หลินเฟิงลังเลใจและกำลังจะถามเธอว่าเป็นยังไงบ้าง จู่ ๆก็ได้ยินเสียงด่าเหน็บแนมของจางกุ้ยหลานจากอีกด้านของโทรศัพท์“ฮุ่ยหราน โทรแจ้งให้เขารู้ก็พอแล้ว ยังต้องใช้เวลานานขนาดไหน? คุณชายกู้กำลังรอลูกอยู่ที่ชั้นล่างนะ!”“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าคุณปู่ เขาคู่ควรที่จะมาเข้าร่วมพิธีฝังศพเหรอ?“ตู๊ด”หลี่ฮุ่ยหรานวางสายโทรศัพท์หลินเฟิงถือโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะส่ายหัวแล้วหัวเราะเยาะตัวเองในตอนนี้เองก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร ก่อนที่หลินเฟิงจะเดินออกจากห้องไปที่ห้องรับแขกไม่นาน ทั้งสี่คนก็รวมตัวกันที่ข้างโต๊ะอาหาร บรรยากาศแปลกประหลาดเล็กน้อยจ้าวเฉียวอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่หลินเสวี่ยฮุ่ยมีสีหน้าอึมครึ้มและไม่พูดสักประโยค ไหนจะยังมีหลี่ซืออวี่ที่ยิ้มแป้นอีก“ซืออวี่ เธอมาทำไม?”ในที่สุด ในบรรยากาศที่ตึงเครียด หลินเสวี่ยฮุ่ยก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะถามอย่างไม่แสดงสีหน้า“พี่หลินเฟิงให้ฉันมาที่นี่”หลี่ซืออวี่ใช้ตะเกียบจิ้มริมฝีปากสีแดง ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสาวันนี้เธอสวมเพียงแค่เครื่องแบบของมหาวิทยาลัยเจียงโจวเท่านั้น ซึ่งดูไร้เดียงสากว่าภาพลักษณ์ที่สวยฉูดฉาดตามปกติ
หลินเฟิงไม่รู้ว่าที่หลินเสวี่ยฮุ่ยเสียใจเป็นเพราะเพื่อนสนิทขโมยคนที่ตัวเองชอบไปแล้ว เขายังคิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองอยู่เป็นตัวเองที่ดื่มหนักจนมีอะไรไปมั่วและส่งผลให้ความสัมพันธ์ของหลินเสวี่ยฮุ่ยกับเพื่อนของเธอกลายเป็นความอึดอัดเขาไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหลินเสวี่ยฮุ่ยยังไงดีหลี่ซืออวี่ที่อยู่ด้านข้างกำลังคีบอาหารให้หลินเฟิงพร้อมกับคิดแผนการ ก่อนจะมองหลินเสวี่ยผ่านเข้าไปในช่องประตูซึ่งกำลังกอดแม่ร้องไห้อยู่“ช่วยไม่ได้นะเสวี่ยฮุ่ย ใครใช้ให้พี่หลินเฟิงยอดเยี่ยมขนาดนี้ล่ะ?”“ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เธอไขว่คว้าไว้ไม่ได้ ก็อย่ามาโทษเพื่อนสนิทที่ช่วยเธอไขว่คว้าเอาไว้ล่ะ”หลินเฟิงที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเสวี่ยฮุ่ย ในใจก็ยิ่งสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิมวันต่อมาพิธีฝังศพของคุณปู่ถังหว่านก็โทรมาหาแต่เช้า และขอให้หลินเฟิงแสดงความเสียใจในนามของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังเธอบอกว่าตัวเองมีเรื่องธุระนิดหน่อยไม่สามารถเดินทางไปได้หลินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก และพาหลี่ซืออวี่ออกไปชอปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าของเชิงถังกรุ๊ป ให้เธอเลือกเสื้อผ้าสองชุดที่เหมาะสมกับการไปเข้าร่วมพิธีฝังศพหลี่ซืออวี่ยังค
“ใครเป็นเพื่อนกับพวกเธอกัน ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว!”หลี่ซืออวี่มองร่างที่จากไปของโจวเสี่ยวหาง ก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง“หึ” โจวเสี่ยวหางที่เดินไปไกลแล้ว ก็ชูนิ้วกลางขึ้นมาเหนือศีรษะ“เอาล่ะ อย่าดึงดูดความสนใจที่นี่”หลินเฟิงขวางหลี่ซืออวี่ที่โกรธจัด ก่อนจะรีบออกจากห้างสรรพสินค้าของเชิงถังกรุ๊ปท่ามกลางสายตาทุกคนโดยรอบสีหน้าที่ไม่ดีของหลี่ซืออวี่ดีขึ้นไม่น้อย หลังจากที่หลินเฟิงซื้อสร้อยคออัญมณีมูลค่าหลายสิบล้านให้เธอ“ถ้าเสวี่ยฮุ่ยมี ฉันก็ต้องมีเหมือนกัน”จนถึงตอนนี้ หลี่ซืออวี่ก็ยังคงนึกถึงสร้อยคอแบบทำมือที่หลินเฟิงให้กับหลินเสวี่ยฮุ่ยคฤหาสน์ตระกูลหลี่โลงศพของคุณปู่ตระกูลหลี่วางไว้ที่ห้องไว้ทุกข์หลี่ฮุ่ยหรานที่สวมใส่ชุดสีดำและมีดอกไม้สีขาวติดอยู่บนหน้าอก คุกเข่าลงข้างหน้าโลงศพของคุณปู่ด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกจางกุ้ยหลานกับคุณชายกู้และคนอื่น ๆต่างก็มาฉุดดึง แต่เธอก็ไม่ลุกขึ้นมา“ฮุ่ยหราน คุณวางใจเถอะ เพื่อจัดงานพิธีฝังศพที่ยิ่งใหญ่ให้กับคุณปู่ ผมขอให้พ่อของผมเชื้อเชิญคนที่มีชื่อเสียงมาจากเจียงโจว”“มีพวกเขามาเข้าร่วมพิธีงานศพที่นี่ ผมคิดว่าคุณปู่ได้รับการปฏิบัติแบบนี้
“จางเต๋อหลิน ท่านผู้นำสำนักไป๋เกาเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”“คุณชายถังอวิ๋นเฟิงของตระกูลถังเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”เจ้าของจากบริษัทน้อยใหญ่ที่มาร่วมงานศพคุณปู่หลี่ และคู่ค้าคนอื่น ๆ ของตระกูลหลี่ก็มึนงงไปหมดแล้วเนื่องจากเสียงตะโกนนอกประตูคนใหญ่คนโตทั้งเจียงเป่ยมาถึงที่งานกันเกือบหมดแล้ว“ทำไมฉันไม่เคยรู้เกี่ยวกับตระกูลหลี่เล็ก ๆ นี้ จะรู้จักบุคคลใหญ่โตเยอะแยะขนาดนี้?”“ดูท่าต่อไปจะต้องเกาะแข้งขาของตระกูลหลี่ให้แน่นแล้ว!”“ข่าวล่าช้าไปหน่อยไหม? เพื่อนของฉันทำงานที่หลี่ซื่อกรุ๊ป”“ได้ยินมาว่าเมื่อคืน หลี่ซื่อกรุ๊ปจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฉุกเฉิน คุณหลี่ฮุ่ยหรานท่านประธานใหญ่ เปลี่ยนเป็นคุณกู้เฉินจากตระกูลกู้เมืองเจียงหนานแล้ว”“ฮะ? งั้นอย่างงี้จะต้องเรียกเป็นหลี่ซื่อกรุ๊ปอีกไหม?”“ใครจะไปรู้ล่ะ?”“บุคคลคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าทั้งหมดต้องมาเพราะคุณชายกู้เมืองเจียงหนาน”“ต่อให้หลี่ฮุ่ยหรายจากตระกูลหลี่จะสวยแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนใหญ่คนคนโตมาถึงที่นี้ได้ เพื่อใครกัน พริบตาเดียวก็สามารถมองออกได้แล้ว”“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกคุณไม่ได้ลืมไปใช่ไหม? คุณหลี่ฮุ่ยหราน
ท่าทางของกู้เฉินทำให้คนใหญ่คนโตจากเมืองเจียงโจวตกอยู่ในความเงียบขรึม“ไอ้เวร!”ซ่งเฉียนคุนที่เป็นผู้ที่ใช้กำลัง นิสัยตรงไปตรงมาเขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินเฟิงและฮุ่ยหรานอยู่แล้วถึงแม้จะหย่าร้างกัน แต่หลินเฟิงนั้นยังคงมีความผูกพันกับอดีตภรรยาอยู่ หมอนี่ที่มาจากตระกูลกู้เข้ามาแทรกแบบนี้ อยากตายเหรอ?!“พวกเราจะเอาเรื่องนี้ไปยืนยันกับสหายน้อยหลินเฟิง คุณชายกู้ ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”พูดจบ ซ่งเฉียนคุนก็สะบัดมือเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร“นายกรัฐมนตรีฉิน นี่……”กู้เฉินก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่พ่อของตัวเองเชิญมาเหรอ?“เจ้าหนุ่มตระกูลกู้ นายคงไม่คิดว่าพ่อของนายเชิญมา พวกเราถึงมาแสดงความเสียใจในงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่หรอกนะ?”จางเต๋อหลินดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ และหัวเราะเหยียดหยาม: “พวกนายตระกูลกู้เนี่ยนะ ยังไม่คู่ควรที่จะให้พวกเราเดินทางมาหรอก” “คุณชายกู้ ผมแนะนําให้คุณล้มเลิกความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณซะ”หลิวกั๋วฮุยไม่อยากจะมองกู้เฉิน เขาหันหลังกลับไปทันที:“คุณควรจะคิดเอาไว้ว่า จะชี้แจงกับสหายน้อยหลินเฟิงด้านนั้นอย่างไร! ตระกูลกู้ของคุณ ดันยั่ว
หลังจากวางสายในที่สุดหลินเฟิงก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว และได้ขับรถมาจอดที่ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลหลี่“ขอโทษครับ คุณหลิน คุณชายกู้ออกคำสั่งเป็นพิเศษ ไม่อนุญาตให้คุณขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่”คนเฝ้าประตูขวางรถของหลินเฟิงไว้ และมีท่าทางที่แข็งกร้าว“อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย ทำไมกันล่ะ? จะดูถูกกันเกินไปรึเปล่า? ”หลี่ซืออวี่กดหน้าต่างและกําลังจะด่าคนเฝ้าประตู แต่ถูกหลินเฟิงห้ามเอาไว้“ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ไม่อยากอยู่นาน”จากนั้นก็หาที่จอดรถข้างทาง หลินเฟิงและหลี่ซืออวี่สวมชุดสีดําเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ด้วยกัน ที่นี่ แวบแรกเขาเห็นกู้เฉินกำลังพูดคุยกับเซี่ยงตงเซิงด้วยความดีใจอย่างมากศัตรูเจอหน้ากันก็มีสายตาดุดันเป็นพิเศษในตอนที่เซี่ยงตงเซิงเห็นหลินเฟิงก็สายตาดุดันขึ้นมาทันที“เหอะ”เซี่ยงตงเซิงรู้ว่าหลินเฟิงนั้นไม่ใช่หาเรื่องกันได้ง่าย ๆ จึงไม่ได้หาเรื่องใส่ตัวแต่เผยรอยยิ้มที่ไม่หวังดีให้หลินเฟิงด้วยความอึมครึม และแสยะยิ้มพูด: “ทะนุถนอมช่วงเวลาแห่งความสุขสุดท้ายของคุณเอาไว้เถอะ คุณหลิน”“จัดงานศพให้ลูกชายของคุณเมื่อไหร่? ส่งคนไปแจ้งผมที่อ่าวเทียนสุ่ย มันจะให้เกียรติแน่นอน”
“อดีตภรรยาของคุณยิ่งไร้เหตุผล ให้พวกเราออกไป”ได้ยินหลี่ซืออวี่แก้ต่าง หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปาก กําลังจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ปิดตาลง เก็บไว้ในใจ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า:“หากคุณกล้าไม่เคารพคุณปู่อีกครั้ง ก็ออกไปให้หมด”“ไม่ต้องพูดแล้ว”หลินเฟิงจ้องมองหลี่ซืออวี่ ทำให้เธอหุบปากได้สักทีจากนั้น หลินเฟิงเดินไปหาหลี่ฮุ่ยหราน ขนานกับเธอ และคุกเข่าหน้าโลงศพของคุณปู่หลี่ไห่ซาน โค้งตัวกราบสามครั้งแรง ๆ“คุณปู่ คุณเป็นผู้มีพระคุณของผมในตอนนั้น หลินเฟิงไม่เคยลืม”“หลินเฟิงอกตัญญูไม่สามารถปกป้องตระกูลหลี่ได้ ทำให้ท่านต้องตาย เป็นบาปใหญ่อย่างมาก ผมรู้สึกเสียใจในก้นบึ้งหัวใจอยู่ตลอดเวลา หวังว่าคุณปู่จะให้อภัยเฟิงเอ่อร์”หลังจากคําพูดเหล่านี้จบลง จางกุ้ยหลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มเยาะอย่างไม่พอใจว่า:“อุ๊ย รู้ด้วยเหรอว่าตัวเองทําบาปร้ายแรงอะ?”“ใช่ แกทำให้คุณปู่ต้องตาย!”จางซินยังแสร้งทําเป็นร้องไห้อยู่ด้านข้าง ชี้ไปที่หลินเฟิงต่อหน้าทุกคนและด่าว่า:“นายมันเป็นฆาตกรฆ่าคน!”“แม่! ซินซิน!”หลี่ฮุ่ยหรานสูญเสียการควบคุมอารมณ์กะทันหัน เธอดวงตาแดงก่ำพูดขึ้นด้วยความโมโห: “ขอร้องพวกคุณเถอะ พูดน้อยลงหน่อย
แต่แผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงการมีตัวตนของกู้เฉิน ตลอดจนถึงจุดอ่อนที่อยู่ในมือของเขา ทําให้หลี่ฮุ่ยหรานต้องเลือกทางที่ขัดต่อความประสงค์ของเธอ เพื่อความปลอดภัยของหลินเฟิง เธอจำเป็นต้องเสียสละตัวเอง“ไม่ต้องดูแล้ว ตอนนี้พี่หลินเฟิงเป็นของฉันเรียบร้อยแล้ว”หลี่ซืออวี่พูดเบา ๆ ข้างหลี่ฮุ่ยหราน เธอเป็นผู้หญิงเหมือนกับหลี่ฮุ่ยหราน ย่อมรู้ความหมายในสายตาของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงรีบแสดงความเป็นเจ้าของออกมา“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานมองหลี่ซืออวี่ด้วยความนิ่งอึ้ง เธอน่าจะเป็นแค่นักศึกษาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?แต่งตัวเปลือยโป๋แบบนี้ หน้าตาก็ธรรมดา พึ่งพาการแต่งหน้าทั้งหมด และดูจากคำพูดเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้จักคิดหลินเฟิงจะตกหลุมรักผู้หญิงอย่างเธอได้อย่างไร?ความประหลาดใจในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน ทำให้ปมด้อยในก้นบึ้งของหัวใจของหลี่ซืออวี่แอบกําเริบขึ้นมาหลี่ฮุ่ยหรานเกิดมาสวยงามธรรมชาติ ท่าทางสง่างาม แม้ว่าช่วงนี้ซูบผอมลงไปไม่น้อย แต่อูฐที่ตายก็ยังใหญ่กว่าม้าหลี่ซืออวี่ก็แค่ผู้หญิงที่รู้จักแต่แต่งตัวแต่กลับไม่มีสมบัติผู้ดีภายใต้ใบหน้าที่สวยงามของหลี่ฮุ่ยหราน มองยังไงก็มองไม่พอด้วยซ้ำแ