Share

บทที่ 128

Author: ลูกพีชแสนสวย
หัวใจเหมือนถูกบีบแน่นจนแทบขาด ฉันเจ็บปวดจนรู้สึกว้าวุ่นไปหมด!

คมมีดปักลึกเข้าไปในเนื้อและเลือด แต่ไม่รู้กู้จือโม่เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เขาตอบโต้กลับด้วยการโจมตีต้าจ้วงจนล้มลงไปทันที!

ในที่สุด ตำรวจจำนวนมากก็กรูกันเข้ามาทางประตู!

เจ้าหน้าที่นำหน้าหลายคนถือกระบองและโล่ เข้าควบคุมตัวทั้งสองคนได้อย่างรวดเร็ว!

ตอนนี้พวกเขาถึงเริ่มรู้สึกกลัว ร้องไห้จนทั้งน้ำตาและน้ำมูกไหลปนกันพลางพูดว่า “คุณตำรวจ พวกเราโดนใส่ร้าย! เราไม่ได้ทำอะไรเลย!”

“มีคนสั่งให้พวกเราทำแบบนี้ จะมาจับพวกเราทำไมล่ะ คุณตำรวจควรไปจับตัวเขาสิ!”

หลังจากโดนเตะไปหนึ่งที พวกเขาก็ยอมสงบลงในที่สุด เลิกโวยวายร้องลั่นเสียที!

ท่ามกลางฝูงชน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก้าวออกมา ดูเหมือนจะมีตำแหน่งไม่น้อย ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความร้อนรน รีบเข้าไปประคองกู้จือโม่พลางถามว่า “คุณชายกู้ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เมื่อเห็นเสื้อของกู้จือโม่เปื้อนเลือด ชายวัยกลางคนถึงกับสะดุ้งตกใจพลางพูดว่า “คุณชายกู้ บาดแผลของคุณ...”

กู้จือโม่ลุกขึ้น ยกมือปัดเขาออก แม้จะก้าวเดินอย่างลำบาก แต่ยังมุ่งตรงมาหาฉันอย่างชัดเจน!

ผู้กำกับการเพิ่งตั้งสติได้ รีบตะโกนสั่งว่า “พ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 129

    ตอนนี้ฉันมัวแต่กังวลเรื่องความปลอดภัยของกู้จือโม่ จนเผลอลืมไปว่ามีคนร้ายลักพาตัวอีกสองคนถ้าวันนี้กู้จือโม่ไม่ได้พาตำรวจมาทันเวลา ฉันไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ลำบากแล้ว” ฉันกล่าวขอบคุณด้วยความสุภาพ ความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายทำให้ฉันต้องทรุดตัวลงนั่งทันทีบรรยากาศเงียบสงัดลงทันที พวกเราต่างนั่งเงียบ รอคอยผลอย่างใจจดใจจ่อที่ประตู ห้องฉุกเฉินมีตัวอักษรสีแดงเรืองแสง ฉันจ้องมองมันตลอดจนเผลอเหม่อลอยหลังจากที่ได้กลับมาเกิดใหม่ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับกู้จือโม่ก็ย้อนกลับมาในความคิดครั้งแล้วครั้งเล่าคำพูดของเขาที่ว่า “ฉันจะจีบเธอ” ยังคงก้องอยู่ในหูของฉันไม่จางหายฉันอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะทำเพื่อฉันได้ถึงเพียงนี้ ตอนนั้นฉันจะยังปฏิเสธเขาอยู่ไหม?หัวใจที่เคยคิดว่าหนาวเหน็บจนไร้ความรู้สึก ดูเหมือนจะเริ่มอุ่นขึ้นทีละน้อยไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดคนข้างในก็เปิดประตูออกมา“คุณหมอ กู้จือโม่เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”คุณหมอรับสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของฉัน ขณะถอดหน้ากากออกพลางพูดว่า “มีดถูกดึงออกแล้ว แผลกำลังเย็บอยู่ ต่อจากน

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 130

    กู้จือโม่เข้ารับการผ่าตัดด้วยการดมยาสลบ ชั่วครู่เขาคงยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมาฉันอยากจะเดินออกไป แต่ไม่ว่าทำอย่างไรก็ยกเท้าไม่ขึ้นนั่งอยู่สักพัก ความรู้สึกไม่สบายใจก็ค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายผ่านไปอีกสองชั่วโมง พ่อบ้านของกู้จือโม่เดินออกมาแล้วพูดว่า “คุณเฉียว คุณชายฟื้นแล้วครับ”กู้จือโม่ฟื้นแล้ว...ฉันสูดลมหายใจลึก ความหนักอึ้งในใจเหมือนก้อนหินที่กดทับอยู่ ในที่สุดก็หายไปฉันพยักหน้าเบา ๆ แต่ทันทีที่ลุกขึ้นยืน โลกทั้งใบก็หมุนคว้าง และในวินาทีต่อมาฉันก็จมดิ่งเข้าสู่ความมืดมิดเมื่อฉันลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง แสงแดดอ่อน ๆ ก็ส่องผ่านม่านบาง ๆ เข้ามาในห้องฉันลืมตาขึ้น ก็ได้ยินเสียงของกู้จือโม่ดังขึ้นข้างหูว่า “ตื่นแล้วเหรอ? มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายบ้างไหม?”“แม่บ้านอู๋ รีบไปตามหมอมาเร็ว!”พอหันไปก็เห็นกู้จือโม่ที่มีรอยฟกช้ำบนแก้มจากการต่อสู้กับคนร้ายเขานั่งอยู่บนรถเข็น มีสายน้ำเกลือที่หลังมือ อาจเป็นเพราะเสียเลือดมาก ทำให้สีหน้าดูไม่ค่อยดีนักสายตาของฉันมองไปที่บริเวณหน้าท้องของเขา แต่เพราะมีเสื้อผ้าปิดอยู่ ฉันจึงไม่สามารถบอกได้ว่าแผลลึกหรือร้ายแรงแค่ไหนเมื่อครู่ในความฝัน ฉากในฝั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 131

    "เฉียวซิงลั่ว เธอต้องการผลักไสฉันออกไปจริง ๆ ใช่ไหม?" เสียงของกู้จือโม่เต็มไปด้วยความเย็นชา พร้อมกับบรรยากาศรอบตัวเขาที่กดดันลงอย่างชัดเจนฉันเม้มปาก ไม่ตอบอะไร กลัวคำพูดต่อไปของเขาฉันอยากให้เขาหยุดพูด แต่ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปาก เขากลับพูดต่อ"เธอก็ชอบฉันเหมือนกันใช่ไหม? แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับล่ะ?""ตอนที่เห็นฉันถูกแทง เธอกลัวมากใช่ไหม? เธอพูดอะไรกับฉันบ้างตอนนั้น ฉันได้ยินทุกคำ"คำพูดของกู้จือโม่เหมือนหินก้อนหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่สงบนิ่ง ทันทีที่มันสัมผัสผิวน้ำ คลื่นกระเพื่อมก็ปรากฏความทรงจำที่ฉันพยายามลืม ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งจนไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไปตอนที่กู้จือโม่ถูกคนร้ายแทง เลือดของเขาไหลซึมเปื้อนเสื้อผ้าจนชุ่มฉันมองเห็นเลือดที่เปรอะเปื้อนเสื้อของเขา และมองดูเขาทรุดลงข้างฉัน ก่อนจะแก้มัดเชือกบนตัวฉันแล้วหมดสติไปฉันกลัว... กลัวมากกว่าตอนที่รู้ว่าเขาไม่มีวันรักฉันในชาติก่อนฉันกลัวว่าจะไม่มีเขาอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว ฉันกลัวว่าจะไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป และกลัวว่าในอนาคตเมื่อพูดถึงเขา จะต้องเริ่มต้นด้วยคำว่า ‘ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่’ฉันกลัวท

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 132

    ฉันกับกู้จือโม่ทะเลาะกันโดยไม่มีเหตุผล คุณอู๋ดูงุนงงอย่างเห็นได้ชัด "คุณชาย...คุณหนู..."ความรู้สึกน้อยใจที่ไม่มีที่มาพุ่งเข้ามาในใจ ฉันดึงผ้าห่มลงจากหน้า แต่พบว่ากู้จือโม่ไม่อยู่แล้วคุณอู๋ยืนอยู่ข้างเตียงของฉัน ดูเหมือนไม่รู้จะทำยังไงดี "คุณหนู..."ฉันสูดลมหายใจลึก พยายามกดความรู้สึกทั้งหมดลงไป แล้วส่งยิ้มให้คุณอู๋ "คุณอู๋ รบกวนไปดูคุณชายกู้หน่อยนะคะ ตามเขาไปให้แน่ใจว่าเขากลับถึงห้องพักผู้ป่วยอย่างปลอดภัยก็พอ""ฉันไม่มีปัญหาอะไร ตุณไปเถอะค่ะ"เมื่อฉันพูดแบบนั้น คุณอู๋พยักหน้าและรีบวิ่งออกไปห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ฉันนอนมองเพดานอยู่นาน ความรู้สึกอึดอัดในใจจึงค่อย ๆ เบาบางลงฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหา ลั่วอี้ฝาน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โทรกลับมาเสียงของเขาในสายฟังดูไม่ผ่อนคลายเหมือนเคย "มีอะไรหรือเปล่า? พอดีเพิ่งกินข้าวกับคณะกรรมการเสร็จ พึ่งออกมาจากโรงแรม"ก่อนหน้านี้ฉันตั้งใจจะใช้เงินสองล้านหยวนเพื่อซื้อที่ดินผืนนั้น แต่ลั่วอี้ฝานลองติดต่อหลายทางแล้วพบว่าถ้าไม่ผ่านการประมูลตามกฎหมาย อาจจะได้ราคาถูกลงอีกสามถึงสี่แสนหยวนช่วงนี้เขาเลยต้องวิ่งหาเส้นสายทุกทาง เพื่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 133

    "ยังมีใครอีก?""เฉินเยวี่ย""ผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"ฉันตอบรับด้วยเสียง "อืม""เธอกล้าเหรอ?"ฤดูหนาวลึกเข้ามาอีกระดับ ใบของต้นการบูรแทบจะหลุดร่วงหมด เหลือเพียงกิ่งก้านเปลือยเปล่ายื่นออกไปฉันไม่รู้ว่าเฉินเยวี่ยจะกล้าหรือไม่ แต่สิ่งที่ฉันรู้คือ ความอิจฉาสามารถทำให้คนเปลี่ยนแปลงจนดูไม่เหมือนเดิมได้ฉันไม่ได้ประเมินตัวเองสูงเกินไป แต่ก็ไม่ดูถูกธรรมชาติของมนุษย์ และข้อสงสัยของฉันก็ไม่ได้ไร้ที่มาที่ไป"วันนั้น ตอนที่คนร้ายที่รับโทรศัพท์ เสียงที่ฉันได้ยินในวินาทีแรกเหมือนเสียงของผู้หญิง"ตอนนั้นฉันยังไม่กล้ายืนยัน แต่เมื่อคิดย้อนไป ฉันนึกถึงตอนที่เรียนมัธยมปลายปีสอง เฉิงเฉิงเคยหลงใหลนักพากย์เสียงชายคนหนึ่งที่เสียงไพเราะมากเธอใช้เวลาทั้งกลางวันและกลางคืนฟังเสียงของนักพากย์คนนั้นทุกครั้งที่มีโอกาสแต่ไม่นานก็มีข่าวออกมาว่านักพากย์คนนั้นแท้จริงเป็นผู้หญิง เสียงนั้นถูกแต่งเสียงผ่านอุปกรณ์เสียงและโปรแกรมตัดต่อเฉิงเฉิงเสียใจจนหมดอาลัย และเริ่มค้นคว้าวิธีแยกแยะเสียงจริงของคน ฉันอยู่กับเธอทุกวัน เลยได้ยินเรื่องเหล่านี้จากเธอบ่อย ๆเมื่อครู่ฉันตั้งใจฟังเสียงในความทรงจำอีกครั้ง และก็ชัด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 134

    ฉันจับมือของกู้จือโม่ไว้ มือของเขาร้อนอย่างกับไฟ ฉันจึงขอให้พ่อบ้านช่วยเอาน้ำมาให้เพื่อลดไข้ด้วยวิธีทางกายภาพฉันใช้ผ้าชุบน้ำเย็นวางไว้ที่หน้าผาก และใช้แอลกอฮอล์เช็ดตามฝ่ามือ แผ่นหลัง และฝ่าเท้าของเขา หลังวุ่นวายกว่าชั่วโมง อุณหภูมิร่างกายของเขาก็ลดลงเล็กน้อยเสื้อผ้าของเขาเปียกชื้นไปหมด ฉันที่ไม่สามารถยกเขาได้จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลช่วยเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาตลอดกระบวนการทั้งหมด กู้จือโม่ไม่ได้ลืมตาขึ้นเลยแม้แต่น้อยฉันรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย จับมือเขาไว้แน่นแล้วเรียกเขา “กู้จือโม่ ตื่นเถอะ ลืมตาขึ้นมาดูฉันหน่อยได้ไหม?”หลังจากที่ฉันพูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาทีฉันดีใจอย่างท่วมท้น ฉันพยุงตัวเองขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น “กู้จือโม่ นายฟื้นแล้วเหรอ?”แววตาของเขาในตอนแรกดูเลื่อนลอย แต่ค่อย ๆ กลับมาแจ่มใสขึ้นทีละน้อยเขาจ้องมองฉันโดยไม่พูดอะไร ฉันเริ่มรู้สึกกังวล จึงยื่นมือแตะหน้าผากเขาอีกครั้ง “หรือจะเป็นไข้จนเบลอไปแล้ว?”“ทั้ง ๆ ที่ไข้ก็ลดลงแล้วนี่นา” ฉันพูดพลางหันไปขอให้พ่อบ้านเรียกหมอ แต่กลับถูกมือของกู้จือโม่คว้าไว้แน่น“ไม่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 135

    ฉันอ้าปากเหมือนจะพูดคำว่า ‘ไม่’ ออกไป แต่คำสองคำนี้มันดูเบาเกินไป เบาจนไม่น่าจะทำให้ใครเชื่อได้“กู้จือโม่”ฉันมองเขา ในชั่วขณะหนึ่ง ฉันอยากจะถามเขาว่าเขาเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณไหม เชื่อในเรื่องอดีตและชาติภพไหม เชื่อในเรื่องการเกิดใหม่ไหม เชื่อไหมว่าในชีวิตก่อนหน้านี้ ฉันกับเขามีจุดจบที่ไม่ดีแต่เพียงแค่ชั่วขณะเดียว ฉันก็ล้มเลิกความคิดนั้นเพราะแม้แต่ฉันเอง บางครั้งยังรู้สึกเลือนราง ว่าชีวิตก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องจริงหรือแค่จินตนาการ แล้วเขาที่เป็นคนไม่เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติตั้งแต่ต้น แล้วจะเชื่อได้ยังไงกู้จือโม่มองฉัน รอคำพูดถัดไปของฉันฉันเม้มปาก มองเขาแล้วพูดออกมา “ฉันเคยชอบนายมาก ชอบจนใช้แรงทั้งหมดที่มี ฉันชอบนายมากจริง ๆ แต่ความรู้สึกแบบนั้นมันเหนื่อยเกินไป”“นายเคยบอกว่าฉันเป็นคนที่มีความอดทนแค่สามนาทีใช่ไหม?” ฉันยิ้มให้เขา “บางทีนายอาจจะพูดถูก”“การชอบนายก็คงเป็นเรื่องที่ฉันชอบได้แค่สามนาทีเหมือนกัน”“เธอชอบฉัน” กู้จือโม่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและมั่นใจ “พูดอะไรแบบนี้ออกมา เธอคิดว่าฉันจะเชื่อจริง ๆ เหรอ?”"เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอต้องหลอกตัวเองด้วย?" กู้จ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 136

    ฉันกำลังจะโมโหใส่เขาให้หลีกทาง แต่พอได้ยินคำถามนั้นกลับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอียงคอมองอย่างงุนงงกู้จือโม่โน้มตัวลงจนระดับสายตาเท่ากันกับฉัน “หืม? หึงใช่ไหม?”“ไปให้พ้น!”ฉันทั้งโกรธทั้งเขิน รู้สึกเหมือนเขาจี้จุดเข้าอย่างจัง และในขณะเดียวกันก็ไม่พอใจเขามากเขาอยากจะทำตัวเป็นผู้ชายแสนอบอุ่นก็ให้เป็นไป แต่ถ้าจะอบอุ่นแบบนี้ก็ช่วยอบอุ่นให้ห่าง ๆ หน่อยเถอะอีกอย่าง เขาเอาโครงการมาแลกกับบ้านกู้เพื่อให้ฉันปล่อยเรื่องที่เฉินเยวี่ยใส่ร้ายฉัน แม้ฉันจะได้ประโยชน์จากมัน แต่ความรู้สึกระหว่างการถูกบังคับกับการเลือกเองมันแตกต่างกันมากหลังจากฉันพูด ‘ไปให้พ้น’ ออกไป กู้จือโม่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เหมือนจะโดนจี้จุดขำจนหัวเราะไม่หยุดฉันจ้องเขา แต่เขาหัวเราะจนตัวงอ ไม่สามารถยืนตรงได้แต่ไม่นาน เสียงหัวเราะก็หยุดลงทันที เพราะเขาดันไปกระเทือนแผลที่ตัวเอง สีหน้าของเขาจึงบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดตอนนี้เป็นตาเขาที่เสียหน้า ส่วนฉันกลับยิ้มแย้มด้วยความสะใจฉันยิ้มพลางพูดอย่างเน้นย้ำทีละคำ “สมน้ำหน้า”พอฉันพูดจบ พอดีผู้ดูแลของกู้จือโม่เคาะประตูเข้ามา เห็นเจ้านายของเขานั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับ

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 352

    จางเสี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย และเสริมว่า “นอกจากนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เนื้อผ้าและความประณีตในการตัดเย็บ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณภาพและมูลค่าของมันตั้งแต่แรกเห็น”ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราก็รีบลงมือออกแบบอย่างรวดเร็วฉันวางแนวคิดเกี่ยวกับสไตล์โดยรวมและการออกแบบลวดลาย โดยมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกเนื้อผ้าและควบคุมกระบวนการผลิต พยายามทำให้ทุกองค์ประกอบสมบูรณ์แบบที่สุดหากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่โดดเด่นเพียงพอ เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และตอนนี้ฉันต้องการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ผสมผสานองค์ประกอบของอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันฉันรู้ดีว่า หากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถดึงดูดสายตาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังคงรักษาความนิยมในตลาดได้อย่างยาวนาน จำเป็นต้องหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่างความวินเทจและความทันสมัยให้ได้ฉันหลับตาลง จินตนาการถึงองค์ประกอบสุดคลาสสิกจากอดีต กระดุมแบบจีนที่ประณีต เส้นสายอันอ่อนช้อยของกี่เพ้า รวมถึงการตัดเย็บที่เรียบง่ายและการจับคู่สีที่ทันสมัยฉันพยายามผสานองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เสื้อผ้ามีทั้งกลิ่นอายของประวั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 351

    “เธอกับฉันต่างก็รู้ดีว่าชื่อเสียงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลาสั่งสมและสะสมผลงาน สำหรับปัญหาที่เธอพูดถึง ฉันมีแนวคิดเบื้องต้นอยู่สองสามข้อ”“ก่อนอื่น เราสามารถเริ่มต้นจากแนวคิด ‘เล็กแต่โดดเด่น’ โดยใช้โซเชียลมีเดียและการกำหนดตลาดเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อดึงดูดกลุ่มแฟนคลับที่ภักดีในช่วงแรก เราสามารถผสมผสานแนวคิดการออกแบบของฉันเข้ากับประสบการณ์ด้านการบริหารของเธอ ร่วมกันสร้างคอลเลกชันแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นหรือซีรีส์แนวคอนเซ็ปต์ ที่ให้แต่ละชิ้นงานมีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะช่วยให้ได้รับความสนใจได้ง่ายขึ้น”“นอกจากนี้ สำหรับปัญหาที่ว่า การออกแบบของเธออาจถูกตั้งคำถามหรือไม่ได้รับความสนใจมากพอ เราสามารถใช้กลยุทธ์ ‘คอนเทนต์คือสิ่งสำคัญ’ โดยการนำเสนอภาพถ่ายคุณภาพสูง บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างละเอียด และให้โมเดลสื่อสารอารมณ์ของเสื้อผ้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้แต่ละชิ้นงานไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่เป็นการส่งต่อวัฒนธรรมและทัศนคติ นอกจากนี้ เราสามารถเชิญแฟชั่นบล็อกเกอร์หรือเคโอแอลที่มีอิทธิพลมาทดลองใส่และช่วยโปรโมต เพื่อใช้พลังของพวกเขาในการขยายอิทธิพลของแบรนด์ให้กว้างขึ้น”“นอ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 350

    พวกเรานัดกันที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ“ฉันอยากร่วมมือกับเธอ เพื่อสร้างแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ด้วยกัน”ตอนนี้ฉันมีเงินทุนอยู่บ้าง จึงสามารถออกแบบเสื้อผ้าได้ แล้วเขาจะช่วยฉันบริหารจัดการ พวกเราจะร่วมกันออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ภายในร้านกาแฟ แสงไฟอ่อนโยนส่องกระทบใบหน้าของซูข่ายเหวิน เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น“ร่วมมือกัน? สร้างแบรนด์เสื้อผ้า? ฟังดูเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก!” เขาเอนตัวมาข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ชัดเจนว่าเขาสนใจข้อเสนอของฉันมากฉันพยักหน้าแล้วอธิบายแนวคิดของฉันอย่างละเอียด“ใช่เลย ฉันมีความสนใจอย่างมากในด้านการออกแบบเสื้อผ้า ส่วนเธอเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน สะสมทั้งประสบการณ์และทรัพยากรมากมาย ฉันคิดว่า ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้ มันคงจะสร้างประกายที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาแน่นอน”ซูข่ายเหวินคนกาแฟในถ้วยเบา ๆ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยความคิดของเขาออกมา“นี่เป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ แต่เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ก่อนอื่น เราต้องกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจน ว่าเราจะเดินสายแฟชั่นระดับไฮเอนด์แ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 349

    ค่ำคืนค่อย ๆ ล่วงเลย ไฟริมทางในมหาวิทยาลัยเริ่มส่องสว่าง เงาของพวกเราถูกยืดออกยาวใต้แสงไฟฉันเงยหน้ามองกู้จือโม่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความแน่วแน่ ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวเล็กน้อยบางที ฉันอาจให้โอกาสเขา และให้โอกาสตัวเองด้วยเช่นกันมองเข้าไปในดวงตาของเขา อยู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ ว่าทำไมถึงเคยยึดติดกับเขามากขนาดนั้น? บางทีอาจเป็นเพราะความรักของฉันที่มีต่อเขามันลึกซึ้งกว่าที่คิดจริง ๆบางทีความรักอาจค่อย ๆ งอก เงยขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หรืออาจเป็นเพราะบางเหตุการณ์ที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักถูกหว่านลงในใจฉัน พอรู้ตัวอีกที เมล็ดพันธุ์นั้นก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ไปแล้ว“จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าเราสองคนจะมานั่งคุยอะไรกันที่นี่ในวันนี้ ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ตอนนี้เรายังเด็กกันอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการอะไร บางทีตอนนี้เธออาจจะแค่รู้สึกผิดกับฉัน ถึงได้คิดแบบนี้ แต่พอถึงวันที่เธอเติบโตขึ้นจริง ๆ เธอจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม?”ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเยวี่ยกับเขา ฉันไม่มีวันลืม ดังนั้นฉันรู้ดีว่า ตอนนี้เขายังไม่โตพอ แม้ว่าเขาจะดูเก่งกว่าคนทั่วไปมาก แต่ความคิด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status