เมื่อรู้สึกว่าเขายังไม่ได้ออกไป ไห่ถงจึงหันกลับมาถามเขาว่า "มีอะไรอีกไหมคะ?"จ้านหยินเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไร""ผมกลับไปบริษัก่อนนะ""ค่ะ"ไห่ถงตอบส่งๆไป จากนั้นหันหน้ากลับมา และล้างจานต่อหลังจากมองดูแผ่นหลังของเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จ้านหยินก็หันกลับและเดินออกจากห้องครัวคุณยายจ้านกำลังเล่นกับโจวหยาง เมื่อเธอเห็นหลานชายเดินออกมา เธอพูดอย่างไม่พอใจ: "อาจ้าน ทำไมหลานไม่ไปช่วยไห่ถงล้างจานล่ะ เธอยุ่งตลอดบ่ายและเหนื่อยมากเลยนะ"ผู้ชายตระกูลจ้านรักภรรยามาก คุณยายจ้านเห็นว่าลูกชายของเธอมีเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับลูกสะใภ้มากทำไมเมื่อถึงคราวหลานชาย เขาไม่รู้จักเอาอกเอาใจภรรยาหลานชายบ้าง?“ไห่ถงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผม คุณยาย ผมจะกลับไปที่บริษัทก่อน”จ้านหยินพูด้วยเสียงทุ่มต่ำ แล้วเดินผ่านคุณยายไปคุณยายจ้านอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จ้านหยินก็เดินออกจากร้านหนังสือไปแล้ว สุดท้าย เธอก็ทำได้แค่ถอนหายใจ ไว้รอกลับบ้านไปค่อยพูดในสิ่งที่ต้องการพูดแล้วในไม่ช้า จ้านหยินก็ขับรถออกไปจากประตูโรงเรียนมัธยม Guanchengหลังจากขับรถออกไปนั้นไม่นาน เขาได้รับโทรศัพท์จา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนสองคนสามารถเป็นเพื่อนรักกันได้ เพราะทั้งคู่เหมือนกันวิธีที่ง่ายกว่านั้น คือการส่งเงินให้เลยตอนอยู่ในร้าน เขาก็บอกเธอว่า ไม่อาจเอาอาหารทะเลของซางเสี่ยวเฟยมาได้เปล่าๆ อยากโอนเงินให้เธอ และให้เธอโอนเงินให้ซางเสี่ยวเฟย แบบนั้นถึงจะไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณซางเสี่ยวเฟย แต่เธอปฏิเสธมัน ดังนั้นเขาก็ไม่มีอะไรจะพูดทั้งคู่ลบเพื่อนกันบน WeChat และไห่ถงยังบล็อกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาอีกด้วยไม่เพิ่มเพื่อนบน WeChat เขาจะให้อั่งเปากับเธอได้อย่างไร?จ้านหยินเสียใจเล็กน้อย เสียใจที่เขาเป็นคนใจแคบ และทำสงครามเย็นกับภรรยาเพียงเพราะเรื่องเข้าใจผิด และยังลบบัญชี WeChat ของเธออีกดูสิ ตอนนี้อยากกลับเพิ่มเพื่อนกันใหม่ แต่ไม่มีทางให้เขาไปต่อแล้ว......บริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์โจวหงหลินออกมาจากห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไปด้วยใบหน้าที่มียิ้มแย้มเมื่อเย่เจียนีเห็นหัวหน้ากลับมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข เธอก็เดินตามเขาเข้าไปในออฟฟิศทันที และปิดประตูออฟฟิศลง“ผู้จัดการโจวคะ บอสบอกอะไรคุณบ้าง? ฉันเห็นว่าหน้าของคุณนั้นมีความสุขมาก”โจวหงหลินวางเอกสารที่ได้รับการอนุมัติและเซ็นชื
“ตอนนี้เธอทั้งอ้วนและน่าเกลียดมาก ถ้าพาเธอไปที่นั่น มันจะทำให้ฉันอับอายและถูกหัวเราะเยาะเอาได้”หลังจากที่โจวหงหลินพูดจบ เขาก็หยิกแก้มสวยๆ ของเย่เจียนีและชมว่า: "ตอนนี้จะเอาเธอมาเปรียบเทียบกับคุณได้อย่างไรเจียนีอ่า หัวใจของฉันเต็มไปด้วยคุณแล้ว และฉันไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วต่อเธอเลยจริงๆ"“คราวก่อนแล้วเธอใช้มีดไล่ฉันไปบนท้องถนน ฉันยังคงยกโทษให้เธอไม่ได้ แม้ว่าเธอจะขอโทษฉันและปฏิบัติต่อฉันดีกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่ยังไงฉันก็ยังให้อภัยเธอไม่ได้ ถ้าวันนั้นฉันไม่วิ่งเร็ว คงจะโดนเธอแทงตายไปแล้ว”“นังผู้หญิงเลวคนนั้น ฉันรู้จักเธอมาหลายปีแล้ว แต่ฉันไม่ยักรู้ว่าเธอเลวขนาดไหนจนกระทังวันนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะหยางยางนะ ฉันไม่อยากกลับไปที่บ้านนั้นจริงๆ นอกจากนี้ แม่กับพี่ยังพูดอีกว่า บ้านหลังนั้นเป็นฉันที่ซื้อเอง แถมยังซื้อไว้ก่อนแต่งงานอีก แล้วฉันก็ยังจ่ายค่าผ่อนบ้านอยู่ แล้วทำไมฉันถึงปล่อยให้เธออยู่บ้านหลังนี้?”“เธอไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวของฉันอีกด้วย เจียนี คุณได้พบกับพ่อแม่และพี่สาวของฉันแล้ว คุณคิดว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไร?”เย่เจียนนี่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ใช้ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเ
วางงานที่ทำอยู่ในมือทันที และเย่เจียนีพาออกไปเขาเป็นผู้จัดการและเย่เจียนีเป็นเลขา เมื่อใดที่เขาออกไป เพื่อหารือธุรกิจ เขาก็จะพาเย่เจียนีไปด้วยเสมอ ดังนั้นเมื่อทั้งสองคนออกจากบริษัทด้วยกัน จึงไม่มีใครพูดอะไรมีเพียงแม่บ้านทำความสะอาดเท่านั้นที่ เห็นโจวหงหลินขับรถพาเย่เจียนีไปที่หน้าประตูบริษัท และพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเก่าแก่คนหนึ่งว่า "ผู้จัดการโจวเข้าขากับเลขาเย่ทั้งวัน ไห่หลิงไม่กังวลว่าผู้จัดการโจวจะนอกใจเหรอ?"ไห่หลิงเคยทำงานในบริษัทนี้มาก่อน จึงมีพนักงานเก่าๆ ยังจำไห่หลิงได้อยู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเก่าแก่มองแม่บ้านด้วยสายตา"เพิ่งจะรู้ตอนนี้เหรอ"หลังจากเขามองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่น เขาก็ลดเสียงลงและพูดกับแม่บ้านว่า "คุณทําความสะอาดทุกวัน และเป็นคนที่สามารถเดินไปทั่วทั้งบริษัทได้ ไม่รู้เลยจริงๆ หรือ ผู้จัดการโจวกับเลขาเย่เข้าขากันมานานแล้ว คุณไม่รู้จริง ๆอ่ะ"แม่บ้านส่งเสียงอ่าออกมาก่อน และซุบซิบถามทันทีว่า "คุณรู้ได้อย่างไร?""ใครมีตาก็ดูออก หลังเลิกงานเลขาเย่มักจะแต่งตัวสวย ๆ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ถือกระเป๋า LV ใบละ 100,000 - 150,000 บาท
เมื่อใกล้เวลาเลิกงานในตอนเย็น ซูหนานหิ้วเอกสารกองหนึ่งและเคาะห้องทํางานประธานจ้านหยินเงยหน้าขึ้นมองเขา และกลับยุ่งกับงานของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เขานั่งลงแล้ว จ้านหยินก็พูดกับเขาว่า "เลขาของคุณมีไว้เพื่ออะไร?""เลขาฉันท้อง ฉันสงสารเธอ ไม่อยากให้เธอวิ่งไปวิ่งมา เพราะกลัวจะเหนื่อย แล้วทำให้สามีมาคิดบัญชีให้ฉันน่ะสิ เลยมาด้วยตัวเอง"ซูหนานวางเอกสารกองหนึ่งไว้ที่หน้าเพื่อน"ฉันอ่านมาหมดแล้ว ไม่มีปัญหา คุณแค่เซ็นชื่อลงไปก็พอ"หลังจากที่ซูหนานวางเอกสารลง ก็ลุกขึ้นมาเทน้ําให้ตัวเองอีกแก้วหนึ่งก่อน จากนั้นนั่งดื่มน้ําไปพลางชายตามองไปที่ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจ้านหยินหน้าตาหล่อเหลา แม้ว่าเขาจะทําหน้าบึ้งทุกวัน มีสีหน้าจริงจังและเย็นชา แต่ก็ไม่สามารถปกปิดรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาไว้ได้เมื่อมองดูใบหน้าแบบนี้ หญิงสาวทุกคนที่เคยเห็นเขามานับหลายครั้ง มักจะคิดถึงเขาอย่างไม่ลืมอาจมีข้อยกเว้นไว้สําหรับผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นก็คือภรรยาของท่าประธานซูหนานยกย่องไห่ถงจริง ๆ ในเวลาเพียงแค่เดือนกว่า ๆ ก็สามารถเอาชนะใจที่โหดเหี้ยมที่สุดในจ้านซื่อกรุ๊ปของพวกเขาได้ จนออกดอกและใกล้จะบานแล้วประเด
"ไปด้วยกันไหม?"ไม่ว่าจ้านหยินจะที่พักอยู่ที่ไหน ล้วนมีไวน์ชั้นดีสะสมไว้มากมาย"ไม่เอา ฉันกลัวเมา คุณเมาแล้วมีคุณหญิงดูแลคุณ แต่ผมมันคนโสด เมาตายไปก็ไม่มีใครดูแล""ต้องพูดให้ตัวเองน่าสงสารขนาดนั้นเลย คุณก็ไปนัดบอดสิ แล้วก็แต่งงานสายฟ้าแลบ หาภรรยาสักคนมาดูแลไง"ซูหนานยิ้มและพูดว่า "จากบทเรียนจากคุณ ฉันจะรอการแต่งงานอย่างจริงใจแล้วกัน""ฉันทำไม? ฉันสบายดี!"“ใช่ๆ มันดีมากจริงๆ ใบหน้าของคุณที่ไม่อบอุ่นในช่วงที่ผ่านมา ประสิทธิภาพการทำงานได้รับแก้ไขแล้วอย่างมาก แต่ก็กลับทำให้คนในบัญชาของคุณต้องทนทุกข์ทรมาน ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีพนักงานทํางานล่วงเวลา และทํางานจนถึงดึกดื่นโดยอัตโนมัติมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบริษัท"จ้านซื่อกรุ๊ปจะไม่บังคับให้พนักงานทำงานล่วงเวลา ตราบใดที่ทำงานส่วนของตัวเองเสร็จแล้ว จะไม่ต้องทำงานล่วงเวลา แต่ยังสามารถเลิกงานเร็วได้อีกด้วยแต่ถ้าทำงานไม่เสร็จก็จะต้องทำงานล่วงเวลา งานในวันนั้นไม่สามารถเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ได้จ้านหยินอารมณ์ไม่ดี เป็นเพราะเนื่องจากสงครามเย็นกับภรรยา ดังนั้นจึงมุ่งความสนใจไปที่งานทั้งหมด ส่งผลให้ประสิทธิภาพของเขาพุ่งสูงขึ้น เขาสามารถทำงานของสา
เกี่ยวกับการนอกใจของโจวหงหลิน ซูหนานไม่แปลกใจเลยเขาพูดว่า "พี่สะใภ้ หลังแต่งงานมันเปลี่ยนไปมาก โจวหงหลินปีนขึ้นไปบนตําแหน่งที่สูงขึ้น และรายล้อมไปด้วยผู้หญิงรอบตัว คนไหนก็ดีกว่าพี่สะใภ้ของคุณหมด เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็จะรังเกียจพี่สะใภ้"ดวงตาของจ้าวหยินเย็นชา และเสียงก็เย็นชาพูดว่า "ที่เธอต้องเปลี่ยนไปขนาดนั้น ก็เพราะเธอรักเขา ไม่กลัวหุ่นเสีย มีลูกให้เขา หลังจากมีลูกแล้ว เพื่อให้เขาทํางานได้อย่างสบายใจ เธอก็เลี้ยงลูกและดูแลครอบครัวเอง เธอทอดทิ้งคือความเยาว์วัยและความสวยงามของเธอไปหมด"เขาก็ยอมรับว่าพี่สะใภ้เปลี่ยนไปมากก่อนและหลังแต่งงาน อย่างน้อยก็ควรลดน้ําหนักแต่นี่ไม่ใช่ข้ออ้างที่โจวหงหลินจะเอามานอกใจ มันไม่มีความความปราณีอยู่ในร่างกายของโจวหงหลินมานานแล้ว เมื่อก่อนแค่ยังไม่ระเบิดออกมา ตอนนี้เขาปีนได้สูงขึ้น ประสบความสําเร็จในหน้าที่การงาน มีภูมิใจในตนเอง ก็เลยดูถูกภรรยาที่น่ารังเกียจของตัวเองแล้วหากโจวหงหลินคิดว่ารูปลักษณ์ของไห่หลินตอนนี้น่าเกลียดเกินไป เขาก็ยังสามารถเตือนไห่หลิงให้ลดน้ําหนักได้ไห่หลิงยังมีความรู้สึกต่อเขาอยู่ ถ้าเขาเตือนเธอให้ลดน้ำหนักเชื่อว่าไห่หลิงเองก็จ
“พี่สะใภ้ พวกนี้คืออะไร?”จ้านอี้เฉินได้กลิ่นคาวๆของอาหารทะเล“อาหารทะเลน่ะ เพื่อนฉันเอามันมาฝาก หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวทะเล เธอให้มาเยอะมาก ส่วนใหญ่มันสด ฉันกับพี่เธอกินไปได้ไม่มากก็เลยเอาให้เธอกลับบ้านไปกินต่อน่ะ "จ้านอี้เฉินเหลือบมองคุณยาย และเห็นว่าเธอไม่ปฏิเสธอะไร เขาจึงพูดว่า "เยอะมาก"บ้านของพวกเขาไม่เคยขาดอาหารทะเลแต่พี่สะใภ้ของเขาให้มา เขาจึงควรช่วยนำมันกลับไปบ้าน“คุณยาย แบ่งปันให้ทุกคนได้ลิ้มลองค่ะ”ไห่ถงเตรียมไว้อย่างปราณีต สำหรับแต่ละครอบครัวซึ่งบรรจุในถุงแยก หลังจากกลับถึงบ้าน คุณยายจ้านก็หยิบมันออกมาและแบ่งออกเป็นส่วน ๆ แต่ละส่วนก็เหมือนกันทั้งหมด"โอเค ยายกลับไปแบ่งเอง"คุณยายจ้านรอให้อี้เฉินเอาอาหารทะเลใส่ในรถก่อน แล้วเธอก็ขึ้นรถตามไป เธอไม่ลืมที่จะพูดกับไห่ถง: "ไห่ถง ยายเพิ่งส่งข้อความถึงอาจ้านบอกให้เขามากินข้าวเย็นกับหลาน แล้วค่อยกลับไปบริษัททำงานล่วงเวลา”“เขาควรจะมาที่นี่ ดูสิ อี้เฉินกับเขาทำงานที่บริษัทเดียวกัน แต่อี้เฉินมาที่นี่ได้ หลานควรกลับบ้านไปทำอาหารเร็วๆ ไม่จำเป็นต้องส่งยายแล้ว”ไห่ตง: "...คุณยาย ถ้าไม่บอกหนูก่อน หตั้นูงใจจะอุ่นอาหารที่ยังเหล
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้