีบบังคับเธอไปจนถึงขั้นไหนกันเนี่ย! ถึงได้ทำให้แม้แต่ตอนที่ไม่ได้สติยังต้องละเมอเพ้อพกแสดงความภักดีต่อสามีแบบนี้ได้! ”ลู่เจ๋อมองไปที่ประตู “คุณลงไปก่อนเถอะ พอเลขาฉินมาก็พาเธอขึ้นมาด้วย”จากนั้นป้าหลี่ก็หยุดพูดประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉินอวี้กับหมอก็เข้ามาก่อนที่ฝนจะตก เมื่อกี้ตอนคุยโทรศัพท์ เธอเองก็ไม่กล้าถาม แต่พอได้เห็นเฉียวซุน เธอก็แอบประหลาดใจ แต่ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากอยู่ดีหมอหญิงคนนั้นแค่มอง ก็รู้ได้ในทันทีขณะที่เธอฉีดยาลดอุณหภูมิให้กับเฉียวซุน เธอก็พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “คนไข้มีไข้สูง ยังไม่ควรที่จะมีเพศสัมพันธ์ในตอนนี้! ต่อไปก็ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”ลู่เจ๋อทนฟังคำพูดเหล่านี้ไม่ได้ แต่เขาก็ยังอดทนเอาไว้สักพักหมอก็จากไป แต่ฉินอวี้กลับยังอยู่ต่อ เธอช่วยเฉียวซุนเช็ดเหงื่อตามร่างกาย จากนั้นก็ถามลู่เจ๋อเบา ๆ “เธอรู้เรื่องหมดแล้วเหรอคะ? ”เธอลังเล แล้วพูดต่อว่า “คุณอยากให้ฉันโทรไปถามหลี่ชิงเฉิงไหม? ”ลู่เจ๋อพูดอย

บทล่าสุด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

DMCA.com Protection Status