จางกุ้ยหลานพยักหน้าติดต่อกัน “พูดได้ถูกต้องมาก เพื่อนร่วมชั้นควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันถึงจะถูก”“หึหึ เขามีสิทธิอะไรทำให้ตระกูลเซี่ยงมาขอโทษถึงที่ได้” หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม“ไอ้สกุลหลิน นายอิจฉาฉันใช่ไหม?” สวีเชาหัวเราะเยาะถึงแม้ตัวเองไม่ได้ทำอะไร แต่เพียงแค่คนตระกูลหลี่เชื่อใจเขาก็พอ“อิจฉาสวะอย่างนายมีความหมายอะไร?” หลินเฟิงมองเขาด้วยความเหยียดหยาม“ไอ้สกุลหลิน แกหุบปากไปเลย แกยังมีหน้ามาว่าคนอื่นว่าสวะอีกเหรอ?”จางกุ้ยหลานชี้หน้าด่าทอหลินเฟิง“จริงด้วย อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลพวกเรา ฉันดูแล้วนายนั่นหละที่เป็นคนไร้ประโยชน์มากที่สุด”หลี่เหวินเชาพยักหน้าตาม “ตอนนี้ยังกล้าใส่ความคุณชายสวี นายรีบไสหัวออกไปซะ”“หลินเฟิง คุณเลิกทำแบบนี้สักทีได้ไหม? หลี่ฮุ่ยหรานตะโกนใส่หลินเฟิงด้วยความผิดหวัง“ผมเป็นอย่างไร? ผมพูดความจริงมาโดยตลอด” หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ความจริงอะไร? เซี่ยงจื่อหลานเป็นเพราะฟังคำพูดของคุณถึงได้มาขอโทษฉันเหรอ? ตระกูลเซี่ยงปลดการแบนก็เป็นเพราะคุณเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานถลึงตาใส่“ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ? หรือคิดว่าเป็นเพราะเขา?”หลินเฟิงชี้หน้าสวีเชา “ดูสิว่าเขานิสัยเป็นอย่
“พ่อบ้านเซี่ยง คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” จางกุ้ยหลานกลืนน้ำลายและถามด้วยความระมัดระวังพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณคิดว่าผมดูเหมือนคนที่ชอบเล่นตลกไหม?”“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน” จางกุ้ยหลานโบกมือของเธอไปมาแต่เธอไม่กล้าพูดว่าหลินเฟิงถูกพวกเขาไล่ไปแล้วเธอได้แต่พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “หลินเฟิงเพิ่งจะไปไม่นาน ถ้าตอนนี้คุณตามไป บางทีอาจจะตามทันก็ได้”เมื่อพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงได้ยินแบบนั้นก็ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย เขารีบตามออกไปทันทีจู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย จนตัวเธอเซเกือบจะล้มไปกับพื้นที่แท้ทุกอย่างที่หลินเฟิงพูด ทั้งหมดเป็นความจริงคนที่จัดการเรื่องทุกอย่างมาโดยตลอด ก็คือหลินเฟิง ไม่รู้ว่าเบื้องหลังนี้เขาต้องทุ่มเทไปมากเท่าไหร่เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตัวเองแต่พอลองคิดสิ่งที่ตัวเองพูดกับหลินเฟิงไป มันทำร้ายจิตใจกันมากแค่ไหน“ฮุ่ยหราน ฮุ่ยหราน…” จางกุ้ยหลานรีบช่วยประคองลูกสาวอย่างความรวดเร็วหลี่ฮุ่ยหรานเอียงตัวเข้าไปในอ้อมแขนของจางกุ้ยหลานพร้อมกับบ่นเบา ๆ ว่า “แม่ หนูเสียใจมาก หนูเสียใจมาก ๆ”เธอรู้สึกว่าตัวเธอได้ทำผิดต่อหลินเฟิง เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบ
หลินเฟิงเหลือบมองเซี่ยงจื่อหลานที่อยู่ในรถและเดินตรงไปตรงหน้าเธอเซี่ยงจื่อหลานเหมือนป่วยเป็นโรคหวาดกลัวหลินเฟิง เมื่อเธอเห็นหลินเฟิงเดินเข้ามาหา ร่างกายก็แข็งทื่อในทันทีจากนั้นก็ตัวสั่นอย่างมาก“คุณหลิน คุณจะทำอะไร?”พ่อบ้านตระกูลเซี่ยงเอ่ยถามด้วยความระแวง“ปลดผนึกจุดให้เธอ หรือคุณจะทำ?” หลินเฟิงพูดพร้อมกับเหลือบมองชายคนนี้พ่อบ้านตระกูลเซี่ยงก้าวถอยหลังด้วยความเก้กังหลินเฟิงแตะจุดฝังเข็มของเซี่ยงจื่อหลานสองครั้งแล้วค่อยทำให้จุดฝังเข็มของเซี่ยงจื่อหลานไหลเวียนทันใดนั้นเซี่ยงจื่อหลานก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดในร่างกายของเธอนั้นได้หายไปแล้วเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างโล่งอกหลินเฟิงพูดขึ้นมาเงียบ ๆ ว่า “ครั้งนี้ผมให้บทเรียนคุณ แต่ถ้าครั้งต่อไปคุณกล้าที่จะไม่เคารพหลี่ฮุ่ยหรานอีก คุณต้องตายแน่นอน” น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นชาและขู่อาฆาตเซี่ยงจื่อหลานฟังแล้วก็พยักหน้า “ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว”ตอนนี้เธอถูกวิธีการของหลินเฟิงทำให้ทรมานและหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิงหลินเฟิงสะบัดแขนเสื้อ แล้วหันหลังเดินจากไปพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงขมวดคิ้ว “หลินเฟิงคนนี้ จะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว”“เงี
“เอ่อ…ของขวัญวันเกิด? ของขวัญวันเกิดแบบไหนครับ?”“ของขวัญที่จะให้หลินเสวี่ยฮุ่ย เด็กสาวอายุประมาณสิบแปดสิบเก้า” หลินเฟิงลูบคางแล้วพูดออกมา“อ่อ…”จ้าวเทียนหวานึกออกได้ทันที หลินเสวี่ยฮุ่ยคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ของหลินเฟิง คน ๆ นี้จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษแต่เขาก็ลังเลเล็กน้อยว่าจะให้ของขวัญอะไรดี“คุณหลิน พวกเราควรให้ของที่มีค่าหน่อยหรือจะให้ของที่ราคาไม่แพงดีล่ะ?”“ต้องเป็นของมีค่าสิ”หลินเฟิงพูดจริงจังขึ้นมาลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ตัวเอง สมควรได้รับของขวัญล้ำค่าที่สุด“ครับ ผมทราบแล้ว” ได้ยินแบบนี้จ้าวเทียนหวาก็พยักหน้าติดต่อกันแสดงให้เห็นว่าตัวเขาเข้าใจแล้ว“รีบเอามาส่งให้ผมที่วิลล่าอ่าวเทียนสุ่ย“ หลินเฟิงพูดจ้าวเทียนหวาพยักหน้าซ้ำ ๆ และวางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็ไปจัดเตรียมทันทีหลังจากนั้นไม่นาน จ้าวเทียนหวาก็นำของขวัญมาส่งให้ถึงที่หลินเฟิงเปิดออกดูและเห็นว่ามันเป็นหยกจักรพรรดิชิ้นหนึ่งที่หน้าด้านแกะสลักเป็นรูปนกฟีนิกซ์“คุณหลิน นี่คือแผ่นจารึกฟีนิกซ์ที่แกะสลักโดยปรมาจารย์การแกะสลักที่เก่งที่สุดในเจียงโจวเมื่อสามปีที่แล้ว ส่วนวัสดุนี้ก็เป็นหยกจักรพรรดิ
ถ้าของขวัญของหลินเฟิงไม่มีค่า เขาอาจจะเยาะเย้ยใส่ก็ได้“เอ่อ…ช่างมันเถอะ ฉันจะกลับไปเปิดที่บ้าน”ด้านหลังหลี่ว์เจิ้งหยาง วัยรุ่นผมทองคนหนึ่งพูดขึ้น “อย่าสิ ครั้งที่แล้วที่ผมได้ยินว่าพี่เฟิงขับรถมายบัค ของขวัญที่มอบให้คงไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาทหรอกนะ?ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นลูกสมุนของหลี่ว์เจิ้งหยางแน่ ภายนอกที่ดูเหมือนกำลังชื่นชม แต่ความเป็นจริงกำลังวางกับดักหลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มแล้วพูดว่า “ห้าแสนบาท นายดูถูกพี่เฟิงหรือไง? นาฬิกาคาร์เทียร์ที่ฉันมอบให้มีมูลค่าห้าแสนแล้ว ของขวัญของพี่เฟิงก็ต้องมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งล้านบาท”“มีเหตุผล มีเหตุผล”คนกลุ่มนี้ทั้งหมดเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย แล้วก็ไม่ใช่ลูกคนรวยทั้งหมดจัดงานวันเกิดมอบของขวัญราคาหลายพันบาทให้ก็ถือว่ามีค่ามากแล้ว นาฬิกาของหลี่ว์เจิ้งหยางมูลค่าห้าแสนบาท เรียกได้ว่าโดดเด่นจากคนอื่น ๆ“จริงด้วย เสวี่ยฮุ่ย เธอรีบเปิดเร็ว ๆ เถอะ ฉันอยากรู้มาก” หลี่ซืออวี่ก็อยากลองดูว่าหลินเฟิงจะใจกว้างมากน้อยแค่ไหนหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้รีบร้อน แต่กลับทำให้หลี่ซืออวี่ร้อนใจอย่างมากหลินเฟิงที่ได้ยินหลี่ว์เจิ้งหยางกับลูกสมุนของเขาพูดอย่างมีเจตนาแฝง ก
“เป็นไปได้อย่างไร?” โจวเสี่ยวหางดันหมวกแก๊ปของเขาขึ้นแล้วก้าวไปดูข้างหน้าถึงแม้ว่าครอบครัวเธอจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ยังมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างหยกฟีนิกซ์ชิ้นนี้เมื่อมองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา แต่เธอก็ไม่รู้ว่าว่าหยกนั้นเป็นหยกของแท้หรือของปลอมหวงเหมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ที่ผมพูดก็เป็นเรื่องจริง ครอบครัวผมก็อยู่ในธุรกิจหยก ผมจะไม่รู้ได้อย่างไร?”หลี่ว์เจิ้งหยางได้ยินคำพูดนี้ ก็กุมท้องหัวเราะ “หลินเฟิง คุณเป็นคนตลกจริง ๆ หาซื้อของดี ๆ ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำเป็นโอ้อวดหรอกไหม?”“พวกเราจะไม่หัวเราะเยาะคุณหรอก หากคุณซื้อจี้กระจอก ๆ ที่ร้านสิบบาท แล้วมาบอกว่ามันมีมูลค่าร้อยล้านบาท”แม้แต่หลี่ซืออวี่ก็ขมวดคิ้วคิดว่าหลินเฟิงจะให้ของดี ๆ แต่พูดมาตั้งนาน คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นขยะแบบนี้หลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้ม เป็นเรื่องจริงที่หมูป่าไม่สามารถกินแกลบคุณภาพดีได้ พวกเขาแยกแยะหยกจักรพรรดิมูลค่าร้อยล้านบาทชิ้นนี้ที่วางอยู่ต่อหน้าพวกเขาไม่ออก“เอาล่ะ พวกคุณไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว” หลินเสวี่ยฮุ่ยตะโกนขึ้นมาเบา ๆเมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่ได้ตอบโต้ เธอก็คิดว่ามันคือจี้ธรรมดาชิ้นหนึ่งถึงอย
หลี่ว์เจิ้งหยางได้ยินแบบนั้นก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมาเพียงแค่ให้หลินเฟิงอับอายขายหน้าต่อหน้าหลินเสวี่ยฮุ่ย เขาก็ดีใจแล้วหวงเหมาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “อ้าว คุณชายหลิน ทำไมถึงดื่มเครื่องดื่มอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ?”“พวกเราลูกผู้ชายต้องดื่มเหล้าสิ!”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ฉันขับรถ ไม่เหมาะจะดื่มเหล้า”หลี่ว์เจิ้งหยางก็เดาถึงความคิดของหวงเหมาออก จึงพูดขึ้นทันที “เห้อ ผมก็ขับรถมา นี่ก็ดื่มเหล้าแล้วไม่ใช่เหรอ?”“อีกเดี๋ยวเรียกบริการคนขับมาก็จบเรื่องแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเสวี่ยฮุ่ย คุณไม่ดื่มเหล้าถือว่าไม่ให้เกียรติเสวี่ยฮุ่ยไหม?”หลินเฟิงกวาดตามองพวกเขาทั้งสองคนสองคนนี้จู่ ๆ แสดงความเป็นมิตรแบบนี้ ไม่เล่นตุกติกถึงจะเรียกว่าแปลกหลินเสวี่ยฮุ่ยดื่มเหล้าไม่เป็น แต่พี่ชายของตัวเองดื่มอยู่บ่อย ๆจากที่เธอดู ผู้ชายต่างก็ชอบดื่มเหล้าเธอก็ไม่อยากให้หลินเฟิงนั่งโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว จึงพูดเกลี้ยกล่อม “พี่เฟิง หรือว่าพี่ดื่มหน่อยไหม?”“พี่นั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว ฉันนึกว่าพี่ถูกรังแกอะไรซะอีก”“พี่วางใจได้ เดี๋ยวฉันจะเรียกคนขับรถให้พี่”หวงเหมาหัวเราะร่า “คุณดูสิ เสวี่ยฮุ่ยก็เรี
ในตอนนี้หลี่ซืออวี่ก็วิ่งเข้ามาประสมโรง “หวงเหมา นายไหวไหมเนี่ย? รีบดื่มสิ”เมื่อครู่เห็นของขวัญที่หลินเฟิงมอบให้ไม่มีมูลค่า หลี่ซืออวี่ก็เกิดความลำเอียงต่อหลินเฟิงอีกครั้งจึงปลุกระดมทุกคนอย่างไรซะใครเสียหน้าก็กระทบมาไม่ถึงตัวเธอเป็นการดูเรื่องสนุกและไม่กลัวว่าจะเดือดร้อน“หวงเหมาดื่มต่อสิ…”ในตอนนี้หลี่ว์เจิ้งหยางถลึงตาใส่เขา คนอื่น ๆ ก็พากันส่งเสียงให้กำลังใจหวงเหมามองดูหลินเฟิง เห็นเพียงแค่ว่าไอ้หมอนี่นั่งไขว่ห้าง หน้าไม่แดงหายใจไม่แรง ดื่มเบียร์ไปยี่สิบขวดทำเหมือนกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้นหลินเฟิงยิ้มบางแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากดื่มไม่ไหว นายไม่ต้องดื่มก็ได้”ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไอ้หมอนี่ดื่มเบียร์ไปยี่สิบขวดถือว่ามีความสามารถจริง ๆ นั่นแหละแต่น่าเสียดายที่เขาเจอกับหลินเฟิงหลินเฟิงรวบรวมกำลังภายใน เบียร์ที่ดื่มเข้าไปทั้งหมดถูกขับออกจากร่างกายพร้อมกับเหงื่อหวงเหมากัดฟันแล้วพูดขึ้น “นี่เพิ่งถึงไหนเอง พวกเราดื่มกันต่อ”พูดจบก็เปิดขวดเบียร์อีกหนึ่งขวดเขาอดกลั้นอาการคลื่นไส้และดื่มต่อเพียงแต่ครั้งนี้เขาเพิ่งดื่มได้ครึ่งหนึ่งกระเพาะไม่สามารถจุได้อีกแล้วน้ำย่อยพ
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห
“หึหึหึ...”ควบคู่กับเสียงหัวเราะแหบแห้งตาแก่ที่สวมชุดเครื่องแบบทหารของประเทศมังกร อกผายไหล่ผึ่งเดินออกมาจากมุมมืดช้าๆ“คุณ...”หลินเฟิงดิ้นรน อดกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงจากกระดูกซี่โครงที่แตกหักตรงหน้าอก แวบเดียวก็ดูสถานะของตาแก่คนนี้ออกคนผู้นี้ก็คือพ่อของหลินเฟิง ชายชราที่ทำให้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศมังกรเทิดทูน เลื่อมใส ทำให้คนเวน่ามองว่าเป็นฝันร้ายราชาหลินแห่งตอนใต้!“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”มองดูตราเหรียญทหารจำนวนมากที่ส่องแสงระยิบระยับบนหน้าอกของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลงต้างกลับเผยความหวาดกลัวออกมาชั่วขณะ ถึงขั้นที่มีสีหน้าหวาดกลัวในฐานะนักบู๊แดนแปรภาพขั้นสูงสุด สีหน้าแบบนี้ปรากฏบนใบหน้าของหลงต้าง มันช่างโดดเด่นมากจริงๆเพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รักษาสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแสสิ่งใดเอาไว้อยู่ตลอดเวลาความสามารถของหลงต้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลย“หึ แค่อยากออกมาเดินดูรอบๆ ก่อนตายก็เท่านั้นเอง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉย ถึงขั้นที่ยังหัวเราะเบาๆเมื่อเผชิญหน้ากับหลงต้าง กลับรักษาน้ำเสียงที่เหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณค
“หึหึ ชื่อนี้เป็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น จะชื่ออะไรก็เหมือนกัน....มันก็คือคุณนั้นแหละ ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านก็ส่งไปถึงหน้าประตูบ้าน ดูเหมือนว่าความสามารถในการมีสมาธิของคุณจะไม่พอนะ!”“จะพอหรือไม่พอก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเป็นคนตัดสินได้”หลินเฟิงเยาะเย้ย พร้อมกับตาทั้งสองข้างที่แดงเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถออมแรงได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคนที่ตายก็จะเป็นหลินเฟิงเอง“ดีมาก ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมที่จะสู้กับฉันอย่างสุดความสามารถแล้ว...วันนี้ ฉันจะได้กำจัดหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลหลงของฉันแล้ว!”“เจ้าหนู จำไว้ ฉันชื่อหลงต้าง หลังจากที่ลงไปแล้ว ก็อย่าลืมบอกเทพปีศาจว่าใครส่งคุณลงไปด้วยล่ะ!”ชายชราไว้หนวดเงยหน้าขึ้นและยิ้ม ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดขึ้นรอบตัวเขา ก่อนที่พลังชี่แท้จะพัดหลินเฟิงลอยออกไป“นี่คือ...ความแข็งแกร่งของแดนแปรภาพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ?”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงจะเคยต่อสู้กับจีว่านจ่างของตระกูลจี แต่สถานการณ์ตอนนั้นพิเศษ และจีว่านจ่างก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับแดนแปรภาพขั้นสูงสุดคนหนึ่งอยู่สิ่งนี้สร
“ได้”เมื่อหลินเฟิงเห็นถังหว่านอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงตกลงตามคำขอของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงตรงไปตรงมาขนาดนี้ กลับทำให้ชายชราไว้หนวดถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“เจ้าหนู เมื่อครู่ที่ฉันได้พูดถึงเงื่อนไข นายได้ฟังอย่างชัดเจนไปแล้วใช่ไหม? นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอ?”แม้ว่าชายชราจะยังคงไม่สนใจเรื่องเวลา แต่สายตาก็มองตรงไปทางหลินเฟิงแล้วราวกับว่ากำลังคาดเดาความคิดที่แท้จริงของหลินเฟิงผ่านการแลกเปลี่ยนทางสายตา“ผมแน่ใจ เพียงแต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง”หลินเฟิงชี้ไปทางถังหว่านแล้วพูดว่า :“ผมไม่ได้สนใจว่าตระกูลถังจะเป็นอย่างไร แต่ตระกูลหลงของพวกคุณต่อจากนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาในการแยกตระกูลถังในเมืองเจียงโจวอีก”“ได้”ชายชราก็รับปากเช่นกัน“เหอะ...”ทั้งสองต่างก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงความคิดของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าชายชราใช้ถังหว่านเพื่อดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง และใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก้ใช้คำพูดมาเอาชนะชายราคนนี้จนได้ พร้อมกับคิดหาทางช่วยถังหว่านให้กลับมา“เบื้องหลังของชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะสามารถตอบ
“หึ...”เผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงยวน หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากลับยื่นมือออกไป จับขาอ่อนของหลงเซียวเอาไว้“นาย...นายจะทำอะไร...อ๊ะ!”หลงเซียวยังไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เธอยังคิดว่าหลินเฟิงจะย่ำยีเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวินาทีตต่อมา สิ่งที่รอเธออยู่คือความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจกระดูกขาทั้งสองข้างของเธอ ถูกหลินเฟิงสะเทือนจนแตกละเอียดอย่างง่ายดาย“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา ยิ้มเยือกเย็นให้กับหลงเซียวเมื่อยิ้มแบบนี้ ทำให้หลงเซียวหวาดกลัวในที่สุด เธอหมอบลงกับพื้น มองหลินเฟิงเดินไปทางถังหว่าน อยากจะเอ่ยปากสาปแช่ง แต่กลับเจ็บจนเธอพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว“ไม่...ไม่ได้ หลินเฟิง...แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่คิดไว้ ถึงขั้น...ถึงขั้นที่ตระกูลหลงของฉันมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้...ไม่ ฉันจะตายไม่ได้...”ในหัวของหลงเซียวเหลือเพียงเสียงแบบนี้เธอกัดฟัน ออกแรงทั้งหมดที่มี คลานไปทางบันไดของชั้นใต้ดิน“เพียงแค่...เพียงแค่สามารถหนีออกไปได้...เพียงแค่ฉันสามารถหนีออกไปได้...”ในใจของหลงเซียวในตอนนี้เหลือเพียงความศรัทธาที่ประคับประคองเอาไว้และในตอนนี้ หลิน
“พวกนายล้วนก็หาเรื่องตายสินะ!”ทันใดนั้นหลินเฟิงก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตะโกนเวลานี้หลงเซียวเพิ่งจะค้นพบว่าไม่รู้ตอนไหนที่ดวงตาทั้งสองของหลินเฟิงได้เปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ววิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งที่เกือบจะเป็นรูปเป็นร่าง พร้อมกับพายุที่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆตัวของหลินเฟิง“ตายไปซะ!”เมื่อหลินเฟิงเผชิญหน้ากับการล้อมของผู้คุ้มกันตระกูลหลงจำนวนมาก ไม่เพียงไม่ถอยเท่านั้น แต่ยังรีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามดังลั่น และคิดไม่ถึงว่าจะทำลายกระบี่ที่ผู้คุ้มกันตระกูลหลงโดจมตีมาจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยท่าทางที่กำลังตกตะลึงนั้น หลินเฟิงก็ชกไปที่หัวของเขาราวกับเป็นแตงโมที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ“อะไรนะ?!”ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาวุธ ไหนที่จะสามารถฟันเนื้อของหลินเฟิงได้เลยทันใดนั้นคนคุ้มกันตระกูลหลงเหล่านี้ก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวขึ้นมาในใจถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียน แต่ทักษะการใช้ดาบและการใช้กระบี่ ต่างก็ต้องการพรของอาวุธเพื่อที่จะสามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้แต่ชายที่มีดวงตาสีแดงทั้งสองข้างตรงหน้าคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่กลัวอาวุธเลย เขาเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่?แดนแปร
“แล้วยังมีผู้ชายที่รอมีอะไรกับเธอมากขนาดนี้ ตอนนี้ในใจของนายรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ? ให้ฉันเดา....ก็น่าจะโกรธมากเลยใช่ไหม?”หลงเซียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วพูดว่า :“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันอยากจะเห็นท่าทางของนายในตอนนี้ที่สุดแลย แล้วไม่ต้องห่วง ไม่นาน นายก็จะแสดงท่าทางที่น่าสนใจมากยิ่งกว่านี้อีก”“มองผู้หญิงของตัวเองที่กำลังถูกชายคนอื่นเล่นสนุกอยู่จากที่ไกล ๆ จุ๊จุ๊จุ๊.... น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆเลย!”หลังจากที่หลงเซียวหัวเราะเสร็จแล้ว ก็หันกลับไปมองชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่กำลังงุนงงอยู่บนเวที แล้วตะโกนว่า :“ฉันให้นายหยุดงั้นเหรอ? ห้ามหยุด!”“ลงมือต่อไป สนุกต่อไป! ตอนนี้ตระกูลหลงยืนอยู่ข้างคุณ พวกเราที่ขวางอยู่ตรงนี้ ก็เพื่อไม่ให้หลินเฟิงสามารถไปคุกคามนายได้!”“ต่อหน้าผู้ชายของเธอ ปรนนิบัติเธอให้ดี ๆแล้วกัน!”หลงเซียวเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจมาก“หึหึ มันน่าตื่นเต้นกว่าอีก ฉันชอบมันจริง ๆเลย!”ชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่อยู่บนเวทีเพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่อีกครั้งมีตระกูลหลงสนับสนุนเขา เขากลับกับผีอะไรล่ะ!เด็กคนนั้นอาจจะต้องดูเขาสนุกใ
ทั่วทั้งชั้นใต้ดินตกอยู่ในความบ้าบิ่นกับความสกปรกโสมมถังหว่านเห็นตัวเองข่มขู่ไม่สำเร็จ จึงพยายามดิ้นรน แต่มือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ เมื่อเธอดิ้นรนแบบนี้ กลับเผยไหล่สวยที่ขาวผ่องของตัวเองออกมาจึงดึงดูดความต้องการทางเพศของผู้ชายขึ้นมา“คุณถังหว่าน วางใจเถอะ ครั้งแรกของคุณ ผมจะอ่อนโยนอย่างมาก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ผู้ชายที่สวมหน้ากากทำท่าทางอัปลักษณ์ โผมาทางถังหว่านโดยตรง“หลินเฟิง…”เรื่องราวมาถึงตอนนี้แล้ว ถังหว่านทำได้แค่หลับตาลงทั้งๆ ที่เธอไม่อยากดึงหลินเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้อง คิดว่าตัวเองสามารถจัดการได้แต่คิดไม่ถึงว่าจนถึงช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ในใจของเธอยังคงหวังอยากให้ร่างนั้นมาช่วยเธอ“หึหึ ฉันรู้ว่าเธออยากให้ผู้ชายคนนั้นมาช่วยเธอ แต่ว่า…เธอตายใจซะเถอะ!”ได้ยินเสียงพึมพำไร้ที่พึ่งของถังหว่าน หลงเซียวฉีกยิ้มออกมา“ทางด้านหลินเฟิงฉันให้คนจับตาดูไว้ตั้งนานแล้ว เมื่อเขาเข้าใกล้ถนนเสรี ก็จะเจอกับกับดัก!”“เธอไม่มีทางได้เจอเขาหรอก! ถังหว่าน เธอตายใจซะเถอะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ได้ยินเสียงหัวเราะของหลงเซียว ถังหว่านหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังแต่วินาทีต่อมา“ไสหัวไป!”ประตูลิฟต์ที่เชื่อม
“เธอโชคดีจริงๆ เลยนะ!”ก่อนหน้านี้ถังหว่านอดกลั้นความเจ็บปวดไม่ได้ร้องไห้ออกมาในตอนที่เธอเห็นผู้ชายเหล่านี้เสนอราคาแก่งแย่งร่างกายของเธอกันอย่างเต็มที่ เธอก็รู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก และน้ำตาไหลออกมาโดยไร้เสียงแต่ทว่าน้ำตาของถัวหว่านอยู่ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม ไม่มีคนสนใจด้วยซ้ำ“ฉันเสนอห้าล้านบาท! ได้ยินแล้วยัง? ห้าล้านบาท!”ผู้ชายอ้วนท้วมที่สวมหน้ากากหัวหมูตะโกนเสียงดัง“เชี่ย นายปัญญาอ่อนเหรอ? เงินแค่ห้าล้านบาทก็อยากจะซื้อพรหมจรรย์ของสาวสวยถังหว่าน? ฉันเสนอยี่สิบห้าล้านบาท!”ผู้ชายที่สวมหน้ากากหัวสุนัขดันราคาขึ้นสูง“ยี่สิบห้าล้านบาทเยอะเกินไปแล้ว หน้าถูกกรีดจนสภาพเป็นแบบนั้น ไม่ได้ไม่ได้ ฉันเสนอนี่สิบล้านบาท ฉันเป็นคนที่สองก็ได้”ผู้ชายที่สวมหน้ากากลิงยิ้มพูด“จริงด้วยจริงด้วย แบบนี้เรียกว่าผิดกฏการตลาด ตอนนี้ถังหว่านเรียกว่าคนสวยไม่ได้แล้วนะ เธอเสียโฉมไปแล้ว”“คุณเสียเงินเยอะขนาดนี้ ไม่นับว่าเสียเงินเปล่าเหรอ?”“เชี่ย เงินยี่สิบห้าล้านบาทสามารถให้อิ่นนั่วเจียมาปรนนิบัติฉันได้แล้ว!”“พูดจาไร้สาระ อิ่นนั่วเจียเธอไม่เหลียวมองคนอ้วนอย่างนายหรอก!”ทันใดนั้น ทั