“ จ้านหยินไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถควบคุมได้ คุณควรแนะนำให้เธอยอมแพ้ นอกจากญาติของจ้านหยินแล้ว ก็ไม่มีหญิงสาวรอบกาย เขาเป็นคนที่ไม่มีคนรัก ไม่มีหัวใจ จะพูดอย่างไรเสี่ยวเฟยก็ไม่ยอมฟัง"ซางหวู่เหิงเอาน้องสาวไม่อยู่เหมือนกัน"ตอนนี้ผมยุ่งอยู่ ยังไม่มีเวลาไปหาเธอ ที่รัก ฝากเสี่ยวเฟยไว้ในมือคุณก่อน""คุณยุ่งเถอะ ตอนนี้ฉันจะไปรับเสี่ยวเฟย จะพาเธอไปช็อปปิ้งกับคุณแม่ด้วย ช่วงนี้คุณแม่อารมร์ไม่ดี"นายหญิงซางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่สามี เมื่อเห็นแม่สามีอารมณ์หดหู่ใจช่วงนี้ เธอจึงชวนแม่สามีออกไปช็อปปิ้ง เพื่ออาจจะทําให้แม่สามีมีความสุขขึ้นบ้างซางหวู่เหิงไม่พูดอะไรเขารู้ว่าสาเหตุที่แม่ของเขาหดหู่ใจก็เพราะว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับน้าสาวของเขาเลย ซึ่งน้าสาวคือสิ่งที่แม่ของเขาพูดถึงมากมาตลอดในชีวิตคุณหญิงซางเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า ครอบครัวของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ทิ้งเธอกับน้องสาวอายุสี่ขวบไว้คน สองพี่น้องถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า ต่อมาได้เจอกับคู่สามีภรรยาที่ร่ํารวยคู่หนึ่งมาที่สถานเลี้ยงเด็กกําพร้า เพื่อเลือกลูกอยากรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมสามีภรรยาคู่นั้นถูกใจน้องสาวข
ในที่สุดซางเสี่ยวเฟยก็ถูกพี่สะใภ้คนโตของเธอมารับตัวกลับไป ส่วนรถสปอร์ตที่ถูกชนนั้น ได้เรียกคนมาลากออกไปแล้วเมื่อพี่สะใภ้มารับเธอ ซางเสี่ยวเฟยยังพูดกับเธอว่า: "จ้านหยินชนรถของฉัน ซึ่งทำให้ฉันมีข้ออ้างที่จะมาหาเขาอีก พี่สะใภ้ ตั้งเมื่อฉันได้เลือกเดินทางนี้ ฉันต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ไม่ต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีในการตามจีบจ้านหยิน ฉันจะไม่ยอมแพ้""พี่สะใภ้ พี่ดีกับฉันมากที่สุด พี่ชายของฉันเชื่อฟังพี่มากที่สุด พี่ช่วยบอกพี่ใหญ่หน่อยนะ อย่ามายุ่งกับสิทธิในการตามหาสุขของฉัน"ซางเสี่ยวเฟยอิจฉาความรักของพี่ชายกับพี่สะใภ้มาก ตอนนั้นก็เป็นพี่สะใภ้ที่ริเริ่มจีบพี่ใหญ่ โดยใช้เวลาหนึ่งปีในการจีบพี่ชายของเธอ หลังแต่งงานกัน พี่ชายของเธอกลับหลงรักพี่สะใภ้คนโตพี่สะใภ้บอกกับเธอมาตลอดว่า ถ้าตอนนั้นไม่ได้ตามจีบอย่างไม่ลังเล ก็คงไม่มีชีวิตที่มีความสุขอย่างทุกวันนี้นายหญิงซางขับรถไปพูดพลางว่า "เสี่ยวเฟย พี่สะใภ้จะสนับสนุนคุณในการตามหาความสุขนะ แต่นั่นคือจ้านหยิน จ้านหยินมีชื่อเสียงเรื่องอะไรในกวนเฉิง? มีชื่อเสียงเรื่องไม่เข้าใหล้ผู้หญิง คุณเคยเห็นสาวๆ อยู่ข้างเขาไหมมาก่อนไหม?""อีกอย่าง ตระกูลพ่อ
จางเหนียนเซิงยิ้มและพูดว่า "ผมไม่รู้เหมือนกันครับ พี่ส่งรถมาให้ผมจัดการก็พอ ผมสัญญาว่าพรุ่งนี้จะคืนรถที่วิ่งได้ตามปกติให้พี่ไห่ถง"ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อน ซึ่งรู้จักกันมาหลายปีแล้ว ไห่ถงยังเชื่อใจจางเหนียนเซิงจึงพูดว่า "งั้นก็รบกวนเธอแล้วนะ"จางเหนียนเซิงมีความสุขมากที่เขาสามารถช่วยไห่ถงได้ เขาต่อสายโทรศัพท์ทันที แต่ไม่รู้ว่าเขาโทรหาใคร ไห่ถงได้ยินเขาบอกแค่ที่อยู่เท่านั้นหลังจากนั้น ก็มีคนสองคนกำลังรอผู้ชายมาลากรถบรรทุก......"นายน้อยครับ"คนขับมีสายตาดีมากเห็นหญิงอีกฝั่งของสัญญาณไฟจราจรซึ่งหน้าเหมือนนายหญิงมาก ระหว่างรอสัญญาณไฟแดง ก็หันไปหานายน้อยที่หลับอยู่แล้วพูดว่า “นายน้อยครับ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนนายหญิงเลยครับ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้จ้านหยินก็ลืมตาขึ้นและมองไปข้างหน้า เขาเห็นชายและหญิงคู่หนึ่งอยู่ข้างถนน เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร อาจเป็นเพราะระยะทาง แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับภรรยาของเขาจริงๆหลังจากอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกันมาระยะหนึ่ง จ้านหยินก็ค่อยๆคุ้นเคยกับรูปร่างของไห่ถง“เมื่อขับรถผ่านไปทีหลัง ให้ขับช้าลงเพื่อให้เช็คให้แน่ใจว่าเป็นเธอ”"โอเคครับ"จ้านหยินหยิ
"ต่อให้เขาเป็นคนปกติ เขาก็จะไม่คบค้าสมาคมกับคนธรรมดาอย่างพี่หรอก"ไห่ถงเพียงนินทาเกี่ยวกับคระกูลมหาเศรษฐีซึ่งเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้านในคืนงานเลี้ยงแล้วก็ลืมเขาไปอย่างที่เธอพูด ไม่ว่านายน้อยจ้านจะธรรมดาลงแค่ไหน ก็จะไม่มีวีนมากับเกี่นวข้องคนธรรมดาอย่างเธอหรอกเธอไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นคนชั้นล่างสุดของสังคม แต่ก็ไม่สูงเท่าไหร่ รู้จักคนที่รวยที่สุดนอกจากจางเหนียนเซิงนแล้ว ก็คือจางเหนียนเซิงแล้วจางเหนียนเซิงก็ถือเป็นนายน้อยตระกูลมหาเศรษฐีนายน้อยของตระกูลมหาเศรษฐีไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับเธอ และไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในชีวิตนี้จางเหนียนเซิงแค่หัวเราะ และไม่ได้พูดต่อเขาไม่เคยมองไห่ถงต่ําต้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าคนรวยคนอื่น ๆ จะมองไห่ถงต่ําต้อย เขารู้ว่าวงการชนชั้นสูงนี้ ล้วนพูดกันด้วยชาติตระกูลและฐานะเมื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่ แม้แต่คุณชายตระกูลจางอย่างเขาก็ต้องริเริ่มที่จะคบค้าสมาคมกับประธานเหล่านั้นและไม่อาจรับประกันได้ว่าจะได้รับความสนใจจากคนพวกนั้น"รถมาแล้ว"รถที่จางเหนียนเซิงเรียกมาจอดข้างถนน ผู้คนในรถลงจากรถแล้วเดินไปหาทั้งสองคน และเรียกจางเหนียนเซิงว่า "นายน้อย"
ปลุกเขา?คุณยายบอกว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าโทรหาเขาตอนนอนหลับแล้ว เพื่อปลุกเขาออกจากความฝันไห่ถงดูเวลา นี่มันเลยเที่ยงคืนแล้วปกติจ้านหยินกลับบ้านก็เวลาประมาณนี้ น่าจะยังไม่ได้นอนหรอกมั้งไห่ถงโทรหาจ้านหยินจ้านหยินยังไม่ได้นอน เขาจงใจล็อคประตู เขาทําแบบนี้ไปทำไม เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เมื่อเห็นไห่ถงและจางเหนียนเซิงอยู่ด้วยกัน ทั้งสองรู้สึกเหมาะสมกันมาก เขาจึงไม่พอใจหญิงใจร้ายคนนั้น เห็นได้ชัดว่ารู้สึกว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรมากมายจากเขา ก็เลยยุ่งกับการคนใหม่คุณยายก็โดนหลอกทั้งหมดแล้วคุณยายรู้จักไห่ถงมานานกว่าสามเดือนแล้ว เธอรู้จักไห่ถงดีแค่ไหน?แต่คุณยายเชื่อใจไห่ถงมากเพราะความกตัญญู และยังพูดว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ...เมื่อดูโทรศัพท์ดังไม่หยุด จ้านหยินไม่รับสายเสียงจากไห่ถงโทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่ง ไห่ถงก็วางสายไปโดยอัตโนมัติ แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็โทรมาอีกครั้งโทรมาสามครั้งซ้อน จ้านหยินจึงรับสาย"คุณจ้าน หลังหรือยังคะ?""มีอะไรหรือเปล่าครับ?"จ้านหยินถามเธอกลับอย่างเย็นชา"คุณล็อคประตูแล้ว ฉันเข้าไปไม่ได้ค่ะ"หลังจากจ้านหยินเงียบไปครู่หนึ่ง น้ําเสียงข
"ไห่ถง เราเซ็นข้อตกลงร่วมกันแล้ว ซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งปี เราก็สามารถหย่ากันได้ คุณรอให้เราหย่าแล้วค่อยหาคนใหม่ไม่ได้เหรอ? ต้องหาล่วงหน้าเลยหรอ ตอนนี้เรายังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณหาคนใหม่ก็คือสวมเขาให้ผม""แม้ว่าฉันจะไม่ชอบคุณและเป็นไปไม่ได้ที่จะตกหลุมรักคุณ แต่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ชอบภรรยาตัวเองมีชู้"จ้านหยินไม่ชอบเห็นเธออยู่กับจางเหนียนเซิงเขาหงุดหงิดและกําลังโกรธ โกรธที่เธอรีบคนใหม่และสวมเขาให้เขาจางเหนียนเซิงแอบชอบเธออยู่นะนั่นคือศัตรูรักของเขา!ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องการให้เกียรติกัน และเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของผู้ชายไห่ถงมองไปรอบ ๆ มองหาบางอย่าง แต่ไม่เห็นสิ่งใดที่มีสะดวก เธอโยนถุงในมือที่มีกุญแจ โทรศัพท์มือถือ และเงินไปที่จ้านหยิน เธอเคยเรียนซ่านโฉ่วมาก่อนและตีคนได้ค่อนข้างดีจ้านหยินไม่คาดคิดถึงการเคลื่อนไหวนี้จากเธอ และเขาถูกถุงเงินของเธอฟาดโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพราะข้างในมีกุญแจและโทรศัพท์มือถือ เธอจึงตีเข้าปากเขาอีกครั้ง หลังจากถูกตี จ้านหยินก็รู้สึกเจ็บปวดตรงปากของเขาเขาจ้องมองที่ไห่ถงด้วยใบหน้าที่มืดมนไม่มีใครกล้า
ใบหน้าของจ้านหยินบูดบึ้ง แต่หูของเขาแอบเปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะเขาเข้าใจไห่ถงผิด และไม่ใช่เพราะเขาขายหน้า จ้านหยินนั้นจะขายหน้าได้อย่างไร?"นี่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย!"ไห่ถงตอบกลับแค่อืมคราวนี้เป็นหน้าของจ้านหยินแดงไปหมดแล้ว“ผมไม่ได้ชอบคุณ ไม่ต้องพูดถึงรักคุณเลย แล้วผมจะหึงหวงได้ยังไงล่ะ ตราบใดที่คุณไม่นอกใจระหว่างแต่งงานกัน ผมก็ไม่สนใจว่าสุดท้ายคุณจะคู่กับใคร”“คุณไม่จำเป็นต้องย้ำซ้ำย้ำอีกว่าไม่ชอบฉันหรือรักฉัน ก็เหมือนกับว่าฉันชอบคุณและรักคุณมากล่ะ พอเราแต่งงานกันก็แค่อยู่ด้วยกัน ฉันจะบอกความจริงให้นะ ฉันไม่ได้อยากให้คุณแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ฉันแค่ไม่ต้องการให้พี่สาวฉันทะเลาะกับพี่เขยเรื่องของฉันอีก ฉันจีงรีบย้ายออกมา ฉันจึงตอบตกลงกับคุณยายของคุณไปจดทะเบียนสมรสกับคุณ เพื่อที่จะได้มีที่อยู่อาศัย "“ถ้าจะพูดฉันคิดจะเอาอะไรจากคุณ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการจากคุณ คุณมีบ้านฉันก็ได้อยู่ฟรี ประหยัดค่าเช่าได้มาก และทำให้พี่สาวของฉันรู้สึกสบายใจอีกด้วย”จ้านหยิน "..."บ้านของเขามีเสน่ห์มากกว่าตัวเขาเองเขาบอกว่าไม่ชอบเธอ ไม่รักเธอ พูดออกมาคล่องแคล้วมากแต่เมื่อฟังเธอบอกว่าไ
ไม่คุยกันทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ไห่ถงตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ําดอกไม้และต้นไม้ของเธอก่อน และชื่นชมดอกไม้เหล่านั้นอีกครั้งต้องบอกว่าเมื่อตื่นขึ้นมามองสวนเล็กๆ แห่งนี้ทุกวัน อารมณ์ของก็เบิกบานขึ้น และความไม่พอใจใดๆ ที่มีต่อ จ้านหยินก็หายไป เป็นเพราะสวนเล็กๆ แห่งนี้ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ที่จ้านหยินซื้อกลับมาหลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว ไห่ถงก็เข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าของพวกเขาทั้งคู่ในไม่ช้า จ้านหยินก็ลุกขึ้นเช่นกัน เขาเดินไปที่ประตูห้องครัว มองไปที่ร่างที่ยุ่งวุ่นวายของไห่ถง แล้วขยับริมฝีปากที่เม้มแน่น "ไห่ถง อรุณสวัสดิ์ครับ"ไห่ถงหันไปมองเขา "อรุณสวัสดิ์ค่ะ"“ผมสามารถช่วยอะไรคุณได้ไหม?”"ไม่ต้องค่ะ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อก็ไปช่วยฉันตากเสื้อผ้าแล้วกวาดพื้นหน่อย"จ้านหยินอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เกรงใจจริงๆแต่ปากเขาตอบเธอกลับว่า: "โอเคครับ"เขาหันหลังเดินจากไปไปช่วยไห่ถงตากเสื้อผ้า และเริ่มทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้แต่ก็มีแค่คู่สามีภรรยาอาศัยอยู่ ทั้งสองออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับมาตอนดึก ที่บ้านสะอาดมาก ก็คือจ้านหยินกวาดพื้น เขากวาดไปทุกซอกทุ