ซุนหยวนเหว่ยเตะฟางเลี่ยงไปจนล้มลงไปตอนนี้คนบ้านนี้ก็เลิกเสแสร้งแล้วจริง ๆซุนหยวนเหว่ยที่ชี้ไปทางฟางเลี่ยงที่นอนอยู่บนพื้น แล้วด่าทอว่า :“ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้สารเลวอย่างแก นอนมาตั้งสองปีก็ยังไม่ตาย ทั้งยังทำให้พวกเราเสียเวลาอยู่ที่นี่ทุกวันอีก!”“หากไม่ใช่เพราะแกเอาแต่ประคองชีวิตไปวัน ๆแล้วลูกสาวของฉันจะเป็นม่ายได้ยังไง? บางทีลูกสาวของฉันคงจะได้คบกับผู้ชายที่สูง หล่อและรวยไปแล้ว!”“พ่อ!”ซุนเชี่ยนที่อยู่ด้านข้าง ในที่สุดแล้วก็ทนต่อไปไม่ไหวเธอยืนขึ้นพร้อมกับร้องไห้และพูดว่า :“ที่ฟางเลี่ยงกลายเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะตระกูลซุนของพวกเรานะ! หากไม่ได้บริจาคไตของตัวเองให้ ซุนซินก็คงจะตายไปตั้งนานแล้ว!”“พวกคุณทำแบบนี้กับฟางเลี่ยงได้ยังไง?”“พวกเราทำอะไรกับเขา?”ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยพุ่งเข้ามาจับใบหน้าของซุนเชี่ยน แล้วตบไปสองครั้ง และกรีดร้องออกมาว่า :“พวกเราปฏิบัติกับเขาอย่างไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ? แล้วแกไม่ได้รู้หรอกเหรอว่า พวกเราให้เขาแต่งงานเข้ามาก็เพื่อที่จะให้เขาใช้ไตของเขาช่วยชีวิตลูกชายของฉันน่ะ!”“พวกเราก็ให้เงินสองล้านห้าแสนบาทกับครอบครัวพวกเขาไปแล้ว! แค่นี้ยังไม่พออีกเห
คนอื่น ๆในตระกูลซุนต่างก็หวังว่าฟางเลี่ยงจะตายเร็วกว่านี้ในเมื่อเขาหมดประโยชน์ไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ พ่อแม่ของฟางเลี่ยงย่อมรู้ดีอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สนใจการกระทำของตระกูลซุนเลยหลังจากที่เฝ้าดูลูกชายของตัวเองที่ถูกคนใช้ประโยชน์เสร็จแล้ว จากนั้นตระกูลซุนก็โยนทิ้งไปราวกับเป็นขยะบอกได้แค่ว่าซุนเชี่ยนกับฟางเลี่ยงเป็นแค่คนที่น่าสงสารถึงแม้ว่าซุนหยวนเว่ยกับคนอื่น ๆจะเป็นสัตว์ร้าย แต่พ่อแม่ของฟางเลี่ยงก็ไม่ใช่คนดีอะไรหลินเฟิงในตอนนี้ที่ยืนขึ้นมานั้นมองไปที่ซุนหยวนเว่ยอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นว่า:“ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ฟางเลี่ยงก็เป็นคนที่ช่วยชีวิต ซุนซิน ลูกชายของพวกคุณ หรือว่าพวกคุณก็ยอมให้ลูกชายของพวกคุณปฏิบัติกับฟางเลี่ยงและพี่สาวของตัวเองแบบนี้เหรอ?”“พวกคุณยังมีเกียรติกันอยู่หรือเปล่า?”“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ถึงกล้ามายืนกล่าวหาฉันที่นี่ได้?”ท่าทางของซุนหยวนเว่ยยิ่งโกรธขึ้นไปอีกถึงจะรายล้อมไปด้วยผู้คุ้มกันตระกูลซุนของเขา ก็ยังกล้าที่จะพูดหน้าไม่อาย นี่ก็แสดงว่าไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสินะ!ดูเหมือนว่าคนนี้จะอวดดีเหมือนกับนังเด็กผู้หญิงคนนั้น“ซุนหยวนเว
“นี่....”เมื่อเห็นฉากนี้ ซุนหยวนเหว่ยก็มีปฏิกิริยานังเด็กคนนี้กับผู้ชายคนนี้ ที่แท้ก็เป็นนักบู๊กันทั้งคู่! คิดไม่ถึงว่าผู้คุ้มกันที่ตระกูลซุนจ้างมา ต่อหน้าผู้ชายคนนั้นจะอ่อนแอได้ขนาดนี้!“แก...แกเป็นใครกันแน่?!”ซุนหยวนเหว่ยรู้สึกหวาดกลัว แล้วอุ้มลูกชายของตัวเองพร้อมกับถอยหลังไป“ฉันเป็นใคร?”หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “พวกคุณไม่สมควรที่จะรู้!”ในขณะที่พูดอยู่ หลินเฟิงก็รวบรวมพลังชี่แท้เอาไว้สองเส้นที่ปลายนิ้วก่อนจะสะบัดมันออกไปทันใดนั้นซุนหยวนเหว่ยก็รู้สึกเจ็บปวดที่เข่าของตัวเองอย่างที่ไม่สามารถจะทนได้ จนเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตุบ”และลูกชายที่ถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมแขนก็ล้มลงไปกับพื้นเช่นเดียวกัน ก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆซุนหยวนเหว่ยเงยหน้ามองไปเขาพบว่าในเวลานี้ตัวเองกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฟางเลี่ยงที่หมดสติ ทันใดนั้นก็รู้สึกอับอายขึ้นมา จนทำให้เลือดของเขาเดือดพล่านและทั้งใบหน้าเหลี่ยมก็แดงก่ำขึ้นมาทันที“ไอ้สารเลวอย่างแก แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?! ฉันเป็นประธานบริษัทการค้าเทียนเหว่ย และเบื้องหลังของฉันก็ยังมีแก๊
หลินเฟิงเหลือบมองซุนหยวนเหว่ย แล้วรู้สึกสับสนเล็กน้อย“ผมไม่ได้บอกไปแล้วงั้นเหรอ? สองล้านห้าแสนบาท เพื่อซื้อไตของฟางเลี่ยงกลับคืนมา”ขณะที่กำลังพูดอยู่ เขาก็ผลักซุนซินลงไปกับพื้น จากนั้นก็หยิบเข็มเงินที่หนาและยาวออกมาจากถุงผ้าที่ติดตัวมา“พ่อ....พ่อ พ่อ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย___!”ซุนซินมองแววตาที่สงบนิ่งของหลินเฟิง และสัมผัสได้ถึงความคมของเข็มเงินในมือของหลินเฟิง ก็หวาดกลัวอย่างมากจนต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุด“ไอ้...ไอ้สัตว์ร้าย แกปล่อยลูกชายของฉันนะ!”ซุนหยวนเหว่ยตกใจอย่างมาก ผู้ชายคนนี้ต้องการเอาไตของลูกชายตัวเองจริง ๆงั้นเหรอ?!“ขอร้องล่ะ ไม่เอา ไม่เอานะ!”หากบอกว่าซุนหยวนเหว่ยยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บ้าง ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยที่อยู่ข้าง ๆก็คงตกใจกลัวแทบตายแล้วต้องรู้ว่า ซุนซิน ลูกชายคนเล็กคนนี้ คือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอหากมีอะไรเกิดขึ้นกับซุนซิน เธอก็คงไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกเพราะอย่างนั้นภรรยาของซุนหยวนเหว่ยที่เห็นฉากนี้ ก็รีบหยุดด่าทอหลินเฟิง และอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงตรงหัวเข่า ก่อนจะก้มหัวขอร้องไปทางหลินเฟิง“คุณฆ่าฉันเถอะ ขอร้อง อย่าแตะต้องลูกชายของฉัน!”“พ่อ แ
“อ๊ะ?”คำพูดของหลินเฟิงทำให้ซุนหยวนเหว่ยและภรรยาคิดอะไรไม่ออก แต่ในตอนที่ทั้งสองตกตะลึง หลินเฟิงก็แทงเข็มเงินเข้าที่ช่องท้องส่วนล่างของซุนซิน“อ้ากกกก!”ทันใดนั้นซุนซินก็ส่งเสียงร้องดังลั่นออกมาทันที“พ่อแม่ ช่วยผมด้วย เจ็บมากเลย! ช่วยผมด้วยยยย!”เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงร้องขอความช่วยเหลือของลูกชาย ซุนหยวนเหว่ยก็เบิกตากว้าง พร้อมกับพุ่งเข้าไปหาหลินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง“ไอ้สัตว์ร้าย! แกปล่อยลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”“ฉันจะสู้กับแกเอง!”สามีภรรยาซุนหยวนที่สู้สุดชีวิตถูกอวี๋จื่อเสวียนเตะจนล้มลงไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวภรรยาของซุนหยวนเหว่ยล้มลงและหมดสติไปทันทีเพราะเลือดเดือดพล่านอวี๋จื่อเสวียนนั่งคร่อมซุนหยวนเหว่ย ก่อนจะจับผมของเขาแล้วยกหัวของเขาขึ้นมา และยัดเช็คสองล้านห้าแสนบาทที่หลินเฟิงโยนออกไปนั้น เข้าไปในปากของเขา “คุณดูให้ฉันดี ๆสิ!”“ชีวิตก็คือชีวิตของลูกชายตระกูลคุณ แล้วชีวิตของฟางเลี่ยง มันไม่ใช่ชีวิตงั้นเหรอ?!””“สองล้านห้าแสนบาท วันนี้คุณจะต้องรับมัน! แล้วจากนั้นก็ต้องดูลูกชายของเขา เอาของที่แย่งชิงมาจากฟางเลี่ยงคืนกลับไป!”“อื้อ อื้อ อื้อ....”ซุนหยวนเหว่ยดิ้นรนไม่
คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถพบแพทย์ได้ที่ศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวแต่เพราะชื่อเสียง จึงทำให้คนที่มาพบแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวมีค่อนข้างเยอะในวันปกติ ศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวแทบจะเปิดให้บริการเต็มที่แค่นัดหมายคิว ก็ต่อคิวไปสองเดือนแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขอให้คนของศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวมาบริการถึงที่บ้านเลยนี่เป็นสิทธิพิเศษที่สี่ตระกูลใหญ่จะมีได้!ที่จริงซุนเชี่ยนก็เคยนัดหมายให้ฟางเลี่ยงไว้แล้วเช่นกัน แต่พวกเขากลับดูถูกตระกูลซุนของพวกเขาถ้าอยากจะพบแพทย์ ก็ให้พวกเขาพาคนป่วยไปที่บ้านได้เลยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวจะให้การรักษาแก่ตระกูลซุนเล็ก ๆเพียงตระกูลเดียวได้อย่างไร? นอกจากว่าเธอจะสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงลิ่วได้สุดท้ายซุนเชี่ยนก็ทำได้เพียงยกเลิกไปเท่านั้นแต่ตอนนี้หลินเฟิงที่สามารถโทรหาคนของศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวความมั่นใจนี้ ทำให้ซุนเชี่ยนรู้สึกไม่สบายใจอาจารย์คนนี้ของอวี๋จื่อเสวียน จริง ๆแล้วเป็นใครกันแน่?เบื้องหลังของเขาคืออะไรกันแน่?......ไม่นานหลังจากนั้น ซุนหยวนเหว่ยก็ค่อย ๆได้สติและภาพแรกที่ได้เห็น
“พวกคุณ....”เดิมทีซุนหยวนเหว่ยคิดว่าทั้งสองคนนี้จะพาฟางเลี่ยงหนีไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะยังรออยู่ที่นี่การกระทำแบบนี้ ไม่สามารถเรียกว่าอวดดีได้อีกต่อไปแล้วเหมือนกับเป็นการขี้ใส่หัวของซุนหยวนเหว่ยแล้วยังยืมกระดาษจากเขาอีก!ซุนหยวนเหว่ยเกือบจะหายใจไม่ออก และเป็นลมด้วยความโกรธป้าจางที่อยู่ด้านข้าง ก็คอยรินชาให้กับหลินเฟิงและอวี๋จื่อเสวียนด้วยท่าทางที่ระมัดระวัง ทั้งยังคอยกระพริบตาให้กับซุนหยวนเหว่ย และยังใช้สายตาขอความช่วยเหลือไปทางซุนหยวนเหว่ยอีกด้วย“พวกแก....กล้ามากนะ!”ซุนหยวนเหว่ยโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว เขาถึงกับต้องจับราวบันไดเอาไว้ เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายตัวเองเขาชี้ไปที่หลินเฟิงและอวี๋จื่อเสวียนพร้อมกับพูดว่า :“พวกแกทำเรื่องชั่วร้ายขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังกล้าดื่มชากันที่นี่อีก?!”“พวกเราจะดื่มชากันที่ไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”อวี๋จื่อเสวียนมองไปที่ซุนหยวนเหว่ยด้วยแววตาเหยียดหยาม จากนั้นก็แบะปากและพูดขึ้นว่า :“อีกทั้ง พวกเราทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า? เพียงแค่ซื้อของที่คุณซื้อไป กลับคืนมาเท่านั้น”“แก....”ซุนหยวนเหว่ยโกรธจนพูดไม่ออกสักประโย
ป้าจางก็กลัวเช่นเดียวกัน เธอไม่เคยเห็นซุนหยวนเหว่ยมีท่าทางที่ดุร้ายอย่างนี้มาก่อนเลยเธอไม่กล้าขัดขืน ก่อนจะรีบกดปุ่มในห้องรับแขกเพื่อเปิดประตูเหล็กที่ด้านนอกคฤหาสน์ทันใดนั้นก็มีเสียงดังวุ่นวายเข้ามาเมื่อรับรู้ถึงเสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องเข้ามาใกล้ที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซุนหยวนเหว่ย“ยังอยากจะทำให้ฉันกลัวอยู่อีกเหรอ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?!”“ล่วงเกินฉัน ก็แสดงว่าหาเรื่องกับตระกูลจีและแก๊งเลี่ยหยางด้วย ฉันอยากจะรู้ว่าเบื้องหลังของแกมีอะไรกันแน่ ใครที่จะสามารถปกป้องแกได้!”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงคำรามที่ดุดันของซุนหยวนเหว่ย หลินเฟิงก็ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย แม้แต่แววตาที่มองไปทางซุนหยวนเหว่ยก็ยังเต็มไปด้วยความสงสาร“ปัง!”เพียงแค่เห็นประตูคฤหาสน์ที่จู่ ๆก็ถูกเตะเปิดออก ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทเดินนำหน้าเข้ามาเขาถือแท่งเหล็กอยู่ในมือ ในปากคาบบุหรี่ ทั้งยังสวมแว่นตากันแดดสีฉูดฉาดอีกด้วย ดูมีออร่าไปทั้งตัวอย่างมาก“ซุนหยวนเหว่ย ทำไมเปิดประตูก็ยังต้องใช้เวลานานขนาดนี้อีก? ใครกล้าทำเรื่องบ้า ๆในตระกูลซุนของคุณ?”ในขณะที่ชายในชุดสูทกำลังไต่ถาม
“รองผู้จัดการ ทางด้านผมเจอกับปัญหานิดหน่อย ต้องการเรียกกำลังจากฝ่ายธุรการมาหน่อยครับ”เสียงของหลงซิ่วที่ปลายสายอีกด้านฟังดูค่อนข้างกลัดกลุ้มเล็กน้อย“มีพวกเราจากฝ่ายธุรการแอบซ่อนอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อแค่สิบกว่าคน แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นยอดฝีมือ แต่คุณก็ควรทราบถึงความสำคัญของพวกเขา”“จะเปิดเผยตัวไม่ได้เด็ดขาด”"ผมทราบครับ"จางฉุนแสยะยิ้มและพูดว่า:“รองผู้จัดการวางใจได้ ผมแค่อยากจะแก้ไขปัญหาส่วนตัวบางอย่างเท่านั้น”"และผมรับรองกับคุณว่าจะไม่เปิดเผยตัวตนอย่างแน่นอน"“......”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหลงซิ่วซึ่งอยู่ปลายสายก็รับปาก“จงจำไว้ว่า คนพวกนี้นำมาใช้จัดการหลี่ซื่อกรุ๊ป เพื่อทำลายธุรกิจของพวกเขา จะให้พวกเขาเปิดเผยตัวตนในสายตาของหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้เด็ดขาด คุณเข้าใจไหม?”“วางใจเถอะครับรองผู้จัดการ!”จางฉุนวางสายโทรศัพท์ แล้วมองไปที่ประตูห้องทำงานที่อยู่ข้างหลังเขาทันใดนั้นรอยยิ้มอันน่ากลัวก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา"อิ่นนั่วเจียนะอิ่นนั่วเจีย ในเมื่อวันนี้คุณบังเอิญมาที่นี่ ก็อย่าโทษที่ผมทำอย่างไม่ท้อถอย!""จะโทษ ก็โทษที่คุณหุ่นดีขนาดนั้น หน้าตาก็ยั่วยวนจิตวิญญาณคนได้!"จางฉุ
“คุณจะทำอะไร?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและก้าวถอยหลัง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ชายคนนี้จะกล้าถึงขนาดแตะเนื้อต้องตัวเธอในที่สาธารณะ?“ฮ่าๆ อย่าเข้าใจผมผิดนะ”จางฉุนหยุดฝีเท้าลง และพูดด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ:“อันที่จริงจะบอกคุณก็ไม่เป็นไรครับ ผมคือรองผู้จัดการฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ผู้ช่วยของคุณหลงซิ่ว วันนี้ได้เจอกับคุณอิ่นนั่วเจีย ก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิต”“ไม่ทราบว่าต่อไปคุณอิ่นนั่วเจียมาร่วมมือกับตระกูลหลงของเราดีไหมครับ?”“แม้ว่าตระกูลหลงของเราจะไม่เชี่ยวชาญด้านวงการบันเทิงเท่ากับตระกูลซือหม่า แต่ผมรับประกันต่อคุณตรงนี้ได้เลย”“เพียงแค่คุณเข้าร่วมตระกูลหลงของเรา ผมจะให้คุณหลงซิ่วลงทุนเพื่อคุณ พาคุณไปสู่ระดับสูงที่ไม่เคยมีมาก่อน คุณว่าไงล่ะครับ?”จางฉุนคิดว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นน่าดึงดูดใจมากในเมื่อทุกครั้งที่เขายกสถานะของตระกูลหลงออกมา ก็จะได้รับการต้อนรับด้วยความกลัวและความเคารพจากผู้คนรอบข้างต่อให้เป็นอิ่นนั่วเจียที่โด่งดังในประเทศมังกร ในสายตาของเขาก็เป็นเพียงนักแสดงและผู้หญิงบริการก็เท่านั้นเธอจะกล้าขัดขืนตระกูลหลงได้อย่างไร?“ดังนั้นล่ะ สิ่งที่ต้องชำระคืออะไร
ต้องการดึงสติของพวกเขากลับมาแต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขายังคงไม่ได้สติดังเดิม เพิกเฉยต่อการกระแอมของหลินเฟิงโดยตรง"ทั้งสองท่าน!"หลินเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเพิ่มระดับเสียง“อ๊ะ? อะไร?”เมื่อหลินเฟิงเพิ่มเสียงดัง แม้แต่คางคกทองบนโต๊ะยังสั่น ชายทั้งสองถึงได้รู้สึกตัว“นี่คือโรงงานเสื้อผ้าหลงชิ่งใช่ไหม? ใครผู้จัดการโรงงาน?”หลินเฟิงมองไปที่พวกเขาทั้งสองเริ่นโหย่วไฉรีบยื่นมือออกไปและพูดด้วยรอยยิ้ม:“ผมเอง ผมเป็นผู้จัดการโรงงานเสื้อผ้าหลงชิง คุณเรียกผมว่าเถ้าแก่เริ่นก็ได้”"งั้นคุณคือ..."หลินเฟิงมองไปทางดูจวงฉุน“อ๊ะ เอ่อ ผมเอ่อ ผมชื่อจวงฉุน เป็น... ถือว่าเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้า”จวงฉุนกระแอมสองครั้งและเห็นได้ชัดว่าการแนะนำตัวเองของจวงฉุนได้รับการดูถูกอย่างมากจากเริ่นโหย่วไฉ“นักออกแบบแฟชั่นบ้าบออะไร! เขาเป็นลูกน้องของตระกูลหลงชัดๆ ถือว่ามีภูมิหลังของตระกูลหลงก็เลยหลอกลวงผู้คนไปทั่ว”“แฮ่มแฮ่ม…”เริ่นโหย่วไฉมองไปทางอิ่นนั่วเจียและยิ้มพูด:“ยินดีต้อนรับคุณอิ่นนั่วเจียที่มาเยือนเราในวันนี้! คุณมาที่โรงงานเสื้อผ้าเล็กๆ ของเราได้ช่างเป็นเกียรติมาก”แม้ว่าเริ่นโหย่วไฉจะตกต
คนผู้นี้โลภมากอย่างถึงที่สุดจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะเขามีตระกูลหลงอยู่เบื้องหลังเริ่นโหย่วไฉคงสั่งลูกน้องของเขาที่อยู่นอกประตู ให้ฆ่าผีดูดเลือดคนนี้ซะแต่ทว่าขณะที่จวงฉุนกำลังจะกล่าวอำลา ลูกน้องของเขาที่อยู่นอกห้องก็เคาะประตูห้องทำงานทันที“เถ้าแก่เริ่น มีผู้ชายและผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างนอกต้องการพบคุณ”“มีคนอยากพบฉัน?”เริ่นโหย่วไฉนิ่งอึ้งเล็กน้อย จากนั้นยกริมฝีปากขึ้นด้วยความดูถูกและพูดว่า:“ไม่พบ! ให้พวกเขาไสหัวไป หมาแมวข้างถนนที่ไหนก็สามารถมาหาฉันได้งั้นเหรอ?”“แต่ว่าเถ้าแก่…”ลูกน้องที่อยู่หน้าประตูพูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อยว่า:“ผมไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น แต่ผู้หญิงคืออิ่นนั่วเจีย”“ผู้หญิงคนนั้นคืออิ่น…”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ท่าทีของเริ่นโหย่วไฉก็เปลี่ยนไปอย่างมีชีวิตชีวามากขึ้นทันทีชื่อนี้คงคุ้นหูชาวประเทศมังกรแทบทุกคนอิ่นนั่วเจียคือซูเปอร์สตาร์แห่งประเทศมังกร!เธอคือสาวในฝันของชายหนุ่มหลายคนในประเทศมังกร ถึงแม้จะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ก็ต้องเคยดูหนังที่เธอแสดงนำมาแล้ว!อิ่นนั่วเจียไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือรูปร่างถือเป็นอันดับหนึ่งของประเทศมังกรเชียวนะ!แทบไม
หลินเฟิงลงจากรถ พร้อมกับอิ่นนั่วเจีย มองดูรอยไหม้ที่บนท้องถนนทีละรอย"เอ๊ะ?"หลินเฟิงพบกระดุมเม็ดหนึ่งที่ตกหล่นอยู่บนพื้นหญ้าริมถนนซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็น“นี่คือ......”ดวงตาของอิ่นนั่วเจียเบิกกว้าง ริมฝีปากสีแดงของเธอเปิดออก ใบหน้าตกตะลึงกระดุมเม็ดเล็กขนาดนี้ หลินเฟิงเห็นได้ยังไง?“รูปแบบของกระดุมแบบนี้... อืม ผมเดาดูนะ มันคงหลุดออกโดยไม่ได้ตั้งใจในตอนที่เขาเอื้อมมือไปดึงคนขับออกจากรถ สุดท้ายก็กลิ้งตกไปที่ข้างถนน”หลินเฟิงทำท่าทำทางบางอย่างภายใต้การจ้องมองของอิ่นนั่วเจียจากนั้นเขาจึงตรวจสอบอีกครั้งสุดท้ายก็พบว่าคนเหล่านี้ระมัดระวังมากพอจริงๆ นอกจากกระดุมที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเม็ดนี้แล้ว ก็ไม่มีร่องรอยใดๆ เหลืออยู่เลยจริงๆแต่แค่กระดุมเม็ดเดียวก็เพียงพอแล้วหลินเฟิงขับรถพาอิ่นนั่วเจียกลับเมืองเจิ้งเต๋อทันที และไปหาบริษัทออกแบบเสื้อผ้าเครือข่ายใหญ่แห่งหนึ่งภายใต้อิทธิพลของอำนาจเงินผู้หญิงที่ดูเหมือนผู้จัดการเอ่ยปากพูด“รูปแบบของกระดุมเม็ดนี้มีความพิเศษมาก มันคือกระดุมบนแขนเสื้อสูท จากการเปรียบเทียบของเรา กระดุมเม็ดนี้ได้รับการออกแบบมาจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหลงชิ่งในเมื
“คุณอย่าเพิ่งตื่นตระหนก”หลินเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง และพูดความสงสัยของตัวเองออกมา:“นอกจากการข่มขู่แล้ว คนเหล่านี้รู้เวลาและสถานที่ส่งมอบสินค้าที่แน่ชัดของบริษัทได้อย่างไร?”"คุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างไหม?""จริงด้วย!"อิ่นนั่วเจียอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี ดังนั้นสติปัญญาของเธอจึงไม่ได้แย่ เธอเข้าใจความหมายของหลินเฟิงได้ทันทีมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือมีหนอนบ่อนไส้หนอนบ่อนไส้ได้เปิดเผยเวลาและสถานที่ที่ชัดเจนในการจัดส่งให้โลกภายนอกทราบหากไม่เช่นนั้นคงไม่ทำให้พวกเขาทำสำเร็จได้ง่ายๆ"แต่ว่า......"อิ่นนั่วเจียรู้สึกลำบากใจ“เนื่องจากช่วงนี้บริษัทบันเทิงได้ขยายขนาดและจ้างพนักงานจำนวนมาก จึงทำให้มีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ในบริษัท ยากที่จะทำการคัดกรอง”“ผมจะไปที่นั่นหน่อย เจอหน้าแล้วไว้คุยกัน”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์ และขับรถบูกัตติ เวย์รอนไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ทางเหนือของเมืองเจิ้งเต๋อทั้งสวนถูกหลี่ซื่อกรุ๊ปซื้อเอาไว้หมดแล้วแม้ว่าสถานที่แห่งนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วมีสตูดิโอถ่ายทำโดยเฉพาะ อาคารบันทึกเสียง ห้อง
“อาจารย์หลิน คุณมีบุญคุณต่อฉันอย่างใหญ่หลวง ฉันอวี๋จื่อเสวียนไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้ ไม่สู้ถวายตัวให้...”"เอ่อ?"สาวๆ ที่มารวมตัวกันอยู่รอบโต๊ะอาหาร รวมถึงหลี่ฮุ่ยหราน หลินเสวี่ยฮุ่ย จ้าวหลิงเยว่และคนอื่น ๆ ทุกคนต่างมองไปที่อวี๋จื่อเสวียนอย่างไม่เป็นมิตร“พวก…พวกคุณมองฉันทำไม?”อวี๋จื่อเสวียนรู้สึกอึดอัดที่ถูกมอง จึงเกาหัวแล้วพูดว่า:“อาจารย์ศิษย์รักกันไม่ได้เหรอ?”“อาจารย์กับศิษย์...”หลินเฟิงไออย่างรุนแรงและจ้องมองอวี๋จื่อเสวียนอย่างดุดัน“เด็กเมื่อวานซืน เธอพูดเหลวไหลอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงพูดดุ แล้วมองไปที่ลุงอวี๋ที่อยู่ข้างๆ “ลุงอวี๋ คุณต้องสั่งสอนลูกสาวของคุณให้ดีๆ นะครับ”"เอ่อ?"ลุงอวี๋กลับหัวเราะแห้งๆ“ลูกสาวของฉันโตแล้ว เธอจะตัดสินใจเลือกเอง ฉันคิดได้แล้ว และในฐานะพ่อของเธอ ฉันควรสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ”"พ่อ!"อวี๋จื่อเสวียนน้ำตาคลอมองดูลุงอวี๋"หึหึ......"ลุงอวี๋ก็มองลูกสาวด้วยสายตาที่ชื่นชมเช่นกันเห็นได้ชัดว่า ลุงอวี๋ไม่ได้ต่อต้านหลินเฟิงเลย จากเมื่อก่อนที่ระวังเขา ตอนนี้เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้หลินเฟิงเป็นลูกเขยของเขาแล้ว“......”หลี่ฮุ่ยหรานถือชามแ
“อ๊ะ? ครับ ผมเข้าใจแล้ว”ตู้เผิงรีบตบหน้าอกของตัวเอง เพื่อบอกว่าไว้ใจเขาจัดการได้มีการรับรองจากรองหัวหน้าแก๊งเลี่ยหยาง อวี๋จื่อเสวียนถึงวางใจได้ในที่สุดรอให้ตู้เผิงได้ส่งทั้งสองออกไปอย่างเคารพเขาหันไปมองทางซุนเชี่ยนที่ซ่อนตัวอยู่ในครัว แล้วเผยรอยยิ้มกระอักกระอ่วนพูดว่า:“ไปกันเถอะคุณซุน”“ไป…ไปที่ไหน?”ซุนเชี่ยนแอบสังเกตห้องรับแขกผ่านร่องประตูห้องครัวมาโดยตลอด เมื่อเธอเห็นว่าตู้เผิงหันเป้าหมายมาทางเธอ เธอก็ตกใจกลัวจนสติกระเจิงทันทีต้องรู้ไว้ว่า คนของแก๊งเลี่ยหยางนั้นเป็นคนที่โหดร้ายฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา!หากเธอตกไปอยู่ในมือของพวกเขา เกรงว่าอยากตายก็ยังยาก“พาคุณออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะครับ อ่อใช่ ท่านหลินขอให้ผมช่วยประคับประคองคุณ ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นรองผู้จัดการแก๊งเลี่ยหยางของเราแล้ว!”“อ่อ...ฮะ?! อะไรนะ?!”เมื่อซุนเชี่ยนได้ยินสิ่งที่ตู้เผิงพูด เธอก็ตกใจจนตื่นเต้นไปหมดเธอจะต้องเป็นผู้จัดการของคนไร้ความปราณีที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตางั้นเหรอ?!”“ทำไมครับ? คุณซุนไม่เต็มใจเหรอครับ?”แม้ว่าตู้เผิงจะกำลังยิ้มอยู่ แต่จากฟิลเตอร์ที่น่าหวาดกลัวของซุนเชี่ยน เขา
ปู่ของเขาคือหมอเลี่ยวผู้โด่งดังระดับโลกเชียวนะ!หลานชายของหมอเลี่ยวเรียกอาจารย์หลินเฟิงงั้นเหรอ?ตู้เผิงนวดขมับของเขา ความตกตะลึงที่มีต่อหลินเฟิงไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้“ไปที่ห้องข้างๆ ก่อน พาคนที่ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วไปด้วย ที่ชั้นบนยังมีอีกคน”หลินเฟิงชี้ไปในทิศทางหนึ่งแล้วพูดว่า:“อ่อใช่ ฉันใช้พลังชี่ของฉันในการเย็บแผลบนร่างกายของพวกเขา ต้องใช้สมุนไพรสมบัติล้ำค่ากว่าร้อยปีเพื่อรักษาพลังชี่ของไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์”“คนที่อยู่ห้องข้างๆ ชื่อฟางเลี่ยง ค่ารักษาที่ต้องใช้จ่ายเรียกเก็บที่ฉันได้ ส่วนคนที่อยู่ชั้นบน เรียกเก็บจากตระกูลซุน”ได้ยินหลินเฟิงใช้คำพูดสั้นๆ อธิบายเรื่องที่น่าหวาดกลัวเลี่ยวจงตัวสั่นสะท้าน ท่าทางของคนทั้งคนก็ถ่อมตัวมากยิ่งขึ้นเลี่ยวจงในตอนนี้ อารมณ์ซับซ้อนอย่างถึงที่สุดอันดับแรกเขาได้ยินชัดเจนว่าหลินเฟิงใช้พลังชี่แท้เย็บแผล พลังชี่แท้จริงสามารถนั้นได้จริงหรือ?แพทย์แผนโบราณประเทศมังกรจะอัศจรรย์เกินไปหน่อยไหม?จากนั้นใช้สมุนไพรสมบัติล้ำค่าหลายร้อยประคองพลังชี่แท้ไว้ เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ก็สามารถรักษาหายได้?เลี่ยวจงงุนงงไปหมดวิธีการนี้เกินจริงไปหน่อยแ