Share

บทที่ 287

Penulis: เบลล่า
"ผมชักจะชอบเพื่อนของคุณแล้วสิ"

"อาน่าเหรอ? แหม น่ารักจัง ใครจะไปคิดว่าคุณจะตกหลุมรักใครได้นะ คุณดูเหมือนเป็นพวกไม่มีหัวใจด้วยซ้ำ"

คำพูดของคลาร่าทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมันก็มีความจริงอยู่ในนั้น แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงอดีต ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว "ไม่ใช่อีกแล้ว ผมโยนนิสัยแย่ ๆ พวกนั้นทิ้งไปแล้ว และเชื่อเถอะ ผมเปลี่ยนไปจริง ๆ" ผมยืนยัน ก่อนลดเสียงลงให้เบาลง "คุณต้องช่วยผมทำให้อาน่ายอมรับรักผมให้ได้นะ"

เสียงหัวเราะของคลาร่าดังขึ้นจนดึงดูดสายตาของคนรอบข้างในคลับ ผมรีบหดตัวกลับเข้าไปในเงามืด รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

"อาน่ายังโสดอยู่นะ" เธอบอกหลังจากหัวเราะจนพอใจแล้ว "แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรักครั้งก่อนของเธอ ฉันว่าคงยากที่เธอจะยอมเปิดใจให้ใครอีก โดยเฉพาะกับคุณ"

"ผมเปลี่ยนไปแล้ว และสามารถเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ ผม แบบ... เอาเธอออกจากหัวไม่ได้เลย"

"แปลว่าคุณคลั่งรักเธอเลยงั้นเหรอ?"

"ไม่ใช่!" ผมกระซิบตะโกนออกมาแทบจะทันที แค่คิดว่าเป็นความหมกมุ่นก็ฟังดูไร้สาระแล้ว "มันเป็นคำที่แรงเกินไป ผมแค่หลงรักเธอมากก็เท่านั้น และคุณยังไม่เห็นภาพขนาดใหญ่ตรงนี้ ผมอยากอยู่ข้างเธ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 288

    อนาสตาเซียหัวใจเต้นระรัวจากภาพที่เพิ่งเห็น ร่างกายเปลือยเปล่าของเขาในห้องติดกัน ภาพนั้นติดตาฉันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความรู้สึกทั้งความอับอาย... และความร้อนวูบวาบพุ่งเข้าจู่โจมมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างไอเดนที่ฉันเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนกับชายตรงหน้าตอนนี้ ทุกอณูเปล่งพลังแห่งความเป็นชาย เส้นสายของกล้ามเนื้อที่เด่นชัดไปทุกส่วน โครงร่างแกร่งที่ไล่ลงมาตั้งแต่แผ่นหลังไปถึงต้นขาแข็งแรงฉันไม่อาจหยุดจินตนาการถึงความแน่นกระชับของไหล่ที่ทอดกว้างราวกับหน้าผาสูงชัน และกล้ามแขนที่กระตุกไหวทุกครั้งที่เขาขยับร่างกาย โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาของฉันจ้องมองอยู่ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองพร้อมรับมือกับโอกาสที่อาจต้องเผชิญหน้ากับเขาในทริปนี้ พยายามระมัดระวังทุกฝีก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ไม่มีอะไรสามารถเตรียมฉันให้รับมือกับเหตุการณ์นี้ได้ ใครจะไปคิดว่าห้องของเราจะถูกคั่นไว้เพียงประตูบาง ๆ เท่านั้น?แล้วฉันดันลืมไปได้อย่างไรว่าห้องพักบางแห่งมีประตูเชื่อมถึงกัน? แน่นอนแหละ มันเป็นเรื่องปกติที่ควรจะมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ปกติเลยคือคนที่ต้องมาเป็นเพื่อนร่วมห้องติดกัน เป็นใครไม่เป็นกลับเป็น ไอเดนเนี่ยน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 289

    ฉันชะงักไปชั่วขณะ รู้สึกติดอยู่ในวังวนของความลังเล แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมาและพาตัวเองไปนั่งที่โต๊ะของราเชล ปฏิเสธคำเชิญตรง ๆ คงจะเสียมารยาทเกินไปสายตากวาดมองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังมองหาใครบางคน แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ และฉันก็ไม่รับรู้ถึงกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เลย"สวัสดีจ้ะทุกคน สวัสดีราเชล" ฉันพูดพลางดึงเก้าอี้ออกมานั่ง เสียงพูดคุยรอบโต๊ะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และไม่นานฉันก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น สนุกไปกับอาหารอร่อยและบทสนทนาอันมีชีวิตชีวา จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงดนตรีเบา ๆ คลออยู่ในพื้นหลัง มีการแจกตารางงานสำหรับวันถัดไป และมีคนแซวขำ ๆ เกี่ยวกับการต้องทำงานระหว่างทริปพักผ่อนมันรู้สึกดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนร่วมงานโดยไม่ต้องยึดติดกับความเป็นมืออาชีพมากนัก มันเป็นค่ำคืนที่งดงาม และที่สำคัญที่สุดคือ ไอเดนไม่ได้มาเข้าร่วมมื้อค่ำด้วย……เช้าวันถัดมา เราเดินทางไปยัง กรีนเฮเว่น ฟาร์ม เจ้าของฟาร์ม คุณเจนกินส์ ชายชราที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นแห่งกาลเวลา พยักหน้าเป็นการต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น รอยยิ้มทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง คนงานต่าง ๆ ดูเป็นมิตรยิ้มทักทาย มื

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 290

    อนาสตาเซียฉันมองดูสายตาของทุกคนที่หันไปจับจ้องไอเดน แววตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความปกป้องอย่างแรงกล้าจนทำให้หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ"เธอบอกให้ถอยไป" เขากล่าว น้ำเสียงหนักแน่นแต่ยังคงความสงบ "รู้ขอบเขตของตัวเองไว้ด้วย เธอไม่สนใจนาย"ชายคนนั้นลุกขึ้นจากพื้น ปัดฝุ่นจากเสื้อของตัวเองแล้วแค่นเสียงเยาะ "อย่ายุ่งดีกว่า พวก"ไอเดนก้าวเข้าไปใกล้อีกก้าว ดวงตาของเขาแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวที่สามารถเผาผลาญอีกฝ่ายได้เพียงแค่จ้องมอง "ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนาย และฉันเลือกที่จะยุ่ง""ฉันจัดการตัวเองได้" ฉันรีบพูดแทรก พยายามจะยุติเรื่องนี้แต่ไอเดนยังคงจับจ้องชายคนนั้นแน่วแน่ "เธอไม่ควรต้องมาจัดการเรื่องแบบนี้เอง" น้ำเสียงเขาหนักแน่น "นายต้องเรียนรู้ที่จะเคารพขอบเขตของคนอื่น ถ้าฉันเห็นนายมายุ่งกับเธออีก ฉันจะรายงานเรื่องนี้"ใบหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอับอายและโกรธ แต่เขารู้ดีว่าไม่มีทางสู้ได้ จึงแค่ทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะเดินจากไป "ช่างเถอะ" เขาพึมพำ ก่อนจะหายลับไปหลังชั้นวางของความเงียบอันอึดอัดแผ่ปกคลุมกลุ่มของเรา แต่ฉันพยายามสลัดมันทิ้งและกลับไปสนใจงานตรงหน้าแทน"เอ่

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 291

    อนาสตาเซียระหว่างที่บทสนทนาไหลลื่นไป ไอเดนถามขึ้นมาอย่างสนใจ"คุณเจนกินส์ครับ คุณบริหารที่นี่ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นขนาดนี้ได้ยังไง? ผมหมายถึง ทั้งฟาร์มขนาดหลายไร่และยังมีที่พักอีก? คุณจัดการทุกอย่างแล้วยังไม่หลงลืมจุดประสงค์หลักของที่นี่ได้ยังไง?"ฉันรู้ตัวว่าจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขานานเกินไป รีบเบือนสายตาหนีและหันไปตั้งใจฟังคำตอบของมิสเตอร์เจนกินส์แทนเขาหัวเราะเบา ๆ "อันที่จริงมันเป็นงานของทีม แต่ลูกชายของฉัน อเล็กซ์ เป็นคนช่วยงานเยอะมาก เขาเพิ่งออกไปไม่กี่วัน แต่ปกติเขาจะช่วยฉันดูแลงานที่นี่ตลอด"ไอเดนยังคงถามต่อ "ผมอยากพบเขาสักวัน เขาทำอะไรอยู่เหรอ?"ชายชราฉีกยิ้มด้วยความภูมิใจ ริ้วรอยบนใบหน้าของเขาขับให้ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น "เขาไปแคมป์กับเพื่อน ๆ น่ะ เขาเป็นเด็กที่ขยันและเต็มใจช่วยเหลือทุกอย่าง"บรรยากาศรอบโต๊ะเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น เสียงหัวเราะและเสียงล้อเล่นดังไปทั่ว ฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือและนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาต้องโทรหาเอมี่ "ขอโทษนะทุกคน ฉันขอออกไปโทรศัพท์สักเดี๋ยวนะ" ฉันกล่าวขอโทษก่อนจะลุกออกจากโต๊ะฉันสัมผัสได้ถึงสายตาของไอเดนที่จับจ้องมา แต่ฉันตัดสินใจไม่หันกลับไปมอง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 292

    เดนนิส"โอ้!" เธออุทาน ดวงตาเบิกกว้างราวกับจานรองถ้วยชา "คุณกลับมาแล้ว"ผมจ้องมองเธอโดยไม่พูดอะไร ตั้งใจไม่ตอบสนองต่อเสียงอุทานตกใจของเธออย่างที่เธอคงคาดหวัง เราสบตากันนิ่ง ๆ อยู่แบบนั้นนานหลายวินาที และตลอดช่วงเวลานั้น แม้ว่าผมจะพยายามแค่ไหน ผมก็ไม่อาจหยุดความคิดที่พุ่งเข้ามาในหัวได้แม้เธอจะพยายามมองผมกลับมาอย่างแน่วแน่ แต่ท่าทางของเธอก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด นิ้วมือของเธอกำแน่นรอบกระดาษที่ฉีกออกมาจากสมุดวาดภาพของเอมี่ผมจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม สลับไปมาระหว่างใบหน้าที่พยายามเก็บซ่อนความกังวล กับมือที่กำแน่นของเธอซึ่งสั่นเล็กน้อยราวกับว่ากำลังต่อสู้กับบางสิ่งอยู่เธอดูเหมือนจะเข้าใจคำถามที่ผมไม่ได้พูด เพราะเธอหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ฟังดูฝืน ๆ มากกว่าจะเป็นเสียงหัวเราะตามธรรมชาติ จากนั้นเธอก็ยกมือที่กำแน่นขึ้นมา เหมือนจะทำให้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย"โอ้ นี่เหรอ? ไม่มีอะไรเลย" เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเป็นคำโกหกที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขณะที่จ้องมองเธอด้วยความสงสัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 293

    เธอดูน่ารักและไร้เดียงสาขณะนอนหลับสนิท หัวใจของผมปวดหนึบเมื่อคิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเก็บงำความคิดอะไรกันแน่ ต่อให้เธอได้เห็นภาพแบบนั้นจริง ๆ อะไรที่ทำให้เธอเลือกจะวาดมันออกมา?"พรุ่งนี้ฉันคงต้องอธิบายอะไรยาวแน่เลย" คลาร่าหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับยกมือเกาหัว "ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเธอถามถึงหน้ากระดาษที่หายไป ฉันจะบอกเธอว่ายังไงดี"ผมยักไหล่ พยายามคิดหาข้ออ้างให้เธอ "คุณอาจบอกไปว่ามันทำให้คุณกลัวก็ได้นะ"เธอหันมามองฉัน กะพริบตาปริบ ๆ "จริงเหรอ เดนนิส?""อะไรล่ะ?" ผมไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "หรือไม่งั้นก็อ้างว่ากำลังดูรูปของเธอตอนกินข้าว แล้วทำหกใส่จนเปื้อน ใช้ได้แน่นอน เชื่อผมเถอะ"เธอส่ายหน้าช้า ๆ ราวกับว่าไม่แม้แต่จะคิดพิจารณาคำแนะนำของผมเลย "ฟังดูไร้สาระมาก""คุณยังไม่ทันคิดเลยนะ""มันจะมีอะไรให้คิดอีกล่ะ เดนนิส?" เธอหลุดหัวเราะออกมา และผมก็ดีใจที่เธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง "เชื่อผมเถอะ ต่อให้เป็นเด็กห้าขวบทั่วไปก็คงไม่เชื่อข้ออ้างแบบนั้นหรอก คุณรู้ใช่ไหมว่าเอมี่ฉลาดเกินกว่านั้น"ผมพยักหน้า "เห็นด้วย ถ้าบอกว่าแค่ ‘เด็กห้าขวบ’ ผมอาจจะเถียง แต่ถ้าเป็นเอมี่ล่ะก็ มันคนละเรื่อง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 294

    ไอเดนเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ผมใช้ผ้าขนหนูนุ่มซับผมที่เปียกชื้นอย่างแรง มือสางเส้นผมที่พันกันและช่วยคลายปมออกไปพร้อมกันไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ดูเหมือนว่าผมจะลืมนำผ้าเช็ดตัวมาเอง และพวกที่จัดเตรียมไว้ให้ก็ดูจะเล็กเกินไป หรือบางทีผมคงต้องบอกให้ชัดเจนว่าผมไม่ได้ต้องการแค่ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้า?เมื่อไม่มีทางเลือกมากนัก ผมจึงใช้ผ้าผืนน้อยแค่กับเส้นผม ส่วนร่างกายที่เหลือก็ปล่อยให้ลมหอม ๆ ช่วยจัดการไป เพราะยังไงที่นี่ก็มีแค่ผมคนเดียวฝ่าเท้าเปลือยเปล่าจมลงไปในพรมหนานุ่มขณะเดินไปยืนหน้ากระจกติดผนัง พลางใช้ผ้าขนหนูซับผมให้แห้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนปล่อยให้มันตกลงมาอย่างเป็นธรรมชาติสายตาของผมเผลอเบนไปที่ผนังฝั่งตรงข้ามสุดของห้อง แล้วสะดุดเข้ากับสิ่งที่ไม่น่าจะมีอยู่ตรงนั้นลูกบิดประตู ที่ดูไม่เข้ากันกับกำแพงห้อที่เรียบเนียนเลย ผมเคยสังเกตมันตั้งแต่ตอนเข้าห้องครั้งแรก ตอนแรกก็คิดว่ามันเป็นประตูจริง ๆ แค่คิดว่าคงเป็นดีไซน์ของที่นี่มากกว่า และยกย่องผู้ออกแบบที่ทำให้มันดูแนบเนียนเหมือนไม่ใช่ประตูจริง ๆผมเคยเกือบจะเปิดมันดูเพราะความรู้สึกอยากรู้ด้วยซ้ำ แต่โทรศัพท์ดันดังขัดจังหวะเสียก่อนตอนนี้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 295

    ผมหัวเราะเบา ๆ แต่ในใจกลับร้อนรนอยากถามให้รู้แน่ว่าเธอโทรมาทำไม จะได้เข้าเรื่องแล้วจบการสนทนาโดยเร็วแต่แทนที่จะเข้าเรื่องเลย ชารอนกลับยู่ปากทำหน้ามุ่ย "เอาน่า ให้ฉันได้มองให้เต็มตาหน่อยสิ ไม่เห็นต้องให้ร้องขอเลย!""คุณน่าจะรู้จักโฟกัสให้มากกว่านี้นะชารอน นี่เป็นหนึ่งในกฎสำคัญของธุรกิจและการใช้ชีวิตอย่างคนธะมทั่วไปนะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงติดจริงจังนิด ๆ "ตกลง โทรมาทำไม?"เธอกลั้วหัวเราะ ปิดปากตัวเองด้วยฝ่ามือ ก่อนจะกวาดสายตามองหน้าผมแล้วพึมพำ "ดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกตอนทำหน้าขรึม ๆ แบบนี้" จากนั้นก็ถอนหายใจพลางทำตาละห้อย "ฉันโชคดีขนาดที่ได้ผู้ชายสุดฮอตแบบนี้มาเป็นของฉันเลยเหรอ?"ผมถอนหายใจ "เอาจริงนะชารอน คุณโทรมาทำไม?"เธอยื่นปากออกมาเหมือนเด็กโดนขัดใจ "ว่าที่คู่หมั้นไม่ต้องมีเหตุผลในการโทรหาหรอกนะ ฉันจะโทรเมื่อไหร่ก็ได้ แค่จะโทรมาฟังเสียงคุณเฉย ๆ ก็ยังได้ ต้องเริ่มทำใจแล้วล่ะ""ทำอยู่" ผมพึมพำก่อนจะรีบตัดบท "แล้วตกลงเธอโทรมาเพราะอะไร ตอนนั้นฉันกำลังทำงานอยู่เลยนะ" รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ต้องโกหกออกไปแบบนั้นชารอนกลอกตา "คุณเป็นคนน่าเบื่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ยอมให้ฉันได้ดูเต็ม ๆ” เ

Bab terbaru

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status