“นายแต่งงานแล้วเหรอ? ให้ตายเถอะ!”“แต่งกับคนสวยเหรอ? ฉันจะบ้า!”“ได้ยังไงกันเนี่ย! ให้ตายเถอะ...”เพราะว่าข้อมูลที่ได้รับมันรุนแรงเกินไป เขาก็เลยเดินวนไปวนมาตรงนั้นอยู่หลายครั้งก่อนจะกระทืบเท้าอีกหลายทีเพื่อจะบอกว่าเขาตกใจมาก ๆ!หลังจากตกใจไป จี้เยี่ยนโจวเหมือนนึกอะไรได้ “แต่ว่าแต่งงานก็แต่งงานสิ จะมีสัญญาแต่งงานไปทำไม?”ฟู่จิ้นหาน : ……ทำไมถึงต้องมีสัญญา?เขาคงจะพูดว่าเพราะเขารับเงินจากซูหรานมาก้อนหนึ่งถึงแต่งงานไม่ได้ใช่ไหม?เขาเป็นถึงคุณชายสามฟู่นะ ถ้าเกิดเขารู้ว่าตัวเองขายตัวเองเพื่อแลกเงินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ฟู่จิ้นหานเงียบไปเล็กน้อย แต่ในหัวของจี้เยี่ยนโจวกลับคิดบทละครของครอบครัวคนรวยได้แล้ว “นายคงไม่ใช่เพราะกลัวว่าเธอจะเข้ามาเพราะนายเป็นคุณชายสามหรอกใช่ไหม เธออยากได้เงินของนาย อยากได้สถานะจากนาย เพราะอย่างนั้นนายก็เลยทำไปเพื่อป้องกันใช่ไหม?”ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว ขี้เกียจจะอธิบาย“หรือว่าเพราะคนสวยท้องแล้วนายคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับนาย ก็เลยรอให้เธอคลอดแล้วค่อยสลัดเธอทิ้ง แบบทิ้งแม่แต่เก็บลูก?”ฟู่จิ้นหาน : ……อะไรกันนี่?เห็นว่าจี้เยี่ยนโจวยิ่งพูดยิ่งออกทะเล ฟู่จิ้นหา
ซูหรานไม่ได้คิดอะไรมากในตอนที่มาถึงบริษัท ทันทีที่เดินเข้าประตู เธอก็เห็นว่าพนักงานที่อยู่สำนักงาน พนักงานทุกคนต่างก็นั่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างคนต่างจัดการกับหน้าที่ของตัวเองซูหรานคิดว่าตัวเองน่าจะกำลังประสาทหลอนอยู่แน่ ๆเห็นได้ชัดว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งบริษัทรวมเธอแล้วก็มีแค่ห้าคนเท่านั้นขนาดให้โจวหมิงอวี้ประกาศรับสมัครไป ก็แทบไม่มีใครเข้ามาสมัครเลยด้วยซ้ำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้นี่มัน......“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ประธานซู”หญิงสาวตรงแผนกต้อนรับทักทายเธอพร้อมกับเผยรอยยิ้มบนใบหน้าออกมาซูหรานหันไปมองดูป้ายของบริษัทอีกครั้ง เพื่อจะยืนยันให้แน่ใจ ว่านี่คือ “ซิงหลานจิวเวลรี่” จริง ๆ จากนั้นเธอจึงยิ้มพร้อมกับทักทายตอบ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ!”ระหว่างทางเดินไปยังออฟฟิศ ทุกคนที่เธอพบต่างก็ทักทายเธอด้วยรอยยิ้มเธอเองก็ได้ยิ้มตอบพวกเขาทีละคนเช่นกันทันทีที่เข้าไปถึงออฟฟิศ เธอก็รีบโทรหาโจวหมิงอวี้เพื่อสอบถามทันที “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”เวลานี้โจวหมิงอวี้เองก็รู้สึกสับสนไม่ต่างกัน “ผมเองก็ไม่รู้ครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้ตั้งแต่เช้าก็มีคนแห่เข้ามาสมัครกันเต็มเลย แต่ละคนต่างก็มีประสบการ
หลังจากวางสาย เย่ถิงเซินก็ตั้งตารอที่จะได้พบกับสามีของซูหรานในคืนนี้เขารู้จักฟู่จิ้นหานเป็นอย่างดีฟู่จิ้นหานชินกับการเป็นคนเอาแต่ใจ หากเขามีใจให้ซูหรานจริง ๆ ต่อให้ซูหรานจะแต่งงานแล้ว มันก็จะไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาอยู่ดีเขาจะไม่ลังเลที่จะใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อทำให้สิ่งที่ขวางหูขวางตาของเขาหายไปแต่ถึงอย่างนั้น สามีของซูหรานคนนั้นก็ยังพอที่จะสามารถเพิ่มอุปสรรคให้กับฟู่จิ้นหานได้และจะดีกว่านี้อีกถ้าสามารถยุยงเขาให้เคลื่อนไหว และทำให้จิตสำนึกของฟู่จิ้นหานรู้สึกจนมุมจนยากที่จะถอนตัว!เย่ถิงเซินที่กำลังคิดอยู่ ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ จากนั้นก็บอกกับผู้ช่วยของเขา “ไปเตรียมช่อกุหลาบแล้วก็เลือกต่างหูรุ่นลิมิเต็ดของเย่ซือจิวเวลรี่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้มาที คืนนี้จำเป็นต้องใช้มัน!”......หลังจากวางสาย ซูหรานก็เกิดรู้สึกเสียใจขึ้นมาเชิญคุณชายใหญ่เย่มาที่บ้านแบบนี้ ถ้าเกิดว่าทำให้สามีตัวพ่อของเธอไม่มีความสุขล่ะ......ซูหรานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อลองถามดูทันทีที่กดโทรออก ก็กลับมีแจ้งเตือนขึ้นมาว่าอีกฝ่ายกำลังคุยสายอยู่หลังจากโทรหลายครั้งติดต่อกัน
เพื่อเป็นการมอบความบันเทิงแก่แขกผู้มีเกียรติอย่างเย่ถิงเซิน ซูหรานจึงกลับไปที่เจินหลินย่วนล่วงหน้าเพื่อเตรียมอาหารทันทีที่เธอเดินเข้าประตูไป เธอก็ได้กลิ่นอาหารลอยฟุ้งออกมาอาหารที่อยู่บนโต๊ะต่างก็เป็นเมนูที่เธอชอบทาน ทั้งสีทั้งกลิ่นทำให้อาหารดูน่าทานมาก ๆ “นี่......” ซูหรานแอบสงสัยว่าตัวเองเข้าผิดประตูหรือเปล่าในขณะที่เธอกำลังจะเดินถอยกลับเพื่อยืนยันให้แน่ใจ สามีตัวพ่อของเธอก็เดินออกมาจากห้องครัว“กลับมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง นี่เป็นจานสุดท้ายพอดี เดี๋ยวคุณไปล้างมือก่อน แล้วเราก็เริ่มทานกันได้เลย” ฟู่จิ้นหานถือจานผัดผักเอาไว้ในมือ บนตัวสวมเสื้อกันเปื้อน ราวกับเขาเป็นคนที่ลงมือทำกับข้าวด้วยตัวเองใบหน้าหล่อเหลานั้นเมื่อมาอยู่ในชุดนี้ก็แทบไม่ทำให้ดูด้อยค่าลงเลยแม้แต่น้อย กลับกัน นี่ยิ่งทำให้ทุกลมหายใจดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกซูหรานส่ายหัวเรียกสติสายตาจ้องมองไปยังโต๊ะอาหารด้วยความตกใจ “นี่คุณ......ทำเองเหรอ?”“คุณลองชิมดูสิ ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณไหมนะ” ก็ถ้าเธอจะเข้าใจแบบนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่ได้!“จุ๊......คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ หน้าตาก็หล่อ แถมยังเข้า
ซูหรานเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและเดินออกมา แต่เธอก็ต้องตกใจกับสีหน้ามืดมนของสามีตัวพ่อของเธอ“คุณว่าไงนะ?” นี่ใครไปยั่วโมโหเขากันเนี่ย? เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่รึไง!หรือเธอคิดไปเองงั้นเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหึงจากน้ำเสียงของเขาได้กันล่ะเนี่ย?ฟู่จิ้นหานจ้องไปทางซูหราน “คนที่คุณเชิญมา คือใคร?”“อ๋อ ฉันลืมบอกคุณไปซะสนิทเลย เขาคือคุณชายใหญ่เย่จากเย่ซือกรุ๊ปแห่งจิงเฉิง อีกเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้พวกคุณรู้จักกันนะ เขาเองก็อยากเจอคุณเหมือนกัน!”ซูหรานสังเกตเห็นว่าในตอนที่เธอพูดคำว่า “คุณชายใหญ่เย่” ออกมา ใบหน้าของสามีตัวพ่อของเธอก็ดูเหมือนจะมืดมนลงกว่าเดิมเย่ถิงเซิน......คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกส่งไปยังซิงหลานจิวเวลรี่ ก็น่าจะเป็นคนของเย่ถิงเซินแล้วล่ะเขาได้เตือนอย่างชัดเจนแล้วว่าให้อยู่ห่างจากซูหราน!ฟู่จิ้นหานจ้องมองซูหราน แล้วเงียบไปสักพัก ทันใดนั้นเขาก็ยิ้ม และพูดออกมาว่า “ในเมื่อเขาเคยช่วยคุณจัดการกับเรื่องใหญ่ เช่นนั้นผมเองก็ควรที่จะขอบคุณเขาด้วยเช่นกัน!”ซูหรานรู้สึกงุนงงนิดหน่อยแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ดูจากระยะทางเมื่อกี้ คุณชายใหญ่เย่บอกว่าอีกสิบน
“คุณซูครับ ผม......วันนี้ผมยังมีธุระที่ต้องไปจัดการครับ คงจะไปไม่ได้แล้ว!”เย่ถิงเซินมองดูรถสองสามคันที่ยังคงล็อคตัวเขาเอาไว้อยู่ ในใจเต็มไปด้วยความหงุดหงิดหลังจากพูดจบ สายก็ตัดทันทีซูหรานรู้สึกสับสนเล็กน้อยรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณชายใหญ่เย่กันแน่?ฟู่จิ้นหานที่อยู่ด้านข้างก็เดินตรงไปยังทางเข้า และกำลังจะเปลี่ยนรองเท้าเพื่อที่จะออกไปข้างนอก จากสีหน้าของซูหราน เขาก็เดาได้ว่าเย่ถิงเซินจะไม่มาแล้วแต่ดูเหมือนว่าเขายังคงต้องแสร้งทำต่อไปอยู่“ไปสิ!” ฟู่จิ้นหานทำท่าทีเร่งเร้าซูหรานลดสายตาลง “ไม่ต้องแล้วล่ะ คุณชายใหญ่เย่มีธุระนิดหน่อย มาไม่ได้แล้ว”“มาไม่ได้แล้วงั้นเหรอ? งั้น......ก็น่าเสียดายมากเลยน่ะสิ ผมคิดว่าจะได้มีโอกาสได้รู้จักเขาเสียอีก”ฟู่จิ้นหานถอนหายใจราวกับกำลังผิดหวัง และมองไปทางอาหารบนโต๊ะ “ไม่อย่างงั้น......พวกเราก็กินกันก่อนดีไหม?”“อืม” คงทำได้แค่นี้แล้วแหละ!ซูหรานเองก็หิวอยู่นิดหน่อยจริง ๆ เธอจึงลองชิมดูสองสามคำ ถึงได้รู้ว่ารสชาติแทบจะเทียบเท่าเชฟมืออาชีพเลยทีเดียวแต่เมื่อนึกถึงไข่ดาวที่ดูน่าสมเพช แล้วก็เบคอนไหม้ในตอนเช้า ซูหรานก็มองสา
“เกมจับผิดชู้อะไรพวกนี้ เธอก็เก็บเอาไว้เล่นกับพี่ซิวหนิงอะไรนั่นของเธอไปเถอะ”ซูหรานหัวเราะอย่างเย็นชาใส่ ก่อนที่จะกดวางสายซูอินคิดไม่ถึงว่าซูหรานจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เธอมองร่างของคุณชายสามฟู่และผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลอย่างไม่พอใจผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนเพิ่งจะมาถึงเมืองไห่เฉิง เธออยากที่จะเจอหน้าเขามาก เพราะงั้นเธอจึงโทรหาเขาทันทีที่ลงเครื่อง“จิ้นหาน ไม่เจอกันนานเลยนะ งานแข่งขันเครื่องประดับก่อนหน้านี้เดิมทีฉันควรจะได้มาพร้อมกับพี่ แต่เช่าอัน เขา......”เย่ซือเหยียนถอดแว่นกันแดดของเธอออก พร้อมกับปัดผมที่ปกคลุมแก้มซ้ายของเธอ จากนั้นก็เผยให้เห็นรอยช้ำที่มุมหางตา เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะการถูกทำร้ายฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว“ตั้งแต่ที่ฉันฟ้องหย่ากับเขา เช่าอันก็คอยรบกวนฉันมาโดยตลอด แต่ว่าในใจฉันมัน......” เย่ซือเหยียนมองไปทางฟู่จิ้นหานด้วยความคนึงหา เธอคาดหวังอยากที่จะเห็นความสงสารจากแววตาของเขาแต่ฟู่จิ้นหานแค่ขมวดคิ้ว สายตาที่มองเธอก็กลับมีแค่ความสงบนิ่งเท่านั้นหลังจากนั้นไม่นาน ฟู่จิ้นหานก็พูดอย่างไม่แยแส “แล้วของล่ะ อยู่ไหน?”หากไม่เป็นเพราะสา
“ผมเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน”ฟู่จิ้นหานจ้องมองไปทางซูหราน แววตาที่กระตือรือร้นของเขาทำให้ซูหรานหน้าแดงซูหรานหลีกเลี่ยงสายตาที่เร่าร้อนของเขา และจ้องมองที่ขากางเกงของเขา “คุณพูดก่อน”“งั้นคุณก็หลับตาก่อน!” เขาอยากจะทำให้เธอประหลาดใจซูหรานขมวดคิ้ว ไม่รู้เลยว่าเขาพยายามจะเล่นกลอะไรอยู่กันแน่ แต่เธอก็ยังคงหลับตาลง จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่พักหนึ่ง และทันใดนั้นสามีตัวพ่อของเธอก็จับมือของเธอเอาไว้ขณะที่ซูหรานกำลังจะลืมตา สามีตัวพ่อของเธอก็เตือนขึ้นว่า “ห้ามลืมตานะ!”หลังจากนั้น ซูหรานก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เย็น ๆ อยู่บนข้อมือของเธอตั้งแต่ที่เธอศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเครื่องประดับมาหลายปี ซูหรานก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือสร้อยข้อมือเขามอบสร้อยข้อมือให้กับเธองั้นเหรอ?ซูหรานตกใจเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ เสียงของสามีตัวพ่อของเธอก็ดังก้องเข้ามาในหู“คุณย่าของผมบอกว่า ถ้าผมเจอคนที่ชอบ ก็ให้ผมมอบให้คนนั้น ซูหราน ตอนนี้ผมยกมันให้คุณแล้วนะ”น้ำเสียงของเขาทุ้มลึก ทั้งยังมีเสน่ห์ในหัวสมองของซูหรานแทบจะขาวโพลนไปหมด หลังจากนั้นครู่
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว