ตอนที่ 113
“ไม่ไป ฉันไม่ยอมห่างจากเธออีกแล้วนะปิ่นมุก เพราะอะไรปิ่นมุก ตั้งแต่เธอได้กลับไปอยู่บ้าน เธอก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาฉัน เธอคิดจะทรมานฉันหรือไง ฉันรู้ว่าฉันผิด...ผิดมาก ผิดจนเธอคงไม่ให้อภัยฉัน แต่ฉันอยากขอโทษ ขอให้คนเลวๆ อย่างฉันได้แก้ตัวบ้างไม่ได้เชียวเหรอ เธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้ แต่ขออย่าผลักไสฉันไปไหน ได้ไหมปิ่นมุก ฉันรักเธอ ได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ” น้ำเสียงของถังเฟ่ยหลงดูเศร้าหมอง แววตาคม แดงก่ำเพราะหวาดกลัวว่าจะต้องสูญเสียเธอไป ใบหน้าหล่อเหลาเบียดเข้าใกล้อีกครั้ง
“ฉันเหม็นคุณ” ปิ่นมุกยกมือดันใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง แล้วเอ่ยเสียงสั่นเครือยามได้เห็นแววตาคมแดงก่ำ
“นะปิ่นมุก ให้ฉันได้มีโอกาสชดเชยสิ่งที่เคยทำร้ายเธอ เธอคือดวงใจของฉันนะปิ่นมุก ฉันมันเลว ใจร้าย ป่าเถื่อน อย่างที่เธอประณามฉัน แต่ฉันอยากขอโอกาสบ้างสักครั้ง นะปิ่นมุกขอโอกาสให้ฉันบ้างได้ไหม” ฝ่ามืออุ่นกุมสองมือเล็กขึ้นจุมพิตซ้ำๆ กันอยู่อย่างนั้น นาทีนี้ถังเฟ่ยหลงไม่คิดอายใครอีกแล้วที่จะต้องหลั่งน้ำตาเพื่อวอนขอโอกาสจากหญิ
ตอนที่ 114 ตอนที่ 1142 ปีต่อมา... นับจากวันที่ได้จากกันในวันนั้น ปิ่นมุกไม่เคยได้ข่าวคราวของคนป่าเถื่อนอีกเลย เขาทำตัวหายไปจริงๆ พร้อมกับเรื่องราวในอดีตก็ค่อยๆ ลบเลือนไปจากใจของเธอเช่นกัน บิดามักพูดเสมอว่าให้ลืมไปเสียแม้จะยากแต่ก็ต้องลืมเพื่อให้มีแรงเดินต่อไป หลังจากเธอบอกกับบิดาว่าเธอท้อง เมื่อรู้ว่าท้อง เธออยากบอกเขาเหลือเกิน แต่เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงไม่คิดหวนกลับไปและบอกตัวเองว่าให้ลืมคนป่าเถื่อนคนนั้นซะ แต่ยิ่งพยายามลืมเขา ใจกลับก็ยิ่งจดจำและโหยหาเขา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนที่จำใจจากหญิงที่รักไปนั้น ได้ประสบอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและตอนนี้อาการของถังเฟ่ยหลงก็น่าเป็นห่วงมากเพราะเจ้าตัวไม่ยอมรับการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้กลับมาเดินได้เป็นคนปกติอีกครั้ง ถังเฟ่ยหลงท้อแท้หมดกำลังใจ หมดพลังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ทั้งที่พยายามตัดใจแต่เขาไม่เคยลืมปิ่นมุก อยากกลับไปหาเธอแทบขาดใจ แต่ไม่กล้าไปส
ตอนที่ 115แต่ใครเลยจะรู้ว่าปิ่นมุกที่ทำทีไม่สนใจพ่อของจินหลงอยู่ทุกวันนั่น เธอคิดถึงพ่อของจินหลงอยู่ทุกวัน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเรื่องระหว่างเธอและคุณถัง มันเหมือนมีเส้นใยบางเบามาขวางกั้นเอาไว้ มันบางเบาแต่ก็จริงแต่เธอยังทำลายมันจากใจไม่ได้หมดเสียที เธอจำได้ไม่เคยลืมถึงสิ่งที่ คุณถังฝากความเจ็บช้ำไว้ให้เธอ แม้ความเจ็บช้ำมันจะน้อยลงทุกวันแต่เธอไม่เคยลืมเลือนได้“แล้วตกลงวันนี้ เราจะทำอะไรกันบ้างคะพี่มะลิ” ปิ่นมุกเปลี่ยนเรื่องก่อนฉวยเอาตะกร้าผักไปล้าง“คุณปิ่นคะ ผักนั่นน่ะพี่ล้างหมดแล้วละค่ะ” มะลิบอกอย่างเอ็นดูรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเพราะอย่างน้อยคุณปิ่นมุกก็ยังคงอาลัยอาวรณ์คนที่หายหน้าหายตาไปอยู่เหมือนกัน แล้วยิ่งคุณหนูจินหลงหน้าตาเหมือนพ่อขนาดนั้น สักวันเถอะกำแพงในใจของคุณปิ่นมุกต้องพังทลายลงสักวัน“ล้างแล้วก็ล้างอีกได้นี่คะพี่มะลิ” บอกเสียงอ้อมแอ้ม แล้วก็ลงมือล้างผักอย่างตั้งใจ แต่จิตใจกระหวัดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนบางคนที่เหมือนลูกชายของเธอ“ก็ได้ค่า ล้างให
ก่อนอวสานหนึ่งชั่วโมงถัดเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังรบกวน คุณแม่ลูกหนึ่งจึงชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างแต่เพราะเวลานี้มืดค่ำแล้วจึงมองเห็นไม่ถนัดนัก ปิ่นมุกหันมามองลูกชายที่ตอนหลับปุ๋ยไปแล้ว แล้วเดินลงไปดูคนมาที่กดกริ่งหน้าบ้านพักหลังจากคว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอน เจ้าของบ้านหยุดปลายเท้าทันทีเมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่บนรถเข็น หน้าตาเขาซูบผอมจนน่าใจหาย ตอนรู้ว่าคุณถังประสบอุบัติเหตุ เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะมีร่างกายผ่ายผอมมากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ก็ซีดเซียวเหมือนคน ไร้ชีวิตชีวา ปิ่นมุกยืนอยู่ลานหน้าบ้านเพราะสับสน เธอสับสนจริงๆ มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกแบบไหน“ปิ่นมุก” ถังเฟ่ยหลงใช้มือดันล้อรถให้เข้ามาชิดรั้วบ้านมากขึ้น แววตาเศร้าหมองทอดมองร่างเล็กนิ่ง“คุณ...มาทำอะไรคะ” ไม่ได้อยากถามคำถามนี้เลยจริงๆ แต่เพราะไม่รู้จะถามอะไรทำให้ปิ่นมุกเอ่ยคำถามนี้ออกไปแล้วก็ได้แต่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ“ฉันมาหาเธอ ฉันอยากเห็นหน้าเธอ อยากคุยกับเธอ อยากกอดเธอ ก่อนที่ฉัน...” เจ้าของคำพูดรู้สึก
ตอนอวสาน“จินหลง เป็นอะไรไปคะ โอ๋ๆ เงียบนะคะ” ปิ่นมุกหันมาโอ๋ลูกน้อยด้วยสีหน้ากังวล ห่วงพ่อของลูกก็ห่วง ห่วงลูกก็ห่วง ส่วนจินหลงก็ไม่ยอมเงียบ ป้าช้อยอาสาอุ้มจินหลงแล้วสั่งให้ปิ่นมุกลงไปดูคนนั่งตากฝนอยู่หน้าบ้านพัก เธอลังเลเล็กน้อยแล้ววิ่งไปคว้าร่มอันใหญ่ออกไปหาคนหน้าบ้านพักที่นั่งตัวสั่นปากสั่นไปหมด“คุณถัง! ทำไมคุณถึงได้ดื้อแบบนี้ล่ะคะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป ฉันกับลูกจะอยู่ยังไงล่ะคะ” ปิ่นมุกลืมเลือนทุกสิ่งไปหมดแล้วเพราะเป็นห่วงเขาจนเผลอพูดความในใจออกไป เธอกางร่มคันใหญ่เข้าบังเม็ดฝน ใช้ผ้าที่ถือติดมือมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนดื้อรั้นที่ดื้อยิ่งกว่าเด็กสามขวบ“ฉันยอมตายปิ่นมุก หากเธอไม่ยอมอภัยให้ ฉันรักเธอ ปิ่นมุก ฉันทำใจไม่ได้ถ้าไม่มีเธออยู่กับฉัน เธอรู้บ้างไหมว่าฉันทรมานแค่ไหนตลอดสองปีที่ผ่านมา ฉันคิดถึงเธอมาก แต่ฉันไม่กล้ากลับมาหาเธอ เพราะฉันคิดว่าสักวัน ฉันจะลืมเธอให้ได้ เหมือนที่เธอลืมฉัน แต่ฉันก็ทำไม่ได้ แล้ววันนี้ก่อนที่ฉันจะตายฉันอยากมาพบเธอ อยากกอดเธอสักครั้ง แล้วฉันจะยอมตาย...ตายอยู
ตอนที่ 1 ห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ของนักธุรกิจรุ่นใหญ่กำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด เมื่อครอบครัวกำลังประสบภาวะหนี้สินท่วมหัวแบบไม่ทันได้รู้ตัว เนื่องจากคุณกิตติ อิทธิเชษฐ์ ผู้เป็นประมุขของบ้านเกิดหลงมัวเมากับการเล่นพนันกอปรกับกำลังประสบปัญหาเรื่องธุรกิจจนใกล้ถูกฟ้องล้มละลาย ไปกับคำชักจูงของเพื่อนจนถลำลึกสูญเสียเงินทองแทบหมดตัวยังไม่พอ ยังมีหนี้สินก้อนใหญ่ติดตัวมาด้วย ยิ่งทำให้ประมุขของบ้านตกอยู่ในภาวะเครียดอย่างหนักและกำลังถกเถียงกับคู่ชีวิต รวมถึงบุตรสาวและบุตรชายเรื่องหนี้สินก้อนใหญ่ที่ทางเจ้าหนี้ตามทวงไม่หยุดหย่อน อีกทั้งเจ้าหนี้รายใหญ่ก็ได้ยื่นข้อเสนอมาแบบที่คนเป็นพ่อไม่คิดจะทำตามอย่างเด็ดขาด “คุณกิต คุณทำแบบนี้กับฉันกับลูกได้ยังไง แล้วนี่ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีหนี้สินท่วมหัวไม่พอ ยังจะถูกฟ้องล้มละลายอีก ฉันขอถามหน่อยเถอะ ว่าคุณจะหาเงินจากไหนตั้งแปดสิบล้านไปใช้หนี้เขา แล้วทั้งที่คุณก็รู้ว่าไอ้ธุรกิจโรงแรมของเรากำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว แล้วทำไมคุณยังไปเล่นพนันให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นมาอีกทำไม ตอบฉันสิว่าทำไม!” คุณปภาดากล่าวออกมาอย่างคนโกรธเคืองผู้เป็นสามี หยาดน้ำตาหยดลงอ
ตอนที่ 2 “คุณพ่อ! นี่คุณพ่อมีคนอื่นเหรอคะ ทำไมคุณพ่อถึงทำตัวน่าเกลียดแบบนี้ล่ะคะ” ปิ่นสุดาเอ่ยถามเสียงดัง “ใช่แล้วยัยเปรม พ่อแกทำตัวน่าเกลียดที่สุด” คุณปภาดาช่วยผสมโรง “ทำไมคุณพ่อต้องนอกใจคุณแม่ด้วย” ปิ่นสุดาโพล่งขึ้นอีกครั้ง “หยุดนะยัยเปรม แกจะเชื่อแม่ของแกมากเกินไปแล้ว แล้วก็รู้เอาไว้ว่าพ่อไม่เคยทำตัวแบบนั้น” คนเป็นพ่อตวาดลั่น เพราะตัวท่านไม่เคยทำเรื่องทำนองนั้นแม้แต่ครั้งเดียว พลางย้อนให้คิดถึงความหลัง เพราะตนได้ทำผิดพลาดมาครั้งหนึ่งด้วยการมีความสัมพันธ์กับปภาดา เพื่อนสนิทของตวงรัตน์ หญิงสาวอันเป็นที่รักและคิดสร้างครอบครัวด้วยกันแต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน ซึ่งครั้งนั้นท่านกำลังสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนที่ได้ก่อสร้างโรงแรมขึ้นมา ก่อนจะเมามายและมีความสัมพันธ์กับปภาดา จนตวงรัตน์เข้ามาเห็นและหนีไป ตัวท่านเองอยากออกตามหาตวงรัตน์แทบขาดใจเมื่อรู้ว่าเธอได้หายไป ทว่าก็ต้องรับผิดชอบปภาดาที่เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา “ฮึ! ขอให้มันจริงเถอะคุณกิต แล้วถ้าฉันรู้ว่าคุณหวนกลับไปหาผู้หญิงคนนั้นเมื่อไหร่ ฉันนี่แหละจะตามไปรังควานไม่ให้มันอยู่เป็นสุขแน่
ตอนที่ 3 “เราก็ไปหาซื้อบ้านหลังเล็กๆ ราคาไม่กี่ล้านอยู่ก็ได้ คุณเลิกยึดติดกับหน้าตาทางสังคมบ้างเถอะคุณภา” เอ่ยอย่างตำหนิปนอ่อนอกอ่อนใจ เพราะฝ่ายภรรยาที่อยู่ร่วมกันมาหลายปียึดถือแต่หน้าตาและออกงานสังคมเป็นว่าเล่น แม้กระทั่งเงินทองกำลังขัดสน ผู้เป็นภรรยาก็ไม่เคยคิดจะหยุด “ฉันไม่ไปอยู่หรอก บ้านหลังเล็กเท่ารูหนู แถมราคาก็แค่ล้านสองล้าน” คุณปภาดายังค้านเสียงแข็งเช่นเดิม “เปรมก็ไม่ไปเหมือนกันค่ะคุณแม่ เปรมว่าบ้านที่คุณพ่อบอก ห้องน้ำ ห้องนอนคงเล็กน่าดู เปรมอยู่ไม่ได้หรอกค่ะคุณพ่อคะ คุณพ่อห้ามขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด ไม่งั้นเปรมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าเพื่อนๆ ของเปรมแวะมาที่บ้าน อีกอย่างถ้าต้องไปอยู่บ้านหลังเล็กเท่ารูหนูอย่างที่คุณแม่บอกจริงๆ เปรมอยู่ไม่ได้แน่ เพราะเปรมอายเพื่อน” บุตรสาวคนโตค้าน ผสมโรงกับมารดา ทำเอาประมุขของบ้านถอนใจหนักๆ แล้วส่ายศีรษะให้กับสองแม่ลูก “ใช้แล้วละลูกเปรม คุณกิต...คุณห้ามขายบ้านหลังนี้นะ เห็นใจลูกบ้างเถอะ ถ้ามีบ้านหลังเล็กๆ ลูกคงได้อายเพื่อนๆ แน่ ส่วนฉันก็ทำใจไปอยู่บ้านหลังเล็กๆ ไม่ได้หรอก” “มันจะเล็กหรือใหญ่ก็ไม่สำคัญ เพ
ตอนที่ 4สามวันถัดมาภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อดีตนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ และคนรับใช้ คนสวนและคนขับรถได้มายืนรอคุณหนูคนเล็กของตระกูลอิทธิเชษฐ์อย่างใจจดใจจ่อ ครู่ต่อมาจึงได้แลเห็นหญิงสาวรูปร่าง บอบบางเดินตรงมาและไม่กี่วินาทีต่อมาปิ่นมุกก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าบิดา หญิงสาวยกมือไหว้บิดาพร้อมรอยยิ้มสดใสที่คนเป็นพ่อเห็นคราใดก็มีความสุขเมื่อนั้น จากนั้นสาวน้อยรูปร่างบอบบางก็หันไปไหว้และทักทายคนอื่นๆ อย่างไม่ถือตัว ทำเอาบรรดาคนรับใช้ต่างปลาบปลื้ม ปิ่นมุกเหลือบสายตามองหามารดา พี่ชายและพี่สาวฝาแฝดก็หน้าเสียไปเมื่อมองไม่เห็นบุคคลทั้งสามก่อนที่ เจ้าตัวจะหันมายิ้มหวานให้บิดาแทน“ลูกปิ่น” คุณกิตติขานเรียกชื่อบุตรสาวที่ถูกลืมของครอบครัวด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะท่านเข้าใจความรู้สึกของบุตรสาวคนเล็กดี ปิ่นมุกน้ำตาซึมและโผเข้าสู่อ้อมกอดของบิดา เธอกอดท่านด้วยความคิดถึง“คุณพ่อสบายดีนะคะ ปิ่นคิดถึงคุณพ่อมากที่สุดเลยค่ะ” เสียงหวานใสคล้ายน้ำทิพย์ชโลมรดใจคนเป็นพ่อให้ระบายยิ้มแบบที่คนรับใช้ไม่ได้พบเห็นมานานมากแล้วก็พลอยยิ้มดีใจไปด้วย“สบายดี...พ่อสบายดี แล้วลูกล่ะเป็นยังไงบ้าง แล้วไหนล่ะ มีหนุ่มผมทองตามด้วยหรือเปล่าลูก
ตอนอวสาน“จินหลง เป็นอะไรไปคะ โอ๋ๆ เงียบนะคะ” ปิ่นมุกหันมาโอ๋ลูกน้อยด้วยสีหน้ากังวล ห่วงพ่อของลูกก็ห่วง ห่วงลูกก็ห่วง ส่วนจินหลงก็ไม่ยอมเงียบ ป้าช้อยอาสาอุ้มจินหลงแล้วสั่งให้ปิ่นมุกลงไปดูคนนั่งตากฝนอยู่หน้าบ้านพัก เธอลังเลเล็กน้อยแล้ววิ่งไปคว้าร่มอันใหญ่ออกไปหาคนหน้าบ้านพักที่นั่งตัวสั่นปากสั่นไปหมด“คุณถัง! ทำไมคุณถึงได้ดื้อแบบนี้ล่ะคะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป ฉันกับลูกจะอยู่ยังไงล่ะคะ” ปิ่นมุกลืมเลือนทุกสิ่งไปหมดแล้วเพราะเป็นห่วงเขาจนเผลอพูดความในใจออกไป เธอกางร่มคันใหญ่เข้าบังเม็ดฝน ใช้ผ้าที่ถือติดมือมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนดื้อรั้นที่ดื้อยิ่งกว่าเด็กสามขวบ“ฉันยอมตายปิ่นมุก หากเธอไม่ยอมอภัยให้ ฉันรักเธอ ปิ่นมุก ฉันทำใจไม่ได้ถ้าไม่มีเธออยู่กับฉัน เธอรู้บ้างไหมว่าฉันทรมานแค่ไหนตลอดสองปีที่ผ่านมา ฉันคิดถึงเธอมาก แต่ฉันไม่กล้ากลับมาหาเธอ เพราะฉันคิดว่าสักวัน ฉันจะลืมเธอให้ได้ เหมือนที่เธอลืมฉัน แต่ฉันก็ทำไม่ได้ แล้ววันนี้ก่อนที่ฉันจะตายฉันอยากมาพบเธอ อยากกอดเธอสักครั้ง แล้วฉันจะยอมตาย...ตายอยู
ก่อนอวสานหนึ่งชั่วโมงถัดเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังรบกวน คุณแม่ลูกหนึ่งจึงชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างแต่เพราะเวลานี้มืดค่ำแล้วจึงมองเห็นไม่ถนัดนัก ปิ่นมุกหันมามองลูกชายที่ตอนหลับปุ๋ยไปแล้ว แล้วเดินลงไปดูคนมาที่กดกริ่งหน้าบ้านพักหลังจากคว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอน เจ้าของบ้านหยุดปลายเท้าทันทีเมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่บนรถเข็น หน้าตาเขาซูบผอมจนน่าใจหาย ตอนรู้ว่าคุณถังประสบอุบัติเหตุ เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะมีร่างกายผ่ายผอมมากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ก็ซีดเซียวเหมือนคน ไร้ชีวิตชีวา ปิ่นมุกยืนอยู่ลานหน้าบ้านเพราะสับสน เธอสับสนจริงๆ มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกแบบไหน“ปิ่นมุก” ถังเฟ่ยหลงใช้มือดันล้อรถให้เข้ามาชิดรั้วบ้านมากขึ้น แววตาเศร้าหมองทอดมองร่างเล็กนิ่ง“คุณ...มาทำอะไรคะ” ไม่ได้อยากถามคำถามนี้เลยจริงๆ แต่เพราะไม่รู้จะถามอะไรทำให้ปิ่นมุกเอ่ยคำถามนี้ออกไปแล้วก็ได้แต่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ“ฉันมาหาเธอ ฉันอยากเห็นหน้าเธอ อยากคุยกับเธอ อยากกอดเธอ ก่อนที่ฉัน...” เจ้าของคำพูดรู้สึก
ตอนที่ 115แต่ใครเลยจะรู้ว่าปิ่นมุกที่ทำทีไม่สนใจพ่อของจินหลงอยู่ทุกวันนั่น เธอคิดถึงพ่อของจินหลงอยู่ทุกวัน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเรื่องระหว่างเธอและคุณถัง มันเหมือนมีเส้นใยบางเบามาขวางกั้นเอาไว้ มันบางเบาแต่ก็จริงแต่เธอยังทำลายมันจากใจไม่ได้หมดเสียที เธอจำได้ไม่เคยลืมถึงสิ่งที่ คุณถังฝากความเจ็บช้ำไว้ให้เธอ แม้ความเจ็บช้ำมันจะน้อยลงทุกวันแต่เธอไม่เคยลืมเลือนได้“แล้วตกลงวันนี้ เราจะทำอะไรกันบ้างคะพี่มะลิ” ปิ่นมุกเปลี่ยนเรื่องก่อนฉวยเอาตะกร้าผักไปล้าง“คุณปิ่นคะ ผักนั่นน่ะพี่ล้างหมดแล้วละค่ะ” มะลิบอกอย่างเอ็นดูรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเพราะอย่างน้อยคุณปิ่นมุกก็ยังคงอาลัยอาวรณ์คนที่หายหน้าหายตาไปอยู่เหมือนกัน แล้วยิ่งคุณหนูจินหลงหน้าตาเหมือนพ่อขนาดนั้น สักวันเถอะกำแพงในใจของคุณปิ่นมุกต้องพังทลายลงสักวัน“ล้างแล้วก็ล้างอีกได้นี่คะพี่มะลิ” บอกเสียงอ้อมแอ้ม แล้วก็ลงมือล้างผักอย่างตั้งใจ แต่จิตใจกระหวัดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนบางคนที่เหมือนลูกชายของเธอ“ก็ได้ค่า ล้างให
ตอนที่ 114 ตอนที่ 1142 ปีต่อมา... นับจากวันที่ได้จากกันในวันนั้น ปิ่นมุกไม่เคยได้ข่าวคราวของคนป่าเถื่อนอีกเลย เขาทำตัวหายไปจริงๆ พร้อมกับเรื่องราวในอดีตก็ค่อยๆ ลบเลือนไปจากใจของเธอเช่นกัน บิดามักพูดเสมอว่าให้ลืมไปเสียแม้จะยากแต่ก็ต้องลืมเพื่อให้มีแรงเดินต่อไป หลังจากเธอบอกกับบิดาว่าเธอท้อง เมื่อรู้ว่าท้อง เธออยากบอกเขาเหลือเกิน แต่เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงไม่คิดหวนกลับไปและบอกตัวเองว่าให้ลืมคนป่าเถื่อนคนนั้นซะ แต่ยิ่งพยายามลืมเขา ใจกลับก็ยิ่งจดจำและโหยหาเขา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนที่จำใจจากหญิงที่รักไปนั้น ได้ประสบอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและตอนนี้อาการของถังเฟ่ยหลงก็น่าเป็นห่วงมากเพราะเจ้าตัวไม่ยอมรับการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้กลับมาเดินได้เป็นคนปกติอีกครั้ง ถังเฟ่ยหลงท้อแท้หมดกำลังใจ หมดพลังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ทั้งที่พยายามตัดใจแต่เขาไม่เคยลืมปิ่นมุก อยากกลับไปหาเธอแทบขาดใจ แต่ไม่กล้าไปส
ตอนที่ 113“ไม่ไป ฉันไม่ยอมห่างจากเธออีกแล้วนะปิ่นมุก เพราะอะไรปิ่นมุก ตั้งแต่เธอได้กลับไปอยู่บ้าน เธอก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาฉัน เธอคิดจะทรมานฉันหรือไง ฉันรู้ว่าฉันผิด...ผิดมาก ผิดจนเธอคงไม่ให้อภัยฉัน แต่ฉันอยากขอโทษ ขอให้คนเลวๆ อย่างฉันได้แก้ตัวบ้างไม่ได้เชียวเหรอ เธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้ แต่ขออย่าผลักไสฉันไปไหน ได้ไหมปิ่นมุก ฉันรักเธอ ได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ” น้ำเสียงของถังเฟ่ยหลงดูเศร้าหมอง แววตาคม แดงก่ำเพราะหวาดกลัวว่าจะต้องสูญเสียเธอไป ใบหน้าหล่อเหลาเบียดเข้าใกล้อีกครั้ง“ฉันเหม็นคุณ” ปิ่นมุกยกมือดันใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง แล้วเอ่ยเสียงสั่นเครือยามได้เห็นแววตาคมแดงก่ำ“นะปิ่นมุก ให้ฉันได้มีโอกาสชดเชยสิ่งที่เคยทำร้ายเธอ เธอคือดวงใจของฉันนะปิ่นมุก ฉันมันเลว ใจร้าย ป่าเถื่อน อย่างที่เธอประณามฉัน แต่ฉันอยากขอโอกาสบ้างสักครั้ง นะปิ่นมุกขอโอกาสให้ฉันบ้างได้ไหม” ฝ่ามืออุ่นกุมสองมือเล็กขึ้นจุมพิตซ้ำๆ กันอยู่อย่างนั้น นาทีนี้ถังเฟ่ยหลงไม่คิดอายใครอีกแล้วที่จะต้องหลั่งน้ำตาเพื่อวอนขอโอกาสจากหญิ
ตอนที่ 112ดวงตาคู่สวยเริ่มรื้นด้วยหยาดน้ำตาเมื่อหวนนึกถึงเรื่องในอดีต เพราะหากเธอยอมอยู่เป็นครอบครัวกับคุณถังก็เหมือนคนอกตัญญูที่ไปรักกับคนที่ทำให้คนในครอบครัวของเธอเสียชีวิต แต่หากเธอเลือกที่จะเดินคนละเส้นทางกับคุณถังหัวใจของเธอก็เจ็บปวดมากเช่นกัน แต่สักวันเธอก็หวังว่าความเจ็บปวดจะจางหายไปในที่สุด เมื่อไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน ไม่ต้องมาเห็นหน้ากัน เวลา...เวลาอาจช่วยเยียวยารักษาหัวใจบอบช้ำของเธอ ‘เพราะเราสองคนรักกันไม่ได้’“ลูกปิ่น” คุณกิตติขานเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“เราสองคนรักกันไม่ได้ค่ะ” ปิ่นมุกเงยหน้าตอบบิดาเสียงแผ่วๆ ยกนิ้วปาดน้ำตาที่ไหลนองสองแก้ม คุณกิตติจึงรั้งบุตรสาวคนเล็กเข้ามาปลอบประโลมขณะที่ด้านหน้าของศาลาริมน้ำ ถังเฟ่ยหลงและลูกน้องรวมถึงคุณตวงรัตน์และบุตรชายก็จับกลุ่มยืนพูดคุยกันและมองมายังสองพ่อลูกด้วยความเป็นห่วง ส่วนปิ่นมุกหลังได้รับอ้อมกอดอบอุ่นจากบิดานานหลายนาที เธอจึงเอ่ยชวนให้บิดากลับบ้านพักเพื่อจบปัญหาเรื่องระหว่างเธอและคุณถัง คุณกิตติก็ไม่คิดซ
ตอนที่ 111“ไอ้ปฐวี! แกจะทำบ้าอะไรของแก” ถังเฟ่ยหลงตะโกนถามแล้ววิ่งเข้าไปใกล้แต่พอใกล้ถึงปฐวีก็ขับรถหนีไป ส่วนคนในรถก็ฉุดกระชากกันอยู่ เมื่อปฐวีจะผลักน้องสาวตัวเองลงจากรถให้ได้“ฉันขอโทษนะยัยปิ่น แต่ฉันต้องเลือกชีวิตตัวเองมากกว่า” ขาดคำนั้นปฐวีก็ผลักน้องสาวออกจากรถแล้วขับรถหนีไปด้วยความเร็ว ร่างของปิ่นมุกกลิ้งตามพื้นลาดชันขณะที่ถังเฟ่ยหลงวิ่งเข้าไปประคองไว้ได้ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะกลิ้งเข้าไปกระแทกหินก้อนใหญ่ ดวงตาแดงก่ำเฝ้ามองใบหน้าเปื้อนเลือดด้วยหัวใจแทบหยุดเต้น เขาก้มมองสำรวจทั่วร่างกายของคนในอ้อมแขนไม่พบบาดแผลใดนอกเสียจากเลือดบนศีรษะ“ปิ่นมุก! ฉันขอร้อง ลืมตามองฉันสักนิดนะปิ่นมุก” ถังเฟ่ยหลงขานเรียกหญิงสาวในอ้อมแขนเหมือนคนหัวใจจะขาดรอนๆ ยอมรับเลยว่าครั้งนี้เขาหวาดกลัวสุดหัวใจ กลัวเธอจะจากเขาไปฝ่ามือใหญ่ลูบไล้แผ่วเบาบนแก้มนวล ริมฝีปากร้อนกดจูบกลางหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างแสนรักและแสนห่วง ก่อนจะมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ไม่ไกล ถังเฟ่ยหลงเงยหน้าขึ้นมองเห็นรถที่ปฐวีขับไปชนเข้ากับขอบถนนเพรา
ตอนที่ 110“ไอ้ปฐวี! นั่นน้องสาวแท้ๆ ของแก แกคิดจะฆ่าแม้กระทั่งน้องสาวตัวเองหรือไง ปล่อยปิ่นมุกซะ แล้วแกไปกราบขอขมาน้องสาวของฉัน แล้วไสหัวไปไกลๆ” ถังเฟ่ยหลงต่อรองทั้งที่ความเป็นจริงอยากให้ปฐวีได้ชดใช้กรรมด้วยความตายเสียมากกว่า แต่เวลานี้เขาเป็นห่วงปิ่นมุกและหวังให้ ฮุ่ยจื่อเข้าใจในสิ่งที่เขาเลือกเพราะเขาเคยสัญญาต่อหน้าหลุมศพฮุ่ยจื่อไว้ว่าจะให้นายปฐวีชดใช้ด้วยชีวิตถังเฟ่ยหลงไม่รู้ว่าตัวเองอุปทานไปหรือเปล่าเพราะมีสายลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้าของเขา ‘ฮุ่ยจื่อ...ฮุ่ยจื่อเข้าใจพี่ใช่ไหม’ เขาเหลียวมองตามสายลมพัดผ่านหายไป รอยยิ้มเล็กๆ ประดับบนใบหน้าหล่อเหลาแต่เคร่งเครียด“กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงอย่ามาหลอกกูเลยไอ้ชั่ว” ปฐวีว่าพลางลากตัวปิ่นมุกไปยังเนินเขาสูง ยิ่งทำให้ผู้คนที่เฝ้ามองอยู่ต่างมองลุ้นทะลึกตามไปด้วยเพราะกลัวสองพี่น้องจะกลิ้งตกลงไป“พี่ปัด พี่ระวังนะตรงนั้นเป็นเนินเขา” ปิ่นมุกก้มมองปลายเท้าของตนแล้วให้ใจหายเพราะบริเวณนั้นเป็นเนินเขาสูงและมีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายเต็มไปหมด หากพลาดพลั้งตกลงไปเธอก็ไม่ร
ตอนที่ 109“พี่ปัด! คุณถังพอเถอะค่ะ อย่าทำร้ายพี่ปัดอีกเลยนะคะ ฉันขอร้อง” ปิ่นมุกถลาเข้าไปหาพี่ชายตัวเอง สองมือของเธอเข้าโอบกอดพี่ชายไว้แน่น น้ำตาไหลพรากเพราะสงสารพี่ชายที่เนื้อตัวมีแต่เลือด“ปล่อยมัน! แล้วถอยออกมาปิ่นมุก” ถังเฟ่ยหลงสั่งเสียงห้วน ดวงตาคมกริบจดจ้องไปยังใบหน้าหวานอย่างขู่บังคับ ทว่าเวลานี้ปิ่นมุกไม่สนใจ เธอไม่อยากให้เขาฆ่าใครอีกแล้ว โดยเฉพาะพี่ปัด เพราะหากพี่ชายเธอเป็นอะไรไป คุณแม่ของเธอ...ท่านคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ช่างแตกต่างจากเธอนักที่จะอยู่หรือตายท่านก็ไม่สนใจปิ่นมุกร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะนึกสงสารพี่ชายไม่พอ เธอยังเวทนาชีวิตตัวเองเข้าให้อีก มารดาไม่เคยรักเธอแม้กระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยรัก ทว่าน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มนุ่มยิ่งทำให้ถังเฟ่ยหลงโกรธมากขึ้นที่หญิงสาวใช้น้ำตามาต่อรองเพื่อให้เขาปล่อยพี่ชายเธอ!“ปิ่นมุก! ฉันสั่งให้เธอถอยออกมา ไม่ได้ยินหรือไง” น้ำเสียงดุดันหยุดเสียงสะอื้นไห้ของปิ่นมุก ก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้ามองคนพู