Share

บทที่ 494

Author: จิ้งซิง
สายตาของนางมองไปที่อันปี่เค่อที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “เหมือนใต้เท้าอันคนนี้ก็มีปัญหาเช่นกัน”

บัวหิมะเป็นของอันปี่เค่อ และยังเจาะจงถวายให้ฝ่าบาท ถ้าหากไม่มีนาง เกรงว่าเวลานี้บัวหิมะไปตกอยู่ในมือของฝ่าบาทแล้ว และแมลงน้อยสีดำก็น่าจะลอบทำร้ายสำเร็จแล้ว

“เขาคิดจะลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท?!”

เวินซื่อหน้าถอดสี คิดไม่ถึงว่าอันปี่เค่อแต่ใจกล้าถึงเพียงนี้

หรือว่าอีกฝ่ายสมคบคิดกับคนร้ายต่างเผ่า?

ไม่เช่นนั้นเหตุใดจึงมีร้ายต่างเผ่ามากมายเช่นนี้ปรากฏตัวในเมืองหลวง? หรือแม้แต่แฝงตัวเข้ามาในวังหลวง!

ดวงตาเวินซื่อฉายแววอันตรายที่คลุมเครือ

นางกำลังคิด ถ้าหากอันปี่เค่อมีปัญหาจริงๆ เช่นนั้นจวนเจิ้นกั๋วกงที่ร่วมมือกับอันปี่เค่อในวันนี้ล่ะ?

พวกเขารู้หรือไม่รู้?

หรือบางทีพวกเขาอาจจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้?

“อย่าเพิ่งไปคิดมากเกินไป”

เสียงของเป่ยเฉินหยวนดังขึ้นอีกครั้ง

“ตอนนี้บัวหิมะอยู่ในมือของท่านแล้ว ต่อให้ก้าวออกไปบอกว่าพวกเขามีปัญหา พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับ และยังอาจจะย้อนมาเล่นงานท่านด้วย”

เมื่อได้ยินเวินซื่อก็พยักหน้า

อย่างอื่นไม่พูดถึง แค่มีโอกาส เวินเยวี่ยไม่มีทางละเว้นนางแน่นอน ดังนั้นเป็นไปได้ว่าอาจโ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 495

    งานเลี้ยงวังหลวงที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรื่นเริงแต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่งานเลี้ยงพระราชวังสิ้นสุดลง ทุกคนกลับโดนกักตัวอยู่ในท้องพระโรงแห่งนี้ทุกคนยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนวังที่โดนแมงมุมของเวินซื่อควบคุมก่อนหน้านี้ก็โดนลากออกมาทีละคนแล้วทหารรักษาพระองค์ยกดาบและฟันลงไปต่อหน้าเหล่าขุนนาง คนวังเหล่านั้นศีรษะหลุดจากบ่า เลือดพุ่งเหมือนน้ำพุเลือดจำนวนไม่น้อยยังได้กระเซ็นใส่คนที่อยู่ใกล้และไม่มีที่หลบไม่ต้องสงสัยเลยว่าในบรรดาคนเหล่านี้มีคนสกุลเวินรวมอยู่ด้วย“อ๊าๆๆ ท่านพ่อ!”เวินเยวี่ยตกใจจนหน้าซีด รีบวิ่งไปหลบหลังเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งตรงข้ามกับนาง สีหน้าของเขาในเวลานี้บูดบึ้ง จ้องมองเป่ยเฉินหยวนด้วยสายตาเย็นชา“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ในเมื่อท่านรู้ตั้งนานแล้วว่านักฆ่าเป็นใคร แล้วเหตุใดยังต้องขังพวกเราไว้ที่นี่ นี่ท่านไม่เห็นค่าชีวิตของพวกเรา หรือกำลังอาศัยเรื่องส่วนรวมมาแก้แค้นเรื่องส่วนตัว?”“เจิ้นกั๋งกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนเช่นนี้ วางใจเถอะ แค่พวกท่านไม่ได้สมคบคิดกับนักฆ่าพวกนี้ ข้าย่อมไม่ทำอะไรพวกท่าน แต่ถ้าหากข้าสิ่งของที่ไม่ควรมีบนตัวพวกท่าน เช่นนั้นก็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 496

    คนป่านั่นยังเอาแมลงกู่มาใส่บนตัวเขาอีกด้วย!บ้าจริง คนป่านั่นคิดจะทำอะไรกันแน่?!เวินเฉวียนเซิ่งในเวลานี้สงสัยไปถึงตัวคนที่ซ่อนอยู่ในจวนเจิ้นกั๋วของเขาโดยตรงแล้วมองดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเวินเฉวียนเซิ่ง เป่ยเฉินหยวนเอ่ยปากอย่างใจเย็น “ดูเหมือนวันนี้เจิ้นกั๋วกงไปไม่ได้แล้ว เด็กๆ คุมตัวเจิ้นกั๋วกงกับบุตรสาวออกไป”“พ่ะย่ะค่ะ!”“ไม่! พวกเจ้าทำอะไร? ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ!”“ท่านพ่อ ทำอย่างไรดี?! ท่านรีบช่วยเยวี่ยเอ๋อร์สิ เยวี่ยเอ๋อร์ไม่อยากติดคุก!”เวินเยวี่ยที่โดนลากออกมากลัวสุดขีด กรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก“กลัวอะไร!”เวินเฉวียนเซิ่งตวาด มองเป่ยเฉินหยวนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ก็แค่แมลงตัวหนึ่ง อยากตัดสินความผิดของข้า มันยังไม่ง่ายเช่นนั้น”“เช่นนั้นก็ต้องดูว่าปากของเจิ้นกั๋วกงแข็ง หรือกระดูกแข็งกว่าแล้ว”เป่ยเฉินหยวนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน กล่าวออกคำสั่ง “ยืนนิ่งอยู่ทำไม ยังไม่รีบเชิญเจิ้นกั๋วกงไปกรมอาญาอีก?”“พ่ะย่ะค่ะ!”ทหารรักษาพระองค์เดินเข้าไป คุมตัวเวินเฉวียนเซิ่งกับเวินเยวี่ยไปทันทีแต่ไม่ได้มีเพียงพวกเขา ยังมีอีกคนที่เข้าคุกเช่นเดียวกันนั่นก็คืออันปี่เค่อ“ใต้เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 497

    “จู๋เยวี่ย”ทันใดนั้นก็มีร่างเงาสายหนึ่งปรากฏตัวที่ข้างกายเวินฉางอวิ้นจู๋เยวี่ยยื่นมือไปอังครู่หนึ่ง หลังจากนั้นกล่าวกับเวินซื่อสามคำ “ใกล้ตายแล้ว”เวินซื่อ “?”ใกล้ตายแล้ว?นางขมวดคิ้ว หลังจากลังเลครู่หนึ่งจึงจะเดินเข้าไปตรวจชีพจรของเวินฉางอวิ้นที่นอนอยู่บนพื้นเดี๋ยวก่อนเวินซื่อเบิกตากว้างเล็กน้อย มองเวินฉางอวิ้นที่อยู่บนพื้นด้วยความประหลาดใจเกิดอะไรขึ้น เขาถูกพิษหรือ?ใครกันที่กล้าวางยาพิษคุณชายใหญ่ของจวนเจิ้นกั๋วกง? อีกทั้งเหตุใดลักษณะชีพจรนี่จึงคุ้นๆ?ขณะที่เวินซื่อกำลังจะตรวจดูอย่างละเอียด เวินฉางอวิ้นที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นขยับกะทันหัน หลังจากนั้น ชีพจรที่อ่อนแอและยุ่งเหยิงของเขาในตอนแรกก็กลับมาเป็นปกติ นี่มันน่าแปลกมาก“น้องห้า ใช่เจ้าหรือไม่?”เวินฉางอวิ้นเพิ่งฟื้น การมองเห็นยังพร่ามัวเล็กน้อยตอนที่เห็นคนตรงหน้า เขายื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวแต่น่าเสียดายที่เวินซื่อได้เตรียมตัวตั้งแต่ตอนที่เห็นเขาจะฟื้นแล้ว จึงถอยหลังหนึ่งก้าวได้ทันเวลารอการมองเห็นของเวินฉางอวิ้นกลับมาเป็นปกติ ก็เห็นว่าคนที่ตัวเองคว้าไม่ใช่น้องสาวของเขา แต่เป็นผู้หญิงที่สวมชุดสีดำค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 498

    “โดน…วางยา?!”เวินฉางอวิ้นตะลึง “มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ช่วงนี้ข้าไม่อยู่ในจวนก็อยู่หออาลักษณ์หลวง จะมีคนวางยาข้าได้อย่างไร?”เขาพูดจบก็รู้สึกถึงความไม่ถูกต้อง จึงรีบกล่าวเสริม “ไม่ ความหมายของข้าไม่ได้กำลังสงสัยคำพูดของเจ้า ข้าแค่…”“คุณชายใหญ่เวินไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟัง อย่างไรข้าก็ชินแล้ว”‘ชินแล้ว’ ประโยคเดียว คำพูดที่เรียบเฉยสามคำไม่ได้ทำให้เวินซื่อรู้สึกอะไร แต่เวินฉางอวี้ที่ได้ยินคำพูดนี้กลับทรมานใจมาก“นี่…นี่จะชินได้อย่างไรกัน โทษที่พี่ใหญ่ไม่ดีเอง เมื่อก่อนพี่ใหญ่ตามืดใจบอด ทำให้น้องห้าได้รับความคับข้องใจมากมาย พี่ใหญ่ทำผิดต่อ…”เวินฉางอวิ้นพูดยังไม่ทันจบ เวินซื่อก็ขัดจังหวะเขาอย่างหมดความอดทน “ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องอธิบาย คุณชายใหญ่เวินฟังไม่รู้เรื่องหรือ?”ความคิดที่อยากอธิบายของเวินฉางอวิ้นโดนเปิดโปง ความรู้สึกที่เหมือนเลือดอาบนี้ทำให้เขาทั้งเจ็บปวดและทรมาน ตอนนี้เขามีคำพูดมากมายอยากพูดกับน้องหญิง แต่ตอนนี้น้องหญิงของเขากลับไม่ยอมฟังเขาอีกแล้วก็เหมือนกับเขาในอดีตที่เคยทำกับน้องหญิงเช่นนี้…“พี่ใหญ่ ข้าไม่ได้รังแกน้องหกจริงๆ ข้ากับน้องหกแค่ออกไปเล่นด้วยกัน ข้าไม่เค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 499

    หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ เวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่งอย่างเห็นได้ชัด บนใบหน้านางแสดงความเย้ยหยัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชา “น่าเสียดาย บนโลกนี้ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้”ในที่สุดเวินฉางอวิ้นที่ได้ยินคำพูดนี้ของนางก็ทนต่อกลิ่นคาวในลำคอไม่ไหว อ้าปากกระอักเลือดออกมากองใหญ่เวินซื่อปลายนิ้วเวินซื่อขยับเล็กน้อย แต่สายตาไม่เปลี่ยนแปลงจู๋เยวี่ยเหลือบมองนางแวบหนึ่งหลังจากกระอักเลือด เวินฉางอวิ้นเหมือนเป็นมะเขือที่ต้องน้ำค้าง ท่าทางนั่นดูอ่อนแอยิ่งกว่าเวินอวี้จือที่ป่วยเสียอีกแต่ที่น่าแปลกคือ แม้เป็นเช่นนี้แล้ว เวินฉางอวิ้นยังสามารถยืนอยู่ตรงที่เดิมเหมือนกับว่าในร่างกายเขามีแรงเฮือกหนึ่ง คอยพยุงไม่ให้เขาล้มลงหลังจากยืนพักอยู่ตรงที่เดิมครู่หนึ่ง เวินฉางอวิ้นจึงจะสามารถปรับลงหายใจให้สงบ หลังจากค่อยๆ เช็ดมุมปาก เขาเม้มปากที่ซีดเล็กน้อย แล้วมองไปทางเวินซื่ออีกครั้ง“ตอนนี้น้องรอง…สบายดีหรือไม่?”เวินซื่อกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่รู้”นางไม่ได้รับเลี้ยงเวินจื่อเฉินเสียหน่อย เวินจื่อเฉินเป็นอย่างไรมาถามนางทำไม?เวินฉางอวิ้นไม่มีทางเลือก ตอนนี้อยู่ภายใต้การเฝ้าดูของบิดา เขาไม่สามารถไปเยี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 500

    “น้องห้า!”น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากหางตาของเวินฉางอวิ้น ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด เขาพึมพำเพียงประโยคเดียว“อย่า…ทิ้งพี่ใหญ่”……หลังออกจากวังหลวง เวินซื่อหยุดฝีเท้า แหงนมองท้องฟ้ากะทันหันผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงจะสามารถสงบสติอารมณ์ มองไปทางจู๋เยวี่ยที่อยู่ข้างกายนางตั้งแต่เมื่อครู่เวินซื่อยิ้มที่มุมปาก “จู๋เยวี่ย เลิกกังวลได้แล้ว ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว”จู๋เยวี่ยจ้องใบหน้าที่ฝืนยิ้มของนาง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยปากกะทันหัน “อย่าเสียใจเลย ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านตลอด”ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ข้าก็เชื่อท่านเวินซื่อตะลึงไปครู่หนึ่ง จึงจะเข้าใจว่าจู๋เยวี่ยหมายถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ของนางเวินฉางอวิ้นเวินซื่อยิ้มทันที ครั้งนี้รอยยิ้มของนางดูดีขึ้น “อืม ข้ารู้แล้ว ขอบคุณมากจู๋เยวี่ย”หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เวินซื่อกลับไปที่รถม้าของนางทันทีที่ขึ้นรถม้า นางก็ปล่อยแมงมุมของนางออกมา ตรวจสอบทั้งนอกและในของรถม้าเป็นไปตามที่คาด จับแมลงสีดำได้หลายตัวจริงๆเวินซื่อกำจัดแมลงสีดำเหล่านั้นอย่างรังเกียจทั้งหมด ไม่ได้เอาให้แมงมุมของนางกินอย่างไรก็เป็นแมลงกู่ ถ้าหากหลังจากแมงมุมของนางกิน แมลงกู่เหล่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 501

    นอกเมืองหลวง ภูเขาหนานอารามสุ่ยเยว่“อู๋โยว มีจดหมายถึงเจ้าหนึ่งฉบับ!”วันนี้ ขณะที่เวินซื่อกำลังคัดลอกบทสวดขอพรอยู่นั้น ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ก็กระโดดโลดเต้นเข้ามาจากข้างนอก“จดหมายหรือ? ใครเป็นคนเขียนจดหมาย?”เวินซื่อรับมาด้วยความสงสัย“ไม่รู้สิ บนซองจดหมายเขียนแค่คำว่า ‘หลิน' ถึงอย่างไรก็บอกว่าส่งให้เจ้า เจ้าต้องรู้จักแน่นอน”หลิน?!หัวใจของเวินซื่อเต้นแรง คนสกุลหลินที่นางรู้จัก นอกจากหลินจื่อฟูแล้ว ก็มีแค่คนผู้นั้น!หรือว่าจะเป็นนาง?เมื่อนึกถึงใครบางคนที่ไม่ได้เจอมานาน เวินซื่อก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที วางพู่กันในมือลง แล้วรีบเปิดจดหมายฉบับนั้นยังไม่ทันดึงกระดาษจดหมายออกมา เวินซื่อก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาเมื่อดึงกระดาษจดหมายออกมาดู ไม่เพียงแต่เป็นกระดาษจดหมายเท่านั้น ยังมีก้านหอมดอกไม้แห้งบางๆ อีกดอกหนึ่งด้วยเมื่อเห็นก้านหอมดอกไม้แห้งนั้น บนใบหน้าของเวินซื่อก็ปรากฏรอยยิ้มในทันทีเมื่อเห็นนางยิ้มเช่นนั้น ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ใครกัน? ทำให้เจ้ายังไม่ทันได้อ่านจดหมาย ก็ยิ้มออกมาเช่นนี้แล้ว”เวินซื่อหยิบก้านหอมดอกไม้แห้งนั้นด้วยความชื่นชอบอย่างยิ่ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 502

    “ใครกัน? เมื่อครู่มีคนมาส่งเสียงดังเอะอะโวยวายที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเรา!”“ไปๆๆ รีบไสหัวไปเสีย มิฉะนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”หนึ่งในยามเฝ้าประตูถือกระบองจะเข้าไปไล่คน แต่ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมา องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังหลินเนี่ยนฉือก็ชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นคมดาบสีขาวราวหิมะทหารยามที่เดิมทีท่าทางโกรธเกรี้ยวก็ตกใจ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว กลืนน้ำลายแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ไหน? กล้าดีอย่างไรมาชักดาบที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกง?!”“ข้าเห็นว่าบ่าวโง่อย่างพวกเจ้าหูหนวกตาบอด ฟังคำพูดของข้าไม่รู้เรื่อง หรือว่ายังจำหน้าข้าไม่ได้อีกหรือ?”หลินเนี่ยนฉือก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตาเฉียบคมกวาดมองทหารยามผู้นั้นทหารยามอีกคนพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมาในหัว ในที่สุดก็นึกออก รีบเข้าไปกล่าวด้วยความนอบน้อม “ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่หลิน สหายคนนี้เพิ่งมาใหม่ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่เคยเห็นหน้าคุณหนูใหญ่หลิน คุณหนูใหญ่หลินโปรดอภัย ข้าน้อยจะรีบเข้าไปแจ้งให้ทราบเดี๋ยวนี้!”เขารีบดึงสหายของตัวเองไปข้างหลัง แล้วบังคับให้คารวะพร้อมกัน“ถือว่าบ่าวอย่างเจ้า

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 510

    “อาซื่อ!”ดวงตาของหลินเนี่ยนฉือเป็นประกายขึ้นมาทันที พุ่งตัวเข้าไปหาเวินซื่อซึ่งกำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาด้วยความดีใจ“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!”พอเวินซื่อเห็นท่าทางยกมือของนาง ก็พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าจึงเปลี่ยนไปวินาทีต่อมา นางยังไม่ทันได้ห้าม ก็ถูกหลินเนี่ยนฉือคว้าเอวแล้วยกตัวขึ้นกอด จากนั้นก็หมุนตัวอยู่กับที่หลายรอบ จนเวินซื่อตาลาย“ฮ่าๆ ฮ่าๆ อาซื่อ ในที่สุดก็ได้เจอเจ้าแล้ว! แยกกันนานขนาดนี้ข้าคิดถึงเจ้าใจจะขาดแล้ว เจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่ รีบพูดเร็วเข้า ถ้าไม่พูดข้าจะไม่ปล่อยเจ้าลง!”ความรู้สึกที่คุ้นเคย คนที่คุ้นเคยเวินซื่อโอบคอของหลินเนี่ยนฉือไว้ รีบเอ่ยขึ้น “คิดถึง คิดถึงสิ ต้องคิดถึงเจ้าอยู่แล้ว ดังนั้นรีบปล่อยข้าลงเถอะ หากเจ้าหมุนอีกสักสองรอบ ข้าได้อาเจียนออกมาจริงๆ แน่!”ปรากฏว่าหลินเนี่ยนฉือกลับหัวเราะเสียงดังพลางกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นก็หมุนอีกรอบ!”จากนั้นก็ยกเวินซื่อขึ้นหมุนอีกรอบหนึ่งด้วยความตื่นเต้น ไม่มากไม่น้อย กำลังพอดีทำให้นางพอใจ หมุนจนนางเวียนหัวตอนที่เท้าของเวินซื่อเหยียบลงถึงพื้น ขาก็อ่อนแรงไปหมดไม่ได้ถูกหลินเนี่ยนฉือจับหมุนเช่นนี้มานานแล้ว พอจู่ๆ ต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 509

    เมื่อก่อนมักจะมีคนพูดว่าเวินจื่อเยวี่ยนิสัยไม่ดี เป็นเพราะเขาและพี่รองซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝดของเขาถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกัน แต่นิสัยกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคนหนึ่งอารมณ์ร้อน ส่วนอีกคนกลับดูเศร้าหมองอยู่บ้างเมื่อก่อนนางแค่คิดว่าอาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอก อย่างไรเสีย ระหว่างเขากับเวินจื่อเฉินสองคนนั้น ก็มีดวงตาคู่หนึ่งที่แตกต่างกันดวงตาคู่นั้นเวลาที่มองไปยังผู้อื่น มักจะมีความรู้สึกมืดมนอย่างอธิบายไม่ถูกออกมาเสมอ เมื่อก่อนนางยังไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแต่ตอนนี้ เมื่อดวงตาอันมืดมนคู่นั้นมองมาที่นาง หลินเนี่ยนฉือก็พลันบังเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้รู้ว่าเวินจื่อเยวี่ยทำเรื่องเหลวไหลมากมายถึงเพียงนั้น ทั้งยังคงมีท่าทีเชื่อมั่นว่าตนเองถูกต้อง หลินเนี่ยนฉือมีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่รู้สึกราวกับว่าตนเองแทบจะไม่รู้จักเวินจื่อเยวี่ยแล้ว“พอแล้ว ข้าไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับท่านอีกต่อไปแล้วจริงๆ เวินจื่อเยวี่ย”หลินเนี่ยนฉือข่มความรู้สึกไม่สบายใจนั้นไว้ ขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น “ท่านทำตัวให้มันเด็ดขาดสมเป็นลูกผู้ชายหน่อยได้หรือไม่? หากไม่อยากถอนหมั้นกับข้า ก็ให้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 508

    “ท่านไม่เห็นด้วยก็ช่วยไม่ได้”หลินเนี่ยนฉือแค่นเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ “ข้าไม่ได้มาเพื่อแจ้งให้ท่านทราบ เวินจื่อเยวี่ย”“ด้านล่างของหนังสือสัญญาหมั้นหมายคือหนังสือถอนหมั้น รอยนิ้วมือของข้าอยู่บนนั้น ถ้าเจ้าฉลาดพอ ก็ประทับรอยนิ้วมือลงไปเสีย นับจากนี้ไปเราสองคนต่างคนต่างอยู่ ข้าจะไปหาน้องหญิงอาซื่อของข้า ส่วนท่านก็ปกป้องน้องสาวบุตรนอกสมรสของท่านต่อไปเถอะ”“หลินเนี่ยนฉือ!”เวินจื่อเยวี่ยเดือดดาลอย่างยิ่ง เขาขยับเท้าหมายจะพุ่งเข้าไปหาหลินเนี่ยนฉือพรึ่บ!องครักษ์สองคนที่ถือดาบตรงเข้ามาขวางหน้าเวินจื่อเยวี่ย“ไสหัวออกไปเสีย!”เวินจื่อเยวี่ยถลึงตาใส่องครักษ์ทั้งสองอย่างดุร้าย “หากยังกล้าขวางข้าอีก ระวังข้าจะตัดหัวพวกเจ้าเสีย!”“ท่านกล้า!”สายตาของหลินเนี่ยนฉือเฉียบคม “องครักษ์สกุลหลินของข้าจงรักภักดีปกป้องนาย ไม่ถึงคราวที่คนนอกอย่างท่านจะมาจัดการพวกเขา!”“คนนอก?!”เวินจื่อเยวี่ยโมโหอย่างยิ่ง “เจ้าบอกว่าข้าเป็นคนนอกหรือ?!”“หรือว่าไม่ใช่?”หลินเนี่ยนฉือตอบโต้คำพูดของเขาอย่างไม่ปรานี “คนนอกอย่างข้าไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องภายในของจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่าน แล้วคนนอกอย่างท่านจะมีสิทธิ์อะ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 507

    “เพียะ!”หลินเนี่ยนฉือฟาดแส้ใส่เขาโดยตรงเวินจื่อเยวี่ยเกือบจะถูกแส้ม้าของนางฟาดเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง โชคดีที่ครั้งนี้เขาตอบสนองได้เร็ว จึงหลบได้ทันท่วงทีหลังจากหลบได้เขาก็กล่าวด้วยความโมโห “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ยังอยากจะตีอีกใช่หรือไม่?!”หลินเนี่ยนฉือถือแส้ม้าของนางไว้ พลางหรี่ดวงตาทั้งสองลง กล่าวเสียงเย็นชา “ใช่ ท่านพูดถูก เรื่องของจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่าน ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะเข้ามายุ่งจริงๆ ดังนั้น วันนี้นอกจากข้าจะมาตีท่านแล้ว ก็ยังมาเพื่อจัดการอีกเรื่องหนึ่งด้วย”“เหอะ เจ้าก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องมายุ่ง แล้วยังมีเรื่องอะไรอีกที่ต้องให้เจ้ามาจัดการ?”เวินจื่อเยวี่ยในขณะนี้ยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ ดังนั้น เมื่อหลินเนี่ยนฉือเอ่ยปากในวินาทีต่อมา เขาจึงเพิ่งจะรู้ตัวและเสียใจกับคำพูดเหล่านั้นหลินเนี่ยนฉือยกมือขึ้น ผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังก็ยื่นของสองอย่างให้หลังจากนางรับของมาแล้วก็ไม่แม้แต่จะมอง ก็โยนให้เวินจื่อเยวี่ยโดยตรง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เรื่องนี้จำเป็นต้องให้ข้ามาจัดการจริงๆ นั่นแหละ เพราะอย่างไรเสีย ข้าก็มาเพื่อถอนหมั้นกับท่าน”เมื่อเอ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 506

    ประโยค “เข้าข้างพวกพ้องไม่สนเหตุผล” ของหลินเนี่ยนฉือ ทำเอาเวินจื่อเยวี่ยถึงกับพูดไม่ออกหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็เค้นคำพูดออกมาได้ประโยคหนึ่ง “เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”หลินเนี่ยนฉือหัวเราะเยาะ “แล้วทำไมจะทำไม่ได้? เมื่อก่อนตอนที่ข้าช่วยท่านต่อยตีมันน้อยครั้งหรือไร? ไฉนเมื่อก่อนไม่เห็นท่านพูดเช่นนี้ ตอนนี้กลับมีหน้ามาพูดแล้วหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยถูกนางตอกกลับจนพูดไม่ออกอีกครั้งพูดกับเขามามากมายเช่นนี้แล้ว หลินเนี่ยนฉือก็เริ่มจะหมดความอดทน อีกประเดี๋ยวอาซื่ออาจจะมารับนางแล้ว นางคงต้องรีบจัดการให้เร็วขึ้นหน่อยดังนั้นนางจึงโบกมือด้วยความรำคาญ “เอาละ หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ข้ารู้ว่าท่านก็แค่อยากจะพูดแทนบุตรนอกสมรสนั่น กลัวว่าข้าจะสั่งสอนนางล่ะสิ ก็ได้ ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้มาเพื่อพูดคุยกับพวกท่านด้วยเหตุผลอยู่แล้ว ก็ทำให้มันง่ายๆ ไปเลย วันนี้ท่านอยากจะถูกตีแทนนางสักครั้ง หรืออยากจะถูกตีแทนนางสักสองครั้ง?”รับวันนี้เสร็จ พรุ่งนี้ก็ยังมีอีกอย่างไรเสีย ทุกวันที่นางอยู่ในเมืองหลวงก็จะมาตีนังบุตรนอกสมรสนั่นเวินจื่อเยวี่ยโกรธจนหน้าแดงก่ำ “ข้าบอกแล้วว่าอย่าพูดสามคำนั้นอีก หลินเนี่ยนฉือ เจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 505

    “ข้าเคยกลัวท่านตั้งแต่เมื่อใดกัน!”หลินเนี่ยนฉือเตะเขากระเด็นออกไปหลายเมตร จากนั้นก็ยืนอยู่ที่เดิม เชิดคางขึ้นแล้วแค่นเสียงเย็น “หากมีปัญญาก็ลองดูสิ มาดูกันว่าวันนี้ท่านจะล้มข้าลงได้ หรือจะเป็นข้าที่เล่นงานไอ้คนสารเลวอย่างท่าน!”“นังบ้า!”เวินจื่อเยวี่ยด่าทอด้วยความโมโห “เจ้ายังจะช่วยเวินซื่อนั่นอาละวาดไปถึงเมื่อไรกัน?!”“เพียะ!”หลินเนี่ยนฉือตอบโต้เขาด้วยการฟาดแส้อย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง “ใครกันที่อาละวาด? ข้ากลับมาคราวนี้ก็เพื่อคิดบัญชีกับพวกท่าน วันนี้ไม่ท่านตาย ก็ต้องเป็นบุตรนอกสมรสที่ท่านปกป้องนั่นตาย!”“ดี! เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”เวินจื่อเยวี่ยสบถด่าในใจทันที จากนั้นก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ตอบโต้โดยตรง“ปัง! เพียะ! ...”เวินจื่อเยวี่ยมีความคล่องแคล่วว่องไว แต่หลินเนี่ยนฉือเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาแม้ว่าสกุลหลินจะเป็นตระกูลนักปราชญ์ แต่เมื่อหลายปีก่อนก็ได้เห็นจุดจบของสกุลหลานแล้ว และแตกต่างจากสกุลเวินที่นิ่งดูดาย พอท่านปู่หลินทราบข่าวก็รีบส่งคนไปช่วยเหลือทันที แต่น่าเสียดายที่ยังคงช้าไปก้าวหนึ่ง ไปไม่ทันแต่กลับได้เห็นสภาพศพเกลื่อนกลาด เลือดไหลนองจนเป็นสายธารของสกุลห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 504

    “อ๊าก!”เวินจื่อเยวี่ยร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จากนั้นจึงรู้สึกตัวและรีบหลบแส้ที่ฟาดลงมาอีกครั้ง“ไอ้คนตาบอดคนไหนกล้ามาตีข้า?!”เวินจื่อเยวี่ยจ้องมองไปยังคนที่ถือแส้ด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมในทันทีแต่เมื่อได้เห็นว่าเป็นใคร เวินจื่อเยวี่ยก็ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ทันที“หลินเนี่ยนฉือ? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”หลินเนี่ยนฉือถือแส้ม้าไว้ในมือ แค่นเสียงเย็นพลางเอ่ยขึ้น “ถ้าข้าไม่อยู่ที่นี่ แล้วไอ้หมาตาบอดอย่างท่านยังคิดจะช่วยบุตรนอกสมรสนั่นรังแกอาซื่อของข้าไปถึงเมื่อไรกัน?!”ตอนแรกที่เวินจื่อเยวี่ยเห็นหลินเนี่ยนฉือกลับมา ก็ยังรู้สึกยินดีอยู่บ้างถึงอย่างไรหลินเนี่ยนฉือก็เป็นคู่หมั้นของเขา ทั้งสองคนก็นับว่าเติบโตมาด้วยกันแต่เด็ก เป็นเพื่อนเล่นที่สนิทสนมกันตอนที่พวกเขาหมั้นหมายกันนั้น ก็เป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งสองคนต่างมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้น พอได้เห็นหลินเนี่ยนฉือที่ไม่ได้พบกันนาน ปฏิกิริยาแรกของเวินจื่อเยวี่ยก็ย่อมยินดีเป็นธรรมดาแต่ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมาก็ได้ยินหลินเนี่ยนฉือที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ด่าทอเขาและน้องหกเวินจื่อเยวี่ยขมวดคิ้วทันที “ไม่ได้เจอกันมาครึ่ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 503

    ขณะนี้หลินเนี่ยนฉือกำลังถือแส้ม้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ด้านหนึ่งก็พิงตัวอยู่บนรถม้า เมื่อได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นมอง“พี่ใหญ่เวิน? เหตุใดท่านถึง...ดูอ่อนแอเช่นนี้?”เมื่อเห็นเวินฉางอวิ้นออกมา หลินเนี่ยนฉือเกือบคิดว่าตัวเองจำคนผิดเสียแล้วสีหน้าซีดเผือดนั่น ก้าวเดินอย่างอ่อนแรง...หากมิใช่เพราะนางคุ้นเคยกับพี่น้องทั้งสี่ของสกุลเวินเป็นอย่างดี คงคิดว่าเขาไม่ใช่เวินฉางอวิ้น แต่เป็นพี่สี่สกุลเวินที่ป่วยออดๆ แอดๆ มาตลอดทั้งปีเสียอีก?เวินฉางอวิ้นสะอึกกับคำว่า “อ่อนแอ” ของนาง ไอสองครั้ง หลังจากปรับลมหายใจให้เป็นปกติแล้ว จึงฝืนยิ้มกล่าวว่า “ช่วงนี้ป่วยนิดหน่อย สีหน้าเลยไม่ค่อยดี ทำให้เนี่ยนฉือต้องขบขันแล้ว”เขาอธิบายอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ได้บอกความจริงว่าตัวเองถูกวางยาพิษจากนั้นเขาก็ถามว่า “จริงสิ เนี่ยนฉือมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว เหตุใดถึงไม่ยอมเข้าไปข้างใน? ข้างนอกอากาศหนาว พี่ใหญ่สั่งให้คนเตรียมถ่านไฟไว้แล้ว มีเรื่องอะไรก็เข้าไปนั่งคุยกันข้างในดีหรือไม่?”เมื่อหลินเนี่ยนฉือเห็นท่าทางน่าสงสารของเขา ความโกรธที่สะสมมาก็อดไม่ได้ที่จะลดลงไปบ้างเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่อาจลดความรู้สึกไม่เป็นธร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 502

    “ใครกัน? เมื่อครู่มีคนมาส่งเสียงดังเอะอะโวยวายที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเรา!”“ไปๆๆ รีบไสหัวไปเสีย มิฉะนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”หนึ่งในยามเฝ้าประตูถือกระบองจะเข้าไปไล่คน แต่ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมา องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังหลินเนี่ยนฉือก็ชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นคมดาบสีขาวราวหิมะทหารยามที่เดิมทีท่าทางโกรธเกรี้ยวก็ตกใจ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว กลืนน้ำลายแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ไหน? กล้าดีอย่างไรมาชักดาบที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกง?!”“ข้าเห็นว่าบ่าวโง่อย่างพวกเจ้าหูหนวกตาบอด ฟังคำพูดของข้าไม่รู้เรื่อง หรือว่ายังจำหน้าข้าไม่ได้อีกหรือ?”หลินเนี่ยนฉือก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตาเฉียบคมกวาดมองทหารยามผู้นั้นทหารยามอีกคนพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมาในหัว ในที่สุดก็นึกออก รีบเข้าไปกล่าวด้วยความนอบน้อม “ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่หลิน สหายคนนี้เพิ่งมาใหม่ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่เคยเห็นหน้าคุณหนูใหญ่หลิน คุณหนูใหญ่หลินโปรดอภัย ข้าน้อยจะรีบเข้าไปแจ้งให้ทราบเดี๋ยวนี้!”เขารีบดึงสหายของตัวเองไปข้างหลัง แล้วบังคับให้คารวะพร้อมกัน“ถือว่าบ่าวอย่างเจ้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status