แชร์

บทที่ 138

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
มองดูเขาในตอนนี้ ก็พลันนึกถึงเรื่องในชีวิตครั้งก่อน

คืนหนึ่งฉันมีไข้สูง โทรหากู้จือโม่เท่าไหร่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ

คนใช้ในบ้านพยายามจะพาฉันไปโรงพยาบาล แต่ฉันดื้อดึงจะรอให้กู้จือโม่กลับบ้านเอง

สุดท้ายฉันไข้ขึ้นจนหมดสติ ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลถึงสามวันเต็ม

และในสามวันนั้น โทรศัพท์ของกู้จือโม่ก็ปิดเครื่องตลอด

ฉันถึงขั้นคิดไปว่าเขาอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

แต่ทว่า ฉันกลับบังเอิญเจอเขาที่มุมทางเดินในโรงพยาบาล

เขากำลังดูแลเฉินเยว่ด้วยความระมัดระวัง ในขณะที่เฉินเยว่แกล้งออดอ้อนเขาทันทีที่เห็นฉัน

“อาโม่ ฉันแค่ข้อเท้าแพลงเอง อยู่โรงพยาบาลมาตั้งสามวันแล้ว บริษัทต้องการนาย นายกลับไปเถอะ”

เธอยิ้มอย่างสดใส แต่สายตาของเธอนั้นทิ่มแทงใจฉัน

ตอนนั้นกู้จือโม่พูดว่าอะไรนะ?

เขาบอกว่า “ไม่เป็นไร เรื่องของบริษัทไม่สำคัญเท่าเธอ”

สรุปแล้วคือเรื่องของบริษัทไม่สำคัญ หรือว่าฉันไม่สำคัญกันแน่?

เมื่อดึงตัวเองกลับมาจากความทรงจำ ความเจ็บปวดในใจก็ยังคงเหมือนเดิม

ตอนนี้ถึงเวลาต้องเลือกอีกแล้ว

“แล้วนายล่ะ กู้จือโม่ นายก็เป็นหนี้บุญคุณเฉินเยว่ด้วยเหรอ?” ฉันพูดด้วยเสียงสั่นสะกดกลั้นความรู้สึก ไม่อยากเผยความอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 139

    ความรู้สึกมึนงงและคลื่นไส้ถาโถมเข้ามาในทันที ฉันจับที่พักแขนของรถเข็นเพื่อประคองตัวเองลุกขึ้น เดินโซเซไปที่ห้องน้ำแม้ว่าจะพยายามอาเจียนแต่กลับไม่มีอะไรออกมา มีเพียงกระเพาะที่หดเกร็งเป็นระลอกมันทรมานมาก ไม่ใช่แค่ร่างกาย ความรู้สึกในใจก็ย่ำแย่ไม่แพ้กันน้ำตาหยดใหญ่ ๆ ไหลลงมาเพราะอาการอาเจียน ฉันยกมือขึ้นปาดออก แล้วเดินออกมาสุดท้ายเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป พยาบาลจึงเข้ามาฉีดยาคลายความเครียดให้ ฉันเอนตัวลงบนเตียงโดยไม่แม้แต่จะมองหน้ากู้จือโม่ เอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาหวิวว่า“บอกเขาให้ออกไปเถอะค่ะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา”หลังพูดจบ ฉันหันหน้าหนีไปอีกทาง แค่เห็นเขาอีกครั้งฉันก็รู้สึกขยะแขยงแล้วบางทีอาจเป็นเพราะสีหน้ารังเกียจของฉันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด กู้จือโม่เม้มปากแน่น ท่าทางเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไรฉันรู้สึกสมเพช เขารู้ดีว่าการตัดสินใจของเขาจะทำให้ฉันเจ็บปวด แต่เขาก็ยังเลือกทำ แล้วตอนนี้เขาจะมาเสแสร้งทำตัวลำบากใจเพื่ออะไร?“ฉันไม่อยากเห็นเขา! บอกให้เขาออกไปเดี๋ยวนี้!”เมื่อเห็นว่าฉันเริ่มอารมณ์เสียอีกครั้ง พยาบาลจึงเดินไปบอกกู้จือโม่ว่า “คนไข้ไม่อยากเห็นคุณ หากคุณอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 140

    เมืองอวิ๋นเฉิง บ้านตระกูลกู้กู้จือโม่ผู้มีร่างกายผอมบางยืนอยู่ตรงหน้ากู้เซิ่งเหยียน บรรยากาศระหว่างปู่หลานเต็มไปด้วยความตึงเครียดและดุดัน“คุณปู่ ปกป้องเฉินเยวี่ยแบบนี้เท่ากับสนับสนุนการกระทำของเธอนะครับ” กู้จือโม่พูดด้วยใบหน้าซีดเผือด เขาจ้องมองกู้เซิ่งเหยียนผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยอำนาจ “เธอไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาและน่าสงสารเหมือนที่เคยคิดอีกแล้วนะครับ!”“ครั้งก่อนเธอจ้างคนสร้างข่าวเสียหายให้กับเฉียวซิงลั่ว จนเกือบทำลายชื่อเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง”“ตอนนั้นปู่บอกว่าเธอยังเด็ก ยังไม่รู้ผลของการกระทำ ให้ผมไปช่วยเธอ ผมก็ทำตามแล้ว แต่ผลลัพธ์เป็นยังไงล่ะครับ?”“ตอนนี้เธอถึงขั้นจ้างคนมาลักพาตัวเฉียวซิงลั่ว และสั่งให้คนพวกนั้นถ่ายรูปอนาจารและทำร้ายเธอด้วย”“ยังคิดว่าเธอไม่รู้เรื่องอยู่หรือเปล่าครับ?”คำพูดของกู้จือโม่จบลง กู้เซิ่งเหยียนยังคงนิ่งเงียบ ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองกู้จือโม่นิ่ง ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เสี่ยวเยวี่ยไม่ได้มีจิตใจชั่วร้าย แกก็รู้ดีว่าเธอทำแบบนี้เพราะใส่ใจแก”“ส่วนเฉียวซิงลั่ว...” เขาหยุดพูดไปครู่ห

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 141

    ยามรุ่งสางฉันฟังเสียงฝีเท้าข้างนอกที่เริ่มเบาบางลงเรื่อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง หยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาเปลี่ยนสิบกว่านาทีต่อมา เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นฉันเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อประตูแง้มออก ก็พบกับสายตาของลั่วอี้ฝานที่เต็มไปด้วยความเย้าแหย่ “เป็นไงล่ะ? ถึงเวลาสำคัญก็ต้องพึ่งฉันอยู่ดีใช่ไหม?”ฉันชำเลืองมองรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว ลดเสียงลงต่ำถามเขาว่า “แล้วบอดี้การ์ดล่ะ?”“เรียบร้อย”ลั่วอี้ฝานยกมือทำท่าปาดคอ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ฉันกลอกตาอย่างอดไม่ได้ ดึงหมวกลงปิดหน้าให้ต่ำที่สุดแล้วรีบเดินออกไป “นายน่ะเหรอ?” “ทำไม? ไม่เชื่อหรือไง?” ลั่วอี้ฝานพูดพลางเดินตามฉัน ปากก็ยังไม่หยุดบ่น แต่ฝีเท้าก็ไวใช่ย่อย “เฮ้อ...สมัยก่อนฉันเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวนะ บอดี้การ์ดตัวเบ้อเริ่มนั่น ฉันจัดการได้สองคนสบาย ๆ...”เดินมาถึงมุมบันได ฉันหยุดนิ่ง เมื่อมองไปเห็นบอดี้การ์ดคนนั้นตอนนี้พยาบาลที่เข้าเวรในโรงพยาบาลกำลังอยู่ที่เคาน์เตอร์พยาบาล และยังไม่มีใครสังเกตเห็นฉันเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด ตรวจสอบลมหายใจของเขาอย่างระมัดระวัง ยังมีชีวิตอยู่ฉันตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แล้วถอนหายใจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 142

    ในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งก็เดินออกมา เธอเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นมาตรฐานสำหรับงานบริการของเธอ“สวัสดีค่ะ มีเรื่องอะไรสามารถเข้าไปพูดข้างในได้เลยนะคะ” เธอพูดพร้อมชี้ไปยังห้องชุดที่อยู่ด้านในฉันหันไปสบตากับลั่วอี้ฝาน แล้วยิ้มให้เขาเหมือนต้องการบอกว่า ‘ไม่ต้องห่วง’ จากนั้นจึงเดินตามเจ้าหน้าที่หญิงเข้าไปภายในห้องสอบสวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชายสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามฉัน หนึ่งในนั้นยื่นแก้วน้ำมาให้ “คุณไม่ต้องรีบร้อนนะ ค่อย ๆ พูดก็ได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพจนถึงตอนนี้ ฉันถึงได้รู้สึกว่า ตัวเองปลอดภัยแล้วจริง ๆฉันหันมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบจนชวนให้ขนลุก“เมื่อไม่กี่วันก่อน มีคนจ้างวานให้คนมาลักพาตัวฉัน พร้อมทั้งพยายามจะข่มขืนและถ่ายภาพเปลือยของฉันเอาไว้ ตอนนั้นได้มีการแจ้งความไปแล้ว คุณน่าจะมีบันทึกคดีอยู่”“แต่คราวนี้ไม่ต้องสืบสวนอะไรอีกแล้ว ฉันตามเจอคนร้ายเอง และฉันมีหลักฐานชัดเจน”พูดจบ ฉันก็ยื่นโทรศัพท์ส่งไปให้เจ้าหน้าที่“เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง ชื่อเฉินเยวี่ย เป็นคนจ้างวานพวกคนร้าย ถ้าวันนั้นตำรวจไปช้ากว่าน

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 143

    ยังไม่ทันวิ่งไปได้กี่ก้าว เธอก็ถูกตำรวจที่รออยู่ด้านนอกกดลงกับพื้นทันที"วิ่งหนีทำไม? คิดว่าจะหนีรอดเหรอ?"เฉินเยวี่ยเงยหน้าขึ้น สีหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา"คุณตำรวจ คุณจับผิดคนหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!""จับเธอนี่แหละ!" ตำรวจพูดพลางล็อกกุญแจมือที่ข้อมือของเฉินเยวี่ยอย่างคล่องแคล่วบรรยากาศในห้องเรียนที่เคยเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบดังขึ้นอีก"โห จริงเหรอ? มาจับเฉินเยวี่ยเลยเหรอ? เธอไปทำอะไรเข้าเนี่ย?""ฉันว่าแล้วว่าเธอไม่น่าใช่คนดีหรอก ครั้งก่อนก็ใส่ร้ายเฉียวซิงลั่วว่าเป็นขโมย แต่สุดท้ายโดนแฉกลับหน้าแหกไปเลย""ได้ยินมาว่าเธอมีเส้นสายใหญ่มาก ครั้งก่อนเรื่องก็วุ่นวายขนาดนั้น แต่เธอไม่เป็นอะไรเลย"เฉินเยวี่ยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลิงในกรงที่โดนคนมอง เธออับอายจนใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหูแต่ตำรวจที่มาจับตัวกลับไม่ไว้หน้าเธอเลยหัวหน้าทีมสืบสวนที่มาด้วยหยิบตราตำรวจขึ้นมาแสดง พร้อมกับกระชากเธอขึ้นอย่างไม่ปรานี"ฉันคือหัวหน้าทีมสืบสวนคดีอาญาแห่งสถานีตำรวจปักกิ่ง เธอต้องสงสัยว่าเป็นผู้จ้างวานลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย มีหลักฐานชัดเจน ตอนนี้เราจะจับเธอ!"เสียงซุบซิบในห้องเรียนยิ่งดังกระหึ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 144

    เฉียวเจี้ยนกั๋วรู้สึกเหงื่อเย็นไหลซึมเต็มแผ่นหลัง ความกลัวทำให้เขาพูดจาติดขัด “ไม่...ไม่ใช่ครับ ทุกอย่างยังต้องพึ่งพาความเมตตาของท่านเสมอ”กู้เซิ่งเหยียนแค่นเสียงเย็นชา “นายก็ฉลาดใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่ลูกนายโง่สิ้นดี!”“ฉันจำได้ว่าเฉียวกรุ๊ปของแกมีสัญญาหลายฉบับกับบริษัทย่อยของกู้กรุ๊ป ขอแค่ฉันพูดคำเดียว สัญญาเหล่านั้นก็จะเป็นแค่เศษกระดาษ!”เฉียวเจี้ยนกั๋วได้ยินดังนั้น รีบโบกมือพลางพูดอย่างลนลาน “คุณกู้ คุณไม่ทราบหรอกครับ ลูกสาวของผมไม่เคยเชื่อฟังตั้งแต่เล็ก ถ้าเธอทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ ผมจะพาเธอกลับมา อยากจัดการยังไงก็ได้เลยครับ”เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ใช้มือลูบหน้าเพื่อสงบใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “แต่ผมไม่ทราบเลยว่าเธอทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ และขอความกรุณาอย่าเพิ่งลงโทษที่เฉียวกรุ๊ปได้ไหมครับ?”เฉียวเจี้ยนกั๋วค่อย ๆ รินน้ำชาใส่ถ้วยชาอย่างระมัดระวัง น้ำชาล้นออกมาจนเกือบเต็ม ก่อนจะหยดลงบนตัวกบทอง[footnoteRef:0]ที่ส่งประกายสีแดงออกมา [0: ของตกแต่งบนโต๊ะน้ำชา] “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลูกสาวของแกว่าจะทำยังไง กลับไปสั่งสอนเธอให้ดี!”“เอ่อ ครับ ๆ ท่าน ผมจะกลับไปสั่งสอนเธออ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 145

    ฉันไม่รับสาย เฉียวเจี้ยนกั๋วจึงเปลี่ยนเป็นส่งข้อความมาถล่มแทน : ‘เฉียวซิงลั่ว! แกกล้าแอบถ่ายฉันเหรอ! ฉันเตือนแกนะ ถ้าแกกล้าปล่อยวิดีโอออกไป ฉันจะฆ่าย่าแก!’ : ‘เฉียวซิงลั่ว! แกมันลูกอกตัญญู! ฉันเลี้ยงแกมากินดีอยู่ดีขนาดนี้ แต่แกกลับกล้ามาขู่ฉัน!’ : ‘แกมันเนรคุณ ฉันไม่น่าเลย...ไม่น่ามีลูกอย่างแกเลยสักนิด!’ข้อความเด้งขึ้นมาทีละข้อความ ทุกข้อความฉันอ่านอย่างละเอียดทุกคำเฉียวเจี้ยนกั๋วตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความโกรธที่แสดงออกมาแบบไร้ประโยชน์ฉันไร้ความรู้สึก กดที่มุมขวาบนของแอปพลิเคชัน และบล็อกเฉียวเจี้ยนกั๋วในทันทีโลกกลับมาสงบอีกครั้งการที่กู้เซิ่งเหยียนไปหาเฉียวเจี้ยนกั๋ว หมายความว่าเขารู้เรื่องที่เฉินเยวี่ยถูกจับกุมแล้วถ้ากู้เซิ่งเหยียนเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าเฉินเยวี่ยจะต้องติดคุกหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าเฉียวเจี้ยนกั๋วที่กำลังจนตรอกจะกล้าลงมือทำอะไรกับย่าฉันจริง ๆ หรือเปล่าฉันกลัว...แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นฉันไม่อยากถูกเฉียวเจี้ยนกั๋วขู่ต่อไป และไม่ต้องการก้มหัวให้เขา ทางเดียวที่ทำได้คือเสี่ยงเดิมพันครั้งนี้ และรอข่าวจากลั่วอี้ฝานหลายวันแล้วที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 146

    ฉันพลิกดูรูปถ่ายที่ถ่ายกับคุณย่า พลางพึมพำเบา ๆ ไม่ทันรู้ตัว น้ำตาก็ไหลรินอาบใบหน้าไปเสียแล้วปวดท้องจนฉันต้องขดตัวเองเข้าหากัน ความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ถาโถมเข้ามาท่วมทั้งร่างกายผ่านไปอีกประมาณสิบนาทีกว่า เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดีครับ เม่าโถวเดลิเวอรี่ครับ”เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้น“คุณวางไว้หน้าประตูเลยค่ะ” ฉันไม่แน่ใจว่ากู้จือโม่ออกไปแล้วหรือยัง เลยไม่กล้าเปิดประตู“งั้นรบกวนให้คะแนนดี ๆ ด้วยนะครับ!” หลังจากพูดประโยคนี้ เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากด้านนอก ฟังดูเหมือนจะเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วผ่านไปสักพักใหญ่ ฉันถึงได้มองออกไปข้างนอกผ่านรูตาแมวเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ฉันจึงเปิดประตูและหยิบยาเข้ามากู้จือโม่จากไปจริง ๆ แล้วฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรินน้ำใส่แก้วแล้วกินยาเข้าไป จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาไถเล่นแก้เบื่อความเจ็บปวดจากกระเพาะค่อย ๆ เริ่มทุเลาลง แต่ฉันกลับนอนไม่หลับอีกเลยไม่ได้นอนทั้งคืนเลย จนกระทั่งฟ้าสว่าง ความง่วงถึงค่อย ๆ ถาโถมเข้ามาฉันกำลังจะวางมือถือแล้วนอน ลั่วอี้ฝานก็ส่งข้อความมาพอดีในวินาทีถัดมา ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นจ

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 352

    จางเสี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย และเสริมว่า “นอกจากนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เนื้อผ้าและความประณีตในการตัดเย็บ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณภาพและมูลค่าของมันตั้งแต่แรกเห็น”ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราก็รีบลงมือออกแบบอย่างรวดเร็วฉันวางแนวคิดเกี่ยวกับสไตล์โดยรวมและการออกแบบลวดลาย โดยมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกเนื้อผ้าและควบคุมกระบวนการผลิต พยายามทำให้ทุกองค์ประกอบสมบูรณ์แบบที่สุดหากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่โดดเด่นเพียงพอ เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และตอนนี้ฉันต้องการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ผสมผสานองค์ประกอบของอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันฉันรู้ดีว่า หากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถดึงดูดสายตาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังคงรักษาความนิยมในตลาดได้อย่างยาวนาน จำเป็นต้องหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่างความวินเทจและความทันสมัยให้ได้ฉันหลับตาลง จินตนาการถึงองค์ประกอบสุดคลาสสิกจากอดีต กระดุมแบบจีนที่ประณีต เส้นสายอันอ่อนช้อยของกี่เพ้า รวมถึงการตัดเย็บที่เรียบง่ายและการจับคู่สีที่ทันสมัยฉันพยายามผสานองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เสื้อผ้ามีทั้งกลิ่นอายของประวั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 351

    “เธอกับฉันต่างก็รู้ดีว่าชื่อเสียงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลาสั่งสมและสะสมผลงาน สำหรับปัญหาที่เธอพูดถึง ฉันมีแนวคิดเบื้องต้นอยู่สองสามข้อ”“ก่อนอื่น เราสามารถเริ่มต้นจากแนวคิด ‘เล็กแต่โดดเด่น’ โดยใช้โซเชียลมีเดียและการกำหนดตลาดเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อดึงดูดกลุ่มแฟนคลับที่ภักดีในช่วงแรก เราสามารถผสมผสานแนวคิดการออกแบบของฉันเข้ากับประสบการณ์ด้านการบริหารของเธอ ร่วมกันสร้างคอลเลกชันแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นหรือซีรีส์แนวคอนเซ็ปต์ ที่ให้แต่ละชิ้นงานมีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะช่วยให้ได้รับความสนใจได้ง่ายขึ้น”“นอกจากนี้ สำหรับปัญหาที่ว่า การออกแบบของเธออาจถูกตั้งคำถามหรือไม่ได้รับความสนใจมากพอ เราสามารถใช้กลยุทธ์ ‘คอนเทนต์คือสิ่งสำคัญ’ โดยการนำเสนอภาพถ่ายคุณภาพสูง บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างละเอียด และให้โมเดลสื่อสารอารมณ์ของเสื้อผ้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้แต่ละชิ้นงานไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่เป็นการส่งต่อวัฒนธรรมและทัศนคติ นอกจากนี้ เราสามารถเชิญแฟชั่นบล็อกเกอร์หรือเคโอแอลที่มีอิทธิพลมาทดลองใส่และช่วยโปรโมต เพื่อใช้พลังของพวกเขาในการขยายอิทธิพลของแบรนด์ให้กว้างขึ้น”“นอ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 350

    พวกเรานัดกันที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ“ฉันอยากร่วมมือกับเธอ เพื่อสร้างแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ด้วยกัน”ตอนนี้ฉันมีเงินทุนอยู่บ้าง จึงสามารถออกแบบเสื้อผ้าได้ แล้วเขาจะช่วยฉันบริหารจัดการ พวกเราจะร่วมกันออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ภายในร้านกาแฟ แสงไฟอ่อนโยนส่องกระทบใบหน้าของซูข่ายเหวิน เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น“ร่วมมือกัน? สร้างแบรนด์เสื้อผ้า? ฟังดูเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก!” เขาเอนตัวมาข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ชัดเจนว่าเขาสนใจข้อเสนอของฉันมากฉันพยักหน้าแล้วอธิบายแนวคิดของฉันอย่างละเอียด“ใช่เลย ฉันมีความสนใจอย่างมากในด้านการออกแบบเสื้อผ้า ส่วนเธอเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน สะสมทั้งประสบการณ์และทรัพยากรมากมาย ฉันคิดว่า ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้ มันคงจะสร้างประกายที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาแน่นอน”ซูข่ายเหวินคนกาแฟในถ้วยเบา ๆ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยความคิดของเขาออกมา“นี่เป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ แต่เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ก่อนอื่น เราต้องกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจน ว่าเราจะเดินสายแฟชั่นระดับไฮเอนด์แ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 349

    ค่ำคืนค่อย ๆ ล่วงเลย ไฟริมทางในมหาวิทยาลัยเริ่มส่องสว่าง เงาของพวกเราถูกยืดออกยาวใต้แสงไฟฉันเงยหน้ามองกู้จือโม่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความแน่วแน่ ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวเล็กน้อยบางที ฉันอาจให้โอกาสเขา และให้โอกาสตัวเองด้วยเช่นกันมองเข้าไปในดวงตาของเขา อยู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ ว่าทำไมถึงเคยยึดติดกับเขามากขนาดนั้น? บางทีอาจเป็นเพราะความรักของฉันที่มีต่อเขามันลึกซึ้งกว่าที่คิดจริง ๆบางทีความรักอาจค่อย ๆ งอก เงยขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หรืออาจเป็นเพราะบางเหตุการณ์ที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักถูกหว่านลงในใจฉัน พอรู้ตัวอีกที เมล็ดพันธุ์นั้นก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ไปแล้ว“จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าเราสองคนจะมานั่งคุยอะไรกันที่นี่ในวันนี้ ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ตอนนี้เรายังเด็กกันอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการอะไร บางทีตอนนี้เธออาจจะแค่รู้สึกผิดกับฉัน ถึงได้คิดแบบนี้ แต่พอถึงวันที่เธอเติบโตขึ้นจริง ๆ เธอจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม?”ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเยวี่ยกับเขา ฉันไม่มีวันลืม ดังนั้นฉันรู้ดีว่า ตอนนี้เขายังไม่โตพอ แม้ว่าเขาจะดูเก่งกว่าคนทั่วไปมาก แต่ความคิด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status