Share

บทที่ 0003

Author: ดุจไหม
แม่เล้าดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง รีบพยักหน้าแล้วรับเอาทองคำไปอย่างรวดเร็ว

ในใจข้าทั้งเศร้าและโกรธเคือง จ้องมองหลานจื่อพลางขยับริมฝีปากถาม "ทำไมกัน?"

หลานจื่อชะงักเล็กน้อย เดินมาจับคางข้าเชิดขึ้น หลังจากพิจารณาใบหน้าช้ำบวมที่ไม่เหลือเค้าความงามเหมือนเดิม นางก็กระซิบข้างหูข้าว่า "เพราะเจ้ามันโง่เหมือนควาย สมควรแล้วที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้!"

ความชื้นแผ่ซ่านบนใบหน้า เป็นน้ำตาที่ผสมกับเลือดรินไหลลงมา

หลานจื่อลุกขึ้นอย่างถึงพอใจ ยื่นเท้ามาเหยียบมือข้าและบดขยี้อย่างแรง

ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ ข้าดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับสุนัขจรจัดที่ไร้ญาติขาดที่พึ่ง

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงวุ่นวายดังมาจากห้องโถงด้านหน้า

เสียงฝีเท้าที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแผ่กระจายไปทั่ว ไม่นานนัก ทั้งหอคณิกาก็เงียบเสียงลง

เสียงเย็นชาดังขึ้น "กรมอาญามาตรวจสอบคดี ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบออกไปเสีย"

แม่เล้าและหลานจื่อที่กำลังจะเดินจากไปต่างสีหน้าเปลี่ยนไป

แต่ดวงตาข้ากลับสว่างวาบ

พี่ชาย!

เขาต้องพบว่าข้าหายตัวไปและมาตามหาข้าแน่!

ข้าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามคลานไปที่ห้องโถงด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างเพียงกำแพงกั้น

แต่หลานจื่อรู้ทันความตั้งใจของข้า หันไปพูดกับแม่เล้าว่า

"เจ้าต้องจับตาดูนางให้ดี หากกรมอาญารู้ว่าเจ้าค้ามนุษย์ เจ้าต้องติดคุกแน่"

สายตาแม่เล้าเปลี่ยนเป็นดุร้ายในทันที ยัดผ้าเข้าปากข้าและกักขังข้าอีกครั้ง

ข้านอนนิ่งเหมือนปลาตายบนพื้น ได้แต่หวังว่าพี่ชายจะหาตัวข้าพบเร็วๆ

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร มีเสียงสนทนาของคนสองคนดังแว่วมา

พี่ชายตำหนิว่า "เหลวไหลจริงๆ เจ้าเป็นสตรี จะมาสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไร?"

ซีเยว่ตอบอย่างออดอ้อน "ก็ข้าได้ยินว่าซีเยว่หายตัวไป กังวลใจจึงอยากออกตามหา"

ร่างกายข้าสั่นสะท้าน

หลานจื่อตามติดพี่ชายไม่ยอมห่าง เพราะนางต้องการขัดขวางไม่ให้พี่ชายพบข้าแน่!

ประตูห้องถูกไล่เปิดทีละห้อง เมื่อมาถึงห้องข้า ประตูก็ส่งเสียงดังออกมา แต่ไม่ได้ถูกเปิดออก

พี่ชายสงสัย "ทำไมห้องนี้ถูกคล้องกุญแจไว้ล่ะ?"

หลานจื่อพูดขึ้นข้างๆ "ห้องนี้ขังนางคณิกาที่ไม่ยอมเชื่อฟังเอาไว้ ข้าเข้าไปดูมาแล้ว ซีเยว่ไม่ได้อยู่ในนี้"

พี่ชายครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เชื่อคำพูดของนาง

เพราะในสายตาของเขา หลานจื่อเป็นเพื่อนสนิทของข้ามาหลายปี คงไม่โกหกเขาหรอก

เห็นว่าพวกเขากำลังจะจากไป ข้าจึงตัดสินใจเด็ดขาด คลานไปบนพื้นและใช้หัวกระแทกประตูสุดแรง

โชคดีที่แม่เล้ารีบจากไป จึงล็อกประตูไม่แน่นนัก

ไม่นาน ข้าก็กระแทกจนประตูเปิดและล้มลงตรงระเบียงทางเดิน เผชิญหน้ากับพี่ชายที่กำลังจะจากไปพอดี

พี่ชายเห็นข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รีบเดินเข้ามาหา

"อย่าไปนะ!"

หลานจื่อรั้งเขาไว้

พี่ชายมองนางอย่างสงสัย "ทำไมจะไปไม่ได้?"

หลานจื่อทำหน้าห่วงใย "ข้าได้ยินว่านางคณิกาพวกนี้เป็นป่วยโรคสกปรก ข้าก็เป็นห่วงว่าพี่ชายจะติดโรคเอาได้"

พี่ชายชะงักการเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าหลงเชื่อคำพูดนั้น

ข้าอึ้งเล็กน้อย พี่ชายจำข้าไม่ได้หรือ?

แต่มันก็จริง ตอนนี้ข้าถูกทำร้ายจนเลือดท่วมตัว

แม้แต่ตัวข้าเอง ก็มองไม่ออกว่าคนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงดูน่าสมเพชนี้คือตัวข้า

"พี่ชาย ข้าคือซีเยว่ ช่วยข้าด้วย!"

ข้าร้องขอความช่วยเหลือสุดแรง แต่เพราะผ้าในปาก จึงพูดออกไปไม่เป็นคำ

พี่ชายมองข้าครู่หนึ่ง หันไปพูดกับแม่เล้าเสียงเย็นชา

"ข้าเคยได้ยินว่าหอคณิกาเป็นสถานที่อโคจร แต่ไม่คิดว่าวิธีทรมานคนจะโหดร้ายยิ่งกว่ากรมอาญาถึงสามส่วน!"

เขาวางเงินก้อนและผ้าเช็ดหน้าสะอาดตรงหน้าข้า พูดอย่างเห็นอกเห็นใจว่า

"ขออภัยด้วย วันนี้ข้าต้องไปตามหาน้องสาว ไม่อาจช่วยเหลือเจ้าได้ เจ้าเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ ภายหลังหาหมอที่ดีมารักษาตัวเองเถิด"

พูดจบ เขาไม่มองข้าอีก หันหลังจากไปโดยไม่ลังเล

หลานจื่อเดินตามไปติดๆ แต่ไม่วายหันมาทิ้งสายตาเยาะเย้ยให้ข้า

ข้าได้แต่มองพวกเขาจากไป อยากจะลากร่างที่บาดเจ็บสาหัสนี้ไล่ตามไป

แต่เพิ่งก้าวไปได้ก้าวเดียว ก็ถูกกดลงบนพื้นเย็นเฉียบ ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย

แม่เล้าหน้าตามืดมน ใช้มือบีบต้นคอข้า

ไม่นาน หอคณิกาก็กลับมาคึกคักเหมือนเดิม

แม่เล้าเดินเข้ามาแล้วเยาะเย้ยอย่างเย็นชา "ยังคิดจะหนีอีกหรือ? แม้แต่คนจากกรมอาญาก็ช่วยเจ้าไม่ได้"

ข้าหมดสิ้นความหวัง ได้แต่กอดผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นร้องไห้เงียบๆ

หลังจากนั้น แม่เล้าก็ทำตามที่หลานจื่อบอก ทรมานข้าอย่างโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม เพื่อให้ข้ายอมจำนน

ข้าต่อต้านถึงขั้นยอมกรีดหน้าตัวเอง

แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังหนีออกจากหอคณิกานี้ไม่ได้

ข้าไม่มีแรงต่อต้านอีกต่อไป

แม่เล้าพอใจในความว่าง่ายของข้า จึงใช้ยาอย่างดีมารักษาบาดแผลทั่วร่างให้หาย

จากนั้นก็ให้ข้าเปลี่ยนไปใส่ชุดระบำน้อยชิ้น ส่งข้าขึ้นเวทีหอคณิกา เพื่อประมูลราตรีแรกของข้า

แม่เล้ามั่นใจในรูปโฉมของข้า การประมูลครั้งนี้ทุ่มโฆษณาอย่างหนัก หอคณิกาที่กว้างใหญ่แน่นขนัดจนแทบไม่มีที่ให้น้ำไหลผ่าน

ข้ามองทุกอย่างผ่านผ้าคลุมหน้า เห็นบรรดาชายที่จ้องมองมาอย่างหื่นกระหาย ในนั้นมีทั้งเพื่อนร่วมงานของท่านพ่อ เพื่อนสนิทของพี่ชาย และชายหนุ่มที่เคยสารภาพรักกับข้า

รวมถึงหลานจื่อด้วย นางนั่งกับซ่งซูในห้องชั้นสองขณะก้มมองลงมา ในดวงตาเต็มไปด้วยแววร้ายกาจ

หากข้าถูกเปิดผ้าคลุมหน้าและถูกผู้อื่นจดจำได้ที่นี่ ไม่เพียงข้าจะตกต่ำ แต่ยังจะทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลพังพินาศด้วย

ข้าหลับตาอย่างสิ้นหวัง พอคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้พ่อแม่และญาติพี่น้องอับอาย ก็อยากกัดลิ้นตายเสียตรงนี้

แม่เล้ายังคงตะโกนสุดแรงเกิด พยายามขายข้าให้ได้ราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ในขณะที่บรรยากาศกำลังร้อนแรง และผ้าคลุมหน้าของข้ากำลังจะถูกเปิดออกนั้น
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0004

    ดาบเล่มหนึ่งพุ่งแหวกผ่านอากาศเข้ามา ปักลงตรงหน้าแม่เล้าอย่างรุนแรงแม่เล้าตกใจร้องกรี๊ด มือที่กำลังจะเปิดผ้าคลุมหน้าของข้าหยุดชะงักพี่ชายบุกเข้ามาพร้อมคนจำนวนมาก สายตาคมกริบมองมาที่ข้าบนเวที ก่อนจะก้าวเดินตรงมาแม่เล้ายังพยายามขัดขวาง "นายท่าน หากท่านสนใจคุณหนูผินผิน ก็เข้าร่วมการประมูลกับขุนนางและแขกคนอื่นๆ ได้ อย่าใช้กำลังเลยนะเจ้าคะ!"พี่ชายมองนางด้วยความเย็นชา ตบนางจนกระเด็นออกไปคนอื่นๆ ในที่นั้นไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันขว้างปาข้าวของขึ้นมาบนเวที"ทำอะไรของเขา? ใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่?""ชู่! ดูเหมือนจะเป็นคนจากกรมอาญา คงมาสืบคดี""คนกรมอาญาแล้วยังไง? ข้ามาหาความสำราญ เขาจะจับข้าด้วยข้อหาอะไรกัน?"...เมื่อเห็นว่ามีเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจจากด้านล่างเวทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายกลับย่อตัวลงตรงหน้าข้าอย่างมั่นคง คอยป้องกันสิ่งสกปรกที่ถูกขว้างปาขึ้นมา"ซีเยว่ เป็นเจ้าใช่ไหม?"ในขณะนั้น ข้าแทบจะร้องไห้ออกมาข้าพยักหน้าไม่หยุด พูดด้วยเสียงสะอื้น "พี่ชาย ใช่เจ้าค่ะ เป็นข้าเอง"ดวงตาของพี่ชายฉายแววโกรธเกรี้ยว โอบข้าเข้าสู่อ้อมกอดและจะพาข้าออกไปแต่แม่เล้าไม่ยอม

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0005

    พี่ชายมีสีหน้าเศร้าโศก แต่ก็ยังพยายามปลอบใจข้า "ไม่เป็นไรแล้ว โชคดีที่ซีเยว่รู้จักใช้คำว่า 'ผินผิน' มาทำให้พี่รู้สึกสะกิดใจ พี่จึงช่วยเจ้าได้ทันเวลา""ซีเยว่ฉลาดจริงๆ พี่ภูมิใจในตัวเจ้านะ"ตอนที่แม่เล้าจะตั้งชื่อดอกไม้เป็นฉายาแทนตัวให้ข้า ข้าบอกกับนางว่าจะขอตั้งเองแม้ทุกคนจะรู้ว่าบุตรสาวท่านราชเลขาธิการมีนามว่าหลี่ซีเยว่ แต่ชื่อเล่น 'ผินผิน' นั้นมีเพียงคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นที่รู้โชคดีที่แม่เล้าไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยอมให้ข้าตั้งชื่อเองและโชคดีที่พี่ชายช่างสังเกต จึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชื่อนี้แต่ข้าก็ยังร้องไห้ไม่หยุด อยากจะระบายความทุกข์และความกลัวที่ได้รับในช่วงหลายวันนี้ออกมาให้หมดเมื่อข้าร้องไห้จนพอใจแล้ว พี่ชายจึงถามข้า "เจ้าวางใจได้ พี่จะแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน บอกพี่มาสิว่าใครเป็นคนขายเจ้าให้หอคณิกา?"ข้ากัดฟันด้วยความแค้น พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ซ่งซูกับหลานจื่อ พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายข้า!"ตอนที่เห็นหลานจื่อนั่งอยู่กับซ่งซูในหอคณิกา ข้าก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาด้วยฐานะของซ่งซู เขาไม่มีทางรู้จักข้าได้เลยแต่ในความจริง กลับกลายเป็นว่าเขามัก

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0006

    ข้าโกรธจนตัวสั่น "วันนั้นข้าไปตามนัดของเจ้า แต่ระหว่างทางเจ้าวางยาทำให้ข้าสลบแล้วขายข้าไปที่หอคณิกา เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ!"ซ่งเหวินหดตัวเข้าหากันด้วยความกลัว แต่ก็ยังปากแข็งบอกว่า "คุณหนูหลี่ช่างไม่รู้จักอาย สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน กลับพูดเรื่องการนัดพบบุรุษได้โดยไม่อายปากเลย!""แต่เรื่องที่คุณหนูหลี่ถูกขายไปหอคณิกานั้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็รู้กันหมดแล้ว ชื่อเสียงของคุณหนูหลี่พังพินาศแล้ว คงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของพี่ชายก็เขียวคล้ำ ใบหน้าของพ่อและแม่ก็บึ้งตึงอย่างมากซ่งเหวินยังคงพูดอย่างไม่รู้จักอาย "แม้ว่าซีเยว่จะเคยอยู่ในหอคณิกา แต่ก่อนหน้านี้เราก็รักใคร่กัน ข้าจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่งนางเข้าบ้านก็ได้"เขาพูดด้วยท่าทางโอหังราวกับอยู่เหนือกว่า มองมาที่ข้าด้วยความรักลึกซึ้ง "ซีเยว่ ข้าชอบเจ้าจริงๆ ข้าไม่สนใจหรอกว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเสียหายขนาดไหน เจ้าแต่งงานกับข้าเถอะนะ!"ข้ารู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง อยากจะฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้พี่ชายถึงกับชักดาบออกมาจ่อที่ลำคอเขาซ่งเหวินตกใจจนฉี่ราด แต่ยังคงตะโกนว่า "พวกเจ้าคิดให้ดีๆ สิ! ใ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0007

    พี่ชายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัด ทั้งตีทั้งเตะหลานจื่อ "แปลว่าวันนั้น ตอนที่เจ้าบอกว่านั่นไม่ใช่ซีเยว่ ก็เป็นการจงใจใช่ไหม?""ซีเยว่นับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าทำแบบนี้กับนางได้อย่างไร?"เขาไม่คาดคิดเลยว่า ทั้งที่มีโอกาสช่วยข้าออกจากหอคณิกาได้ทันทีโดยไม่เสียชื่อเสียง แต่กลับถูกหลานจื่อทำลายจนหมดสิ้นเมื่อเห็นว่าแผนการล้มเหลว หลานจื่อก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปนางหัวเราะเสียงคิกคัก ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองข้าผ่านเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิง พูดอย่างดุร้าย"เพื่อนงั้นเหรอ? คนโง่อย่างเจ้าจะมาเป็นเพื่อนข้าได้อย่างไร?"ข้าจ้องตานางอย่างสงบ ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยกับคำพูดนั้นแต่หลานจื่อกลับโกรธที่เห็นความสงบนิ่งของข้า ท่าทางยิ่งคลุ้มคลั่ง "จะบอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนจริงๆ หรือ?""เจ้าแค่ต้องการคนประกบ คนติดตามก็เท่านั้น!""ละครเพื่อนรักดุจพี่น้องท้องเดียวกันนี้ ข้าเองก็ไม่ได้อยากแสดงต่อหรอก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านราชเลขาธิการ การติดตามเจ้าก็มีประโยชน์มากมาย""แต่ใครใช้ให้องค์ชายรองชอบเจ้าล่ะ? ข้ายอมให้เจ้าได้ทุกอย่าง แต่องค์ชายรองข้ายอมยกให

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0008

    พี่ชายไม่พูดอะไรมาก ลากทั้งสองคนลงไปทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากข้างนอกแม้จะได้แก้แค้นสำเร็จ แต่ในใจข้ากลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเจ็ดวันนี้ ราวกับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตข้าไปโดยสิ้นเชิงท่านแม่กอดข้าด้วยความเป็นห่วงน้ำตาข้าเริ่มคลอเบ้า บอกตัวเองว่าอย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวที่รักและห่วงใยข้าขณะที่ข้ารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นของมารดาซึ่งกำลังลูบศีรษะข้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินท่านแม่พูดขึ้นว่า "ซีเยว่ คนพวกนั้นตายไปหมดแล้ว""เจ้าได้แก้แค้นตามที่ต้องการแล้ว หากไม่ฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ เจ้าจะยังรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?"ข้าละงัก ค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรอยู่เจ้าคะ?”สีหน้าของท่านแม่ยังคงอ่อนโยน แขนที่กอดข้าก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับทำให้ข้าหนาวสั่นไปทั้งตัว"ซีเยว่ เจ้าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เพื่อชื่อเสียงนับร้อยปีของตระกูลหลี่ เจ้ามีทางเดียวคือต้องฆ่าตัวตาย เจ้าเข้าใจหรือไม่?"ข้าจ้องมองท่านแม่ ค่อยๆ ถอยออกจากอ้อมกอดของท่านท่านแม่ไม่ได้โกรธ เพียงแต่มองข้

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0009

    ข้าพยายามสุดชีวิตเพื่อหนีออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ก็เพียงเพราะอยากพบพวกเขาอีกครั้งเท่านั้นทั้งที่จนป่านนี้แล้วแท้ๆ แต่ข้าก็ยังอดนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของท่านแม่ ฝ่ามืออันกว้างใหญ่ของท่านพ่อ และความรักที่พี่ชายมอบให้ข้าตั้งแต่เด็กไม่ได้ช่างน่าขันเสียจริงข้าเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า จ้องตรงไปที่สามคนตรงหน้า แล้วฉีกยิ้มสดใส "ได้ ข้าจะทำตามที่พวกท่านต้องการ""ข้าจะตาย"พวกเขาพาข้าไปที่ศาลบรรพชนพวกเขาให้เวลาข้าทำใจหนึ่งก้านธูปหลังจากธูปดับ ข้าจะต้องฆ่าตัวตายต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติของสตรีและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลป้ายบรรพชนอันเย็นเยียบในความมืด ราวกับดวงตาที่จ้องมองข้าด้วยความโกรธแค้น ชวนให้หวาดกลัวโดยไม่มีเหตุผลข้ามองเปลวเทียนที่สั่นระริกตรงหน้า ภาพใบหน้าโล่งอกของบิดารมารดาและพี่ชาย หลังจากข้ายินยอมจะฆ่าตัวตายผุดขึ้นมาอีกครั้งบางทีพวกเขาอาจไว้ใจข้ามากเกินไป ถึงขนาดไม่ส่งคนมาเฝ้าในศาลบรรพชน ปล่อยให้ข้าอยู่ตัวคนเดียวเมื่อธูปใกล้จะดับมอดลง เงาร่างสามสาบก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ราวกับวิญญาณร้ายที่หมายเอาชีวิต"ซีเยว่ ต้องการความช่วยเหลือไหมลูก"แม่เร

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0001

    ข้าได้ยินชัดเจน นั่นเป็นเสียงต่อรองราคาของคนสองคนคนหนึ่งคือซ่งซู คนรักของข้า อีกคนคือแม่เล้าจากหอคณิกาที่อยู่ห่างจากบ้านข้าสองถนน!ร่างกายเริ่มหนาวสั่น ข้าตระหนักได้ว่าตัวเองถูกซ่งซูขายเข้าหอคณิกาเสียแล้วไม่นาน พวกเขาก็ตกลงราคากันเสร็จผ้าดำที่ปิดตาถูกดึงออก ข้าเผชิญหน้ากับสายตาที่ทั้งน่าขยะแขยงและโลภมากของแม่เล้าร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัวแม่เล้าพินิจดูข้าด้วยความพอใจ "ไม่เลว ขอแค่เจ้าว่าง่าย ด้วยคุณสมบัติของเจ้า ต้องเป็นดาวเด่นของหอชุนหยวนได้แน่"ข้าส่งเสียงครางในลำคอด้วยความวิตกกังวลแม่เล้าพูดเสียงเย็นชา "อย่าคิดจะเล่นลูกไม้กับข้าเชียว เข้ามาในหอชุนหยวนแล้ว อย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้!"ข้ารู้ว่านางจำข้าไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ายังอยู่ในวัยซุกซน ข้าเคยแต่งตัวเป็นบุรุษมาเที่ยวหอชุนหยวนสองสามครั้งตอนนั้นแม่เล้าเดาได้ว่าข้าเป็นใคร จึงต้อนรับข้าอย่างดีแต่ข้าไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งข้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของนางข้ากล้ำกลืนความอับอายไว้ คลานไปคว้าเสื้อผ้าราคาแพงที่อยู่บนพื้น ส่งเสียงครางอู้อี้ชุดนี้ตัดจากผ้าแพรพระราชทาน บนนั้นยังมีลายปักที่มีเฉพาะในจวนราชเลขาธิการ แค่ให้แม่

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0002

    แส้ฟาดลงบนร่างไม่หยุด ทั่วทั้งตัวแสบร้อนราวถูกของมีคมกรีดแทงข้าขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็ถูกตบจนล้มลงกับพื้นแม่เล้ามองข้าด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังอีก จะไม่ใช่แค่เจ็บตัวธรรมดาแบบนี้หรอกนะ!"ข้าไม่ยอมแพ้ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตะโกนอย่างร้อนรน"สองเดือนก่อน มีหญิงสองคนแต่งกายเป็นชายมาที่หอชุนหยวน ตอนนั้นท่านเป็นคนต้อนรับเองนะ หนึ่งในนั้นก็คือข้านี่แหละ! ท่านดูให้ดีๆ สิ!""คนที่ขายข้ามาที่นี่ ต้องปิดบังความจริงกับท่านแน่ๆ! เชื่อข้าเถอะ!"แม่เล้ากวาดตามองข้าขึ้นลงอยู่สองสามครา แล้วเยาะเย้ยว่า "เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ข้าไปสืบข่าวที่จวนราชเลขาธิการแล้ว ช่วงนี้คุณหนูจวนราชเลขาธิการเป็นไข้หวัดนอนป่วยอยู่บนเตียง จะหายตัวไปได้อย่างไร?"ข้ารู้สึกหน้ามืดตามัว กระวนกระวายจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมาคำโตนั่นเป็นข้ออ้างที่ข้าแต่งขึ้นมาเองเพื่อออกไปพบซ่งซู แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาแทงตัวข้าเสียเองในที่สุดข้าก็สิ้นหวัง น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่แต่แม่เล้าชินชากับภาพแบบนี้ จึงไม่มีความสงสารแม้แต่น้อยนางเรียกแม่นมรูปร่างอ้วนท้วมเข้ามาสองคน สั่งเสียงเ

Latest chapter

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0009

    ข้าพยายามสุดชีวิตเพื่อหนีออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ก็เพียงเพราะอยากพบพวกเขาอีกครั้งเท่านั้นทั้งที่จนป่านนี้แล้วแท้ๆ แต่ข้าก็ยังอดนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของท่านแม่ ฝ่ามืออันกว้างใหญ่ของท่านพ่อ และความรักที่พี่ชายมอบให้ข้าตั้งแต่เด็กไม่ได้ช่างน่าขันเสียจริงข้าเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า จ้องตรงไปที่สามคนตรงหน้า แล้วฉีกยิ้มสดใส "ได้ ข้าจะทำตามที่พวกท่านต้องการ""ข้าจะตาย"พวกเขาพาข้าไปที่ศาลบรรพชนพวกเขาให้เวลาข้าทำใจหนึ่งก้านธูปหลังจากธูปดับ ข้าจะต้องฆ่าตัวตายต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติของสตรีและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลป้ายบรรพชนอันเย็นเยียบในความมืด ราวกับดวงตาที่จ้องมองข้าด้วยความโกรธแค้น ชวนให้หวาดกลัวโดยไม่มีเหตุผลข้ามองเปลวเทียนที่สั่นระริกตรงหน้า ภาพใบหน้าโล่งอกของบิดารมารดาและพี่ชาย หลังจากข้ายินยอมจะฆ่าตัวตายผุดขึ้นมาอีกครั้งบางทีพวกเขาอาจไว้ใจข้ามากเกินไป ถึงขนาดไม่ส่งคนมาเฝ้าในศาลบรรพชน ปล่อยให้ข้าอยู่ตัวคนเดียวเมื่อธูปใกล้จะดับมอดลง เงาร่างสามสาบก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ราวกับวิญญาณร้ายที่หมายเอาชีวิต"ซีเยว่ ต้องการความช่วยเหลือไหมลูก"แม่เร

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0008

    พี่ชายไม่พูดอะไรมาก ลากทั้งสองคนลงไปทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากข้างนอกแม้จะได้แก้แค้นสำเร็จ แต่ในใจข้ากลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเจ็ดวันนี้ ราวกับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตข้าไปโดยสิ้นเชิงท่านแม่กอดข้าด้วยความเป็นห่วงน้ำตาข้าเริ่มคลอเบ้า บอกตัวเองว่าอย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวที่รักและห่วงใยข้าขณะที่ข้ารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นของมารดาซึ่งกำลังลูบศีรษะข้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินท่านแม่พูดขึ้นว่า "ซีเยว่ คนพวกนั้นตายไปหมดแล้ว""เจ้าได้แก้แค้นตามที่ต้องการแล้ว หากไม่ฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ เจ้าจะยังรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?"ข้าละงัก ค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรอยู่เจ้าคะ?”สีหน้าของท่านแม่ยังคงอ่อนโยน แขนที่กอดข้าก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับทำให้ข้าหนาวสั่นไปทั้งตัว"ซีเยว่ เจ้าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เพื่อชื่อเสียงนับร้อยปีของตระกูลหลี่ เจ้ามีทางเดียวคือต้องฆ่าตัวตาย เจ้าเข้าใจหรือไม่?"ข้าจ้องมองท่านแม่ ค่อยๆ ถอยออกจากอ้อมกอดของท่านท่านแม่ไม่ได้โกรธ เพียงแต่มองข้

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0007

    พี่ชายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัด ทั้งตีทั้งเตะหลานจื่อ "แปลว่าวันนั้น ตอนที่เจ้าบอกว่านั่นไม่ใช่ซีเยว่ ก็เป็นการจงใจใช่ไหม?""ซีเยว่นับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าทำแบบนี้กับนางได้อย่างไร?"เขาไม่คาดคิดเลยว่า ทั้งที่มีโอกาสช่วยข้าออกจากหอคณิกาได้ทันทีโดยไม่เสียชื่อเสียง แต่กลับถูกหลานจื่อทำลายจนหมดสิ้นเมื่อเห็นว่าแผนการล้มเหลว หลานจื่อก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปนางหัวเราะเสียงคิกคัก ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองข้าผ่านเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิง พูดอย่างดุร้าย"เพื่อนงั้นเหรอ? คนโง่อย่างเจ้าจะมาเป็นเพื่อนข้าได้อย่างไร?"ข้าจ้องตานางอย่างสงบ ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยกับคำพูดนั้นแต่หลานจื่อกลับโกรธที่เห็นความสงบนิ่งของข้า ท่าทางยิ่งคลุ้มคลั่ง "จะบอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนจริงๆ หรือ?""เจ้าแค่ต้องการคนประกบ คนติดตามก็เท่านั้น!""ละครเพื่อนรักดุจพี่น้องท้องเดียวกันนี้ ข้าเองก็ไม่ได้อยากแสดงต่อหรอก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านราชเลขาธิการ การติดตามเจ้าก็มีประโยชน์มากมาย""แต่ใครใช้ให้องค์ชายรองชอบเจ้าล่ะ? ข้ายอมให้เจ้าได้ทุกอย่าง แต่องค์ชายรองข้ายอมยกให

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0006

    ข้าโกรธจนตัวสั่น "วันนั้นข้าไปตามนัดของเจ้า แต่ระหว่างทางเจ้าวางยาทำให้ข้าสลบแล้วขายข้าไปที่หอคณิกา เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ!"ซ่งเหวินหดตัวเข้าหากันด้วยความกลัว แต่ก็ยังปากแข็งบอกว่า "คุณหนูหลี่ช่างไม่รู้จักอาย สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน กลับพูดเรื่องการนัดพบบุรุษได้โดยไม่อายปากเลย!""แต่เรื่องที่คุณหนูหลี่ถูกขายไปหอคณิกานั้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็รู้กันหมดแล้ว ชื่อเสียงของคุณหนูหลี่พังพินาศแล้ว คงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของพี่ชายก็เขียวคล้ำ ใบหน้าของพ่อและแม่ก็บึ้งตึงอย่างมากซ่งเหวินยังคงพูดอย่างไม่รู้จักอาย "แม้ว่าซีเยว่จะเคยอยู่ในหอคณิกา แต่ก่อนหน้านี้เราก็รักใคร่กัน ข้าจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่งนางเข้าบ้านก็ได้"เขาพูดด้วยท่าทางโอหังราวกับอยู่เหนือกว่า มองมาที่ข้าด้วยความรักลึกซึ้ง "ซีเยว่ ข้าชอบเจ้าจริงๆ ข้าไม่สนใจหรอกว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเสียหายขนาดไหน เจ้าแต่งงานกับข้าเถอะนะ!"ข้ารู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง อยากจะฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้พี่ชายถึงกับชักดาบออกมาจ่อที่ลำคอเขาซ่งเหวินตกใจจนฉี่ราด แต่ยังคงตะโกนว่า "พวกเจ้าคิดให้ดีๆ สิ! ใ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0005

    พี่ชายมีสีหน้าเศร้าโศก แต่ก็ยังพยายามปลอบใจข้า "ไม่เป็นไรแล้ว โชคดีที่ซีเยว่รู้จักใช้คำว่า 'ผินผิน' มาทำให้พี่รู้สึกสะกิดใจ พี่จึงช่วยเจ้าได้ทันเวลา""ซีเยว่ฉลาดจริงๆ พี่ภูมิใจในตัวเจ้านะ"ตอนที่แม่เล้าจะตั้งชื่อดอกไม้เป็นฉายาแทนตัวให้ข้า ข้าบอกกับนางว่าจะขอตั้งเองแม้ทุกคนจะรู้ว่าบุตรสาวท่านราชเลขาธิการมีนามว่าหลี่ซีเยว่ แต่ชื่อเล่น 'ผินผิน' นั้นมีเพียงคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นที่รู้โชคดีที่แม่เล้าไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยอมให้ข้าตั้งชื่อเองและโชคดีที่พี่ชายช่างสังเกต จึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชื่อนี้แต่ข้าก็ยังร้องไห้ไม่หยุด อยากจะระบายความทุกข์และความกลัวที่ได้รับในช่วงหลายวันนี้ออกมาให้หมดเมื่อข้าร้องไห้จนพอใจแล้ว พี่ชายจึงถามข้า "เจ้าวางใจได้ พี่จะแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน บอกพี่มาสิว่าใครเป็นคนขายเจ้าให้หอคณิกา?"ข้ากัดฟันด้วยความแค้น พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ซ่งซูกับหลานจื่อ พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายข้า!"ตอนที่เห็นหลานจื่อนั่งอยู่กับซ่งซูในหอคณิกา ข้าก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาด้วยฐานะของซ่งซู เขาไม่มีทางรู้จักข้าได้เลยแต่ในความจริง กลับกลายเป็นว่าเขามัก

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0004

    ดาบเล่มหนึ่งพุ่งแหวกผ่านอากาศเข้ามา ปักลงตรงหน้าแม่เล้าอย่างรุนแรงแม่เล้าตกใจร้องกรี๊ด มือที่กำลังจะเปิดผ้าคลุมหน้าของข้าหยุดชะงักพี่ชายบุกเข้ามาพร้อมคนจำนวนมาก สายตาคมกริบมองมาที่ข้าบนเวที ก่อนจะก้าวเดินตรงมาแม่เล้ายังพยายามขัดขวาง "นายท่าน หากท่านสนใจคุณหนูผินผิน ก็เข้าร่วมการประมูลกับขุนนางและแขกคนอื่นๆ ได้ อย่าใช้กำลังเลยนะเจ้าคะ!"พี่ชายมองนางด้วยความเย็นชา ตบนางจนกระเด็นออกไปคนอื่นๆ ในที่นั้นไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันขว้างปาข้าวของขึ้นมาบนเวที"ทำอะไรของเขา? ใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่?""ชู่! ดูเหมือนจะเป็นคนจากกรมอาญา คงมาสืบคดี""คนกรมอาญาแล้วยังไง? ข้ามาหาความสำราญ เขาจะจับข้าด้วยข้อหาอะไรกัน?"...เมื่อเห็นว่ามีเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจจากด้านล่างเวทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายกลับย่อตัวลงตรงหน้าข้าอย่างมั่นคง คอยป้องกันสิ่งสกปรกที่ถูกขว้างปาขึ้นมา"ซีเยว่ เป็นเจ้าใช่ไหม?"ในขณะนั้น ข้าแทบจะร้องไห้ออกมาข้าพยักหน้าไม่หยุด พูดด้วยเสียงสะอื้น "พี่ชาย ใช่เจ้าค่ะ เป็นข้าเอง"ดวงตาของพี่ชายฉายแววโกรธเกรี้ยว โอบข้าเข้าสู่อ้อมกอดและจะพาข้าออกไปแต่แม่เล้าไม่ยอม

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0003

    แม่เล้าดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง รีบพยักหน้าแล้วรับเอาทองคำไปอย่างรวดเร็วในใจข้าทั้งเศร้าและโกรธเคือง จ้องมองหลานจื่อพลางขยับริมฝีปากถาม "ทำไมกัน?"หลานจื่อชะงักเล็กน้อย เดินมาจับคางข้าเชิดขึ้น หลังจากพิจารณาใบหน้าช้ำบวมที่ไม่เหลือเค้าความงามเหมือนเดิม นางก็กระซิบข้างหูข้าว่า "เพราะเจ้ามันโง่เหมือนควาย สมควรแล้วที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้!"ความชื้นแผ่ซ่านบนใบหน้า เป็นน้ำตาที่ผสมกับเลือดรินไหลลงมาหลานจื่อลุกขึ้นอย่างถึงพอใจ ยื่นเท้ามาเหยียบมือข้าและบดขยี้อย่างแรงความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ ข้าดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับสุนัขจรจัดที่ไร้ญาติขาดที่พึ่งในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงวุ่นวายดังมาจากห้องโถงด้านหน้าเสียงฝีเท้าที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแผ่กระจายไปทั่ว ไม่นานนัก ทั้งหอคณิกาก็เงียบเสียงลงเสียงเย็นชาดังขึ้น "กรมอาญามาตรวจสอบคดี ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบออกไปเสีย"แม่เล้าและหลานจื่อที่กำลังจะเดินจากไปต่างสีหน้าเปลี่ยนไปแต่ดวงตาข้ากลับสว่างวาบพี่ชาย!เขาต้องพบว่าข้าหายตัวไปและมาตามหาข้าแน่!ข้าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามคลานไปที่ห้องโถงด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างเพียงกำแพงกั้น

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0002

    แส้ฟาดลงบนร่างไม่หยุด ทั่วทั้งตัวแสบร้อนราวถูกของมีคมกรีดแทงข้าขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็ถูกตบจนล้มลงกับพื้นแม่เล้ามองข้าด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังอีก จะไม่ใช่แค่เจ็บตัวธรรมดาแบบนี้หรอกนะ!"ข้าไม่ยอมแพ้ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตะโกนอย่างร้อนรน"สองเดือนก่อน มีหญิงสองคนแต่งกายเป็นชายมาที่หอชุนหยวน ตอนนั้นท่านเป็นคนต้อนรับเองนะ หนึ่งในนั้นก็คือข้านี่แหละ! ท่านดูให้ดีๆ สิ!""คนที่ขายข้ามาที่นี่ ต้องปิดบังความจริงกับท่านแน่ๆ! เชื่อข้าเถอะ!"แม่เล้ากวาดตามองข้าขึ้นลงอยู่สองสามครา แล้วเยาะเย้ยว่า "เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ข้าไปสืบข่าวที่จวนราชเลขาธิการแล้ว ช่วงนี้คุณหนูจวนราชเลขาธิการเป็นไข้หวัดนอนป่วยอยู่บนเตียง จะหายตัวไปได้อย่างไร?"ข้ารู้สึกหน้ามืดตามัว กระวนกระวายจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมาคำโตนั่นเป็นข้ออ้างที่ข้าแต่งขึ้นมาเองเพื่อออกไปพบซ่งซู แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาแทงตัวข้าเสียเองในที่สุดข้าก็สิ้นหวัง น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่แต่แม่เล้าชินชากับภาพแบบนี้ จึงไม่มีความสงสารแม้แต่น้อยนางเรียกแม่นมรูปร่างอ้วนท้วมเข้ามาสองคน สั่งเสียงเ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0001

    ข้าได้ยินชัดเจน นั่นเป็นเสียงต่อรองราคาของคนสองคนคนหนึ่งคือซ่งซู คนรักของข้า อีกคนคือแม่เล้าจากหอคณิกาที่อยู่ห่างจากบ้านข้าสองถนน!ร่างกายเริ่มหนาวสั่น ข้าตระหนักได้ว่าตัวเองถูกซ่งซูขายเข้าหอคณิกาเสียแล้วไม่นาน พวกเขาก็ตกลงราคากันเสร็จผ้าดำที่ปิดตาถูกดึงออก ข้าเผชิญหน้ากับสายตาที่ทั้งน่าขยะแขยงและโลภมากของแม่เล้าร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัวแม่เล้าพินิจดูข้าด้วยความพอใจ "ไม่เลว ขอแค่เจ้าว่าง่าย ด้วยคุณสมบัติของเจ้า ต้องเป็นดาวเด่นของหอชุนหยวนได้แน่"ข้าส่งเสียงครางในลำคอด้วยความวิตกกังวลแม่เล้าพูดเสียงเย็นชา "อย่าคิดจะเล่นลูกไม้กับข้าเชียว เข้ามาในหอชุนหยวนแล้ว อย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้!"ข้ารู้ว่านางจำข้าไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ายังอยู่ในวัยซุกซน ข้าเคยแต่งตัวเป็นบุรุษมาเที่ยวหอชุนหยวนสองสามครั้งตอนนั้นแม่เล้าเดาได้ว่าข้าเป็นใคร จึงต้อนรับข้าอย่างดีแต่ข้าไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งข้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของนางข้ากล้ำกลืนความอับอายไว้ คลานไปคว้าเสื้อผ้าราคาแพงที่อยู่บนพื้น ส่งเสียงครางอู้อี้ชุดนี้ตัดจากผ้าแพรพระราชทาน บนนั้นยังมีลายปักที่มีเฉพาะในจวนราชเลขาธิการ แค่ให้แม่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status