Share

บทที่ 281

Author: เบลล่า
ฉันยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานของเธออีกครั้ง “เฮ้อ ดีว่าฉันยังมีมือถืออยู่กับตัว ไม่ได้ลืมเอามาด้วย”

“ขอบคุณพระเจ้า”

“แต่เอาจริง ๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าลืมอะไรไหม จนกว่าจะได้แกะกระเป๋าออกมาดูนั่นแหละ”

“โอ๊ยจะบ้า” ฉันยกมือขึ้นกุมขมับ “หวังว่าคงไม่ลำบากเกินไปนะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว?”

เธอฮึมฮัมในคอครู่หนึ่ง “บอกไม่ถูกเหมือนกันนะ แต่เรายังอยู่บนรถบัสกันอยู่เลยอ่ะ”

“เดินทางปลอดภัยนะ ที่รัก”

“ขอบใจจ้ะ”

“แล้วเอมี่ล่ะ โอ๊ย! คิดถึงหนูน้อยจังเลย หลังจากเธอไปแล้ว เป็นไงบ้างล่ะ?”

“พอรับมือไหวนะ จะว่าไปเธอรับมือได้ดีกว่าที่ฉันคิดอีก นึกว่าจะต้องโน้มน้าวกันเยอะกว่านี้ซะอีก แต่เธอกลับไม่มีปากมีเสียงอะไรกลับมาเลยนะ แค่…” เสียงเธอแผ่วลง “เธอยังทำใจไม่ได้ที่ต้องอยู่โรงพยาบาล เอาแต่บอกว่าอยากกลับบ้าน”

ฉันถอนหายใจ “น่าสงสารมากเลย แต่ฉันเข้าใจความรู้สึกเลยนะ โรงพยาบาลไม่ใช่สวนสนุกหรือร้านไอศกรีมไง ต้องอยู่ที่นั่นนาน ๆ มันแย่มาก ไหนจะกลิ่นอีกอะไรนั่น?” นั่นส่ายหัวพลางกล่าว “เหมือนฉีดยาฆ่าเชื้อหรือยาอะไรเต็มไปหมด คนที่จะอยู่โรงพยาบาลได้นาน ๆ ต้องเข้มแข็งมาก ๆ และเอมี่ก็เป็นเด็กที่เข้มแข็งมากคน
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 282

    อนาสตาเซียในที่สุด พวกเราก็มาถึงที่พักสำหรับการทริปนี้ ทุกคนถือกระเป๋าลงจากรถ แล้วหยุดยืนมองอาคารเบื้องหน้าด้วยความตื่นตะลึง ความคาดหวังตลอดการเดินทางดูจะพุ่งถึงจุดสูงสุด ในขณะที่เราได้เห็นสถานที่จริงบนแผ่นไม้ที่ติดอยู่เหนืออาคาร เขียนคำว่า ‘ไพน์ทรีต รีทรีต’ ด้วยเศษไม้เล็ก ๆ ประดับด้วยหลอดไฟจิ๋ว อักษรเหล่านั้นเปล่งประกายงดงาม ชวนให้นึกถึงความโรแมนติกปนความเป็นมืออาชีพ“เหมือนหลุดเข้ามาในดินแดนเทพนิยายเลยนะ” ราเชลพูดเบา ๆ พลางยืนข้างฉัน ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เมื่อแสงไฟสะท้อนอยู่ในนั้นแม้ฉันจะยังรู้สึกใจหายเพราะคิดถึงเอมี่ แต่ก็ยอมรับว่าเสน่ห์ของที่นี่ช่วยดึงดูดให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างเรือนไม้เล็ก ๆ เชื่อมต่อกันรายล้อมอยู่ท่ามกลางต้นสนสูงตระหง่านและผืนป่าเขียวชอุ่ม ตรงกลางกลุ่มเคบินไม้นั้นเป็นอาคารขนาดใหญ่ ชื่อว่า “ฟิลยัวทัมมี่” พอทุกคนเห็นชื่อแล้วก็อดหัวเราะหรือยิ้มกันไม่ได้ เพราะมันช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นฉันเงยหน้ามองรอบ ๆ แล้วอดคิดไม่ได้ว่าความสงบและธรรมชาติที่นี่ เหมาะจริง ๆ ที่จะใช้พักผ่อนหลังเผชิญกับความวุ่นวายมาทั้งวันขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันขนของลงจา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 283

    “ต่อไป ไกด์จะพาทุกคนเยี่ยมชมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นะครับ” ว่าจบ เขาก็ถอยออกไปให้ไกด์และเพื่อนร่วมงานอีกสองคนเดินมาด้านหน้า“สวัสดีครับทุกท่าน” ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทีมพูดขึ้นด้วยสำเนียงไม่คุ้นหู “ผมขอให้ทุกคนแบ่งกลุ่มกันเป็นสามกลุ่มนะครับ จากนั้นไกด์จะเริ่มพาทัวร์”พวกเราถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม โดยไกด์แต่ละคนก็นำกลุ่มของตัวเองทัวร์รอบ ๆ ลอดจ์สไตล์ บ้านไม้ที่ดูสวยคลาสสิก เขาพาเราไปดูห้องอาหารที่มีครัวทำอาหาร ใครสนใจจะปรุงอาหารเองก็ทำได้ เจ๋งมาก แล้วก็พาเราไปดูทะเลสาบใสแจ๋วที่ซ่อนอยู่หลังต้นสนสูงใหญ่กว่าบริเวณอื่น สิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายถูกหยิบยกขึ้นมาโชว์ จนที่สุดก็มาจบลงที่ห้องพักแสนอบอุ่นที่จัดไว้ให้เราพัก สองคนต่อหนึ่งห้องเมื่อฉันเข้ามาในห้อง ก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องที่ได้รับมอบหมายไว้ไม่มาด้วย เธอไม่ได้เข้าร่วมทริปนี้ด้วยกันดีจัง! ฉันคิดด้วยความดีใจ คนเดียวทั้งห้อง เวลาส่วนตัวที่ฉันต้องการอยู่ตรงนี้แล้วฉันทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างแรง แขนขากางออกเหมือนไม่ต้องสนอะไรบนโลกนี้ รู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านการเดินทางอันยาวนานและเหน็ดเหนื่อยมาเลย จริง ๆ ระหว่างทางฉันก็อยากจะเอนหลังงีบ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 284

    เดนนิสผมเอนหลังพิงเก้าอี้และมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นความคึกคักของผู้คนในสนามบิน ขณะที่กำลังรอให้การประชุมจบลง“เอาล่ะทุกคน เรามาทบทวนประมาณการยอดขายในไตรมาสหน้ากัน คุณเบ็นช่วยสรุปประเด็นหลักหน่อยได้ไหม?”ชายหัวล้านนที่นั่งอยู่ปลายโต๊ะกระแอมเล็กน้อยก่อนเริ่มพูด “เราาคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 12% โดยแรงขับเคลื่อนหลักจะมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่และการทำการตลาดที่ขยายวงกว้างขึ้นครับ”“คาดการณ์แค่ 12% มันดูจะน้อยไปหน่อยไหม?” ประธานของที่ประชุมกล่าวขึ้น “ฉันเชื่อว่าเราน่าจะผลักดันให้ยอดเติบโตถึง 15% ได้เลยนะ”ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างผมเสริม “เห็นด้วยเลยค่ะ อะไรที่ทำให้เรายังไปไม่ถึงตัวเลขสูงขึ้นล่ะคะ?”“เราต้องคำนึงถึงแนวโน้มตลาด การแข่งขัน และอัตราการยอมรับของลูกค้าด้วยครับ แต่ผมคิดว่าเราควรทบทวนกลยุทธ์ด้านราคาและหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย” ชายหัวโล้นตอบ พลางก้มมองแท็บเล็ตตรงหน้าหญิงคนเดิมพูดอีกครั้ง ในขณะที่ผมพยายามเกาะบทสนทนาที่วิ่งล้ำหน้าไปเร็วเกินความสามารถตามได้ “ฉันอยากเสนอให้ใช้คอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างเองและนำเอาหลักฐานทางสังคม มาเสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลัก

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 285

    ผมบอกเล่าความหวาดกลัว ความฝัน และความหลงใหลให้เธอฟัง และเธอเองก็มอบโอกาสให้ผมได้พูด เธอเป็นผู้ฟังที่ดีและคอยสนับสนุนอย่างยอดเยี่ยม“อาน่า” วันหนึ่งผมรวบรวมความกล้าเพื่อแสดงความรู้สึกที่มีต่อเธอ “เป็นแฟนกันนะ”เธอยิ้มอ่อนโยน แต่กลับตบไหล่ผมด้วยท่าทีเป็นมิตร “ฉันซาบซึ้งกับทุกอย่างที่คุณทำให้นะคะ และฉันก็รับรู้เป็นอย่างดีเลย แต่ว่าฉันไม่ต้องการเริ่มความสัมพันธ์ในตอนนี้ ความจริงคือคิดว่าคงไม่มีวันนั้นด้วยซ้ำ” เธอพูดเขาว่ากันว่า แม้จะบอบช้ำแต่ไม่ได้พ่ายแพ้ ใช่ไหม? นั่นแหละ คือผมเวลาผ่านไป ลูกสาวของเธอก็โตขึ้น ส่วนผมก็คงอยู่ที่เดิม ไม่คิดจะคบหาหรือให้ใจกับใคร จับจ้องที่อาน่าด้วยความหวังว่าสักวันเธออาจเปลี่ยนใจผมอธิษฐานกับดวงดาวยามค่ำคืน ภาวนากับสวรรค์ หวังอย่างแรงกล้าว่าสักวันทุกอย่างจะเข้าข้างผม เปิดโอกาสให้ผมได้ดูแลทั้งอาน่าและลูกสาวของเธอ เอมี่มันได้ผล ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นเรื่อย ๆ และบอกเลยว่าผมตกหลุมรักเจ้าหญิงน้อยของอาน่าอย่างหมดหัวใจ ผมอยากให้เธอเป็นลูกของผมด้วยซ้ำ จึงเริ่มวางแผนว่าจะขออาน่าคบหากันอีกครั้งแต่ความคิดนั้นเพิ่งก่อตัวได้ไม่นาน แฟนเก่าของเธอก็โผล่มาแบบไม่ท

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 286

    ”ไง เดนนิส เป็นอะไรหรือเปล่า?" คลาร่าถาม ขณะที่เธอเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "ดูเหม่อลอยเชียว"ผมเปลี่ยนหัวข้อทันทีพร้อมใช้กระเป๋าเดินทางที่เธอลากตามหลังเป็นข้ออ้าง "จะไปไหนเหรอครับ?"เธอหลงกลและตอบกลับทันที "กลับมาต่างหากล่ะ ฉันไปเที่ยวทริปสั้น ๆ มา แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว" แล้วเธอก็ชี้ไปที่ผม "ดูเหมือนคุณก็…""เปล่าเลย ผมเพิ่งออกจากที่ประชุมมาไม่นาน กำลังจะกลับบ้านพอดี แล้วก็เห็นคุณ"เธอยิ้มกว้าง "งั้นยิ่งดีเลย ช่วยไปส่งฉันหน่อยนะ? นะคะ?"ผมตอบตกลง พร้อมหยิบกระเป๋าเธอไปใส่ท้ายรถ ขณะที่ขับรถไป เธอพูดจ้อไม่หยุดเกี่ยวกับทริปของเธอ ผู้คนที่เธอพบ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ผมแทบไม่จำเป็นต้องรู้"โอ้ตายจริง!" เธออุทานขึ้นกะทันหัน ก่อนจะหันมามองที่นั่งข้างคนขับด้วยแววตาตื่นเต้น เธอยกมือขึ้นตบแขนผมเบา ๆ แล้วทำตาหยอกล้อ "ของพวกนี้สำหรับใครเหรอ?""คุณนี่จะทำให้เราตายกันหมด อยู่เฉย ๆ ทีเถอะ!" ผมหลบคำถามของเธอ และแสร้งทำเสียงเข้ม ผมพยายามกลั้นยิ้มจนแกมเกร็ง เพราะรู้ว่าเธอคงไม่หยุดแซวถ้าผมเผลอยิ้มออกไป"ตอบผิด! ฉันจะถามอีกครั้ง ของพวกนี้สำหรับใครคะ?" เธอแกล้งทำเสียงจริงจัง เธอเ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 287

    "ผมชักจะชอบเพื่อนของคุณแล้วสิ""อาน่าเหรอ? แหม น่ารักจัง ใครจะไปคิดว่าคุณจะตกหลุมรักใครได้นะ คุณดูเหมือนเป็นพวกไม่มีหัวใจด้วยซ้ำ"คำพูดของคลาร่าทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมันก็มีความจริงอยู่ในนั้น แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงอดีต ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว "ไม่ใช่อีกแล้ว ผมโยนนิสัยแย่ ๆ พวกนั้นทิ้งไปแล้ว และเชื่อเถอะ ผมเปลี่ยนไปจริง ๆ" ผมยืนยัน ก่อนลดเสียงลงให้เบาลง "คุณต้องช่วยผมทำให้อาน่ายอมรับรักผมให้ได้นะ"เสียงหัวเราะของคลาร่าดังขึ้นจนดึงดูดสายตาของคนรอบข้างในคลับ ผมรีบหดตัวกลับเข้าไปในเงามืด รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี"อาน่ายังโสดอยู่นะ" เธอบอกหลังจากหัวเราะจนพอใจแล้ว "แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรักครั้งก่อนของเธอ ฉันว่าคงยากที่เธอจะยอมเปิดใจให้ใครอีก โดยเฉพาะกับคุณ""ผมเปลี่ยนไปแล้ว และสามารถเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ ผม แบบ... เอาเธอออกจากหัวไม่ได้เลย""แปลว่าคุณคลั่งรักเธอเลยงั้นเหรอ?""ไม่ใช่!" ผมกระซิบตะโกนออกมาแทบจะทันที แค่คิดว่าเป็นความหมกมุ่นก็ฟังดูไร้สาระแล้ว "มันเป็นคำที่แรงเกินไป ผมแค่หลงรักเธอมากก็เท่านั้น และคุณยังไม่เห็นภาพขนาดใหญ่ตรงนี้ ผมอยากอยู่ข้างเธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 288

    อนาสตาเซียหัวใจเต้นระรัวจากภาพที่เพิ่งเห็น ร่างกายเปลือยเปล่าของเขาในห้องติดกัน ภาพนั้นติดตาฉันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความรู้สึกทั้งความอับอาย... และความร้อนวูบวาบพุ่งเข้าจู่โจมมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างไอเดนที่ฉันเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนกับชายตรงหน้าตอนนี้ ทุกอณูเปล่งพลังแห่งความเป็นชาย เส้นสายของกล้ามเนื้อที่เด่นชัดไปทุกส่วน โครงร่างแกร่งที่ไล่ลงมาตั้งแต่แผ่นหลังไปถึงต้นขาแข็งแรงฉันไม่อาจหยุดจินตนาการถึงความแน่นกระชับของไหล่ที่ทอดกว้างราวกับหน้าผาสูงชัน และกล้ามแขนที่กระตุกไหวทุกครั้งที่เขาขยับร่างกาย โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาของฉันจ้องมองอยู่ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองพร้อมรับมือกับโอกาสที่อาจต้องเผชิญหน้ากับเขาในทริปนี้ พยายามระมัดระวังทุกฝีก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ไม่มีอะไรสามารถเตรียมฉันให้รับมือกับเหตุการณ์นี้ได้ ใครจะไปคิดว่าห้องของเราจะถูกคั่นไว้เพียงประตูบาง ๆ เท่านั้น?แล้วฉันดันลืมไปได้อย่างไรว่าห้องพักบางแห่งมีประตูเชื่อมถึงกัน? แน่นอนแหละ มันเป็นเรื่องปกติที่ควรจะมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ปกติเลยคือคนที่ต้องมาเป็นเพื่อนร่วมห้องติดกัน เป็นใครไม่เป็นกลับเป็น ไอเดนเนี่ยน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 289

    ฉันชะงักไปชั่วขณะ รู้สึกติดอยู่ในวังวนของความลังเล แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมาและพาตัวเองไปนั่งที่โต๊ะของราเชล ปฏิเสธคำเชิญตรง ๆ คงจะเสียมารยาทเกินไปสายตากวาดมองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังมองหาใครบางคน แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ และฉันก็ไม่รับรู้ถึงกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เลย"สวัสดีจ้ะทุกคน สวัสดีราเชล" ฉันพูดพลางดึงเก้าอี้ออกมานั่ง เสียงพูดคุยรอบโต๊ะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และไม่นานฉันก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น สนุกไปกับอาหารอร่อยและบทสนทนาอันมีชีวิตชีวา จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงดนตรีเบา ๆ คลออยู่ในพื้นหลัง มีการแจกตารางงานสำหรับวันถัดไป และมีคนแซวขำ ๆ เกี่ยวกับการต้องทำงานระหว่างทริปพักผ่อนมันรู้สึกดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนร่วมงานโดยไม่ต้องยึดติดกับความเป็นมืออาชีพมากนัก มันเป็นค่ำคืนที่งดงาม และที่สำคัญที่สุดคือ ไอเดนไม่ได้มาเข้าร่วมมื้อค่ำด้วย……เช้าวันถัดมา เราเดินทางไปยัง กรีนเฮเว่น ฟาร์ม เจ้าของฟาร์ม คุณเจนกินส์ ชายชราที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นแห่งกาลเวลา พยักหน้าเป็นการต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น รอยยิ้มทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง คนงานต่าง ๆ ดูเป็นมิตรยิ้มทักทาย มื

Pinakabagong kabanata

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status