Share

บทที่ 358

Author: จิ้งซิง
“ข้างหน้าดูเหมือนกำลังเผาอะไรอยู่?”

ยังไม่ทันถึงอำเภอหนิงอัน เวินซื่อก็มองเห็นจากที่ไกลๆ ว่าข้างหน้าเหมือนมีแสงไฟ

เป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางออกคำสั่ง “ทุกคนตรวจสอบหน้ากาก จากนี้ไปห้ามเปิดปากและจมูกออกข้างนอก”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เวินซื่อที่นั่งอยู่ในรถม้าได้ยินดังนั้น ก็รีบตรวจสอบหน้ากากที่ตนเองสวมอยู่ทันที

แม้ว่านางจะมีน้ำทิพย์คุ้มกาย ไม่จำเป็นต้องกลัวโรคระบาดเข้าใกล้ แต่ก็ต้องทำเป็นแบบอย่าง อย่างน้อยในสายตาของคนอื่น การป้องกันของนางต้องดีมากพอ จึงจะไม่ทำให้เกิดข้อสงสัย

หลังจากเข้าใกล้ ทุกคนก็พบต้นตอของแสงไฟอย่างรวดเร็ว

เวินซื่อเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง มองดูศพจำนวนมากที่กองสุมกันราวกับภูเขาในสุสานหมู่

“น่าจะเป็นคำสั่งของหนิงหย่วนโหว”

ศพของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคระบาดเหล่านี้จะทิ้งไว้ไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นในไม่ช้าก็จะกลายเป็นแหล่งกำเนิดโรคระบาดแห่งใหม่

เวินซื่อรู้เรื่องนี้ดี

เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกในสองชาติภพที่นางได้เห็นภาพเช่นนี้ แม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อได้เห็นกับตาจริงๆ ก็ยังทำใจให้สงบลงไม่ได้เป็นเวลานาน

“ถึงแล้ว”

ทันทีที่รถม้ามาถึงอำเภอหนิงอัน กองทหารรักษาการณ์
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
WLFJ
เดี๋ยวพระเอกก็หึงหรอก
goodnovel comment avatar
Torimaru
อัพตอนใหม่น้อยเกินไป อยากอ่านต่อแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 359

    เวินซื่อหน้าแดงด้วยความเขินอาย โชคดีที่หนิงหย่วนโหวไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากทั้งสองชมเชยซึ่งกันและกันพอสมควรแล้ว ก็รีบพูดคุยเรื่องสำคัญทันที“สองสามวันนี้ต้องขอบคุณท่านที่ส่งสมุนไพรมาให้ สรรพคุณของสมุนไพรเหล่านั้นดีจริงๆ ท่านไปหามาจากที่ไหน ยังหามาให้ข้าได้อีกหรือไม่?”หนิงหย่วนโหวรีบเอ่ยถามเมื่อพูดถึงเรื่องสำคัญเป่ยเฉินหยวนส่ายหน้า “นั่นไม่ใช่สมุนไพรที่ข้าหามา เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์นำมาจากเมืองหลวง”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์นำมาหรือ?”หนิงหย่วนโหวหันไปมองเวินซื่ออีกครั้งด้วยความประหลาดใจเวินซื่อพยักหน้าเล็กน้อย “สมุนไพรเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ข้านำมาจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่มีเหลือแล้ว เพราะทั้งหมดเป็นสิ่งที่ข้าปลูกเอง มีไม่มากนัก ของที่มีอยู่ก็ได้นำมาทั้งหมดแล้ว”สายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหนิงหย่วนโหวเปลี่ยนเป็นผิดหวังในทันทีแต่เวินซื่อกล่าวต่อ “สมุนไพรเหล่านั้นที่ข้านำมา ส่วนใหญ่นำมาส่งที่อำเภอหนิงอันแล้ว เพียงแค่สองวันนี้ หากท่านโหวทำตามที่ข้าบอก คือนำไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆ ก็เพียงพอสำหรับทั้งอำเภอหนิงอันแล้ว”สองวันมานี้ เหตุผลที่นางไม่ได้มาอำเภอหนิงอันเป็นที่แรก ก็เพื่อรอให้ฤทธิ์ของน้ำ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 360

    “เป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ใจกว้าง ข้าจะไม่ปิดบังท่าน สองวันนี้ ต้องขอบคุณสมุนไพรที่ท่านส่งมาให้ เพียงวันเดียว ก็สามารถควบคุมอาการป่วยของคนส่วนใหญ่ในอำเภอหนิงอันได้ ตอนนี้ศพที่ถูกขนออกไปก็น้อยลงมาก”และในบรรดาศพเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ร่างกายทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วมิฉะนั้น ก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักหน่อย“ช่วยได้ก็ดีแล้ว แต่สมุนไพรก็เป็นเพียงสมุนไพร สิ่งสำคัญที่สุดคือโชคดีที่ใต้บังคับบัญชาของใต้เท้าหนิงหย่วนโหวมีคนคิดค้นตำรับยารักษาโรคระบาดได้ มิฉะนั้นสมุนไพรของข้าก็คงไม่มีประโยชน์มากนัก”เวินซื่อจะไม่โอ้อวดในเวลานี้แม้ว่าน้ำทิพย์ของนางจะเกิดประโยชน์มากกว่าจริงๆ ก็ตามนางก็ต้องลดความโดดเด่นลงบ้างคนที่เข้าใจย่อมหันมาสนใจสมุนไพรของนางเหมือนกับหนิงหย่วนโหวเมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “ในเมื่อสมุนไพรเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ปลูก เช่นนั้นท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์จะยังคงปลูกต่อไปในอนาคตใช่หรือไม่?”แน่นอนว่าเวินซื่อพยักหน้า “ข้าชอบปลูกสมุนไพร และเชี่ยวชาญในการปลูกสมุนไพร ที่เมืองหลวงก็มีแปลงสมุนไพรอยู่ไม่น้อย ครั้งนี้เก็บเกี่ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 361

    แต่ต่อมาหลังจากหนิงหย่วนโหวได้รับสมุนไพรสองชุดที่เขาสั่งมาในราคาถูก เขาก็รู้ว่าตัวเองได้เปรียบมากเพียงใดแน่นอน เรื่องสำคัญของวันนี้ไม่ใช่การจำหน่ายยาหลังจากตกลงกันด้วยวาจาอย่างเรียบง่าย เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนก็ช่วยกันตรวจสอบสถานการณ์ภายในอำเภอหนิงอันทั้งหมดมันดีกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้มากจริง ๆส่วนสถานการณ์ของสุสานหมู่ที่เห็นอยู่นอกเมืองในตอนแรกนั้นถือว่าเบาอยู่เพราะหนิงหย่วนโหวบอกพวกเขาว่า สุสานหมู่ที่อยู่นอกเมืองก่อนหน้านี้ต้องมีการเผาศพนับร้อยศพทุกวันวันที่มากที่สุดก็คือวันที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในอำเภอหนิงอัน มีผู้คนเสียชีวิตห้าถึงหกร้อยคนในชั่วข้ามคืนทั่วทั้งอำเภอหนิงอันมีอยู่เพียงไม่กี่พันคน แต่ตอนนี้ได้เสียชีวิตไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้วเวินซื่อฟังจนจบอย่างสงบเงียบ ขณะที่เข้าไปในพื้นที่โรคระบาดของอำเภอหนิงอัน นางก็โปรยน้ำทิพย์ลงบนมงกุฎดอกไม้เพิ่มอีกเพียงแต่ในขณะที่เดินเฉียดหัวไหล่ของเป่ยเฉินหยวนไป เป่ยเฉินหยวนก็คว้าข้อมือของนางไว้ทันใด“บนตัวท่าน...ดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ?”เวินซื่อชะงักไป นางชักมือของตัวเองกลับ จากนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างราบเรียบ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 362

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเยวี่ยด้วยความเจ็บปวดใจ “น้องหกไม่งอแงนะ ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้เจ้าได้กลับบ้านแล้ว ไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้าอีกแล้ว”เวินเยวี่ยยังคงอยู่ในสภาพร้องไห้มึนงง จับแขนของเวินอวี้จือไว้แน่น ในขณะที่ร้องไห้กับเวิ่นจื่อเยวี่ย “จริงหรือพี่สาม? เยวี่ยเอ๋อร์กลับมาที่บ้านแล้วจริงหรือ? ต่อไปเยวี่ยเอ๋อร์ไม่ต้องเข้าวังอีกแล้วใช่ไหม?”“ใช่แล้ว น้องหกวางใจได้ ฝ่าบาททรงตรัสแล้ว ว่าจะไม่เลือกเจ้าเป็นพระสนมแล้ว”เวินจื่อเยวี่ยรีบปลอบโยนนางแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าบอกเล่าคำพูดที่ฝ่าบาทตรัสไว้ในตอนที่ออกคำสั่งให้เวินเยวี่ยฟังคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงดื้อรั้น ไร้กฎระเบียบ ไม่มีความรู้ ไร้ความสามารถ ตั้งแต่เข้าวังมาจนบัดนี้ยังไม่ผ่านคุณสมบัติ โง่เขลาเสียจริง ไม่คู่ควรเป็นพระสนมคำพูดจากปากของฝ่าบาท บัดนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกหนทุกอย่าง เวินเยวี่ยเองนับว่ามีชื่อกระฉ่อนขึ้นมาอีกครั้งโดยเฉพาะแปดคำสุดท้าย “โง่เขลาเสียจริง ไม่คู่ควรเป็นพระสนม”อาจกล่าวได้ว่าไม่เพียงแต่ตัดขาดความคิดของเวินเยวี่ยที่จะเข้าไปในวังเท่านั้น แต่ยังตัดโอกาสการสมรสในอนาคตของนางอีกด้วยด้วยแปดคำนี้ ต่อไปจะมีตระกูลขุน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 363

    หลังจากเวินเฉวียนเซิ่งพูดคุยกับเวินเยวี่ยไม่กี่คำก็รีบจากไปโดยเร็ว เพราะยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกไม่นาน ภายในห้องก็เหลือเพียงเวินจื่อเยวี่ย เวินอวี้จือ และเวินเยวี่ยที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือคิดไว้ว่าจะปลอบโยนเวินเยวี่ยอีกสักพัก จนกว่านางหยุดร้องไห้ก็จะกลับไปแต่ในขณะที่สองพี่น้องกำลังจะกลับไปนั้น เวินเยวี่ยก็คว้าชายเสื้อของเวินจื่อเยวี่ยขึ้นมาทันใดเวินเยวี่ยที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเผยดวงตาคู่หนึ่งออกมา พลางเอ่ยด้วยท่าทีขลาดกลัว “พี่สาม ข้ามีบางอย่างจะบอกท่าน ท่านอยู่เป็นเพื่อนเยวี่ยเอ๋อร์อีกสักพักได้ไหม?”เวินจื่อเยวี่ยไม่มีทางปฏิเสธนางแน่นอน“เช่นนั้นข้าจะกลับห้องไปพักผ่อนก่อน”เวินอวี้จือเหลือบมองเวินเยวี่ยโดยไม่พูดอะไรมากนัก ก่อนจะหันหลังเดินออกจากประตูไปหลังจากเหลือเพียงเวินเยวี่ยและเวินจื่อเยวี่ยสองพี่น้องคู่นี้แล้ว เวินจื่อเยวี่ยจึงถามขึ้นว่า “มีอะไรหรือน้องหก มีอะไรจะพูดกับพี่สามหรือ?”“พี่สาม ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้เยวี่ยเอ๋อร์ชั่วร้ายเหลือเกิน วางยาพี่สามเหมือนถูกปีศาจร้ายเข้าสิง ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป แต่หลังจากทำแบบนั้นไปแล้วข้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 364

    เวินจื่อเยวี่ยปลอบโยนนางอยู่สีหน้าของเวินเยวี่ยซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ดวงตากวางน้อยทั้งสองเบิกกว้าง เหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กลัวถูกทอดทิ้งนางกอดเวินจื่อเยวี่ยแน่น แล้วถามย้ำว่า “จริงหรือ? พี่สามจะไม่ทอดทิ้งเยวี่ยเอ๋อร์จริงหรือ? แต่เยวี่ยเอ๋อร์กลัวมาก ตอนนี้ท่านพ่อดูเหมือนจะผิดหวังในตัวเยวี่ยเอ๋อร์เป็นพิเศษ พี่รองไม่ต้องการเยวี่ยเอ๋อร์แล้ว พี่ใหญ่...พี่ใหญ่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบข้าแล้ว สุขภาพของพี่สี่ก็ไม่ดี เยวี่ยเอ๋อร์กลัวว่าตัวเองไปพึ่งพาเขา ต้องมีสักวันที่ทำให้เขารังเกียจ หากพี่สามก็จะทอดทิ้งเยวี่ยเอ๋อร์เช่นกันล่ะก็ เยวี่ยเอ๋อร์ก็จะไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ”นางเอาแต่พูดว่ากลัว เมื่อจาระไนดูแล้ว ดูเหมือนว่าในจวนเจิ้นกั๋วกงนางเหลือเพียงเวินจื่อเยวี่ยเท่านั้นที่สามารถพึ่งพาได้ ยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้เวินจื่อเยวี่ยรู้สึกสงสารมากขึ้นเท่านั้น“ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว พี่สามสัญญา!”เวินจื่อเยวี่ยรวบนิ้วทั้งสามเข้าด้วยกัน แล้วสาบานด้วยสีหน้าจริงจัง “หากในอนาคตพี่สามทิ้งน้องหกของพวกเรา ก็ให้พี่สามถูกฟ้าผ่าลงทัณฑ์ ตายในทันที!”“ไม่นะ!”เวินจื่อเยวี่ยรีบบอกว่า “พี่สามอย่าพูดแบบนี้ พี่สามเป็นพี่ช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 365

    ในขณะเดียวกันลู่โจวเวินซื่อยังไม่รู้เรื่องความพลิกผันภายในจวนเจิ้นกั๋วกงแห่งเมืองหลวงในเวลานี้หลังจากจัดพิธีสวดขอพรครั้งสุดท้ายในอำเภอหนิงอันเสร็จสิ้นแล้ว เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนก็ไม่ได้ออกจากลู่โจวทันทีตามแผนเดิมที่วางไว้ แต่ยังคงอยู่ในอำเภอหนิงอันเพื่อร่วมกันให้การช่วยเหลือจนกระทั่งประชาชนในอำเภอหนิงอันทั้งหมดรอดพ้นจากภัยอันตราย และโรคระบาดในลู่โจวทั้งหมดได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว พวกเขาถึงออกเดินทางกลับเมืองหลวงในที่สุด“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ อย่าลืมสมุนไพรสองชุดนั้นที่ข้าสั่งจองไว้เด็ดขาด!”ขณะที่เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนจากไปในครั้งนี้ หนิงหย่วนโหวที่ยังเฝ้าดูแลอยู่ในอำเภอหนิงอันก็หาเวลาว่างจนได้ มาส่งพวกเขาเดินทางด้วยตัวเอง“หนิงหย่วนโหววางใจเถอะ ข้าไม่มีทางลืมหรอก”รถม้าเคลื่อนตัวออกจากอำเภอหนิงอันอย่างช้า ๆหลังจากเวินซื่อที่ยุ่งอยู่หลายวันถอนสายตากลับมาแล้ว กำลังเตรียมจะปิดม่านลงและกลับเข้าไปในรถเพื่อพักผ่อนสักครู่แต่ในขณะที่สายตาของนางเลื่อนผ่านสุสานหมู่แห่งนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็น “ศพ” หนึ่งที่นอนฟุบอยู่บนพื้นอย่างฉับพลันเวินซื่อยังนึกว่าเป็นศพของประชา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 366

    ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป เวินซื่อก็นิ่งเงียบไปนางจ้องไปที่ฉางเสี่ยวหานที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อนใครก็ไม่คาดคิดว่า นางจะเป็นน้องสาวของฉางอู๋เต้าผู้นั้นจริง ๆใช่แล้ว ในเหตุการณ์ที่อำเภอหนิงอัน ฉางเสี่ยวหานถูกปล้น พ่อแม่ของนางถูกฆ่าปิดปาก พี่ชายของนางก็ถ่วงตัวเองในบ่อน้ำฆ่าตัวตายหลังจากการแก้แค้น ทุกคนนึกเอาเองโดยจิตใต้สำนึกว่าฉางเสี่ยวหานก็น่าจะตายแล้วเช่นกันแต่นึกไม่ถึงว่า นางจะยังมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะเกือบตายไปแล้วก็ตาม“เจ้า...ซ่อนตัวอยู่ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้เลยหรือ?”ดูเหมือนว่าฉางเสี่ยวหานจะยังไม่รู้เรื่องที่พี่ชายของนางได้กลับมาตั้งนานแล้วฉางเสี่ยวหานพยักหน้าดังคาด “ใช่เจ้าค่ะ นึกไม่ถึงว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะคาดเดาถูกอีกแล้ว”เมื่อเผชิญกับท่าทางวิตกกังวลของเวินซื่อ บางทีอาจเป็นเพราะธิดาศักดิ์สิทธิ์ท่านนี้เพิ่งช่วยชีวิตนางไว้ ฉางเสี่ยวหานจึงไม่ได้มีท่าทีระแวดระวังตัวนางในเวลานี้ พอพูดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะระบายออกมาหลังจากยิ้มออกมาครู่หนึ่ง ใบหน้าผอมซูบนั้นก็เผยท่าทางเจ็บปวดออกมา “ก่อนหน้านี้ข้าถูกคนจับตัวไว้ เป็นเพราะไม่เชื่อฟังเขา จึงถูกขังไว้ไม่ให้ข้าวกิน ไม่ให

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status