แต่เกิดจากสารพิษในร่างกายสะสมมากเกินไปจนไม่สามารถขับออกมาได้“จื่อเสวียน เธอหลบไปก่อน ให้ฉันดูหน่อย”หลินเฟิงเดินเข้าไป จับมือของฟางเลี่ยงและใช้พลังชี่แท้ของเขาถ่ายโอนไปยังร่างกาย และหลับตาลงเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของเขาอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นเช่นนี้ อวี๋จื่อเสวียนไม่กล้าที่จะรบกวนหลินเฟิงและหลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็วฟางเลี่ยงใช้โอกาสนี้จ้องมองอวี๋จื่อเสวียนและคุณซุนด้วยความสงสัย“คุณผู้ชายท่านนี้คือ...?”"เขาเหรอ"อวี๋จื่อเสวียนเช็ดน้ำตาแล้วยิ้ม:“นี่คืออาจารย์ของฉัน อาจารย์หลิน เขาเก่งมาก เขาสามารถรักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ เขาสามารถรักษาหายได้อย่างรวดเร็ว นายไม่ต้องกังวล!”"หึหึ......"เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋จื่อเสวียน ฟางเลี่ยงก็ยิ้มอย่างจนปัญญาเขาจ้องดูหลินเฟิงแล้วพูดว่า:“อาจารย์หลิน คุณไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเพราะผม ร่างกายของผม...ผมรู้ดีที่สุด”"ผมอยู่ได้ไม่กี่วันแล้ว"ฟางเลี่ยงมีความสงบมากในขณะนี้ เขาเผยรอยยิ้มบนใบหน้าและพูดว่า:“เมื่อวานนี้ ฉันยังคงคิดอยู่ว่าจะพบกับจื่อเสวียนอย่างไร แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าวันนี้เธอจะปรากฏตัวขึ้น”ฟางเลี่ยงเงยหน้าขึ้นด้วยความพยายามอย่างยิ่
เพียงแค่เห็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าขาวซีดทำสีหน้าเยาะเย้ยเล็กน้อย พร้อมกับเตะเปิดประตู แล้วเดินเข้ามาอย่างองอาจเขาก็คือเด็กหนุ่มคนนั้นที่หลินเฟิงเพิ่งจะเห็นตรงเบาะหลังของของรถเมอร์เซเดสเบนส์แถมดูแค่หน้าตาภายนอกน่าจะมีอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีเขากวาดตามองไปทางฟางเลี่ยงที่นอนป่วยอยู่บนเตียง แล้วก็มองยาในมือของพี่สาวตัวเองจู่ ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไป“นังสารเลว ฉันไม่ได้บอกแกเหรอว่าอย่าใช้เงินกับไอ้สวะนี่อีกน่ะ? แล้วยาในมือของแกมันคืออะไร? อ๊ะ?”ในขณะที่กำลังพูดอยู่ เด็กหนุ่มคนนี้ก็เดินเข้ามาตบใบหน้าพี่สาวของตัวเองเสียงดังลั่นคุณซุนล้มลงไปพร้อมกับเอามือปิดหน้าจากนั้น เด็กหนุ่มก็คว้าเอายาในมือคุณซุนมาแล้วโยนลงพื้น ก่อนจะเหยียบมันจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วไปเตะต่อย คุณซุนต่อ“แม่งเอ้ย พ่อหาเงินมาได้ง่าย ๆงั้นเหรอ?”“แกยังจะใช้เงินกับไอ้สวะคนนี้อีกงั้นเหรอ? แกคิดว่าตระกูลซุนของพวกเรามีเงินเยอะเกินไปสินะ?”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการด่าทอและการทุบตีของน้องชายตัวเอง คุณซุนก็เอาแต่มือปิดหน้าและก้มหน้าหลบ โดยที่ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ“ซุนซิน นาย...นายห้ามตีพี่สาวของคุณนะ นายมีอะไร ก็....ก
ถึงแม้ว่าในการต่อยครั้งนี้ เธอจะไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด แต่ก็ทำให้กระดูกจมูกของซุนซินหัก และฟันในปากครึ่งหนึ่งก็ถูกเขากลืนลงไปทั้งหมด “อ๊ากกกก!”ซุนซินคิดยังไงก็คิดไม่ถึงเด็กน้อยที่มีแขนขาเรียวอย่างนี้คาดไม่ถึงว่าจะมีพละกำลังที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ เขาถูกต่อยอย่างแรงจนส่งเสียงร้องออกมาทันทีก่อนจะล้มลงไปกับพื้น พร้อมกับปิดหน้าแล้วดิ้นไปมา“ไอ้สารเลวที่น่ารังเกียจอย่างแก พวกครอบครัวสารเลวอย่างพวกคุณ....”ในเวลานี้อวี๋จื่อเสวียนโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ เธออยากจะทุบตีคุณชายเจ้าชู้คนนี้ให้ตายในทันทีขณะที่อวี๋จื่อเสวียนกำลังเดินไปหาซุนซินที่กำลังส่งเสียงร้องอีกครั้ง จู่ ๆก็มีเสียงคำรามดังลั่นมาจากชายวัยกลางคนที่ด้านนอกของประตู“หยุดนะ!”เพียงแค่เห็นซุนหยวนเหว่ยที่มีใบหน้าเหลี่ยม รีบพุ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าโกรธจัด แล้วไปโอบกอดลูกชายที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาพร้อมกับมองไปทางอวี๋จื่อเสวียนและหลินเฟิงด้วยความโกรธเคืองสุดท้าย สายตาของตัวเขาก็จ้องไปที่คุณซุน“เชี่ยนเชี่ยน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”“ฉัน...ฉัน....”คุณซุนก็ไม่คาดคิดว่าอวี๋จื่อเสวียนจะลงมือทุบตีคน และคนที่ถูกตีก็คือซุนซ
ซุนหยวนเหว่ยเตะฟางเลี่ยงไปจนล้มลงไปตอนนี้คนบ้านนี้ก็เลิกเสแสร้งแล้วจริง ๆซุนหยวนเหว่ยที่ชี้ไปทางฟางเลี่ยงที่นอนอยู่บนพื้น แล้วด่าทอว่า :“ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้สารเลวอย่างแก นอนมาตั้งสองปีก็ยังไม่ตาย ทั้งยังทำให้พวกเราเสียเวลาอยู่ที่นี่ทุกวันอีก!”“หากไม่ใช่เพราะแกเอาแต่ประคองชีวิตไปวัน ๆแล้วลูกสาวของฉันจะเป็นม่ายได้ยังไง? บางทีลูกสาวของฉันคงจะได้คบกับผู้ชายที่สูง หล่อและรวยไปแล้ว!”“พ่อ!”ซุนเชี่ยนที่อยู่ด้านข้าง ในที่สุดแล้วก็ทนต่อไปไม่ไหวเธอยืนขึ้นพร้อมกับร้องไห้และพูดว่า :“ที่ฟางเลี่ยงกลายเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะตระกูลซุนของพวกเรานะ! หากไม่ได้บริจาคไตของตัวเองให้ ซุนซินก็คงจะตายไปตั้งนานแล้ว!”“พวกคุณทำแบบนี้กับฟางเลี่ยงได้ยังไง?”“พวกเราทำอะไรกับเขา?”ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยพุ่งเข้ามาจับใบหน้าของซุนเชี่ยน แล้วตบไปสองครั้ง และกรีดร้องออกมาว่า :“พวกเราปฏิบัติกับเขาอย่างไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ? แล้วแกไม่ได้รู้หรอกเหรอว่า พวกเราให้เขาแต่งงานเข้ามาก็เพื่อที่จะให้เขาใช้ไตของเขาช่วยชีวิตลูกชายของฉันน่ะ!”“พวกเราก็ให้เงินสองล้านห้าแสนบาทกับครอบครัวพวกเขาไปแล้ว! แค่นี้ยังไม่พออีกเห
คนอื่น ๆในตระกูลซุนต่างก็หวังว่าฟางเลี่ยงจะตายเร็วกว่านี้ในเมื่อเขาหมดประโยชน์ไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ พ่อแม่ของฟางเลี่ยงย่อมรู้ดีอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สนใจการกระทำของตระกูลซุนเลยหลังจากที่เฝ้าดูลูกชายของตัวเองที่ถูกคนใช้ประโยชน์เสร็จแล้ว จากนั้นตระกูลซุนก็โยนทิ้งไปราวกับเป็นขยะบอกได้แค่ว่าซุนเชี่ยนกับฟางเลี่ยงเป็นแค่คนที่น่าสงสารถึงแม้ว่าซุนหยวนเว่ยกับคนอื่น ๆจะเป็นสัตว์ร้าย แต่พ่อแม่ของฟางเลี่ยงก็ไม่ใช่คนดีอะไรหลินเฟิงในตอนนี้ที่ยืนขึ้นมานั้นมองไปที่ซุนหยวนเว่ยอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นว่า:“ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ฟางเลี่ยงก็เป็นคนที่ช่วยชีวิต ซุนซิน ลูกชายของพวกคุณ หรือว่าพวกคุณก็ยอมให้ลูกชายของพวกคุณปฏิบัติกับฟางเลี่ยงและพี่สาวของตัวเองแบบนี้เหรอ?”“พวกคุณยังมีเกียรติกันอยู่หรือเปล่า?”“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ถึงกล้ามายืนกล่าวหาฉันที่นี่ได้?”ท่าทางของซุนหยวนเว่ยยิ่งโกรธขึ้นไปอีกถึงจะรายล้อมไปด้วยผู้คุ้มกันตระกูลซุนของเขา ก็ยังกล้าที่จะพูดหน้าไม่อาย นี่ก็แสดงว่าไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสินะ!ดูเหมือนว่าคนนี้จะอวดดีเหมือนกับนังเด็กผู้หญิงคนนั้น“ซุนหยวนเว
“นี่....”เมื่อเห็นฉากนี้ ซุนหยวนเหว่ยก็มีปฏิกิริยานังเด็กคนนี้กับผู้ชายคนนี้ ที่แท้ก็เป็นนักบู๊กันทั้งคู่! คิดไม่ถึงว่าผู้คุ้มกันที่ตระกูลซุนจ้างมา ต่อหน้าผู้ชายคนนั้นจะอ่อนแอได้ขนาดนี้!“แก...แกเป็นใครกันแน่?!”ซุนหยวนเหว่ยรู้สึกหวาดกลัว แล้วอุ้มลูกชายของตัวเองพร้อมกับถอยหลังไป“ฉันเป็นใคร?”หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “พวกคุณไม่สมควรที่จะรู้!”ในขณะที่พูดอยู่ หลินเฟิงก็รวบรวมพลังชี่แท้เอาไว้สองเส้นที่ปลายนิ้วก่อนจะสะบัดมันออกไปทันใดนั้นซุนหยวนเหว่ยก็รู้สึกเจ็บปวดที่เข่าของตัวเองอย่างที่ไม่สามารถจะทนได้ จนเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตุบ”และลูกชายที่ถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมแขนก็ล้มลงไปกับพื้นเช่นเดียวกัน ก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆซุนหยวนเหว่ยเงยหน้ามองไปเขาพบว่าในเวลานี้ตัวเองกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฟางเลี่ยงที่หมดสติ ทันใดนั้นก็รู้สึกอับอายขึ้นมา จนทำให้เลือดของเขาเดือดพล่านและทั้งใบหน้าเหลี่ยมก็แดงก่ำขึ้นมาทันที“ไอ้สารเลวอย่างแก แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?! ฉันเป็นประธานบริษัทการค้าเทียนเหว่ย และเบื้องหลังของฉันก็ยังมีแก๊
หลินเฟิงเหลือบมองซุนหยวนเหว่ย แล้วรู้สึกสับสนเล็กน้อย“ผมไม่ได้บอกไปแล้วงั้นเหรอ? สองล้านห้าแสนบาท เพื่อซื้อไตของฟางเลี่ยงกลับคืนมา”ขณะที่กำลังพูดอยู่ เขาก็ผลักซุนซินลงไปกับพื้น จากนั้นก็หยิบเข็มเงินที่หนาและยาวออกมาจากถุงผ้าที่ติดตัวมา“พ่อ....พ่อ พ่อ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย___!”ซุนซินมองแววตาที่สงบนิ่งของหลินเฟิง และสัมผัสได้ถึงความคมของเข็มเงินในมือของหลินเฟิง ก็หวาดกลัวอย่างมากจนต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุด“ไอ้...ไอ้สัตว์ร้าย แกปล่อยลูกชายของฉันนะ!”ซุนหยวนเหว่ยตกใจอย่างมาก ผู้ชายคนนี้ต้องการเอาไตของลูกชายตัวเองจริง ๆงั้นเหรอ?!“ขอร้องล่ะ ไม่เอา ไม่เอานะ!”หากบอกว่าซุนหยวนเหว่ยยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บ้าง ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยที่อยู่ข้าง ๆก็คงตกใจกลัวแทบตายแล้วต้องรู้ว่า ซุนซิน ลูกชายคนเล็กคนนี้ คือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอหากมีอะไรเกิดขึ้นกับซุนซิน เธอก็คงไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกเพราะอย่างนั้นภรรยาของซุนหยวนเหว่ยที่เห็นฉากนี้ ก็รีบหยุดด่าทอหลินเฟิง และอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงตรงหัวเข่า ก่อนจะก้มหัวขอร้องไปทางหลินเฟิง“คุณฆ่าฉันเถอะ ขอร้อง อย่าแตะต้องลูกชายของฉัน!”“พ่อ แ
“อ๊ะ?”คำพูดของหลินเฟิงทำให้ซุนหยวนเหว่ยและภรรยาคิดอะไรไม่ออก แต่ในตอนที่ทั้งสองตกตะลึง หลินเฟิงก็แทงเข็มเงินเข้าที่ช่องท้องส่วนล่างของซุนซิน“อ้ากกกก!”ทันใดนั้นซุนซินก็ส่งเสียงร้องดังลั่นออกมาทันที“พ่อแม่ ช่วยผมด้วย เจ็บมากเลย! ช่วยผมด้วยยยย!”เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงร้องขอความช่วยเหลือของลูกชาย ซุนหยวนเหว่ยก็เบิกตากว้าง พร้อมกับพุ่งเข้าไปหาหลินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง“ไอ้สัตว์ร้าย! แกปล่อยลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”“ฉันจะสู้กับแกเอง!”สามีภรรยาซุนหยวนที่สู้สุดชีวิตถูกอวี๋จื่อเสวียนเตะจนล้มลงไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวภรรยาของซุนหยวนเหว่ยล้มลงและหมดสติไปทันทีเพราะเลือดเดือดพล่านอวี๋จื่อเสวียนนั่งคร่อมซุนหยวนเหว่ย ก่อนจะจับผมของเขาแล้วยกหัวของเขาขึ้นมา และยัดเช็คสองล้านห้าแสนบาทที่หลินเฟิงโยนออกไปนั้น เข้าไปในปากของเขา “คุณดูให้ฉันดี ๆสิ!”“ชีวิตก็คือชีวิตของลูกชายตระกูลคุณ แล้วชีวิตของฟางเลี่ยง มันไม่ใช่ชีวิตงั้นเหรอ?!””“สองล้านห้าแสนบาท วันนี้คุณจะต้องรับมัน! แล้วจากนั้นก็ต้องดูลูกชายของเขา เอาของที่แย่งชิงมาจากฟางเลี่ยงคืนกลับไป!”“อื้อ อื้อ อื้อ....”ซุนหยวนเหว่ยดิ้นรนไม่
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน
“ใช่ครับ!”เริ่นโหย่วไฉพูดอย่างกระวนกระวาย: "คุณรีบพาคนมาที่นี่เร็วๆ เถอะครับ ทางด้านผม... ผมจะต้านไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว!"“ต้านไม่อยู่?”จางฉุนรู้สึกตกใจเล็กน้อยหรือว่าคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจียจะเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?ที่นี่เริ่นโหย่วไฉมีผู้คุ้มกันนับร้อยคน เขาคนเดียวสามารถจัดการผู้คุ้มกันทั้งหมดได้?”จางฉุนไม่เชื่อเรื่องนี้แต่ไม่นานความคิดอีกอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจเขาเริ่นโหย่วไฉคนนี้คงจะพูดเกินจริงไปมากอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเองเพิ่มมากขึ้นหลังจากสาปแช่งจิ้งจอกแก่แล้ว จางฉุนก็เพียงแต่เร่งฝีเท้าของลูกน้องเขาให้เร็วขึ้นเท่านั้นแต่ที่แปลกคือระหว่างทางกลับเงียบสงบมากและพวกยามโรงงานเสื้อผ้าที่อยู่ที่นี่แต่เดิมก็หายไปไหนไม่รู้"เดี๋ยวก่อน!"สวีโจวยื่นมือออกไปเพื่อหยุดทุกคนไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าเขาจ้องดูใบหน้าที่ใจร้อนของจางฉุนแล้วขมวดคิ้วพูด:“คุณ...จางฉุน หรือว่าคุณไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติบ้างหรือ?”“ไม่ปกติอะไร?”ในขณะนี้จางฉุนเอาแต่นึกถึงรูปร่างที่น่าสะพรึงกลัวและใบหน้าที่งดงามของอิ่นนั่วเจียเพียงเท่านั้นยิ่งระยะทางใกล้เข้ามา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าไฟที่อยู่ด้านล่
“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนของรองผู้จัดการหลงซิ่วด้วยหรือเปล่า?”"เอ่อ... ใช่"พูดอย่างตรงไปตรงมา จวงฉุนก็เป็นแค่สุนัขของหลงซิ่วเนื่องจากเขาไม่ใช่นักบู๊และไม่ได้รู้จักผู้คนมากมาย เขาจึงถูกหลงซิ่วส่งมาที่เมืองเจิ้งเต๋อทำหน้าที่เป็นผู้นำเล็กๆ ของคนเหล่านี้แต่คนเหล่านี้จากตระกูลหลงล้วนเป็นนักบู๊ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจึงดูถูกจวงฉุนที่เป็นคนโลภโมบและหื่นกามอย่างเขาดังนั้นครั้งนี้พวกเขาถูกเรียกมา เพราะเห็นแก่หน้าของหลงซิ่วเท่านั้น จวงฉุนก็ไม่มีอำนาจที่จะสั่งพวกเขาได้เลยจวงฉุนก็รู้ดีถึงเรื่องนี้เช่นกันดังนั้นเอาหลงซิ่วออกมาเป็นโล่ไม่อย่างนั้น คนพวกนี้คงหันหลังแล้วจากไปทันที“ก็ได้ งั้นเราควรรีบลงมือปฏิบัติการ หากหลี่ซื่อกรุ๊ปพบเห็นเรา เราคงเดือดร้อนแน่”“อย่ากังวล คนจากหลี่ซื่อกรุ๊ปจะไม่รู้เรื่องนี้”จวงฉุนยิ้มอย่างเย็นชาเขาคิดว่าเขาทำหน้าที่เก็บความลับได้ดีมาก แต่เกรงว่าจวงฉุนคิดจนหัวระเบิดก็ยังไม่เข้าใจอิ่นนั่วเจียจริงๆ แล้วเป็นคนของหลี่ซื่อกรุ๊ปและคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจีย ไม่ใช่บอดี้การ์ดส่วนตัวของอิ่นนั่วเจีย แต่เป็นคนของกลุ่มหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ควรยุ่งด้วยมา
“เถ้าแก่เริ่น ผมว่าผมเป็นคนใจดีมากและไม่ชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คุณเชื่อผมไหม?”หลินเฟิงไม่ตอบคำถามที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างยิ่งของเริ่นโหย่วไฉ แต่กลับถามคำถามด้วยรอยยิ้มแทนคำถามนี้ของหลินเฟิง ทำให้ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้“แม่งเอ๊ย”“ทำร้ายคนของฉันไปหลายคนในพริบตาเดียว ยังพูดว่าเราถูกล้อมรอบโดยแกเพียงผู้เดียว ตอนนี้แกยังบอกฉันอีกว่าแกเป็นคนใจดี ไม่ชอบแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงอีกเหรอ?”เริ่นโหย่วไฉเกือบจะกลอกตาไปด้านหลังศีรษะแต่เมื่อลองคิดดูดีๆ เขาเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?เขาเหลือบมองหลินเฟิง และเห็นได้ชัดจากท่าทางเยาะเย้ยว่าหลินเฟิงกำลังล้อเลียนเขาเป็นที่ชัดเจนว่าคำถามของหลินเฟิงในเวลานี้เป็นการเสียดสีต่อเริ่นโหย่วไฉเริ่นโหย่วไฉก็มีตอบสนองกลับมาได้ และรู้สึกซับซ้อนขึ้นมาทันใดเขาใช้ชีวิตเร่ร่อนในเมืองเจิ้งเต๋อมาครึ่งชีวิตแล้ว ระมัดระวังและหวาดกลัวอยู่เสมอ พยายามตัดสินใจเลือกทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุดแต่วันนี้การกระโดดซ้ำๆ ของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจนักบู๊เลยเขาไม่สามารถเข้าใจความสามารถของหลินเฟิงได้เลยยิ่งกว่าพระเอกบู๊
“ผิดแล้ว เถ้าแก่เริ่น จากที่ผมดู เป็นพวกคุณที่ถูกผมล้อมเอาไว้เพียงคนเดียว"อีกทั้ง......"รอยยิ้มของหลินเฟิงลึกมากขั้น“แถมยังส่งคนที่อยู่เบื้องหลังที่จัดการหลี่ซื่อกรุ๊ปของผมมาตรงหน้าผมอีกด้วย ประหยัดเวลาที่ผมไม่ต้องตามหาพวกเขาทีละคน มันสะดวกจริงๆ”“อ๊ะ? นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่? นายคนเดียวล้อมพวกเราไว้..”ก่อนที่ เริ่นโหย่วไฉจะพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจากความมั่นใจในชัยชนะกลายเป็นความตกตะลึงจากนั้นความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้นหลินเฟิงกระโดดออกจากห้องทำงานและกลายเป็นเงาที่พร่ามัวทันทีเขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มลูกสมุนจำนวนหลายร้อยคน ลำพังคนเดียวอย่างเปิดเผย“อ๊ากกกก!”"เอื้อกกก!"“อ้าก แขนฉัน แขนฉัน!”ท่ามกลางเสียงโอดครวญของพวกอันธพาลที่นี่ หลินเฟิงก็เหมือนกับสิงโตที่พุ่งเข้าใส่ฝูงแกะ และไม่มีใครหยุดเขาได้ด้วยซ้ำก่อนที่พวกอันธพาลเหล่านี้จะตอบโต้ หลินเฟิงก็ได้เคลื่อนไหวไปแล้ว เขาตัดแขนหรือต้นขาของพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการโจมตีหลายๆ คนมองเห็นเงาดำแวบผ่านไปและรู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อมองลงไป
“สหาย!”หลังจากที่เริ่นโหย่วไฉตะโกนใส่หลินเฟิง เขาก็มองไปที่กลุ่มสกายของเขาและออกคำสั่งเสียงดัง:"พวกนายแค่ลากผู้ชายคนนั้นออกไป!"“คุณชายจวงฉุนจะกลับมาแล้ว รอให้เขามาถึง เขาพายอดฝีมือของตระกูลหลง ก็สามารถฆ่าไอ้หมอนี่ได้โดยตรง!”"เรารอดูการแสดงก็พอ!""ดี!"ไม่พูดไม่ได้ว่า เริ่นโหย่วไฉหัวหน้าเล็กคนนี้มีเกียรติมากพอสมควรต่อหน้าพวกอันธพาลพวกนี้หลังจากเขาออกคำสั่ง ลูกสมุนพวกนี้ก็ล้อมรอบห้องทำงานที่หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียอยู่เอาไว้ท่าทางแบบนี้ ไม่ได้จะสู้ตายกับหลินเฟิงแค่อยากล้อมหลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียไว้ที่นี่เท่านั้น"ต่ำทราม!"อิ่นนั่วเจียก็มองความคิดของเริ่นโหย่วไฉออก ยกคิ้วขึ้นทันที จากนั้นชี้ไปที่เริ่นโหย่วไฉและพูดด่าทอ“ต่ำทราม? หึ อิ่นนั่วเจีย อย่าคิดว่าเธอเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งประเทศมังกร แล้วไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ!”“เธอในตอนนี้ไม่มีคนหนุนหลัง กลับยังอยากพึ่งพาตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมา เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”“น่ารังเกียจจริงๆ”อิ่นนั่วเจียกำหมัดแน่นจริงๆแล้วเริ่นโหย่วไฉก็พูดถูกครั้งนี้อิ่นนั่วเจียอยากสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการบันเทิงของประเทศมังกร ด้วยความพ
ครั้งนี้หลินเฟิงไม่ปล่อยไปอีกแล้ว คว้าคอเสื้อของเขาแล้วกดไว้กับผนังอย่างแรง“อ๊า!”เริ่นโหย่วไฉท้ายทอยกระแทกกับกับกำแพงอย่างแรงเจ็บจนเขาร้องโอดครวญออกมา“เถ้าแก่เริ่น ดูเหมือนคุณจะยังไม่สามารถเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจนนักนะ!”หลินเฟิงเข้าไปหาเริ่นโหย่วไฉแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม:"ตอนนี้ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้ายแล้ว"หลินเฟิงเอื้อมมือไปหยิบเช็คจำนวนยี่สิบห้าล้านจากในกระเป๋า ต่อหน้าเริ่นโหย่วไฉ“คุณอยากเป็นสุนัขของตระกูลหลง ถูกผมบีบคอตายตอนนี้ หรือคุณอยากจะบอกทุกสิ่งที่คุณรู้ให้ผมฟัง”เมื่อเห็นหลินเฟิงฉีกเช็คแล้วโยนลงพื้น ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็บิดเบี้ยวด้วยความเสียใจ“ฉัน...ฉัน...”เริ่นโหย่วไฉพูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาตกอยู่ในความสับสนอย่างสิ้นเชิง“ตัดสินใจไม่ได้เหรอ? งั้นผมช่วยคุณเอง”หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา ประสานนิ้วเข้าด้วยกันเพื่อรวบรวมกระแสพลังชี่แท้ แทงมันไปที่จุดตันเถียนของเขาทันใดนั้นพลังชี่แท้เป็นเกลียวถูกหลินเฟิงปล่อยเข้าสู่ร่างกายของเริ่นโหย่วไฉในขณะที่พลังชี่แท้ยังคงหมุนวนและขยายตัวต่อไปพลังชี่แท้นี้ยังคงกระแทกอยู่ในร่างของเริ่นโหย่วไฉไม่หยุด ทำให้เขาต้องกรี
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”เริ่นโหย่วไฉหน้าตาโศกเศร้าเขาเป็นเพียงเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าเล็กๆ ที่ต้องการสร้างรายได้ แม้ว่าจะมีอำนาจอยู่บ้าง แต่แค่ชื่อโรงงานเสื้อผ้าของเขาก็สามารถฟังออกโรงงานเสื้อผ้าหลงชิ่งจะเป็นโรงงานใหญ่โตอะไรได้ล่ะ?เงินที่เขาได้รับมาแค่พอเลี้ยงชีพพรรคพวกเมื่อครู่ได้เท่านั้นมีจวงฉุนจากตระกูลหลงมาก่อน บังคับให้ลูกน้องของเขาทำเครื่องแบบมากกว่าสิบชุดภายในเวลาไม่กี่วันใช้เพื่อปกปิดความเคลื่อนไหวของพวกเขาเขาจำนนต่อผลประโยชน์และการบังคับ ตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับจวงฉุนและคนอื่นๆ อย่างเชื่อฟัง แต่คิดไม่ถึงว่าวันถัดมา เขาจะกลับมาอวดดีกับเขาอีกเขาและพรรคพวกได้ทำลายอุปกรณ์มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านของหลี่ซื่อกรุ๊ป!แม่เจ้า นั่นมันหนึ่งหมื่นล้านเลยนะ!เมื่อได้ยินข่าวนี้เริ่นโหย่วไฉก็ตกใจจนสติแทบกระเจิง หากหลี่ซื่อกรุ๊ปตรวจสอบมาจนถึงเขาจวงฉุนของตระกูลหลงอาจจะสามารถหลบหนีไปได้ส่วนทางด้านเขาก็ซวย!ไม่ต้องพูดถึงการที่อิ่นนั่วเจียมาเยี่ยมเยียนด้วยตนเองแถมยังเอากดกระดุมของเขามาด้วย ซึ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นภายใต้การแสดง เงินทอง และออเดอร์ของอิ่นนั่วเจีย ในที่ส
“เขาขู่กรรโชคผมบ่อยมากในช่วงนี้”"ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีภูมิหลังอย่างตระกูลหลง ผมคงสั่งให้ลูกน้องของผมฆ่าเขาไปแล้ว!"เมื่อพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็กลายเป็นความจนปัญญา"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง"หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ จึงมองไปที่เริ่นโหย่วไฉแล้วพูดว่า:“อ่อใช่ครับ เรื่องกระดุมที่คุณเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ผลิตที่นี่จริงๆ ใช่มั้ยครับ”“ถูก...ถูกต้องแล้ว”เริ่นโหย่วไฉตกตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อยหลังจากที่เขาพูดสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ออกมา หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียก็ไม่ได้แสดงท่าทางกระวนกระวายหรือตึงเครียดอะไรออกมาตรงกันข้าม คนหนึ่งกลับสงบและมีสติมากกว่าอีกคน“พวกคุณอย่ากังวลเรื่องกระดุมเลย นี่มันก็สายมากแล้ว ผมคิดว่าจวงฉุนกับลูกน้องของเขาใกล้จะกลับมาแล้ว”"ถ้าคุณไม่ไปตอนนี้ ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว"เริ่นโหย่วไฉ่พูดเร่งด้วยความร้อนรนในเมื่อเขาต้องการให้อิ่นนั่วเจียหนีไปและมอบเงินเช็คคงเหลือจำนวนยี่สิบห้าล้านบาทให้เขา!หากอิ่นนั่วเจียถูกจวงฉุนจับได้ เขาจะไปเอาเงินจากใคร?ตอนนี้กลับเป็นเริ่นโหย่วไฉที่งวิตกกังวลมากที่ส