“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็รอดูได้เลย”หญิงสาวก็หัวเราะเยาะ และปะทะกับหลินเฟิงและจ้าวเทียนหวาอย่างดุเดือดด้วยเหตุนี้ จ้าวเทียนหวายังอยากจะพูดอะไร แต่ถูกหลินเฟิงขวางเอาไว้ก่อน“ไม่จำเป็นต้องหาเรื่องใส่ตัว เป้าหมายของพวกเราก็คืองานประมูล”“ปล่อยให้นังหนูนี่ได้เปรียบซะแล้ว”จ้าวเทียนหวาหัวเราะเยาะถึงแม้ธุรกิจหลักของเขาจะอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าอำนาจภายในประเทศมังกรจะแย่ ไม่อย่างนั้นเขาจะตรวจสอบธาตุแท้ของตระกูลเย่ได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?หลังจากที่ของประมูลแต่ละชิ้นในงานประมูลถูกประมูลออกไป สมบัติล้ำค่าที่สำคัญจริง ๆ ก็เริ่มถูกยกขึ้นมาไม่นานนัก รากต้นไม้สีเหลือง ขนาดเท่ากำปั้นถูกวางไว้บนผ้าสีแดง และปรากฏในดวงตาของหลินเฟิง“ดูสิครับ! คุณชายหลิน นั่นก็คือรากต้นโพธิ์สินะครับ?!”จ้าวเทียนหวามีน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ทว่าเขากลับไม่เห็นว่าหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“แขกเหรื่อที่อยู่ในงานทุกท่าน นี่ก็คือสินค้าประมูลในลำดับต่อไป สมบัติล้ำค่าหนึ่งในของสะสมที่สำคัญที่สุดของพ่อฉัน และมักจะนำออกมาชื่นชมคิดไม่ถึงว่าพิธีกรก็คือลูกสาวของผู้นำตระกูลเย่เธอพูดแนะนำต่อทุกคนอย่างเ
วันนี้ หลินเฟิงถือว่าได้เปิดหูเปิดตาอีกครั้ง“หนึ่งพันห้าร้อยบาท ฉันเสนอหนึ่งพันห้าร้อยบาท”ผู้ชายที่สวมชุดลำลองยกป้ายขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากเสียงที่เอื่อยเฉื่อยของผู้ชายคนนี้ดังขึ้น ทั่วทั้งงานก็เงียบกริบ“รากต้นโพธิ์เป็นของสำนักร้อยพิษ ถ้าหากใครกล้าแย่งกับสำนักร้อยพิษของฉัน งั้นก็แสดงว่าอยากมีปัญหากับสำนักร้อยพิษ”ชายวัยรุ่นเกาหน้าอกของตัวเองด้วยความเอื่อยเฉื่อย จากนั้นยิ้มตาหยีพูดว่า: “คนที่เป็นศัตรูกับสำนักร้อยพิษของฉัน พวกคุณก็น่าจะรู้จุดจบใช่ไหม?”หลังจากที่ผู้ชายคนนี้กวาดตามองรอบ ๆ คนที่สบตากับเขา ก็หนังหน้ากระตุก และถอยออกจากการแข่งขันอย่างรู้ตัวผิดใจกับสำนักร้อยพิษเมืองหนานไห่เรื่องแบบนี้ใครก็ไม่อยากทำเพราะว่าสำนักร้อยพิษทำอะไรก็มักจะเหี้ยมโหด และกำเริบเสิบสานไม่แน่คุณบาดหมางกับสำนักร้อยพิษเมื่อไหร่ ก็จะถูกพวกเขาจดจำความแค้นเอาไว้คนในสำนักของพวกเขาแอบมีคนวางจากคุณ วิธีการวางยามีความแปลกประหลาดหลากหลายวิธี สังเกตเห็นได้ยากสภาพหลังจากถูกยาพิษก็ทำให้คนกลัวจนตัวสั่นมีบางคนกลายเป็นหนองในทันที และก็มีบางคนร้องโอดครวญอยู่หลายคืนถึงจะเสียชีวิตเ
หลงเซียวใบหน้าเต็มไปด้วยความลำพองใจแข่งผู้อยู่เบื้องหลัง?ตั้งแต่เล็กจนโต เธอหลงเซียวไม่เคยกลัวมาก่อน!หนุ่มเอื่อยเฉื่อยก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดจา เขารู้ดีว่าหลงเซียวเป็นคนที่รับมือได้ยากมาก มีเรื่องกับเธอ ก็เท่ากับว่ามีเรื่องกับน้องชายของเธอนั่นก็คือจอมมารของสำนักหลงผาน“เอ๊ะ ใจเสาะจริง ๆ น่าเบื่อหลงเซียวถอนหายใจด้วยความเสียดาย และนั่งกลับไปบนที่นั่งของตัวเองสายตาของเธอกวาดตามองหลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างเหมือนไม่ได้ใส่ใจเดิมคิดว่าหลังจากหลินเฟิงได้ยินชื่อของเธอแล้วจะตกใจ หรือถึงขั้นที่คุกเข่าลงทันทีแต่คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้มีท่าทีตกใจด้วยซ้ำถึงขั้นที่ไม่ได้มองเธอสักนิดด้วยซ้ำนั่งอยู่ตรงที่นั่งของตัวเองอย่างนิ่งเฉยแบบนั้น มองข้ามการแสดงเมื่อครู่ของเธอไปโดยสิ้นเชิง“ไม่ เขาไม่ใช่ว่าไม่ได้ถูกทำให้ตกใจ เพียงแค่แสร้งทำเป็นนิ่งเฉยเท่านั้น เพียงเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองเอาไว้เท่านั้น”หลงเซียวเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในใจเต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่มีต่อหลินเฟิง“คุณหลงเซียวเสนอราคาสองพันล้านห้าร้อยล้านบาท?”ลูกสาวตระกูลเย่ที่อยู่บนเวทีสีหน้าแย่มา
มีคนอยู่เบื้องหลัง จ้าวเทียนหวาจึงไม่กลัวอยู่แล้วเบื้องหลังของหลงเซียวใหญ่โตจนน่ากลัวจริง ๆถ้าหากเป็นในวันปกติ จ้าวเทียนหวาคงไม่กล้าล่วงเกินอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันคุณชายที่อยู่ข้างกายเขาเป็นถึงลูกชายเพียงคนเดียวของราชาหลินแห่งตอนใต้มีเขาอยู่ที่นี่ ตระกูลหลงนับประสาอะไรกัน?“ดีมาก”หลงเซียวเหมือนกำลังข่มความโมโหในใจของตัวเอง เธอยิ้มอย่างเย็นชา และชูป้ายขึ้นอีกครั้ง“ในเมื่อพวกคุณอยากเล่น งั้นฉันก็จะเล่นเป็นเพื่อนพวกคุณอย่างดี!”“เพิ่มราคา หนึ่งหมื่นล้านบาท!”“อะไรนะ หนึ่งหมื่นล้านบาท!”ได้ยินตัวเลขที่หลงเซียวตะโกนออกมา ทั่วทั้งงานก็ดังเกรียวกราวขึ้นมาอีกครั้งตะโกนเลขจำนวนมหาศาลแบบนี้ออกมาได้สบาย พูดได้แค่ว่าไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลหลง รากฐานหนาแน่นจริง ๆ“หนึ่งหมื่นล้านบาท คุณหลงเซียวเสนอราคาหนึ่งหมื่นล้านบาท!”ลูกสาวตระกูลเย่ที่อยู่บนเวทีดีใจเป็นพิเศษ สายตาของเธอกวาดตามองหลินเฟิง ในใจกลับเรียกร้องไม่หยุด“เร็วเร็วเร็ว รีบเรียกราคา อย่าแพ้ให้หลงเซียวนะ!”“หึ หนึ่งหมื่นห้าร้อยล้านบาท”จ้าวเทียนหวายกป้ายขึ้นอีกครั้ง“หนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยล้านบาท!”หลงเซี
“คุณหลงเซียวเสนอราคาหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท ยังมีคนที่เสนอราคาสูงกว่านี้ไหม?”พิธีกรหญิงตระกูลเย่กวาดสายตามองไปรอบ ๆส่วนจ้าวเทียนหวากลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ชิงราคากับหลงเซียวอีก และนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่เอ่ยใด ๆสีหน้าแบบนี้ทำให้หลงเซียวเข้าใจผิดเธอยังคิดว่าจ้าวเทียนหวามีปัญหาด้านการเงิน ไม่มีแรงจะไล่ตามเธออีกแล้ว ทันใดนั้นบนใบหน้าก็เผยความเย้ยหยันออกมา“ทำไมถึงไม่พูดแล้วล่ะ? เสนอราคาต่อสิ? ฉันก็อยากจะดูว่าพวกคุณมีเงินเท่าไหร่ ถึงได้กล้าเทียบกับตระกูลหลงแห่งเมืองจิง”หลงเซียวยิ้มด้วยความลำพองใจถึงที่สุด“ในเมื่อคุณหลงเซียวชอบ งั้นสมบัติชิ้นนี้ผมก็ยกให้คุณแล้วกัน”หลินเฟิงพูดขึ้นอยู่ข้าง ๆ นิ่งเฉยราคาหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทซื้อเพียงแค่รากต้นโพธิ์ที่อายุไม่เพียงพอ พูดได้แค่ว่าหลงเซียวไม่มีประสบการณ์กับแผนการอะไร“ยกให้ฉัน?”หลงเซียวกลับไม่ยอมปล่อยผ่านไป และกอดอกพูดว่า: “คนบางคนไม่มีปัญญาซื้อก็พูดมาตรง ๆ ว่าไม่มีปัญญาซื้อ ยังจะพูดให้น่าฟังว่าจะยกให้ฉัน ฉันต้องให้พวกคุณยกให้ด้วยงั้นเหรอ?”“พวกคุณหน้าหนามากจริง ๆ เลยนะ”“หึ...”หลินเฟิงหัวเราะเบา ๆ และก็ไม่ได้เลือกที่จะถก
แต่จ้าวเทียนหวาก็คิดอีกว่าในเมื่อเป็นของที่หลินเฟิงให้ความสำคัญ ก้อนหินขนาดใหญ่แบบนั้นไม่แน่ว่าจะมีของล้ำค่าอะไร“คุณชายหลิน หินก้อนนี้...”เพื่อเป็นการป้องกัน จ้าวเทียนหวาแอบถามลองเชิงเล็กน้อยจากที่เขารู้ภายในบ้านที่อ่าวเทียนสุ่ยของหลินเฟิงก็มีขาวหินรูแบบนี้อยู่หลายก้อน ถึงแม้อายุไม่ได้ยาวนานเหมือนหินก้อนนี้ แต่เห็นหินก้อนนี้ก็ไม่ถึงกับต้องทำให้หลินเฟิงดีใจขนาดนี้“จะต้องคว้าเอาไว้ให้ได้!”คำตอบของหลินเฟิงง่ายมาก และก็เด็ดขาดมากภาพนี้ หลงเซียวที่อยู่ข้าง ๆ กำลังมองดูอยู่“ได้ครับ!”เห็นท่าทางมั่นใจของหลินเฟิง จ้าวเทียนหวาจึงไม่มีเหตุผลที่จะขัดคำสั่ง เพียงแค่หลินเฟิงบอกว่าต้องการ งั้นเขาจ้าวเทียนหวาต่อให้ต้องทุ่มหมดหน้าตักก็ต้องคว้าเอาหินก้อนนี้มาให้ได้!“หินขาวรูก้อนนี้ถูกค้นพบโดยเพื่อนของคุณพ่อในระหว่างการสำรวจถ้ำ พบเจอได้ยากมาก หินขาวรูอายุพันปี แท้จริงแล้วห่อหุ้มอะไรเอาไว้ พวกเราก็ไม่เคยตรวจสอบมาก่อน”พิธีกรสาวตระกูลเย่ยิ้มพูด: “ราคาประมูลเริ่มต้นที่ห้าสิบล้านบาท ทุกครั้งที่เพิ่มราคาอย่างน้อยห้าล้านบาท”“ตอนนี้ ทุกท่านเริ่มเรียกราคาได้ค่ะ”พิธีกรสาวยิ่งแนะนำอย่างง
“เสนอราคาต่อไป”หลินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และสั่งจ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้าง ๆ“ได้ครับ”จ้าวเทียนหวาก็ไม่ได้พูดมาก ชูป้ายขึ้นทันที“สองพันล้าน!”“สองพันห้าร้อยล้านบาท”รอยยิ้มของหลงเซียวเผยความลำพองใจออกมา เธอนั่งไขว่ห้าง สองมือกอดอก เหมือนกำลังมองดูเรื่องตลกของหลินเฟิงกับจ้าวเทียนหวา“สามพันล้านบาท!”จ้าวเทียนหวาเพิ่มราคาต่อด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ห้าพันล้านบาท!”หลงเซียวหาวออกมา“หึ”หลินเฟิงลุกขึ้นยืนในตอนนี้ เขาเหลือบมองหลงเซียวที่อยู่ข้าง ๆ และพูดอย่างเรียบเฉย: “ดูท่าคุณหนูหลงเซียวจงใจแย่งหินก้อนนี้กับผมอยู่?”“เปล่านะคะ”หลงเซียวยิ้มเยาะแล้วพูดว่า: “การประมูลในงานประมูล มีการประมูลก็มีการขาย ไม่ทราบว่าในงานประมูล...กฎข้อไหนที่บอกว่าสิ่งของที่พวกเขาประมูล ฉันไม่สามารถเพิ่มราคาได้?”หลงเซียวคืนคำพูดที่หลินเฟิงพูดกับเธอก่อนหน้านี้กลับไป“......”สีหน้าของหลินเฟิงเย็นชา และส่งเสียงไม่พอใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นตะโกนไปทางพิธีกร: “หนึ่งหมื่นล้านบาท!”จากนั้น เขาก็มองไปทางหลงเซียวแล้วพูดเรียบ ๆ ว่า: “วันนี้หินก้อนนี้ผมต้องเอามาให้ได้ แน่จริงคุณก็เพิ่มราคาต่อสิครับ”
หลงเซียวพูดออกมาแบบนี้ ทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่โดยรอบปิดปากลงทันทีในเมื่อเป็นถึงคุณหนูตระกูลหลง ไม่มีใครกล้าบาดหมาง“หึ นายจำเอาไว้เลยนะ!”หลงเซียวจ้องมองไปทางหลินเฟิงอย่างดุดันแต่ทว่าใบหน้าที่นิ่งเฉยของหลินเฟิง กลับทำให้เธอโมโหแต่ระบายอารมณ์ออกมาไม่ได้ไม่นานนัก สินค้าประมูลลำดับต่อไปถูกคนของตระกูลเย่ยกขึ้นมาเป็นหินหยกสีเขียวมรกตเม็ดหนึ่ง“ลูกปัดเม็ดนี้คุณพ่อของฉันรับซื้อมาจากเมืองหนานไห่ ผ่านมือมาหลายครั้งถึงได้รู้ว่านี่คือหินหยกจวี้คังที่มหัศจรรย์ สวมใส่ไว้บนตัวจะมีผลในการยืดอายุขัย”ในตอนที่พูดคำเหล่านี้ออกมา ลูกสาวตระกูลเย่ที่อยู่บนเวทีใบหน้ามีความขมขื่นเล็กน้อยดูท่าคงจะคิดถึงพ่อของเธอที่เสียชีวิตไป ไม่เกี่ยวข้องกับการยืดอายุขัยอะไรจากนั้นเธอก็ส่ายหน้า สงบอารมณ์ของตัวเองและพูดว่า: “เอาล่ะ หินหยกจวี้คังชิ้นนี้ราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งร้อยล้านบาท เพิ่มราคาครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท”“ทุกท่าน เชิญเสนอราคาค่ะ!”ลูกสาวตระกูลเย่ที่อยู่บนเวทีเพิ่งจะพูดจบ หลงเซียวก็ยิ้มเยาะออกมา:“ที่แท้ก็คือหินหยกจวี้คังเม็ดนั้นนี่เอง หึ ถึงแม้จะหายาก แต่กลับมีอยู่จำนวนไม่น้อย