หลินเฟิงไม่มีอะไรจะพูดกับคนแบบนี้เขาออกแรง บีบคอของเขาจนแตกเป็นเศษดัง “แกร่ก”บอดี้การ์ดคนนี้ล้มลงบนกองเลือด ดวงตาสองข้างเบิกตากว้าง นอนตายตาไม่หลับจนตายเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองทำไมถึงได้ตายไปอย่างง่ายดายแบบนี้หรือว่ามีคนที่ใจกล้าแตะต้องตระกูลซือหม่าจริงๆ?“ฟู่ว...”บีบบอดี้การ์ดคนนี้จนตาย หลินเฟิงเดินไปที่ด้านหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ช้าๆ เขาสูดหายใจ จากนั้นคำรามเสียงต่ำ ถีบไปที่ประตูใหญ่ของตระกูลซือหม่าจนเปิดออกหลังจากประตูโลหะสองบานล้มลงบนพื้นเสียงดังสนั่น ยังมีรั้วที่เชื่อมต่อประตูโลหะ ก็ล้มลงกว่าครึ่งในทันที“ใคร? เกิดอะไรขึ้น?”“เกิดเรื่องอะไร? แผ่นดินไหวงั้นเหรอ?”หลังจากที่หลินเฟิงเดินออกมาจากควันฝุ่นของประตูใหญ่ที่ล้มลง บอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าทั้งหมดต่างนิ่งอึ้งไปพวกเขาพากันรวมตัวไปที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ทันใดนั้นเห็นผู้ชายวัยรุ่นสีหน้านิ่งเฉยคนหนึ่งมองตามทางที่คนผู้นี้เข้ามา พวกเขาก็เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูที่จมอยู่ในกองเลือดในจุดที่ไกลออกไป แต่ละคนก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่เป็นเวลานาน“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?”“หรือว่า...มีคนมาหาเรื่องที่ตระกูลซือหม่า?”“ไม่ใ
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เขาจริงจัง!มองดูสีหน้าสงบนิ่งของหลินเฟิง กลุ่มบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าพากันเผยสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมากออกมาเพียงแค่กระบวนท่าเดียว ก็ทำให้หัวหน้าบอดี้การ์ดที่ฝึกวิทยายุทธจนมีกำลังภายในถูกฆ่าตายภายในวินาทีเดียว ความสามารถของไอ้หมอนี่เพียงพอที่จะเทียบเท่ากับพวกบริวารที่อยู่ภายในตระกูลได้เลย!นี่ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาบอดี้การ์ดกลุ่มนี้จะสามารถต่อต้านได้!“เร็ว...รีบไปเชิญท่านบริวารมา!”บอดี้การ์ดคนหนึ่งหันหลังวิ่งหนีไป ส่วนหลินเฟิงก็มองดูบอดี้การ์ดคนนี้วิ่งหนีไปทั้งแบบนี้ เขาไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่ประโยคเดียว“ไอ้หนุ่ม นายอย่ากำเริบเสิบสาน กล้ามาสร้างเรื่องที่ตระกูลซือหม่า วันนี้นายตายแน่!”มองดูศพของหัวหน้าที่ล้มอยู่บนพื้น บอดี้การ์ดคนหนึ่งอดใจไม่ไหว เอ่ยปากตะโกนใส่หลินเฟิงด้วยความโมโหทันที“หือ?”หลินเฟิงหันหน้ามากะทันหัน ส่งสายตามองไปทางเขาจากนั้น บอดี้การ์ดคนนั้นดวงตาพร่ามัว สบตากับดวงตาที่นิ่งเฉยไร้ความรู้สึกของหลินเฟิงทันที“นายพูดว่า...ฉันตายแน่งั้นเหรอ?”หลินเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ถึงครึ่งเมตร ถามขึ้นด้วยความนิ่งเฉย“นาย...นาย...”บอดี
“ผ่านไปห้านาทีแล้ว ในเมื่อพวกนายไม่ได้พาตัวซือหม่าเหวินมา งั้นก็พาฉันไปพบเขา”หลินเฟิงใบหน้านิ่งเฉยมองดูบอดี้การ์ดที่ตัวสั่นเทาตรงหน้าคนนี้ เขาก็แค่เห็นบอดี้การ์ดที่ขี้กลัวมากที่สุดอย่างเห็นได้ชัดคนนี้ท่ามกลางกลุ่มคนโดยทั่วไปแล้วคนที่ขี้กลัว ก็แสดงว่ากลัวตาย ควบคุมได้ง่ายถ้าหากเจอกับคนที่หัวแข็งดื้อรั้น กลับจะทำให้เขาเสียเวลา“อ๊ะ? คุณชายซือหม่าเหวิน?”บอดี้การ์ดคนนี้ถูกหลินเฟิงทำให้ตกใจจนกลัว เขาลังเลอยู่นาน และมองไปทางบอดี้การ์ดคนอื่นๆ อย่างอดไม่ได้และบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็หวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขากลัวว่าหลินเฟิงจะฆ่าบอดี้การ์ดคนนั้น และเล็งเป้ามาที่ตัวของพวกเขาต่างก็ได้เงินเดือนที่แน่นอน จะสู้ชีวิตไปทำไมกัน!หลินเฟิงบรรยายบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าแค่สองคำอ่อนแอแน่นอนว่า นี่จะโทษบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าไม่ได้ ในเมื่อพวกเขาไม่ใช่ตระกูลบู๊โดยเฉพาะ จึงไม่สามารถเทียบกับตระกูลหลงได้จุดที่พวกเขายิ่งใหญ่ก็มีเพียงแค่บริวารที่อยู่ภายในตระกูลก็เท่านั้นบอดี้การ์ดเหล่านี้ แทนที่จะพูดว่าเป็นบอดี้การ์ด ไม่สู้พูดว่าเป็นรปภ. จะดีกว่าเหตุผลที่พวกเขาสามารถรับรอบงานนี้ได้ไม่
ประมาณสิบนาที หลินเฟิงนั่งอยู่บนรถชมวิว ก็เห็นคฤหาสน์หรูหราที่ใหญ่โตหลังหนึ่งตรงหน้าคฤหาสน์มีรถหรูจอดอยู่หกเจ็ดคัน ต่างเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่เมื่ออยู่ข้างนอกก็จะสร้างความดึงดูดได้ดูแล้วนี่ก็คือของสะสมของซือหม่าเหวินสินะหลินเฟิงลงจากรถชมวิว เขาก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจให้บอดี้การ์ดที่ขี้กลัวคนนี้ ในเมื่อใครก่อหนี้เอาไว้ ก็ให้คนนั้นมารับผิดชอบ ก่อนหน้านี้ที่หลินเฟิงฆ่าคนเป็นเพราะโมโหและแสดงอำนาจตอนนี้เขามาถึงที่พักของซือหม่าเหวินแล้ว ไม่จำเป็นต้องฆ่าแกงจนใหญ่โตอีกแล้วหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการสังหารอะไรสำหรับคนที่รู้จักเอาตัวรอด เขาเป็นคนที่ใจกว้างมาโดยตลอด“ไปเถอะ”หลินเฟิงโบกมือ ให้บอดี้การ์ดคนนั้นจากไปซะส่วนบอดี้การ์ดคนนี้ที่เดิมทีคิดว่าวันนี้ตัวเองต้องตายแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงกลับไม่ได้ฆ่าเขา นี่จึงทำให้เขาดีใจอย่างบ้าคลั่งไม่มีเรื่องอะไรที่น่าดีใจยิ่งกว่าการที่รักษาชีวิตเอาไว้ได้แล้วเขาถึงขั้นที่ขอบคุณหลินเฟิงคนนอกคนนี้ที่บุกเข้ามาในตระกูลซือหม่า ภาพนี้ทำให้หลินเฟิงส่ายหน้าไม่หยุดบอดี้การ์ดของต้นตระกูลซือหม่าท่าทางน่าเป็นกังวลมากจริงๆแน่นอนว่า นี่จะโทษ
“นายปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นั่นก็หมายความว่า...”“เพียะ!”หลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาตบหน้าของซือหม่าเหวินจนเสียงดังก้องทันที ฝ่ามือตบจนซือหม่าเหวินงุนงง“ฉันกำลังถามนาย นายตอบฉันมาดีๆ!”หลินเฟิงจับคอเสื้อของซือหม่าเหวินเอาไว้ ในดวงตาเต็มไปด้วยแรงสังหาร“แก...แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ?”“แกแม่งกล้าตบฉัน? อยู่ที่ถิ่นฐานของตระกูลซือหม่า?”ซือหม่าเหวินยังไม่ทันได้ตั้งตัวเล็กน้อยเขาลูบใบหน้าของตัวเอง สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดบนหนังหน้า ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวเข้าด้วยกัน จากนั้นความโมโหและความอัปยศที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองหลินเฟิงตาเป็นมัน“หลินเฟิง แกแม่งบ้าไปแล้วเหรอวะ? แกรู้ไหมว่าตอนนี้แกกำลังทำอะไรอยู่?!”“ฉันพูดแล้วว่า ตอบคำถามของฉัน!”“เพียะ!”หลินเฟิงตวาดเสียงต่ำ โบกมือขึ้น และตบหน้าเสียงดังก้องอีกครั้ง ตบจนซือหม่าเหวินจนตาลาย และมีเลือดออกตรงริมฝีปากซือหม่าเหวินใช้เวลาหลายนาทีถึงตั้งสติกลับมาได้“หลินเฟิง...แก...”“เพียะ!”“ตอบคำถามของฉัน!”เมื่อเผชิญหน้ากับสีหน้าโมโหของหลินเฟิง ในใจของซือหม่าเหวินกลับเกิดความหวาดกลัวขึ้
เผชิญหน้ากับเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งของซือหม่าเหวินสีหน้าของหลินเฟิงไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนักด้วยซ้ำ แต่กลับมองซือหม่าเหวินด้วยความเย็นชา หลังจากที่เขาหัวเราะเสร็จ หลินเฟิงถึงได้เอ่ยปากขึ้นอย่างสงบนิ่ง:“ดังนั้น...ซือหม่าเหวิน นายหัวเราะเสร็จแล้วยัง?”“อ๊ะ?”เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ซือหม่าเหวินงุนงงก็เล็กน้อยเขาถามกลับด้วยความตะลึงงัน:“หลินเฟิง...หรือว่าแกไม่กลัวเหรอ? คิดดูสิ ฉันรู้ถึงความจริงของแก แกอยู่เมืองเจียงโจว ครอบครัวของแก แก...อ่อก!”หลินเฟิงต่อยไปที่คางของซือหม่าเหวินจนแตกละเอียด ทำให้ฟันของเขาเละเทะไปพร้อมกับขากรรไกรล่างจนกลายเป็นก้อนโคลนเมื่อต่อยลงไปแบบนี้ แม้แต่กรีดร้องซือหม่าเหวินก็ร้องไม่ออก ทำได้เพียงกุมส่วนล่างของใบหน้าของตัวเองเอาไว้ และล้มลงบนพื้นชักดิ้นชักงออย่างบ้าคลั่ง“อาจจะใช่นะ”หลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉยมองซือหม่าเหวินที่ชักกระตุกอยู่บนพื้น และพูดอย่างสงบนิ่ง:“บางทีครอบครัวของฉันอาจจะเจอกับเรื่องที่นายพูด แต่ก่อนหน้านั้น ฉันหลินเฟิงก็จะแบกรับกับความทุกข์ยากทุกอย่างเอาไว้”“ถ้าหากตระกูลซือหม่าของนายจะลงมือ ฉันก็ไม่รังเกียจ
บริวารโจวพูดตอบโต้ด้วยความแน่วแน่“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็อยากรู้เหมือนหัน”ชายชราชุดขาวที่ถูกซือหม่าเหวินเรียกว่าปู่รองพยักหน้า จากนั้นเขาลดความโมโหของตัวเองเล็กน้อยสายตาเย็นชามองไปทางหลินเฟิงแล้วพูดว่า:“ไม่ทราบว่าคุณหลินคนนี้ มีความแค้นอะไรกับตระกูลซือหม่าของฉันกันแน่?”“ต่อให้เปิดศึก พวกเราก็ต้องทำต้นสายปลายเหตุของเรื่องให้ชัดเจน”“ถูกต้อง”บริวารโจวที่อยู่ข้างๆ พยักหน้า“หึ ดูท่าตระกูลซือหม่าของคุณในที่สุดก็มีคนพูดภาษาคนรู้เรื่องแล้ว”หลินเฟิงยกฝ่าเท้าออกเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางบริวารโจวด้วยความเคร่งขรึมและพูดว่า:“บริวารโจว คุณยังจำเรื่องที่นัดกันตอนที่ผมตรวจร่างกายให้คุณก่อนหน้านี้ ว่าผมจะนำยาที่รักษาบาดแผลเก่าของคุณมาให้คุณได้ไหม?”“มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?”ปู่รองของซือหม่าเหวิน ก็คือผู้นำอันดับสองของทั้งตระกูลซือหม่าเหวิน ซือหม่าเหยียนมองไปทางบริวารโจว“ถูกต้อง มีเรื่องแบบนี้จริงๆ ครับ”บริวารโจวขมวดคิ้ว มองไปทางซือหม่าเหยียน และพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง“ผมเป็นเพราะมีธุระปลีกตัวออกมาไม่ได้ จึงส่งผู้อาวุโสของผมมาส่งยาให้บริวารโจว แต่คิดไม่ถึงว่า ที่
“โจวก้งเฟิ่ง คุณ!”ซือหม่าเหวินโกรธอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้“เหวินเอ่อร์”ในตอนนี้เอง ซือหม่าเหยียนชุดขาวก็พูดอย่างใจเย็นว่า “โจวก้งเฟิ่งพูดถูก สาเหตุการเสียชีวิตคุณปู่สามของนายนั้นมีเลศนัย นายยังไม่หลุดพ้นจากความเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง”“ตอนนี้นายก็กำลังสร้างปัญหาให้กับตระกูลซือหม่าของเราอีกด้วย เรื่องที่นายทำในวันนี้มันผิด” “นายรีบลุกขึ้น แล้วขอโทษคุณหลินซะ”“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินคำพูดคุณปู่รองของตัวเอง ซือหม่าเหวินลูกตาแถบถลนออกมา“ปู่รอง ผมไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม?”ซือหม่าเหวินเงยหน้าขึ้นกรีดร้องและพูดออกมา:“นี่... หลินเฟิงคนนี้บุกเข้ามาในตระกูลซือหม่าของเรา ฆ่าบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าของเรา และยังทำให้ผมบาดเจ็บสาหัส แล้วยังจะช่างมันอีกเหรอ?!”“ตระกูลซือหม่าของเราอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร? ถูกคนข่มเหงถึงบนหัวแล้ว ก็ยังไม่กล้าพูดงั้นเหรอ?”“หุบปาก!”โจงก้งเฟิ่งก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยอย่างเย็นชาว่า“ซือหม่าเหวินผมขอพูดตรง ๆเลยนะ คุณสร้างปัญหาให้กับตระกูลซือหม่าพวกเราน้อยซะที่ไหน?”“แม้แต่สาเหตุการตายของปู่สามของคุณ พวกเรายังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนเลย ข้อสงสัยในตัวคุณก็
“ส่วนคุณ หนูที่ได้เปรียบ คิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง แต่หนูก็คือหนู คุณไม่เหมาะสมที่จะยืนบนเวทีและได้รับความเคารพ”“แม่งเอ้ย!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหลีก็โกรธจนตัวสั่นไปหมดเขาจับหยินหลิงกดลงกับพื้น คลายเข็มขัดของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง และคำรามว่า :“วันนี้ฉันจะทำให้คุณตายอยู่ข้างถนน แล้วมาดูกันว่าคุณจะกล้าดูถูกฉันอีกไหม!”“หึหึหึ....”หยินหลิงที่ถูกจับกุมอยู่ กลับหัวเราะเยาะขึ้นมาแทน"คุณคิดว่านี่จะทำให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ?"“สิ่งนี้แค่เน้นย้ำถึงความไร้ความสามารถและความเลวทรามของคุณเท่านั้น รอให้กลุ่มพันธมิตรบู๊ตอบกงลับมา ก็จะหาพวกคุณเจอเอง”“เมื่อถึงเวลา คุณก็จะถูกสำนักร้อยพิษโยนออกไปเป็นอาหารปืนใหญ่ ช่างต่ำช้าและน่าสมเพชจริงๆ...”“แม่งเอ้ย!”เฟิงหลีไม่สามารถคลายเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวได้ และเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของหยินหลิง เขาก็ยิ่งโกรธและกระสับกระส่ายมากขึ้น จนถึงกับตะโกนเรียกคนขับรถที่อยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาช่วยจับหยินหลิงไว้"แต่ว่าคุณท่านสาม..."คนขับยังคงต้องการให้คำแนะนำสุดท้ายอีกแต่เฟิงหลีในเวลานี้ไม่ฟังใครอีกต่อไปแล้วดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้คนขับกลืนคำพูดที่กำ
แน่นอนสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คื ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวหยินหลิง ความลับที่หลอกล่อยอดฝีมือของประเทศมังกรทุกคนหากเธอตกอยู่ในมือของสำนักร้อยพิษแล้วสุดท้าย สำนักร้อยพิษก็จะได้เปรียบไปนี่เป็นสิ่งที่หยินหลิงไม่อยากเห็นแม้ว่าเธอจะตายก็ตาม“หึหึ ท่านหัวหน้า ฉันแนะนำว่า คุณอย่าคิดอะไรเลวร้ายเลยจะดีที่สุด ตอนนี้ในร่างกายจของคุณ ฉันได้วางยาตะขาบเลือดไว้แล้ว เพียงแค่ฉันไม่พอใจ”“ท่านหัวหน้าก็ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว”เฟิงหลีข่มขู่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปยกคางของหยินหลิงขึ้นพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า :“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านหัวหน้า ท่านหัวหน้านั้นงดงามจริงๆ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง”เมื่อได้ยินคำล้อเล่นพวกนี้ หยินหลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่มองไปทางเฟิงหลีด้วยความดูถูก ร่างกายก็หลีกเลี่ยงฝ่ามือของเฟิงหลีไปโดยไม่รู้ตัว“หืม?”ใบหน้าของเฟิงหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าหยินหลิงยังคงไม่เชื่อฟังตัวเองหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่ปกติจะเข้าถึงได้ยากนั้น ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้วความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแต่เขาไม่คาดคิดว่า
“ผม...”หลินเฝิงโกรธอย่างมากจนอยากจะฆ่าเฝิงชางซะเดี๋ยวนี้แต่ไม่นานหลินเฝิงก็สงบสติอารมณ์ลงเขาดีดนิ้ว ก่อนที่พลังชี่แท้โปร่งใสจะถูกปล่อยเข้าสู่ร่างของเฝิงอวี้อู่หลินเฝิงก้าวออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า:“หากผมไม่ได้กลับมาก่อน คุณชายตระกูลเฝิงของพวกคุณก็อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”“หากเกิดอะไรขึ้นกับหยินหลิงที่นี่ ฉันจะให้ทุกคนในตระกูลเฝิงถูกฝังไปพร้อมกับเธอ! ได้ยินหรือเปล่า?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงชางก็ตัวสั่นอย่างมากหากเขาเคยดูถูกหลินเฝิงมาก่อน ตอนนี้เขาคงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากหลินเฝิงลองคิดดูสิชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ แน่นอนว่าเบื้องหลังเขาเบื้องหลังของเขาไม่ได้มีแค่หลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นกองกำลังเล็ก ๆต้องมีอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในประเทศมังกรอำนาจแบบนี้ไม่ควรไปยั่วยุให้มากนักเมื่อมองไปที่ร่างหลินเฝิงที่เดินจากไป เฝิงชางก็คิดได้หลายอย่างในใจทันทีเนื่องจากเป็นผู้นำตระกูลเฝิง เขาจึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยในขณะนี้หากตอนแรกมันเป็นเพียงชีวิตของลูกชายเขาต่อมาเขาได้ไปยั่วยุสำนักร้อยพิษและเชิ
“เข็มเจ็ดสิบสองเล่มขจัดความชั่วร้าย!”หลินเฟิงก้มหน้าตวาดเสียงทุ้มต่ำ ดึงเข็มเงินที่ฝังอยู่บนตัวของเฝิงอวี้อู่ออก และตกลงบนพื้นเสียงดังติ๊งเข็มเงินเพิ่งจะออกจากตัวของเฝิงอวี้อู่ เฝิงอวี้อู่ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญเสียงสูงจึงทำให้เฝิงชางที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างร้อนใจจนใบหน้ามีเหงื่อออกแต่เขาไม่เพียงไม่กล้ารบกวนหลินเฟิง ทำได้แค่มองตาปริบๆคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ไม่ได้สนใจเฝิงอวี้อู่อีกแล้ว แต่หันหน้ามองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวที่หมดสติอยู่เฝิงอวี้อู่พิษเข้าไขกระดูก หลินเฟิงต้องใช้กลอุบายจัดการเล็กน้อยแต่ทว่าทางด้านหมอเทวดาเลี่ยวง่ายกว่าเยอะเลยหลินเฟิงยกมือขึ้นโดยตรง ปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์เข้าไปที่หน้าผากของเขา และนำยาเม็ดสีเหลืองใส่เข้าปากของหมอเทวดาเลี่ยว“ไปเถอะ หามหมอเทวดาเลี่ยวไปพักในที่เย็นสบาย อีกเดี๋ยวเขาก็ได้สติแล้ว”คำพูดนี้ของหลินเฟิงพูดให้เฝิงเอ้อฟังเฝิงเอ้อชี้ตัวเอง และมีสีหน้างุนงง“ไปสิ! ฟังหมอเทวดาหลิน!”เฝิงชางตวาดน้องชายคนรองของตัวเองเสียงดัง แต่ทว่าเฝิงเอ้อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปสัมผัสหลินเฟิงมองออกถึงความเป็นกังวลของเขา เก
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่