ในที่สุดซางเสี่ยวเฟยก็ถูกพี่สะใภ้คนโตของเธอมารับตัวกลับไป ส่วนรถสปอร์ตที่ถูกชนนั้น ได้เรียกคนมาลากออกไปแล้วเมื่อพี่สะใภ้มารับเธอ ซางเสี่ยวเฟยยังพูดกับเธอว่า: "จ้านหยินชนรถของฉัน ซึ่งทำให้ฉันมีข้ออ้างที่จะมาหาเขาอีก พี่สะใภ้ ตั้งเมื่อฉันได้เลือกเดินทางนี้ ฉันต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ไม่ต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีในการตามจีบจ้านหยิน ฉันจะไม่ยอมแพ้""พี่สะใภ้ พี่ดีกับฉันมากที่สุด พี่ชายของฉันเชื่อฟังพี่มากที่สุด พี่ช่วยบอกพี่ใหญ่หน่อยนะ อย่ามายุ่งกับสิทธิในการตามหาสุขของฉัน"ซางเสี่ยวเฟยอิจฉาความรักของพี่ชายกับพี่สะใภ้มาก ตอนนั้นก็เป็นพี่สะใภ้ที่ริเริ่มจีบพี่ใหญ่ โดยใช้เวลาหนึ่งปีในการจีบพี่ชายของเธอ หลังแต่งงานกัน พี่ชายของเธอกลับหลงรักพี่สะใภ้คนโตพี่สะใภ้บอกกับเธอมาตลอดว่า ถ้าตอนนั้นไม่ได้ตามจีบอย่างไม่ลังเล ก็คงไม่มีชีวิตที่มีความสุขอย่างทุกวันนี้นายหญิงซางขับรถไปพูดพลางว่า "เสี่ยวเฟย พี่สะใภ้จะสนับสนุนคุณในการตามหาความสุขนะ แต่นั่นคือจ้านหยิน จ้านหยินมีชื่อเสียงเรื่องอะไรในกวนเฉิง? มีชื่อเสียงเรื่องไม่เข้าใหล้ผู้หญิง คุณเคยเห็นสาวๆ อยู่ข้างเขาไหมมาก่อนไหม?""อีกอย่าง ตระกูลพ่อ
จางเหนียนเซิงยิ้มและพูดว่า "ผมไม่รู้เหมือนกันครับ พี่ส่งรถมาให้ผมจัดการก็พอ ผมสัญญาว่าพรุ่งนี้จะคืนรถที่วิ่งได้ตามปกติให้พี่ไห่ถง"ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อน ซึ่งรู้จักกันมาหลายปีแล้ว ไห่ถงยังเชื่อใจจางเหนียนเซิงจึงพูดว่า "งั้นก็รบกวนเธอแล้วนะ"จางเหนียนเซิงมีความสุขมากที่เขาสามารถช่วยไห่ถงได้ เขาต่อสายโทรศัพท์ทันที แต่ไม่รู้ว่าเขาโทรหาใคร ไห่ถงได้ยินเขาบอกแค่ที่อยู่เท่านั้นหลังจากนั้น ก็มีคนสองคนกำลังรอผู้ชายมาลากรถบรรทุก......"นายน้อยครับ"คนขับมีสายตาดีมากเห็นหญิงอีกฝั่งของสัญญาณไฟจราจรซึ่งหน้าเหมือนนายหญิงมาก ระหว่างรอสัญญาณไฟแดง ก็หันไปหานายน้อยที่หลับอยู่แล้วพูดว่า “นายน้อยครับ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนนายหญิงเลยครับ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้จ้านหยินก็ลืมตาขึ้นและมองไปข้างหน้า เขาเห็นชายและหญิงคู่หนึ่งอยู่ข้างถนน เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร อาจเป็นเพราะระยะทาง แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับภรรยาของเขาจริงๆหลังจากอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกันมาระยะหนึ่ง จ้านหยินก็ค่อยๆคุ้นเคยกับรูปร่างของไห่ถง“เมื่อขับรถผ่านไปทีหลัง ให้ขับช้าลงเพื่อให้เช็คให้แน่ใจว่าเป็นเธอ”"โอเคครับ"จ้านหยินหยิ
"ต่อให้เขาเป็นคนปกติ เขาก็จะไม่คบค้าสมาคมกับคนธรรมดาอย่างพี่หรอก"ไห่ถงเพียงนินทาเกี่ยวกับคระกูลมหาเศรษฐีซึ่งเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้านในคืนงานเลี้ยงแล้วก็ลืมเขาไปอย่างที่เธอพูด ไม่ว่านายน้อยจ้านจะธรรมดาลงแค่ไหน ก็จะไม่มีวีนมากับเกี่นวข้องคนธรรมดาอย่างเธอหรอกเธอไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นคนชั้นล่างสุดของสังคม แต่ก็ไม่สูงเท่าไหร่ รู้จักคนที่รวยที่สุดนอกจากจางเหนียนเซิงนแล้ว ก็คือจางเหนียนเซิงแล้วจางเหนียนเซิงก็ถือเป็นนายน้อยตระกูลมหาเศรษฐีนายน้อยของตระกูลมหาเศรษฐีไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับเธอ และไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในชีวิตนี้จางเหนียนเซิงแค่หัวเราะ และไม่ได้พูดต่อเขาไม่เคยมองไห่ถงต่ําต้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าคนรวยคนอื่น ๆ จะมองไห่ถงต่ําต้อย เขารู้ว่าวงการชนชั้นสูงนี้ ล้วนพูดกันด้วยชาติตระกูลและฐานะเมื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่ แม้แต่คุณชายตระกูลจางอย่างเขาก็ต้องริเริ่มที่จะคบค้าสมาคมกับประธานเหล่านั้นและไม่อาจรับประกันได้ว่าจะได้รับความสนใจจากคนพวกนั้น"รถมาแล้ว"รถที่จางเหนียนเซิงเรียกมาจอดข้างถนน ผู้คนในรถลงจากรถแล้วเดินไปหาทั้งสองคน และเรียกจางเหนียนเซิงว่า "นายน้อย"
ปลุกเขา?คุณยายบอกว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าโทรหาเขาตอนนอนหลับแล้ว เพื่อปลุกเขาออกจากความฝันไห่ถงดูเวลา นี่มันเลยเที่ยงคืนแล้วปกติจ้านหยินกลับบ้านก็เวลาประมาณนี้ น่าจะยังไม่ได้นอนหรอกมั้งไห่ถงโทรหาจ้านหยินจ้านหยินยังไม่ได้นอน เขาจงใจล็อคประตู เขาทําแบบนี้ไปทำไม เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เมื่อเห็นไห่ถงและจางเหนียนเซิงอยู่ด้วยกัน ทั้งสองรู้สึกเหมาะสมกันมาก เขาจึงไม่พอใจหญิงใจร้ายคนนั้น เห็นได้ชัดว่ารู้สึกว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรมากมายจากเขา ก็เลยยุ่งกับการคนใหม่คุณยายก็โดนหลอกทั้งหมดแล้วคุณยายรู้จักไห่ถงมานานกว่าสามเดือนแล้ว เธอรู้จักไห่ถงดีแค่ไหน?แต่คุณยายเชื่อใจไห่ถงมากเพราะความกตัญญู และยังพูดว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ...เมื่อดูโทรศัพท์ดังไม่หยุด จ้านหยินไม่รับสายเสียงจากไห่ถงโทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่ง ไห่ถงก็วางสายไปโดยอัตโนมัติ แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็โทรมาอีกครั้งโทรมาสามครั้งซ้อน จ้านหยินจึงรับสาย"คุณจ้าน หลังหรือยังคะ?""มีอะไรหรือเปล่าครับ?"จ้านหยินถามเธอกลับอย่างเย็นชา"คุณล็อคประตูแล้ว ฉันเข้าไปไม่ได้ค่ะ"หลังจากจ้านหยินเงียบไปครู่หนึ่ง น้ําเสียงข
"ไห่ถง เราเซ็นข้อตกลงร่วมกันแล้ว ซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งปี เราก็สามารถหย่ากันได้ คุณรอให้เราหย่าแล้วค่อยหาคนใหม่ไม่ได้เหรอ? ต้องหาล่วงหน้าเลยหรอ ตอนนี้เรายังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณหาคนใหม่ก็คือสวมเขาให้ผม""แม้ว่าฉันจะไม่ชอบคุณและเป็นไปไม่ได้ที่จะตกหลุมรักคุณ แต่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ชอบภรรยาตัวเองมีชู้"จ้านหยินไม่ชอบเห็นเธออยู่กับจางเหนียนเซิงเขาหงุดหงิดและกําลังโกรธ โกรธที่เธอรีบคนใหม่และสวมเขาให้เขาจางเหนียนเซิงแอบชอบเธออยู่นะนั่นคือศัตรูรักของเขา!ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องการให้เกียรติกัน และเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของผู้ชายไห่ถงมองไปรอบ ๆ มองหาบางอย่าง แต่ไม่เห็นสิ่งใดที่มีสะดวก เธอโยนถุงในมือที่มีกุญแจ โทรศัพท์มือถือ และเงินไปที่จ้านหยิน เธอเคยเรียนซ่านโฉ่วมาก่อนและตีคนได้ค่อนข้างดีจ้านหยินไม่คาดคิดถึงการเคลื่อนไหวนี้จากเธอ และเขาถูกถุงเงินของเธอฟาดโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพราะข้างในมีกุญแจและโทรศัพท์มือถือ เธอจึงตีเข้าปากเขาอีกครั้ง หลังจากถูกตี จ้านหยินก็รู้สึกเจ็บปวดตรงปากของเขาเขาจ้องมองที่ไห่ถงด้วยใบหน้าที่มืดมนไม่มีใครกล้า
ใบหน้าของจ้านหยินบูดบึ้ง แต่หูของเขาแอบเปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะเขาเข้าใจไห่ถงผิด และไม่ใช่เพราะเขาขายหน้า จ้านหยินนั้นจะขายหน้าได้อย่างไร?"นี่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย!"ไห่ถงตอบกลับแค่อืมคราวนี้เป็นหน้าของจ้านหยินแดงไปหมดแล้ว“ผมไม่ได้ชอบคุณ ไม่ต้องพูดถึงรักคุณเลย แล้วผมจะหึงหวงได้ยังไงล่ะ ตราบใดที่คุณไม่นอกใจระหว่างแต่งงานกัน ผมก็ไม่สนใจว่าสุดท้ายคุณจะคู่กับใคร”“คุณไม่จำเป็นต้องย้ำซ้ำย้ำอีกว่าไม่ชอบฉันหรือรักฉัน ก็เหมือนกับว่าฉันชอบคุณและรักคุณมากล่ะ พอเราแต่งงานกันก็แค่อยู่ด้วยกัน ฉันจะบอกความจริงให้นะ ฉันไม่ได้อยากให้คุณแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ฉันแค่ไม่ต้องการให้พี่สาวฉันทะเลาะกับพี่เขยเรื่องของฉันอีก ฉันจีงรีบย้ายออกมา ฉันจึงตอบตกลงกับคุณยายของคุณไปจดทะเบียนสมรสกับคุณ เพื่อที่จะได้มีที่อยู่อาศัย "“ถ้าจะพูดฉันคิดจะเอาอะไรจากคุณ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการจากคุณ คุณมีบ้านฉันก็ได้อยู่ฟรี ประหยัดค่าเช่าได้มาก และทำให้พี่สาวของฉันรู้สึกสบายใจอีกด้วย”จ้านหยิน "..."บ้านของเขามีเสน่ห์มากกว่าตัวเขาเองเขาบอกว่าไม่ชอบเธอ ไม่รักเธอ พูดออกมาคล่องแคล้วมากแต่เมื่อฟังเธอบอกว่าไ
ไม่คุยกันทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ไห่ถงตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ําดอกไม้และต้นไม้ของเธอก่อน และชื่นชมดอกไม้เหล่านั้นอีกครั้งต้องบอกว่าเมื่อตื่นขึ้นมามองสวนเล็กๆ แห่งนี้ทุกวัน อารมณ์ของก็เบิกบานขึ้น และความไม่พอใจใดๆ ที่มีต่อ จ้านหยินก็หายไป เป็นเพราะสวนเล็กๆ แห่งนี้ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ที่จ้านหยินซื้อกลับมาหลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว ไห่ถงก็เข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าของพวกเขาทั้งคู่ในไม่ช้า จ้านหยินก็ลุกขึ้นเช่นกัน เขาเดินไปที่ประตูห้องครัว มองไปที่ร่างที่ยุ่งวุ่นวายของไห่ถง แล้วขยับริมฝีปากที่เม้มแน่น "ไห่ถง อรุณสวัสดิ์ครับ"ไห่ถงหันไปมองเขา "อรุณสวัสดิ์ค่ะ"“ผมสามารถช่วยอะไรคุณได้ไหม?”"ไม่ต้องค่ะ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อก็ไปช่วยฉันตากเสื้อผ้าแล้วกวาดพื้นหน่อย"จ้านหยินอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เกรงใจจริงๆแต่ปากเขาตอบเธอกลับว่า: "โอเคครับ"เขาหันหลังเดินจากไปไปช่วยไห่ถงตากเสื้อผ้า และเริ่มทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้แต่ก็มีแค่คู่สามีภรรยาอาศัยอยู่ ทั้งสองออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับมาตอนดึก ที่บ้านสะอาดมาก ก็คือจ้านหยินกวาดพื้น เขากวาดไปทุกซอกทุ
จ้านหยินสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสายตาของไห่ถง จางเหนียนเซิงนั้นหน้าตาดี แต่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ไหม?เขาหล่อกว่าจางเหนียนเซิงมากไม่รู้ว่าการมองทุละปุโปร่งของเธอ ให้คำนิยามเขาได้อย่างไร?ทันใดนั้น จ้านหยินก็อยากรู้มากไห่ถงรับสายเรียกเข้าจากจางเหนียนเซิง"พี่ไห่ถง อรุณสวัสดิ์""โทรหาพี่สาวเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเหรอ?""พี่ไห่ถง พี่กินอาหารเช้าหรือยัง ผมจะไปรับพี่ไปทํางานนะ ถือโอกาสเลี้ยงอาหารเช้าพี่ด้วย ไม่งั้นพี่เลี้ยงผมก็ได้"คําพูดของจางเหนียนเซิงมีความคาดหวังเล็กน้อยเมื่อคืนเขาช่วยเหลือกับพี่ไห่ถง วันนี้เขามีข้ออ้างที่จะไปรับพี่ไห่ถงมาเลี้ยงอาหารเช้า"ไม่ต้องล่ะ พี่กินใกล้จะอิ่มแล้ว พี่ทําอาหารเช้ากินเอง เดี๋ยวสามีพี่จะส่งที่ร้าน เธอไม่จําเป็นต้องมาที่นี่หรอก"ไห่ถงไม่รู้เรื่องที่จางเหนียนเซิงแอบชอบเธอ เธอแค่รู้สึกว่าบ้านของตระกูลจางอยู่ไกลจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้นมาก ตอนเช้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รถติดง่าย ไม่อยากให้จางเหนียนเซิงวิ่งมาไกลขนาดนั้น สุดท้ายก็ต้องติดอยู่บนถนนความคาดหวังของจางเหนียนเซิงกําลังไปได้ดี แต่เมื่อได้ยินประโยคของไห่ถงว่า "สามีของฉันจะส่ง"
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้