Share

บทที่ 80

Author: ลูกพีชแสนสวย
last update Last Updated: 2024-11-11 18:52:05
“เฉียวซิงลั่ว” กู้จือโม่ดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำพูดของฉัน เขายกมือขึ้นบีบจมูกอย่างหงุดหงิด

“การที่เฉินเยวี่ยติดคุก มันไม่ได้ทำให้เธอได้ประโยชน์อะไรเลย”

“บ้านเธอก็ทำธุรกิจ การทำอะไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด เธอคงเคยได้ยินมามากพอสมควร”

“ถ้าเธอถอนคดี ฉันจะให้เงิน หรือส่งโปรเจกต์ให้กับครอบครัวเธอ”

“คุณชายกู้นี่ช่างใจกว้างจริง ๆ” ฉันยิ้มเล็กน้อย รู้สึกว่าบางทีฉันกับกู้จือโม่คงพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว

เขาต้องการปกป้องเฉินเยวี่ย ในขณะที่ฉันอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

ฉันหันหลังแล้วกดเปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์ รอจนหน้าจอเริ่มเปิดขึ้น

จู่ ๆ กู้จือโม่ก็โค้งตัวลงมาขวางฉันไว้ระหว่างโต๊ะกับร่างของเขา เขามองฉันด้วยสายตาที่ซับซ้อน “ลั่วลั่ว ฟังฉันหน่อย”

ลั่วลั่ว…

ฉันไม่รู้ว่ากู้จือโม่คิดอะไรอยู่ ที่ถึงกับเรียกฉันด้วยความสนิทสนมขนาดนี้เพื่อเฉินเยวี่ย

ลั่วลั่ว…

ใครจะเรียกฉันแบบนี้ก็ได้ แต่กู้จือโม่ทำไม่ได้

โดยเฉพาะตอนที่เขามาขอร้องให้ฉันช่วยเฉินเยวี่ย การที่เขาเรียกฉันแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง

ฉันทำหน้าเย็นชาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “อย่าเรียกฉันแบบนั้น เราไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะเรียกฉันอย่างส
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 81

    ความเงียบในห้องนั้นแน่นเสียจนเสียงเข็มตกลงพื้นยังได้ยินหลังจากความเงียบที่ยาวนาน ในที่สุดกู้จือโม่ก็พูดขึ้นมา “ขอโทษที่ต้องเจอกันในสถานการณ์แบบนี้”ก่อนที่ฉันจะมา พวกเขาได้สั่งอาหารเต็มโต๊ะไว้แล้วทันทีที่กู้จือโม่พูด ฉันกลับจ้องมองอาหารที่จัดวางอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมและสีสันที่ดูน่าทาน แต่ท้องของฉันกลับรู้สึกไม่สบาย ไม่แน่ใจว่าหิวหรือมีอะไรผิดปกติ มันรู้สึกร้อนวูบวาบจนฉันอยากจะอาเจียนฉันยิ้มเล็กน้อย แต่คำขอโทษของกู้จือโม่ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรเลยเหมือนกับการที่เขาทำร้ายฉันด้วยมีด แล้วขอโทษทีหลังฉันไม่รู้ว่าคำว่า ‘ขอโทษ’ ของเขามีความหมายอะไรฉันหยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบอาหารจานหนึ่งเข้าปากโดยไม่สนใจอะไรมาก “นายสืบเรื่องของฉันใช่ไหม?”กู้จือโม่เงียบ มือที่จับแก้วแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัวฉันกลืนอาหารลงไปแล้วหันไปมองหน้าเขาด้วยน้ำเสียงที่เสียดสีเล็กน้อย “แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าประธานฉางคือคู่ดูตัวที่เฉียวเจี้ยนกั๋วจัดหามาให้ฉัน?”สีหน้าของกู้จือโม่ดูแย่ลงไปตามคำพูดของฉัน เขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างฉันหันกลับไปที่จานอาหารตรงหน้าและคีบอาหารใส่ปากอีกครั้ง “เฉียวเจี้ยนกั๋วใช้

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 82

    ฉันรู้สึกไม่สบายอย่างมาก ทั้งตัวร้อนและปวดเมื่อยไปหมดฉันพยายามอดทนจนถึงเที่ยงคืน แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องค่อย ๆ ลุกจากเตียงเพื่อหายาแต่ฉันประเมินตัวเองสูงไปหน่อย ทันทีที่ลุกขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็หมุนติ้วไปหมด ในวินาทีถัดมาฉันก็ล้มลงกับพื้นหลี่เสี่ยวอวี่ที่นอนอยู่ข้าง ๆ ฉันได้ยินเสียงจึงรีบลุกขึ้นมาเปิดไฟเมื่อเห็นว่าฉันนอนคว่ำอยู่บนพื้น เธอก็รีบกระโดดลงจากเตียงมาช่วยพยุงฉันขึ้น “ซิงลั่ว เธอเป็นอะไรไป?”“เจี่ยนซิน หลี่หลินน่า ช่วยกันหน่อย มาช่วยฉันพยุงซิงลั่ว”ในไม่ช้า ทุกคนในหอพักก็ตื่นขึ้นเพราะฉัน“ตัวร้อนจัง” หลี่เสี่ยวอวี่สัมผัสหน้าผากฉัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “ซิงลั่ว เธอมีไข้สูงเลย ทำยังไงดี?”ฉันแทบจะนั่งไม่ไหว ต้องนั่งพิงหลี่เสี่ยวอวี่บนเตียง พร้อมกับหลับตาพูดเบา ๆ “กินยาแก้ไข้แล้วนอนพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้น ไม่ต้องห่วง”เมื่อฉันพูดแบบนั้น พวกเธอก็ไม่พูดอะไรอีกโชคดีที่เจี่ยนซินมียาสามัญประจำบ้านที่เตรียมไว้ก่อนมาเรียน รวมถึงเครื่องวัดไข้ด้วยพวกเธอวัดอุณหภูมิให้ฉันแล้วให้ฉันดื่มน้ำอุ่นแก้วใหญ่ก่อนจะกินยาแก้ไข้ จากนั้นก็ช่วยฉันนอนพัก เมื่อจัดการทุกอย่างเร

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 83

    ออกมาจากโรงพยาบาลก็เป็นเวลาบ่ายสามแล้วทางทนายได้ถอนคดีแล้ว และหลังจากที่กู้จือโม่ไปรับเฉินเยวี่ย เขาก็ส่งรูปถ่ายมาให้ฉันฉันเปิดโทรศัพท์ดูเพียงแค่แวบเดียว ก่อนจะล็อกหน้าจอไม่ว่ากู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยจะทำอะไรกัน มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป ตอนนี้ฉันไม่สนใจเลยว่าเขาทำอะไรหรือจะทำอะไรต่อไปสิ่งเดียวที่ฉันต้องการตอนนี้ คือการพาย่ามาอยู่กับฉัน เพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขและมีสุขภาพแข็งแรงฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ห่อตัวในเสื้อโค้ตขนสัตว์ให้กระชับขึ้น แล้วยกมือเตรียมเรียกรถกลับไปที่โรงเรียนทันทีที่ฉันยกมือ รถเบนท์ลีย์สีดำก็จอดอยู่ตรงหน้าฉันกระจกสีดำลดลง เผยให้เห็นลั่วอี้ฝานที่ยิ้มแย้มทักทายฉัน "เฮ้ ซิงลั่ว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง? มาหาฉันเป็นพิเศษหรือเปล่า?"ฉันมองเขา แล้วใช้นิ้วปัดผมที่ปลิวจากลมพร้อมตอบเสียงเรียบ "นายมีธุระอะไรหรือเปล่า? ถ้าไม่มี ช่วยหลบไปหน่อย ฉันจะเรียกรถ"เสียงของฉันฟังดูแหบแห้งเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในลำคอ คงเพราะอาการไข้และการไม่ได้พูดหรือกินอะไรนานลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูลงมาจากรถ "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายเหรอ?"เขาพูดพร้อมกับย

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 84

    ดูเหมือนลั่วอี้ฝานจะหิวมาก เลยสั่งอาหารมาเสียเต็มโต๊ะเลยไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก้มหน้ากินโจ๊ก ขณะที่ลั่วอี้ฝานก้มหน้ากินข้าวไปด้วยแต่พอกินไปได้แค่ไม่กี่คำ ฉันก็รู้สึกกินไม่ลงแล้วฉันวางช้อนลงแล้วเงยหน้ามองลั่วอี้ฝานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พยายามหาเรื่องคุย “แม่ของนายดีขึ้นหรือยัง?”ลั่วอี้ฝานเงยหน้าขึ้น ก่อนจะหยิบกระดาษเช็ดปากมาเช็ดปากเล็กน้อย “อาการทางกายไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แค่ไม่ทำอะไรที่เกินกำลัง ก็น่าจะอยู่ถึงอายุร้อยปีได้สบาย”เขายังสามารถพูดเล่นได้อีก แสดงว่าเขาน่าจะโอเคแล้ว ฉันเลยไม่ได้พูดอะไรต่อพอเขากินไปอีกสักพัก ฉันคิดว่าถึงฉันจะเป็นคนตบหน้าเขา ฉันก็ควรเป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารให้ ถือว่าเป็นการขอโทษฉันจึงหาข้ออ้างและพูดขึ้น “ฉันขอไปห้องน้ำหน่อย นายกินไปก่อนนะ”ลั่วอี้ฝานกำลังแทะน่องไก่อยู่ เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินฉันพูด “เธอคงไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบครั้งที่แล้วอีกใช่ไหม?”“...”ใครว่าใจผู้หญิงลึกซึ้งเหมือนมหาสมุทร ใจผู้ชายก็ใช่ย่อยเหมือนกัน“ฉันจะกลับมาในสิบนาที”“ตกลง” ลั่วอี้ฝานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสองครั้ง หน้าจอของเขาสว่างขึ้น “ตอนนี้เวลาบ่ายสามโมงห้าสิบเอ็ดนา

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 85

    ฉันหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้เฉินเยวี่ยยืนโกรธอยู่ที่เดิมจากที่ตกลงกับลั่วอี้ฝานไว้ว่าฉันจะกลับมาภายในสิบนาที แต่ฉันเกินเวลามาห้านาทีแล้วตอนที่ฉันกลับมา เขากำลังมองหาฉันอยู่ฉันเดินไปตรงหน้าเขา เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เคยขมวดคิ้วผ่อนคลายลงทันที “ฉันนึกว่าเธอหนีไปอีกแล้วซะอีก”ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะ “บอกว่าไม่หนีก็คือไม่หนี ฉันรักษาคำพูดเสมอ”ลั่วอี้ฝานยกคิ้วขึ้น ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามฉัน “ฉันก็รักษาคำพูดเหมือนกัน สิ่งที่ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ลองคิดดูอีกที เรามาคบกันเถอะ”ถ้าเป็นแต่ก่อน พอลั่วอี้ฝานพูดอะไรแบบนี้ ฉันคงจะด่าเขาไปแล้วแต่วันนี้ฉันกลับไม่อยากจะด่าเขาฉันเงยหน้ามองเขา มือยังถือช้อนกวนโจ๊กในถ้วยไปมาเมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร และก็ไม่ด่าเขา ลั่วอี้ฝานจึงจัดเสื้อของเขาและยกคิ้วขึ้น “ว่าไง? ตกลงจะยอมเป็นแฟนฉันแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะตอบ สีหน้าขี้เล่นของลั่วอี้ฝานก็เปลี่ยนไป เขาวางตะเกียบลงอย่างแรงและขมวดคิ้วพร้อมพูดอย่างหัวเสีย “ซวยชะมัด!”ฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ พอหันตามสายตาของเขา ฉันก็เห็นกู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยและกลุ่มคนเดินเข้าม

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 86

    ฉันไม่อยากขยับตัวเลยสักนิด แต่พอคิดถึงเงื่อนไขการจ้างงานที่บอกไว้ว่านอกจากให้บริการด้านงานแล้ว ฉันยังต้องช่วยเหลือในเรื่องส่วนตัวของอัลเลนบ้างเป็นครั้งคราว ฉันจึงตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไปแค่คำว่า "ได้"ไม่นานหลังจากนั้น อัลเลนก็ส่งข้อความมาอีกครั้งเขาบอกให้ฉันเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในวีแชทและบันทึกเบอร์โทรของเขาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันสะดวกฉันทำตามที่เขาบอก เพิ่มวีแชทของเขาและบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ทำใจลุกขึ้น กินยาที่โรงพยาบาลให้มา แล้วเรียกรถไปที่บาร์ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันก็มาถึงที่อยู่ที่อัลเลนบอกไว้ฉันให้พนักงานพาฉันไปที่ห้องส่วนตัว พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกู้จือโม่ที่เมาจนหมดสภาพฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากอัลเลนฉันกดรับสาย อัลเลนก็ถามขึ้นมาทันที “แอนนา เธอรับคนหรือยัง? รบกวนเธอหน่อยนะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง เมื่อกี้ตอนฉันกำลังวาดแบบอยู่ที่บาร์โทรมาบอกให้ฉันไปรับเขา แต่ฉันออกไปไม่ได้”“ฉันไม่รู้จักใครในปักกิ่ง ก็เลยนึกถึงเธอ หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เธอลำบากเกินไป”“สิ้นเดือนฉันจะจ่ายโบนัสให้ ขอบคุณม

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 87

    ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บจริง ๆ เพราะกู้จือโม่ปล่อยมือออกในที่สุดฉันดึงมือกลับมาโดยไม่สนใจที่จะมองเขาอีกแม้แต่นิดเดียวครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็จอดที่หน้าบ้านของกู้จือโม่ฉันพยายามดึงเขาลงมาจากรถ น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขากดทับอยู่บนตัวฉันฉันเองเพิ่งฟื้นตัวจากการป่วยหนัก ทำให้แบกร่างใหญ่ขนาดนี้ไม่ไหว พยายามพยุงเขาเดินไปได้สองก้าว แต่ยังไม่ทันถึงหน้าประตู เท้าของฉันก็สะดุดและเราทั้งคู่ก็ล้มลงไปกับพื้นแต่ความเจ็บปวดที่คาดหวังไว้กลับไม่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตำแหน่งของเราสลับกัน คนที่ล้มลงไปก็คือกู้จือโม่ฉันได้ยินเสียงเขาครางออกมาเบา ๆ และเห็นเขาขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นฉันรีบลุกขึ้นจากตัวเขาและถามด้วยความเป็นห่วง "นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"กู้จือโม่ยกมือขึ้นกุมที่ท้ายทอย "เจ็บ"เสียง "ตุบ" ที่ได้ยินเมื่อกี้คือศีรษะเขากระแทกพื้นหรือเปล่านะ?ฉันรีบย่อตัวลงไปช่วยพยุงเขานั่งขึ้น "เจ็บตรงไหน? มีเลือดออกไหม?"พูดจบ ฉันก็เอื้อมมือไปตรวจดูบริเวณท้ายทอยของเขาไม่มีเลือดออก แต่มีรอยบวมปูดใหญ่มากฉันแตะเบา ๆ ที่รอยบวมนั้น ทำให้กู้จือโม่สูดลมหายใจเข้าอย่างเจ็บปวด "ซี้ด"

    Last Updated : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 88

    "แล้วก็เรื่องย่าของเธอ เฉียวเจี้ยนกั๋วจะไม่กล้ามาใช้ย่าเธอข่มขู่เธออีกแล้ว""ลั่วลั่ว" กู้จือโม่พยายามยื่นมือมาจับมือฉัน "อย่าเกลียดฉันได้ไหม?""กู้จือโม่" ฉันดึงมือกลับไปไว้ด้านหลังแล้วจ้องเข้าไปในตาของเขา "นายชอบฉันใช่ไหม?"กู้จือโม่เป็นคนหยิ่งทะนงและไม่ถนัดในการแสดงออกทางคำพูด หลายครั้งที่คำพูดของเขามักไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดในใจ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ ทำให้ตั้งแต่เกิดเขาก็ได้รับสิทธิพิเศษในการที่คนอื่นต้องมารุมล้อมชื่นชมเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ค่อยรู้วิธีแสดงออกทางอารมณ์ฉันคุ้นชินกับความดื้อรั้นและปากแข็งของเขา แต่ท่าทีที่เขาตั้งใจลดลงในตอนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกไม่คุ้นเคย และไม่อาจมองข้ามความเปลี่ยนแปลงของเขาที่มีต่อฉันได้แต่ทั้งหมดนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กู้จือโม่เริ่มมีความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมกับฉัน?ฉันจ้องมองกู้จือโม่ แต่ก็นึกถึงสัญญาณอะไรของเรื่องนี้ไม่ออกเลยฉันหวังให้กู้จือโม่ตอบว่า "ไม่ใช่" แต่หลังจากที่ฉันถามออกไป สีหน้าของเขากลับดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้จือโม่มองฉันอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ "ใช่

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 240

    เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ฉันรู้สึกผิดหวังทันที แต่ก็รีบรวบรวมกำลังใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ฉันรู้ดีว่าโอกาสมักเป็นของคนที่เตรียมพร้อม ฉันจึงไม่อาจยอมแพ้ไปง่าย ๆ แบบนี้ นี่คือหนทางเดียวที่ฉันจะพิสูจน์ตัวเองได้ และยังเป็นก้าวแรกในชีวิตของฉันด้วย ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ผู้อาวุโสหนาน ฉันเข้าใจถึงความกังวลของคุณค่ะ แต่ได้โปรดเชื่อว่าโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานใหม่สำหรับคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สามารถทำให้แสงแห่งศิลปะของคุณเปล่งประกายได้อีกครั้งด้วย อีกทั้งฉันเชื่อว่าโครงการที่คุณกำลังทำอยู่และโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ต้องมีความเชื่อมโยงที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ค่ะ” หลังจากที่ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็ฉายแววความสงสัยขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนคำพูดของฉันจะดึงดูดความสนใจของเขา จนเขาเริ่มพิจารณาข้อเสนอของฉันอีกครั้ง ฉันรีบฉวยโอกาสกล่าวต่อไปว่า “ผู้อาวุโสหนาน คุณทราบหรือเปล่าคะว่าฉันชื่นชมคุณมาโดยตลอด ผลงานของคุณมอบทั้งแรงบันดาลใจและข้อคิดให้ฉันมากมาย ส่วนโครงการเซาท์เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 239

    ฉันสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจที่จะพูดคุยกับผู้อาวุโสหนานให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หวังว่าจะสามารถกระตุ้นความรักและความมุ่งมั่นที่เขามีต่อศิลปะสวนภูมิทัศน์ในใจของเขาได้ “ผู้อาวุโสหนาน คุณรู้ไหมคะ? ฉันคิดมาตลอดว่าสวนไม่ได้เป็นแค่การจัดวางสิ่งปลูกสร้างกับต้นไม้ แต่มันเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเรื่องราว และในฐานะที่คุณเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะจีน น่าจะเข้าใจเสน่ห์ของการผสมผสานศิลปะกับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ” ฉันมองผู้อาวุโสหนานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนา หวังว่าสายตานั้นจะสื่อความรู้สึกของฉันออกไปได้ ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็เปล่งประกายวาบหนึ่ง ก่อนจะวางถ้วยชาลงและดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิด ฉันรู้ว่าฉันได้แตะต้องจุดที่อ่อนไหวบางอย่างในใจของเขาเข้าแล้ว คนระดับปรมาจารย์ในแวดวงวิชาการแบบนี้มักไม่ใส่ใจเรื่องเงินทอง สำหรับพวกเขา เป็นเพียงของนอกกายเท่านั้น พวกเขาเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ลอยล่องกลางทะเล ซึ่งต้องการคนที่เข้าใจและเข้าถึงได้อย่างแท้จริง และฉันสามารถมอบคุณค่าทางอารมณ์ที่เพียงพอให้กับเขาได้ อีกทั้งยังตอบสนองความปรารถนาของเขาได้อ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 238

    ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดหนักเพื่อหาเรื่องคุย ก็ไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสหนานจะเป็นฝ่ายพูดถึงโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ขึ้นมาก่อนเอง โครงการนี้เดิมทีตั้งใจจะสร้างสวนสไตล์พิเศษ คล้ายกับพระราชวังต้องห้ามสมัยโบราณ แต่ต้องตอบสนองความต้องการด้านความงามยุคสมัยใหม่ โดยผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความงดงามของสวนโบราณอย่างลงตัว ตอนนี้แบบร่างเบื้องต้นได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดหลายจุดที่ยังไม่ได้ปรับแก้ มีเพียงโครงร่างคร่าว ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าฉันหวังว่าเขาจะเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อช่วยเราเติมเต็มรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น “โครงการในตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนเริ่มต้น จำเป็นต้องมีแบบร่างและแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยมเพียงพอ เพื่อให้โครงการนี้พัฒนาต่อไปได้อย่างราบรื่นในอนาคตค่ะ” ความหมายข้างต้นชัดเจนมาก หากเราไม่สามารถนำเสนอแบบร่างที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพึงพอใจได้อย่างเต็มที่ ก็จะไม่สามารถเจรจาธุรกิจนี้ต่อได้ ผู้อาวุโสหนานดูเหมือนจะใส่ใจอยู่ไม่น้อย แต่เพียงแค่นั่งจิบชาโดยไม่เอ่ยคำใด ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แววตาของเขาแฝงด้วยความคิดคำนึงเล็กน้อย บางครั้ง การอยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 237

    “เริ่มพยายามตั้งแต่เนิ่น ๆ งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสหนานทวนคำพูดของฉัน ดวงตาแสดงความชื่นชมเล็กน้อย “หนุ่มสาวที่มีความคิดแบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากจริง ๆ” เขาลุกขึ้นยืน เดินช้า ๆ ไปยังริมหน้าต่าง มองออกไปไกลราวกับกำลังนึกถึงบางสิ่งในความทรงจำ “เธอรู้ไหม สาวน้อยเฉียว ตอนฉันยังหนุ่ม ฉันเองก็เคยเป็นเหมือนเธอ มีทั้งความฝันและความมุ่งมั่น อยากสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาให้ได้” เสียงของผู้อาวุโสหนานเจือด้วยความเก่าแก่และความรู้สึกซาบซึ้ง “แต่กาลเวลาไม่เคยปรานีใคร ตอนนี้ฉันก็หมดเรี่ยวแรงไปมากแล้ว แค่หวังว่าจะหาหนุ่มสาวที่มีศักยภาพสักคน มารับช่วงต่อจากฉันได้” ฉันยืนอยู่เงียบ ๆ ที่ข้าง ๆ ฟังคำพูดของผู้อาวุโสหนาน พลันเกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ฉันรู้ดีว่านี่อาจเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงกับความสำเร็จที่สุดสำหรับฉัน “ผู้อาวุโสหนาน คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ” ฉันพูดอย่างจริงจัง “ไม่ใช่แค่เพื่อตัวฉันเอง แต่เพื่อความคาดหวังของคุณด้วย”ผู้อาวุโสหนานหันกลับมามองฉัน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย “ดีมาก สาวน้อย ฉันเชื่อในตัวเธอ แต่จำไว้นะ ความสำเร็จไม่ใช

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 236

    บนใบหน้าของลั่วอี้ฝานมีแววประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายกับได้เจอเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ผู้อาวุโสหนานก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “สาวน้อย เธอเล่นหมากรุกเป็นไหม?” จู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วตอบว่า “เคยเล่นในมือถือไม่กี่ครั้งเองค่ะ ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่เป็นค่ะ” ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งดูเหมือนผู้อาวุโสหนานจะชอบความตรงไปตรงมาของฉันเช่นกัน ท่านโบกมือเรียกฉันพร้อมพูดว่า “มานี่สิ เดี๋ยวฉันสอนให้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก ผู้อาวุโสหนานอธิบายกฎของหมากล้อมให้ฉันฟัง ฉันตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ไม่นานนักผู้ช่วยก็เอากระดานหมากรุกชุดใหม่มาให้ ผู้อาวุโสหนานส่งหมากสีดำให้ฉันพร้อมพูดว่า “ลองดูไหม?” ฉันรับมาก่อนจะพูดด้วยความลำบากใจปนลังเลว่า “แต่คุณปู่ต้องอย่าโกรธจนปาแผ่นกระดานนะคะ” “แล้วก็ห้ามไล่พวกเราออกไปด้วยนะคะ”ฉันกอดถ้วยหมากล้อมไว้ มือขวาหยิบหมากสองตัวขึ้นมา พร้อมกล่าวว่า “แม่น้ำแยงซีคลื่นลูกเก่าผลักดันคลื่นลูกใหม่ คุณต้องให้โอกาสพวกเราเติบโตบ้างนะคะ” ความจริงตอนที่พูดคำพวก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 235

    ออกจากบ้านเดิมตระกูลเฉียว ฉันกับลั่วอี้ฝานขึ้นรถแล้วจากไปทันทีที่ขึ้นรถเสียงหยอกล้อของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นทันที "เฉียวซิงลั่ว เธอเตรียมตัวมาดีจริง ๆ ถึงขั้นพกเครื่องรูดบัตรมาเลยเหรอ? ในกระเป๋าเธอคงไม่ได้ใส่เครื่องนับเงินมาด้วยใช่ไหม? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง"มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาตรงหน้าฉันฉันตบมือลงบนฝ่ามือของเขาเสียงดัง "เพียะ!" พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญ "ฉันจะพกเครื่องนับเงินไปทำไมกันล่ะ"แถมหลี่เหม่ยอิงก็คงไม่พกเงินสดหนึ่งร้อยล้านบาทมาให้ฉันหรอกโง่จริง ๆ"นี่" ฉันคลายมือออก เผยให้เห็นบัตรเอทีเอ็มที่อยู่ด้านล่างลั่วอี้ฝานตาเป็นประกายทันที เขาหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา พร้อมกับอุทานอย่างตกใจว่า “นี่มันไม่ใช่หนึ่งร้อยล้านบาทที่หลี่เหม่ยอิงให้เธอหรอกเหรอ?!”"ใช่แล้ว เอาไว้เป็นเงินสำรองสำหรับบริษัท""ดีขนาดนี้เชียว?" ลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วฉันตอบ "ใช่ บริษัทมีปัญหา ฉันก็ช่วยได้แค่เรื่องเงินนี่แหละ""ว่าแต่ พรุ่งนี้ไปเจอผู้อาวุโสหนาน นายเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"ฉันมองไปที่ลั่วอี้ฝานเขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ส่วนฉันก็แค่ช่วยเปิดทางเล็กน้อยถ้าเขาไม่ไป โครง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 234

    เมื่อมองเฉียวซิงอวี่ ฉันเผลอคิดเพลินไปว่าที่จริงแล้วเธอก็โชคดีไม่น้อยไม่ว่าจะอย่างไร หลี่เหม่ยอิงก็ยังรักเธอและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ฉันจะเคยด่าว่าเธอทั้งโง่ทั้งไร้เดียงสา แต่บางทีความโง่และไร้เดียงสาแบบนี้อาจเป็นความสุขอย่างหนึ่ง“ฉันง่วงแล้ว จะไปนอนก่อน” ฉันลุกขึ้น ไม่สนใจลั่วอี้ฝาน “ถ้านายไม่กลับบ้านคืนนี้ ก็ไปนอนที่ห้องรับรองแล้วกัน”……เช้าวันรุ่งขึ้นฉันกับลั่วอี้ฝานพาบอดี้การ์ดคุมตัวเฉียวซิงอวี่กลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลเฉียว ในตอนที่ไปถึงหลี่เหม่ยอิงก็รออยู่ที่นั่นด้วยสีหน้ากระวนกระวายเฉียวซิงอวี่อุทานออกมาด้วยความดีใจ “แม่คะ!”“ซิงอวี่!” หลี่เหม่ยอิงรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราโดยไม่ทันคิด“หยุดอยู่ตรงนั้น!”ลั่วอี้ฝานตะโกนห้าม น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยการข่มขู่ “ถ้าคุณกล้าเข้ามาอีกก้าวเดียว เราจะไม่ออมมือกับเธอ”หลี่เหม่ยอิงหยุดการเคลื่อนไหวทันที ดวงตามองฉันอย่างเย็นชา ราวกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้น "เฉียวซิงลั่ว การลักพาตัวมันผิดกฎหมายนะ!"“แล้วการเอาน้ำกรดมาสาดคนอื่นไม่ผิดกฎหมายหรือไง?” ฉันสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาหลี่เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 233

    ฉันโทรหาหลี่เหม่ยอิงครั้งแรกเธอไม่รับ ฉันจึงโทรซ้ำอีกครั้งเสียงของหลี่เหม่ยอิงเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเธอรับสาย “เฉียวซิงลั่ว นางเด็กสารเลว พ่อเธอตายเพราะเธอแล้ว ยังจะโทรมาหาฉันอีกทำไม!”ฉันไม่ได้ตอบอะไร ทว่าใช้เล็บที่เพิ่งทำใหม่ขึ้นมาแตะใบหน้าที่แดงก่ำจากการถูกตบของเฉียวซิงอวี่เฉียวซิงอวี่ร้องไห้ออกมาทันที “แม่คะ ช่วยหนูด้วย!”หลี่เหม่ยอิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที “ซิงอวี่เหรอ? เฉียวซิงลั่ว เธอทำอะไรลูกสาวฉัน!”“หึ” ฉันหัวเราะเยาะ เอาโทรศัพท์แนบหู “คุณป้าพูดผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ฉันที่ทำอะไรน้องสาวตัวเอง คุณป้าน่าจะถามลูกสาวที่แสนดีมากกว่าว่าเธอทำอะไรฉัน”“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง... ไม่สิ” ฉันหยุดคิดและเผยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้าเก้าโมง เจอกันที่บ้านเดิมตระกูลเฉียว” พูดจบ ฉันก็ตัดสายทันที…… ที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เสี่ยงลั่วอี้ฝานมัดมือและเท้าของเฉียวซิงอวี่ แล้วโยนเธอไว้ที่ระเบียงเฉียวซิงอวี่ยังคงร้องไห้เสียงดัง “เฉียวซิงลั่ว ปล่อยฉันนะ! เธอไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินไปที่ครัว เพื่อหยิบผ้าขี้ริ้วออกมา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 232

    เมื่อเห็นว่าฉันปลอดภัย ลั่วอี้ฝานจึงลากร่างของคนที่สาดน้ำกรดใส่ฉันขึ้นมาฉันเดินเข้าไปใกล้พวกเขา ยกมือขึ้นถอดหน้ากากของคนร้ายทันใดนั้นเองใบหน้าของเฉียวซิงอวี่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน"เฉียวซิงอวี่?"ฉันจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำ เธอตะโกนด้วยเสียงสะอื้น “ทำไมเธอไม่ไปตายซะ! เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ!""แกทำลายพ่อฉัน ทำลายครอบครัวฉันจนพังพินาศ!""เฉียวซิงลั่ว นางสารเลว! ไปตายซะ!""ฉันไม่น่าจะใช้แค่น้ำกรดสาดแก ฉันควรจะเอามีดแทงแกให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!"ใบหน้าฉันเริ่มเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวซิงอวี่ เมื่อเธอพูดจบฉันก็ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มีฉันใส่แรงทั้งหมดลงไปในฝ่ามือนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเฉียวซิงอวี่แดงก่ำและบวมขึ้นทันที หมวกที่เธอสวมหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผมยาวสยายฉันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเหมือนกับฉันเมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ ฉันเคยรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากแผนการของเฉียวเจี้ยนกั๋ว แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจที่ครั้งนั้นฉันไม่ลังเลที่จะลงมือสำหรับคนในตระกูลเฉียว นอกจากคุณ

DMCA.com Protection Status