Share

บทที่ 143

Author: ลูกพีชแสนสวย
ยังไม่ทันวิ่งไปได้กี่ก้าว เธอก็ถูกตำรวจที่รออยู่ด้านนอกกดลงกับพื้นทันที

"วิ่งหนีทำไม? คิดว่าจะหนีรอดเหรอ?"

เฉินเยวี่ยเงยหน้าขึ้น สีหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

"คุณตำรวจ คุณจับผิดคนหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!"

"จับเธอนี่แหละ!" ตำรวจพูดพลางล็อกกุญแจมือที่ข้อมือของเฉินเยวี่ยอย่างคล่องแคล่ว

บรรยากาศในห้องเรียนที่เคยเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบดังขึ้นอีก

"โห จริงเหรอ? มาจับเฉินเยวี่ยเลยเหรอ? เธอไปทำอะไรเข้าเนี่ย?"

"ฉันว่าแล้วว่าเธอไม่น่าใช่คนดีหรอก ครั้งก่อนก็ใส่ร้ายเฉียวซิงลั่วว่าเป็นขโมย แต่สุดท้ายโดนแฉกลับหน้าแหกไปเลย"

"ได้ยินมาว่าเธอมีเส้นสายใหญ่มาก ครั้งก่อนเรื่องก็วุ่นวายขนาดนั้น แต่เธอไม่เป็นอะไรเลย"

เฉินเยวี่ยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลิงในกรงที่โดนคนมอง เธออับอายจนใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู

แต่ตำรวจที่มาจับตัวกลับไม่ไว้หน้าเธอเลย

หัวหน้าทีมสืบสวนที่มาด้วยหยิบตราตำรวจขึ้นมาแสดง พร้อมกับกระชากเธอขึ้นอย่างไม่ปรานี

"ฉันคือหัวหน้าทีมสืบสวนคดีอาญาแห่งสถานีตำรวจปักกิ่ง เธอต้องสงสัยว่าเป็นผู้จ้างวานลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย มีหลักฐานชัดเจน ตอนนี้เราจะจับเธอ!"

เสียงซุบซิบในห้องเรียนยิ่งดังกระหึ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 144

    เฉียวเจี้ยนกั๋วรู้สึกเหงื่อเย็นไหลซึมเต็มแผ่นหลัง ความกลัวทำให้เขาพูดจาติดขัด “ไม่...ไม่ใช่ครับ ทุกอย่างยังต้องพึ่งพาความเมตตาของท่านเสมอ”กู้เซิ่งเหยียนแค่นเสียงเย็นชา “นายก็ฉลาดใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่ลูกนายโง่สิ้นดี!”“ฉันจำได้ว่าเฉียวกรุ๊ปของแกมีสัญญาหลายฉบับกับบริษัทย่อยของกู้กรุ๊ป ขอแค่ฉันพูดคำเดียว สัญญาเหล่านั้นก็จะเป็นแค่เศษกระดาษ!”เฉียวเจี้ยนกั๋วได้ยินดังนั้น รีบโบกมือพลางพูดอย่างลนลาน “คุณกู้ คุณไม่ทราบหรอกครับ ลูกสาวของผมไม่เคยเชื่อฟังตั้งแต่เล็ก ถ้าเธอทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ ผมจะพาเธอกลับมา อยากจัดการยังไงก็ได้เลยครับ”เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ใช้มือลูบหน้าเพื่อสงบใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “แต่ผมไม่ทราบเลยว่าเธอทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ และขอความกรุณาอย่าเพิ่งลงโทษที่เฉียวกรุ๊ปได้ไหมครับ?”เฉียวเจี้ยนกั๋วค่อย ๆ รินน้ำชาใส่ถ้วยชาอย่างระมัดระวัง น้ำชาล้นออกมาจนเกือบเต็ม ก่อนจะหยดลงบนตัวกบทอง[footnoteRef:0]ที่ส่งประกายสีแดงออกมา [0: ของตกแต่งบนโต๊ะน้ำชา] “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลูกสาวของแกว่าจะทำยังไง กลับไปสั่งสอนเธอให้ดี!”“เอ่อ ครับ ๆ ท่าน ผมจะกลับไปสั่งสอนเธออ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 145

    ฉันไม่รับสาย เฉียวเจี้ยนกั๋วจึงเปลี่ยนเป็นส่งข้อความมาถล่มแทน : ‘เฉียวซิงลั่ว! แกกล้าแอบถ่ายฉันเหรอ! ฉันเตือนแกนะ ถ้าแกกล้าปล่อยวิดีโอออกไป ฉันจะฆ่าย่าแก!’ : ‘เฉียวซิงลั่ว! แกมันลูกอกตัญญู! ฉันเลี้ยงแกมากินดีอยู่ดีขนาดนี้ แต่แกกลับกล้ามาขู่ฉัน!’ : ‘แกมันเนรคุณ ฉันไม่น่าเลย...ไม่น่ามีลูกอย่างแกเลยสักนิด!’ข้อความเด้งขึ้นมาทีละข้อความ ทุกข้อความฉันอ่านอย่างละเอียดทุกคำเฉียวเจี้ยนกั๋วตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความโกรธที่แสดงออกมาแบบไร้ประโยชน์ฉันไร้ความรู้สึก กดที่มุมขวาบนของแอปพลิเคชัน และบล็อกเฉียวเจี้ยนกั๋วในทันทีโลกกลับมาสงบอีกครั้งการที่กู้เซิ่งเหยียนไปหาเฉียวเจี้ยนกั๋ว หมายความว่าเขารู้เรื่องที่เฉินเยวี่ยถูกจับกุมแล้วถ้ากู้เซิ่งเหยียนเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าเฉินเยวี่ยจะต้องติดคุกหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าเฉียวเจี้ยนกั๋วที่กำลังจนตรอกจะกล้าลงมือทำอะไรกับย่าฉันจริง ๆ หรือเปล่าฉันกลัว...แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นฉันไม่อยากถูกเฉียวเจี้ยนกั๋วขู่ต่อไป และไม่ต้องการก้มหัวให้เขา ทางเดียวที่ทำได้คือเสี่ยงเดิมพันครั้งนี้ และรอข่าวจากลั่วอี้ฝานหลายวันแล้วที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 146

    ฉันพลิกดูรูปถ่ายที่ถ่ายกับคุณย่า พลางพึมพำเบา ๆ ไม่ทันรู้ตัว น้ำตาก็ไหลรินอาบใบหน้าไปเสียแล้วปวดท้องจนฉันต้องขดตัวเองเข้าหากัน ความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ถาโถมเข้ามาท่วมทั้งร่างกายผ่านไปอีกประมาณสิบนาทีกว่า เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดีครับ เม่าโถวเดลิเวอรี่ครับ”เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้น“คุณวางไว้หน้าประตูเลยค่ะ” ฉันไม่แน่ใจว่ากู้จือโม่ออกไปแล้วหรือยัง เลยไม่กล้าเปิดประตู“งั้นรบกวนให้คะแนนดี ๆ ด้วยนะครับ!” หลังจากพูดประโยคนี้ เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากด้านนอก ฟังดูเหมือนจะเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วผ่านไปสักพักใหญ่ ฉันถึงได้มองออกไปข้างนอกผ่านรูตาแมวเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ฉันจึงเปิดประตูและหยิบยาเข้ามากู้จือโม่จากไปจริง ๆ แล้วฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรินน้ำใส่แก้วแล้วกินยาเข้าไป จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาไถเล่นแก้เบื่อความเจ็บปวดจากกระเพาะค่อย ๆ เริ่มทุเลาลง แต่ฉันกลับนอนไม่หลับอีกเลยไม่ได้นอนทั้งคืนเลย จนกระทั่งฟ้าสว่าง ความง่วงถึงค่อย ๆ ถาโถมเข้ามาฉันกำลังจะวางมือถือแล้วนอน ลั่วอี้ฝานก็ส่งข้อความมาพอดีในวินาทีถัดมา ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 147

    ฉันตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุดราวกับไม่มีค่าแล้วจะทำยังไงล่ะ? ฉันควรทำยังไงดี?ในตอนนี้ ลั่วอี้ฝานกลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ“ซิงลั่ว เธอรีบมาที่นี่ก่อน เราค่อยมาวางแผนกัน ถึงฉันจะส่งคนไปสืบข้อมูลมาแล้ว แต่การลงมือแบบหุนหันพลันแล่นแบบนี้คงไม่ได้ผลแน่”ฉันบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง แล้วเริ่มจองตั๋วเครื่องบินทันทีสองชั่วโมงต่อมา ฉันก็ได้ขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังอวิ๋นเฉิงสำเร็จตลอดทาง ฉันเอาแต่คิดว่าจะพาคุณย่ากลับมาอยู่ข้างกายอย่างปลอดภัยได้อย่างไรในขณะเดียวกัน เฉียวเจี้ยนกั๋วก็ถูกเชิญไปที่คฤหาสน์ตระกูลกู้อีกครั้งตั้งแต่กู้จือโม่กลับไปเมืองหลวง โทรศัพท์ของเขาก็ปิดมาตลอด เห็นได้ชัดว่าจงใจหลีกเลี่ยงความจริงเมื่อคืนกู้เซิ่งเหยียนได้ส่งคนไปที่โรงเรียนเพื่อตามหาเฉียวซิงลั่ว แต่กลับได้รับแจ้งว่าเธอไม่ได้มาโรงเรียนหลายวันแล้วไม่มีทางเลือก เขาจึงทำได้แค่กดดันเฉียวเจี้ยนกั๋วเท่านั้น“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระอีกแล้ว เฉียวซิงลั่วจะถอนฟ้องได้เมื่อไหร่?” กู้เซิ่งเหยียนพูดด้วยสีหน้าเย็นชาและหมดความอดทนโดยสิ้นเชิงคำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้เฉียวเจี้ยนกั๋วเหงื่อเย็นไหลท่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 148

    ลมหนาวอันเย็นเยียบพัดผ่าน ในขณะนั้นเขาก็ได้รับสายจากบ้านพักคนชรา“สวัสดีค่ะ คุณเฉียว ที่นี่คือบ้านพักคนชราซีหยางนะคะ เช้านี้มีคนอ้างตัวว่าเป็นญาติของคุณมาเยี่ยมผู้สูงอายุในครอบครัวของคุณค่ะ”“ตอนนั้นเราโทรหาคุณ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไม่ได้อนุญาตให้เขาเข้าเยี่ยมค่ะ”“ขอถามหน่อยนะคะ เป็นคนในครอบครัวของคุณหรือเปล่าคะ?”เฉียวเจี้ยนกั๋วถึงกับขมวดคิ้วกระตุกทันที ก่อนจะเข้าใจได้ทันทีว่าต้องเป็นคนของเฉียวซิงลั่ว “พวกคุณทำงานกันยังไง? คนแปลกหน้าก็ปล่อยให้เข้าไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ? บอกไว้เลยนะ ถ้าแม่ผมเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่!”เขาวางสายด้วยความโมโหสุดขีด ก่อนจะตะโกนสั่งคนขับรถว่า “กลับรถ! ไปที่บ้านพักคนชรา!”ภายในบ้านพักคนชรา เฉียวเจี้ยนกั๋วนำพาผู้ติดตามบุกเข้าไปอย่างรวดเร็วผู้รับผิดชอบรีบรุดมาด้วยความเร่งรีบ แต่กลับถูกกันไว้ด้านนอกเฉียวเจี้ยนกั๋วสั่งคนให้เก็บของไปด้วย ในขณะเดียวกันก็คว้าคอเสื้อของแม่ตัวเองขึ้นมาอย่างแรง “แก่ไม่ตายสักทีนะ แต่อยากบอกเลยว่าหลานสาวของแม่นี่มันเก่งจริง ๆ จำเอาไว้นะ ไม่ใช่ว่าฉันอยากทำร้ายแม่ แต่เป็นเพราะเฉียวซิงลั่ว ตัวดีนั่นไม่อยากให้แม่อยู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 149

    ใจฉันหล่นวูบ คว้ามือพนักงานทำความสะอาดไว้แน่นแล้วถามว่า “คนที่อยู่ในห้องนี้ล่ะ?”พนักงานทำความสะอาดดูงงเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบว่า “ย้ายไปแล้วค่ะ”ย้ายไปแล้ว? ย้ายไปแล้วหมายความว่ายังไง?ฉันตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายอ่อนแรงจนหมดเรี่ยวแรงลั่วอี้ฝานเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ รีบประคองฉันที่กำลังจะทรุดลง“อะไรคือย้ายไปแล้ว? อธิบายให้ชัดเจนหน่อย!”“ก็ถูกคนพาตัวไปแล้วไง” พนักงานทำความสะอาดคงเห็นว่าฉันร้อนใจจริง ๆ จึงมองสำรวจพวกเราอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “พวกคุณเป็นอะไรกันกับเธอ?”“พาไปที่ไหน? พาไปเมื่อไหร่? ใครเป็นคนพาไป?” ฉันไม่สนใจน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย รีบพูดด้วยความร้อนใจว่า “ฉันเป็นหลานสาวของเธอ ขอร้องล่ะ บอกพวกเราทีเถอะค่ะ”พนักงานทำความสะอาดถึงกับตกใจจนเห็นได้ชัด “ที่แท้เธอยังมีญาติคนอื่นอยู่อีกเหรอ! โอ๊ย หนูจ๋า เธอมาช้าไปแล้วล่ะ”“เมื่อสองชั่วโมงก่อน มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งพาคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาแล้วพาตัวเธอไปแล้ว”“หนูจ๋า ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับเธอเหรอ? เป็นพ่อเธอหรือเปล่า?”“เธอกลับไปต้องดูแลคุณย่าให้ดี ๆ นะ เธอไม่รู้หรอกว่าพ่อเธอเอาคุณย่ามาทิ้งไว้ที่นี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 150

    “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าต้องการอะไร? เธอไปทำอะไรให้ตระกูลกู้โกรธกันแน่? บอกไว้เลยนะ ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ชาตินี้เธออย่าหวังว่าจะได้เจอย่าเธออีก!” “ยาถูกหยุดไปแล้ว ถ้าเธอยังไม่ทำให้ตระกูลกู้หายโกรธล่ะก็ ฉันจะไม่ให้เธอเห็นแม้แต่ศพของย่าเธอ!” เขาพูดจบก็วางสายไปทันที ฉันจ้องมองโทรศัพท์ด้วยความงง ก่อนจะได้สติและกดโทรกลับไปอย่างบ้าคลั่ง ยาของคุณย่าจะขาดไม่ได้เด็ดขาด! แต่ไม่ว่าฉันจะโทรไปกี่ครั้ง อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับสายเลย เมื่อเสียงแจ้งว่าไม่มีผู้รับสายดังขึ้นอีกครั้ง ในที่สุดฉันก็หมดแรงและท้อใจ ลั่วอี้ฝานโกรธจนสบถด่าออกมา ส่วนฉันก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฉันถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดโทรหาเบอร์ของกู้จือโม่ แทบจะทันทีที่กดโทรออก สายก็ถูกรับอย่างรวดเร็วหลังจากความเงียบไม่กี่วินาที ฉันก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า “กู้จือโม่ พวกนายชนะแล้ว” “อะไรนะ?” ดูเหมือนเขาจะงงเล็กน้อย “เลิกแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรได้แล้ว ตระกูลกู้ของพวกนายนี่ช่างมีวิธีการที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ” ฉันไม่อยากเสียเวลาพูดไร้สาระกับเขามากนัก “ฉันตกลงถ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 151

    เมื่อเห็นเฉียวเจี้ยนกั๋วยอมส่งตำแหน่งมาให้โดยดี ฉันไม่ลังเลเลยที่จะดึงเข็มออก แล้วพลิกตัวลุกจากเตียงทันที ไม่สนใจการห้ามปรามของพยาบาล ฉันออกจากโรงพยาบาลทันที แล้วเรียกรถตรงไปยังที่อยู่ที่เฉียวเจี้ยนกั๋วบอกไว้ เฉียวเจี้ยนกั๋วย้ายคุณย่ากลับไปบ้านเก่า ที่ไม่ได้ซ่อมแซมมานานนับสิบปี บ้านหลังนั้นที่หน้าฝนก็กันน้ำไม่ได้ หน้าหนาวก็กันความหนาวไม่อยู่ ทันทีที่เห็นคุณย่า น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ครั้งก่อนที่เจอเธอ เธอยังไม่ผอมขนาดนี้ แต่คราวนี้เธอผอมจนแทบเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ใบหน้าที่เคยเปี่ยมด้วยความเมตตา บัดนี้แก้มตอบลึกลงไป ราวกับทั้งตัวกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ เธอหลับตาลง ราวกับกำลังหลับใหล แต่ก็ดูเหมือนว่าอาจจะจากฉันไปได้ทุกเมื่อ ความหวาดกลัวถาโถมเข้ามาในใจ ฉันรีบก้าวเข้าไปนั่งย่อตัวลงข้าง ๆ เธอ จับมือเธอไว้แน่น “คุณย่า หนูคือลั่วลั่วนะ หนูมารับคุณย่าแล้วค่ะ” ฉันยื่นมือออกไป ตั้งใจจะช่วยจัดแต่งผมให้คุณย่า แต่พอยื่นมือออกไป กลับชะงักค้างอยู่กลางอากาศฉันไม่กล้า...ฉันไม่กล้าแตะต้องเธอ คุณย่าเคยรักเส้นผมของเธอที่สุด เธอบอกว่าคุณปู่เองก็ชอบผมของเธอมากที่สุดเช่นกัน เธอ

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 352

    จางเสี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย และเสริมว่า “นอกจากนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เนื้อผ้าและความประณีตในการตัดเย็บ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณภาพและมูลค่าของมันตั้งแต่แรกเห็น”ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราก็รีบลงมือออกแบบอย่างรวดเร็วฉันวางแนวคิดเกี่ยวกับสไตล์โดยรวมและการออกแบบลวดลาย โดยมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกเนื้อผ้าและควบคุมกระบวนการผลิต พยายามทำให้ทุกองค์ประกอบสมบูรณ์แบบที่สุดหากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่โดดเด่นเพียงพอ เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และตอนนี้ฉันต้องการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ผสมผสานองค์ประกอบของอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันฉันรู้ดีว่า หากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถดึงดูดสายตาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังคงรักษาความนิยมในตลาดได้อย่างยาวนาน จำเป็นต้องหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่างความวินเทจและความทันสมัยให้ได้ฉันหลับตาลง จินตนาการถึงองค์ประกอบสุดคลาสสิกจากอดีต กระดุมแบบจีนที่ประณีต เส้นสายอันอ่อนช้อยของกี่เพ้า รวมถึงการตัดเย็บที่เรียบง่ายและการจับคู่สีที่ทันสมัยฉันพยายามผสานองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เสื้อผ้ามีทั้งกลิ่นอายของประวั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 351

    “เธอกับฉันต่างก็รู้ดีว่าชื่อเสียงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลาสั่งสมและสะสมผลงาน สำหรับปัญหาที่เธอพูดถึง ฉันมีแนวคิดเบื้องต้นอยู่สองสามข้อ”“ก่อนอื่น เราสามารถเริ่มต้นจากแนวคิด ‘เล็กแต่โดดเด่น’ โดยใช้โซเชียลมีเดียและการกำหนดตลาดเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อดึงดูดกลุ่มแฟนคลับที่ภักดีในช่วงแรก เราสามารถผสมผสานแนวคิดการออกแบบของฉันเข้ากับประสบการณ์ด้านการบริหารของเธอ ร่วมกันสร้างคอลเลกชันแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นหรือซีรีส์แนวคอนเซ็ปต์ ที่ให้แต่ละชิ้นงานมีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะช่วยให้ได้รับความสนใจได้ง่ายขึ้น”“นอกจากนี้ สำหรับปัญหาที่ว่า การออกแบบของเธออาจถูกตั้งคำถามหรือไม่ได้รับความสนใจมากพอ เราสามารถใช้กลยุทธ์ ‘คอนเทนต์คือสิ่งสำคัญ’ โดยการนำเสนอภาพถ่ายคุณภาพสูง บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างละเอียด และให้โมเดลสื่อสารอารมณ์ของเสื้อผ้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้แต่ละชิ้นงานไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่เป็นการส่งต่อวัฒนธรรมและทัศนคติ นอกจากนี้ เราสามารถเชิญแฟชั่นบล็อกเกอร์หรือเคโอแอลที่มีอิทธิพลมาทดลองใส่และช่วยโปรโมต เพื่อใช้พลังของพวกเขาในการขยายอิทธิพลของแบรนด์ให้กว้างขึ้น”“นอ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 350

    พวกเรานัดกันที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ“ฉันอยากร่วมมือกับเธอ เพื่อสร้างแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ด้วยกัน”ตอนนี้ฉันมีเงินทุนอยู่บ้าง จึงสามารถออกแบบเสื้อผ้าได้ แล้วเขาจะช่วยฉันบริหารจัดการ พวกเราจะร่วมกันออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ภายในร้านกาแฟ แสงไฟอ่อนโยนส่องกระทบใบหน้าของซูข่ายเหวิน เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น“ร่วมมือกัน? สร้างแบรนด์เสื้อผ้า? ฟังดูเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก!” เขาเอนตัวมาข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ชัดเจนว่าเขาสนใจข้อเสนอของฉันมากฉันพยักหน้าแล้วอธิบายแนวคิดของฉันอย่างละเอียด“ใช่เลย ฉันมีความสนใจอย่างมากในด้านการออกแบบเสื้อผ้า ส่วนเธอเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน สะสมทั้งประสบการณ์และทรัพยากรมากมาย ฉันคิดว่า ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้ มันคงจะสร้างประกายที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาแน่นอน”ซูข่ายเหวินคนกาแฟในถ้วยเบา ๆ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยความคิดของเขาออกมา“นี่เป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ แต่เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ก่อนอื่น เราต้องกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจน ว่าเราจะเดินสายแฟชั่นระดับไฮเอนด์แ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 349

    ค่ำคืนค่อย ๆ ล่วงเลย ไฟริมทางในมหาวิทยาลัยเริ่มส่องสว่าง เงาของพวกเราถูกยืดออกยาวใต้แสงไฟฉันเงยหน้ามองกู้จือโม่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความแน่วแน่ ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวเล็กน้อยบางที ฉันอาจให้โอกาสเขา และให้โอกาสตัวเองด้วยเช่นกันมองเข้าไปในดวงตาของเขา อยู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ ว่าทำไมถึงเคยยึดติดกับเขามากขนาดนั้น? บางทีอาจเป็นเพราะความรักของฉันที่มีต่อเขามันลึกซึ้งกว่าที่คิดจริง ๆบางทีความรักอาจค่อย ๆ งอก เงยขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หรืออาจเป็นเพราะบางเหตุการณ์ที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักถูกหว่านลงในใจฉัน พอรู้ตัวอีกที เมล็ดพันธุ์นั้นก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ไปแล้ว“จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าเราสองคนจะมานั่งคุยอะไรกันที่นี่ในวันนี้ ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ตอนนี้เรายังเด็กกันอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการอะไร บางทีตอนนี้เธออาจจะแค่รู้สึกผิดกับฉัน ถึงได้คิดแบบนี้ แต่พอถึงวันที่เธอเติบโตขึ้นจริง ๆ เธอจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม?”ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเยวี่ยกับเขา ฉันไม่มีวันลืม ดังนั้นฉันรู้ดีว่า ตอนนี้เขายังไม่โตพอ แม้ว่าเขาจะดูเก่งกว่าคนทั่วไปมาก แต่ความคิด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status