"ลุงตง เราเข้าประเด็นกันเถอะ"หลังจากลู่เฉินจิบชาแล้ว เขาก็พูดเบา ๆ ว่า "คุณบอกว่าโสมสุดยอดหาเจอแล้ว แล้วของล่ะ?""ในเมื่อน้องลู่ใจร้อนขนาดนี้ งั้นผมก็ไม่ปิดบังแล้ว" หวางตงตบมือด้วยรอยยิ้มหลังจากได้ยินเสียง ในไม่ช้าก็มีบอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยถือกล่องต้นจันทน์หวางตงรับกล่องไม้และวางบนโต๊ะแล้วเปิดออกโสมสุดยอดขนาดเท่าฝ่ามือ ผิวหนังเป็นสีเหลืองเข้ม และรากฝอยที่เจริญเติบโตเป็นพิเศษก็ปรากฏต่อหน้าต่อตา"เป็นของดีจริง ๆ"ลู่เฉินมองอย่างตั้งใจ แล้วใบหน้าเขาก็แสดงความสุขทันทีโสมอายุห้าร้อยปี เป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากในโลกแน่นอน!ตอนนี้ได้รับยาวิเศษอีกต้นหนึ่ง ได้เข้าใกล้เป้าหมายอีกก้าวหนึ่งแล้ว"น้องลู่ เป็นไง พอใจไหม?" หวางตงดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม"พอใจแน่นอนสิ ขอบคุณลุงตงนะครับ"ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย แล้วเขาก็เอื้อมมือไปหยิบแต่ในวินาทีต่อมา กล่องก็ปิดอย่างกะทันหันด้วยเสียง "ปัง""น้องลู่ อย่ารีบร้อนสิ เราค่อยคุยกันหน่อยอีก"หวางตงกดบนกล่องไม้จันทน์ด้วยมือเดียว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะส่งมอบแบบนี้"ลุงตง นี่หมายความว่าอะไรล่ะ?"ลู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย
ในตอนแรก หน้าของหวางตงยังคงมีรอยยิ้มและเต็มไปด้วยความมั่นใจแต่ในไม่ช้า เขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติเพราะพลังของลู่เฉิน แข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้มากเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังที่น่ากลัวกําลังโหมกระหน่ำมาเหมือนคลื่นจนทั้งฝ่ามือของเขาเริ่มส่งเสียงแกร๊บราวกับว่าจะถูกบีบให้หักได้ในเวลาใด ๆสีหน้าของหวางตงมืดลง สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาต่อยออกมาอย่างแรง พยายามบังคับให้ลู่เฉินถอยกลับแต่ลู่เฉินไม่ได้หลบและรับโดยตรง"บูม!"กำปั้นของทั้งสองฝ่ายชนกัน เก้าอี้ที่หวางตงนั่งได้ระเบิดทันทีและตัวเขาก็ถูกพลังที่แข็งแกร่งชนจนถอยหลังเรื่อยๆ จนหลังเขาพิงบนกำแพง ถึงจะทรงตัวได้ตรงกันข้ามกับลู่เฉิน จะนั่งนิ่ง ๆตั้งแต่ต้นจนจบความแตกต่างกันระหว่างทั้งสองได้เห็นอย่างชัด!"ไอ้เด็ก ไม่คิดว่าคุณจะได้ทำตัวคมในฝัก ผมประเมินคุณต่ำเกินไปแล้ว"หวางตงหรี่ตา สีหน้าของเขามืดครึ้มเล็กน้อยยีงไงเขาก็คิดไม่ได้ว่าลู่เฉินจะมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ตอนที่เขาอายุยังน้อยหลังจากหมัดต่อยกัน คาดไม่ถึงว่าเขาจะเสียเปรียบแม้ว่าความแข็งแกร่งไม่ได้แสดงถึงพลังการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยก็พิสูจน
"ฉันแค่เตือนคุณว่าคิดให้รอบคอบก่อนทําทุกอย่าง อย่าคิดว่ามีคนสนับสนุนแล้วจะอาละวาดได้"หลี่ชิงเหยาพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า "ผู้ชาย ท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังต้องพึ่งพากําลังของตนเอง อาศัยกับผู้มีอํานาจ อาจจะได้โดดเด่นในชั่วขณะหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะไม่ได้อยู่นาน ฉันหวังว่าคุณจะตื่นตัวได้ทันเวลา"เมื่อได้ยินอย่างนี้ ลู่เฉินก็อดรู้สึกตลกไม่ได้ "คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมอาศัยกับผู้มีอํานาจ?""ไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่ได้ยืมชื่อเสียงของคุณฉาว คุณคิดว่าเมื่อกี้เหยี่ยนจิ้งเสอจะปล่อยคุณไปเหรอ?" หลี่ชิงเหยาตรงไปตรงมามาก"ที่คุณบอกว่าใช่ก็ใช่เถอะ ยังไงในสายตาของพวกคุณ ผมจะเป็นไอ้คนขยะเสมอ" ลู่เฉินหัวเราะเบาะและส่ายหัวการเหมารวมของมนุษย์นั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลงแม้ว่าวันไหนข้อเท็จจริงจะปรากฏต่อหน้าต่อตา บางคนก็จะไม่เชื่อ แต่จะหาข้ออ้างและพยายามโน้มน้าวตัวเอง"ลู่หยุ่น คุณอย่าไม่เชื่อฟัง ถ้าคุณมีความภาคภูมิใจในตนเองจริง ๆ ก็พึ่งพาความสามารถของคุณเองและสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้น แต่ไม่ใช่ไปเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน!" หลี่ชิงเหยากล่าวด้วยเสียงต่ำ"ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินแล้วยังไงล่ะ? ที่เกาะผู้หญิงกิ
ยามค่ำคืน ภายในห้องมืดหลังเล็กของโรงพักลู่เฉินกับหลี่ชิงเหยาสองคนถูกผูกติดกับเก้าอี้โดยหลังชนหลังกันภายในห้องมืดครึ้มและชื้น เอื้อมมือไปจะไม่เห็นนิ้วทั้งห้าเลย ทําให้เกิดความเครียดที่มองไม่เห็น"ขอโทษที ไม่คิดว่าจะได้พัวพันคุณด้วย" ลู่เฉินพูดก่อน"พวกเขาบอกว่า คุณขโมยของมีค่าไป มันจริงหรือเปล่า?" จู่ ๆ หลี่ชิงเหยาก็ถาม"คุณคิดยังไงล่ะ?""ฉันว่าคุณไม่ได้กล้าขนาดนั้น น่าจะมีคนแอบใส่ร้ายมั้ง เกี่ยวข้องกับเหยี่ยนจิ้งเสอหรือเปล่า?""เหยี่ยนจิ้งเสอเป็นคนถูกใช้เท่านั้น ผู้บงการคือหวางตง" ลู่เฉินกล่าว"หวางตง? คุณหมายถึง... วางซานเหย?"หลี่ชิงเหยาตกใจ "ก่อนหน้านี้พวกคุณคุยกันอย่างดีไม่ใช่หรือ? คุณล่วงเกินเขาได้อย่างไร?""ผมต่อยเขาไป" ลู่เฉินพูดเบา ๆ"อ๊ะ?"สีหน้าของหลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไป "คุณ... คุณกล้าตีหวางซานเหยจริง ๆ เหรอ? คุณบ้าไปแล้วหรือ?"หวางซานเหยเป็นใครล่ะ? นั่นเป็นคนที่เป็นพี่น้องกับนายกสมาคมหวางในตระกูลเดียวกัน เป็นคนขอตระกูลหวางที่ร่ำรวยในนครเอกของมณฑลเป็นคนที่แม้แต่เหยี่ยนจิ้งเสอที่ดุร้ายมากก็ยังต้องประจบเลยแต่ลู่เฉินกลับกล้าลงมือตีเขา นี่เป็นการรนหาที่ตายเองไม่ใ
เวลา ดึกไปเรื่อยๆในขณะนี้ อยู่นอกประตูโรงพักจางชุ่ยฮัว หลี่ห้าวและคนอื่นๆกําลังรออย่างใจร้อนหลี่ชิงเหยาเป็นคนที่เป็นแกนสำคัญของตระกูลหลี่ ในเมื่อเธอเกิดอะไรขึ้น ตระกูลหลี่ก็จะตกต่ำลงอย่างสมบูรณ์ดังนั้น เพื่อช่วยชีวิตคน ตระกูลหลี่ได้ทําทุกวิถีทาง สายสัมพันธ์ที่ใช้ได้ ส่วนใหญ่ก็ใช้ไปแล้วเมื่อทุกคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ สายตรวจตำรวจคนหนึ่งก็เดินออกมาอย่างกะทันหันเมื่อเห็นเขา หลี่ห้าวก็ต้อนรับไปทันทีว่า "พี่จาง สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง? ปล่อยพี่สาวผมออกมาได้ไหม?""หลี่ห้าว ผมเพิ่งสอบถามไปแล้ว เรื่องนี้สารวัตรสวีรับผิดชอบเอง คนตัวเล็กอย่างผม เข้าแทรกเข้าร่วมไม่ได้เลย" สายตรวจตำรวจส่ายหัว"แล้วจะทํายังไงดีล่ะ? หรือคุณคิดหาวิธีอื่นอีกได้ไหม?" หลี่ห้าวตื่นตระหนกเล็กน้อยแล้ว"ใช่ๆ สายตรวจตำรวจจางคะ ตราบใดที่คุณช่วยได้ พวกเราต้องซาบซึ้งใจมากค่ะ!" จางชุ่ยฮัวขอร้อง"ผมทําให้ดีที่สุดเถอะ แต่ผมไม่กล้ารับประกันอะไร อีกอย่าง ค่าใช้จ่ายให้สินบนต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า""พี่จางครับ ผมเพิ่งยืมเงินได้10ล้านบาท คุณเอาไปก่อน ถ้าไม่พอ ผมค่อยไปยืม คุณช่วยด้วยเถอะ หลังจากเรื่องสําเร็จ เราจะให้ค่าตอ
เมื่อโลกภายนอกกำลังพลุ่งพล่าน และวุ่นวายอยู่ในเวลานี้ ในห้องทํางานของสารวัตรที่โรงพักนั้นกลับเงียบสงบมาก"สารวัตรสวีครับ เป็นไงบ้าง? ไอ้เด็กคนนั้นตอบตกลงหรือไม่?"เมื่อเหยี่ยนจิ้งเสอเพิ่งนั่งลง เขาก็ถามอย่างใจร้อน"เขาตอบตกลงหรือไม่ ไม่สําคัญ ยังไงนักโทษที่ตกอยู่ในมือผม สุดท้ายก็จะยอมจํานน"เจ้าอ้วนสวีสูบซิการ์และดูสบาย ๆ"มีสารวัตรสวีออกหน้า ย่อมไม่มีปัญหา แต่เวลายิ่งยาวนานอุปสรรคยิ่งมาก ท่านลงมือเร็วกว่านี้ดีกว่า" เหยี่ยนจิ้งเสอกล่าว"ทำไม? แกกำลังสอนกูทํางานอยู่เหรอ?" เจ้าอ้วนสวีกวาดตาอย่างเย็นชา"ไม่กล้าหรอกครับ ที่สำคัญคือไอ้เด็กคนนั้นมีคนสนับสนุน ถ้าไม่แก้ไขให้เร็ว ผมกลัวว่าจะมีปัญหา" เหยี่ยนจิ้งเสอรีบยิ้งอย่างขอโทษ"จะมีปัญหาอะไรได้? ผมแค่ทําธุระอยู่เท่านั้น อีกอย่าง ในอาณาเขตของผม ใครสามารถทำอะไรผมได้ล่ะ?" เจ้าอ้วนสวีพูดอย่างสงบ"ใช่นะครับ สารวัตรสวีท่านเป็นลูกเขยของเจ้าเมืองหวง ใครจะไม่ให้เกียรติบ้างล่ะ?" เหยี่ยนจิ้งเสอถือโอกาสมาประจบ"ฮึ่มๆ! แกยังฉลาดพอนะ" เจ้าอ้วนสวียิ้มแล้วสิ่งที่เขาภาคภูมิใจที่สุดไม่ใช่สถานะที่เป็นสารวัตรของเขา แต่เป็นเขามีพ่อตาที่เป็นเจ้าเมื
ภายในห้องดำลู่เฉินและหลี่ชิงเหยานั่งหลังพิงกัน และสัมผัสถึงอุณหภูมิร่างกายของกันและกันตั้งแต่แต่งงานกันจนถึงตอนที่หย่าร้าง หาได้ยากที่ทั้งสองจะได้มีช่วงเวลาที่เงียบสงบร่วมกันเช่นนี้จนสักพักหนึ่ง ทั้งสองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร"คุณคิดว่า วันนี้พวกเราจะต้องตายที่นี่ไหม?"ในที่สุด หลี่ชิงเหยาก็เป็นผู้ริเริ่มทําลายความเงียบนี้สภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นและมืดมิดในรอบๆ ทําให้เธอรู้สึกเก็บกดเป็นอย่างมากและร่วมกับพญายมสวีที่มักจะทําให้คนอื่นรู้สึกหวาดผวา ในใจเธอก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้"หยุดคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว เราจะออกไปได้อย่างปลอดภัยดีแน่นอน" ลู่เฉินพูดปลอบใจ"ถ้าเกิดว่าออกไปไม่ได้ คุณยังมีความปรารถนาอะไรที่อยากจะทำก่อนตายอยู่อีกไหม" หลี่ชิงเหยาพูดเบา ๆ"ไม่มีคำว่าถ้า มีเรื่องอะไร ไว้รอออกไปได้แล้วค่อยว่ากัน" ลู่เฉินกล่าว“คนที่เราแหย่นั้นคือหวางชานเหยนะ ด้วยเส้นสายและพละพลังของเขา ที่มาจัดการพวกเรานั้น เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก" หลี่ชิงเหยาถอนหายใจอยู่ต่อหน้าของผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง ความสามารถอันน้อยนิดของเธอนั้น ไม่คุ้มที่จะพูดถึงเลย"หลี่ชิงเหยา นี่ไม่เหมือนคุณในยาม
ลู่เฉินยกเท้าขึ้นมาถีบ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งบนพื้นก็บินตามออกไปในทันที ร่างกายของเขาเป็นเหมือนลูกปืนชนเข้ากับเจ้าอ้วนสวีอย่างแรงเจ้าอ้วนสวีร้องโหยหวน โดนกระแทกจนล้มลงบนพื้นโดยตรง"ผมเคยเตือนคุณแล้วว่าห้ามแตะต้องเธอ"ลู่เฉินเดินเข้าไปใกล้อย่างช้า ๆ ด้วยสายตาที่มืดมนและเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง“ไอ้หมอนี่! ที่นี่เป็นโรงพักนะ อย่าทำอะไรซี้ซั้วดีกว่า"เจ้าอ้วนสวีพูดขู่ พร้อมทั้งขยับถอยไปข้างหลัง“ถ้าทำอะไรซี้ซั้วแล้วมันจะยังไง?"ลู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา เขาเหยียบมือเจ้าอ้วนสวีจนขาดโดยตรง"โอ้ย!"เจ้าอ้วนสวีร้องโหยหวนอีกครั้งความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ทั้งหน้าของเขาเหยไป"ลู่เฉิน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"หลี่ชิงเหยากลัวจนสีหน้าเปลี่ยนไปมากแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เมื่อพวกเขาลงมือแล้ว พวกเขาก็ยากจะเลี่ยงที่จะโดนลากเข้าไปเอี่ยว“ไอ้หมอนี่! มึงรู้ตัวไหมว่ามึงทําอะไรลงไปบ้าง? ถ้าในตอนนี้มึงยอมวางมือ ก็ยังมีโอกาสรอดอยู่ ไม่งั้นมึงจะตายโดยแม้แต่กระดูกก็ไม่เหลือแน่!" เจ้าอ้วนสวีพูดขู่ด้วยสีหน้าน่ากลัวลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร เขาใช้เท้าเหยียบลงไปที่ท้องของเจ้าอ้วนสวีโดยตรง"อ๊อก!"เจ้าอ้วนสว