แชร์

บทที่ 388

ผู้แต่ง: เฟเธอร์ในลมอ่อน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
สามวันต่อมา เจ้าหนูลู่เหยียนก็ได้ออกจากโรงพยาบาล

พวกเขากลับมาที่สวนฉิน

เดือนนั้นเป็นเดือนที่สงบสุขและสวยงามมาก ๆ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ดูแลเจ้าหนูลู่เหยียนร่วมกัน บางครั้งที่ลู่เจ๋อมีงานเข้าสังคม เขาก็จะพาเฉียวซุนไปร่วมด้วย ตอนนี้พวกเขาเหมือนสามีภรรยากันมากจริง ๆ

ความเจ็บปวดเหล่านั้น อดีตที่ผ่านมาเหล่านั้น

เขาไม่ได้เอ่ยถึงมันเลย เฉียวซุนเองก็เช่นกัน ที่พวกเขาตั้งใจลืม บางทีอาจเป็นเพราะช่วงเวลานี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน......

ลู่เจ๋อเคยบอกเอาไว้ว่า เขาอาจต้องทำงานล่วงเวลา

แต่ทุก ๆ คืน เขาก็จะรีบกลับมาก่อนที่เจ้าหนูลู่เหยียนจะเข้านอน เขาจะอาบน้ำให้เจ้าหนูลู่เหยียน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็จะห่อเธอด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำผืนเล็ก ๆ แล้วให้เธอปีนขึ้นมาบนอ้อมแขนตัวเอง......เขาจะอยู่ใต้แสงไฟสลัว แล้วเล่านิทานให้เจ้าหนูลู่เหยียนฟังอย่างอ่อนโยน จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กหลับไป

หลังจากที่เจ้าหนูลู่เหยียนหลับไปแล้ว

ลู่เจ๋อถึงจะไปที่ห้องหนังสือเพื่อสะสางงานต่อ ตอนที่เขาจัดการงานเสร็จ เวลาก็ปาไปตีหนึ่งตีสอง เฉียวซุนกับเจ้าหนูลู่เหยียนก็หลับกันไปนานแล้ว......

เขาทิ้งตัวนอนข้าง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
พิมพ์ชนก นามวิเศษ
รอๆค่ะ ฮือ...สุดท้ายแล้วก่ยัง อยากให้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว
goodnovel comment avatar
พี่ชอบขอ น้องชอบเบิ้ล
น้ำตาคลอเลยเรา จากที่เกลียดลู่เจ๋อเอามากๆ
goodnovel comment avatar
Nongkaitun Ni
เศร้าจัง อยากให้จบแบบ happy ending!
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 389

    ความรักและความเกลียดชังของพวกเขา ก็จะหายไปอย่างสมบูรณ์!หลังจากการพบกันใหม่ เธอก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเธอเริ่มโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา พูดคุยราวกับคู่รักสามีภรรยาทั่วไป เธอพูดกับลู่เจ๋อด้วยเสียงที่แผ่วเบา “งานแต่งงานของหลินเซียวกับคุณฟ่าน จะจัดขึ้นสิ้นปีนี้ พอถึงตอนนั้นเจ้าหนูลู่เหยียนเองก็น่าจะดีขึ้นมากแล้ว......ฉันสามารถพาเธอไปร่วมงานแต่งงานได้ ฉันกำลังคิดอยู่เลย ว่าจะมอบอะไรให้หลินเซียวเป็นของขวัญดี”ลู่เจ๋อไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาเขาลูบผมที่ชุ่มเหงื่อของเธอเบา ๆ ซึมซับบรรยากาศอันเงียบสงบที่อยู่ตรงหน้าเฉียวซุนเองก็ไม่อยากที่จะทำลายบรรยากาศเช่นกันขณะที่เธอกำลังจะเปิดปากพูดนั้น น้ำเสียงของเธอก็รู้สึกตึงขึ้นเล็กน้อย เธอถามลู่เจ๋อออกไป “คุณจะไปร่วมงานด้วยไหม? เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันได้ยินหลินเซียวบอกว่า ช่วงนี้คุณกับคุณฟ่านได้มีการติดต่อทางธุรกิจกันด้วย”ลู่เจ๋อก้มศีรษะลง แววตาที่ลึกล้ำเกินคาดเดา “คุณอยากให้ผมไปจริง ๆ เหรอ? ”เฉียวซุนไม่ได้ตอบโดยตรงเธอลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างอ่อนโยน จากนั้นเธอกลับพูดถึงครอบครัวของคุณนายหลี่แทน “คุณนายหลี่เองก็ไปด้วยเหมือนกัน ปกติเธอก

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 390

    “เดี๋ยวพ่อไปต้มน้ำให้นะ!”ลู่เจ๋อไม่ได้ปฏิเสธ เขามองตามลู่เหวินหลี่ที่เดินเข้าไปในห้องครัวเล็ก ๆ จัดการชงชาอย่างไม่เป็นทางการมากนัก อาจจะเป็นเพราะข้างนอกลมแรง เลยทำให้ลู่เหวินหลี่ไอออกมาบ้างเป็นครั้งคราวจู่ ๆ ลู่เจ๋อก็ถามขึ้นว่า “ป่วยแล้วทำไมไม่ไปรักษาล่ะครับ? ”ลู่เหวินลี่ตัวแข็งทื่อ แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ปัญหาโรคเก่าน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! เดี๋ยวทานยาแก้หวัดแล้วก็หายเองแหละ”ลู่เจ๋อรู้ว่าเขากำลังโกหก ท่าทางของลู่เหวินหลี่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาป่วยหนักมาเป็นเวลานานแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปอีก ได้แต่เปิดหนังสืออ่านอยู่เงียบ ๆ ต่อมา ลู่เหวินหลี่ที่เพิ่งต้มน้ำเสร็จ ก็ชงชาราคาถูกมาให้ ขณะที่เขาเชิญให้ลู่เจ๋อดื่มชา ในใจเขาก็รู้สึกกังวล กระทั่งเขาแทบจะร้องไห้เลยด้วยซ้ำ “พอดีว่าไม่ได้เตรียมตัวเองไว้ล่วงหน้า เลยไม่มีอะไรไว้ต้อนรับเลย”ลู่เจ๋อจิบชาเข้าไปแค่คำเดียวลู่เหวินหลี่ก็รู้ว่าเขาไม่ชินกับการดื่มอะไรแบบนี้ เขาจึงนั่งลง และถามลู่เจ๋อถึงสถานการณ์ทางบ้าน สิ่งที่ถามถึงมากที่สุดคืออาการของเจ้าหนูลู่เหยียน......ลู่เจ๋อหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วย

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 391

    ลู่เจ๋อเดินไปยังข้างเตียงแล้วนั่งลง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา “ผมออกไปจัดการเรื่องนิดหน่อย! คุณฝันร้ายเหรอ? ”เฉียวซุนจ้องมองเขาอย่างใกล้ชิดเธอไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เธอฝันออกมา เพราะเธอมักจะรู้สึกว่ามันจะทำให้โชคไม่ดี ต่อมา ขณะที่ลู่เจ๋อนอนอยู่ข้าง ๆ เธอก็เริ่มจับมือเขา......สัมผัสอันอบอุ่นทำให้เธอค่อย ๆ สงบลงเธอคิดว่า ความฝันอาจจะเกิดขึ้นตรงกันข้ามกับความจริงก็ได้ มันไม่น่าจะเป็นจริงนั่นก็เป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น!ต่อมา ขณะที่เธอกำลังจะหลับด้วยท่าทางที่สะลึมสะลืออยู่นั้น ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินลู่เจ๋อกระซิบที่ข้างหู เขาบอกว่า ถ้าคืนนี้พวกเขามีลูกด้วยกัน ก็ให้เขาชื่อว่าลู่ฉวินเถอะนะ......เมื่อถึงรุ่งสาง เฉียวซุนก็คิดซ้ำแล้วซ้ำอีก และแน่ใจว่านั่นน่าจะเป็นความฝันลู่เจ๋อบอกว่าเธอกังวลมากเกินไปแต่เฉียวซุนกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอมักจะสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น......ความรู้สึกนั้นมันยิ่งหนักแน่นขึ้นเรื่อย ๆ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดของเจ้าหนูลู่เหยียนการตรวจก่อนการผ่าตัดความรู้สึกไม่สบายใจในใจของเฉียวซุนก็มาถึงขีดสุดเธอถึงขั้นถามลู่เจ๋อ ว่า

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 392

    การผ่าตัดใช้เวลานานเกือบ 16 ชั่วโมงแม้ว่าจะมีสถานการณ์วิกฤตบ้าง แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ในที่สุดจะมีก็แต่ ตอนนี้ลู่เจ๋อที่ยังไม่ฟื้นเลย เขานอนบนเตียงผ่าตัดด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าหนูลู่เหยียนเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าหนูลู่เหยียนถูกย้ายออกจากห้องผ่าตัดแล้ว......และเขายิ่งไม่รู้เลยว่า พรุ่งนี้เขาจะเป็นอย่างไรเขาได้แต่นอนอยู่นิ่ง ๆ แบกรับชะตากรรมของเขาเฮ่อจี้ถังค่อย ๆ ถอดหน้ากากออก......เขามองดูตัวเลขบนจอมอนิเตอร์ด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ตัวเลขเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงสัญญาณชีพของลู่เจ๋อที่อ่อนแอมาก......อ่อนแอมากจนเขาอาจจะจากไปเมื่อใดก็ได้เฮ่อจี้ถังเองก็เป็นหมอ เขาจึงไม่แยแสกับชีวิตและความตายมานานแล้ว แต่ในขณะนี้เขากลับปล่อยวางไม่ได้เขาโน้มตัวไปที่ข้างหูของลู่เจ๋อ และกระซิบเบา ๆ “เฉียวซุนยังรอนายอยู่นะ! นายจะยอมจากไปแบบนี้อย่างนั้นเหรอ? ”ลู่เจ๋อไม่ได้มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งสิ้นลู่เจ๋อได้แต่นอนเงียบ ๆ สีหน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ แทบจะไร้เสียงสัญญาณของการหายใจ......ในขณะนี้ เฮ่อจี้ถังก็นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตมากมายได้ ภาพตอนที่ลู่เจ๋อยังมีช

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 393

    เธอคิดว่า บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง H อาจจะยากเกินมือของเขาก็ได้แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ดีลู่เจ๋อรักและเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนมาก เขาคงไม่ใช่แค่เพราะเรื่องงาน แล้วไม่ส่งข่าวใด ๆ เลยกลับมาแบบนี้แน่......เธอคิดอยากจะโทรศัพท์หาเขา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา มันทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรต่อได้เธอคิดว่า รอเขาอีกหน่อยก็แล้วกัน!บางทีพรุ่งนี้ ลู่เจ๋ออาจจะติดต่อกลับมาก็ได้บางทีพรุ่งนี้ เขาอาจจะกลับมาจากเมือง H แล้ว......โรงพยาบาลลู่ แผนกดูแลผู้ป่วยโคม่าลู่เจ๋อได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงเขาเอาไขกระดูกเกือบครึ่งหนึ่งออกจากร่างกายของเขา และเอาพลาสมาเกือบหนึ่งในสามออกจากร่างกาย เพื่อสับเปลี่ยนให้กับเจ้าหนูลู่เหยียน......เขาใช้ตัวเอง เพื่อช่วยชีวิตเจ้าหนูลู่เหยียนเอาไว้ยันต์คุ้มครองที่เขาขอจากวัดนั้นไร้ประโยชน์จริง ๆ มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่ช่วยได้......ครั้งหนึ่งเขาเคยคุกเข่าต่อหน้าพระพุทธเจ้า แล้วถามพระพุทธเจ้าออกไปว่า ความจริงใจนั่นคืออะไรกันแน่ พระพุทธเจ้ากลับตอบเขาว่าทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดแต่พระพุทธเจ้ากลับไม่ได้บอกเขา ถึงทางย้อนกลับเฮ่อจี้ถ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 394

    ยามค่ำคืน แสงไฟสว่างไสวเฮ่อจี้ถังได้ตรวจร่างกายให้กับลู่เจ๋ออย่างละเอียด แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้ดีมากนัก ร่างกายลู่เจ๋อยังคงตื่นตัวอยู่ แต่การทำงานทางสรีระร่างกายของเขากลับหยุดทำงานลง แขนขาของเขาอ่อนแรง โดยเฉพาะมือขวาที่แทบจะสูญเสียประสาทสัมผัสไปจนหมดลู่เจ๋อยอมรับความจริงอย่างใจเย็นเขาอาจจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต และไม่สามารถใช้มือขวาได้เป็นปกติอีกแล้ว เขาจะต้องเริ่มฝึกใช้มือซ้ายแทน......ในทางที่แย่ที่สุด เขาอาจกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปเลย!แต่เขาก็ไม่เสียใจเขานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และพูดอย่างใจเย็น “เจ้าหนูลู่เหยียนเป็นลูกของผม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผมที่ตัดสินใจเอง! ห้ามบอกเฉียวซุนเด็ดขาด ผมกับเธอตอนนี้ไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว เธอมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น...... ”เฮ่อจี้ถังไม่ทนฟังอีกต่อไป เขาเดินออกไปทันทีคุณหญิงลู่คุกเข่าลงข้างเตียง เธอทุบเตียง และร้องไห้อย่างขมขื่น “ลู่เจ๋อ ทำไมลูกถึงทำแบบนี้! เสี่ยวซุนรักลูกมากขนาดนั้น ถ้าเธอรู้ว่าลูกเป็นแบบนี้ไปแล้ว เธอจะต้องกลับมาอยู่ข้างกายลูกแน่”ลู่เจ๋อปิดตาของเขาลงเกิดความชื้นขึ้นในดวงตาของเขา “เพราะความรัก ผมเคยกักขังเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 395

    เฉียวซุนตกตะลึงเธอคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้......เห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนโยนและปฏิบัติต่อเธอดีมาก เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธอขึ้นมาใหม่เธอยอมรับว่าเธอตัวสั่นมากผลก็คือ ลู่เจ๋อบอกว่าเขากับหลี่ชิงเฉิงคบกันแล้ว!แววตาของเฉียวซุนเปียกชื้นขึ้นทันที จิตใต้สำนึกของเธอก็บอกเธอว่า เธอควรจากไปพร้อมกับเจ้าหนูลู่เหยียน แต่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ มันสามารถเชื่อถือได้มากแค่ไหนกัน?ลู่เจ๋อบอกว่าเขาคบกับคนอื่นแล้วแค่ข้อความไลน์ข้อความเดียว เธอไม่คิดจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย เธอต้องการได้ยินคำตอบด้วยหูของเธอเองเฉียวซุนกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาเขาหลังจากต่อสายได้แล้ว เสียงตรู๊ดยาว ๆ ระหว่างรอสาย ก็ทำให้รู้สึกว่ามันยาวนานมาก——ในที่สุดหลู่เจ๋อก็รับสายสายก็เงียบเป็นเวลานาน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเอ่ยปากพูดก่อน ได้ยินแค่ลมหายใจจากปลายสายทั้งสอง......ในท้ายที่สุด เป็นเฉียวซุนก็เป็นฝ่ายที่พูดก่อน เธอก็ถามเขาเพียงแค่ว่า “จริงหรือ? ”“ใช่! ผมคบกับเธอแล้ว! ”อีกฝั่งของโทรศัพท์ เสียงที่หนักแน่นของลู่เจ๋อก็ดังขึ้น “คุณจากผมไปสามปีแล้ว! เฉียวซุน......ผม

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 396

    เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็จะลืมไปได้เอง!ลู่เจ๋อกำหมัดแน่น เขาพยายามเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อลุกขึ้นนั่ง แต่เขากลับไม่มีแรงเหลืออยู่ในร่างกายเลย เขาทำได้เพียงนอนบนเตียงราวกับคนไร้ประโยชน์เขาหายใจหอบ แล้วหางตาของเขาเปียกชื้นขึ้นมา......ขอโทษเสี่ยวซุน ผมขอโทษ!......เฉียวซุนไม่ได้กลับมาเก็บข้าวของที่สวนฉินอีกเลย เพราะเธอต้องคอยดูแลเจ้าหนูลู่เหยียน บางครั้งเธอยังต้องพาเจ้าหนูลู่เหยียนไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกด้วยมีหลายครั้ง ที่เธอเดินผ่านวอร์ดของลู่เจ๋อแต่เธอกลับไม่รู้ ว่าในขณะที่เธอกำลังบ่นอยู่นั้น ลู่เจ๋อกำลังนอนเงียบ ๆ บนเตียงในโรงพยาบาลอยู่ ไม่สามารถขยับตัวหรือแม้แต่ดูแลตัวเองได้เลยด้วยซ้ำเวลาผ่านไปเร็วมาก หลังจากนั้นหนึ่งเดือนสุขภาพของเจ้าหนูลู่เหยียนก็ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่เธอกลับคิดถึงลู่เจ๋อมาก เธอมักจะถามเสมอว่า ทำไมพ่อถึงไม่มาหาหนูเลยเฉียวซุนก็จะโทรหาลู่เจ๋อให้เธอแต่ทุกครั้ง เฉียวซุนก็จะไม่อยู่ฟังด้วย เธอจงใจไม่อยากฟังเสียงของลู่เจ๋อ แบบนั้นจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นหน่อย เธอจงใจลืมวันเวลาเหล่านั้น ลืมความจริงที่ว่าเธอยังคงชอบลู่เจ๋ออยู่ให้เธอค่อย ๆ คุ้นชินอย่างช้า ๆให้เธอค่

บทล่าสุด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

DMCA.com Protection Status