ไห่ถงรับถุงที่ประณีตหลายใบที่เขาส่งมาและถามเขาอย่างมีความสุข: "มันคืออะไร?"จ้านหยินเอนหลังลงบนโซฟาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ลองเปิดดูสิ แล้วคุณจะรู้เอง"เขาเปิดฝากล่องข้าวและเริ่มกินอาหารเย็นแสนอร่อยที่ภรรยาของเขานำมาให้หลังจากเห็นแล้ว ไห่ถงก็ยิ้ม: "พวกมันเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมด เสี่ยวเฟยให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกับฉันเยอะแล้ว และฉันยังเหลืออีกเยอะ"เขาอิจฉาเล็กน้อยเสมอมา ไม่ชอบที่เธอใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ซางเสี่ยวเฟยให้เธอ เขาประกาศอย่างเผด็จการว่าเธอใช้ได้เฉพาะของที่เขาให้เธอเท่านั้น แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ให้เธอเลยจริงๆไห่ถงคิดว่าเขาแค่พูดเพราะอิจฉาและยังคงใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซางเสี่ยวเฟยให้เธอ ซึ่งจริงๆ แล้วมีประสิทธิภาพดีกว่าแบรนด์ใดๆ ที่เธอเคยใช้มาก่อน มันคือเรื่องจริง ต้องบอกว่าสมกับราคาที่จ่ายไป"จากนี้ไป ใช้สิ่งที่ฉันให้คุณ"จริงๆ แล้วจ้านหยินไม่รู้ว่าผู้หญิงใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยี่ห้ออะไร เขาไม่เคยซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้หญิงมาก่อน เขาถามแม่เป็นการส่วนตัวและเลือกผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อให้กับไห่ถงตามคำแนะนำของเธอเขาคิดว่า คุณแม่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยมาตลอดชีวิต และผล
"พวกเขาจะมาหาเรา เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อถึงเวลา"จ้านหยินราวกับหมอดูทำนายอนาคตไห่ถงหัวเราะคิกคักสองครั้งตัวเขาเองก็เหมือนกับท่อนไม้ แล้วพี่น้องของเขาจะขอความช่วยเหลือจากเขาได้อย่างไร เธอคิดว่าเขาอาจจะให้คำแนะนำแย่ๆ แก่พวกเขาซึ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก“ที่รัก คุณไม่เชื่อฉันหรือไง”“แน่นอนว่าฉันเชื่อ”จ้านหยินมองเธอแล้วพูด: "เดี๋ยวก็รู้ เมื่อพวกเขามีปัญหา พวกเขามักจะหันมาหาฉันในฐานะพี่ใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ แม้ว่าฉันช่วยไม่ได้ พวกเขาก็จะบอกกับฉันเอง"เมื่อพิจารณาว่าน้องชายทั้งแปดของจ้านหยินเคารพและไว้ใจเขาแค่ไหน ไห่ถงก็เชื่อคำทำนายของเขา“คุณหนูสองหนิงไม่ได้ทะเลาะกับคุณใช่ไหม” ไห่ถงพูดเพียงว่าเขาได้พบกับหนิงซีฉีและความตึงเครียดระหว่างพี่น้องหนิงสองคนเท่านั้น แต่ไม่ได้พูดถึงความขัดแย้งระหว่างเธอกับหนิงซีฉีไม่ว่าหนิงซีฉีจะเย่อหยิ่งแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถเอาชนะไห่ถงได้เมื่อนึกถึงวิธีที่จ้านหยินจัดเตรียมบอดี้การ์ดมาปกป้องเธออย่างลับๆ ไห่ถงจึงตัดสินใจบอกเขาเกี่ยวกับความเย่อหยิ่งของหนิงซีฉี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขากล่าวหาเธอในภายหลังว่าปิดบังเรื่องต่างๆ ไว้จากเขาและไม่ปฏิบัต
แม้จ้านหยินไม่อาจทนแยกจากกันได้ แต่ไห่ถงก็ออกจากจ้านซื่อกรุ๊ปและกลับไปเฝ้าร้านเมื่อเธอกลับไปที่ร้าน นักเรียนยังไม่เริ่มเรียนตอนเย็นด้วยตัวเอง และร้านยังคงยุ่งอยู่ซูหนานยังไม่มาถึง ดังนั้นเธอและเสี่ยวจวินจึงยุ่งอยู่สักพัก เมื่อซูหนานมาถึงทางเข้าร้านหนังสือ นักเรียนกำลังจะเริ่มเรียนตอนเย็นด้วยตนเอง และผู้คนในร้านก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง ไห่ถงสามารถจัดการได้เพียงลำพังทุกครั้งที่ซูหนานมา เขาจะมอบช่อดอกไม้ให้เซินเสี่ยวจวินเซินเสี่ยวจวินยังเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาด้วย คู่รักหนุ่มสาวคู่นี้เก่งมากในการทำให้อีกฝ่ายพอใจและยังเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่นอีกด้วยคู่รักฟ้าประทาน"ถงถง ไปกินข้าวเย็นด้วยกันเถอะ"เซินเสี่ยวจวินหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาและถือช่อดอกไม้ที่ซูหนานมอบให้เธอ เธอยิ้มและพูดกับไห่ถง และหลังจากที่ไห่ถงตอบเธอแล้ว เธอก็เดินตามซูหนานไปอย่างสบายใจไห่ถงทำงานคนเดียวสักพัก และหลังจากที่นักเรียนกลับมาที่โรงเรียนเพื่อเรียนด้วยตนเองในตอนเย็น เธอจึงเข้าไปในครัว อุ่นอาหาร จากนั้นนั่งกินคนเดียวที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์"ไห่ถง"ลุงเจิ้ง เจ้าของร้านข้างเคียง เดินเข้ามาพร้อมกับชามใบใหญ่ใ
ลุงเจิ้ง".... ก็จริง โชคดีที่ฉันไม่ได้บอกป้าเจิ้ง""ป้าเจิ้งให้เงินค่าขนมคุณน้อยนิดหน่อยก็จริง แต่เธอไม่ได้ขอให้คุณออกเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ค่าใช้จ่ายส่วยตัว และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเลี้ยงลูก คุณก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะก็เป็น ลุงเจิ้งที่เป็นคนหาเงินได้""คนที่รับผิดชอบเรื่องเงิน คือคนที่ทำงานหนัก"ลุงเจิ้งพูดไปกินไป "ก็ใช่ ป้าเจิ้งชอบเข้ามาควบคุมการเรื่องเงิน ฉันก็ให้เธอจัดการไป เมื่อก่อนที่ฉันจัดการเรื่องเงินเอง ไม่ว่าธุรกิจร้านของพวกเราจะดีแค่ไหน พอถึงสินปีแล้ว ก็เหลือเงินไม่ถึงแสน และหลังจากปล่อยให้ป้าเจิ้งจัดการเงินแล้ว กลายเป็นว่ามีเงินเหลือเกือบ 500,000 หยวนต่อปี""ฉันดีใจที่ไม่ต้องจัดการแล้ว แถมยังมีเงินเหลือเก็บอีก ป้าเจิ้งเป็นคนยุติธรรมมาก เธอไม่เลือกปฏิบัติว่าพ่อแม่ของตัวเอง เธอให้เงินพ่อแม่ของตัวเเองเท่าไหร่ ก็ให้พ่อแม่ของฉันเท่ากัน ยุติธรรมมากจริงๆ พ่อแม่ของฉันต่างก็ชอบเธอในฐานะลูกสะใภ้มาก""ไห่ทง ฉันบอกไว้เลยนะ ถ้าฉันทะเลาะกับป้าเจิ้ง ไม่ต้องพูดไรมาก ฉันต้องโดนคนทั้งตระกูลด่าแน่นอน"ไห่ทงฟังลุงเจิ้งบ้น แต่ที่จริงแล้ว ลุงเจิ้งกำลังแสดงถึงค
"โอเค พวกเราเข้าใจแล้ว"พวกอันธพาลเหล่านี้ไม่รู้ตัวตนของไห่ถง และหนิงซีฉีก็ไม่ได้โง่พอที่จะบอกพวกเขาไปว่า ไห่ถงเป็นนายหญิงจ้าน หากเธอพูดออกไป ไม่ว่าจะให้เงินเท่าไร ก็ไม่มีใครเต็มใจช่วยเธอจัดการเรื่องนี้"เมื่อพวกแกได้เงินค่าจ้างก้อนสุดท้ายจากฉัน ก็ลเบอร์โทรศัพท์ของฉันซะ ตราบใดที่พวกแกทำตามคำแนะนำของฉัน ฉันรับประกันเลยว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกแกแน่""ถ้าพวกแกกล้าไปพูดอะไรไร้สาระข้างนอก ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน""คุณหนูเจีย ไม่ต้องกังวล พวกเราไม่พูดแน่ เมื่อได้รับเงินของคุณแล้ว พวกเราจะช่วยคุณกำจัดภัยพิบัติ ก็แค่หนึ่งชีวิต"ในความเป็นจริง หนิงซีฉีไม่ได้บอกนามแซจริงๆ ของเธอกับพวกอันธพาลเหล่านั้นส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่เธอใช้ติดต่อกับคนอันธพาลเหล่านั้น เมื่อเรื่องจบลงแล้ว เธอจะทิ้งซิมโทรศัพท์ และซิมโทรศัพท์ใบนี้ ก็ไม่ได้ลงทะเบียนจากชื่อของเธอหนิงซีฉีวางสายโทรศัพท์ แล้วอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อคิดว่าไห่ถงกำลังจะโชคร้ายใครใช้ให้ไห่ถงมาวุ่นวายงเรื่องของชาวบ้าน และช่วยหนิงอวิ๋นชูทงได้งั้นก็ลิ้มรสผลที่ตามมาจากเรื่องพวกนั้นแล้วกัน"ก๊อกๆ"เสียงเคาะประตูดังขึ้นหนิงซีฉีหยุดหัวเราะ
ความจริงที่ว่า จางซื่อกรุ๊ปถูกจ้านซื่อกรุ๊ปเล่นงานนั้น ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกมา และในตอนนี้ทั้งสองกรุ๊ปก็ได้กลับมาร่วมมือกันตามปกติแล้วคนภายนอกคาดเดาว่า อาจเป็นเกิดจากผิดพลาดขอจางซื่อกรุ๊ปที่ทำให้การร่วมมือกับจ้านซื่อกรุ๊ปต้องหยุดชะงัก ประธานจางจึงต้องไปเจรจากับนายน้อยจ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อรักษาความร่วมมือระหว่างทั้งสองกรุ๊ปเอาไว้"แต่ฉันทนดูยัยบ้านนอกนั้น เชิดหน้าชูตาไม่ได้ เธอมีคุณสมบัติอะไรถึงเชิดคอขนาดนั้นได้? รอจนถึงวันที่นายน้อยจ้านเกียดเธอแล้ว เธอจะมีอะไรเหลือติดตัวมาได้"หนิงซีฉีกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า "ถ้าไม่ได้สั่งสอนเธอ ฉันหายใจได้ไม่ทั่วท้องแน่ คุณแม่ ฉันใช้เงินไปเยอะมากกับการจ้างอันธพาลประมาณเจ็ดหรือแปดคน และตอนนี้กำลังตามไห่ถงอยู่ ฉันกำลังวางแผนหยุดรถของเธอและทุบรถเธอในทางเปลี่ยวๆ "สีหน้าของคุณนายหนิงเปลี่ยนไป และรีบพูดว่า “ลูกไปหาคนมาจากที่ไหน? ทุกอย่างจัดการอย่างเรียบร้อยดีแล้ว? อย่าทิ้งหลักฐานไว้เอานะ อีกอย่าง แม่ได้ยินมาว่ายัยบ้านนอกนั้นเป็นกังฟูด้วย ดังนั้นอย่าประมาท”หนิงซีฉีไม่สนใจและพูดว่า "ฉันก็เรียนเทควันโดมาเหมือนกัน ทำอะไรได้บ้าง? แค่บอดี้การ์ดของบ้าน
สีหน้าของอันธพาลเปลี่ยนไปมาก "ตระกูลเศรษฐีจ้าน?""ที่แท้สามีของฉันมีชื่อเสียงมาก แม้แต่พวกอันธพาลยังรู้จักชื่อของเขาเลย"พวกอันธพาลเหล่านั้นแทบจะเอาหน้าขูดไปกับพื้น พร้อมกรีดร้องครวญคราง สาปแช่ง และทุบพื้น!สาปแช่งคุณหนูเจียเป็นหมื่นครั้ง ไม่แปลกใจเลยที่จ่ายเงินจ้างพวกเชามากมายขนาดนั้น เพื่อทำร้ายหญิงสาว ที่แท้จริงแล้ว เป็นนายหญิงจ้านคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในกวนเฉิงช่วงนี้คือนายหญิงจ้าน แม้แต่เหล่าอันธพาลเหล่านี้ก็เอง ยังเคยได้ยินชื่อทำไมถึงกลายเป็นนายหญิงจ้านล่ะ?พวกเขาโดนคุณหนูเจียหลอกแล้วไห่จือชิน: ซวยมาก!“นายหญิงจ้าน โปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเรามีตา แต่หามีแววไม่ ขับชนรถของนายหญิง ดังนั้นพวกเราควรจะจ่ายเงินให้ เพื่อเอาไปซื้อรถคันใหม่? ขอนายหญิงช่วยเมตตาและไว้ชีวิตพวกด้วย”"ฉันจะพูดเองว่า ใครเป็นคนสั่งให้พวกเราทุบรถนายหญิง เธอคือคุณหนูเจีย หมายเลขโทรศัพท์ของเธอคือ 189XXXXXXXX เธอให้เงินพวกเราเป็นจำนวนมาก และขอให้พวกตามคุณ ทุบรถคุณ และทำร้ายคุณ"บอดี้การ์ดสองคนที่ปกป้องไห่ถงนั้น รู้ดีว่ามีคนกำลังติดตามเธอมา พวกเขาจึงวางแผนที่จะจัดการกับอันธพาลพวกนั้น โดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น แ
อันธพาลคนนั้น เลือกที่จะฟังคำพูดของไห่ถงและโทรหาหนิงซีฉีไห่ถงขอให้บอดี้การ์ด 2 คนช่วยพยุงเขาขึ้นมาและโทรศัพท์ เพราะถ้านอนอยู่บนพื้นจะหายใจหอบหืดเมื่อถูกคุณแม่เร่งเร้าให้ติดต่ออันธพาล หนิงซีฉีก็ได้รับโทรศัพท์จากอันธพาล หทันที และพูดกับแม่ด้วยความดีใจว่า "คุณแม่ สายเข้า สายเข้า พวกเขาคงทำภารกิจที่ฉันมอบหมายให้เสร็จเรียบร้อยแล้วแน่เลย"เธอพูดและรับสายโทรศัพท์อย่างกระตือรือร้น"คุณหนูเจีย พวกเราทุบรถผู้หญิงคนนั้นและตีเธอ เธอถูกตีอย่างรุนแรงจนหมดสติ แต่ยังมีลมหายใจอยู่และไม่ตาย ช่วยจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้เร็วทีสุดด้วย เพราะพวกเราต้องหนีออกจากกวนเฉิงทันที""แค่ไม่ตายก็พอ แกถ่ายรูปมาให้ฉันเห็นว่า พวกทำตามที่ฉันพูดจริงๆ แล้วฉันจะจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้""หลังจากตีคนๆ นั้นจนหัวแตกและเลือดไหลแล้ว ก็กลัวจะว่าตายไปแล้ว เลยรีบวิ่งหนีออกมา และกล้าถ่ายรูปได้ยังไง รีบเอาเงินมาให้ซะ พวกเราต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน""แน่ใจแล้วเหรอว่า นั่นคือผู้หญิงที่ฉันพูดถึง? "หนิงซีฉีได้ยินมาว่าไห่ถงถูกตีจนเลือดไหลออกจากหัว และหมดสติ เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก รู้สึกเหมือนกับว่า เธอได้ระบายความโกรธออกมาได้แล้วใครเป็นคน
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้