ทันใดนั้นเธอก็จำคำพูดของลู่เจ๋อได้ ลู่เจ๋อบอกว่า ถ้าเธอกับเฮ่อจี้ถังคบกัน ต่อไปเฮ่อจี้ถังจะต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวด เขาจะเจ็บปวดจากการที่ตัวเองเลือกเรียนด้านการแพทย์ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่ออำนาจ... เฉียวซุนอย่าทำแบบนี้! เธอไม่อยากให้เฮ่อจี้ถังเปลี่ยนชีวิตของตัวเองพื่อเธอ การมีชีวิตอยู่เพื่อความรู้สึกของคนอื่นและการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมันเหนื่อยมาก เธอไม่อยากให้เฮ่อจี้ถังลิ้มรสความทุกข์ที่ผ่านมาของเธอ การชอบคน ๆ หนึ่งควรจะต้องเสียสละทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว เธอไม่มีอะไรให้เฮ่อจี้ถัง เธอมีแต่จะทำให้เขาเหนื่อย เหมือนกับที่ลู่เจ๋อพูด เธอจะทำให้เฮ่อจี้ถังต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เคยเลือก หลังจากนั้นประมาณห้านาที ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักเปิดออกมาเบา ๆ เฉียวซุนไม่หันกลับมา เธอยังคงมองออกไปข้างนอก เธอไม่ได้เหลือที่ว่างไว้ให้เฮ่อจี้ถัง และเธอก็ไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้ให้ไว้ เธอพูดกระซิบการตัดสินใจของเธอ เธอพูดว่า “ตระกูลลู่จะไม่ปล่อยหลินเซียวไป! ตอนนี้มีเพียงลู่เจ๋อที่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ตอนนี้! พี่จี้ถัง ฉันอาจต้องกลับไปอยู่กับลู่เจ๋อ! ... ฉันขอโทษนะคะ!” เฮ่อจี้ถังที่ยืนอ
เฉียวซุนมองดูเขาอยู่นาน มองตลอดจนเจ็บตาจากนั้นเธอก็หันกลับมาทันที เมื่อหันกลับมาเธอก็เป็นคุณนายลู่แล้ว เธอเดินเข้าไปในห้องโถงที่งดงาม เดินไปทางลิฟต์ เธอไม่หันกลับมามอง กลัวว่าถ้าหันกลับไปจะเสียใจภายหลัง... ห้องจัดเลี้ยงที่สามารถรองรับโต๊ะได้หลายร้อยโต๊ะเต็มไปด้วยคนมีชื่อเสียง นี่เป็นงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าที่ไม่มีเจ้าบ่าว แต่คุณปู่ตระกูลลู่ไม่ได้ให้พ่อแม่ของลู่จิ้นเซิงเข้าร่วม ก็ถือว่าไว้หน้าหนิงหลินมากพอแล้ว ถึงแม่ว่าหนิงหลินจะไม่พอใจ แต่เธอก็ยังฝืนยิ้มแล้วดื่มอย่างอิสระ ตอนนั้นประตูห้องจัดเลี้ยงเปิดออก ทันใดนั้นเสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้น ทุกคนมองไปทางประตู เฉียวซุนสวมชุดเดรสรัดรูปสีดำตัวเล็กอันโด่งดังของแบรนด์ชาแนล เธอเดินด้วยรองเท้าส้นสูงแล้วเดินทีละก้าวไปที่โต๊ะประธานไปหาคุณปู่ลู่ มีบริกรพยายามหยุดเธอ แต่เธอก็ผลักพวกเขาออกไป ทันใดนั้นเฉียวซุนก็เดินไปหาคุณปู่ลู่ ต่อหน้าทุกคน เธอถามคนในครอบครัวตระกูลลู่ “หลินเซียวกับลู่จิ้นเซิงเคยมีความสัมพันธ์กันช่วงหนึ่ง แต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่เขาจะหมั้นกับหนิงหลิน! เพราะความสัมพันธ์นี้เธอจึงถูกหนิงหลินทุบตีจนหูหนวก เพราะความสัม
ผู้เฒ่าลู่ไม่กล้าล่วงเกินลู่เจ๋อตระกูลลู่และตระกูลหนิงรวมกันแล้วก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลู่เจ๋อ ลู่เจ๋อได้ขึ้นตำแหน่งตั้งแต่วัยรุ่น และเป็นคนโหดร้ายที่มีชื่อเสียงของเมืองบีด้วยเหตุนี้เขาจึงถามเฉียวซุนว่าจะเอายังไง!เฉียวซุนไม่ได้โง่ เธอรู้ว่ามาถึงขั้นนี้ถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว สิ่งที่หลินเซียวจะได้ก็มีเพียงแค่การชดเชย!เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ฉันมีสองเงื่อนไข!”“เงื่อนไขแรก ตระกูลลู่ต้องการทีมรักษาเพื่อทำการรักษาหลินเซียว ให้สาธารณชนได้รู้ว่าหลินเซียวท้องเด็กคนนี้ให้ลู่จิ้นเซิง หลินเซียวไม่ใช่คนรักของลู่จิ้นเซิง และตอนนี้พวกเขาก็เป็นแค่เป็นแฟนกันปกติ! เงื่อนไขที่สอง ก็คือชดเชยทุกอย่างให้หลินเซียวใหม่!”แม่ของลู่จิ้นเซิงไม่ยอม “เธอได้ไป 250 ล้านบาทแล้วไม่ใช่เหรอ? ยังต้องการให้ชดเชยอะไรอีก?”เฉียวซุนถามกลับ “ให้คุณแท้งลูก และถูกตีจนหูหนวกทั้งสองข้าง แล้วให้คุณ 250 ล้านบาท คุณจะยอมหรือเปล่า?”แม่ของลู่จิ้นเซิงอารมณ์เสีย “ฉันจะเหมือนกับเธอได้ไง?”ในเวลานั้นเอง มีเสียงแหบเสียงหนึ่งแว่วมาจากประตูทางเข้าของห้องจัดเลี้ยง “ผมยกโรงแรมรอยัล ธันเดอร์แห่งนี้เป็นการชดเชยให้เธอ!”สิ้นเ
เฉียวซุนเหลือบตามองต่ำ เห็นท่าทางสุดจะรับได้ของตัวเองท่ามกลางแสงสลัวร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันใต้ชายกระโปรงผ้าไหม ขาเรียวยาวทั้งสองข้างพาดอยู่ขาของเขา กางเกงชุดสูทสีเข้มของลู่เจ๋อทำให้ผิวของเธอดูขาวเนียนยิ่งขึ้นขนตายาวของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อย “ฉันไม่มีอารมณ์”น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยคำขอร้อง “ไว้วันอื่นดีไหม?”ลู่เจ๋อเอนพิงเบาะนั่งอย่างขี้เกียจแล้วเหล่มองเธอเบา ๆ ลูกกระเดือกของเขาขยับไปมา.......ร่างกายของเฉียวซุนเอนไปด้านหลังเล็กน้อย ลู่เจ๋อเอื้อมมือไปลูบหน้าเธอแล้วถามเบาๆ ขึ้นว่า“กลัวเหรอ?”เขาไม่รอให้เธอได้ตอบ คว้าหลังคือของเธอเข้ามาหาเขา เฉียวซุนคิดว่าเขาคิดจะจูบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นฝ่ายใช้ริมฝีปากแดงรีบจูบเขาอย่างว่าง่ายในขณะที่โน้มตัวลงไปฝ่ามือของลู่เจ๋อกลับออกแรงเล็กน้อยเฉียวซุนตะลึง ก่อนจะเงยหน้ามองเขา.......นัยน์ตาสีดำที่ยากจะมองออกของลู่เจ๋อ แฝงไปด้วยความรู้สึกข่มความใคร่ทางเพศ......พูดตามตรงท่าทางแบบนี้ของลู่เจ๋อช่างน่าดึงดูดมาก เฉียวซุนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าขอแค่เขาทำดีด้วยจะต้องมีผู้หญิงหลายคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม!ศีรษะเล็ก ๆ ของเ
หลังเสร็จกิจ ทั้งสองต่างเงียบอาจจะเป็นเพราะว่าไม่ใช่สามีภรรยากัน หรือเพราะไม่ได้มีอะไรกันนานเกินไป จึงรู้สึกทำตัวไม่ถูกเฉียวซุนใส่เสื้อผ้า แล้วพูดเบา ๆ ขึ้นว่า “ฉันรู้สึกเหนียวตัว อยากจะอาบน้ำสักหน่อย”บรรยากาศจึงเริ่มดีขึ้นเมื่อครู่ลู่เจ๋อรีบทำอย่างใจร้อนจนไม่ได้สวมถุงยางอนามัย แน่นอนว่าผู้ชายนั้นสบาย แต่ผู้หญิงนั้นล้างทำความสะอาดยุ่งยาก......ลู่เจ๋อกระแอมเบาๆ “ผมรอคุณข้างนอกนะ!” พูดเสร็จเขาก็เดินออกไป ส่วนบนเตียงที่ยุ่งเหยิงนั้น พรุ่งนี้ก็จะมีพนักงานทำความสะอาดมาจัดการเขาเป็นผู้ชายไม่ถือสาก็ได้ แต่เฉียวซุนไม่ถือไม่ได้เธอเปลี่ยนผ้าปูเตียงใหม่ ส่วนผ้าปูเตียงผืนเก่าได้ใส่ถุงเอาไว้แล้วเขียนระบุเอาไว้ว่าเลขาฉินจะส่งซัก......ทำสิ่งเหล่านี้เสร็จเธอถึงเข้าไปอาบน้ำน้ำอุ่นไหลลงบนตัวทำให้เธอคิดถึงการแนบชิดกันเมื่อครู่ลู่เจ๋ออ่อนโยนมากขึ้น อาจเพราะต้องการทำตัวเปรียบเทียบกับใครสักคนมั้ง! แต่สำหรับเฉียวซุนแล้ว มันไม่มีความหมายอีกต่อไป ระหว่างพวกเขานอกจากเรื่องเซ็กซ์ก็ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว!หลังอาบน้ำเสร็จ เธอสวมกระโปรงเดิมกับตอนขามาลู่เจ๋อนั่งพิงโซฟาและสูบบุหรี่ นิ้วเรียวยาว
ตอนรุ่งเช้า หลินเซียวยังคงนอนนิ่งอยู่...เฉียวซุนเอาหน้าซุกบนฝ่ามือของเธอแล้วพูดพึมพำ “หลินเซียว ตื่นเถอะนะ! ต่อไปจะไม่มีใครรังแกคุณได้อีก ต่อไปคุณสามารถใช้ชีวิตได้ตอนฟ้าสาง คุณไม่ต้องกังวลว่าเรื่องแต่ก่อนจะมีคนรู้ ถูกคนดูถูก! ต่อไปคุณยังสามารถมีลูกได้”“ตื่นเถอะโอเคไหม? ฉันขอร้องล่ะ! ทำให้ฉันรู้ว่าทั้งหมดมันคุ้มค่า!”การรอคอยอย่างไร้ความหวัง ทำให้คนสิ้นหวังตอนเช้า หมอได้ประกาศสถานการณ์ที่ไม่ได้ ถ้าในอีกสี่ชั่วโมงหลินเซียวยังไม่ฟื้น เธออาจจะไม่ฟื้นตลอดไป ซึ่งพูดได้ว่าเธอจะเป็นเหมือนผักในร่างคนไม่ตื่นมาตลอดกาล...เฉียวซุนเจ็บปวดมากจนหายใจไม่ออก จู่ๆเธอก็วิ่งไปที่ห้องน้ำ จับอ่างล้างหน้าเธองออย่างแรงจนอ้วกเป็นน้ำดีออกมา เธอหมดแรงหมดแรงจนนั่งอยู่บนพื้นชิดผนังเธอค่อยๆขดตัวแล้วปิดหน้า “หลินเซียว! หลินเซียว!”นาทีนี้ความโศกเศร้าก็ไหลเหมือนแม่น้ำ...ในห้องผู้ป่วย จอภาพเชื่อมต่อกับนิ้วชี้ของหลินเซียวเริ่มเกิดความผันผวน เสียงแหลมปี๊ดๆๆๆ จากนั้นนิ้วของหลินเซียวก็สั่นเล็กน้อยเฉียวซุนกำลังร้องไห้เหรอ?อย่าร้องไห้!เฉียวซุนอย่าร้องไห้ ฉันจะแสดงการตีลังกาให้คุณดู...โอเคไหม?“เฉียวซุน.
เฉียวซุนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรเธอมองไปที่หลินเซียว พูดทั้งร้องไห้และหัวเราะว่า “มันจะไม่คุ้มได้ยังไง? เพื่อคุณทั้งหมดก็คุ้มค่า... ขอให้หายเร็วๆนะ!”น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลก็ออกมาจากหางตาของหลินเซียว...เฉียวซุนกอดเธอแน่นแล้วพึมพำ “คุณรู้หรือเปล่าว่า ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว!”หลินเซียวอ่อนแอลงมากแต่เธอยังใช้แรงทั้งหมดยกมือขึ้น กอดเฉียวซุนอย่างอ่อนโยน...หลังจากกินเสร็จ คุณหมอก็ตรวจร่างกายหลินเซียวเฉียวซุนหลีกตัวออกไปเธอเดินออกจากห้องผู้ป่วย เดินจนไปสุดทางเดินยาวด้านนอก มองดูแสงแดดข้างนอกอย่างเงียบๆ จากนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างมากโชคดีที่หลินเซียวตื่นขึ้นมาแล้วโชคดีที่หลินเซียวไม่รู้สึกเสียใจกับตัวเอง เธอยังมีความกล้าที่จะมีชีวิตอยู่แต่เมื่อเฉียวซุนคิดถึงเด็กคนนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่จมูกขึ้นมา... หลินเซียวอาจจะสามารถมีลูกได้ด้วยวิธีทางเทคโนโลยีในอนาคต แต่สรุปแล้วก็ไม่ใช่เด็กคนเดิมอีกต่อไป“เฉียวซุน!”ทันใดนั้น เสียงของลู่จิ้นเซิงก็ดังมาจากด้านหลังเฉียวซุนหันกลับมามองเขาอย่างเงียบ ๆ สักพัก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “คุณมาทำอะไรที่นี่”ลู่จิ้นเซิงหยิบถุงเอกสารในม
หัวใจของลู่จิ้นเซิงแหลมคมราวกับมีดเขากอดเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอพูด ไม่ให้เธอจากไป...ให้เขากอดเธออยู่สักพัก...หลินเซียวไม่มีที่อยู่โรงแรมของเขา เธอจึงฉีกเอกสารแล้วบอกให้เขาไปให้พ้น!เธอพูดว่า เธอพูดว่า...เธอไม่รักเขา เขายิ่งไม่ควรค่าที่เธอจะเกลียด!เมื่อลู่จิ้นเซิงเดินออกจากห้องผู้ป่วย เขาดูสีหน้าผิดหวังท้อใจ เสื้อของเขามีจุดเปื้อนเลือด ดูแล้วน่าตกใจหนิงหลินยืนข้างอยู่นอกประตูเมื่อหนิงหลินเห็นลู่จิ้นเซิงออกมา เธอก็หัวเราะเยาะ “คุณกำลังคิดถึงผู้หญิงสารเลวนั่นอีกแล้วใช่มั้ย? ลู่จิ้นเซิง คนที่ทำร้ายเธอไม่ใช่ใครคนอื่น แต่เป็นตัวของคุณเอง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณคิดถึงผู้หญิงสารเลวคนนี้อยู่ตลอด...”และตบฉาดหนึ่งก็ได้กระหน่ำมาที่หน้าของเธออย่างเต็มแรงจากนั้นลำคอของเธอก็ถูกบีบแน่น และถูกกดเอาไว้กับผนังฝั่งตรงข้ามหนิงหลินหายใจไม่ออก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วง คว้าแขนของลู่จิ้นเซิงเอาไว้ และพยายามทุบตีอย่าสุดแรง “ฉันด้อยกว่าเธอตรงไหน?ฉันเป็นคุณหนูคนโตของตระกูลหนิง หลินเซียวเป็นแค่พนักงานขายระดับสูง!”ลู่จิ้นเซิงต้องการฆ่าเธอ...ดวงตาของเขาแดงก่ำ แล้วเขาก็ตบไปที่เธออีกครั้ง “ถ้าคุณก