“ขอบคุณพระชายา!”เสี่ยวตงรู้สึกตื่นเต้นมากว่ากันว่าคนคนนั้นรูปงามกว่าผานอัน สาวๆ ทุกคนคงอยากเห็นความงามของเขาเมื่อเห็นเสี่ยวตงตื่นเต้นมาก เซี่ยเชียนฮวันก็ถูกกระตุ้นจนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกันนางคิดว่าถ้าได้ไปดูหนุ่มรูปงาม บางทีอาจจะรู้สึกดีขึ้น“ซังฉู่ซวินที่เจ้าพูดถึงอยู่ที่ใด? คงไม่ใช่บ๊วยห้าสมบัติจ้าวซุ่ยหรอกนะ”ถึงแม้เซี่ยเชียนฮวันอยากจะพบหนุ่มหล่อ แต่ก็ไม่อยากพบเซียวเย่หลันกับซูอวี้เออร์กระหนุงกระหนิงกันต่อหน้าต่อตาเสี่ยวตงส่ายหน้า “บ่าวได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เป็นท่านราชบุตรเขยที่เชิญมาเพื่อฮูหยิน เขาน่าจะจัดเวทีอยู่ที่ศาลาหลัวสุ่ย”ราชบุตรเขยผู้นี้เป็นสามีของเซียวหมิงหลานปีนั้น ในการสอบหน้าพระพักตร์ หลังจากที่เขาได้เป็นทั่นฮวา เขาก็ไม่สนใจชื่อเสียงและโชคลาภ ตอนนี้เขาไม่มีตำแหน่งในราชสำนัก นอกจากตำแหน่งราชบุตรเขยบางคนถึงกับบอกว่า ราชบุตรเขยบังเอิญตกหลุมรักองค์หญิงสี่ตั้งแต่แรกพบ จึงเข้าร่วมการสอบเพื่อแต่งงานกับนางดังนั้น ไม่ว่าองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองจะต่อสู้กันเช่นไร มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเซียวหมิงหลานและสามีของนาง เพราะหนุ่มสาวคู่นี้ไม่มีความทะเยอ
“ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีแต่จะทำให้คนโชคร้าย”“นางไม่ควรมาปรากฏตัวที่นี่”“ทำให้พวกเราไม่ได้รับดอกไม้ของซังฉู่ซวิน”เสียงเล็กๆ เหล่านี้ เหมือนกับแมลงวันที่น่ารำคาญ ซึ่งคอยส่งเสียงดังอยู่ในหูของเซี่ยเชียนฮวันเสี่ยวตงฉุนจัดจึงพูดเสียงดังขึ้นว่า “พระชายาได้รับดอกไม้ย่อมเป็นโชคของพระชายา พวกท่านโชคร้ายเอง ก็อย่ามาโทษพระชายา!”ทันทีที่สาวใช้ส่วนตัวของพระชายาเปิดปาก เหล่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทำได้แค่แอบกลอกตาเท่านั้นมีเพียงเซียวหมิงเซียนที่ลูบเล็บอยู่เท่านั้น ที่จงใจพูดเยาะเย้ย “พี่สะใภ้ไม่ควรอยู่ที่นี่จริงๆ เมื่อคืนท่านทำให้พี่เจ็ดโกรธ และวันนี้ก็ไม่อยู่ปรนนิบัติท่านพี่ แต่กลับดอดมาฟังละครด้วยตัวเอง นี่มันไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว”ทันทีที่นางพูดจบ ก็มีบางคนเสริมว่า “ข้าเพิ่งเห็นจ้านอ๋องกำลังเดินชมดอกบ๊วยอยู่กับพระชายารอง แม้ว่าพระชายาอยากจะปรนนิบัติ ก็คงไม่มีโอกาสหรอก”“ในฐานะภรรยาเอก แต่กลับถูกภรรยารองข้ามหน้าข้ามตา ช่างขายขี้หน้าจวนอันติ้งโหวยิ่งนัก...”“ใครบอกให้นางเทียบพระชายารองซูไม่ได้กันล่ะ...”มีเซียวหมิงเซียนเป็นผู้นำ เหล่าคุณหนูที่กำลังไม่พอใจที่แย่งดอกไม้ม
เซียวหมิงเซียนมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจการเล่นเฟยฮวาลิ่ง ประการแรก ไม่เพียงแต่ฆ่าเวลาเท่านั้น แต่ยังทำให้เซี่ยเชียนฮวันผู้โง่เขลาได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาอีกด้วยประการที่สอง ยังสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นถึงพรสวรรค์ของซืออวี้สวี่ ในฐานะจอหงวนอันดับหนึ่ง และพิสูจน์ว่าราชบุตรเขยของนาง ดีกว่าราชบุตรเขยของเซียวหมิงหลาน!เซียวหมิงเซียนภูมิใจมากและเป็นผู้นำในการพูด “เริ่มต้นด้วยข้า! ประโยคแรก ดอกไม้แดงจางหายง่ายดายดั่งใจคน สายธารไร้ที่สิ้นสุดประดุจดั่งกำสรวล!”นางพูดจบ ก็มองไปที่ซืออวี้สวี่ที่อยู่ข้างๆ นางซืออวี้สวี่ยิ้มน้อยๆ แล้วร่ายกวีต่อ “กังวลยามเห็นเรือแล่นลมอีกหน ในคลื่นขาวมีชายผมขาว”“คำว่า ‘ความเศร้า’ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อได้ แต่ท่านกลับตอบสนองได้เร็วมาก สมแล้วที่เป็นจอหงวน”“น่าชื่นชมจริงๆ”ทุกคนเริ่มยกย่องซืออวี้สวี่อีกครั้งตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าการประจบประแจงซืออวี้สวี่ ก็เหมือนประจบประแจงองค์หญิงแปดในแง่หนึ่ง มันจะทำให้องค์หญิงแปดมีความสุขมากกว่าถูกยกย่องโดยตรง “พี่เขย ตาท่านแล้ว”เซียวหมิงเซียนมองราชบุตรเขยตรงๆราชบุตรเขยกล่าวด้วยเสียงอันอ่อนโยน “สิ้นเดือนสี่บุ
แม้ว่าเซี่ยเชียนฮวันจะไม่ได้พูดถึงชื่อนามสกุลโต้งๆ แต่เซียงหมิงเซียนก็ฟังออกอย่างชัดเจนถึงการเสียดสีในคำพูดของนางวันนี้เสด็จพ่อทรงพระราชทานการอภิเษก ให้จอหงวนเป็นราชบุตรเขย เป็นช่วงจังหวะที่เซียวหมิงเซียนกำลังได้ใจเซี่ยเชียนฮวันกลับตั้งใจเลือกกลอนกวีประเภทนี้ในกลอนพูดถึงเมื่อดอกไม้ร่วงโรย คนก็ตายจากกันไป ไม่รู้จักกันนี่ไม่ใช่กำลังแช่งนาง กำลังเตือนนางว่าอย่าได้ใจเพียงเพราะเรื่องมงคลเรื่องเดียวอยู่งั้นหรือ?“เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าบังอาจนัก!”เซียวหมิงเซียนตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นผู้คนเห็นว่านางโมโห ทั้งหมดล้วนเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าออกเสียง!เซี่ยเชียนฮวันยิ้มบางๆ “องค์หญิงแปดเข้าพระทัยผิดแล้ว ทุกคนล้วนรู้ดีว่าข้าเป็นเพียงคนไร้การศึกษา แน่นอนว่านึกกลอนท่อนไหนออกก็โพล่งท่อนนั้นออกมา จะเป็นการสาปแช่งองค์หญิงได้อย่างไรกันเล่า”“เจ้า……”เซียวหมิงเซียนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อครู่นางทำให้เซี่ยเชียนฮวันต้องอับอายเรื่องไม่มีการศึกษา ตอนนี้กลับกลายเป็นเหตุผลในการแก้ต่างของเซี่ยเชียนฮวันไปได้!เซี่ยเชียนฮวันนางตัวดี อยากให้นางเสียหน้าแบบนี้สินะ!“อะแฮ่มๆ เสด็จน้องอย่าเพิ่
“เสด็จพี่ห้าพูดตลกแล้ว ข้าอารมณ์ดีมาก”เซี่ยเชียนฮวันวางมือบนหน้าท้องที่โตขึ้นทุกวัน แล้วยิ้มแย้มกลัวว่าเซียวจ้านจะไม่เชื่อ นางจึงเอ่ยเน้นอีกครั้ง “อารมณ์เสียเพราะคนเหล่านั้น ไม่คุ้มค่าหรอก”“ไม่เป็นไร เจ้าพูดความจริงกับข้าได้ ข้าไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง ไร้อำนาจในราชสำนัก ข้าไม่เอาความรู้สึกระหว่างเจ้ากับเจ้าเจ็ดไปทำเป็นบทความหรอก”เซียวจ้านมองนางด้วยสายตาอบอุ่น แววตาดูจริงใจ ไม่ล้อเล่นเลยบนตัวของบุรุษผู้นี้แฝงไปด้วยรังสีบางอย่างที่สามารถทำให้คนอื่นหลงเชื่อเขาได้ง่ายๆเขาเอ่ยต่อไปว่า “บางครั้งตัวเราเองก็ไม่อาจรับรู้ได้ว่าในใจของตนอึดอัดมากเพียงใด หากเก็บเอาไว้ไม่ยอมระบายมันออกมา นานเข้าจะเป็นผลต่อสุขภาพได้”“ท่านพูดถูก บางทีในใจข้าอาจจะไม่สบายจริงกระมัง”เซี่เชียนฮวันถอนใจเห็นด้วยกับความจริงข้อนี้ทั้งๆ ที่นางเองก็อยู่ในสวนดอกเหมยเช่นกัน แต่เซียวเย่หลันกลับสนใจแต่ซูอวี้เออร์ ทำให้นางกลายเป็นเรื่องน่าขันของเซียวหมิงเซียนและคนอื่นๆนางไม่เชื่อหรอกว่าเซียวเย่หลันจะไม่รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนั้นจะตกเป็นที่ครหาของผู้อื่นเขาเพียงแค่ไม่สนใจก็เท่านั้นไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองหรือดูถูกเ
“เจ้าแน่ใจหรือว่าพระชายาไปที่ห้องของนางแล้ว?”ซูอวี้เออร์ยืนอยู่ใต้ทางเดินอันมืดมิด โดยที่ใบหน้าอันสวยงามของนางปราศจากอารมณ์ใดๆ จึงทำให้นางดูคล้ายผีร้ายที่น่าขนลุกสาวใช้ตอบว่า “แน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวเห็นกับตา”“ดีมาก”ซูอวี้เออร์หยิบเงินออกมาด้วยความพอใจ เพื่อตบรางวัลสาวใช้คนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครทำลายเรื่องดีๆ ของนางในคืนนี้!นางหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง หยิบธูปหอมที่เตรียมไว้ออกมา แล้ววางไว้บนเสาข้างประตูหนึ่งดอก อีกดอกวางไว้ที่ใต้เตียง จากนั้นก็จุดธูปอย่างเงียบๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ตอนนี้ นางแค่ต้องนอนอยู่บนเตียง และรอให้เซียวเย่หลันกลับมาเมื่อนางกับเซียวเย่หลันร่วมหอลงโลงกันอย่างราบรื่น บวกกับทานยาที่นางได้รับจากคุณชายโม่เฉิน นางก็จะตั้งท้องลูกของเซียวเย่หลันอย่างแน่นอน!เซี่ยเชียนฮวันผู้โง่เขลา หารู้ไม่ว่าได้เสียโอกาสให้นางแล้ว...หลังจากที่นางตั้งท้องลูกของเซียวเย่หลัน ไอ้สารเลวในท้องของเซี่ยเชียนฮวันจะยังมีความหมายอะไรอีก!ซูอวี้เออร์ปลดแพรบางออก มุมปากยกขึ้นสูง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกด้านหนึ่งตามที่สาวใช้พูด เซี่ยเชียนฮวันได้เปิดประต
“ตึกตึกตึก...”เซี่ยเชียนฮวันเหยียบกิ่งไม้และใบไม้ขณะวิ่ง นางเกือบจะล้มลงหลายครั้งแล้วขณะที่นางวิ่งนางก็วิ่งออกจากสวน และมาถึงป่าแปลกๆ แห่งหนึ่งมีนักฆ่าคนหนึ่งใช้ทางลัดเขาวิ่งมาจากด้านหน้าของเซี่ยเชียนฮวัน เขากับสหายโอบล้อมนางจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง!“ยอมรับชะตากรรมของเจ้าซะเถอะ มีดของพี่น้องข้ารวดเร็วมาก ข้าสัญญาว่าเจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ!”นักฆ่าแสดงปลายดาบของเขาที่ส่องแสงสะท้อนอันเย็นเยือกเซี่ยเชียนฮวันเม้มปากแน่นแล้วก้าวถอยหลัง “รังแกผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ พวกเจ้ายังนับว่าเป็นลูกผู้ชายอยู่อีกไหม!”“ฮ่าๆ พระชายา ท่านเข้าใจผิดแล้ว เดิมทีพวกเราก็รับจ้างทำสิ่งต่างๆ เพื่อเงิน และไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้ว!”“เจ้าเป็นผู้หญิงมีครรภ์แล้วอย่างไร มีคนแก่และเด็กมากมายที่เสียชีวิตด้วยดาบของเรา!”พวกนักฆ่าต่างเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วหัวเราะเสียงดังเซี่ยเชียนฮวันลอบกำหมัดแน่น “ไอ้พวกสารเลว...”ตกอยู่ในมือของสารเลวพวกนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดได้!นางบีบเข็มเงินแน่น พลางคิดหาทางหลบหนีอย่างรวดเร็ว ถ้าทําไม่ได้ก็สู้ตายไปข้างหนึ่ง“เอาล่ะ รีบฆ่านางได้แล้ว”นักฆ่าเหล
“เป็นไปไม่ได้ ถ้านางไม่ได้ตั้งท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า แล้วเจ้าจะปล่อยให้ท้องของนางใหญ่จนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร?”“พี่ใหญ่พูดถูก ดังคำกล่าวที่ว่าการศึกไม่หน่ายอุบาย จ้านอ๋องกรำศึกมาหลายปี ย่อมมีอุบายมากมาย เราไม่อาจมองข้ามได้”นักฆ่าทั้งสองเริ่มระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น หลังจากได้ยินคำพูดของเซียวเย่หลันเซี่ยเชียนฮวันแอบคิดในใจว่า นักฆ่าสองคนนี้ไม่ใช่คนไร้สมองและประมาท พวกเขายังรู้หลายสิ่งหลายอย่างไม่ว่าเซียวเย่หลันจะพูดจากใจ หรือเป็นกลอุบายเพื่อลดการป้องกันของนักฆ่า แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็ไม่สามารถพานางออกจากอันตรายได้“จ้านอ๋องฟังนะ หากเจ้าต้องการให้พระชายาของเจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าต้องให้พวกเราสองคนพี่น้องรอดชีวิต!”กริชในมือของนักฆ่าแทงลึกลงไปอีกสองสามมิลลิเมตร เข้าไปในท้องของเซี่ยเชียนฮวัน ทะลุเสื้อผ้าของนาง และแตะลงไปที่ผิวหากลึกลงไปอีกครึ่งนิ้ว เกรงว่า…เซียวเย่หลันสีหน้ามืดมน “ก็ได้”“งั้นเจ้าถอยออกไปก่อน!”“ยังไม่พอ ถอยไปอีก!”ตามข้อเรียกร้องของนักฆ่า เซียวเย่หลันก็ถอยหลังไปอีก จนกระทั่งเกิดระยะห่างระหว่างพวกเขาแต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ“พี่ใหญ่ ศ
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา