เสียงของลู่เจ๋อเบามากในตอนกลางคืน “คุณรู้ไหมว่าพอมีโอกาสก็เล่นสนุกบ้างเป็นครั้งคราวคืออะไร? หืม?”เฉียวซุนไม่รู้ และเธอก็ไม่อยากรู้เช่นกันเธออยากแยกตัวออกไป แต่ลู่เจ๋อจับตัวเธอไว้แน่น โดยให้สะโพกแตะสะโพก... ผ้าบาง ๆ สองชั้นบนร่างเธอปิดอะไรไม่มิดเธอละอายใจ “ฉันบอกคุณแล้ว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างนอกพวกนั้น!”เขาก้มศีรษะลงมองเธอ ผมยาวสีดำพาดไหล่ ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็กและละเอียดอ่อน คิ้วที่ไม่ได้ทา จมูกตรง ริมฝีปากเป็นสีกุหลาบกำมะหยี่ ร่างกายเล็กบอบบางและอิ่มเอิบรูปร่างหน้าตาของเธอ ถือว่าเหนือชั้นคิ้วของลู่เจ๋อเลิกขึ้น อดไม่ได้ที่จะพึมพำ “เฉียวซุน คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมเล่นสนุกด้วย!”เฉียวซุนได้ยินคำนี้ อยากตีเขาแต่ก็ไม่กล้า หลังจากชะงักมาได้สักพักเธอยังคงอยู่บนตักของเขาอย่างขวยเขิน ราวกับกำลังได้รับความเมตตาจากเขาอยู่ลู่เจ๋อจับมือเธอ แล้วตบหน้าตัวเขาเองเบา ๆ มันค่อนข้างลามกแต่ก็ดูสนิทสนม เป็นเรื่องตลกระหว่างสามีภรรยาแต่พวกเขาไม่ใช่คู่รักอีกต่อไปเฉียวซุนหันหลังกลับ ดวงตาแดงเล็กน้อย “ถ้าคุณไม่ทำก็ปล่อยฉัน ฉันจะกลับแล้ว!”ลู่เจ๋อลังเลที่จะปล่อยเธอไปเขากระซิบ "พักที่นี่ แล
ทั่วร่างของเฉียวซุนสั่นไปหมดเธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ลู่เจ๋อพูด เธอไม่เชื่อว่าความเป็นจริงจะโหดร้ายขนาดนี้... แต่เธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าลู่เจ๋อไม่จำเป็นต้องโกหกเธอเธอมองดูเขา เสียงของเธอค่อนข้างเบา “ลู่เจ๋อ...”ลู่เจ๋ออ่านความคิดเธอออก ว่าเธอต้องการขอร้องแทนหลินเซียวเขาปัดฝุ่นขี้เถ้าบุหรี่ออก แล้วยิ้มเบา ๆ “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ผมไม่สามารถทำให้ครอบครัวตระกูลหนิงลู่ขุ่นเคืองเพราะเธอได้โดยไร้เหตุผลได้ นอกจากนี้เฉียวซุน ผมไม่ใช่คนใจบุญ... จริงไหม? ”สามคำสุดท้าย น้ำเสียงของเขานุ่มนวลมาก และดวงตาดูลึกล้ำเฉียวซุนรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ขอแค่เธอเต็มใจก้มหัวให้ และยอมกลับมาหาเขา เขาจะสามารถรช่วยหลินเซียวไว้ได้ และเด็กก็จะเกิดมาอย่างดีเธองอนิ้วเล็กน้อย และเงียบไปสักพักลู่เจ๋อจ้องเธออยู่นาน เดาจากสีหน้าของเธอว่าเธอไม่เต็มใจ เขาไม่ได้บังคับแต่โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อดับบุหรี่ และพูดอย่างใจเย็น “ถ้างั้นให้หลินเซียวไปต่างประเทศ แล้วหาเกาะที่ไม่มีใครหาพบและคลอดลูกที่นั่น! เธอคงอยู่เมืองบีต่อไปไม่ได้แน่”เฉียวซุนกระซิบขอบคุณเขาเบา ๆลู่เจ๋อพยักหน้าอย่างใจเย็น แล้วเปิดประตูรถให้เธอ...ตอนเฉ
คืนนี้ เฉียวซุนพักค้างคืนที่นี่เธออาบน้ำ สวมชุดนอนของหลินเซียว ทั้งสองคนพูดคุยกันเยอะมากเสียงของหลินเซียวนุ่มนวลและอ่อนโยน “ที่จริงฉันไม่สนใจลู่จิ้นเซิงแล้ว! เขาแต่งงานแล้ว ฉันก็มีลูกเป็นของตัวเอง! เฉียวซุนฉันคิดมาดีแล้ว ฉันจะออกจากเมืองบีในอีกครึ่งเดือน แล้วไปใช้ชีวิตในเมืองเล็ก ๆ ฉันจะซื้อบ้านและเปิดร้านดอกไม้อยู่กับลูกของฉัน”“แต่ฉันจะอยู่ไกลจากเธอมาก ฉันคงคิดถึงเธอแย่!”“เธอจะมาหาฉันใช่ไหม?”เฉียวซุนได้ยินแล้วเศร้าเธอทำเสียงอืม “แน่นอน! ฉันจะไปที่นั่นอย่างน้อยปีละสองสามครั้ง! ฉันจะให้หุ้น 10% ของร้านกับเธอ เป็นค่าช่วยเลี้ยงลูกให้อ้วนท้วนสมบูรณ์! รอให้ลูกโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิงก็ต้องโดดเด่นกว่าเพื่อน!”เฉียวซุนพูด แล้วหันไปกอดหลินเซียว “ฉันไม่อยากให้เธอไปเลย!”ในใจของหลินเซียวก็เศร้าเช่นกันทั้งสองไม่พูดอะไรอีกต่อไป แค่กอดกันอย่างเงียบ ๆ ในคืนที่มืดมิด... รอให้รุ่งสางมาถึง…...ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เฉียวซุนก็เตรียมตัวแยกทางเธอขอให้ใครสักคนซื้อบ้านเดี่ยวหลังเล็กในเมืองชั้น 3 โดยมีเนื้อที่ประมาณ 240 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเธอหวังว่าหลินเซียว
เธอแค่อยากจะมีญาติในที่สุดหลินเซียวก็พูดขึ้น เสียงของเธอแตกสลาย “เฉียวซุน ทำไมมันยากขนาดนี้? ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้? ทำไมทุกครั้งความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันถึงไม่ได้รับการเติมเต็มเลย? ฉันรักเด็กคนนี้จริง ๆ แม้กระทั่งคิด... ชื่อ...คือ หลินเซี่ยว ฉันอยากให้เขามีความสุข มีรอยยิ้มตั้งแต่เกิด และโชคดีไปทั้งชีวิต”ตอนท้ายเสียงของเธอแหบแห้ง ทำได้แค่หายใจเท่านั้นเลือดไหลออกจากร่างกายของเธอมากขึ้น กระจายไปทั่ว...เฉียวซุนกอดเธอ เสียงสั่นเครือ“ไร้สาระ! ไร้สาระ! ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล! หลินเซียว แข็งใจไว้นะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล มันจะดีขึ้น! มันจะไม่เป็นไร ได้ยินไหม? รถพยาบาล... รถพยาบาล…”…...เสียงรถจอดชั้นใต้ดิน คือน้ำเสียงร่ำไห้จนแทบจะขาดใจของเฉียวซุนจู่ ๆ ป้ายโฆษณารอบ ๆ ก็เปลี่ยนไป ทั้งหมดเป็นภาพถ่ายงานแต่งของลู่จิ้นเซิงและหนิงหลินที่แท้ วันนี้เป็นวันที่สอง!ที่แท้ วันนี้เป็นวันที่ตระกูลหนิงลู่แต่งงานกันตาของหลินเซียวพร่ามัวเธอยื่นมือออกมา พยายามที่จะจับชายที่มีความสุขให้อยู่หมัด จู่ ๆ เธอก็นึกถึงคืนสุดท้ายคืนนั้นของพวกเขา ลู่จิ้นเซิงกระซิบบางอย่างที่หูซ้ายของเธอ
เฉียวซุนจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ ดูท่าทางกระวนกระวายของเขาเธอรู้สึกว่ามันช่างตลกขบขันเสียจริงเธอคิดว่าเรื่องของหลินเซียวช่างน่าหัวเราะ คาดไม่ถึงว่าเธอจะชอบลู่จิ้นเซิงได้ และเธอก็รู้สึกตลกตัวเอง ดันคิดว่าตระกูลลู่จะยอมปล่อยหลินเซียวที่กำลังท้องไปง่าย ๆเฉียวซุนเดินไปข้างหน้าสองก้าว เธอเดินสะดุดระหว่างสองก้าวนี้เธอได้ยินเสียงของตัวเองในภวังค์ “ลู่จิ้นเซิง เธอตั้งท้องลูกของคุณอยู่นะ! เธอตั้งใจจะไม่บอกคุณ เธอเพียงแค่อยากจะหาเมืองเล็ก ๆ เพื่อจะคลอดลูกเท่านั้น เธอแค่อยากจะมีญาติสักคนอยู่เคียงข้าง.......”เฉียวซุนเงยหน้าขึ้นทั้งหยาดน้ำตา “เธอไม่เคยคิดที่จะทำลายงานแต่งของคุณเลย แม้คุณจะซื้อแค่หูข้างขวาของเธอด้วยเงินห้าสิบล้านบาท เธอก็ไม่เคยโกรธเคือง! ลู่จิ้นเซิง เธอยอมรับในโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรมเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะว่าเธอรู้สึกเฉยชา แต่เป็นเพราะเธอเกิดมาก็มีน้อยแล้ว! เธอไม่มีญาติที่ไหน ไม่มีคนรัก......เธอมีเพียงแค่ลูกคนนี้เท่านั้น! คุณรู้ไหมว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหนหลังจากที่เธอท้อง? เธอพูดเรื่องลูกกับฉันทุกวัน เธอเป็นคนที่ประหยัดขนาดนั้น แต่กลับพูดว่าเมื่อลูกอายุห้าขวบจะหาติวเตอร์ส่วน
เสิ่นชิงกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พูดว่า “ก็ได้! งั้นหนูล้างหน้าก่อนแล้วไปหาอะไรกินสักหน่อยที่โรงอาหาร! หากจะดูแลคนอื่น หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อนนะ!”เฉียวซุนพยักหน้า เธอก้มหน้าลงแล้วลูบมือของหลินเซียวเบา ๆ เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์เสิ่นชิงหันหลังกลับไป รู้สึกเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด............เฉียวซุนล้างหน้าบ้วนปากง่าย ๆ แล้วจึงไปทานอาหารที่โรงอาหารชั้นสองทันทีที่เธอเดินถึงประตูลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอเมื่อหันกลับไป เธอก็พบกับเฮ่อจี้ถังเขาสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนพิงอยู่ตรงริมหน้าต่างปลายทางเดิน บานหน้าต่างที่เปิดอยู่ ผมของเขายุ่งเล็กน้อยเมื่อมีลมพัดผ่าน.....ทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาดูระทมทุกข์อีกด้วยท่าทางของเขาเหมือนกับว่าไม่ได้นอนทั้งคืนเฮ่อจี้ถังเป็นถึงหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาล ถือว่าค่อนข้างมีเกียรติเลยทีเดียว เขาดูแลหลินเซียวมาไม่น้อยเลย......เฉียวซุนรู้เรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เธอจึงเดินกลับไปขอบคุณเขาด้วยเสียงแผ่วเบาเฮ่อจี้ถังมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งเฉียวซุนผอมลงไปมาก ไหล่แสนบอบบางนั้นก็สั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงแข็งแกร่ง......เฉียวซุนรู้ว่าเขาไม่มีทางเข้าใจได้
ช่วงเวลาพลบค่ำ หลินเซียวยังไม่ฟื้นขึ้นมาเสิ่นชิงมองตาที่เริ่มแดงของเฉียวซุน เอ่ยเบา ๆ ว่า “ป้าดูแลอยู่ตรงนี้เอง หนูกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ยังไงก็นอนสักนิดแล้วค่อยมานะ ทนอยู่แบบนี้ได้ยังไงกัน? จะว่าไปแล้ว พ่อของหนูที่อยู่ที่บ้านก็คงเป็นห่วงหนู”เฉียวซุนส่งเสียงอืมกลับไปก่อนที่จะจากไป เธอลูบและจับมือของหลินเซียวครั้งแล้วครั้งเล่า “หลินเซียว เธอรีบฟื้นขึ้นมานะ”รอบดวงตาของเสิ่นชิงเริ่มแดงอีกครั้งเธอเดินไปอยู่ข้างเฉียวซุน เอ่ยถามเบา ๆ “เมื่อตอนเช้าตรู่ป้าออกไปส่งคุณหมอ เห็นหนูกับเฮ่อจี้ถัง.....เฉียวซุน หนูพร้อมยอมรับเขาแล้วใช่ไหม?”เฉียวซุนนิ่งเงียบแล้วตอบว่า “ป้าเสิ่น ตอนนี้หนูไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องความรักหรอกค่ะ”เสิ่นชิงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แม้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่หนูก็อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยนะ ป้าดูออกว่าเขาชอบหนูมาก เขาเคารพทั้งป้าและพ่อของหนูมากนะ”เฉียวซุนพยักหน้า “หนูรู้ค่ะป้าเสิ่น”……ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นเฉียวซุนก็ลงไปชั้นล่างทันทีที่เธอเดินออกจากตึกผู้ป่วยภายใน ข้อมือก็ถูกใครสักคนดึงเอาไว้ เธอรู้สึกตกใจก่อนจะหันกลับ
“เฮ่อจี้ถังไม่มีความสามารถในเรื่องนี้! เขาไม่สามารถต่อกรกับสองตระกูลหนิงและตระกูลลู่ได้อย่างแน่นอน ถ้าพวกคุณคบกัน ยังไงเขาก็มอบอะไรให้ไม่ได้อยู่แล้วนอกจากพวกความรู้สึกที่มีต่อคุณ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดูแลหลินเซียวไม่ได้แน่! เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะเอาแต่จมอยู่ในความเจ็บปวด เขาจะเอาแต่เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ็บที่ตอนนั้นเขาเลือกเรียนแพทย์แทนที่จะเลือกต่อสู้เพื่ออำนาจ!”“เฉียวซุน สิ่งเดียวที่สามารถต่อสู้กับอำนาจได้คืออำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า ”……ร่างกายของเธอสั่นไปหมด!เธอเลือกที่จะไม่เชื่อคำพูดของลู่เจ๋อ ทว่าในใจเธอกลับรู้ดีว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องหลอกเธอ เธอกังวลมาก กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับหลินเซียวอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลินเซียวล่ะก็ เธอสาบานเลยว่าจะไม่ให้อภัยกับตัวเองอย่างแน่นอน เหมือนว่าเขาจะเดาความคิดของเธอออก ลู่เจ๋อยิ้มเยาะ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อจะเปิดประตูรถให้เธอ ถามเธอด้วยวาจาที่สุภาพ “คุณจะเรียกรถไปเองหรือให้ผมไปส่งดีครับ?”“ฉันเรียกรถเองได้!”ตอนที่เธอก้าวขาลงจากรถ เท้าเรียวของเธอเกิดสะดุดเล็กน้อย คงเพราะว่าเธอมีอาการอ่อนเพลีย ลู่เจ๋อไม่ได้รับเธอเอาไว้