Share

บทที่ 228

Penulis: เฟเธอร์ในลมอ่อน
ทั่วร่างของเฉียวซุนสั่นไปหมด

เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ลู่เจ๋อพูด เธอไม่เชื่อว่าความเป็นจริงจะโหดร้ายขนาดนี้... แต่เธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าลู่เจ๋อไม่จำเป็นต้องโกหกเธอ

เธอมองดูเขา เสียงของเธอค่อนข้างเบา “ลู่เจ๋อ...”

ลู่เจ๋ออ่านความคิดเธอออก ว่าเธอต้องการขอร้องแทนหลินเซียว

เขาปัดฝุ่นขี้เถ้าบุหรี่ออก แล้วยิ้มเบา ๆ “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ผมไม่สามารถทำให้ครอบครัวตระกูลหนิงลู่ขุ่นเคืองเพราะเธอได้โดยไร้เหตุผลได้ นอกจากนี้เฉียวซุน ผมไม่ใช่คนใจบุญ... จริงไหม? ”

สามคำสุดท้าย น้ำเสียงของเขานุ่มนวลมาก และดวงตาดูลึกล้ำ

เฉียวซุนรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ขอแค่เธอเต็มใจก้มหัวให้ และยอมกลับมาหาเขา เขาจะสามารถรช่วยหลินเซียวไว้ได้ และเด็กก็จะเกิดมาอย่างดี

เธองอนิ้วเล็กน้อย และเงียบไปสักพัก

ลู่เจ๋อจ้องเธออยู่นาน เดาจากสีหน้าของเธอว่าเธอไม่เต็มใจ เขาไม่ได้บังคับแต่โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อดับบุหรี่ และพูดอย่างใจเย็น “ถ้างั้นให้หลินเซียวไปต่างประเทศ แล้วหาเกาะที่ไม่มีใครหาพบและคลอดลูกที่นั่น! เธอคงอยู่เมืองบีต่อไปไม่ได้แน่”

เฉียวซุนกระซิบขอบคุณเขาเบา ๆ

ลู่เจ๋อพยักหน้าอย่างใจเย็น แล้วเปิดประตูรถให้เธอ...

ตอนเฉ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 229

    คืนนี้ เฉียวซุนพักค้างคืนที่นี่เธออาบน้ำ สวมชุดนอนของหลินเซียว ทั้งสองคนพูดคุยกันเยอะมากเสียงของหลินเซียวนุ่มนวลและอ่อนโยน “ที่จริงฉันไม่สนใจลู่จิ้นเซิงแล้ว! เขาแต่งงานแล้ว ฉันก็มีลูกเป็นของตัวเอง! เฉียวซุนฉันคิดมาดีแล้ว ฉันจะออกจากเมืองบีในอีกครึ่งเดือน แล้วไปใช้ชีวิตในเมืองเล็ก ๆ ฉันจะซื้อบ้านและเปิดร้านดอกไม้อยู่กับลูกของฉัน”“แต่ฉันจะอยู่ไกลจากเธอมาก ฉันคงคิดถึงเธอแย่!”“เธอจะมาหาฉันใช่ไหม?”เฉียวซุนได้ยินแล้วเศร้าเธอทำเสียงอืม “แน่นอน! ฉันจะไปที่นั่นอย่างน้อยปีละสองสามครั้ง! ฉันจะให้หุ้น 10% ของร้านกับเธอ เป็นค่าช่วยเลี้ยงลูกให้อ้วนท้วนสมบูรณ์! รอให้ลูกโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิงก็ต้องโดดเด่นกว่าเพื่อน!”เฉียวซุนพูด แล้วหันไปกอดหลินเซียว “ฉันไม่อยากให้เธอไปเลย!”ในใจของหลินเซียวก็เศร้าเช่นกันทั้งสองไม่พูดอะไรอีกต่อไป แค่กอดกันอย่างเงียบ ๆ ในคืนที่มืดมิด... รอให้รุ่งสางมาถึง…...ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เฉียวซุนก็เตรียมตัวแยกทางเธอขอให้ใครสักคนซื้อบ้านเดี่ยวหลังเล็กในเมืองชั้น 3 โดยมีเนื้อที่ประมาณ 240 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเธอหวังว่าหลินเซียว

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 230

    เธอแค่อยากจะมีญาติในที่สุดหลินเซียวก็พูดขึ้น เสียงของเธอแตกสลาย “เฉียวซุน ทำไมมันยากขนาดนี้? ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้? ทำไมทุกครั้งความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันถึงไม่ได้รับการเติมเต็มเลย? ฉันรักเด็กคนนี้จริง ๆ แม้กระทั่งคิด... ชื่อ...คือ หลินเซี่ยว ฉันอยากให้เขามีความสุข มีรอยยิ้มตั้งแต่เกิด และโชคดีไปทั้งชีวิต”ตอนท้ายเสียงของเธอแหบแห้ง ทำได้แค่หายใจเท่านั้นเลือดไหลออกจากร่างกายของเธอมากขึ้น กระจายไปทั่ว...เฉียวซุนกอดเธอ เสียงสั่นเครือ“ไร้สาระ! ไร้สาระ! ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล! หลินเซียว แข็งใจไว้นะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล มันจะดีขึ้น! มันจะไม่เป็นไร ได้ยินไหม? รถพยาบาล... รถพยาบาล…”…...เสียงรถจอดชั้นใต้ดิน คือน้ำเสียงร่ำไห้จนแทบจะขาดใจของเฉียวซุนจู่ ๆ ป้ายโฆษณารอบ ๆ ก็เปลี่ยนไป ทั้งหมดเป็นภาพถ่ายงานแต่งของลู่จิ้นเซิงและหนิงหลินที่แท้ วันนี้เป็นวันที่สอง!ที่แท้ วันนี้เป็นวันที่ตระกูลหนิงลู่แต่งงานกันตาของหลินเซียวพร่ามัวเธอยื่นมือออกมา พยายามที่จะจับชายที่มีความสุขให้อยู่หมัด จู่ ๆ เธอก็นึกถึงคืนสุดท้ายคืนนั้นของพวกเขา ลู่จิ้นเซิงกระซิบบางอย่างที่หูซ้ายของเธอ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 231

    เฉียวซุนจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ ดูท่าทางกระวนกระวายของเขาเธอรู้สึกว่ามันช่างตลกขบขันเสียจริงเธอคิดว่าเรื่องของหลินเซียวช่างน่าหัวเราะ คาดไม่ถึงว่าเธอจะชอบลู่จิ้นเซิงได้ และเธอก็รู้สึกตลกตัวเอง ดันคิดว่าตระกูลลู่จะยอมปล่อยหลินเซียวที่กำลังท้องไปง่าย ๆเฉียวซุนเดินไปข้างหน้าสองก้าว เธอเดินสะดุดระหว่างสองก้าวนี้เธอได้ยินเสียงของตัวเองในภวังค์ “ลู่จิ้นเซิง เธอตั้งท้องลูกของคุณอยู่นะ! เธอตั้งใจจะไม่บอกคุณ เธอเพียงแค่อยากจะหาเมืองเล็ก ๆ เพื่อจะคลอดลูกเท่านั้น เธอแค่อยากจะมีญาติสักคนอยู่เคียงข้าง.......”เฉียวซุนเงยหน้าขึ้นทั้งหยาดน้ำตา “เธอไม่เคยคิดที่จะทำลายงานแต่งของคุณเลย แม้คุณจะซื้อแค่หูข้างขวาของเธอด้วยเงินห้าสิบล้านบาท เธอก็ไม่เคยโกรธเคือง! ลู่จิ้นเซิง เธอยอมรับในโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรมเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะว่าเธอรู้สึกเฉยชา แต่เป็นเพราะเธอเกิดมาก็มีน้อยแล้ว! เธอไม่มีญาติที่ไหน ไม่มีคนรัก......เธอมีเพียงแค่ลูกคนนี้เท่านั้น! คุณรู้ไหมว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหนหลังจากที่เธอท้อง? เธอพูดเรื่องลูกกับฉันทุกวัน เธอเป็นคนที่ประหยัดขนาดนั้น แต่กลับพูดว่าเมื่อลูกอายุห้าขวบจะหาติวเตอร์ส่วน

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 232

    เสิ่นชิงกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พูดว่า “ก็ได้! งั้นหนูล้างหน้าก่อนแล้วไปหาอะไรกินสักหน่อยที่โรงอาหาร! หากจะดูแลคนอื่น หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อนนะ!”เฉียวซุนพยักหน้า เธอก้มหน้าลงแล้วลูบมือของหลินเซียวเบา ๆ เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์เสิ่นชิงหันหลังกลับไป รู้สึกเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด............เฉียวซุนล้างหน้าบ้วนปากง่าย ๆ แล้วจึงไปทานอาหารที่โรงอาหารชั้นสองทันทีที่เธอเดินถึงประตูลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอเมื่อหันกลับไป เธอก็พบกับเฮ่อจี้ถังเขาสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนพิงอยู่ตรงริมหน้าต่างปลายทางเดิน บานหน้าต่างที่เปิดอยู่ ผมของเขายุ่งเล็กน้อยเมื่อมีลมพัดผ่าน.....ทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาดูระทมทุกข์อีกด้วยท่าทางของเขาเหมือนกับว่าไม่ได้นอนทั้งคืนเฮ่อจี้ถังเป็นถึงหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาล ถือว่าค่อนข้างมีเกียรติเลยทีเดียว เขาดูแลหลินเซียวมาไม่น้อยเลย......เฉียวซุนรู้เรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เธอจึงเดินกลับไปขอบคุณเขาด้วยเสียงแผ่วเบาเฮ่อจี้ถังมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งเฉียวซุนผอมลงไปมาก ไหล่แสนบอบบางนั้นก็สั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงแข็งแกร่ง......เฉียวซุนรู้ว่าเขาไม่มีทางเข้าใจได้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 233

    ช่วงเวลาพลบค่ำ หลินเซียวยังไม่ฟื้นขึ้นมาเสิ่นชิงมองตาที่เริ่มแดงของเฉียวซุน เอ่ยเบา ๆ ว่า “ป้าดูแลอยู่ตรงนี้เอง หนูกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ยังไงก็นอนสักนิดแล้วค่อยมานะ ทนอยู่แบบนี้ได้ยังไงกัน? จะว่าไปแล้ว พ่อของหนูที่อยู่ที่บ้านก็คงเป็นห่วงหนู”เฉียวซุนส่งเสียงอืมกลับไปก่อนที่จะจากไป เธอลูบและจับมือของหลินเซียวครั้งแล้วครั้งเล่า “หลินเซียว เธอรีบฟื้นขึ้นมานะ”รอบดวงตาของเสิ่นชิงเริ่มแดงอีกครั้งเธอเดินไปอยู่ข้างเฉียวซุน เอ่ยถามเบา ๆ “เมื่อตอนเช้าตรู่ป้าออกไปส่งคุณหมอ เห็นหนูกับเฮ่อจี้ถัง.....เฉียวซุน หนูพร้อมยอมรับเขาแล้วใช่ไหม?”เฉียวซุนนิ่งเงียบแล้วตอบว่า “ป้าเสิ่น ตอนนี้หนูไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องความรักหรอกค่ะ”เสิ่นชิงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แม้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่หนูก็อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยนะ ป้าดูออกว่าเขาชอบหนูมาก เขาเคารพทั้งป้าและพ่อของหนูมากนะ”เฉียวซุนพยักหน้า “หนูรู้ค่ะป้าเสิ่น”……ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นเฉียวซุนก็ลงไปชั้นล่างทันทีที่เธอเดินออกจากตึกผู้ป่วยภายใน ข้อมือก็ถูกใครสักคนดึงเอาไว้ เธอรู้สึกตกใจก่อนจะหันกลับ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 234

    “เฮ่อจี้ถังไม่มีความสามารถในเรื่องนี้! เขาไม่สามารถต่อกรกับสองตระกูลหนิงและตระกูลลู่ได้อย่างแน่นอน ถ้าพวกคุณคบกัน ยังไงเขาก็มอบอะไรให้ไม่ได้อยู่แล้วนอกจากพวกความรู้สึกที่มีต่อคุณ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดูแลหลินเซียวไม่ได้แน่! เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะเอาแต่จมอยู่ในความเจ็บปวด เขาจะเอาแต่เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ็บที่ตอนนั้นเขาเลือกเรียนแพทย์แทนที่จะเลือกต่อสู้เพื่ออำนาจ!”“เฉียวซุน สิ่งเดียวที่สามารถต่อสู้กับอำนาจได้คืออำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า ”……ร่างกายของเธอสั่นไปหมด!เธอเลือกที่จะไม่เชื่อคำพูดของลู่เจ๋อ ทว่าในใจเธอกลับรู้ดีว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องหลอกเธอ เธอกังวลมาก กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับหลินเซียวอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลินเซียวล่ะก็ เธอสาบานเลยว่าจะไม่ให้อภัยกับตัวเองอย่างแน่นอน เหมือนว่าเขาจะเดาความคิดของเธอออก ลู่เจ๋อยิ้มเยาะ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อจะเปิดประตูรถให้เธอ ถามเธอด้วยวาจาที่สุภาพ “คุณจะเรียกรถไปเองหรือให้ผมไปส่งดีครับ?”“ฉันเรียกรถเองได้!”ตอนที่เธอก้าวขาลงจากรถ เท้าเรียวของเธอเกิดสะดุดเล็กน้อย คงเพราะว่าเธอมีอาการอ่อนเพลีย ลู่เจ๋อไม่ได้รับเธอเอาไว้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 235

    ในใจของเฉียวซุนรู้ดี ว่าที่ลู่เจ๋อโทรมา จะโทรมาคุยเรื่องอะไร!เธอไม่อยากให้ป้าเสิ่นรับรู้เรื่องราวพวกนี้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงขอตัวจากป้าเสิ่น แล้วออกมารับโทรศัทพ์ด้านนอกแทน ปลายทางของทางเดิน กระจกหน้าต่างที่ปิดอยู่ก็ไม่สามารถกั้นสายลมหนาวของคืนที่หนาวเหน็บได้ และลมก็พัดผ่านรอยแตกในหน้าต่างเข้ามาปะทะใบหน้าของเธออย่างเย็นยะเยือก...แต่สายลมหนาวที่ว่ากลับเหน็บหนาวไม่เท่าบทสนทนาของลู่เจ๋อกับเธอตอนนี้เลยเสียงของลู่เจ๋อที่เล็ดลอดออกมาจากสายนั้นดูสงบมากกว่าตอนกลางคืน “เธอคงเดาแผนการต่อไปของตระกูลลู่ออกแล้วสินะ! เฉียวซุน ตอนนี้มีแค่ผมเท่านั้นที่ช่วยเธอได้! มีทางเดียวคือทำให้หลินเซียวกลายเป็นคนของตระกูลลู่ คุณปู่ถึงจะไม่กล้าทำอะไรเธอ!”เสียงของเฉียวซุนดูมึนงง “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอร้องคุณได้ไหม”ลู่เจ๋อเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่นานเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มกว่าเดิม “ผมเคยบอกไปแล้ว ผมไม่ใช่คนใจบุญ! เฉียวซุนคุณก็รู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพื่อคุณ ผมคงไม่เข้าไปพัวพันเรื่องของหลินเซียวและลู่จิ้นเซิงอยู่แล้ว”ในที่สุดเฉียวซุนก็เข้าใจเธอกับลู่เจ๋อเป็นสามีภรรยามาตั้งกี่ปี บุคลิกนิสัยของเขาทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ?

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 236

    ทันใดนั้นเธอก็จำคำพูดของลู่เจ๋อได้ ลู่เจ๋อบอกว่า ถ้าเธอกับเฮ่อจี้ถังคบกัน ต่อไปเฮ่อจี้ถังจะต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวด เขาจะเจ็บปวดจากการที่ตัวเองเลือกเรียนด้านการแพทย์ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่ออำนาจ... เฉียวซุนอย่าทำแบบนี้! เธอไม่อยากให้เฮ่อจี้ถังเปลี่ยนชีวิตของตัวเองพื่อเธอ การมีชีวิตอยู่เพื่อความรู้สึกของคนอื่นและการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมันเหนื่อยมาก เธอไม่อยากให้เฮ่อจี้ถังลิ้มรสความทุกข์ที่ผ่านมาของเธอ การชอบคน ๆ หนึ่งควรจะต้องเสียสละทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว เธอไม่มีอะไรให้เฮ่อจี้ถัง เธอมีแต่จะทำให้เขาเหนื่อย เหมือนกับที่ลู่เจ๋อพูด เธอจะทำให้เฮ่อจี้ถังต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เคยเลือก หลังจากนั้นประมาณห้านาที ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักเปิดออกมาเบา ๆ เฉียวซุนไม่หันกลับมา เธอยังคงมองออกไปข้างนอก เธอไม่ได้เหลือที่ว่างไว้ให้เฮ่อจี้ถัง และเธอก็ไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้ให้ไว้ เธอพูดกระซิบการตัดสินใจของเธอ เธอพูดว่า “ตระกูลลู่จะไม่ปล่อยหลินเซียวไป! ตอนนี้มีเพียงลู่เจ๋อที่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ตอนนี้! พี่จี้ถัง ฉันอาจต้องกลับไปอยู่กับลู่เจ๋อ! ... ฉันขอโทษนะคะ!” เฮ่อจี้ถังที่ยืนอ

Bab terbaru

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status