“เฉียวกุ้ย นายเองก็เป็นนักเปียโน จะให้เราหลับหูหลับตาพูดมั่วซั่ว จิตใจของนายถูกสุนัขกินไปแล้วหรือไง?”“นั่นน่ะสิ! เพลงแห่งชัยชนะของฉินอ๋อง แม้จะเป็นคนนอกวงการก็สามารถเข้าถึงอารมณ์ได้ นายยังคิดจะให้พวกฉันร่วมมือกันแกล้งโง่อีกเหรอ? ตลก!”ทันใดนั้น หมู่ศิลปินต่างก็มองเฉียวกุ้ยราวกับมองตัวตลกในโรงละคร ทุกคนพร้อมใจกันจ้องเขาอย่างไม่พอใจ เฉียวกุ้ยอึ้ง แล้วพูดตะกุกตะกักว่า“เมื่อครู่นี้เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ? พวกคุณไม่รักษาคำพูด แล้วเปลี่ยนใจ!”สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพลางกล่าวว่า“ตกลงอะไรกัน? เฉียวกุ้ย ต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ นายอย่ามาใส่ร้ายกันหน่อยเลย! ไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าพวกฉันไม่เกรงใจ!”“นายอิจฉาคนอื่น พวกเราทุกคนไม่บอกให้ประธานเย่ไล่นายออกก็บุญโขแล้ว แต่นายกลับมาทำตัวแบบนี้อีก?”คำพูดนี้ทำเอาเฉียวกุ้ยสีหน้าซีดขาว พูดไม่ออกในทันใดในใจรู้สึกโกรธจัดศิลปินตาแก่พวกนี้พูดอีกอย่างทำอีกอย่าง พอเห็นหลิงเฟิงแสดงความสามารถเหนือชั้นออกมาหน่อย พวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่าย!ตนไม่ควรคาดหวังว่าคนพวกนี้จะสามารถไล่หลิงเฟิงออกเลย!อีกอย่างอย่าว่าแต่วิจารณ์เลย คนพวกนี้พอหลิ
ที่เกิดเหตุพลันเงียบลง แล้วมองชายผู้นี้ด้วยความสงสัย!ดวงตาคู่งามของเย่อวี่หลิวเบิกกว้าง“นายเป็นใคร? อยู่ฝ่ายไหน ทำไมฉันเหมือนไม่เคยเห็นหน้านายมาก่อน?”“ฉันชื่อเหล่าเตา!”อีกฝ่ายเพิ่งพูดจบ ก็ลงมือบีบคอเฉียวกุ้ยให้หักทันทีด้วยความเร็วแสง!เลือดกระเซ็นออกจากปากอย่างรุนแรง!“อ๊าก! ฆ่าคนแล้ว!”ทันใดนั้น ทั่วทั้งงานก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องหนวกหูขณะเดียวกันก็มีเงาร่างสีดำนับน้อยคนปรากฏขึ้น แล้วล้อมรอบที่นี่ไว้!“ประธานเย่ ระวัง!”หลิงเฟิงปกป้องเย่อวี่หลิวในทันทีราวกับเป็นระบบอัตโนมัติของระบบประสาท“คนพวกนี้เป็นใคร เข้ามาในบริษัทได้ยังไง?” เธอตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อตัวเพราะคนคนหนึ่ง จู่ๆ ก็ตายไปต่อหน้าต่อตาตนแบบนี้ เป็นใครๆ ก็ตกใจเป็นไปตามคาด คนขององค์กรมีดเลือดแฝงตัวอยู่ในบริษัทจริงด้วย!แถมยังเลือกลงมือตอนที่คนเยอะที่สุดด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาดีแน่นอนถ้าเลือกที่จะฆ่าในบริษัทล่ะก็ หากหลิงเฟิงคิดจะใช้วิชาแยกตัวเพื่อหยุดพวกเขานั้นต้องก่อเกิดความเสียหายมากแน่นอน!“ถ้ามาเพราะฉัน ก็ออกไปสู้กับฉันข้างนอก ทำตัวเป็นวีรบุรุษที่นี่ ไม่ถือว่าเป็นวีรบุรุษอะไรหรอกนะ”หลิงเฟิงลอ
“เล่นกับฉันงั้นเหรอ?”เหล่าเตาได้ยินดังนั้นเหมือนได้ยินเรื่องตลกแห่งปี เขาหลุดหัวเราะออกมาสมาชิกองค์กรมีดเลือดคนอื่นๆ เองก็อดหัวเราะเยาะออกมาไม่ได้ พวกเขาหัวเราะจนหงายหลัง“ไม่รู้อะไรซะแล้ว…”“เล่นปืนลูกโม่งั้นเหรอ เขาไม่รู้อะไรซะแล้ว ว่าแต่ก่อนลูกพี่ใหญ่ของเราอยู่ในวงการนี้มาก่อน!”“ในบ่อนการพนันใต้ดิน เขาเป็นถึงราชาแห่งปืนไร้เทียมทานที่แม้แต่ยมทูตก็ไม่กล้าเอาชีวิตไปเชียวนะ เอาความกล้ามาเล่นเรื่องนี้จากไหนกัน?”เสียงหัวเราะดังลั่นดังไม่ขาดสายเหมือนเส้นด้ายหลิงเฟิงส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง“เป็นแมลงฤดูร้อน อย่าคิดจะอยู่ในน้ำแข็ง เป็นกบในบ่อ อย่าคิดออกสู่ทะเล”ประโยคนี้ ทำเอาสมาชิกองค์กรมีดเลือดหยุดหัวเราะในทันที แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าฉุนเฉียวแทนเหล่าเตาเองก็ไม่หัวเราะแล้วด้วยเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า“ได้! แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าแกตาย คนที่อยู่ที่นี่ ไม่รอดสักคน!”ประโยคนี้ ทำเอาคนอื่นๆ ในที่เกิดเหตุตกใจขวัญกระเจิงเหล่าศิลปินที่ชื่นชมและทาบทามหลิงเฟิงก่อนหน้านี้ ต่างก็เปลี่ยนสีหน้า“ที่แท้คุณก็เป็นท่านเหล่าเตาที่สะท้านทั้งมณฑลเจียงหนานในตอนนั้นเองเหรอเนี่ย! อ
“ยังจะดวลกันอีกเหรอ?”ได้ยินแบบนั้น ฝูงชนพลันกังวลขึ้นมา ลมหายใจติดขัดเย่อวี่หลิวยิ่งเป็นกังวลกว่าใครๆ แค่กระสุนนัดเดียว เธอก็กลัวมากแล้ว!หากดวลกันต่อไป เปอร์เซ็นต์การตายของหลิงเฟิงก็จะยิ่งสูงขึ้น!หากหลิงเฟิงตายไป สารเลวพวกนี้ก็ต้องไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่!ทว่าหลิงเฟิงกลับยังปั้นหน้านิ่ง รอให้อีกฝ่ายเติมกระสุนปืนเสร็จค่อยยกปืนขึ้น แล้ววางลงกะทันหันสมาชิกองค์กรมีดเลือดเห็นดังนั้น ก็หัวเราะเยาะกันใหญ่“ฮ่าๆๆๆ! กลัวใช่ไหมล่ะ? ขี้ขลาดแล้วเหรอ? จะยอมแพ้แล้วเหรอ?”เหล่าเตาเองก็เย้ยหยัน “ถ้าปอดแหกไม่กล้าเล่นก็ยอมแพ้ซะ ฉันจะคงสภาพศพแกให้! แต่ว่าคนที่นี่ ต้องตายทุกคน!”หลิงเฟิงหัวเราะ “ขอโทษที ฉันแค่รู้สึกว่าวิธีดวลแบบนี้น่าเบื่อเกินไป ฉันตั้งใจว่าจะเปลี่ยนวิธีดวลสักหน่อย”วินาทีต่อมา เขาก็ยัดปืนเข้าปากตัวเองทันทีตามด้วยเหนี่ยวไกปืน!วินาทีนั้นทุกคนในที่เกิดเหตุ ราวกับถูกสะกดเอาไว้ อ้ำอึ้งราวกับรูปปั้นไก่!การตายแบบนี้อนาถกว่าการตายแบบยิงหัวมาก!โดยเฉพาะวินาทีที่เหนี่ยวไกปืนแม้แต่เหล่าเตาเองก็สะดุ้ง และขนลุกซู่ไปด้วยเขาคิดว่าพวกเขาเป็นพวกบ้าระห่ำไม่มีใครเปรียบแล้ว แต่คาดไม่
“เหนี่ยวปืนสิ! เก่งจริงก็เหนี่ยวไกเลยสิ ฮ่าๆ! ดูซิว่าท่านยมทูตจะรับแกไปไหม!”ใบหน้าของเหล่าเตากระตุกไหว แล้วพูดโวยวาย“หลิงเฟิงรับปืนลูกโม่มาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ท่านยมทูตงั้นเหรอ? เขาไม่กล้าปล่อยให้ฉันตายหรอก”เพราะเขาคือราชาแห่งความมืดราชาแห่งความมืดเป็นผู้ควบคุมการเวียนว่ายตายเกิดของทั้งหกภพ แม้แต่ยมทูตก็เป็นลูกน้องของอีกฝ่ายเขาหัวเราะเยาะออกมา แล้วยกปืนขึ้นจ่อที่หัวสมอง จากนั้นตามด้วยเสียงแคร่ก!วินาทีนั้น หัวใจของทุกคนพลันตกอยู่ที่ตาตุ่มผ่านไป 0.1 วินาที ทุกคนต่างส่งเสียงดังราวคลื่นยักษ์ออกมา!ไม่มีเสียงปืน!รอดชีวิตไปอีกแล้ว ทั้งๆ ที่มีโอกาสรอดเพียงแค่หนึ่งในหกเท่านั้น แต่เขาดวลสำเร็จ!แต่ในขณะที่เหล่าเตากำลังอ้ำอึ้งอยู่นั้น หลิงเฟิงกลับยกปืนขึ้นอีกครั้ง แล้วหมุนปอกเก็บกระสุน พร้อมจ่อไปที่ใต้คางแล้วยิง!ไม่เป็นอะไรเหมือนเดิม!โว้!ทุกคนเริ่มส่งเสียงดังขึ้น!“ไอ้เด็กนี่บ้าไปแล้วหรือไง? ครั้งแรกเพิ่งรอดไปอย่างหวุดหวิด แล้วยังจะลองเสี่ยงครั้งที่สองอีก!”“แต่ครั้งที่สอง เขาก็ดวลสำเร็จเหมือนกัน ไม่มีเสียงปืนดังขึ้น!”แม้กระทั่งสมาชิกองค์กรมีดเลือดเองก็ถูกความกล้าของ
ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ!ทุกคนต่างก็จ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความไม่น่าเชื่อ เหล่าเตาฉี่แตก!สมาชิกองค์กรมีดเลือดอ้าปากจนคางแทบหลุดลงพื้น!บนตัวของเหล่าตัวเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาไม่กล้าลงมือ เขา…เขากลัวตาย!ฮ่าๆๆๆๆ!ทันใดนั้น ในห้องโถงก็มีเสียงหัวเราะลั่นดังออกมาชอบใจ!เป็นเสียงหัวเราะของหลิงเฟิง เขาหัวเราะชอบใจจนเกือบจะหงายหลังทุกคนอ้ำอึ้ง ท่ามกลางสายตาจากผู้คน เขากลับกล้าหัวเราะเยาะเหล่าเตาที่เป็นเทพสังหาร! เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?แม้จะตกใจกลัวจนฉี่แตก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้เลยนะ!“รู้ไหมว่าทำไมนายถึงไม่กล้าลงมือ?”หลังจากที่หลิงเฟิงหัวเราะเยาะเสร็จ เขาก็พูดเชิงชี้แนะว่า“เพราะนายแก่แล้วไงล่ะ! ความกล้านั้นไม่อยู่แล้ว นายสมัยวัยรุ่น ใช้ความกล้าทั้งหมดที่มีผจญภัยท้าโลกถึงขนาดกล้าเอาชีวิตของตัวเองไปดวลปืนลูกโม่ ดังนั้นถึงได้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง! แต่ว่านายในตอนนี้ เป็นไก่ที่ถอนขนไปแล้ว เป็นไอ้ขี้ขลาดที่กลัวแม้กระทั่งหนูตัวน้อยๆ!”หลิงเฟิงยกมุมปากขึ้น “นาย ไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่แข่งของฉันแล้ว”ได้ยินดังนั้น เหล่าเตาพลันอดตัวสั่นไปทั้งตัว ความโอ้อวดโอหังและทะนงตนถูกทำล
“เดี๋ยวก่อน! พวกคุณฆ่าผิดคนแล้ว!”จ้าวมู่เสวี่ยรีบวิ่งเข้าไปดู พบว่าผู้ตายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับองค์กรมีดเลือดเลย!“หัวหน้าทีมจ้าว จะทำยังไงดีครับ? เรายังต้องบุกเข้าไปในหลี่ห่าวกรุ๊ปไหมครับ?”เหล่าลูกน้องต่างก็พูดอย่างเป็นกังวลเพื่อต่อกรกับองค์กรมีดเลือด พวกเขาถึงกับยืมอาวุธหนักมาใช้โดยไม่ลังเลแต่ยิ่งเข้าใกล้ที่นี่เท่าไหร่ พวกเขาที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธที่รุนแรงก็กลัวจนขนหัวลุกจ้าวมู่เสวี่ยเองก็สับสน และตัดสินใจไม่ได้“ยังมีคนอีกนับพันคนอยู่ข้างในด้วย ถ้าหากลงมือ แล้วเกิดลูกหลงทำร้ายผู้บริสุทธิ์ขึ้นมาจะทำยังไง?”ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เธอไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะเหล่าเตาได้เลยในช่วงเวลาสำคัญ จู่ๆ ก็มีฝีเท้าที่เต็มไปด้วยพลังก้าวออกมาจากข้างใน“ออกมาแล้ว! ใครน่ะ?” หัวใจของทุกคนหยุดเต้น แล้วชักปืนออกมาโดยสัญชาตญาณจ้างมู่เสวี่ยกลับเบิกตาคู่งามกว้าง “หลิงเฟิง!”เรือนร่างของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยคราบเลือด ทว่าสีหน้ากับเรียบนิ่ง เดินมือไขว้หลังออกมาโดยไม่สะทกสะท้านใดๆ“นาย…เกิดอะไรขึ้น? องค์กรมีดเลือดเริ่มฆ่าแล้วเหรอ?”จิตใจของจ้าวมู่เสวี่ยดำดิ่งลงสู่เหวลึก
“พวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ตอนนี้ขอให้พวกคุณไสหัวออกจากที่นี่ได้ไหม?”หลิงเฟิงพูดอย่างเย็นชาประโยคนี้ราวกับน้ำมันเติมเชื้อเพลิง ฝูงชนในหน่วยบังคับใช้กฎหมายระเบิดอารมณ์ออกมาทันใด“อวดดีจริงๆ!”“ทั้งๆ ที่แค่เก็บตกเอาเรื่องดีๆ เข้าตัว ยังมีหน้าทำตัวมั่นอกมั่นใจที่นี่อีก หน้าไม่อาย!”“เก่งจริงก็ตัวต่อตัวดิ!”ฝูงชนโกรธมากจนอยากจะรุมตีหลิงเฟิง!แต่จ้าวมู่เสวี่ยพูดแทรกขึ้น “หลบไปให้หมด”ทุกคนงงงัน กลายเป็นหินทันที “หัวหน้าทีมจ้าว พวกเราได้ยินไม่ผิดใช่ไหมล่ะ?”จ้าวมู่เสวี่ยเป็นคนอารมณ์ร้อนที่ขึ้นชื่อในหน่วยบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นตามหลักแล้วได้ยินหลิงเฟิงพูดจาเย้ยหยันแบบนี้ เธอควรจะโกรธจัดตั้งนานแล้ว!แต่จ้าวมู่เสวี่ยกลับใจเย็นมากผิดปกติ!นี่มันแปลกมากนะ!เธอกลับพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เพราะพวกนายสู้เขาไม่ได้ไงล่ะ!”“หัวหน้าทีมจ้าว คุณพูดเล่นอะไรอยู่? หน่วยบังคับใช้กฎหมายของเราไม่ใช่หมาแมวก็เข้าได้นะในฐานะที่เป็นหน่วยบังคับใช้กฎหมายของทั้งเมือง สมาชิกของเราที่อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ทหารเกษียณ ก็เป็นยอดฝีมือด้านคาราเต้ หรือด้านศิลปะการต่อสู้…”ทุกคนไม่พอใจมีเพียงจ้าวมู่
“ปานแรกเกิด? ปานแรกเกิดอะไร?”ความโกรธของจินฝูเซิงถูกคำพูดที่พ่นออกมากะทันหันนี้ทำเอาหยุดชะงัก แล้วเอ่ยถามอย่างแปลกใจหลิงเฟิงกล่าวเรียบเฉยว่า “ปานแรกเกิดบนก้นของเด็กในท้องของภรรยาคุณ”ฝูงชนตกใจ!มู่หรงป๋อกล่าวด้วยความสงสัย “คุณหลิงครับ คุณ…คุณสามารถมองเห็นปานแรกเกิดของเด็กในท้องด้วยตาเปล่าเลยเหรอครับ?!”นี่มันเหนือความสามารถของมนุษย์แล้วนะเนี่ย!หม่ากวงกลับลนลานขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า“ยังจะพูดจาเหลวไหล ทำตัวเป็นที่สนใจอยู่อีก! ลงมือฆ่าพวกมันได้เลย!”วินาทีนั้น บอดี้การ์ดพิเศษหลายสิบคนก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขา!“อ๊าก! อย่าฆ่าผมเลยนะ! เหล่าจินไว้ชีวิตผมด้วย!”มู่หรงป๋อตกใจจนหน้าสั่นไร้สีเลือดฝาด!ทว่าทันใดนั้นเองคนหลายสิบคนนั่นกลับส่งเสียงร้องออกมา ตัวกระเด็กออกไปทั่วสารทิศ!“ผมไม่ชอบต่อสู้ ใช่ว่าผมจะสู้ไม่เป็นนะ”หลิงเฟิงเพียงแค่กางแขนออก แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านออกมาทันที!มู่หรงป๋อถอนหายใจโล่งอกหนักๆ แล้วปาดเหงื่อเบาๆ“เกือบลืมไปเลยว่า คุณหลิงเป็นคนที่สามารถกวาดล้างทั้งสมาคมชุดแดงได้! คนแค่นี้นับประสาอะไรกัน?”หลิงเฟิงกล่าวอย่างเรียบเฉย“ถ้าผมอยาก ผมจะไ
เมื่อคำพูดนี้เผยออกไป บรรยากาศรอบๆ ก็แข็งทื่อในบัดดล!ฝูงชนหน้าถอดสีจินฝูเซิงโกรธจัด หันไปตบหน้าหร่วนหว่านหวาทีหนึ่ง“นังแพศยา! ถ้าฉันเป็นหมันแต่กำเนิดจริงๆ แล้วเด็กในท้องแกมันมาได้ยังไง!”หร่วนหว่านหวาเอามือปิดหน้า แล้วกล่าวด้วยเสียงร้องไห้“เหล่าจิน! คุณเชื่อคำพูดไอ้มิจฉาชีพนี่ แล้วมาสงสัยคนร่วมเตียงเคียงหมอนคุณงั้นเหรอ! ฉันอยู่กับคุณมาหลายปีขนาดนี้ มอบทั้งชีวิตวัยรุ่นให้คุณไปแล้วด้วยซ้ำ!”หม่ากวงเองก็รีบเอ่ยขึ้นว่า“นั่นน่ะสิครับ! นายท่าน คุณออกไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ ไม่อยู่บ้าน คุณนายต้องอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว โดดเดี่ยวและเหงาจะตาย! คุณนายทำเพื่อคุณขนาดนี้ ทำไมคุณถึงสงสัยเธออีกล่ะครับ?”“ยิ่งไปกว่านั้นหลิงเฟิงเป็นหมอจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาพูดจาลมๆ แล้งๆ ไม่มีหลักฐาน แม้แต่ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ก็ไม่มี!”จินฝูเซิงตะลึงงันคล้ายว่ากึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อหร่วนหว่านหวาร้องไห้ แล้วกล่าวว่า“ดี คุณกล้าตบหน้าฉันเพราะคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที! ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไปเอาเด็กออกตอนนี้เลย! คุณก็ถือซะว่าเด็กนี่เป็นลูกชู้แล้วกัน!”จินฝูเซิงรีบเข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้“ที่รัก! ผมผ
หร่วนหว่านหวาได้ยินดังนั้น ก็เบิกตากว้าง“ไอ้หมอเถื่อนมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไหม? อยู่ดีไม่ว่าดีก็จะตรวจชีพจรฉัน!”มู่หรงป๋อแก้ไขสถานการณ์อย่างเก้อเขิน“ซ้อครับ ทักษะทางการแพทย์ของคุณหลิงผมเคยลิ้มลองมาแล้ว ไม่แพ้หมอใหญ่ๆ ในเมืองหลวงเลย!”“ฉันท้องทายาทตระกูลจินเพียงคนเดียวอยู่นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา พวกนายสองคนอย่าคิดออกไปจากประตูนี้ได้เลย!”หร่วนหว่านหวากลับไม่ไว้หน้า กล่าวอย่างโอหังว่า“ดูท่าแล้วต่อไปฉันคงต้องเตือนเหล่าจินแล้วว่าอย่าไปคบค้ากับหมาๆ แมวๆ แบบนี้นัก! จะทำให้ลดระดับตัวเองเอาได้!”พูดจนอีกฝ่ายหน้าดำหน้าแดงจินฝูเซิงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “หว่านหวา อย่าล้ำเส้นเกินไปหน่อยเลย พวกเขาเป็นแขกของผมนะ!”“อีกอย่าง ก็แค่ตรวจชีพจรเฉยๆ จะผิดพลาดอะไรได้?”มู่หรงป๋อเองก็กล่าวยิ้มๆ“ผมยืนยันได้! ถ้าทำให้ครรภ์ของซ้อมีปัญหาจริงๆ ผมมู่หรงป๋อจะถวายชีวิตนี้ให้เลย!”หร่วนหว่านหวากลอกตามองบน จากนั้นยื่นมือขาวหยกออกไปพลางกล่าวว่า“เห็นแก่เหล่าจินหรอกนะ ตรวจสิ!”“แต่ว่าฉันขอเตือนเลยนะ อย่าฉวยโอกาสทำอะไรล่ะ! ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”ต่อหน้าอุปสรรคต่างๆ จากเธอ หลิงเฟิงเพียงแค่ยิ้มเบาๆ
ข้างในมีคนหลายคนกำลังร้องเพลงกันสนุกสนาน!มู่หรงป๋อรีบเดินเข้าไปทักทาย“เถ้าแก่จิน! ผมพาคุณหลิงเฟิงที่คุณอยากเจอตัวมาแล้วครับ!”ชายผมสั้นที่สวมพระเครื่องและแหวนหยกคนหนึ่งวางไมค์ลงก่อน แล้วกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้มว่า“ฮ่าๆ! มู่หรงป๋อ สมแล้วที่เป็นสหายของฉัน! พูดจริงทำจริง!”“คุณหลิง ผมผู้แซ่จินคาดหวังอยากพบคุณมาตลอด ในที่สุดก็ได้พบกันสักที!”เขาเดินเข้ามาจับมือทักทายอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น“แต่ก่อนถึงจะไล่จีบสาวยังไง ก็ไม่เคยเหนื่อยยากขนาดนี้มาก่อน!”มุมปากของหลิงเฟิงกระตุกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าตกใจผู้ชายคนนี้ลามกอนาจาร ดูแล้วเหมือนเศรษฐีหน้าใหม่จากชนบทแต่ก็เพราะเป็นคนติดดินเหมือนกันจึงทำให้ทั้งสองกระชับความสัมพันธ์ได้โดยไม่รู้ตัว!ทำให้หลิงเฟิงมีความรู้สึกสนิทสนมกันอย่างบอกไม่ถูก“คุณหลิง ผมจินฝูเซิง! คนนี้คือภรรยาของผม หร่วนหว่านหวา! แล้วก็พ่อบ้านของผม หม่ากวง!”อีกฝ่ายแนะนำอย่างเป็นมิตรมู่หรงป๋อโฉบฉวยโอกาสกล่าวว่า“เถ้าแก่จินเป็นเศรษฐีจากมณฑลเจียงหนาน ร้านค้าเกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนอยู่ภายใต้ชื่อเขาทั้งนั้น อีกทั้งยังมีธุรกิจและการลงทุนที่ต่างประเทศด้วย ถ้าไม่ใช่เ
มู่หรงป๋อตกตะลึงงันไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวด้วยความตกใจ“กวาดล้างตระกูลพวกมัน? คุณหลิงครับ ฆ่าพวกมันน่ะง่าย แต่ถ้าจะกวาดล้างทั้งตระกูลเลยจะไม่ง่ายขนาดนั้นนะครับ…”อีกอย่างจะว่าไปแล้ว ตระกูลของพวกมันก็เป็นเศรษฐีประจำเมืองหลวงด้วย ความสัมพันธ์ซับซ้อน จะต้องมีเบื้องหลังและเครือข่ายที่ไม่อาจประมาทได้แน่นอนถึงแม้เขามู่หรงป่อจะไม่มองตระกูลระดับ 2-3 พวกนี้ไว้ในสายตาอยู่แล้ว แต่ถ้าหากบีบบังคับให้คนอื่นเขาหมดหนทางขึ้นมาจริงๆ ใครจะรู้ว่าเขาจะสู้ให้ตายไปข้างหรือเปล่า!“ถ้าคุณไม่กล้า ก็ช่างมันเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง!”หลิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ไม่ว่าอย่างไร เฉาเส้าหลงคนพวกนี้ต้องตายสถานเดียว! กล้ามายุ่งกับครอบครัวของเขา นี่มันถึงขีดจำกัดของเขาอย่างร้ายแรง ต้องชดใช้ด้วยเลือดเท่านั้น!เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจะโทรหาเฟิ่งหวงแต่มู่หรงป๋อกลับห้ามไว้ก่อน “เดี๋ยวครับ!”“เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะลำบากคุณหลิงได้ยังไงกัน ผมจัดการเองก็พอครับ!”เขากล่าวอย่างมั่นใจหากคิดจะเกาะต้นไม้ใหญ่อย่างหลิงเฟิง ถ้าไม่ลงทุนอะไรเลยคงจะไม่ได้!ถ้างั้นก็เอาชีวิตของตระกูลระดับ 2 อย่างตระกูลเฉามาเป็นคำสัตย์ปฏิญาณของต
“คุณทำน้องสาวผมเหรอ?”ใบหน้าของหลิงเฟิงเต็มไปด้วยรังสีอาฆาต ประโยคแรกที่พ่นออกจากปากหลังจากเดินเข้ามาก็ทำเอาอุณหภูมิในห้องส่วนตัวนี้ลดลงหลายองศา!มู่หรงป๋อรู้สึกเพียงเลือดหยุดไหลเวียน ตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว แล้วกล่าวด้วยเสียงสั่นๆ ว่า“มะ…ไม่ใช่ผม…ไม่ใช่ผมครับ!”“พี่คะ! ไม่ใช่เขาค่ะ! เป็นฝีมือพวกเฉาเส้าหลงต่างหาก! โชคดีที่คุณมู่หรงป๋อเข้ามาช่วยพวกหนูได้ทันเวลา!”หลิงเยว่รีบออกตัวพูด“เสี่ยวเยว่!”ทันทีที่หลิงเฟิงเห็นหลิงเยว่ เขาก็โผล่เข้ากอดอีกฝ่ายทันทีโดยไม่พูดพล่ำทำเพลง จากนั้นก็ตรวจชีพจร เช็กซ้ายเช็กขวาอีกฝ่าย“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”หลิงเยว่หน้าร้อนผ่าวราวกับน้ำต้มเดือด“พี่คะ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ไม่ต้องเวอร์ขนาดนี้ก็ได้ หนูไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย”กอดเธอที่เป็นผู้ใหญ่แล้วกลางที่สาธารณะแบบนี้ดูน่าอายจะตายชัก!ทว่าหลิงเฟิงกับลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างรักใคร่เอ็นดู“ในสายตาของพี่ หนูเป็นเด็กน้อยเสมอ! เป็นเด็กที่พี่ต้องปกป้องตลอดเวลา!”มู่หรงป๋อที่อยู่ข้างๆ ทั้งตกใจและดีใจตกใจที่หลิงเฟิงผู้ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาคนนี้กลับเป็นคนที่รักน้องสาวมากคนหนึ่ง! ให้ควา
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็ถามลองเชิงอย่างระมัดระวังว่า“เธอมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อหลิงเฟิงใช่ไหม?”“รู้ได้ยังไง?” หลิงเยว่ตะลึงงันมู่หรงป๋อแทบจะเป็นลม เอาหัวมุดดินให้รู้แล้วรู้รอด!จบกัน! บังเอิญขนาดนั้นจริงๆ ด้วย!น้องสาวของหลิงเฟิงเกิดเรื่องที่เขตของตนเสียงั้น!ถ้าอีกฝ่ายรู้เข้า ทั้งตระกูลมู่หรงคงได้ถูกกวาดล้างแหง่แก๋!นี่มันเท่ากับว่ารังแกน้องสาวแท้ๆ ของปีศาจร้ายของสมาคมชุดแดงทั้งสมาคมเชียวนะนั่น!“มู่หรงป๋อ! ฉันกำลังพูดกับนายอยู่นะ! อย่าคิดว่าตัวเองมีตระกูลมู่หรงคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังก็สามารถทำตัวไม่กลัวฟ้ากลัวดินได้นะ ตระกูลเฉาของฉันก็ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน!”เฉาเส้าหลงที่อยู่ข้างหลังเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจตัวเองเลยจากนั้นบริเวณใบหน้าของเขาพลันรู้สึกปวดแสบปวดร้อนคล้ายถูกตบด้วยหนังเหล็ก ทำเอาเขาโมโหจนตะคอกเสียงดังแต่ทว่าวินาทีต่อมามู่หรงป๋อก็บีบคอเขาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า“เป็นเพราะมึงคนเดียว! เพราะไอ้ระยำอย่างพวกมึง! ทำให้กูต้องซวยไปด้วย!”“มึงยังมีหน้ามาตะคอกใส่กูอีก! อย่าว่าแต่ตระกูลเฉาเลย ถึงจะเป็นตระกูลเฉาสิบตระกูล กูก็จะเหยียบไว้ใต้ตีนแล้วเยี่ยวใส่พวกมึ
“นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? คิดจะติดสินบนฉันเหรอ? ฉันเป็นพวกหน้าเงินหรือไง?”มู่หรงป๋อรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดันทว่าบนใบหน้ากลับอ่อนโยนลงหลายส่วน!ตนชื่นชอบรถหรูจริง โดยเฉพาะซุปเปอร์คาร์ ลำพังแค่คลังจอดรถที่บ้านก็มีซุปเปอร์คาร์อยู่หลายสิบคันแล้ว!เฉาเส้าหลงรู้ว่ามีหวังจึงรีบกล่าวต่อว่า“เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของผม อีกอย่างคุณชายมู่หรง คุณไม่รู้อะไรซะแล้ว ผู้หญิงสองคนนั้นแค่แกล้งใสชื่อ เพื่อโกงราคาเท่านั้น!”มู่หรงป๋อเลิกคิ้วกล่าว “งั้นเหรอ? แต่พวกเธอร้องไห้แล้วนะ!”“ผู้หญิงสมัยนี้น่ะการละครจะตายไป คุณชายมู่หรงเป็นชายซื่อสัตย์บริสุทธิ์ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว นักศึกษาหญิงออกมาขายตัวกันถมเถไป! ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองตรวจสอบดู!”เฉาเส้าหลงกล่าวอย่างมั่นใจ“เห็นแก่ที่เป็นวันเกิดนาย ฉันจะเชื่อนายสักครั้งแล้วกัน จำไว้ ทำอะไรเบาๆ หน่อย! ถ่อมตัวหน่อย! เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นเขตของฉัน”มู่หรงป๋อถึงจะยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้ลูกน้องถอยกลับเฉาเส้าหลงกล่าวด้วยความดีใจ “ไม่ต้องห่วงครับ พวกผมรู้กฎระเบียบดี!”แต่เมื่อไป๋หรูเสวี่ยเห็นดังนั้น ก็รีบเอ่ยด้วยความหวาดหวั่นว่า“โกหก
“บอกแล้วไงว่าวันนี้วันเกิดฉัน ถ้าใครทำให้ฉันไม่มีความสุข ฉันก็จะทำให้มันไม่มีความสุขด้วย!”เฉาเส้าหลงกล่าวด้วยหน้าตาน่าเกลียดหลิงเยว่เป็นดาวประจำห้อง และขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งผู้เย็นชาก่อนหน้านี้ เขายอมทำทุกอย่าง ใช้วิธีจีบสาวทุกอย่าง แต่อีกฝ่ายก็ไม่เล่นด้วย!ทำให้เฉาเส้าหลงเกิดความต้องการครอบครองผู้หญิงคนนี้มากตั้งแต่นั้นมา!วันนี้ ไม่ว่าเธอจะสมยอมหรือไม่ก็ตาม เธอก็ต้องเสร็จเขาให้ได้!ไม่อย่างนั้น ต่อหน้าเพื่อนๆ มากมายเพียงนี้ เขาเฉาเส้าหลงก็จะเสียหน้าน่ะสิ ซ้ำยังจะกลายเป็นจุดอ่อนในวงเพื่อนด้วย!“อื้อๆๆ!”หลิงเยว่ถูกเฉาเส้าหลงใช้มือหนึ่งกดทับเอาไว้บนโซฟาจนไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนเลย ทำได้เพียงปล่อยให้เหล้าฤทธิ์แรงไหลผ่านลำคอไปส่วนเพื่อนนักเรียนที่อยู่ข้างๆ ต่างก็มองเธอถูกเฉาเส้าหลงกระทำชำเราอยู่อย่างนั้นเพื่อนร่วมห้องที่ปกติจะพูดคุยเฮฮากันกลับไม่มีใครยืดอกออกมาช่วยเลยสักคน!บางที นี่แหละคือธาตุแท้ของมนุษย์!ต่อหน้าอำนาจครอบครองแล้ว ศักดิ์ศรีก็เหมือนเศษกระดาษไร้ค่าแผ่นหนึ่งเท่านั้น!“พี่ พี่อยู่ไหน! หนูคิดถึงพี่จัง หนูเสียใจ เสียใจที่ไม่เชื่อฟังพี่ หนูผิดไปแล้ว พี่