ทั้งสองท่านที่นั่งฟังมาสักพัก คนเป็นประมุขของบ้านก็เอ่ยขึ้นบ้างอย่างใจเย็นไม่แพ้กัน เพื่อที่ให้ลูกสาวคนเล็กนั้นได้ลองคิดดูอีกที เพราะการที่ลูกชายเขาเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรที่สำคัญ และอยากให้คนในครอบครัวนั้นมีส่วนร่วมในการบริหารงานบริษัทของครอบครัว ส่วนคนเป็นแม่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็กเอื้อมมือไปจับมือลูกสาวอย่างเข้าใจ เธออาจจะยังเด็กเกินกว่าที่จะมารับรู้เรื่องงานและคงต้องใช้เวลาที่จะต้องเรียนรู้ในตอนนี้
“นายังไม่ต้องรีบคิดก็ได้ลูก พี่เขาอยากให้เราไปช่วยเขาเพราะเราคือครอบครัวที่จะทำให้บริษัทได้เดินหน้าต่ออย่างมั่นคง แต่ถ้าลูกไม่อยากทำพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร” ประมุขของบ้านเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปมองลูกชายที่กำลังมองน้องสาวไม่วางตาพร้อมกับหันมาหาตนเอง
“แต่พ่อครับ ผมอยากให้น้องได้เรียนรู้เร็วกว่าผมเพราะมันคือทางเดียวที่น้องจะมีชีวิตที่ดีได้ในอนาคต” คนพี่งัดเหตุผลออกมาให้พ่อนั้นได้เข้าใจ และตอนนี้เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อยแล้วที่น้องสาวยังทำตัวเป็นเด็ก เขาเป็นห่วงอนาคตของน้องสาวเขามาก แต่เขาก็รู้ว่าการทำงานตรงนี้ไม่ได้ง่ายเลยอยากให้น้องสาวได้เรียนรู้เร็วกว่าเขาเมื่อก่อน
“นั่นสิ แม่ก็เห็นด้วยกับพ่อนะ ให้เวลาน้องคิดหน่อยแล้วกันนะลีตอนนี้น้องยังเด็กสำหรับเรื่องแบบนี้ กว่าเราจะมารับช่วงต่อตอนนั้นเราก็เรียนจบตั้งนานกว่าจะยอมมาทำกับที่บ้าน” คนเป็นแม่เองก็ช่วยพูดให้คนเป็นพี่ชายได้ใจเย็นลง เพราะดูแล้วเจ้าลูกชายกำลังหงุดหงิด
“พี่เลิกพูดเถอะค่ะ เลิกบงการหนูสักที ตอนนี้หนูไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินหนีขึ้นมายังห้องนอนของตัวเองและไม่ลงไปอีกเลย
เช้าวันถัดมาของวันหยุด ด้วยความขุ่นมัวของอารมณ์ หญิงสาวเลือกที่จะกลับมามหาวิทยาลัยและอยู่ที่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยที่อยู่ปัจจุบัน ก่อนตัดสินใจย้ายออกและเลือกที่จะไปซื้อคอนโดมิเนียมอยู่แทน โดยที่หญิงสาวส่งข้อความบอกกับคนเป็นพ่อว่าจะหาที่ปักหลักเป็นของตัวเอง และค่าคอนโดมิเนียมที่พ่อซื้อถ้าเรียนจบแล้วเธอจะทยอยผ่อนจ่ายคนเป็นพ่อโดยคนเป็นพ่อและแม่ห้ามแย้งอะไรทั้งนั้น ถ้าอยากให้เธอนั้นเติบโตด้วยตัวเองก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเธอด้วย
“เราจะไปอยู่คอนโดฯ จริง ๆ ใช่ไหม” เสียงคนเป็นพี่ชายเอ่ยขึ้น ตั้งแต่วันนั้นที่บ้านก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ทั้งสองไม่ได้คุยกันเพราะความน้อยใจของน้องสาว
“ใช่ค่ะ พี่ลีไม่น่าถามนะ เพราะพี่ก็หาคอนโดฯ ให้หนูตามคำสั่งของคุณพ่อเรียบร้อยแล้วนี่คะ” หญิงสาวที่ยังคงงอนพี่ชายอยู่จึงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“นาพี่ขอโทษ” คนพี่เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิด ที่จริงเขาควรถามน้องก่อนที่จะมัดมือชกน้องแบบนั้น เขาผิดเองที่ไม่คิดให้ดีก่อน และควรนึกถึงใจน้องมากกว่านี้
“พี่ควรขอโทษหนูตั้งแต่วันนั้น ไม่ก็หลายวันที่ผ่านมา” คนตัวเล็กเดินขึ้นมานั่งบนรถของพี่ชายหลังจากที่ช่วยกันขนของขึ้นรถจนเสร็จ และพูดโดยไม่หันมามองคนข้างกาย
“พี่ขอโทษครับ น้องสาวคนสวยของพี่”
“หนูงอนค่ะ”
“พี่รู้ครับ ๆ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว น่านะเจ้าหญิงน้อยของพี่” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วน้ำผลไม้ปั่นของโปรดมาให้คนเป็นน้องสาว
“หนูยังไม่ให้อภัยค่ะ พี่รับบทลงโทษจากหนูไปก่อนแล้วกัน”
คนตัวเล็กรับแก้วน้ำมาดื่ม ถึงแม้จะยังไม่หายโกรธก็ตาม และทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดมิเนียมที่พี่ชายนั้นหาไว้ให้แล้ว ทั้งระบบความปลอดภัยที่ระวังอันตรายทุกอย่างให้กับน้องสาว รวมถึงสิ่งแวดล้อมแถวนั้นเขาต่างดูมันอย่างดีและถี่ถ้วน ถึงมันจะราคาแรงแค่ไหนแต่เพื่อความปลอดภัยของน้องสาวเพียงคนเดียวเขายอมลงทุนเสมอ
“พี่ลีคอนโดฯ แถวนั้นมันแพงนี่คะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะย่านนี้มีแต่ลูกคนใหญ่คนโตอาศัยอยู่กันเต็มไปหมด
“ใช่แล้ว พี่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เราเสมอนะ” คนพี่พูดด้วยความหวังดีแต่หน้าของน้องสาวนั้นดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
“มันแพงขนาดนี้หนูจะจ่ายยังไงไหวพี่ลี เปลี่ยนที่เลยนะ” หญิงสาวคิดในใจ ถึงบ้านของเธอจะไม่ได้จนขนาดที่จะไม่มีกิน แต่คอนโดมิเนียมที่จะมาอยู่นี้มันเกินตัวไปมากสำหรับเธอ
“เดี๋ยวพี่ช่วยออก อีกอย่างกว่าพี่จะได้มันมาพี่ต้องใช้ความพยายามมากเลยนะ” คนพี่ส่งสายตาอย่างออดอ้อนให้น้องสาวนั้นเห็นใจ และเมื่อเห็นท่าทีของน้องสาวที่ดูเหมือนจะยอมเขาก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ทั้งสองพี่น้องพากันเข้าไปยังคอนโดมิเนียมที่ซื้อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วเพราะพ่อของทั้งสองสั่งให้ลูกน้องนั้นมาช่วยจัดตกแต่งและจัดวางของ เลยไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก และใน สองปีสุดท้ายนี้ คนตัวเล็กจะได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ คนตัวเล็กเดินมายังส่วนกลางของคอนโดมิเนียมเพื่อดูสิ่งแวดล้อม แต่แล้วสายตาอันว่องไวกลับเห็นบางคนที่ดูคุ้นเคย นั่นคือพี่พีท เขาเดินออกมาจากคอนโดมิเนียมตึกฝั่งตรงข้ามของคนตัวเล็ก
“นั่นพี่พีทนี่ ทำไมเขามาอยู่ที่นี่”
เมื่อหลายวันก่อนที่หญิงสาวเห็นพี่พีทนั้นออกมาจากคอนโดมิเนียมตึกฝั่งตรงข้ามตึกของเธอพร้อมกับขึ้นรถของใครบางคนออกไป คนตัวเล็กได้แต่เก็บกลับมาคิดว่าที่จริงแล้ว พี่พีทอาจจะอยู่คอนโดมิเนียมนี้ ตอนนี้ก็ทำได้แค่เก็บความสงสัยไว้ เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมา เธอมาพบเขาทุกวันในช่วงเย็น ไม่ว่าจะมีเรียนช่วงไหนก็มามันทุกวัน จนพนักงานในร้านก็เริ่มมองด้วยสายตาเป็นเชิงแซวคนตัวเล็กแล้วว่ามาเพื่อจุดประสงค์อะไรและวันนี้ก็เช่นกัน คนตัวเล็กมีเรียนช่วงบ่าย และมีเรียนอีกครั้งตอนช่วงค่ำเพราะอาจารย์นัดนอกเวลาเพื่อติวพิเศษให้กับนักศึกษา แต่ด้วยความที่หลายวันที่ผ่านมานี้หญิงสาวเองยังคงงอนพี่ชายอยู่ เพราะตั้งแต่วันที่พี่ชายมาส่งที่คอนโดมิเนียมเขาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ทำให้คนเป็นน้องสาวอย่างเธอยังมีอารมณ์ที่ค้างคาอยู่มาก ถ้าจะกลับมาง้อคราวนี้ก็จะงอนให้หนักขึ้นเลยคอยดู ว่าแล้วมือเรียวเล็กก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็กโซเชียลมีเดียของพี่ชายระหว่างเดินไปร้านของพี่พีท หน้าจอปรากฏภาพที่พี่ชายกำลังไปเที่ยวทะเล“หนีไปเที่ยว ! พี่ชายฉันไม่ง้อเลยใช่ไหมเนี่ย แถมยังไปเที่ยวกับสาวอีก แล้วบอกว่าไม่มีแฟน คุณแม่ต้องรู้เรื่องนี้ หึ
ตั้งแต่ที่หญิงสาวนั้นเดินเข้ามาที่ร้านในช่วงดึก ชายหนุ่มนั้นสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีท่าทางพิรุธยืนอยู่นอกร้านอยู่สักพักใหญ่แล้ว ในตอนแรกคิดว่าอาจจะมายืนรอเพื่อนที่นัดกันมาเจอที่หน้าร้าน จนแล้วจนเล่าผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ได้เดินไปไหน พร้อมกับมองเข้ามาในร้านเป็นระยะ เมื่อเวลาผ่านไปลูกค้าในร้านเริ่มทยอยออกไปจนเหลือคนตัวเล็กและลูกค้าอีกหนึ่งท่าน ขณะที่กำลังเดินเก็บของกับพนักงานในร้านเพื่อเตรียมตัวปิดร้าน ก็มองออกไปที่หน้าร้านเป็นระยะ จนเริ่มไม่น่าไว้ใจเพราะมันมองจ้องมาที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ในร้าน และเหมือนน้องที่ตนรู้จักนั้นก็กำลังมองออกไปข้างนอกเช่นกัน จนสังเกตได้ว่าตอนนี้คนตัวเล็กเริ่มมีท่าทีลุกลน และเหมือนไม่กล้าที่จะลุกออกไปที่หน้าร้าน ก่อนจะหันไปบอกกับเขตแดนที่ยังไม่กลับว่าให้ออกไปดูว่าคนนั้นเป็นใคร โดยแกล้งเดินออกไปทิ้งขยะ “พี่ฝากด้วยนะเขต เอาขยะไปทิ้งแล้วกลับบ้านได้เลย” ชายหนุ่มเอ่ยย้ำก่อนจะยื่นถุงขยะให้กับเขตแดน เพราะเขากับเขตแดนก็เห็นคนนี้มาสักพักแล้ว และมันจะเป็นอันตรายสำหรับลูกค้าผู้หญิงคนอื่นด้วย “ได้เลยพี่ เดี๋ยวแอบถ่ายหน้ามันด้วยเผื่อเอาไว้แปะ
เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดระบบกล้องวงจรปิด และดูบริเวณรอบ ๆ ของร้าน แต่ก็ยังคงเห็นรุ่นพี่คนนั้นยืนอยู่ที่เดิม พลางคิดในใจว่าไอ้หมอนั่นมันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ และท่าทีที่น่ากลัวของมันต้องการอะไรจากน้องนาถึงมายืนรออยู่หลายชั่วโมง“พี่พีท… หนูกลัว” หญิงสาวที่สังเกตเห็นชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอะไรบางอย่างพร้อมกับชะเง้อมอง ก็ได้รู้ว่ามันคือกล้องวงจรปิด แถมคนนั้นก็ยังไม่ได้หายไปไหน คนตัวเล็กเลยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัว“น้องนาไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ เดี๋ยวพี่หารถไปส่งเราดีกว่า” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบหัวคนตัวเล็กที่ตอนนี้มีอาการหวาดกลัว กลับทำให้อุ่นใจมากขึ้นเมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น คำพูดทำให้เธอที่ใจเต้นแรงกับเขาอยู่แล้ว ก็ยิ่งชอบเขามากขึ้นมาเจอพี่พีทในเวอร์ชันนี้ มันอบอุ่นหัวใจเมื่อชายหนุ่มพูดจบเขาก็เดินออกไปที่ประตูหน้าร้านก่อนที่จะมองจ้องไปที่รุ่นพี่คนนั้นที่ยังคงยืนมองอยู่ เมื่อทั้งสองสบตากันทำให้รุ่นพี่ต้องถอยกลับไป และพี่พีทก็เช็กระบบกล้องวงจรปิดอีกครั้งก่อนจะพบว่าชายคนนั้นได้ออกไปแล้วจริง ๆ ก่อนจะเรียกรถให้คนของ
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ถือว่าเป็นวันที่น่ากลัวสำหรับคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก การที่รุ่นพี่คนนั้นเข้ามาถึงตัวเธอได้พร้อมกับจะเข้ามาทำร้ายเธอในที่สาธารณะแบบนี้ มันมากเกินกว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะรับไหว เอาเข้าจริงหญิงสาวเองตกใจมากและเกิดอาการขวัญผวาไม่น้อย ถ้าไม่ได้พี่พีทเข้ามาช่วยในวันนั้นป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ในตอนนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนจำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้“มึงจะทำอะไร ถ้ามึงยังไม่อยากหัวกระจุย ปล่อยมือสกปรกของมึงเดี๋ยวนี้ !!!” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างมีอำนาจพร้อมกับเสียงนกปืนที่ดังมาจากทางด้านหลังของคนตัวเล็ก“พะ... พี่พีท กรี๊ดด เจ็บนะ” หญิงสาวถูกเหวี่ยงไปอยู่ด้านข้างของรุ่นพี่พร้อมกับมือหนาของชายหนุ่มที่ยังคงบีบมือเธอจนเริ่มเป็นรอยแดง“มึงหุบปาก ส่วนมึงเป็นใครเอาปืนมาขู่กู อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมีย” ชายหนุ่มพูดด้วยความโมโหและไม่เกรงกลัวต่ออาวุธที่อยู่ตรงหน้า “หุบปากเน่า ๆ ของมึงซะก่อนที่กูจะลั่นไกล” ชายหนุ่มมองไปที่คนตัวเล็กที่มีท่าทีหวาดกลัวและเขาอยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โชคดีที่ตรงนี้ไม่มีคนทำให้เขาสามารถเอาปืนที่เหน็บมาด้วยขู่มัน แต่มันกลับไม่กลัวอะไร
เมื่อโทรศัพท์บอกพี่ชายเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็พากันเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดมิเนียมของหญิงสาวทันที และเมื่อพี่พีทถามว่าคอนโดมิเนียมอยู่ที่ไหน ก็ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อ และชายหนุ่มเองก็บอกว่าที่นั่นเป็นคอนโดมิเนียมของน้องชายพี่พีท คนตัวเล็กก็เลยถึงกับบางอ้อว่าที่เจอพี่พีทวันนั้นคือเขาออกไปกับน้องชาย เกือบเข้าใจผิดแล้วว่าพี่พีทนั้นมาหาผู้หญิงที่นั่น เกือบไปแล้วเชียว แต่ถามไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน อีกอย่างที่เธอไม่ถามเขามาตลอดว่าเขามีแฟนหรือไม่เป็นเพราะตอนนั้นคิดว่าอาจจะเป็นแค่ความประทับใจในช่วงแรกเลยคลั่งรักเขาขนาดนั้น จนในช่วงปีสองที่ไม่ได้เจอกันมันมีความโหยหามากกว่าการอยากเจอหน้าเขา แล้วก็เกือบถอดใจไปแล้วเพราะความห่างกัน เหมือนพี่เขานั้นหลบหน้าเธอ และวันนี้เหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาคงมีใจให้เธอบ้างแล้ว แบบนี้มันคงถึงเวลาที่จะพุ่งชนเขาให้อย่างจังสักที“พี่พีทคะ” คนตัวเล็กหันไปหาพี่พีทที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจก่อนที่เขาจะหันมาหาเธอ“ครับ ว่าไงเอ่ย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย เพราะคนตัวเล็กหันมามองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันแฝงไปด้วยความจริงจังแต่ปนไปด้วยความขี้เล่น ต่างจากค
“พี่พีทคะ พี่ส่งแค่หน้าทางเข้าพอนะคะ เดี๋ยวนาเดินเข้าไปข้างในเอง พี่จะได้ไม่ต้องกลับรถให้เสียเวลา ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับวันนี้ที่ช่วยนาไว้ วันหลังนาจะเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่นะคะ”“ระวังตัวด้วยนะ” เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ก็ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ยินเพราะความรีบของเธอสิ้นเสียงของหญิงสาวที่เดินลงจากรถด้วยความเร็ว ชายหนุ่มยังไม่ได้ทันได้เอ่ยลาด้วยซ้ำ เธออาจจะรีบจริง ๆ ก็ได้ แต่อีกใจนั้นก็ยังมีความสงสัยปะปนอยู่ ก่อนจะเคลื่อนตัวรถให้เห็นหน้าคอนโดมิเนียมของเธอได้ชัดเขาก็ถึงกับบางอ้อ เมื่อหญิงสาวลงจากรถไปอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มเกิดความสงสัย ก่อนจะมองตามหลังร่างเล็กของเธอที่กำลังจะเดินไปที่ประตูทางเข้าของคอนโดมิเนียม คนตัวเล็กหยุดยืนพร้อมกับส่งยิ้มหวานแบบที่ยิ้มให้กับเขา เธอยิ้มให้กับชายตัวสูงคนหนึ่งที่แต่งตัวภูมิฐาน ไม่ได้ดูมีอายุมาก อาจจะอายุใกล้กับเขามากเสียด้วยซ้ำ มือเขาที่กำพวงมาลัยรถอยู่นั้นเผลอกำแน่นอย่างลืมตัว และใช่ เขาคนนั้นคือคนที่มารับเธอตอนที่ไปเมาพับอยู่ที่ผับและพาเธอออกไปจากร้านของเพื่อนเขา“อ้าว... พี่ลีมานานหรือยังคะ” และเป็นไปตามที่คาดไว้ พี่ชายของเธอมาหาเธอถึงคอนโดมิเนียม หลังจ
“ตอนที่มันโทร.มา มันตกใจที่ได้ยินเสียงพี่ มันด่าพี่เป็นใครมารับสายได้ยังไง แล้วมันก็ด่าแบบไม่ลืมหูลืมตา” ชายหนุ่มพูดไปด้วยเสียงที่ขบขัน ก่อนจะมองไปที่น้องสาวที่ตอนนี้ยิ่งสงสัยว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อ“แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อคะ อย่าวรรคนานมันน่าหงุดหงิดนะคะพี่ลี” หญิงสาวบอกด้วยเสียงที่เริ่มไม่ค่อยพอใจพี่ชายตัวเองแล้วเพราะลีลากว่าจะพูดจบแต่ละอย่าง“โอเค พี่เล่าต่อแล้วครับ แล้วทีนี้พี่ก็บอกว่าพี่เป็นพี่ชายของเราแต่มันก็ไม่เชื่อ แล้วมันก็บอกกับพี่ว่า มันจะแย่งเราไปจากพี่แล้วเอาเราทำเมีย แล้วมันจะโยนมาให้พี่ใช้ต่อ” คนเป็นพี่ไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นว่าคนเป็นน้องนั้นเงียบไปแล้ว พร้อมสีหน้าที่ดูตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “เขาทำไปเพื่ออะไร พี่ลีน่ากลัวมากเลยนะรู้ไหม” หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือก่อนที่จะรีบปรับให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากจดจำสถานการณ์แบบนั้นอีกแล้ว คิดทีไรก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทุกที“นั่นแหละพี่โมโหมาก เลยให้ลูกน้องเอาเบอร์ไปสืบ พอรู้ตัวก็เอาคนไปกระทืบมัน แล้วก็ให้คนตามดูมัน” คนเป็นพี่เอ่ยยาวเหยียดถึงขั้นตอนการลงโทษไอ้เลวนั่น ที่มาทำระยำกับน้องสาวเขา “แต่โดนจับไปแล้ว หวังว่
ทุกอย่างดำเนินไปตามเวลาของมัน แสงแดดในยามบ่ายของวันไม่ได้ร้อนจนเกินไป บรรยากาศทุกอย่างดูเป็นใจ นั่นทำให้เด็กสาวร่างบางนั้นรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน ฟ้าที่ปลอดโปร่งพร้อมกับความตื่นเต้นในใจวันนี้ วันที่เธอจะสารภาพรักกับชายที่ชอบ“นาวันนี้ฉันไปร้านพี่พีทกับแกด้วยนะ” ส้มโอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงร่าเริง เพราะวันนี้เราได้เรียนแค่หนึ่งชั่วโมงและอาจารย์จะปล่อยตามอัธยาศัย “อื้อ เอาดิไปด้วยกัน เราไม่ได้ไปร้านพี่พีทด้วยกันสักพักแล้วนะ” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ทำเอาเพื่อนสาวถึงกับเบะปากใส่อย่างแรง“ก็ใช่สิ แกเล่นไปร้านพี่พีทคนเดียวตลอดเลยนี่ช่วงหลังน่ะ” เพื่อนสาวแอบหยอกหญิงสาวเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะพากันเดินไปเรียนบรรยากาศในยามเย็นเมื่อเลิกเรียนแล้วยายส้มโอและเพื่อน ๆ ก็พากันแห่มาที่ร้านของพี่พีทกันเต็มไปหมด คนตัวเล็กที่ตั้งใจจะมาหาพี่พีทและเดินหน้าจีบเขาแบบนี้ก็แอบเขินอยู่เหมือนกัน ไหน ๆ ก็จะจีบก็ประกาศให้โลกรู้ไปเลยแล้วกันว่าคนนี้ฉันจอง คนตัวเล็กสูดหายใจพร้อมกับลุกขึ้นจนเพื่อนสาวอย่างส้มโอนั้นสงสัยว่าลุกขึ้นทำไม“นาแกลุกทำไมเนี่ย คนมองเต็มเลย นั่งลงเร็ว” เพื่อนสาวดึงให้คนตัวเล็กนั่ง
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท
เมื่อถึงเวลามื้อเย็นทุกคนต่างมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร และคนตัวเล็กที่มีอาการงอน ๆ เขาอยู่ก็ดูดีขึ้น เพราะเขานั้นบอกเธอไปคร่าว ๆ บ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับไปคุยกันอย่างจริงจังอีกที พ่อและแม่ของชายหนุ่มมานั่งรออยู่แล้ว เขาเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอและไปนั่งประจำที่ของตัวเอง การเจอครอบครัวของเขาครั้งแรกทำเธอตื่นเต้นไม่น้อย แต่พออยู่ไปได้สักพักครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก และเขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านการเลี้ยงดูมันเลยออกมาดีแบบนี้ “เขตทำไมแกไม่กลับบ้านตัวเองไปสักที มาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง “ผมแค่ยังไม่อยากกลับ” ชายหนุ่มตักข้าวเข้าปากพร้อมกับทำหน้ายียวน “อย่ามาหาไถเงินกับพี่กับแม่พี่เชียวนะ ไม่งั้นจะหักออกจากค่าพาร์ตไทม์” เขาพูดขึ้นอย่างกวน ๆ เช่นกัน “ก็ให้น้องมันอยู่ไปนั่นแหละ รอพ่อกับแม่เขากลับมา” พ่อพูดแทรกขึ้นอย่างเอาใจเขตแดน ทำเอาคนเป็นลูกถึงกับกลอกตามองบน หญิงสาวนั่งมองคนในบ้านและฟังบทสนทนาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทางของแฟนหนุ่มจนเธอต้องห้ามปรามโดยการแตะมือไปที่ขาของเข
จากที่ขับรถเข้ามาบริเวณบ้านคนตัวเล็กก็ตกตะลึงกับบ้านของชายหนุ่มที่ใหญ่โตอย่างกับคฤหาสน์ ทุกอย่างถูกแบ่งเป็นส่วน ๆ ดูร่มรื่นสะอาดตา เมื่อเดินเข้ามายังตัวบ้านมีบรรดาแม่บ้านมากมายที่ยืนทำหน้าที่ของตัวเอง และมีบางส่วนที่ยืนรอต้อนรับผู้เป็นเจ้าของบ้าน แม่บ้านรีบเข้ามาถือของที่ชายหนุ่มกำลังถืออยู่และนำไปวางไว้ให้ที่ห้องรับแขก ชายหนุ่มหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังตกตะลึงด้วยสีหน้าที่น่าเอ็นดูจนทำเขายิ้มออกมา“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” ชายหนุ่มเขี่ยไปที่ปลายจมูกมนของหญิงสาวอย่างหยอกล้อ“ทำไมบ้านพี่ถึงใหญ่ขนาดนี้คะ หนูแทบช็อกเลยนะ” หญิงสาวแหวขึ้นพร้อมกับทำหน้างอง้ำพอได้รู้ถึงฐานะของเขา“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงสร้างบ้านใหญ่ขนาดนี้” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะพาคนตัวเล็กมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากที่พาแวะดูนั่นนี่ภายในบ้านท่ามกลางห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ตอนนี้มีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ และมีหนึ่งคนที่คุ้นหน้ากำลังส่งยิ้มมาให้หญิงสาวด้วยท่าทางร่าเริง เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้และเดินไปยังกลางห้องนั่งเล่นกับชายหนุ่ม ชายวัยกลางคนส่งยิ้มมาให้ เธอคาดว่าน่าจะเป็นพ่อของชายหนุ่ม แล
สงครามการสอบจบลงอย่างสวยงาม วันสุดท้ายของการสอบหญิงสาวนั้นมีสอบแค่ช่วงเช้าก่อนจะให้ชายหนุ่มมารับเธอที่คณะเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดมิเนียม และออกไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ หลังสอบเสร็จและได้ไปผ่อนคลาย ในช่วงค่ำชายหนุ่มนั้นบอกกับเธอว่าจะพาไปพบกับครอบครัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกและรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที “เดี๋ยววันนี้นาจะรีบกลับนะคะ นาอาจจะไปแค่กินข้าวกับเพื่อน พี่พีทมารับหนูหน่อยแล้วเราไปซื้อของกัน จะเอาไปให้พ่อกับแม่ของพี่” หญิงสาวหันไปบอกชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ “ให้พี่ไปรับกี่โมงก็ส่งข้อความมาบอกพี่นะคะ” ชายหนุ่มหันมาบอกก่อนจะหันไปขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปคอนโดมิเนียมเพื่อพาคนตัวเล็กไปเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงคอนโดมิเนียม หญิงสาวเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสสีขาวสะอาดตา มันทำให้เธอดูเด็กลงอย่างมากราวกับเด็กอายุสิบแปด ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นหันมามองเธออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอสวยมากในสายตาเขา ในตอนนี้อยากเก็บเธอไว้ไม่ให้ออกไปไหนไม่ให้ใครเห็น “พี่พีทคะ นาแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ” คนตัวเล็กส่งเสียงเ