“คุณเผิงกวงฉี่ถูกคนทำให้ด่างพร้อยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แถมญาติสายตรงของลูกน้องยังถูกทำร้าย”“เขาไม่อยากออกหน้า เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้!”“ถึงเวลานั้น…”ไม่รอให้ถังฮั่วพูดจบ ผู้อำนวยการเจียงปรบมือและหัวเราะพูดว่า:“หลินเฟิงคนนั้นต้องตายแน่ ความแค้นของลูกชายผม ก็สามารถแก้แค้นได้ในทันที“ถูกต้อง!”ถังฮั่วพยักหน้า ลำพองใจอย่างมากสถานการณ์อับจนแบบนี้ ไอ้หมอนั่นยังจะมีวิธีอะไรหลุดพ้นไปได้?ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ยังจะเป็นศัตรูกับเผิงกวงฉี่ เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงได้งั้นเหรอ?เส้นสายและทรัพย์สินของเผิงกวงฉี่มีมากมายจ้างคนมาไม่กี่คน ก็สามารถทำให้หลินเฟิงตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้แล้วทั้งสองคนวางแผนแบบนี้ สายตาเคร่งขรึมก็กวาดมองไปที่ตัวหลินเฟิงไม่หยุดหลินเฟิงสัมผัสได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจอะไรมากขนาดนั้น เพราะหยกจิ้งจอกชิ้นนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้รับความเสียหายอาจเป็นที่ห้องน้ำเมื่อครู่นี้ตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นลงมือจึงไปกระแทกโดนเอาเป็นว่า รอยแตกที่มีบนหยกจิ้งจอกเป็นเดิมทียิ่งอยู่ยิ่งกว้างขึ้น ถ้าหากหยกโมโรถูกนำออกมาล่วงหน้า เช่นนั้นปร
“อะไรนะ? แจกันหยกบริสุทธิ์ของสมัยประวัติศาสตร์?!”“ตระกูลถังเมื่อออกหน้าก็ใหญ่โตหรูหราจริงๆ เลยนะ!”“ของชิ้นนี้คงราคาเกินห้าร้อยล้านสินะ?!”ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังหึ่งอยู่โดยรอบ ถังฮั่วก็พูดเสียงดังอย่างลำพองใจว่า:“ของขวัญชิ้นนี้ ผมถังฮั่วแห่งตระกูลฮั่ว เป็นตัวแทนของตระกูลถังสาขาย่อยเมืองหนิงโจว ขอให้ท่านเผิงกวงฉี่ได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงมีเมตตา ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง!”“ดีดีดี ขอบคุณที่เปลืองแรง”เผิงกวงฉี่ยิ้มบาง พยักหน้าติดต่อกันตระกูลถังกับเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกัน และก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาถึงแม้ครั้งนี้คนของต้นตระกูลถังจะไม่ได้มา แต่ตระกูลย่อยมาถึง และมอบของขวัญที่ล้ำค่าให้ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วมิตรภาพแบบนี้ เขาจดจำไว้ในใจอยู่แล้วแจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ฉินโบราณ ตระกูลถังไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลใจบุญอันดับหนึ่งของประเทศมังกร สมบัติล้ำค่าระดับนี้ก็ยังยอมเอาออกมาได้”“ตระกูลถังใจกว้างจริงๆ!”ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาที่ด้านล่างเวที ถังฮั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี
ดังนั้นเขาจึงชี้หลินเฟิงพูดด้วยความโมโหว่า:“หลินเฟิง นายนับประสาอะไร ตอนที่พวกเรานำของขวัญแต่ละชิ้นออกมาต่างก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบแท้ปลอม แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้ของฉันจำเป็นของปลอมได้ยังไง?”“หรือว่านายคิดว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ตรวจสอบที่คุณเผิงกวงฉี่พามา?”“หึ”ชายชราที่ท่าทางเด็ดเดี่ยวนั่งอยู่ตรงแถวหน้า ส่งเสียงไม่พอใจออกมาเขาก็คือผู้ตรวสอบที่เผิงกวงฉี่เชิญมา เขาเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งหัวตงสมบัติล้ำค่าทุกชิ้น ก่อนจะขึ้นเวทีก็จะต้องผ่านมือของเขาก่อนอีกทั้งให้ราคาประมาณคร่าวๆหลินเฟิงแสดงความคัดค้านต่อหน้าทุกคน ถือเป็นการหักหน้าเขาชัดๆ“ไอ้หนุ่ม ฉันคือโปมู่แห่งเมืองเหยียนจิ้น จังหวัดปินโจ นนอกเรียกฉันว่าอาจารย์โป แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนั้นฉันเพิ่งดูเมื่อครู่นี้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอน!”“ถ้าหากนายตั้งใจทำตัวเด่นดึงดูดความสนใจ งั้นฉันพูดได้แค่ว่านายเลือกคนผิดแล้ว!”“อะไรนะ? อาจารย์โปงั้นเหรอ?”“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณเผิงกวงฉี่ แม้แต่อาจารย์โปก็ยังเชิญมาได้!”ได้ยินคำพูดของชายชราผู้เด็ดเดี่ยวสวมชุดขาว แขกที่อยู่ในงานก็เผยสีหน้าตกตะลึงออก
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป
หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้ายตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่ารถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขาเมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ “คุณหลิน....”ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง “คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลจ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดหลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว” “หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว” “และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป” “อ๋า”จ้าวเทียนหวาตกใจมาก “นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว” “ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้ง
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถเสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่นคาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมาเขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ” “หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วหลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก “หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้” “ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย” “จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับเธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง” “ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย” “ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”
“ปัง ๆ ๆ” เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องกันดังขึ้นลมฝ่ามือของฉินอิ๋งเหมือนมีดพลังแข็งแกร่งและเผด็จการทั้งสองได้เผชิญหน้าแลกเปลี่ยนกันมากกว่าสิบกระบวนท่าหลินเฟิงไม่มีความคิดที่จะฆ่าเธอ แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแม้ว่าการบำเพ็ญของเขายังไม่ฟื้นตัว แต่ฉินอิ๋งก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “ฉินอิ๋ง หยุดนะ”ในเวลานี้ ถังหว่านที่อยู่บนเตียงตะโกนอย่างรุนแรงฉินอิ๋งได้ยินแล้วจึงหยุดการโจมตีทันทีมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่หว่านเอ๋อ เด็กคนนี้...” “พอแล้ว”ถังหว่านพูดเบาๆว่า “หมอเทวดาหลินมารักษาโรค อย่าหยาบคายใส่เขา”คุณพ่อของฉินอิ๋งเป็นอาจารย์ของเธอเอง คำพูดของหลินเฟิงทำให้เธอไม่สบายใจแต่ในฐานะที่เป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง เป็นอัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ คิดอย่างใจเย็นเป็นสิ่งที่เธอควรทำ ในการต่อสู้ที่เมื่อกี้ถังหว่านก็สามารถดูออกว่าหลินเฟิง ดูคล่องตัว ความสามารถไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สู้กับฉินอิ๋งอย่างเต็มที่ถ้าเขาสู้เต็มที่ ฉินอิ๋งต้องแพ้แน่ และนี่คือสาเหตุที่เธอพูดให้หยุดสำหรับคำสั่งของถังหว่าน ฉินอิ๋งไม่กล้าไม่ทำตาม จึงได้แต่ถอยหลังไปอย่างเงียบๆถังหว่า
“ดูพอหรือยัง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูดแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่าหลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อยและชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง” “ฮา ฮา”ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ “ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ “ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”หลินเฟิงส่ายหัวเอาเข็มเงินเข็มออกมาปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนเข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ
ดังนั้นเขาจึงชี้หลินเฟิงพูดด้วยความโมโหว่า:“หลินเฟิง นายนับประสาอะไร ตอนที่พวกเรานำของขวัญแต่ละชิ้นออกมาต่างก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบแท้ปลอม แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้ของฉันจำเป็นของปลอมได้ยังไง?”“หรือว่านายคิดว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ตรวจสอบที่คุณเผิงกวงฉี่พามา?”“หึ”ชายชราที่ท่าทางเด็ดเดี่ยวนั่งอยู่ตรงแถวหน้า ส่งเสียงไม่พอใจออกมาเขาก็คือผู้ตรวสอบที่เผิงกวงฉี่เชิญมา เขาเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งหัวตงสมบัติล้ำค่าทุกชิ้น ก่อนจะขึ้นเวทีก็จะต้องผ่านมือของเขาก่อนอีกทั้งให้ราคาประมาณคร่าวๆหลินเฟิงแสดงความคัดค้านต่อหน้าทุกคน ถือเป็นการหักหน้าเขาชัดๆ“ไอ้หนุ่ม ฉันคือโปมู่แห่งเมืองเหยียนจิ้น จังหวัดปินโจ นนอกเรียกฉันว่าอาจารย์โป แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนั้นฉันเพิ่งดูเมื่อครู่นี้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอน!”“ถ้าหากนายตั้งใจทำตัวเด่นดึงดูดความสนใจ งั้นฉันพูดได้แค่ว่านายเลือกคนผิดแล้ว!”“อะไรนะ? อาจารย์โปงั้นเหรอ?”“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณเผิงกวงฉี่ แม้แต่อาจารย์โปก็ยังเชิญมาได้!”ได้ยินคำพูดของชายชราผู้เด็ดเดี่ยวสวมชุดขาว แขกที่อยู่ในงานก็เผยสีหน้าตกตะลึงออก
“อะไรนะ? แจกันหยกบริสุทธิ์ของสมัยประวัติศาสตร์?!”“ตระกูลถังเมื่อออกหน้าก็ใหญ่โตหรูหราจริงๆ เลยนะ!”“ของชิ้นนี้คงราคาเกินห้าร้อยล้านสินะ?!”ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังหึ่งอยู่โดยรอบ ถังฮั่วก็พูดเสียงดังอย่างลำพองใจว่า:“ของขวัญชิ้นนี้ ผมถังฮั่วแห่งตระกูลฮั่ว เป็นตัวแทนของตระกูลถังสาขาย่อยเมืองหนิงโจว ขอให้ท่านเผิงกวงฉี่ได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงมีเมตตา ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง!”“ดีดีดี ขอบคุณที่เปลืองแรง”เผิงกวงฉี่ยิ้มบาง พยักหน้าติดต่อกันตระกูลถังกับเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกัน และก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาถึงแม้ครั้งนี้คนของต้นตระกูลถังจะไม่ได้มา แต่ตระกูลย่อยมาถึง และมอบของขวัญที่ล้ำค่าให้ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วมิตรภาพแบบนี้ เขาจดจำไว้ในใจอยู่แล้วแจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ฉินโบราณ ตระกูลถังไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลใจบุญอันดับหนึ่งของประเทศมังกร สมบัติล้ำค่าระดับนี้ก็ยังยอมเอาออกมาได้”“ตระกูลถังใจกว้างจริงๆ!”ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาที่ด้านล่างเวที ถังฮั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี
“คุณเผิงกวงฉี่ถูกคนทำให้ด่างพร้อยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แถมญาติสายตรงของลูกน้องยังถูกทำร้าย”“เขาไม่อยากออกหน้า เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้!”“ถึงเวลานั้น…”ไม่รอให้ถังฮั่วพูดจบ ผู้อำนวยการเจียงปรบมือและหัวเราะพูดว่า:“หลินเฟิงคนนั้นต้องตายแน่ ความแค้นของลูกชายผม ก็สามารถแก้แค้นได้ในทันที“ถูกต้อง!”ถังฮั่วพยักหน้า ลำพองใจอย่างมากสถานการณ์อับจนแบบนี้ ไอ้หมอนั่นยังจะมีวิธีอะไรหลุดพ้นไปได้?ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ยังจะเป็นศัตรูกับเผิงกวงฉี่ เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงได้งั้นเหรอ?เส้นสายและทรัพย์สินของเผิงกวงฉี่มีมากมายจ้างคนมาไม่กี่คน ก็สามารถทำให้หลินเฟิงตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้แล้วทั้งสองคนวางแผนแบบนี้ สายตาเคร่งขรึมก็กวาดมองไปที่ตัวหลินเฟิงไม่หยุดหลินเฟิงสัมผัสได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจอะไรมากขนาดนั้น เพราะหยกจิ้งจอกชิ้นนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้รับความเสียหายอาจเป็นที่ห้องน้ำเมื่อครู่นี้ตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นลงมือจึงไปกระแทกโดนเอาเป็นว่า รอยแตกที่มีบนหยกจิ้งจอกเป็นเดิมทียิ่งอยู่ยิ่งกว้างขึ้น ถ้าหากหยกโมโรถูกนำออกมาล่วงหน้า เช่นนั้นปร
“ทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่งานประมูลการกุศลของผมเผิงกวงฉี่”“ถือว่าผมเพิ่งหายจากการป่วยหนัก จึงเลือกเวลา แสดงความขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ห่วงใยผมเผิง กวงฉี่”ไม่นานนักเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวบนบันไดตรงชั้นสองของโรงแรมเขาสีหน้าแดงระเรื่อ ดูราศีดี เวลาเดินไม่ต้องให้คนประคอง เอวและหลังก็สามารถยืดตรงได้“หึหึ”สัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคน เผิงกวงฉี่เดินลงจากบันไดช้าๆ และยิ้มพูดว่า:“เพราะว่าคนที่อยากมาเจอผมมาก อีกทั้งแต่ละคนต่างนำของขวัญต่างๆ มาให้ ดังนั้นผมคิดว่า จัดการประมูลการกุศลซะเลย”“ด้านหนึ่ง สามารถยืมสิ่งของของท่านมาแสดงน้ำใจไมตรี ยืมมือของทุกท่าน สนับสนุนการกุศล ถือว่าเป็นการทำเรื่องดี”“อีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าเปิดโอกาสครั้งใหญ่ ให้ทุกท่านได้รวมตัวกัน ไม่แน่อาจมีโอกาสได้ร่วมมือกันหรือทำเงินด้วยกันก็ได้”“ฮ่าฮ่าฮ่า…”หลังจากที่เผิงกวงฉี่พูดจบ ภายในห้องโถงมีเสียงปรบมือดังไปทั่วไม่เสียงแรงที่เป็นเผิงกวงฉี่คำพูดท่อนเดียวก็รัดกุมอย่างมากยืมของขวัญจากผู้อื่นที่มาเยี่ยมเขา ทำการกุศล ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากมอบของขวัญให้คนอื่นด้วยเหตุผลที่เหมาะสมถึงขั้นที่ยังถือโอกาสจัดการชุมนุ
“หลินเฟิง ฉันไม่อยากถามว่าลูกชายของฉันทำผิด หรือว่าเป็นความผิดของนาย”“ในเมื่อฉันเป็นพ่อของเจียงปิน จะตีสุนัขก็ยังต้องดูเจ้าของ ผมจะมองดูลูกชายของตัวเองถูกคนทำให้พิการไม่ได้ แถมยังประนีประนอมกับคนร้าย”“ในเมื่อฉันสู้นายไม่ไหว งั้นก็มีคนที่สู้กับนายได้!”เจียงจี้ถงส่งเสียงไม่พอใจและพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณเผิงกวงฉี่!”“ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของฉันกับคุณเผิง หลินเฟิง นายไม่สู้ถือโอกาสทำลายท่อนล่างของตัวเองอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กลับบ้านกับฉั คุกเข่าขอโทษลูกชายของฉัน!”“ไม่แน่นายอาจจะยังรักษาชีวิตต่ำๆ ของนายเอาไว้ได้”“ไม่อย่างนั้น…หึ”“ถูกต้อง เพียงแค่คุณเผิงกวงฉี่ลงมือ หลินเฟิง นายก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”ถังฮั่วก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาดูท่าถังฮั่วคนนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงจี้ถง เกาะติดเผิงกวงฉี่ถ้าหากเผิงกวงฉี่ลงมือจัดการหลินเฟิง งั้นหลินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยมีแต่ถังฮั่วที่เป็นแบบนี้ด้วยเส้นสายและความมั่งคั่งของเผิงกวงฉี่ จะฆ่าหลินเฟิงให้ตาย นั่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ใช่เหรอ?ถึงเวลาเขาไม่ต้องลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของห
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ไม่มีอะไรที่จารึกอยู่ในความทรงจำได้ดียิ่งกว่าเป็นแผลเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจิตใจชั่วร้าย แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ก่อนจะจ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ในขณะที่ตัวเองกำลังจะถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าถึงขั้นที่หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ในการป้องกันก็ตาม“แกร่ก!”เมื่อได้ยินเสียงแตก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนก็แสดงความภาคภูมิใจออกมาทันที ดูเหมือนว่ากระดูกจมูกของหลินเฟิงจะถูกหักน้ำมือของเขาเข้าซะแล้วแต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแปล๊บ ๆขึ้นมาตรงบริเวณกระดูกนิ้วของตัวเองเมื่อรอให้เขาจ้องมองดู ก็พบว่าสิ่งที่หักนั้นไม่ใช่กระดูกจมูกของหลินเฟิง แต่กลับเป็นนิ้วทั้งสี่ของตัวเอง“อ้าก_____!”สิบนิ้วเชื่อมต่อกับหัวใจ และความเจ็บปวดที่พามานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้ไหวยิ่งกว่านั้น การชกไปเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองหักทั้งหมดในทันทีแรงสะเทือนสะท้อนกลับ ทำให้ข้อมือและแขนของเขาทั้งหมดกลายเป็นโคลนที่ไม่มีกระดูกมารองรับเจ้าห
“คุณชายถัง ฉันจะกล้าหลอกคุณได้ยังไง?”“ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะทำให้คุณเสียสมาธิ คุณอย่าติดกับเขาล่ะ!”ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดมีเหตุผล แต่การแสดงออกของร่างกายก็เหมือนกับที่หลินเฟิงกล่าวไว้ ถังฮั่วระมัดระวังมากขึ้นจากั้นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาแอบหาแพทย์แผนจีนวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมที่อยู่มาท่ามกลางกลุ่มคนอย่างลับๆ และถามเสียงเบาว่า:“ผู้อำนวยการเจียง คุณดูร่างกายของผม มีความผิดปกติจริงๆ ใช่ไหม?”หมอหน้าเหลี่ยมคนนี้ ก็คือผู้อำนวยการเจียงและโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อที่เขาทำงานอยู่ และก็เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เมืองเจิ้งเต๋อเขาสามารถมาร่วมงานประมูลในวันนี้ได้ก็เป็นเพราะโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเผิงกวงฉี่พูดได้ว่า ทั่วทั้งหัวตง เขาเป็นผู้ที่มีสถานะต่ำที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขามาร่วมงานได้ เป็นเพียงเพราะเผิงกวงฉี่บังเอิญเลือกเมืองเจิ้งเต๋อเป็นสถานที่จัดงานไม่อย่างนั้นเขาไม่มีสิทธิเข้าร่วมหรอกแต่ในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการเจียงก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างเห็นคุณชายตระกูลถังขยับเข้ามาใกล้ ผู้อำนวยการเจียงรีบยิ้มให้ และยื