ไม่คุยกันทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ไห่ถงตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ําดอกไม้และต้นไม้ของเธอก่อน และชื่นชมดอกไม้เหล่านั้นอีกครั้งต้องบอกว่าเมื่อตื่นขึ้นมามองสวนเล็กๆ แห่งนี้ทุกวัน อารมณ์ของก็เบิกบานขึ้น และความไม่พอใจใดๆ ที่มีต่อ จ้านหยินก็หายไป เป็นเพราะสวนเล็กๆ แห่งนี้ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ที่จ้านหยินซื้อกลับมาหลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว ไห่ถงก็เข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าของพวกเขาทั้งคู่ในไม่ช้า จ้านหยินก็ลุกขึ้นเช่นกัน เขาเดินไปที่ประตูห้องครัว มองไปที่ร่างที่ยุ่งวุ่นวายของไห่ถง แล้วขยับริมฝีปากที่เม้มแน่น "ไห่ถง อรุณสวัสดิ์ครับ"ไห่ถงหันไปมองเขา "อรุณสวัสดิ์ค่ะ"“ผมสามารถช่วยอะไรคุณได้ไหม?”"ไม่ต้องค่ะ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อก็ไปช่วยฉันตากเสื้อผ้าแล้วกวาดพื้นหน่อย"จ้านหยินอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เกรงใจจริงๆแต่ปากเขาตอบเธอกลับว่า: "โอเคครับ"เขาหันหลังเดินจากไปไปช่วยไห่ถงตากเสื้อผ้า และเริ่มทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้แต่ก็มีแค่คู่สามีภรรยาอาศัยอยู่ ทั้งสองออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับมาตอนดึก ที่บ้านสะอาดมาก ก็คือจ้านหยินกวาดพื้น เขากวาดไปทุกซอกทุ
จ้านหยินสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสายตาของไห่ถง จางเหนียนเซิงนั้นหน้าตาดี แต่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ไหม?เขาหล่อกว่าจางเหนียนเซิงมากไม่รู้ว่าการมองทุละปุโปร่งของเธอ ให้คำนิยามเขาได้อย่างไร?ทันใดนั้น จ้านหยินก็อยากรู้มากไห่ถงรับสายเรียกเข้าจากจางเหนียนเซิง"พี่ไห่ถง อรุณสวัสดิ์""โทรหาพี่สาวเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเหรอ?""พี่ไห่ถง พี่กินอาหารเช้าหรือยัง ผมจะไปรับพี่ไปทํางานนะ ถือโอกาสเลี้ยงอาหารเช้าพี่ด้วย ไม่งั้นพี่เลี้ยงผมก็ได้"คําพูดของจางเหนียนเซิงมีความคาดหวังเล็กน้อยเมื่อคืนเขาช่วยเหลือกับพี่ไห่ถง วันนี้เขามีข้ออ้างที่จะไปรับพี่ไห่ถงมาเลี้ยงอาหารเช้า"ไม่ต้องล่ะ พี่กินใกล้จะอิ่มแล้ว พี่ทําอาหารเช้ากินเอง เดี๋ยวสามีพี่จะส่งที่ร้าน เธอไม่จําเป็นต้องมาที่นี่หรอก"ไห่ถงไม่รู้เรื่องที่จางเหนียนเซิงแอบชอบเธอ เธอแค่รู้สึกว่าบ้านของตระกูลจางอยู่ไกลจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้นมาก ตอนเช้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รถติดง่าย ไม่อยากให้จางเหนียนเซิงวิ่งมาไกลขนาดนั้น สุดท้ายก็ต้องติดอยู่บนถนนความคาดหวังของจางเหนียนเซิงกําลังไปได้ดี แต่เมื่อได้ยินประโยคของไห่ถงว่า "สามีของฉันจะส่ง"
"ย่าป่วยเป็นมะเร็งตับ แต่โชคดีที่เป็นระยะแรก"ไห่จื้อหมิงพูดทางโทรศัพท์ว่า "หมอแนะนําให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง พวกคุณสองพี่น้องอยู่ใจกลางเมืองและรู้เรื่องในเมืองดี คุณช่วยย่าไปรับบัตรคิวหาหมอและจัดการทุกอย่างหน่อย อีกสักพักพวกเราจะออกเดินทางและส่งย่าไปโรงพยาบาลในเมือง""พอย่ามาถึงแล้วจะได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ทันที ได้ยินว่าต้องวางเงินมัดจําล่วงหน้าก่อน คุณจำไว้ว่าต้องจ่ายเงินมัดจําไปก่อน แม้ว่าพ่อแม่ของคุณจะไม่อยู่แล้ว แต่ปู่กับย่าก็เป็นญาติของพวกคุณ หลายปีมานี้พวกคุณก็ไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดู ตอนนี้ย่าป่วย พวกคุณสองคนก็จัดการค่ารักษาพยาบาลของย่า คิดเสียว่าชดเชยค่าเลี้ยงดูตลอดหลายปีนี้แล้วกัน"หลังจากฟังลูกพี่ลูกน้องจัดแจง ไห่ถงก็หน้าเขียวเธอสูญเสียพ่อแม่เมื่อตอนอายุสิบขวบ เงินประกันที่ได้มาก็แลกมาด้วยชีวิตของพ่อแม่รวมเป็น 6 ล้านบาท ปู่กับย่าต้องขอแบ่งแม้จะสมเหตุสมผลเพราะพวกเขาเป็นพ่อแม่ของพ่อเธอ ปีนั้นสองพี่น้องยังเด็กอยู่จึงแบ่งเงินประกันให้ปู่กับย่าของเธอมากกว่าจำนวนที่พวกเขาสมควรได้รับอีกเธอรู้มากกว่านั้นอีกว่าหลังจากนั้นปู่กับย่าแบ่งเงินชดเชย 3,000,000 บาทให้ก
ทั้งคู่กินอาหารเช้าเสร็จอย่างเงียบๆ จากนั้นจ้านหยินก็ส่งไห่ถงไปทำงานเมื่อทั้งคู่ลงมาชั้นล่างด้วยกัน กลุ่มบอดี้การ์ดที่รอชั้นล่างก็เห็น ทุกคนต่างแกล้งทำเป็นคนสัญจรผ่านไปมาและแยกย้ายกระจายกันไปไห่ถงเห็นรถหรูหลายคันจอดอยู่ชั้นล่าง หนึ่งในนั้นคือโรลส์-รอยซ์และพูดกับจ้านหยินว่า "หมู่บ้านของเราเป็นหมู่บ้านระดับไฮโซเหรอเนี่ย ไม่คิดว่าจะได้เห็นโรลส์-รอยซ์ที่นี่"มีเงินซื้อรถหรูแพงขนาดนี้น่าไปอาศัยที่คฤหาสน์หลังใหญ่นะหรือเป็นเพราะสะดวกไปทำงานหรือส่งลูกไปโรงเรียนจึงมาเช่าบ้านที่นี่หรือเปล่า?เธอไม่เข้าใจโลกของคนรวยจ้านหยินส่งเสียงอืมก่อนตอบกลับ "หลายคนถึงเป็นคนรวยแต่ก็ทำตัวติดดิน"ไห่ถงคิดในใจว่าขับโรลส์-รอยซ์ นี่เรียกติดดินเหรอ?จ้านหยินขับรถตงเฟิงของเขาอย่างใจเย็นและส่งภรรยาของเขาไปทำงานเมื่อเขาจากไป กลุ่มบอดี้การ์ดก็มารวมตัวกัน พวกเขาต่างมองหน้ากันไปมาสุดท้ายทุกคนเห็นพ้องกันว่าควรขับรถตามคุณชายใหญ่ไปอย่างลับๆ หลังจากคุณชายใหญ่ไปส่งคุณนายแล้ว ก็ค่อยแวะรับคุณชายใหญ่พาไปบริษัทไห่ถงจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายข้างตัวเธอเป็นคนรวยที่แอบทำตัวซุ่ม เขามีรถยนต์หรูหราอย่างโรลส์-รอยซ์ แต่กล
ไห่ถงรับปากพี่สาวและตกลงไปทานอาหารเย็นพร้อมกับจ้านหยินในตอนเย็นหลังจากสองพี่น้องคุยกันจบ จ้านหยินก็ถามว่า "คุณกับญาติที่ชนบทมีความสัมพันธ์ไม่ดีมากเลยหรือ?""ใช่ค่ะ แย่มาก"ไห่ถงไม่ปิดบังและไม่ได้โกหก เธอพูดว่า "ตอนฉันอายุสิบขวบ พ่อแม่ของฉันก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตทั้งคู่ ญาติฝั่งพ่อและแม่ของฉันไม่มีใครรับดูแลเราสองคนพี่น้องเลย""แต่พอได้เงินประกันของพ่อแม่ฉันมา ก็ต้องเอามาแบ่งให้พวกเขา พวกพี่ๆ น้องๆ ลุงเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์มาแบ่งแต่ก็ยุยงให้คนแก่ออกหน้า พ่อของฉันเป็นลูกคนที่สี่ ปู่กับย่าไม่สนใจเขาเท่าไร ปู่ย่าชอบพวกลุงๆ อาๆ ของฉันมากกว่า"“เมื่อเห็นว่าพวกเขาต้องแบ่งเงินกันหลายคน เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งมากขึ้น พวกเขาจึงพูดในตอนนั้นว่าจะไม่ขอรับเงินหรือความช่วยเหลือใดๆ จากพี่สาวของฉันเมื่อแก่เฒ่า ดังนั้นพวกเขาจึงขอเงิน 3,000,000 บาทไปและลงนามในข้อตกลง พ่อแม่ของฉันมีบ้าน 2 ชั้นที่เพิ่งสร้างก่อนจะเสียชีวิต ปู่กับย่าก็เอามาอาศัยอยู่เอง และบอกว่าเพราะพ่อแม่ของฉันจากไปแล้วบ้านก็ต้องเป็นของพวกเขา”“เขาบอกว่าฉันกับพี่เป็นผู้หญิงทั้งคู่ โตขึ้นไปก็จะแต่งงานเข้าบ้านคนอื่น ไม่สามารถแ
เขาก็คิดว่าไห่ถงไม่ควรให้เงินแม้แต่บาทเดียวจะดีกว่าให้เงินแล้วจะโดนด่าว่าอกตัญญู ไม่ให้เงินก็โดนด่าว่าอกตัญญู งั้นก็ไม่ให้เลยดีกว่าตอนนั้นสองพี่น้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ ญาติพี่น้องเพิกเฉยต่อพวกเธออย่างใจร้ายใจดำ ไม่เพียงแต่แบ่งเงินประกันไปจํานวนมาก แต่ยังยึดครองทรัพย์สินด้วย ถ้าไม่ใช่ป้าคนโตรู้คิดบ้าง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสองพี่น้องไห่ถงรู้สึกว่าที่จ้านหยินพูดมีเหตุผล หลังจากคิดไปคิดมาก็พูดว่า "คุณจ้าน คุณพูดถูกค่ะ ฉันจะฟังคุณจะไม่ให้เงินแม้แต่บาทเดียวและไม่สนใจว่าพวกเขาจะว่าอะไรฉัน"ในปีนั้นพวกเขาทําเรื่องเช่นนั้น ยังไม่กลัวคนอื่นจะว่าอะไรเลยแล้วเธอต้องกลัวปากคนไปทำไม?ใครจะมาบอกกับเธอว่าปู่กับย่าอายุเยอะแล้วและเป็นปู่กับย่าแท้ๆ เธอจะด่ากลับอย่างแน่นอน หากใครมาเป็นเธอแล้วต้องเจอกับเรื่องแบบนั้น หากทำใจไม่ถือโทษตอบแทนคนทำร้ายด้วยความเมตตาได้ ตอนนั้นก็ค่อยมาว่าเธอแล้วกันไม่เจอกับตัวก็ไม่มีทางรู้สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดคือเอาศีลธรรมมาเที่ยวตำหนิคนอื่นไม่นานจ้านหยินก็ส่งไห่ถงที่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมต้นกวนเฉิงเวลานี้นักเรียนเข้าเรียนแล้ว ร้านค้ารอบโรงเรียนจึงไม่มีคนเ
หลังจากจ้านหยินกลับมาที่บริษัทแล้ว ก่อนเข้าห้องทํางานก็สั่งเลขาว่า "ช่วยแจ้งหัวหน้าผู้ช่วยพิเศษมาพบผมหน่อย"เลขารีบโทรหาหัวหน้าผู้ช่วยพิเศษซูหนาน "หัวหน้าซู ประธานจ้านต้องการพบคุณค่ะ ให้คุณขึ้นไปชั้นบนทันที"ซูหนานไม่ได้ถามอะไรแค่ตอบรับและวางสายไม่กี่นาทีต่อมา ซูหนานมาเคาะห้องทำงานของประธานและเดินเข้าไปจ้านหยินกําลังจัดการกับเอกสารอยู่ เมื่อเห็นเขาเข้ามา ชายหนุ่มก็วางปากกาลงและเชิญให้เข้ามา"มีเรื่องด่วนเหรอ"ซูหนานและจ้านหยินเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ความสามารถของเขาจ้านหยินจึงรู้ดี ซูหนานยังไม่ทันเรียนจบก็ถูกจ้านหยินทำสัญญาจ้างงานไว้ล่วงหน้าและกลายเป็นบุคลากรชั้นนำของจ้านซื่อกรุ๊ป หลังจากประสบความสำเร็จเขาก็ค่อยๆ กลายเป็นผู้ช่วยพิเศษของจ้านหยิน และได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากจ้านหยิน"ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรหรอก แค่เรื่องส่วนตัวอยากคุยกับนายลำพัง"หลังจากที่ซูหนานนั่งลง เขาก็ยิ้มและพูดว่า "นายบอกทางโทรศัพท์ก็ได้นี่"แม้ว่าจะเป็นหัวหน้าผู้ช่วยพิเศษ แต่บางครั้งจ้านหยินก็ขอให้เขาจัดการเรื่องส่วนตัวให้ ซูหนานเคยชินแล้ว"นายช่วยฉันตรวจสอบเรื่องหนึ่งได้ไหม?""ดูที่นายพูดสิ ฉัน
"ซูหนาน!"จ้านหยินค่อนข้างโกรธเขาแค่ทำเพื่อรักษาหน้าของตัวเองเท่านั้นจริงๆไห่ถงเป็นภรรยาของเขา หากไห่ถงถูกรังแก มันคือการตบหน้าของจ้านหยินและเขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น"ได้ๆ ไม่หัวเราะนายแล้ว นายทําเพื่อศักดิ์ศรีและเพื่อหน้าตาของตัวเอง ได้ฉันจะช่วยนายตรวจสอบเอง ภรรยาของนายชื่อไห่ถงใช่ไหม จริงๆ แล้วนายสามารถขอให้ลู่ตงหมิงช่วยได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยพิเศษของนายก็จริงแต่รับผิดชอบเรื่องของบริษัทเป็นหลัก ปกติยุ่งมากไม่มีแม้แต่เวลาดื่มน้ำสักแก้ว แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ยังให้ฉันทําอีก"จ้านหยินลุกขึ้นไปเทน้ำแก้วหนึ่งให้เขา "งั้นตอนนี้ดื่มน้ำสักแก้วก่อน กลัวว่าจะยุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำสักแก้วน่ะ""ฉันเข้ามานั่งตั้งนานขนาดนี้ แต่เพิ่งคิดจะเทน้ำให้เนี่ยนะ""ฉันคิดว่านายไม่ได้หิวน้ำนี่ เพราะถ้านายหิวน้ำก็เทดื่มเองได้ เราสองคนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร นายเคยทำตัวมีมารยาทต่อหน้าฉันด้วยเหรอ?"ซูหนานหัวเราะคิกคัก"ปากของตงหมิงไม่เก็บความลับได้เหมือนนาย"“นั่นก็จริง บางครั้งลู่ตงหมิงก็พูดมากเกินไป”ซูหนานอึ้งอยู่พักหนึ่ง"จําไว้ว่าช่วยฉันหาข้อมูลของทุกคนในตระกูลไห่ให้ชัดเจน" หลังจ
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้