หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ถือว่าเป็นวันที่น่ากลัวสำหรับคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก การที่รุ่นพี่คนนั้นเข้ามาถึงตัวเธอได้พร้อมกับจะเข้ามาทำร้ายเธอในที่สาธารณะแบบนี้ มันมากเกินกว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะรับไหว เอาเข้าจริงหญิงสาวเองตกใจมากและเกิดอาการขวัญผวาไม่น้อย ถ้าไม่ได้พี่พีทเข้ามาช่วยในวันนั้นป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ในตอนนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนจำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้
“มึงจะทำอะไร ถ้ามึงยังไม่อยากหัวกระจุย ปล่อยมือสกปรกของมึงเดี๋ยวนี้ !!!” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างมีอำนาจพร้อมกับเสียงนกปืนที่ดังมาจากทางด้านหลังของคนตัวเล็ก
“พะ... พี่พีท กรี๊ดด เจ็บนะ” หญิงสาวถูกเหวี่ยงไปอยู่ด้านข้างของรุ่นพี่พร้อมกับมือหนาของชายหนุ่มที่ยังคงบีบมือเธอจนเริ่มเป็นรอยแดง
“มึงหุบปาก ส่วนมึงเป็นใครเอาปืนมาขู่กู อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมีย” ชายหนุ่มพูดด้วยความโมโหและไม่เกรงกลัวต่ออาวุธที่อยู่ตรงหน้า
“หุบปากเน่า ๆ ของมึงซะก่อนที่กูจะลั่นไกล” ชายหนุ่มมองไปที่คนตัวเล็กที่มีท่าทีหวาดกลัวและเขาอยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โชคดีที่ตรงนี้ไม่มีคนทำให้เขาสามารถเอาปืนที่เหน็บมาด้วยขู่มัน แต่มันกลับไม่กลัวอะไรเลย
“กูไม่ปล่อย มึงจะทำไม บอกแล้วว่าเรื่องผัวเมียอย่าเข้ามายุ่ง นังนี่มันก็ต้องเจอดี หึ !! มึงทำกูไว้แสบมากเลยนะ เอาเบอร์พี่มึงมาให้กู แล้วกูต้องไปโดนรุมกระทืบอีก” หนุ่มรุ่นพี่บอกอย่างกวนโทสะคนตัวสูง ทำเอาหญิงสาวเริ่มกลัวมากขึ้นว่าจะไม่รอด แต่การที่เขาไปโดนรุมกระทืบ… หรือว่าจะเป็นฝีมือของพี่ลี เขาทำขนาดนั้นเลยเหรอ
“หยุดพล่ามได้แล้ว” ชายหนุ่มเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำแบบที่ไม่เคยทำด้วยความโมโหที่เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่พีท… ช่วยด้วยหนูกลัว” เสียงของชายหนุ่มตรงหน้าที่ไม่เคยได้ยินเลยตั้งแต่รู้จักกันมา สีหน้าของเขาดูไม่เล่นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาเริ่มขยับเข้ามาเรื่อย ๆ และรุ่นพี่ก็เริ่มเดินถอยห่าง เธอเองก็ต้องเดินถอยออกไปด้วย
“ไม่ต้องกลัวพี่อยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน และเริ่มมองไปที่ด้านหลังของคนตัวเล็กเพื่อส่งสัญญาณให้ใครบางคนเตรียมเข้าประกบตัวไอ้เลวนี่
“พี่ฟิล์มหยุดเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย” หญิงสาวหันไปพูดกับคนข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้อีกคนเห็นใจและปล่อยเธอไป จะได้ไม่ต้องมีคนบาดเจ็บ
เมื่อจบประโยคของคนตัวเล็ก สิ่งที่ทำให้เธอนั้นจำเหตุการณ์ระยะสั้นนั้นได้เกิดจากความเร็วของพี่พีท คนตัวเล็กรู้สึกถึงแรงผลักจากด้านหลัง และเกิดการแย่งตัวกัน พี่พีทดึงเธอออกมาจากรุ่นพี่ พร้อมกับมีกลุ่มชายสองสามคนเข้ามารวบตัวรุ่นพี่คนนั้นไว้ เมื่อเธอหันไปเห็นเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นในตอนนั้น เสียงร้องโวยวายของหนุ่มรุ่นพี่ยังคงดังอยู่ในโสตประสาทของเธอ พี่พีทเองที่เห็นแบบนั้นจึงดึงให้เธอหันไปหาเขาพร้อมกับใช้มือป้องหูทั้งสองข้างของเธอไว้ แล้วก้มมองมาที่เธอด้วยสายตาเป็นห่วง
“ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” เสียงของชายหนุ่มนั้นเอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้มีหยดน้ำตาเริ่มไหลออกมา เขาจึงบรรจงเช็ดให้กับคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบาพร้อมกับพาเธอออกมาจากตรงนั้น
“พี่พีท… หนูกลัว” หลังจากที่เงียบมานานตลอดทางที่เดินกลับมาที่ร้าน หญิงสาวยังคงพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ วนอยู่แบบนั้น
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” ชายหนุ่มกุมมือคนตัวเล็ก ก่อนที่จะมีชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและจัดการรับคำสั่งไปว่าให้จัดการส่งหนุ่มรุ่นพี่ไปหาตำรวจทันที
ในตอนนี้สมองของหญิงสาวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ถ้าให้ใช้คำเปรียบนั่นคือจิตหลุดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าคงต้องทำอะไรสักอย่างให้เธอนั้นมีสติกลับมา และที่แน่ ๆ เขาเลือกที่จะพาเธอมานั่งพักที่ร้านก่อน ตอนนี้พนักงานในร้านต่างพากันมองมาที่คนเป็นเจ้านายที่พาหญิงสาวที่กำลังมีท่าทีหวาดกลัวและตกใจกลับมาที่ร้าน
“น้องนาครับ ให้พี่ไปส่งที่บ้านนะ เอาไหม” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นและคอยพูดอย่างช้า ๆ เพื่อดูอาการของคนตรงหน้า
“ได้ค่ะ แต่หนูต้องโทร.บอกพี่ชายหนูก่อนว่าเกิดเรื่องขึ้น” เมื่อผ่านไปได้สักพักใหญ่คนตัวเล็กที่เริ่มตั้งสติได้ก็เริ่มพูดคุยได้มากขึ้น พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร.หาคนเป็นพี่ชาย
เมื่อโทรศัพท์บอกพี่ชายเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็พากันเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดมิเนียมของหญิงสาวทันที และเมื่อพี่พีทถามว่าคอนโดมิเนียมอยู่ที่ไหน ก็ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อ และชายหนุ่มเองก็บอกว่าที่นั่นเป็นคอนโดมิเนียมของน้องชายพี่พีท คนตัวเล็กก็เลยถึงกับบางอ้อว่าที่เจอพี่พีทวันนั้นคือเขาออกไปกับน้องชาย เกือบเข้าใจผิดแล้วว่าพี่พีทนั้นมาหาผู้หญิงที่นั่น เกือบไปแล้วเชียว แต่ถามไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน อีกอย่างที่เธอไม่ถามเขามาตลอดว่าเขามีแฟนหรือไม่เป็นเพราะตอนนั้นคิดว่าอาจจะเป็นแค่ความประทับใจในช่วงแรกเลยคลั่งรักเขาขนาดนั้น จนในช่วงปีสองที่ไม่ได้เจอกันมันมีความโหยหามากกว่าการอยากเจอหน้าเขา แล้วก็เกือบถอดใจไปแล้วเพราะความห่างกัน เหมือนพี่เขานั้นหลบหน้าเธอ และวันนี้เหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาคงมีใจให้เธอบ้างแล้ว แบบนี้มันคงถึงเวลาที่จะพุ่งชนเขาให้อย่างจังสักที“พี่พีทคะ” คนตัวเล็กหันไปหาพี่พีทที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจก่อนที่เขาจะหันมาหาเธอ“ครับ ว่าไงเอ่ย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย เพราะคนตัวเล็กหันมามองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันแฝงไปด้วยความจริงจังแต่ปนไปด้วยความขี้เล่น ต่างจากค
“พี่พีทคะ พี่ส่งแค่หน้าทางเข้าพอนะคะ เดี๋ยวนาเดินเข้าไปข้างในเอง พี่จะได้ไม่ต้องกลับรถให้เสียเวลา ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับวันนี้ที่ช่วยนาไว้ วันหลังนาจะเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่นะคะ”“ระวังตัวด้วยนะ” เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ก็ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ยินเพราะความรีบของเธอสิ้นเสียงของหญิงสาวที่เดินลงจากรถด้วยความเร็ว ชายหนุ่มยังไม่ได้ทันได้เอ่ยลาด้วยซ้ำ เธออาจจะรีบจริง ๆ ก็ได้ แต่อีกใจนั้นก็ยังมีความสงสัยปะปนอยู่ ก่อนจะเคลื่อนตัวรถให้เห็นหน้าคอนโดมิเนียมของเธอได้ชัดเขาก็ถึงกับบางอ้อ เมื่อหญิงสาวลงจากรถไปอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มเกิดความสงสัย ก่อนจะมองตามหลังร่างเล็กของเธอที่กำลังจะเดินไปที่ประตูทางเข้าของคอนโดมิเนียม คนตัวเล็กหยุดยืนพร้อมกับส่งยิ้มหวานแบบที่ยิ้มให้กับเขา เธอยิ้มให้กับชายตัวสูงคนหนึ่งที่แต่งตัวภูมิฐาน ไม่ได้ดูมีอายุมาก อาจจะอายุใกล้กับเขามากเสียด้วยซ้ำ มือเขาที่กำพวงมาลัยรถอยู่นั้นเผลอกำแน่นอย่างลืมตัว และใช่ เขาคนนั้นคือคนที่มารับเธอตอนที่ไปเมาพับอยู่ที่ผับและพาเธอออกไปจากร้านของเพื่อนเขา“อ้าว... พี่ลีมานานหรือยังคะ” และเป็นไปตามที่คาดไว้ พี่ชายของเธอมาหาเธอถึงคอนโดมิเนียม หลังจ
“ตอนที่มันโทร.มา มันตกใจที่ได้ยินเสียงพี่ มันด่าพี่เป็นใครมารับสายได้ยังไง แล้วมันก็ด่าแบบไม่ลืมหูลืมตา” ชายหนุ่มพูดไปด้วยเสียงที่ขบขัน ก่อนจะมองไปที่น้องสาวที่ตอนนี้ยิ่งสงสัยว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อ“แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อคะ อย่าวรรคนานมันน่าหงุดหงิดนะคะพี่ลี” หญิงสาวบอกด้วยเสียงที่เริ่มไม่ค่อยพอใจพี่ชายตัวเองแล้วเพราะลีลากว่าจะพูดจบแต่ละอย่าง“โอเค พี่เล่าต่อแล้วครับ แล้วทีนี้พี่ก็บอกว่าพี่เป็นพี่ชายของเราแต่มันก็ไม่เชื่อ แล้วมันก็บอกกับพี่ว่า มันจะแย่งเราไปจากพี่แล้วเอาเราทำเมีย แล้วมันจะโยนมาให้พี่ใช้ต่อ” คนเป็นพี่ไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นว่าคนเป็นน้องนั้นเงียบไปแล้ว พร้อมสีหน้าที่ดูตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “เขาทำไปเพื่ออะไร พี่ลีน่ากลัวมากเลยนะรู้ไหม” หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือก่อนที่จะรีบปรับให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากจดจำสถานการณ์แบบนั้นอีกแล้ว คิดทีไรก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทุกที“นั่นแหละพี่โมโหมาก เลยให้ลูกน้องเอาเบอร์ไปสืบ พอรู้ตัวก็เอาคนไปกระทืบมัน แล้วก็ให้คนตามดูมัน” คนเป็นพี่เอ่ยยาวเหยียดถึงขั้นตอนการลงโทษไอ้เลวนั่น ที่มาทำระยำกับน้องสาวเขา “แต่โดนจับไปแล้ว หวังว่
ทุกอย่างดำเนินไปตามเวลาของมัน แสงแดดในยามบ่ายของวันไม่ได้ร้อนจนเกินไป บรรยากาศทุกอย่างดูเป็นใจ นั่นทำให้เด็กสาวร่างบางนั้นรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน ฟ้าที่ปลอดโปร่งพร้อมกับความตื่นเต้นในใจวันนี้ วันที่เธอจะสารภาพรักกับชายที่ชอบ“นาวันนี้ฉันไปร้านพี่พีทกับแกด้วยนะ” ส้มโอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงร่าเริง เพราะวันนี้เราได้เรียนแค่หนึ่งชั่วโมงและอาจารย์จะปล่อยตามอัธยาศัย “อื้อ เอาดิไปด้วยกัน เราไม่ได้ไปร้านพี่พีทด้วยกันสักพักแล้วนะ” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ทำเอาเพื่อนสาวถึงกับเบะปากใส่อย่างแรง“ก็ใช่สิ แกเล่นไปร้านพี่พีทคนเดียวตลอดเลยนี่ช่วงหลังน่ะ” เพื่อนสาวแอบหยอกหญิงสาวเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะพากันเดินไปเรียนบรรยากาศในยามเย็นเมื่อเลิกเรียนแล้วยายส้มโอและเพื่อน ๆ ก็พากันแห่มาที่ร้านของพี่พีทกันเต็มไปหมด คนตัวเล็กที่ตั้งใจจะมาหาพี่พีทและเดินหน้าจีบเขาแบบนี้ก็แอบเขินอยู่เหมือนกัน ไหน ๆ ก็จะจีบก็ประกาศให้โลกรู้ไปเลยแล้วกันว่าคนนี้ฉันจอง คนตัวเล็กสูดหายใจพร้อมกับลุกขึ้นจนเพื่อนสาวอย่างส้มโอนั้นสงสัยว่าลุกขึ้นทำไม“นาแกลุกทำไมเนี่ย คนมองเต็มเลย นั่งลงเร็ว” เพื่อนสาวดึงให้คนตัวเล็กนั่ง
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอรู้สึกพอใจมากที่สามารถเอาชนะสาว ๆ คนอื่นได้ในเวลานั้น สายตาที่มองมาที่เธออย่างอิจฉานั้นมันทำให้เธอนั้นดูเหนือกว่า เพราะความกล้าของเธอทั้งนั้นที่ทำให้หัวใจของเธอพองโตอีกครั้งเหมือนกับวันแรกที่เจอเขา “นาเดี๋ยวแกรอพี่พีทปิดร้านใช่ไหม เดี๋ยวพวกฉันจะกลับก่อน ยังไงก็ส่งข่าวมาบอกด้วยนะ สู้ ๆ” ส้มโอเอ่ยถามก่อนจะส่งกำลังใจมาให้ “ใช่ เดี๋ยวฉันรอพี่เขาปิดร้าน ขอบใจมากนะส้มโอ ฉันรักแกมาก ๆ ที่คอยเชียร์อัปฉัน” คนตัวเล็กโอบกอดเพื่อนสาวก่อนจะบอกลากันจนเสร็จเรียบร้อย เธอเองก็นั่งรอจนร้านใกล้ปิด “ยังไม่กลับอีกเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาถามเธออย่างสงสัยเพราะเพื่อนของเธอนั้นกลับหมดแล้ว “ยังค่ะ หนูรอคุยธุระกับพี่ก่อน” คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสและยิ้มให้เขาก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดูดแก้เขิน “พี่ใกล้ปิดร้านแล้วละ รอพี่สักครู่นะ ถ้ามันเงียบ ๆ ก็มานั่งแถว ๆ เคาน์เตอร์ก็ได้ พนักงานเดินไปมาอยู่” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับชี้ไปที่บริเวณเคาน์เตอร์ของร้านที่กำลังมีพนักงานเก็บของอยู่ “พี่ใกล้เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวหนูไป
ตอนที่ 12 ฉันเตือนเธอแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นหญิงสาวได้พูดคุยกับชายหนุ่มมากขึ้นไม่ว่าจะผ่านทางข้อความแชตหรือการโทรศัพท์หากัน เหมือนกับหนุ่มสาวที่จีบกันอย่างหวานชื่น เป็นคนตัวเล็กเองที่เริ่มต้นในการทักหาชายหนุ่มก่อน และเขาก็ตอบกลับเธอมาทันทีอย่างไม่ต้องให้รอ นั่นยิ่งทำให้เธอมีความมั่นใจมากในการเดินหน้าจีบเขามากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่เกิดเป็นสัญญาณที่ดีที่เขาเปิดทางให้เธอได้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขา มือเรียวสวยกดดูข้อความซ้ำไปซ้ำมาหลังจากที่ได้คุยกับเขาและแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว วันนี้เป็นวันหยุดที่คนตัวเล็กต้องเดินทางกลับบ้านมาพบกับครอบครัว เธอนอนเล่นอยู่บนห้องนอนเพื่อรอเวลาลงไปรับประทานอาหารเย็นและรอพี่ชายของเธอกลับมา เมื่อคิดได้ว่าเธอนั้นกุมความลับของพี่ชายอยู่ทำให้รู้สึกว่าเธอนั้นถือไพ่เหนือกว่า และก็สามารถสั่งให้พี่ชายของตัวเองทำตามที่เธอต้องการได้ แต่จะให้ทำอะไรนั้นขอเก็บไว้ก่อน ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครคะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก่อนจะลุกเพื่อเดินไปเปิด “แววเองค่ะคุณหนู พอดีคุณผู้หญิงให้มาตามลงไปด้านล่างค่ะ” เสียงแม
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นหญิงสาวก็รู้สึกไม่พอใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็มีพี่พีทคอยปลอบให้ใจเย็นลง เห็นแบบนี้เธอก็เป็นคนใจร้อนอยู่พอสมควรกับสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง และวันนี้เองคนตัวเล็กมีเรียนทั้งวันทำให้เธอนั้นแวะมาหาเขาได้ทั้งเที่ยงและเย็น และตอนนี้ก็เป็นเวลาพักเที่ยง เธอเองก็แวะมาหาพี่พีทที่ร้าน พร้อมกับซื้อดอกไม้ช่อเล็กมาฝากเขา ตั้งแต่วันนั้นมาที่เธอได้ให้ช่อดอกไม้เขาในร้าน เธอก็หอบมันมาเกือบทุกวันอย่างไม่เสียดายเงิน จนบางครั้งพี่พีทก็เอ่ยปรามหญิงสาวว่าไม่ต้องเอามาทุกวันก็ได้ แต่เธอเองก็ยืนยันว่าจะเอามาให้ทุกวัน“พี่พีทคะ นามาแล้วค่ะ” วันนี้หญิงสาวหอบช่อดอกไม้และขนมมาฝากพนักงานในร้านของพี่พีทด้วย พนักงานในร้านต่างก็ยิ้มขอบคุณก่อนจะแยกย้ายไปทำงานกันต่อ “หอบของกินมาอีกแล้ว พนักงานพี่อ้วนหมดแล้วน้องนา” พี่พีทเอ่ยดุหญิงสาวนิดหน่อยเพราะเธอเอามาแทบจะทุกวันจนเขาขี้เกียจพูดแล้ว“พี่พีทคะ นามีเรื่องจะคุยด้วยพี่สะดวกไหมคะ” คนตัวเล็กเดินเข้ามาเกาะที่เคาน์เตอร์ร้านพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหาเขาพลางยิ้มอย่างออดอ้อน“รอพี่สักครู่นะ ขอไปเสิร์ฟเมนูนี้ก่อน เราไปรอพี่ที่หลังร้านนะ” ชายหนุ่มพูดจบก็เดิน
ระหว่างทางเดินบุคคลปริศนาก็เดินตามมาจนเธอรู้สึกได้ว่าเขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้น และจู่ ๆ ร่างบางก็ถูกมือคนร้ายกระชากอย่างแรง ด้วยความที่มือไวคนตัวเล็กใช้กระเป๋าถือฟาดไปที่คนร้าย เธอไม่เห็นหน้าเขาก่อนจะสะบัดมือออกจากคนร้าย และรีบวิ่งตรงมาที่ร้านของพี่พีท แต่ด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร ทำให้เธอต้องหาที่ซ่อนก่อน เธอเลือกที่จะซ่อนหลังพุ่มไม้และลอบมองคนร้ายที่เดินตามมานั้นจนเดินผ่านไป เธอกดเบอร์โทรศัพท์หาชายหนุ่มโดยที่เธอก็ลุกเพื่อจะเดินออกไปจากที่ซ่อน และรีบวิ่งให้เร็วที่สุดอีกครั้ง หญิงสาวมาถึงที่หมายพร้อมกับท่าทีกระหืดกระหอบจนชายหนุ่มต้องวิ่งเข้ามาหา“เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มมีท่าทีตกใจพร้อมกับรีบเดินไปหาเธออย่างรวดเร็ว ก่อนรีบคว้าของในมือเธอไปถือและพาเธอเดินไปนั่งพักในมุมของพนักงาน“มีคนตามหนูมา” หญิงสาวพูดด้วยท่าทีหวาดกลัวอีกครั้งพร้อมกับเล่าเรื่องรถที่โดนเจาะยางและโดนขูด มือที่สั่นเทาคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่มพร้อมกับมองออกไปนอกร้าน “ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว” ชายหนุ่มนั่งชันเข่าอยู่ด้านหน้าคนตัวเล็กพร้อมจับมือเรียวขึ้นมาเพื่อปลอบใจแล้วลูบเบา ๆ ในสมองเขาตอนนี้คิดได้เพียงอย่างเดี
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท
เมื่อถึงเวลามื้อเย็นทุกคนต่างมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร และคนตัวเล็กที่มีอาการงอน ๆ เขาอยู่ก็ดูดีขึ้น เพราะเขานั้นบอกเธอไปคร่าว ๆ บ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับไปคุยกันอย่างจริงจังอีกที พ่อและแม่ของชายหนุ่มมานั่งรออยู่แล้ว เขาเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอและไปนั่งประจำที่ของตัวเอง การเจอครอบครัวของเขาครั้งแรกทำเธอตื่นเต้นไม่น้อย แต่พออยู่ไปได้สักพักครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก และเขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านการเลี้ยงดูมันเลยออกมาดีแบบนี้ “เขตทำไมแกไม่กลับบ้านตัวเองไปสักที มาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง “ผมแค่ยังไม่อยากกลับ” ชายหนุ่มตักข้าวเข้าปากพร้อมกับทำหน้ายียวน “อย่ามาหาไถเงินกับพี่กับแม่พี่เชียวนะ ไม่งั้นจะหักออกจากค่าพาร์ตไทม์” เขาพูดขึ้นอย่างกวน ๆ เช่นกัน “ก็ให้น้องมันอยู่ไปนั่นแหละ รอพ่อกับแม่เขากลับมา” พ่อพูดแทรกขึ้นอย่างเอาใจเขตแดน ทำเอาคนเป็นลูกถึงกับกลอกตามองบน หญิงสาวนั่งมองคนในบ้านและฟังบทสนทนาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทางของแฟนหนุ่มจนเธอต้องห้ามปรามโดยการแตะมือไปที่ขาของเข
จากที่ขับรถเข้ามาบริเวณบ้านคนตัวเล็กก็ตกตะลึงกับบ้านของชายหนุ่มที่ใหญ่โตอย่างกับคฤหาสน์ ทุกอย่างถูกแบ่งเป็นส่วน ๆ ดูร่มรื่นสะอาดตา เมื่อเดินเข้ามายังตัวบ้านมีบรรดาแม่บ้านมากมายที่ยืนทำหน้าที่ของตัวเอง และมีบางส่วนที่ยืนรอต้อนรับผู้เป็นเจ้าของบ้าน แม่บ้านรีบเข้ามาถือของที่ชายหนุ่มกำลังถืออยู่และนำไปวางไว้ให้ที่ห้องรับแขก ชายหนุ่มหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังตกตะลึงด้วยสีหน้าที่น่าเอ็นดูจนทำเขายิ้มออกมา“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” ชายหนุ่มเขี่ยไปที่ปลายจมูกมนของหญิงสาวอย่างหยอกล้อ“ทำไมบ้านพี่ถึงใหญ่ขนาดนี้คะ หนูแทบช็อกเลยนะ” หญิงสาวแหวขึ้นพร้อมกับทำหน้างอง้ำพอได้รู้ถึงฐานะของเขา“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงสร้างบ้านใหญ่ขนาดนี้” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะพาคนตัวเล็กมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากที่พาแวะดูนั่นนี่ภายในบ้านท่ามกลางห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ตอนนี้มีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ และมีหนึ่งคนที่คุ้นหน้ากำลังส่งยิ้มมาให้หญิงสาวด้วยท่าทางร่าเริง เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้และเดินไปยังกลางห้องนั่งเล่นกับชายหนุ่ม ชายวัยกลางคนส่งยิ้มมาให้ เธอคาดว่าน่าจะเป็นพ่อของชายหนุ่ม แล
สงครามการสอบจบลงอย่างสวยงาม วันสุดท้ายของการสอบหญิงสาวนั้นมีสอบแค่ช่วงเช้าก่อนจะให้ชายหนุ่มมารับเธอที่คณะเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดมิเนียม และออกไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ หลังสอบเสร็จและได้ไปผ่อนคลาย ในช่วงค่ำชายหนุ่มนั้นบอกกับเธอว่าจะพาไปพบกับครอบครัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกและรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที “เดี๋ยววันนี้นาจะรีบกลับนะคะ นาอาจจะไปแค่กินข้าวกับเพื่อน พี่พีทมารับหนูหน่อยแล้วเราไปซื้อของกัน จะเอาไปให้พ่อกับแม่ของพี่” หญิงสาวหันไปบอกชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ “ให้พี่ไปรับกี่โมงก็ส่งข้อความมาบอกพี่นะคะ” ชายหนุ่มหันมาบอกก่อนจะหันไปขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปคอนโดมิเนียมเพื่อพาคนตัวเล็กไปเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงคอนโดมิเนียม หญิงสาวเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสสีขาวสะอาดตา มันทำให้เธอดูเด็กลงอย่างมากราวกับเด็กอายุสิบแปด ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นหันมามองเธออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอสวยมากในสายตาเขา ในตอนนี้อยากเก็บเธอไว้ไม่ให้ออกไปไหนไม่ให้ใครเห็น “พี่พีทคะ นาแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ” คนตัวเล็กส่งเสียงเ