Share

บทที่ 0002

Author: ดุจไหม
แส้ฟาดลงบนร่างไม่หยุด ทั่วทั้งตัวแสบร้อนราวถูกของมีคมกรีดแทง

ข้าขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็ถูกตบจนล้มลงกับพื้น

แม่เล้ามองข้าด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังอีก จะไม่ใช่แค่เจ็บตัวธรรมดาแบบนี้หรอกนะ!"

ข้าไม่ยอมแพ้ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตะโกนอย่างร้อนรน

"สองเดือนก่อน มีหญิงสองคนแต่งกายเป็นชายมาที่หอชุนหยวน ตอนนั้นท่านเป็นคนต้อนรับเองนะ หนึ่งในนั้นก็คือข้านี่แหละ! ท่านดูให้ดีๆ สิ!"

"คนที่ขายข้ามาที่นี่ ต้องปิดบังความจริงกับท่านแน่ๆ! เชื่อข้าเถอะ!"

แม่เล้ากวาดตามองข้าขึ้นลงอยู่สองสามครา แล้วเยาะเย้ยว่า "เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ข้าไปสืบข่าวที่จวนราชเลขาธิการแล้ว ช่วงนี้คุณหนูจวนราชเลขาธิการเป็นไข้หวัดนอนป่วยอยู่บนเตียง จะหายตัวไปได้อย่างไร?"

ข้ารู้สึกหน้ามืดตามัว กระวนกระวายจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมาคำโต

นั่นเป็นข้ออ้างที่ข้าแต่งขึ้นมาเองเพื่อออกไปพบซ่งซู แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาแทงตัวข้าเสียเอง

ในที่สุดข้าก็สิ้นหวัง น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่

แต่แม่เล้าชินชากับภาพแบบนี้ จึงไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย

นางเรียกแม่นมรูปร่างอ้วนท้วมเข้ามาสองคน สั่งเสียงเย็นชาว่า

"สอนนังทาสชั้นต่ำนี่ให้รู้จักกฎของการเป็นนางคณิกาซะ ถ้ายังไม่เชื่อฟังก็ตีเสียให้เข็ด!"

แม่นมทั้งสองยิ้มอย่างอำมหิตพลางกระชากผมข้า แล้วรุมทุบตีข้า

ผ่านไปหลายชั่วยาม ข้าถูกทรมานจนแทบขาดใจ แม้แต่จะเอ่ยปากพูดก็ยังไม่มีแรง

แม่เล้าถ่มน้ำลายใส่ข้าอย่างแรง แล้วแขวนข้าไว้กับคานเพื่อให้สำนึก ก่อนจะเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย

ข้าเกือบจะหมดสติ ในภวังค์ครึ่งหลับครึ่งตื่นราวกับได้ยินเสียงคุ้นหู

"หอคณิกาเก่าๆ ทำไมถึงใหญ่โตขนาดนี้..."

เมื่อข้าได้ยินเสียงบ่นระคนออดอ้อนนั้น ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

นั่นคือหลานจื่อ!

เพื่อนสนิทของข้าตั้งแต่เด็ก

สองเดือนก่อนนางก็แต่งกายเป็นบุรุษแอบมาเที่ยวที่นี่พร้อมกับข้า การที่นางจะมาที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

นึกถึงตอนเด็กที่ข้าตกหน้าผา นางยอมเอาชีวิตมาเสี่ยงอันตรายจากสัตว์ป่าเพื่อช่วยข้าขึ้นมา เรียกได้ว่าสนิทกันมากเลยทีเดียว

ขอแค่นางเห็นข้า ข้าต้องรอดไปจากที่นี่แน่!

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ข้าอยากจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่คอทั้งเจ็บทั้งแห้ง ได้แต่ส่งเสียงแผ่วเบา ไม่อาจดังเล็ดรอดออกไปนอกห้องได้

ข้าก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าตัวเองเอาแรงมาจากไหน ฝืนทนความเจ็บปวดแกว่งตัวไปเตะเก้าอี้ข้างๆ ให้ล้ม

พร้อมกับเสียงเก้าอี้ล้ม สายตาของหลานจื่อก็สบกับข้าผ่านช่องประตู

"ซีเยว่?!"

หลานจื่อจำข้าได้ทันที

ข้าตื่นเต้นในใจ แต่ได้แต่พูดเสียงแผ่วเบา "หลานจื่อ ช่วยข้าด้วย..."

หลานจื่อมองไปรอบๆ แล้วก้าวเข้ามาหาข้า

นางเอ่ยปลอบข้าพลางเรียกสาวใช้ให้หาก้อนหินมาทุบกุญแจคล้องที่ประตู

"ไม่ต้องกลัวนะซีเยว่ ข้าจะต้องช่วยเจ้าให้ได้!"

ไม่นานนัก กุญแจก็ถูกทุบจนแตก หลานจื่อตาแดงก่ำขณะช่วยปลดตัวข้าลงจากคาน

ข้าเห็นฝ่ามือของนางที่ถลอกเป็นแผลจากการทุบกุญแจ จึงพูดอย่างซาบซึ้ง "ขอบใจนะ หลานจื่อ"

หลานจื่อไม่พูดอะไร โอบข้าไว้พลางมองหาทางออกอย่างร้อนรน

นางตกใจกับบาดแผลรุนแรงบนตัวข้า พยายามเรียกสติไม่ให้ข้าเผลอหลับไป

ข้าพยายามลืมตา แต่หลังจากที่นางพาข้าเดินวนไปมาหลายรอบ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

"หลานจื่อ พวกเราเดินผิดทางหรือเปล่า? ทำไมยิ่งเดินยิ่งเปลี่ยวล่ะ?"

"เอ๋ ใช่หรือ?"

หลานจื่อยิ้มอย่างประหลาด เปิดประตูห้องตรงหน้าแล้วตะโกนบอกคนข้างใน

"ระวังหน่อยนะ นางคณิกาตัวน้อยของพวกเจ้าพยายามจะหนีน่ะ"

"วันนี้ในเมืองหลวงมีเรื่องเกิดขึ้น ห้องของท่านก็ไม่ค่อยเก็บเสียงเท่าไหร่ ถ้าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนได้ยินเข้า เกรงว่าพวกเจ้าจะเกิดปัญหาเอาได้นะ"

นางผลักข้าเข้าไปในห้อง ข้าเสียหลักล้มลงกับพื้น

แม่เล้าที่อยู่ในห้องมองข้าด้วยสายตาดุร้าย คว้าไม้ข้างตัวฟาดลงมาที่ข้าไม่ยั้ง

ข้าร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด หลานจื่อยืนอยู่ที่ประตูขณะมองด้วยความสนใจ ไม่มีทีท่าจะห้ามปราม

เมื่อเห็นสภาพน่าสังเวชของข้า บนใบหน้านางกลับปรากฏรอยยิ้มพอใจ

จนกระทั่งข้าถูกตีจนเลือดไหลนองพื้น แม่เล้าที่โกรธจัดจึงหยุดมือ พูดประจบหลานจื่อว่า

"รบกวนท่านจริงๆ นังทาสนี่เพิ่งมาใหม่ ยังไม่ยอมทำตัวว่านอนสอนง่าย โชคดีที่ท่านพาตัวมันกลับมาส่ง"

หลานจื่อมองข้าอย่างเย้ยหยัน "ท่านต้องคุมตัวมันให้ดีๆ นังคนนี้ดูเหมือนจะมีเล่ห์เหลี่ยมมาก"

แม่เล้าพยักหน้าหงึกๆ "ใช่ๆ นังตัวดีนี่ ก่อนหน้านี้ยังกล้าแอบอ้างว่าเป็นคุณหนูจวนราชเลขาธิการ บอกให้ข้าปล่อยตัวมันไป ข้าเกือบจะหลงเชื่ออยู่แล้วเชียว"

ดวงตาของหลานจื่อสว่างวาบขึ้นมา ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณหนูจวนราชเลขาธิการเป็นเพื่อนสนิทของข้า นางคณิกาอย่างเจ้ากล้าดีอย่างไรมาแอบอ้างสวมรอย—"

นางยื่นทองคำก้อนหนึ่งให้แม่เล้า พูดเสียงเย็นชา "ข้าไม่ยอมให้เพื่อนรักของข้าได้รับความอัปยศเช่นนี้หรอก หลังจากนี้เจ้าต้องสั่งสอนมันให้ดีๆ แทนข้าด้วย!"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0003

    แม่เล้าดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง รีบพยักหน้าแล้วรับเอาทองคำไปอย่างรวดเร็วในใจข้าทั้งเศร้าและโกรธเคือง จ้องมองหลานจื่อพลางขยับริมฝีปากถาม "ทำไมกัน?"หลานจื่อชะงักเล็กน้อย เดินมาจับคางข้าเชิดขึ้น หลังจากพิจารณาใบหน้าช้ำบวมที่ไม่เหลือเค้าความงามเหมือนเดิม นางก็กระซิบข้างหูข้าว่า "เพราะเจ้ามันโง่เหมือนควาย สมควรแล้วที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้!"ความชื้นแผ่ซ่านบนใบหน้า เป็นน้ำตาที่ผสมกับเลือดรินไหลลงมาหลานจื่อลุกขึ้นอย่างถึงพอใจ ยื่นเท้ามาเหยียบมือข้าและบดขยี้อย่างแรงความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ ข้าดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับสุนัขจรจัดที่ไร้ญาติขาดที่พึ่งในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงวุ่นวายดังมาจากห้องโถงด้านหน้าเสียงฝีเท้าที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแผ่กระจายไปทั่ว ไม่นานนัก ทั้งหอคณิกาก็เงียบเสียงลงเสียงเย็นชาดังขึ้น "กรมอาญามาตรวจสอบคดี ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบออกไปเสีย"แม่เล้าและหลานจื่อที่กำลังจะเดินจากไปต่างสีหน้าเปลี่ยนไปแต่ดวงตาข้ากลับสว่างวาบพี่ชาย!เขาต้องพบว่าข้าหายตัวไปและมาตามหาข้าแน่!ข้าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามคลานไปที่ห้องโถงด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างเพียงกำแพงกั้น

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0004

    ดาบเล่มหนึ่งพุ่งแหวกผ่านอากาศเข้ามา ปักลงตรงหน้าแม่เล้าอย่างรุนแรงแม่เล้าตกใจร้องกรี๊ด มือที่กำลังจะเปิดผ้าคลุมหน้าของข้าหยุดชะงักพี่ชายบุกเข้ามาพร้อมคนจำนวนมาก สายตาคมกริบมองมาที่ข้าบนเวที ก่อนจะก้าวเดินตรงมาแม่เล้ายังพยายามขัดขวาง "นายท่าน หากท่านสนใจคุณหนูผินผิน ก็เข้าร่วมการประมูลกับขุนนางและแขกคนอื่นๆ ได้ อย่าใช้กำลังเลยนะเจ้าคะ!"พี่ชายมองนางด้วยความเย็นชา ตบนางจนกระเด็นออกไปคนอื่นๆ ในที่นั้นไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันขว้างปาข้าวของขึ้นมาบนเวที"ทำอะไรของเขา? ใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่?""ชู่! ดูเหมือนจะเป็นคนจากกรมอาญา คงมาสืบคดี""คนกรมอาญาแล้วยังไง? ข้ามาหาความสำราญ เขาจะจับข้าด้วยข้อหาอะไรกัน?"...เมื่อเห็นว่ามีเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจจากด้านล่างเวทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายกลับย่อตัวลงตรงหน้าข้าอย่างมั่นคง คอยป้องกันสิ่งสกปรกที่ถูกขว้างปาขึ้นมา"ซีเยว่ เป็นเจ้าใช่ไหม?"ในขณะนั้น ข้าแทบจะร้องไห้ออกมาข้าพยักหน้าไม่หยุด พูดด้วยเสียงสะอื้น "พี่ชาย ใช่เจ้าค่ะ เป็นข้าเอง"ดวงตาของพี่ชายฉายแววโกรธเกรี้ยว โอบข้าเข้าสู่อ้อมกอดและจะพาข้าออกไปแต่แม่เล้าไม่ยอม

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0005

    พี่ชายมีสีหน้าเศร้าโศก แต่ก็ยังพยายามปลอบใจข้า "ไม่เป็นไรแล้ว โชคดีที่ซีเยว่รู้จักใช้คำว่า 'ผินผิน' มาทำให้พี่รู้สึกสะกิดใจ พี่จึงช่วยเจ้าได้ทันเวลา""ซีเยว่ฉลาดจริงๆ พี่ภูมิใจในตัวเจ้านะ"ตอนที่แม่เล้าจะตั้งชื่อดอกไม้เป็นฉายาแทนตัวให้ข้า ข้าบอกกับนางว่าจะขอตั้งเองแม้ทุกคนจะรู้ว่าบุตรสาวท่านราชเลขาธิการมีนามว่าหลี่ซีเยว่ แต่ชื่อเล่น 'ผินผิน' นั้นมีเพียงคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นที่รู้โชคดีที่แม่เล้าไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยอมให้ข้าตั้งชื่อเองและโชคดีที่พี่ชายช่างสังเกต จึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชื่อนี้แต่ข้าก็ยังร้องไห้ไม่หยุด อยากจะระบายความทุกข์และความกลัวที่ได้รับในช่วงหลายวันนี้ออกมาให้หมดเมื่อข้าร้องไห้จนพอใจแล้ว พี่ชายจึงถามข้า "เจ้าวางใจได้ พี่จะแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน บอกพี่มาสิว่าใครเป็นคนขายเจ้าให้หอคณิกา?"ข้ากัดฟันด้วยความแค้น พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ซ่งซูกับหลานจื่อ พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายข้า!"ตอนที่เห็นหลานจื่อนั่งอยู่กับซ่งซูในหอคณิกา ข้าก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาด้วยฐานะของซ่งซู เขาไม่มีทางรู้จักข้าได้เลยแต่ในความจริง กลับกลายเป็นว่าเขามัก

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0006

    ข้าโกรธจนตัวสั่น "วันนั้นข้าไปตามนัดของเจ้า แต่ระหว่างทางเจ้าวางยาทำให้ข้าสลบแล้วขายข้าไปที่หอคณิกา เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ!"ซ่งเหวินหดตัวเข้าหากันด้วยความกลัว แต่ก็ยังปากแข็งบอกว่า "คุณหนูหลี่ช่างไม่รู้จักอาย สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน กลับพูดเรื่องการนัดพบบุรุษได้โดยไม่อายปากเลย!""แต่เรื่องที่คุณหนูหลี่ถูกขายไปหอคณิกานั้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็รู้กันหมดแล้ว ชื่อเสียงของคุณหนูหลี่พังพินาศแล้ว คงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของพี่ชายก็เขียวคล้ำ ใบหน้าของพ่อและแม่ก็บึ้งตึงอย่างมากซ่งเหวินยังคงพูดอย่างไม่รู้จักอาย "แม้ว่าซีเยว่จะเคยอยู่ในหอคณิกา แต่ก่อนหน้านี้เราก็รักใคร่กัน ข้าจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่งนางเข้าบ้านก็ได้"เขาพูดด้วยท่าทางโอหังราวกับอยู่เหนือกว่า มองมาที่ข้าด้วยความรักลึกซึ้ง "ซีเยว่ ข้าชอบเจ้าจริงๆ ข้าไม่สนใจหรอกว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเสียหายขนาดไหน เจ้าแต่งงานกับข้าเถอะนะ!"ข้ารู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง อยากจะฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้พี่ชายถึงกับชักดาบออกมาจ่อที่ลำคอเขาซ่งเหวินตกใจจนฉี่ราด แต่ยังคงตะโกนว่า "พวกเจ้าคิดให้ดีๆ สิ! ใ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0007

    พี่ชายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัด ทั้งตีทั้งเตะหลานจื่อ "แปลว่าวันนั้น ตอนที่เจ้าบอกว่านั่นไม่ใช่ซีเยว่ ก็เป็นการจงใจใช่ไหม?""ซีเยว่นับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าทำแบบนี้กับนางได้อย่างไร?"เขาไม่คาดคิดเลยว่า ทั้งที่มีโอกาสช่วยข้าออกจากหอคณิกาได้ทันทีโดยไม่เสียชื่อเสียง แต่กลับถูกหลานจื่อทำลายจนหมดสิ้นเมื่อเห็นว่าแผนการล้มเหลว หลานจื่อก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปนางหัวเราะเสียงคิกคัก ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองข้าผ่านเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิง พูดอย่างดุร้าย"เพื่อนงั้นเหรอ? คนโง่อย่างเจ้าจะมาเป็นเพื่อนข้าได้อย่างไร?"ข้าจ้องตานางอย่างสงบ ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยกับคำพูดนั้นแต่หลานจื่อกลับโกรธที่เห็นความสงบนิ่งของข้า ท่าทางยิ่งคลุ้มคลั่ง "จะบอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนจริงๆ หรือ?""เจ้าแค่ต้องการคนประกบ คนติดตามก็เท่านั้น!""ละครเพื่อนรักดุจพี่น้องท้องเดียวกันนี้ ข้าเองก็ไม่ได้อยากแสดงต่อหรอก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านราชเลขาธิการ การติดตามเจ้าก็มีประโยชน์มากมาย""แต่ใครใช้ให้องค์ชายรองชอบเจ้าล่ะ? ข้ายอมให้เจ้าได้ทุกอย่าง แต่องค์ชายรองข้ายอมยกให

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0008

    พี่ชายไม่พูดอะไรมาก ลากทั้งสองคนลงไปทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากข้างนอกแม้จะได้แก้แค้นสำเร็จ แต่ในใจข้ากลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเจ็ดวันนี้ ราวกับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตข้าไปโดยสิ้นเชิงท่านแม่กอดข้าด้วยความเป็นห่วงน้ำตาข้าเริ่มคลอเบ้า บอกตัวเองว่าอย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวที่รักและห่วงใยข้าขณะที่ข้ารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นของมารดาซึ่งกำลังลูบศีรษะข้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินท่านแม่พูดขึ้นว่า "ซีเยว่ คนพวกนั้นตายไปหมดแล้ว""เจ้าได้แก้แค้นตามที่ต้องการแล้ว หากไม่ฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ เจ้าจะยังรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?"ข้าละงัก ค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรอยู่เจ้าคะ?”สีหน้าของท่านแม่ยังคงอ่อนโยน แขนที่กอดข้าก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับทำให้ข้าหนาวสั่นไปทั้งตัว"ซีเยว่ เจ้าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เพื่อชื่อเสียงนับร้อยปีของตระกูลหลี่ เจ้ามีทางเดียวคือต้องฆ่าตัวตาย เจ้าเข้าใจหรือไม่?"ข้าจ้องมองท่านแม่ ค่อยๆ ถอยออกจากอ้อมกอดของท่านท่านแม่ไม่ได้โกรธ เพียงแต่มองข้

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0009

    ข้าพยายามสุดชีวิตเพื่อหนีออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ก็เพียงเพราะอยากพบพวกเขาอีกครั้งเท่านั้นทั้งที่จนป่านนี้แล้วแท้ๆ แต่ข้าก็ยังอดนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของท่านแม่ ฝ่ามืออันกว้างใหญ่ของท่านพ่อ และความรักที่พี่ชายมอบให้ข้าตั้งแต่เด็กไม่ได้ช่างน่าขันเสียจริงข้าเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า จ้องตรงไปที่สามคนตรงหน้า แล้วฉีกยิ้มสดใส "ได้ ข้าจะทำตามที่พวกท่านต้องการ""ข้าจะตาย"พวกเขาพาข้าไปที่ศาลบรรพชนพวกเขาให้เวลาข้าทำใจหนึ่งก้านธูปหลังจากธูปดับ ข้าจะต้องฆ่าตัวตายต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติของสตรีและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลป้ายบรรพชนอันเย็นเยียบในความมืด ราวกับดวงตาที่จ้องมองข้าด้วยความโกรธแค้น ชวนให้หวาดกลัวโดยไม่มีเหตุผลข้ามองเปลวเทียนที่สั่นระริกตรงหน้า ภาพใบหน้าโล่งอกของบิดารมารดาและพี่ชาย หลังจากข้ายินยอมจะฆ่าตัวตายผุดขึ้นมาอีกครั้งบางทีพวกเขาอาจไว้ใจข้ามากเกินไป ถึงขนาดไม่ส่งคนมาเฝ้าในศาลบรรพชน ปล่อยให้ข้าอยู่ตัวคนเดียวเมื่อธูปใกล้จะดับมอดลง เงาร่างสามสาบก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ราวกับวิญญาณร้ายที่หมายเอาชีวิต"ซีเยว่ ต้องการความช่วยเหลือไหมลูก"แม่เร

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0001

    ข้าได้ยินชัดเจน นั่นเป็นเสียงต่อรองราคาของคนสองคนคนหนึ่งคือซ่งซู คนรักของข้า อีกคนคือแม่เล้าจากหอคณิกาที่อยู่ห่างจากบ้านข้าสองถนน!ร่างกายเริ่มหนาวสั่น ข้าตระหนักได้ว่าตัวเองถูกซ่งซูขายเข้าหอคณิกาเสียแล้วไม่นาน พวกเขาก็ตกลงราคากันเสร็จผ้าดำที่ปิดตาถูกดึงออก ข้าเผชิญหน้ากับสายตาที่ทั้งน่าขยะแขยงและโลภมากของแม่เล้าร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัวแม่เล้าพินิจดูข้าด้วยความพอใจ "ไม่เลว ขอแค่เจ้าว่าง่าย ด้วยคุณสมบัติของเจ้า ต้องเป็นดาวเด่นของหอชุนหยวนได้แน่"ข้าส่งเสียงครางในลำคอด้วยความวิตกกังวลแม่เล้าพูดเสียงเย็นชา "อย่าคิดจะเล่นลูกไม้กับข้าเชียว เข้ามาในหอชุนหยวนแล้ว อย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้!"ข้ารู้ว่านางจำข้าไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ายังอยู่ในวัยซุกซน ข้าเคยแต่งตัวเป็นบุรุษมาเที่ยวหอชุนหยวนสองสามครั้งตอนนั้นแม่เล้าเดาได้ว่าข้าเป็นใคร จึงต้อนรับข้าอย่างดีแต่ข้าไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งข้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของนางข้ากล้ำกลืนความอับอายไว้ คลานไปคว้าเสื้อผ้าราคาแพงที่อยู่บนพื้น ส่งเสียงครางอู้อี้ชุดนี้ตัดจากผ้าแพรพระราชทาน บนนั้นยังมีลายปักที่มีเฉพาะในจวนราชเลขาธิการ แค่ให้แม่

Latest chapter

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0009

    ข้าพยายามสุดชีวิตเพื่อหนีออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ก็เพียงเพราะอยากพบพวกเขาอีกครั้งเท่านั้นทั้งที่จนป่านนี้แล้วแท้ๆ แต่ข้าก็ยังอดนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของท่านแม่ ฝ่ามืออันกว้างใหญ่ของท่านพ่อ และความรักที่พี่ชายมอบให้ข้าตั้งแต่เด็กไม่ได้ช่างน่าขันเสียจริงข้าเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า จ้องตรงไปที่สามคนตรงหน้า แล้วฉีกยิ้มสดใส "ได้ ข้าจะทำตามที่พวกท่านต้องการ""ข้าจะตาย"พวกเขาพาข้าไปที่ศาลบรรพชนพวกเขาให้เวลาข้าทำใจหนึ่งก้านธูปหลังจากธูปดับ ข้าจะต้องฆ่าตัวตายต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติของสตรีและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลป้ายบรรพชนอันเย็นเยียบในความมืด ราวกับดวงตาที่จ้องมองข้าด้วยความโกรธแค้น ชวนให้หวาดกลัวโดยไม่มีเหตุผลข้ามองเปลวเทียนที่สั่นระริกตรงหน้า ภาพใบหน้าโล่งอกของบิดารมารดาและพี่ชาย หลังจากข้ายินยอมจะฆ่าตัวตายผุดขึ้นมาอีกครั้งบางทีพวกเขาอาจไว้ใจข้ามากเกินไป ถึงขนาดไม่ส่งคนมาเฝ้าในศาลบรรพชน ปล่อยให้ข้าอยู่ตัวคนเดียวเมื่อธูปใกล้จะดับมอดลง เงาร่างสามสาบก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ราวกับวิญญาณร้ายที่หมายเอาชีวิต"ซีเยว่ ต้องการความช่วยเหลือไหมลูก"แม่เร

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0008

    พี่ชายไม่พูดอะไรมาก ลากทั้งสองคนลงไปทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากข้างนอกแม้จะได้แก้แค้นสำเร็จ แต่ในใจข้ากลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเจ็ดวันนี้ ราวกับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตข้าไปโดยสิ้นเชิงท่านแม่กอดข้าด้วยความเป็นห่วงน้ำตาข้าเริ่มคลอเบ้า บอกตัวเองว่าอย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวที่รักและห่วงใยข้าขณะที่ข้ารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นของมารดาซึ่งกำลังลูบศีรษะข้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินท่านแม่พูดขึ้นว่า "ซีเยว่ คนพวกนั้นตายไปหมดแล้ว""เจ้าได้แก้แค้นตามที่ต้องการแล้ว หากไม่ฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ เจ้าจะยังรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?"ข้าละงัก ค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรอยู่เจ้าคะ?”สีหน้าของท่านแม่ยังคงอ่อนโยน แขนที่กอดข้าก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับทำให้ข้าหนาวสั่นไปทั้งตัว"ซีเยว่ เจ้าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เพื่อชื่อเสียงนับร้อยปีของตระกูลหลี่ เจ้ามีทางเดียวคือต้องฆ่าตัวตาย เจ้าเข้าใจหรือไม่?"ข้าจ้องมองท่านแม่ ค่อยๆ ถอยออกจากอ้อมกอดของท่านท่านแม่ไม่ได้โกรธ เพียงแต่มองข้

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0007

    พี่ชายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัด ทั้งตีทั้งเตะหลานจื่อ "แปลว่าวันนั้น ตอนที่เจ้าบอกว่านั่นไม่ใช่ซีเยว่ ก็เป็นการจงใจใช่ไหม?""ซีเยว่นับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าทำแบบนี้กับนางได้อย่างไร?"เขาไม่คาดคิดเลยว่า ทั้งที่มีโอกาสช่วยข้าออกจากหอคณิกาได้ทันทีโดยไม่เสียชื่อเสียง แต่กลับถูกหลานจื่อทำลายจนหมดสิ้นเมื่อเห็นว่าแผนการล้มเหลว หลานจื่อก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปนางหัวเราะเสียงคิกคัก ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองข้าผ่านเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิง พูดอย่างดุร้าย"เพื่อนงั้นเหรอ? คนโง่อย่างเจ้าจะมาเป็นเพื่อนข้าได้อย่างไร?"ข้าจ้องตานางอย่างสงบ ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยกับคำพูดนั้นแต่หลานจื่อกลับโกรธที่เห็นความสงบนิ่งของข้า ท่าทางยิ่งคลุ้มคลั่ง "จะบอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนจริงๆ หรือ?""เจ้าแค่ต้องการคนประกบ คนติดตามก็เท่านั้น!""ละครเพื่อนรักดุจพี่น้องท้องเดียวกันนี้ ข้าเองก็ไม่ได้อยากแสดงต่อหรอก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านราชเลขาธิการ การติดตามเจ้าก็มีประโยชน์มากมาย""แต่ใครใช้ให้องค์ชายรองชอบเจ้าล่ะ? ข้ายอมให้เจ้าได้ทุกอย่าง แต่องค์ชายรองข้ายอมยกให

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0006

    ข้าโกรธจนตัวสั่น "วันนั้นข้าไปตามนัดของเจ้า แต่ระหว่างทางเจ้าวางยาทำให้ข้าสลบแล้วขายข้าไปที่หอคณิกา เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ!"ซ่งเหวินหดตัวเข้าหากันด้วยความกลัว แต่ก็ยังปากแข็งบอกว่า "คุณหนูหลี่ช่างไม่รู้จักอาย สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน กลับพูดเรื่องการนัดพบบุรุษได้โดยไม่อายปากเลย!""แต่เรื่องที่คุณหนูหลี่ถูกขายไปหอคณิกานั้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็รู้กันหมดแล้ว ชื่อเสียงของคุณหนูหลี่พังพินาศแล้ว คงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของพี่ชายก็เขียวคล้ำ ใบหน้าของพ่อและแม่ก็บึ้งตึงอย่างมากซ่งเหวินยังคงพูดอย่างไม่รู้จักอาย "แม้ว่าซีเยว่จะเคยอยู่ในหอคณิกา แต่ก่อนหน้านี้เราก็รักใคร่กัน ข้าจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่งนางเข้าบ้านก็ได้"เขาพูดด้วยท่าทางโอหังราวกับอยู่เหนือกว่า มองมาที่ข้าด้วยความรักลึกซึ้ง "ซีเยว่ ข้าชอบเจ้าจริงๆ ข้าไม่สนใจหรอกว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเสียหายขนาดไหน เจ้าแต่งงานกับข้าเถอะนะ!"ข้ารู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง อยากจะฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้พี่ชายถึงกับชักดาบออกมาจ่อที่ลำคอเขาซ่งเหวินตกใจจนฉี่ราด แต่ยังคงตะโกนว่า "พวกเจ้าคิดให้ดีๆ สิ! ใ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0005

    พี่ชายมีสีหน้าเศร้าโศก แต่ก็ยังพยายามปลอบใจข้า "ไม่เป็นไรแล้ว โชคดีที่ซีเยว่รู้จักใช้คำว่า 'ผินผิน' มาทำให้พี่รู้สึกสะกิดใจ พี่จึงช่วยเจ้าได้ทันเวลา""ซีเยว่ฉลาดจริงๆ พี่ภูมิใจในตัวเจ้านะ"ตอนที่แม่เล้าจะตั้งชื่อดอกไม้เป็นฉายาแทนตัวให้ข้า ข้าบอกกับนางว่าจะขอตั้งเองแม้ทุกคนจะรู้ว่าบุตรสาวท่านราชเลขาธิการมีนามว่าหลี่ซีเยว่ แต่ชื่อเล่น 'ผินผิน' นั้นมีเพียงคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นที่รู้โชคดีที่แม่เล้าไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยอมให้ข้าตั้งชื่อเองและโชคดีที่พี่ชายช่างสังเกต จึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชื่อนี้แต่ข้าก็ยังร้องไห้ไม่หยุด อยากจะระบายความทุกข์และความกลัวที่ได้รับในช่วงหลายวันนี้ออกมาให้หมดเมื่อข้าร้องไห้จนพอใจแล้ว พี่ชายจึงถามข้า "เจ้าวางใจได้ พี่จะแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน บอกพี่มาสิว่าใครเป็นคนขายเจ้าให้หอคณิกา?"ข้ากัดฟันด้วยความแค้น พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ซ่งซูกับหลานจื่อ พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายข้า!"ตอนที่เห็นหลานจื่อนั่งอยู่กับซ่งซูในหอคณิกา ข้าก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาด้วยฐานะของซ่งซู เขาไม่มีทางรู้จักข้าได้เลยแต่ในความจริง กลับกลายเป็นว่าเขามัก

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0004

    ดาบเล่มหนึ่งพุ่งแหวกผ่านอากาศเข้ามา ปักลงตรงหน้าแม่เล้าอย่างรุนแรงแม่เล้าตกใจร้องกรี๊ด มือที่กำลังจะเปิดผ้าคลุมหน้าของข้าหยุดชะงักพี่ชายบุกเข้ามาพร้อมคนจำนวนมาก สายตาคมกริบมองมาที่ข้าบนเวที ก่อนจะก้าวเดินตรงมาแม่เล้ายังพยายามขัดขวาง "นายท่าน หากท่านสนใจคุณหนูผินผิน ก็เข้าร่วมการประมูลกับขุนนางและแขกคนอื่นๆ ได้ อย่าใช้กำลังเลยนะเจ้าคะ!"พี่ชายมองนางด้วยความเย็นชา ตบนางจนกระเด็นออกไปคนอื่นๆ ในที่นั้นไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันขว้างปาข้าวของขึ้นมาบนเวที"ทำอะไรของเขา? ใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่?""ชู่! ดูเหมือนจะเป็นคนจากกรมอาญา คงมาสืบคดี""คนกรมอาญาแล้วยังไง? ข้ามาหาความสำราญ เขาจะจับข้าด้วยข้อหาอะไรกัน?"...เมื่อเห็นว่ามีเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจจากด้านล่างเวทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายกลับย่อตัวลงตรงหน้าข้าอย่างมั่นคง คอยป้องกันสิ่งสกปรกที่ถูกขว้างปาขึ้นมา"ซีเยว่ เป็นเจ้าใช่ไหม?"ในขณะนั้น ข้าแทบจะร้องไห้ออกมาข้าพยักหน้าไม่หยุด พูดด้วยเสียงสะอื้น "พี่ชาย ใช่เจ้าค่ะ เป็นข้าเอง"ดวงตาของพี่ชายฉายแววโกรธเกรี้ยว โอบข้าเข้าสู่อ้อมกอดและจะพาข้าออกไปแต่แม่เล้าไม่ยอม

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0003

    แม่เล้าดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง รีบพยักหน้าแล้วรับเอาทองคำไปอย่างรวดเร็วในใจข้าทั้งเศร้าและโกรธเคือง จ้องมองหลานจื่อพลางขยับริมฝีปากถาม "ทำไมกัน?"หลานจื่อชะงักเล็กน้อย เดินมาจับคางข้าเชิดขึ้น หลังจากพิจารณาใบหน้าช้ำบวมที่ไม่เหลือเค้าความงามเหมือนเดิม นางก็กระซิบข้างหูข้าว่า "เพราะเจ้ามันโง่เหมือนควาย สมควรแล้วที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้!"ความชื้นแผ่ซ่านบนใบหน้า เป็นน้ำตาที่ผสมกับเลือดรินไหลลงมาหลานจื่อลุกขึ้นอย่างถึงพอใจ ยื่นเท้ามาเหยียบมือข้าและบดขยี้อย่างแรงความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ ข้าดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับสุนัขจรจัดที่ไร้ญาติขาดที่พึ่งในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงวุ่นวายดังมาจากห้องโถงด้านหน้าเสียงฝีเท้าที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแผ่กระจายไปทั่ว ไม่นานนัก ทั้งหอคณิกาก็เงียบเสียงลงเสียงเย็นชาดังขึ้น "กรมอาญามาตรวจสอบคดี ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบออกไปเสีย"แม่เล้าและหลานจื่อที่กำลังจะเดินจากไปต่างสีหน้าเปลี่ยนไปแต่ดวงตาข้ากลับสว่างวาบพี่ชาย!เขาต้องพบว่าข้าหายตัวไปและมาตามหาข้าแน่!ข้าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามคลานไปที่ห้องโถงด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างเพียงกำแพงกั้น

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0002

    แส้ฟาดลงบนร่างไม่หยุด ทั่วทั้งตัวแสบร้อนราวถูกของมีคมกรีดแทงข้าขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็ถูกตบจนล้มลงกับพื้นแม่เล้ามองข้าด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังอีก จะไม่ใช่แค่เจ็บตัวธรรมดาแบบนี้หรอกนะ!"ข้าไม่ยอมแพ้ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตะโกนอย่างร้อนรน"สองเดือนก่อน มีหญิงสองคนแต่งกายเป็นชายมาที่หอชุนหยวน ตอนนั้นท่านเป็นคนต้อนรับเองนะ หนึ่งในนั้นก็คือข้านี่แหละ! ท่านดูให้ดีๆ สิ!""คนที่ขายข้ามาที่นี่ ต้องปิดบังความจริงกับท่านแน่ๆ! เชื่อข้าเถอะ!"แม่เล้ากวาดตามองข้าขึ้นลงอยู่สองสามครา แล้วเยาะเย้ยว่า "เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ข้าไปสืบข่าวที่จวนราชเลขาธิการแล้ว ช่วงนี้คุณหนูจวนราชเลขาธิการเป็นไข้หวัดนอนป่วยอยู่บนเตียง จะหายตัวไปได้อย่างไร?"ข้ารู้สึกหน้ามืดตามัว กระวนกระวายจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมาคำโตนั่นเป็นข้ออ้างที่ข้าแต่งขึ้นมาเองเพื่อออกไปพบซ่งซู แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาแทงตัวข้าเสียเองในที่สุดข้าก็สิ้นหวัง น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่แต่แม่เล้าชินชากับภาพแบบนี้ จึงไม่มีความสงสารแม้แต่น้อยนางเรียกแม่นมรูปร่างอ้วนท้วมเข้ามาสองคน สั่งเสียงเ

  • หลังถูกคนรักขายไปหอคณิกา ครอบครัวก็คิดจะให้ข้าปลิดชีพตาย   บทที่ 0001

    ข้าได้ยินชัดเจน นั่นเป็นเสียงต่อรองราคาของคนสองคนคนหนึ่งคือซ่งซู คนรักของข้า อีกคนคือแม่เล้าจากหอคณิกาที่อยู่ห่างจากบ้านข้าสองถนน!ร่างกายเริ่มหนาวสั่น ข้าตระหนักได้ว่าตัวเองถูกซ่งซูขายเข้าหอคณิกาเสียแล้วไม่นาน พวกเขาก็ตกลงราคากันเสร็จผ้าดำที่ปิดตาถูกดึงออก ข้าเผชิญหน้ากับสายตาที่ทั้งน่าขยะแขยงและโลภมากของแม่เล้าร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัวแม่เล้าพินิจดูข้าด้วยความพอใจ "ไม่เลว ขอแค่เจ้าว่าง่าย ด้วยคุณสมบัติของเจ้า ต้องเป็นดาวเด่นของหอชุนหยวนได้แน่"ข้าส่งเสียงครางในลำคอด้วยความวิตกกังวลแม่เล้าพูดเสียงเย็นชา "อย่าคิดจะเล่นลูกไม้กับข้าเชียว เข้ามาในหอชุนหยวนแล้ว อย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้!"ข้ารู้ว่านางจำข้าไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ายังอยู่ในวัยซุกซน ข้าเคยแต่งตัวเป็นบุรุษมาเที่ยวหอชุนหยวนสองสามครั้งตอนนั้นแม่เล้าเดาได้ว่าข้าเป็นใคร จึงต้อนรับข้าอย่างดีแต่ข้าไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งข้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของนางข้ากล้ำกลืนความอับอายไว้ คลานไปคว้าเสื้อผ้าราคาแพงที่อยู่บนพื้น ส่งเสียงครางอู้อี้ชุดนี้ตัดจากผ้าแพรพระราชทาน บนนั้นยังมีลายปักที่มีเฉพาะในจวนราชเลขาธิการ แค่ให้แม่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status