Share

บทที่ 126

Penulis: เฟเธอร์ในลมอ่อน
เฉียวซุนส่ายหัว

เธอมองไปที่ประตูลิฟต์ที่กำลังปิดลง พร้อมพูดเบาๆว่า “ถึงไม่มีการแต่งงาน ก็ไม่ควรจะทำให้การงานสูญเสียไปด้วยสิ! ฉันสบายดีพี่หลิน...ไปเถอะ!”

งานเลี้ยงส่วนตัวในคืนนี้ประสบความสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจ

เฉียวซุนเล่นเพลง "ผีเสื้อเริงรัก" นี่ทำให้เธอกลายเป็นนักดนตรีคลาสสิกหน้าใหม่และทำให้มีคนรู้จักเธอมากขึ้น

เฉียวซุนดื่มไวน์แดงไปมาก

ขากลับในรถ เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย มันรู้สึกเหมือนกับท้องของเธอถูกไฟไหม้อย่างไรอย่างนั้น

คนขับรถพาเธอกลับบ้านพร้อมบอกกับคนรับใช้ที่บ้านว่าคุณนายไม่สบาย และให้พวกเขาต้มชาเพื่อสร่างเมาไปส่งที่ชั้นบน

คนรับใช้ปฏิบัติต่อเฉียวซุนเป็นอย่างดี พอได้รับคำสั่งก็รีบไปจัดการทันที

แต่เมื่อพวกเขาไปถึงชั้นสองก็ได้เห็นว่าเฉียวซุนล้มตัวอยู่บนโซฟา หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อและมือของเธอจับอยู่ที่ตรงท้องน้อย

คนรับใช้รู้สึกหวาดกลัวจึงทำการเขย่าเฉียวซุนเบา ๆ ให้ตื่น “คุณนายไม่สบายตรงไหนคะ? ให้ฉันเรียกคุณผู้ชายกลับมาให้ไหม?”

เฉียวซุนปวดมากจนพูดไม่ออก

ทรมาน... เธอรู้สึกทรมานมาก...

เมื่อคนรับใช้เห็นเธอเจ็บปวดเช่นนี้ เลยรู้สึกตื่นตระหนกและสงสารจึงรีบโทรหาลู่เจ๋อ แต่โทรไปห
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 127

    สองคนสบตากันลู่เจ๋อเห็นเฉียวซุนสวมชุดคนป่วย ใบหน้าขนาดฝ่ามือที่ดูป่วย อีกทั้งดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและมองมายังเขาด้วยสายตาที่แปลกออกไปเมื่อไม่นานมานี้ เธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอยู่เลย ‘ลู่เจ๋อ ความชอบครั้งนึงที่ฉันเคยมีให้คุณ มันอาจใช้เวลาหลายปีหรือนานกว่าสิบปีกว่าจะเอามันกลับมาได้... จนถึงตอนนั้นคุณยังจะคงต้องการมันอยู่ไหม?’ตอนนั้นเขาบอกว่าเขาต้องการมัน ซึ่งเขาหมายความอย่างนั้นจริง ๆแต่เรื่องต่อมาที่เขาโยนหัวใจของเธอลงไปในโคลน นั่นก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันเมื่อมองดูอยู่นาน...ในที่สุด ลู่เจ๋อก็พูดจนแทบสั่นว่า “เฉียวซุน!”เขาอยากจะจับมือเธอ แต่เธอก็ผลักเขาออกไปมีเสียงร้องคร่ำครวญที่มุมปากของเธอ คำพูดของเธอก็เหมือนจะออกมาจากท้องของเธออย่างไรอย่างนั้น เธอพูดว่า “ฉันนี่มันไร้เดียงสาจริง ๆ! ฉันคิดว่าคุณคงชอบฉันอยู่บ้าง! จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคิดว่าวันนั้นฉันจงใจจะทำแบบนั้น ในใจของคุณฉันเป็นตัวอะไร ฉันยังจะคาดหวังไปอีกว่าคุณจะชอบฉันและยังคงหวังว่าการเริ่มต้นใหม่มันจะเป็นเรื่องจริง! ลู่เจ๋อ นี่มันช่างตลกสิ้นดี นี่คุณเป็นคนรอบคอบเกินไปหรือว่

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 128

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฉียวซุนกลับมาถึงบ้านพัก ตอนลงจากรถเธอไม่ได้กางร่มและปล่อยให้ฝนตกกระทบร่างกายและใบหน้าของเธอ เธอรู้สึกว่าฝนคือสิ่งที่ล้างบาปสำหรับจิตวิญญาณและอารมณ์ของเธอ ... รองเท้าของเธอเหยียบลงบนพรมสีขาวสะอาดพร้อมทั้งทิ้งคราบน้ำจำนวนหนึ่งไว้คนรับใช้ไม่กล้าห้ามเธอ ทำได้แค่ทำซุปขิงให้เธอดื่มเพื่อคลายความหนาวก็เท่านั้นเฉียวซุนขึ้นไปชั้นบนและสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือ "ภาพถ่ายงานแต่งงาน" ของพวกเขาถึงตอนลู่เจ๋อปฏิเสธที่จะถ่ายรูป เธอก็ยังหน้าด้านใช้เงินกว่า 800,000 ทำรูปนั้นขึ้นมา ครั้งหนึ่งเธอเคยจ้องมองรูปนี้หลายครั้งโดยหวังว่าสักวันหนึ่งลู่เจ๋อจะรักเธอแต่ในตอนนี้ แม้มองแค่เพียงแวบเดียวก็ยังรู้สึกน่าขัน!เฉียวซุนเหยียบเตียงขึ้นไปเพื่อเอารูปถ่ายลงมาด้านในของโครงเหล็กแหลมคมที่เธอหยิบมานั้นบาดมือ ทำให้เกิดรอยเลือดที่หลังมือของเธอ... เลือดสีแดงสดหยดลงมาทีละหยด เห็นแล้วสยดสยองแต่เฉียวซุนดูเหมือนจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยเธอโยนกรอบรูปทิ้งลงพื้น!เธอเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งอีกครั้งพร้อมนั่งลงช้าๆ... ในกระจกสะท้อนให้เห็นท่าทางทุลักทุเลของผู้หญิงคนนึงเฉียวซุนมองดูตัวเองในกระ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 129

    ลู่เจ๋อเคาะนิ้วและแตะโต๊ะเครื่องแป้งเฉียวซุนเอาไดอารี่ไปแล้ว!ทันใดนั้น ก็มีกลิ่นจาง ๆ ลอยมาเหนือระเบียง กลิ่นของบางสิ่งที่กำลังไหม้... ร่างกายของลู่เจ๋อสั่นสะท้าน เขาตระหนักถึงบางสิ่ง จึงรีบเดินออกไปที่ระเบียงจากนั้นเขาจึงเห็นเฉียวซุนเผาภาพถ่ายงานแต่งงานของพวกเขาแล้วก็ยังเห็นไดอารี่ที่ถูกเฉียวซุนเผาเช่นกันเฉียวซุนนั่งดูเงียบ ๆ ราวกับว่ากำลังเผาสิ่งที่ไม่สำคัญ"คุณบ้าไปแล้ว!"ลู่เจ๋อก้าวไปข้างหน้าพร้อมคว้าไดอารี่มาโดยไม่ต้องคิด เขาถึงกับจับมันด้วยมือเปล่าโดยไม่มีการป้องกันใด ๆ ... เขาไม่มีเวลาคิดว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้! คิดแค่ว่ามันคือไดอารี่เล่มเดียวเท่านั้นไฟดับไปแล้ว แต่ไดอารี่เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวลู่เจ๋อไม่สนใจฝ่ามือที่โดนไฟไหม้เลยแม้แต่น้อย เขาเปิดดูไดอารี่อย่างเร่งรีบและหน้าที่เขาเปิดก็มีประโยคเขียนอยู่ว่า "ลู่เจ๋อจะไม่มีวันชอบฉัน!" หัวใจของลู่เจ๋อสั่นไหว!เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมจ้องมองเฉียวซุน "การที่คุณเผามันแบบนี้ หมายความว่าความชอบตั้งกี่ปีที่คุณเคยมีคือคุณไม่ต้องการมันแล้วเหรอ?""ไม่ต้องการแล้ว!"ดวงตาของเฉียวซุนแดงก่ำ พวกเขาจ้องมองกันราวกับสัตว์สองตั

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 130

    “ฉันคิดว่า ตอนที่คุณกอดฉันแล้วดูฉันถลำลึกเข้าไปกับความทุกข์แบบนั้น! คุณคงได้ใจสินะ คุณคงคิดว่า เธอมันไร้ค่า แค่กวัก ๆ มือก็หลอกได้แล้ว!”“ลู่เจ๋อฉันเคยชอบคุณก็จริง แต่หลังจากนี้ฉันจะไม่ชอบแล้ว!”……ขณะที่เฉียวซุนพูด เขารู้สึกงุนงงและปวดใจเป็นอย่างมากลู่เจ๋ออ่อนระโหยโรยแรงมากแล้วเขาไม่ใช่คนอารมณ์ดีขนาดนั้น เฉียวซุนไม่ได้ซาบซึ้งกับอากัปกริยาของเขาในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เขาจึงขยี้ปลายตาพร้อมถามเธอว่า "งั้นคุณจะเอายังไง? จะปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพหรือจะหย่ากับฉัน เฉียวซุนคุณอย่าลืมว่าพี่ชายของคุณยังคาดหวังให้เมิ่งเยียนหุยช่วยเขาฟ้องร้อง คุณจะทิ้งผมไปได้เหรอ?”เฉียวซุนนอนลงบนหมอน เงียบเสียงอยู่พักหนึ่งลู่เจ๋อเดาว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอต้องการหย่าต้องการทิ้งเขา คิดแม้กระทั่งว่าจะไม่ติดต่อกับอีกเขาตลอดไป แม้แต่ไดอารี่ของเธอเองก็เผาทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำ แล้วเธอจะเหลือความรู้สึกอะไรให้เขาอีกล่ะ?แต่เธอมีจุดอ่อน!เฉียวสือเยี่ยนคือจุดอ่อนของเธอเมื่อเห็นว่าเธอยังเงียบ ลู่เจ๋อก็อารมณ์เสีย เขาจับไหล่ของเธอแล้วหมุนตัวเธอกลับมา...ผมยาวสีดำสยายไปทั่วหมอน บนใบหน้าสวยของเธอมีร่องรอยที่ผ่านการร้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 131

    ฝ่ามือตบลงที่ใบหน้าลู่เจ๋อไปหนึ่งทีลู่เจ๋อหยุดพร้อมก้มศีรษะลงเพื่อจ้องมองคนบนหมอน เฉียวซุนใจเต้นแรง ตอนนี้ชุดนอนผ้าไหมไหลลงมาถึงไหล่เผยให้เห็นไหล่ที่บางและกลมสวยยิ่งกว่าแสงของฤดูใบไม้ผลิ ทั้งตัวเธอนั้นละเอียดอ่อนอีกทั้งยังเปราะบาง "ตีคนเป็นแล้วสิ?"ผ่านไปสักพัก ลู่เจ๋อเอาลิ้นเข้าปากของเธอ ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนมากเขาจับมือเธอแล้วกดไว้บนหมอนสีขาวราวหิมะอย่างแน่นหนา...ขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจมูกของเฉียวซุนแดงระเรื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองลู่เจ๋อพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "ลู่เจ๋อ ตอนนี้คือคุณจะบังคับฉันหรือจะเอายังไงกันแน่ ถ้าคุณไม่ได้จะบังคับ งั้นก็ปล่อยฉันไป!"ลู่เจ๋อไม่ยอมปล่อยเธอเขาจ้องมองรูปร่างที่เปราะบาง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว "ตอนนั้นที่ผมบอกว่าจะเริ่มต้นใหม่ คือจริงจังนะ!"เฉียวซุนหันหน้าหนีใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอยังคงฝังลึกอยู่ในหมอนและพึมพำ "ระหว่างเราจะไม่มีการมีลูก แล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย! นี่ไม่ใช่เล่น ๆ นะ! ลู่เจ๋อ... เราจบกัน!"หลังพูดจบเธอก็หยุดดิ้นเธอนอนอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างเปราะบางและไร้แรงต้านท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 132

    "คุณก็เตรียมเองสิ!" เสียงของเฉียวซุนแหบเล็กน้อย "ลู่เจ๋อ จากนี้ไปฉันจะไม่ช่วยดูแลชีวิตส่วนตัวของคุณ ส่วนเรื่องจัดเสื้อผ้าและเครื่องประดับคุณก็จ้างคนมาจัดการแล้วกัน ถ้าไม่โอเคคุณก็จ้างเลขาฉินมาช่วยแล้วค่อยจ่ายเงินให้เธอ”ลู่เจ๋อขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า "ผมไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว!"ในห้องนอนเกิดความเงียบจากนั้นไม่นาน เสียงของเฉียวซุนก็ดังขึ้น "ถ้าคุณไม่ชอบงั้นก็โอเค! ฉันก็จะไม่ทำ... ถ้าคุณคิดว่าการเลี้ยงดูฉันมันเปลืองเงินมากคุณก็หย่ากับฉันได้เลย ฉันเองก็ไม่ได้จะอยากเป็นคุณนายลู่นักหรอกนะลู่เจ๋อ!”ลู่เจ๋อยืนเงียบ ๆเขาคิดว่าเขาเข้าใจว่าเฉียวซุนหมายถึงอะไร เธอจะอยู่และเป็นคุณนายลู่แต่เธอจะไม่ดูแลเขาอีกต่อไปแล้ว เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเลขาฉินจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาไหม... แต่เธอไม่ได้มองว่าเขาเป็นสามีจริง ๆ! ในใจเธอกำลังคิดว่าเขาเล่นกับผู้หญิง จะมีมากหรือน้อยก็คงจะไม่สนแล้ว!ลู่เจ๋อตะคอกอย่างเย็นชาออกไปว่า "คุณคิดได้นี่!" พูดจบ เขาก็เข้าไปในห้องรับฝากของและเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนจากไปเฉียวซุนไม่ได้มองเขาเลย……ลู่เจ๋อไปอยู่โรงพยาบาลไม่นานนักไป๋เซียวเซี

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 133

    กว่าลู่เจ๋อกลับมาที่วิลล่า เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วเขาเดินเข้าไปในโถงทางเข้า ก็มีคนรับใช้เดินเข้ามาหาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "คุณผู้ชายกลับมาแล้ว! ให้เตรียมอาหารเย็นเลยไหมคะ?"ลู่เจ๋อถอดเสื้อคลุมออกพร้อมปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดแล้วพูดเบา ๆ "บะหมี่สักถ้วยก็พอแล้ว คุณนายล่ะ นอนแล้วเหรอ?"คนรับใช้รับเสื้อคลุมเขามาด้วยความเคารพแล้วพูดต่อว่า "ตอนเย็นลงมาหาอะไรกินที่ชั้นล่าง ซ้อมเปียโนอยู่พักหนึ่งแล้วก็ไม่ลงมาอีกเลยค่ะ"ลู่เจ๋อพูดเงียบ ๆ ว่า "รู้แล้วล่ะ"คนรับใช้เดินจากไป เขาจึงเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วเอื้อมมือออกไปเปิดประตูหน้าต่างพร้อมจุดบุหรี่และสูบมันอย่างช้า ๆ... ท่ามกลางควันจาง ๆ เขาจำได้ว่าเฉียวซุนรอเขากลับมาที่บ้านเสมอ เธอมักจะจัดโต๊ะอาหารหรือของว่างเพื่อตั้งตารอให้เขาได้ชิม ถึงแม้จะชิมเพียงคำเดียวก็ทำให้เธอมีความสุขไปครึ่งวันเมื่อเวลาผ่านไป โต๊ะกินข้าวก็ยังว่างเปล่าจนตอนนี้ก็ยังว่างเปล่าอยู่เหมือนเดิม เว้นเสียแต่ว่าคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนนี้เป็นเขาไม่ใช่เฉียวซุน……เขาครุ่นคิดไปมาจนงง จนตอนนี้คนรับใช้นำบะหมี่มา และในทันใดนั้นเขาก็พูดอย่างไม่คา

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 134

    เมื่อก่อน เฉียวซุนไม่ค่อยได้ไปที่เหล่านั้นเท่าไหร่เพราะลู่เจ๋อไม่ชอบ!ตอนนี้เธอไม่สนใจอีกต่อไปว่าเขาจะชอบหรือไม่ จึงได้ทำการนัดกับหลินเซียวไว้เสียงเพลงในบาร์ดังจนหนวกหู หลินเซียวกำลังเต้นอย่างเพลิดเพลินเนื่องจากเธอชอบใช้ชีวิตหรูหราและฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ต่อมาเธอจึงสั่งไวน์แดงหนึ่งขวดให้เฉียวซุน “ไวน์นี้ดื่มแล้วไม่เมา!”เฉียวซุนดึงเธอนั่งลงแล้วถามเบา ๆ “ทำไมถึงเลือกที่นี่ล่ะ?”เธอกังวลหลินเซียวไม่มีใครรู้ว่าหูข้างซ้ายของหลินเซียวนั้นสูญเสียการได้ยินเพราะมีสาเหตุมาจากการโดนคนเก็บหนี้ของพ่อแม่ตบเข้าครั้งเมื่อเธอยังเป็นเด็ก แม้ว่าเฉียวซุนจะขอให้เฉียวสือเยี่ยนใช้เงินมากมายในการหาที่รักษาหู คอ จมูกจนทั่วเมืองบี แต่ก็กลับช่วยอะไรไว้ไม่ได้หลินเซียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเธอก็นั่งลงแล้วค่อย ๆ เสยผมสีดำที่สยายยาวราวกับสาหร่ายทะเลพร้อมยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูด “ไอความเจ็บที่ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บมันอีกต่อไปแล้วล่ะ! คนเรายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องดื่มไวน์วันนี้และเมาให้เละสิ ไม่ว่าจะเป็นลู่เจ๋อ ลู่จิ้นเซิงหรือไป๋เซียวเซียวอะไรนั่นก็ไสหัวไปไกล ๆ เหอะว่ะ!”เว

Bab terbaru

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status