เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่พูดตรงไปตรงมาของไป๋เจิ้นหัว เถาเซิงก็ตกตะลึง ในใจก็เกิดความโมโหพรั่งพรูออกมา“คุณลุงคำพูดนี้ร้ายแรงนัก ไม่สู้คุณลุงบอกมาว่า คุณชายของตระกูลไหนกัน เป็นคุณชายตระกูลไหนที่สามารถทำให้ผมเถาเซิงไม่คู่ควร?”เมื่อเห็นเถาเซิงไม่ยอมแพ้ และสีหน้าที่แสดงถึงความกลัดกลุ้มของลูกสาวตัวเอง ไป๋เจิ้นหัวก็ใช้เวลาอยู่ชั่วครู่ แล้วรู้สึกว่าตอนนี้น่าจะสมควรแล้วคิดตามเวลานี้แล้ว หลินเฟิงก็น่าจะจบเห่ไปแล้วดังนั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณชายเถาเซิง งั้นฉันก็จะทำให้คุณได้ตายใจไปซะ”“แฮ่มแฮ่ม”ไป๋เจิ้นกระแอมในลำคอ ก่อนจะชี้ไปที่ไป๋ชิงเฉี่ยนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลูกสาวของฉันจะแต่งงานกับนายน้อยโอวหยาง ลูกชายของเจ้าสำนักเสินฉือ ”“คุณชายตระกูลเถา ทางที่ดีคุณควรจะพิจารณาตัวเองสักหน่อย ดูว่าตระกูลเถาของคุณสามารถที่จะแข่งขันกับสำนักเสินฉือได้หรือเปล่า”“ถ้าไม่ได้ ก็เชื่อฟังแล้วละทิ้งความคิดที่เป็นไปไม่ได้ซะ”เมื่อได้ยินพ่อของตัวเองพูดถึงลูกชายของสำนักเสินฉือ ไป๋ชิงเฉี่ยนก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วสีหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธทันที จากนั้นก็ลุกยืนขึ้น“คุณพ่อ คุณพ่อจะทำเก
“พ่อ พ่อตบหนูเหรอ? พ่อตบหนูเพื่อผู้หญิงคนนี้เหรอ?”ไป๋ชิงเฉี่ยนกุมใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะมองไปที่พ่อด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อตั้งแต่เด็กเธอเป็นคนที่ได้รับความรักความทะนุถนอมจากพ่อที่สุดแต่ตั้งแต่ที่ตระกูลเหยนล่มสลาย พ่อของตัวเองก็เปลี่ยนไปอย่างไร้เหตุผลมากขึ้นเรื่อย ๆก่อนหน้านี้เขายังให้ความสำคัญความคิดเห็นและทางเลือกของเธออยู่บ้าง แต่ตอนนี้ใช้คำว่าบ้าอำนาจและจิตใจเย็นชาแทนได้เลย ไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ที่มีต่อตัวเองจะเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ถึงขนาดตบหน้าลูกตัวเองเพื่อผู้หญิงที่เคยหลอกลวงหลินเฟิงแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโตไป๋ชิงเฉี่ยนไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้มาก่อนหลี่ซืออวี่เป็นใครเธอที่เคยเห็นภาพที่แอบถ่ายในโรงแรมรู้ดีที่สุด ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ก็ทำอะไรโดยไม่ใช้สมอง ชอบโอ้อวด พ่อของเธอจะพอใจกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง?ไม่ต้องพูดถึงอายุของผู้หญิงคนนี้ที่ยังน้อยกว่าตัวเองอยู่หลายปี“พ่อ หนูผิดหวังกับพ่อมาก!”ไป๋ชิงเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตา แล้วพูดเสียงดัง“ลูก....”เมื่อมองเห็นไป๋ชิงเฉี่ยนเป็นแบบนี้ ไป๋เจิ้นหัวก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เสียงโอดครวญของหลี่ซือ
ไป๋เจิ้นหัวนั่งลงก่อนจะพูดอย่างใจเย็น ว่า “ตอนนั้นฉันได้ชดเชยให้หลินเฟิงเป็นสองเท่าแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เจียมตัวเหมือนเดิม ถึงขนาดส่งผลกระทบกับลูกสาวของฉัน!”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ วันนี้ก็เป็นเขาที่หาเรื่องใส่ตัวเอง”“ขอเพียงแค่เขาตาย สำนักเสินฉือก็จะตอบรับการแต่งงานกับตระกูลไป๋”“พ่อ พ่อบ้าไปแล้วจริง ๆ”ไป๋ชิงเฉี่ยนจับกระโปรงของตัวเองยกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องรับแขกอย่างคลุ้มคลั่ง“คิดไม่ถึงว่าคุณจะกล้าทำแบบนี้กับฉัน”หลี่ซืออวี่ที่อยู่ข้าง ๆกำลังจะไปขวางด้านหน้าไป๋ชิงเฉี่ยนที่กำลังจะเดินออกไป แต่กลับเห็นไป๋เจิ้นหัวโบกมือพร้อมกับตะโกนพูดว่า “ให้เธอไป ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เชื่อฟังแล้ว!”“ยังไงเธอก็ไม่สามารถออกไปจากประตูใหญ่ของตระกูลไป๋ได้!”ไป๋ชิงเฉี่ยนยังคงโทรศัพท์หาหลินเฟิงไปตลอดทาง แต่โทรศัพท์ของหลินเฟิงกลับสายไม่ว่าง และไม่สามารถเชื่อมต่อได้ไป๋ชิงเฉี่ยนรู้สึกตำหนิตัวเองในใจอย่างมากเธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองกว่าจะได้ช่วยเหลือหลินเฟิง แต่กลับคาดไม่ถึงว่านี่จะเป็นหลุมพรางของพ่อตัวเองเช่นกันเป็นเธอที่ทำร้ายหลินเฟิง ทำร้ายผู้มีพระคุณของเธอ“ถ้าหากมีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับคุณหลินเฟิงเพราะฉัน ง
“เธอใจร้ายได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?”“ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อคุณ ชิงเฉี่ยน”เมื่อต่งหลิงอวี้พูดประโยคนี้จบแล้ว จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ผู้คุ้มกันของตระกูลไป๋พาไป๋ชิงเฉี่ยนไปขังอยู่ในห้องของตัวเธอเอง“ผู้มีพระคุณช่วยชีวิต...ตอบแทนด้วยการเนรคุณ...ฮึ่ม....”ต่งหลิงอวี้มองไปที่ประตูใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมาแต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกผิดสังเกต ลมปราณเริ่มปั่นป่วนและมีใครบางคนอยู่ข้างหลังเธอยังไม่รอให้เธอหันกลับไป ที่หลังคอของเธอถูกมีดฟาดอย่างแรง เบื้องหน้าของต่งหลิงอวี้ก็มืดลงและหมดสติไปทันทีภายในห้องรับแขกของไป๋ชิงเฉี่ยนเถาเซิ่งยังไม่ได้จากไปหลังจากที่ละครตลกเพิ่งจะจบไป เถาเซิ่งมองความคิดของไป๋ชิงเฉี่ยนออกว่าไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง แต่ก็ไม่ได้อยู่กับคู่หมั้นที่ไป๋เจิ้นหัวจัดเตรียมให้ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณลุง เมื่อเปรียบเทียบกับลูกชายของสำนักเสินฉือ บางทีตระกูลเถาของผมอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น” “แต่ถ้าคุณบังคับชิงเฉี่ยนแบบนี้ ไม่กลัวว่าชิงเฉี่ยนจะทำเรื่องอะไรที่มันสุดโต่งบ้างเหรอ?”“งั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณที่เป็นคนนอกมากังวลเรื่องนี้หรอก”
จงเจว๋หัวเราะเยาะ แล้วก้มมองหลี่ซืออวี่ที่ขดตัวอย่างหวาดกลัวอยู่ในมุมข้าง ๆ ก่อนที่มือใหญ่จะยื่นออกไป ยกเธอขึ้นมาแล้วโยนออกไปด้านนอกประตู“ไป ไปเรียกคนตระกูลไป๋ทั้งหมดมารวมกันที่นี่ ถ้าฉันอารมณ์ดี บางทีอาจจะไว้ชีวิตพวกคุณ ถ้าหากว่าคุณกล้าวิ่งหนี....”“ไป ไป ไป รีบไป เชื่อฟังคำพูดของคุณจง สั่งคนใช้ แล้วบอกว่าเป็นคำสั่งของฉัน ไปเร็ว!”เมื่อเห็นว่ามีดโค้งสีดำเข้ามาใกล้คอของวงตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ไป๋เจิ้นหัวก็หวาดกลัวก่อนจะรีบตะโกนเสียงดังไปทางหลี่ซืออวี่แต่ทว่าหลี่ซืออวี่ที่เพิ่งลุกขึ้นจากพื้น หันไปมองด้านข้าง ก็เห็นหัวและร่างของพ่อบ้านที่แยกออกจากกัน ก่อนจะตกใจกลัวจนกรีดร้องออกมา แล้ววิ่งหนีออกไปอย่างบ้าคลั่ง“นังโง่!”ไป๋เจิ้นหัวโมโหแทบตาย“จะหนี?” เมื่อจงเจว๋เห็นหลี่ซืออวี่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและพยายามจะหลบหนี แล้วก็โบกมืออย่างไม่สนใจ ก่อนที่ลมปราณภายในจะกลายเป็นพลังงานที่แท้จริง แล้วยิงออกไปที่ไหล่ของเธอในทันทีหลี่ซืออวี่ส่งเสียงกรีดร้อง ก่อนจะจับไหล่ที่เปื้อนเลือดและล้มลงไปกับพื้น ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตหรือตายไปแล้ว“ไปเร็วสิ ไอ้หนุ่ม ไม่งั้นจุดจบของแกจะน่าสมเพชกว่านี้”
“คุณปู่!”ไป๋ชิงเฉี่ยนยังไม่ทันวิ่งไปถึงด้านข้างปู่ของตัวเอง ทันใดนั้นก็เห็นชายชุดดํากว่าสามสิบคนปีนข้ามเข้ามารอบ ๆ กําแพง ชายชุดดำเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีอาวุธสังหารติดมือ บนร่างกายมีแรงสังหารดุดัน และล้อมคนของตระกูลไป๋เอาไว้ตรงกลาง เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ได้มาดีไป๋ชิงเฉี่ยนยังเห็นต่งหลิงอวี้เพื่อนสนิทของเธอ เธอถูกคนชายชุดดำลากเข้ามา และบนร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เพียงแค่ไม่ได้หมดสติไปในตอนนี้ ไป๋เจิ้นหัวก็ถูกชายชุดดำคนหนึ่งที่เปิดหน้ากากขึ้นและเอามีดโค้งงอมาจ่อไว้ที่ลำคอ เดินมาจากห้องรับแขกช้า ๆ“พ่อ! นี่มันเรื่องอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เมื่อเผชิญกับคําถามของไป๋ชิงเฉี่ยน ไป๋เจิ้นหัวก็มีอาการหน้าซีดขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจ: “ดูเหมือนว่าสำนักเสินฉือกับตระกูลไป๋ของเราเกิดการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย วางใจเถอะ ชิงเฉี่ยน เพียงแค่พ่อโทรหา อธิบายความเข้าใจผิด ตระกูลไป๋ของพวกเราก็จะไม่เป็นอะไรแน่นอน” “หรือจะเป็นเพราะหลินเฟิง?”ไป๋ชิงเฉี่ยนทำการคาดเดา“หึ ชิงเฉี่ยน แกยังคิดถึงไอ้บ้านั่นอยู่อีก บางทีมันอาจจะวางแผนใส่ร้ายตระกูลไป๋
“เพราะพวกคุณรู้มากเกินไปแล้ว”“ตู๊ด……ตู๊ด……”ได้ยินเสียงตัดสายโทรศัพท์ที่ข้างหู ไป๋เจิ้นหัวตกตะลึงไปหมด โทรศัพท์ก็ไหลหลุดออกมาจากมือ เสียงหล่นดังตุ้บลงบนพื้น“เหอ ๆ ไป๋เจิ้นหัว คราวนี้คุณเข้าใจแล้วสินะ?”จงเจว๋เดินเข้ามา มองไป๋เจิ้นหัวที่กำลังตกอยู่ในความสับสนและสิ้นหวัง เขายกมีดโค้งงอสีดําขึ้น พร้อมเผยรอยยิ้มที่น่ากลัว“ลูกสาว……พ่อ……พ่อ……”ไป๋เจิ้นหัวหันหัวกลับไป มองไปที่สายตาดูถูกของลูกสาวของตัวเอง เขาดึงทึ้งผมของตัวเองอย่างแรง จู่ ๆ ก็ร้องครวญครางขึ้นไปบนท้องฟ้า และยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองอย่างแรง“ร่วมมือกับคนร้ายก็ต้องเสียผลประโยชน์ของตัวเองสินะ”“ฉันทำผิดกับตระกูลไป๋ ฉันไป๋เจิ้นหัว……ทำผิดต่อบรรพบุรุษของตระกูลไป๋! คุณพ่อ!”ไป๋เจิ้นหัวอ้าปาก มองไปยังพ่อที่หนังตาตก อาการร่อแร่เต็มที่กำลังนอนอยู่บนเปลหาม จากนั้นน้ำตาแห่งความเสียใจก็หลั่งไหลออกมา“ผมขอโทษ……”วุ่นวายอยู่ครึ่งวัน คนสำนักเสินฉือไม่เคยให้ความสำคัญกับไป๋เจิ้นหัวด้วยซ้ำความต้องการของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว ทำได้แค่แลกกับจุดจบแบบนี้เพียงเพราะพวกเขารู้มากเกินไป ก็จะถูกฆ่าปิดปาก“จุ๊ จุ๊ จุ๊ ไป๋เจิ้นหัว คุณก็อย่าเศร้
“คุณปู่”ไป๋ชิงเฉี่ยนคุกเข่าลงข้างคุณปู่ น้ำตาพร่ามัวและพูดว่า: “มันเป็นความผิดของหนู ที่ไม่รู้แผนการของพ่อให้ทันเวลา......”“ไม่……ไม่”ชายชราโบกไม้โบกมือ หายใจด้วยความยากลำบากและพูดว่า: “ชิงเฉี่ยน จะโทษหลานได้อย่างไรล่ะ? หลานมานี่”ชายชรากวักมือเรียกชิงเฉี่ยนให้ขยับหูมาใกล้ปากของเขา จากนั้นพูดด้วยเสียงแหบว่า: “ชิงเฉี่ยน ถ้าเกิดหลานหนีได้ ก็รีบหนีไปซะ ไม่ต้องสนใจปู่ ถ้าหากว่าวันนี้หลานมีชีวิตอยู่ต่อได้ ตระกูลไป๋……มอบให้หลานแล้ว……”“คุณปู่ แต่ไหนแต่ไรผู้นำตระกูลล้วน……ไม่ส่งต่อให้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?”ไป๋ชิงเฉี่ยนเพิ่งจะพูดจบ เขาก็หัวเราะเยาะทั้งน้ำตา: “นี่มันตอนไหนกันแล้ว พวกเรายังสนใจเรื่องนี้อยู่กันเหรอ”“หึหึ ไม่ผิด ไม่ผิด……ชิงเฉี่ยน หลานนั้นแข็งแกร่งกว่าพ่อของหนูเสียอีก พ่อของหลานก็เป็นได้แค่ไอ้ขยะ แค่กแค่ก หากไม่มีธุรกิจของตระกูลไป๋ที่ปู่สะสมไว้ เขาก็……ไม่มีอะไรทั้งนั้น”“พ่อ!”ในตอนนี้ไป๋เจิ้นหัวกระโจนเข้ามา จับแขนของชายชรา และร้องขอวิงวอนว่า: “พ่อรีบพูดโน้มน้าวชิงเฉี่ยน ถ้า……ถ้าหากว่าเธอสามารถทนต่อความอับอายได้ ตระกูลไป๋ของผม……ตระกูลไป๋ของผมก็ไม่ถึงกับต้องถูกทำลายนะ!”